โอรส
22-01-2012, 23:36
ถาม: หนึ่งกัปนับกันอย่างไรครับ ?
ตอบ: อรรถกถาจารย์ท่านได้เปรียบเอาไว้ว่า มีภูเขาหินล้วนลูกหนึ่ง กว้างหนึ่งโยชน์ ยาวหนึ่งโยชน์ หนาหนึ่งโยชน์ หนึ่งร้อยปีมีเทวดาเอาผ้าเนื้ออ่อนเหมือนสำลีมาปัดครั้งหนึ่ง หนึ่งร้อยปีมาปัดหนึ่งครั้ง ภูเขาลูกนั้นสึกเสมอพื้นเมื่อไร ก็นับเวลาได้หนึ่งกัป..!
ถาม: เวลาใครตกอเวจีครั้งหนึ่ง พระพุทธเจ้าท่านตรัสรู้ไปหลายองค์แล้ว..?
ตอบ: ก็ไม่แน่...เพราะบางทีเป็นอสงไขยกัปกว่าจะมีพระพุทธเจ้าบังเกิดขึ้นมาพระองค์หนึ่ง ถึงได้บอกว่าในช่วงนี้ ถ้าใครขึ้นข้างบนได้ถือว่าเฮงที่สุด เพราะพระพุทธเจ้ายังจะมาตรัสรู้อีก ๖ พระองค์ติด ๆ กัน แต่ขณะเดียวกัน ใครลงข้างล่างก็ซวยที่สุด ซวยตรงที่ว่า พระพุทธเจ้าผ่านไปจนหมดทั้ง ๖ พระองค์แล้ว คนที่ลงข้างล่างยังไม่โผล่ขึ้นมาเลย ตกลงว่าจะเอาเฮง หรือจะเอาซวยดี ?
ถาม: แล้วมีความพิเศษอะไรหรือเปล่าครับ ทำไมกัปนี้ถึงได้เยอะอย่างนี้ ?
ตอบ: โดยปกติแล้ว ถ้าเป็นสารกัป จะมีพระพุทธเจ้า ๑ พระองค์ มัณฑกัป มีพระพุทธเจ้า ๒ พระองค์ วรกัป มีพระพุทธเจ้า ๓ พระองค์ สารมัณฑกัป มีพระพุทธเจ้า ๔ พระองค์ ภัทรกัป มีพระพุทธเจ้า ๕ พระองค์
เต็มที่ก็มีกัปละไม่เกิน ๕ พระองค์เท่านั้น อย่างไรก็ไม่เกินไปกว่านี้ บังเอิญว่าช่วงนี้เป็นภัทรกัป ๒ กัปติดกัน รวยเป็นบ้าเลย อย่างบางช่วงที่ผ่านมา ระหว่างกัปที่มีพระพุทธเจ้า บางครั้งเว้นไปเป็นอสงไขยกัป กว่าจะมีพระพุทธเจ้าอีกพระองค์หนึ่ง ห่างกันถึงขนาดนั้น
ถาม: จริง ๆ ถ้าขึ้นข้างบนช่วงนี้ ก็ถือว่าโชคดีสุด ๆ ?
ตอบ: โชคดีสุด ๆ เลย เพราะเป็นภัทรกัป ๒ กัปติดกัน ไม่ใช่น้อย ๆ นะ ๒ กัปนี้ มีพระพุทธเจ้าตรัสรู้ถึง ๑๐ พระองค์
สนทนากับพระอาจารย์เล็ก สุธมฺมปญฺโญ
ณ บ้านอนุสาวรีย์ฯ เดือนกันยายน พุทธศักราช ๒๕๔๕
ตอบ: อรรถกถาจารย์ท่านได้เปรียบเอาไว้ว่า มีภูเขาหินล้วนลูกหนึ่ง กว้างหนึ่งโยชน์ ยาวหนึ่งโยชน์ หนาหนึ่งโยชน์ หนึ่งร้อยปีมีเทวดาเอาผ้าเนื้ออ่อนเหมือนสำลีมาปัดครั้งหนึ่ง หนึ่งร้อยปีมาปัดหนึ่งครั้ง ภูเขาลูกนั้นสึกเสมอพื้นเมื่อไร ก็นับเวลาได้หนึ่งกัป..!
ถาม: เวลาใครตกอเวจีครั้งหนึ่ง พระพุทธเจ้าท่านตรัสรู้ไปหลายองค์แล้ว..?
ตอบ: ก็ไม่แน่...เพราะบางทีเป็นอสงไขยกัปกว่าจะมีพระพุทธเจ้าบังเกิดขึ้นมาพระองค์หนึ่ง ถึงได้บอกว่าในช่วงนี้ ถ้าใครขึ้นข้างบนได้ถือว่าเฮงที่สุด เพราะพระพุทธเจ้ายังจะมาตรัสรู้อีก ๖ พระองค์ติด ๆ กัน แต่ขณะเดียวกัน ใครลงข้างล่างก็ซวยที่สุด ซวยตรงที่ว่า พระพุทธเจ้าผ่านไปจนหมดทั้ง ๖ พระองค์แล้ว คนที่ลงข้างล่างยังไม่โผล่ขึ้นมาเลย ตกลงว่าจะเอาเฮง หรือจะเอาซวยดี ?
ถาม: แล้วมีความพิเศษอะไรหรือเปล่าครับ ทำไมกัปนี้ถึงได้เยอะอย่างนี้ ?
ตอบ: โดยปกติแล้ว ถ้าเป็นสารกัป จะมีพระพุทธเจ้า ๑ พระองค์ มัณฑกัป มีพระพุทธเจ้า ๒ พระองค์ วรกัป มีพระพุทธเจ้า ๓ พระองค์ สารมัณฑกัป มีพระพุทธเจ้า ๔ พระองค์ ภัทรกัป มีพระพุทธเจ้า ๕ พระองค์
เต็มที่ก็มีกัปละไม่เกิน ๕ พระองค์เท่านั้น อย่างไรก็ไม่เกินไปกว่านี้ บังเอิญว่าช่วงนี้เป็นภัทรกัป ๒ กัปติดกัน รวยเป็นบ้าเลย อย่างบางช่วงที่ผ่านมา ระหว่างกัปที่มีพระพุทธเจ้า บางครั้งเว้นไปเป็นอสงไขยกัป กว่าจะมีพระพุทธเจ้าอีกพระองค์หนึ่ง ห่างกันถึงขนาดนั้น
ถาม: จริง ๆ ถ้าขึ้นข้างบนช่วงนี้ ก็ถือว่าโชคดีสุด ๆ ?
ตอบ: โชคดีสุด ๆ เลย เพราะเป็นภัทรกัป ๒ กัปติดกัน ไม่ใช่น้อย ๆ นะ ๒ กัปนี้ มีพระพุทธเจ้าตรัสรู้ถึง ๑๐ พระองค์
สนทนากับพระอาจารย์เล็ก สุธมฺมปญฺโญ
ณ บ้านอนุสาวรีย์ฯ เดือนกันยายน พุทธศักราช ๒๕๔๕