PDA

View Full Version : รวมคำเด็ดเกร็ดคำครู


เถรี
24-03-2009, 09:51
...ยากนักที่จะได้เกิดเป็นมนุษย์ เพราะต้องตั้งอยู่ในธรรมของมนุษย์ คือ ศีล ๕ และกุศลกรรมบท ๑๐ จึงจะได้เกิดมาเป็นมนุษย์ ชีวิตที่เป็นมานี้ก็ได้ด้วยยากยิ่งนัก เพราะอันตรายชีวิตทั้งภายในภายนอกมีมากต่างๆ การที่ได้ฟังธรรมของสัตบุรุษ คือ พระสัมมาสัมพุทธเจ้านี้ ก็ได้ด้วยยากยิ่งนัก เพราะกาลที่เปล่าว่างอยู่ ไม่มีพระพุทธเจ้าเกิดขึ้นในโลกยืดยาวนานนัก บางคาบบางสมัยจึงจะมีพระพุทธเจ้าเกิดขึ้นในโลกสักครั้งสักคราวหนึ่ง เหตุนั้นเราทั้งหลายพึงอยู่ด้วยความไม่ประมาทเถิด อย่าให้เสียที่ได้เกิดมาเป็นมนุษย์พบพระพุทธศาสนานี้เลย


หลวงปู่เสาร์ กนฺตสีโล
วัดเลียบ จ.อุบลราชธานี


ที่มา : http://www.watkoh.com/kratoo/forum_posts.asp?TID=4388&SID=z87dd78aca9a53b2b3z493d1ee7685fd

เถรี
24-03-2009, 09:52
ทุกข์ ต้องกำหนดรู้ สมุทัย ต้องละ นิโรธ ต้องทำให้แจ้ง มรรค ต้องเจริญให้มาก


หลวงปู่มั่น ภูริทตฺโต
วัดป่าสุทธาวาส อ.เมือง จ.สกลนคร

เถรี
24-03-2009, 09:54
พระพุทธศาสนาเป็นของดี วิเศษยิ่งนักในโลกนี้
ไม่มีเครื่องเปรียบ เพราะเป็นหนทางแก้ทุกข์
นับว่าเป็นแก้วรัตนะมงคลของโลกทีเดียว


พระอาจารย์สิงห์ ขนฺตยาคโม
วัดป่าสาลวัน จ.นครราชสีมา

เถรี
24-03-2009, 09:57
จิตที่ส่งออกนอก เพื่อรับสนองอารมณ์ทั้งสิ้นเป็นสมุทัย
ผลอันเกิดจากจิตที่ส่งออกนอกแล้วหวั่นไหวเป็นทุกข์
จิตเห็นจิตอย่างแจ่มแจ้งเป็นมรรค
ผลอันเกิดจากจิตเห็นจิตอย่างแจ่มแจ้งเป็นนิโรธ



พระราชวุฒาจารย์(หลวงปู่ดูลย์ อตุโล)
วัดบูรพาราม อ.เมือง จ.สุรินทร์

เถรี
24-03-2009, 09:59
สิ่งใดเกิด สิ่งนั้นตาย
สิ่งใดไม่เที่ยง สิ่งนั้นเป็นทุกข์
สิ่งใดเป็นทุกข์ สิ่งนั้นเป็นอนัตตา
ผู้ใดเห็นอนัตตา ผู้นั้นเห็นพระนิพพานแล


หลวงปู่ขาว อนาลโย
วัดถ้ำกลองเพล อ.เมือง จ.หนองบัวลำภู

เถรี
24-03-2009, 10:00
ธรรมเป็นตัวธรรมชาติภายในจิต และมีเพียรให้รู้ตามธรรมชาติ จึงชื่อว่ารู้อริยสัจ ราคะ โมหะ โทสะ ต้นไม้ ภูเขา สัตว์ ก็เป็นธรรมชาติของเขา เป็นเช่นนั้น แต่ไหนแต่ไรมา เราไม่ควรไปยึดไปแต่งให้เป็นตัณหา ก่อเรื่องทุกข์ให้สัตว์เหล่านั้น กลายเป็นทุคติ นรกไป

หลวงปู่หลุย จนฺทสาโร
วัดถ้ำผาบิ้ง อ.วังสะพุง จ.เลย

เถรี
24-03-2009, 10:01
บ่ ต้องดีใจ
บ่ ต้องเสียใจ
ดีก็ช่าง
ร้ายก็ช่าง
เทศน์ที่สั้นที่สุด วาง


หลวงปู่ชอบ ฐานสโม
วัดป่าสัมมานุสรณ์ อ.วังสะพุง จ.เลย

เถรี
24-03-2009, 10:02
ทุกข์มีเพราะยึด
ทุกข์ยืดเพราะอยาก
ทุกข์มากเพราะพลอย
ทุกข์น้อยเพราะหยุด
ทุกข์หลุดเพราะปล่อย


