โอรส
25-07-2012, 23:26
ถาม : เห็นในหลวงในนิมิต ในรูปพระสงฆ์ยืนบิณฑบาตอยู่ข้าง ๆ พระวิสุทธิเทพ ?
ตอบ : อาตมาขึ้นพระนิพพานได้ครั้งแรกในชีวิต เห็นในหลวงรัชกาลที่ ๙ ของเรานี่แหละ ประทับยืนอยู่ตรงหน้า แล้วท่านก็เป็นพระสงฆ์จริง ๆ ห่มจีวรเหลืองอร่ามเลย พระหัตถ์ทรงบาตรอยู่ใบหนึ่ง อาตมากราบพระองค์ท่านแล้วทูลถามว่า "มีพระประสงค์สิ่งใด ถึงได้มาแสดงพระองค์อย่างนี้ ?"
พระองค์ท่านตรัสว่า "เธอลองดูในบาตรสิ" อาตมาก้มดูในบาตร มีน้ำประมาณครึ่งบาตร น้ำกำลังหมุน ๆ อยู่หน่อย ๆ แล้วมีเรือสำเภาเล็ก ๆ อยู่ลำหนึ่งกำลังหมุนวนไปด้วย เผลอมองหน่อยเดียว ตัวอาตมาลงไปอยู่ในเรือเมื่อไรก็ไม่รู้ ? กลายเป็นเรือลำใหญ่มาก และน้ำกลายเป็นทะเล ชนิดที่ไม่เห็นฝั่ง มีแต่คลื่นลมรุนแรง เป็นน้ำวนมหึมา กำลังจะดูดเรือลงไปอยู่แล้ว..!
แต่แปลกตรงที่ว่า เงยหน้าขึ้นมาก็ยังเห็นในหลวงองค์ใหญ่เท่าเดิมอยู่ กลายเป็นว่าตัวของอาตมาเล็กลงหรืออย่างไรก็ไม่รู้ ? ไปอยู่ในเรือกลางน้ำวนแบบนั้น ก็ตกใจว่า..ตูจะตายแน่แล้ว..ใช่ไหม ? ก็โวยวายกับพระองค์ท่านว่า "ทำอย่างนี้หมายความว่าอย่างไร ?"
ท่านบอกว่า "เธอลองหาทางดูสิ..ว่าจะขึ้นมาได้หรือเปล่า ?" พอพระองค์ท่านให้หาทางดู อาตมามองไปรอบข้างเห็นเชือกทอดจากฝั่งมา ไม่เห็นว่าต้นสายอยู่ไหนหรอก แต่พาดอยู่บนเรือเป็นพัน ๆ เส้นเลยจึงเลือกเอาเส้นมโหฬาร เผื่อเหนียวไว้ว่าไม่ขาดแน่นอน แล้วปีนขึ้นมา
พอขึ้นถึงฝั่งมาก็กราบทูลถามพระองค์ท่านว่า "นิมิตนี้หมายความว่าอย่างไรพระพุทธเจ้าข้า ?" พระองค์ท่านตรัสว่า "นานไปเธอจะรู้เอง"
คราวนี้พอเล่าเรื่องให้คนอื่นฟัง ก็มีท่านผู้ที่ท่านมั่นใจว่าท่านตีความนิมิตนี้ได้ ท่านบอกว่าในหลวงเป็นพระโพธิสัตว์ คำว่า พระโพธิสัตว์ คือ ผู้ตั้งความปรารถนาจะขนถ่ายสัตว์โลกข้ามวัฏสงสาร ดังนั้นสัญลักษณ์ก็คือเรือ ที่ว่าอาตมาสละเรือทิ้งก็คือ อาตมาละความปรารถนาพุทธภูมิ แล้วขณะเดียวกันว่าเส้นเชือกที่ใหญ่ที่สุดที่เลือก น่าจะเป็นธรรมะส่วนหนึ่งที่หลวงพ่อวัดท่าซุงท่านสอนมา คือเชือกมีเต็มไปหมด แต่อาตมาเลือกเผื่อเหนียว เลือกเอาเอาเส้นโตที่สุดเลย
ตอบ : อาตมาขึ้นพระนิพพานได้ครั้งแรกในชีวิต เห็นในหลวงรัชกาลที่ ๙ ของเรานี่แหละ ประทับยืนอยู่ตรงหน้า แล้วท่านก็เป็นพระสงฆ์จริง ๆ ห่มจีวรเหลืองอร่ามเลย พระหัตถ์ทรงบาตรอยู่ใบหนึ่ง อาตมากราบพระองค์ท่านแล้วทูลถามว่า "มีพระประสงค์สิ่งใด ถึงได้มาแสดงพระองค์อย่างนี้ ?"
