ลัก...ยิ้ม
07-10-2011, 11:51
จงอย่าหวั่นไหวกับคำนินทาและสรรเสริญ
๑. “ให้เห็นโทษของรูปและเสียง อันเป็นจุดใหญ่ที่ทำให้อารมณ์ของจิตเกิดกิเลส อย่างคำสรรเสริญและนินทาอันเป็นที่ชอบใจและไม่ชอบใจ ก็เป็นอิทธิพลของเสียง จักต้องนำมาพิจารณา มิใช่สักเพียงแต่ว่าพิจารณาเสียงเพลง เสียงดนตรี ซึ่งยังเป็นธรรมยังหยาบอยู่ ถ้าจักพิจารณาหาความละเอียดของเสียงที่กระทบจิต ยังอารมณ์ให้หวั่นไหว ก็พึงพิจารณาหาโทษของเสียง อันกระทบอยู่ทุก ๆ วันเป็นหลักใหญ่ จึงจักยังประโยชน์ใหญ่ให้แก่การปฏิบัติธรรมได้”
๒. “รูปก็เช่นกัน ให้กำหนดรู้สภาวะรูปที่เข้ามากระทบตลอดเวลาตามความเป็นจริง เห็นไตรลักษณ์ของรูป เสียง กลิ่น รส สัมผัส ธรรมารมณ์ ให้เห็นด้วยสติ-สัมปชัญญะอย่างเอาจริงเอาจัง จึงจักละอารมณ์ซึ่งเกาะติดอยู่ในไตรลักษณ์นั้นไปได้”
ธรรมที่นำไปสู่ความหลุดพ้น เล่มที่ ๙
รวบรวมโดย พล.ต.ท.นพ.สมศักดิ์ สืบสงวน
ขอเชิญทุกท่านเข้าไปอ่านได้ที่ www.tangnipparn.com (http://www.tangnipparn.com)
๑. “ให้เห็นโทษของรูปและเสียง อันเป็นจุดใหญ่ที่ทำให้อารมณ์ของจิตเกิดกิเลส อย่างคำสรรเสริญและนินทาอันเป็นที่ชอบใจและไม่ชอบใจ ก็เป็นอิทธิพลของเสียง จักต้องนำมาพิจารณา มิใช่สักเพียงแต่ว่าพิจารณาเสียงเพลง เสียงดนตรี ซึ่งยังเป็นธรรมยังหยาบอยู่ ถ้าจักพิจารณาหาความละเอียดของเสียงที่กระทบจิต ยังอารมณ์ให้หวั่นไหว ก็พึงพิจารณาหาโทษของเสียง อันกระทบอยู่ทุก ๆ วันเป็นหลักใหญ่ จึงจักยังประโยชน์ใหญ่ให้แก่การปฏิบัติธรรมได้”
๒. “รูปก็เช่นกัน ให้กำหนดรู้สภาวะรูปที่เข้ามากระทบตลอดเวลาตามความเป็นจริง เห็นไตรลักษณ์ของรูป เสียง กลิ่น รส สัมผัส ธรรมารมณ์ ให้เห็นด้วยสติ-สัมปชัญญะอย่างเอาจริงเอาจัง จึงจักละอารมณ์ซึ่งเกาะติดอยู่ในไตรลักษณ์นั้นไปได้”
ธรรมที่นำไปสู่ความหลุดพ้น เล่มที่ ๙
รวบรวมโดย พล.ต.ท.นพ.สมศักดิ์ สืบสงวน
ขอเชิญทุกท่านเข้าไปอ่านได้ที่ www.tangnipparn.com (http://www.tangnipparn.com)