เถรี
12-10-2011, 03:36
ให้ทุกคนขยับตัวนั่งในท่าที่สบายของตนจ้ะ ตั้งกายให้ตรง กำหนดสติอยู่เฉพาะหน้า เอาความรู้สึกทั้งหมดไหลตามลมหายใจเข้าไป ไหลตามลมหายใจออกมา หายใจเข้าผ่านจมูก..ผ่านกึ่งกลางอก..ลงไปสุดที่ท้อง หายใจออกจากท้อง..ผ่านกึ่งกลางอก..ไปสุดที่ปลายจมูก จะใช้คำภาวนาอย่างไรก็ได้ ตามอัธยาศัยของเรา
วันนี้เป็นวันเสาร์ที่ ๑ ตุลาคม พุทธศักราช ๒๕๕๔ เป็นการปฏิบัติกรรมฐานประจำเดือนตุลาคมวันที่สองของพวกเรา
เมื่อวานนี้มีโยมท่านหนึ่งมาถามปัญหาการปฏิบัติ ปรากฏว่าโยมท่านนี้เป็นอิสลาม ปฏิบัติในมโนมยิทธิจนเกิดผล มาถามปัญหาหลายข้อซึ่งเป็นปัญหาของนักปฏิบัติที่เข้าถึงจริง ๆ จึงจะถามได้ แสดงว่าเป็นของแท้ ไม่ใช่มาหลอกลวงกัน
ตรงจุดนี้เราจะเห็นได้ว่า ธรรมะขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้านั้นเป็นสากล ไม่ว่าจะชาติใดภาษาใด นับถือศาสนาไหนก็ตาม ถ้าหากว่าปฏิบัติตามคำสอนของพระองค์ท่านแล้ว ก็ย่อมจะได้รับผลเช่นเดียวกันทุกคน เมื่อเป็นเช่นนั้น เราก็ต้องมาพิจารณาดูว่า ตัวเราที่เป็นคนไทยแท้ ๆ นับถือศาสนาพุทธมาตั้งแต่พ่อแม่ปู่ย่าตายาย ถ้าเราปฏิบัติไม่ได้อย่างเขา เป็นเรื่องที่น่าขายหน้าหรือไม่ ?
ในขณะเดียวกันก็ต้องดูด้วยว่า ทำไมเขาถึงปฏิบัติได้ผล แล้วเราปฏิบัติไม่ได้ผล ? จะว่าไปแล้วศาสนาอิสลามนั้นมีความดีอยู่ตรงที่ว่า มีการบังคับให้ทำละหมาดวันละ ๕ ครั้ง การทำละหมาดมีลักษณะเหมือนกับการสวดมนต์ของพวกเรา ก็แปลว่ากว่าจะสวดมนต์จบต้องได้สมาธิแน่นอน แล้วนำสมาธิทรงตัวใช้ไปในระหว่างช่วงที่ทำการทำงานอื่น พอสมาธิเริ่มคลายตัวก็พอดีเป็นเวลาละหมาดรอบใหม่ เมื่อเป็นดังนี้ อิสลามิกชนทั้งหลายจึงมีการสั่งสมในส่วนของสมาธิค่อนข้างจะต่อเนื่อง
เมื่อมาเปรียบเทียบกับพวกเราแล้วจะเห็นได้ว่าอันดับแรก สัจจะ คือความจริงจังจริงใจในการปฏิบัติของเราสู้เขาไม่ได้แน่ เพราะของเขาทุ่มเท อย่างไม่มี ๆ ก็วันละ ๕ รอบ แต่เราเองจะนั่งกรรมฐานเช้าสักครึ่งชั่วโมง เย็นสักครึ่งชั่วโมงก็ยากแล้ว ดังนั้น..ถ้าหากว่าเราจะทำให้ได้อย่างเขา ก็ต้องเน้นในเรื่องของสัจจะ ก็คือความจริงจังจริงใจนี้
วันนี้เป็นวันเสาร์ที่ ๑ ตุลาคม พุทธศักราช ๒๕๕๔ เป็นการปฏิบัติกรรมฐานประจำเดือนตุลาคมวันที่สองของพวกเรา
เมื่อวานนี้มีโยมท่านหนึ่งมาถามปัญหาการปฏิบัติ ปรากฏว่าโยมท่านนี้เป็นอิสลาม ปฏิบัติในมโนมยิทธิจนเกิดผล มาถามปัญหาหลายข้อซึ่งเป็นปัญหาของนักปฏิบัติที่เข้าถึงจริง ๆ จึงจะถามได้ แสดงว่าเป็นของแท้ ไม่ใช่มาหลอกลวงกัน
ตรงจุดนี้เราจะเห็นได้ว่า ธรรมะขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้านั้นเป็นสากล ไม่ว่าจะชาติใดภาษาใด นับถือศาสนาไหนก็ตาม ถ้าหากว่าปฏิบัติตามคำสอนของพระองค์ท่านแล้ว ก็ย่อมจะได้รับผลเช่นเดียวกันทุกคน เมื่อเป็นเช่นนั้น เราก็ต้องมาพิจารณาดูว่า ตัวเราที่เป็นคนไทยแท้ ๆ นับถือศาสนาพุทธมาตั้งแต่พ่อแม่ปู่ย่าตายาย ถ้าเราปฏิบัติไม่ได้อย่างเขา เป็นเรื่องที่น่าขายหน้าหรือไม่ ?
ในขณะเดียวกันก็ต้องดูด้วยว่า ทำไมเขาถึงปฏิบัติได้ผล แล้วเราปฏิบัติไม่ได้ผล ? จะว่าไปแล้วศาสนาอิสลามนั้นมีความดีอยู่ตรงที่ว่า มีการบังคับให้ทำละหมาดวันละ ๕ ครั้ง การทำละหมาดมีลักษณะเหมือนกับการสวดมนต์ของพวกเรา ก็แปลว่ากว่าจะสวดมนต์จบต้องได้สมาธิแน่นอน แล้วนำสมาธิทรงตัวใช้ไปในระหว่างช่วงที่ทำการทำงานอื่น พอสมาธิเริ่มคลายตัวก็พอดีเป็นเวลาละหมาดรอบใหม่ เมื่อเป็นดังนี้ อิสลามิกชนทั้งหลายจึงมีการสั่งสมในส่วนของสมาธิค่อนข้างจะต่อเนื่อง
เมื่อมาเปรียบเทียบกับพวกเราแล้วจะเห็นได้ว่าอันดับแรก สัจจะ คือความจริงจังจริงใจในการปฏิบัติของเราสู้เขาไม่ได้แน่ เพราะของเขาทุ่มเท อย่างไม่มี ๆ ก็วันละ ๕ รอบ แต่เราเองจะนั่งกรรมฐานเช้าสักครึ่งชั่วโมง เย็นสักครึ่งชั่วโมงก็ยากแล้ว ดังนั้น..ถ้าหากว่าเราจะทำให้ได้อย่างเขา ก็ต้องเน้นในเรื่องของสัจจะ ก็คือความจริงจังจริงใจนี้