กิเลสชวนให้ผิดสัจจะ

[โอรส]

ถาม : กิเลสตอนนี้อยากถูกหวยรางวัลที่หนึ่ง คนแถวบ้านถูกรางวัลที่หนึ่ง ?
ตอบ : ไม่ได้ว่าอะไร แต่จะถามว่าได้ซื้อหรือเปล่า ?

ถาม : ไม่ได้ซื้อค่ะ อธิษฐานว่าจะไม่เล่นลอตเตอรี่ ไม่เล่นหวยมานานหลายปีแล้ว ถ้าตัวเองซื้อให้ลูกหมา ถ้าเกิดถูกแล้ว เป็นผู้ปกครองเลี้ยงหมาจะได้ไหมคะ ?
ตอบ : อย่าไปขโมยหมาใช้ก็แล้วกัน

ถาม : ถ้าอย่างนั้นเอาเงินของลูกหมาซื้อบ้าน อย่างนี้ก็ไม่ได้ใช่ไหมคะ ?
ตอบ : อ๋อ... ก็โกงหมา

ถาม : โกงหมา...ถ้าซื้อให้พ่อให้แม่ที่ตายไปแล้ว เราบอกซื้อบ้านให้น้อง ๆ อยู่ และก็ให้ลูกได้ไหม เป็นมรดกได้หรือเปล่า ?
ตอบ : พยายามจะตะแบงข้าง แต่ที่แน่ ๆ ก็คือจะเอาสตางค์หมาไปใช้นั่นแหละ

ถาม : ถ้าอย่างนี้เราจะไม่ซื้อด้วยต้องทำอย่างไร ?
ตอบ : สังเกตไหมว่าพอเราคิดอย่างนี้ ความร้อนใจได้เกิดขึ้นแล้ว ฟุ้งซ่านไปเรื่อย ถ้าได้เงินมาเราจะทำโน่น ได้เงินมาเราจะทำนี่

ถาม : มีความสุขมากเลย ได้คิดตั้งเยอะแยะ ?
ตอบ : ใช่ แต่ถ้าหากว่าดูจริง ๆ จะเห็นว่าทุกข์ เพราะจิตของเราไม่ได้มีความสงบ คิดฟุ้งซ่านไปเรื่อย แล้วถ้าตายตอนนั้น เดี๋ยวก็ได้เกิดเป็นเล็นเกาะในลอตเตอรี่หรอก

ถาม : ตอนนั้นอธิษฐานว่า ถ้าซื้อ..ไม่ได้ไปพระนิพพานชาตินี้ ขนาดนั้นเลยนะคะ มาตอนนี้ แหม..! คนโน้นก็ถูก คนข้างบ้านถูก ?
ตอบ : แบบนี้เขาเรียกกิเลสชวนให้เราผิดสัจจะ ถึงเวลาผิดสัจจะแล้วกำลังใจไม่ดี เดี๋ยวเขาก็ดึงเราอยู่กับเขาง่ายหน่อย พวกเรายังไม่เห็นลีลามาร พวกนี้ฝีมือสุดยอดจริง ๆ

พระพุทธเจ้าตรัสว่า อบาย (ทางต่ำ) มุข (ปากทาง) ปากทางลงสู่ที่ต่ำ เรียกว่า “อบายมุข” ท่านบอกว่า ผู้แพ้เสียดายทรัพย์ ผู้ชนะย่อมก่อเวร นั่นอาฆาตไปแล้ว เอ็งได้เงินไป เดี๋ยวข้าจะเอาคืนให้ได้ ย่อมทำให้ทรัพย์ฉิบหาย ไปที่ไหนก็ไม่มีคนเชื่อถือ ไม่มีคนคิดจะแต่งงานด้วย

ดื่มน้ำเมา เล่นการพนัน เที่ยวกลางคืน เที่ยวดูการละเล่น คบคนชั่วเป็นมิตร เกียจคร้านไม่ยอมทำการงาน เหล่านี้เป็นอบายมุขทั้งนั้น ไม่น่าเชื่อว่าความขี้เกียจ ไม่ทำงาน ก็กลายเป็นอบายมุขได้ แต่ขอให้เชื่อเถอะ..สิ่งใดที่พระพุทธเจ้าตรัสไว้ไม่มีผิดหรอก


สนทนากับพระอาจารย์เล็ก สุธมฺมปญฺโญ
ณ บ้านอนุสาวรีย์ฯ เดือนมิถุนายน พุทธศักราช ๒๕๔๕