พระองค์ท่านตรัสว่า "เธอลองดูในบาตรสิ" อาตมาก้มดูในบาตร มีน้ำประมาณครึ่งบาตร น้ำกำลังหมุน ๆ อยู่หน่อย ๆ แล้วมีเรือสำเภาเล็ก ๆ อยู่ลำหนึ่งกำลังหมุนวนไปด้วย เผลอมองหน่อยเดียว ตัวอาตมาลงไปอยู่ในเรือเมื่อไรก็ไม่รู้ ? กลายเป็นเรือลำใหญ่มาก และน้ำกลายเป็นทะเล ชนิดที่ไม่เห็นฝั่ง มีแต่คลื่นลมรุนแรง เป็นน้ำวนมหึมา กำลังจะดูดเรือลงไปอยู่แล้ว..!
แต่แปลกตรงที่ว่า เงยหน้าขึ้นมาก็ยังเห็นในหลวงองค์ใหญ่เท่าเดิมอยู่ กลายเป็นว่าตัวของอาตมาเล็กลงหรืออย่างไรก็ไม่รู้ ? ไปอยู่ในเรือกลางน้ำวนแบบนั้น ก็ตกใจว่า..ตูจะตายแน่แล้ว..ใช่ไหม ? ก็โวยวายกับพระองค์ท่านว่า "ทำอย่างนี้หมายความว่าอย่างไร ?"
ท่านบอกว่า "เธอลองหาทางดูสิ..ว่าจะขึ้นมาได้หรือเปล่า ?" พอพระองค์ท่านให้หาทางดู อาตมามองไปรอบข้างเห็นเชือกทอดจากฝั่งมา ไม่เห็นว่าต้นสายอยู่ไหนหรอก แต่พาดอยู่บนเรือเป็นพัน ๆ เส้นเลยจึงเลือกเอาเส้นมโหฬาร เผื่อเหนียวไว้ว่าไม่ขาดแน่นอน แล้วปีนขึ้นมา
พอขึ้นถึงฝั่งมาก็กราบทูลถามพระองค์ท่านว่า "นิมิตนี้หมายความว่าอย่างไรพระพุทธเจ้าข้า ?" พระองค์ท่านตรัสว่า "นานไปเธอจะรู้เอง"
คราวนี้พอเล่าเรื่องให้คนอื่นฟัง ก็มีท่านผู้ที่ท่านมั่นใจว่าท่านตีความนิมิตนี้ได้ ท่านบอกว่าในหลวงเป็นพระโพธิสัตว์ คำว่า พระโพธิสัตว์ คือ ผู้ตั้งความปรารถนาจะขนถ่ายสัตว์โลกข้ามวัฏสงสาร ดังนั้นสัญลักษณ์ก็คือเรือ ที่ว่าอาตมาสละเรือทิ้งก็คือ อาตมาละความปรารถนาพุทธภูมิ แล้วขณะเดียวกันว่าเส้นเชือกที่ใหญ่ที่สุดที่เลือก น่าจะเป็นธรรมะส่วนหนึ่งที่หลวงพ่อวัดท่าซุงท่านสอนมา คือเชือกมีเต็มไปหมด แต่อาตมาเลือกเผื่อเหนียว เลือกเอาเอาเส้นโตที่สุดเลย