พระโพธิญาณเถร(หลวงพ่อชา สุภทฺโท)
วัดหนองป่าพง อ.วารินชำราบ อุบลราชธานี

เถรี
24-03-2009, 10:03
อดีตก็เป็นธรรมเมาอันหนึ่ง อนาคตก็เป็นธรรมเมา พึงทำให้จิตดิ่งอยู่ในปัจจุบัน รู้ปัจจุบัน ละปัจจุบัน ตัดตัณหา ตัดกิเลส ตัดมานะทิฐิ ตัดความยึดมั่นของตนให้เสร็จลง แล้วก็สงบได้

หลวงปู่แหวน สุจิณฺโณ
วัดดอยแม่ปั๋ง อ.พร้าว จ.เชียงใหม่

เถรี
24-03-2009, 10:06
พุทธะคือผู้รู้ ความรู้นี้ไม่ใช่มืด ไม่ใช่สว่าง ไม่ใช่แจ้ง ไม่ใช่หลง ความที่มันหลงเราก็รู้อยู่ มืดเราก็รู้อยู่ สว่างเราก็รู้อยู่ สุขมันก็รู้ ทุกข์มันก็รู้อย่างนี้

หลวงปู่ฝั้น อาจาโร
วัดป่าอุดมสมพร อ.พรรณานิคม จ.สกลนคร

เถรี
24-03-2009, 10:07
ผู้ใดทำให้ใจถึงความเป็นกลางได้
ผู้นั้นจะพ้นจากทุกข์ทั้งปวง
ผู้ที่จะพ้นจากทุกข์ได้ในโลกนี้ก็ล้วนแล้วแต่ยกทุกข์ขึ้นมาเป็นเหตุทั้งนั้น
แท้จริงความนึกคิดไม่ใช่ทุกข์ แต่การไปยึดความนึกคิดมาเป็นของตน จึงเป็นทุกข์


หลวงปู่เทสก์ เทสฺรํสี
วัดหินหมากเป้ง อ.ศรีเชียงใหม่ จ.หนองคาย

เถรี
24-03-2009, 10:09
สุขโลกีย์ มันก็ดีแต่ใหม่ๆ สดๆ ร้อนๆ เท่านั้น เหมือนข้าวสุกที่เราตักใส่จานใหม่ ๆ ยังร้อน ๆ ควันขึ้น ก็น่ารับประทาน แต่พอตักไว้นานจนเย็นชืดก็จะกินไม่อร่อย ยิ่งทิ้งไว้จนแข็งเป็นข้าวเย็น ก็ยิ่งกลืนไม่ลง พอข้ามวันก็เหม็นบูด ต้องเททิ้ง กินไม่ได้เลย


พระอาจารย์ลี ธมฺมธโร
วัดอโศการาม อ.เมือง จ.สมุทรปราการ

เถรี
24-03-2009, 10:10
ธรรมขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้านี้เป็นของเย็น เป็นของบริสุทธิ์ บุคคลผู้มีปัญญาจะไม่ปฏิเสธธรรมของพระพุทธเจ้าเพราะธรรมถ้าอยู่ในจิตใจของผู้ใด ผู้นั้นย่อมมีความสุขความเจริญ


หลวงปู่อ่อน ญาณสิริ
วัดป่านิโคธาราม จ.อุดรธานี

เถรี
24-03-2009, 10:11
จะเอาสุขทางโลก ก็ได้ทุกข์มาพร้อมกัน เช่น คิดว่า สามี ภรรยา เป็นความสุข ก็ได้รับทุกข์เพราะสามี ภรรยานั่นแหละ อยากได้ลูกมีความสุขที่ได้ลูกหญิงลูกชาย แต่ก็ได้รับทุกข์ เพราะลูกนั่นแหละ จะเอาความรักก็ได้ความชังมาพร้อม จะเอาอย่างเดียวไม่ได้ อยากได้หนึ่งแต่ได้สอง เป็นกฎธรรมชาติอย่างนั้น


พระครูญาณทัสสี (หลวงปู่คำดี ปภาโส)
วัดถ้ำผาปู่นิมิตร อ.เมือง จ.เลย

เถรี
24-03-2009, 10:12
การภาวนาเป็นเรื่องของการบำเพ็ญ เพื่อความสุข ไม่ใช่เพื่อความทุกข์ แม้จะมีความยากลำบากบ้างก็อย่าท้อถอย ให้เห็นเป็นธรรมดาของการจะทำสิ่งมีค่าให้เกิดขึ้น


พระญาณสิทธาจารย์ (หลวงปู่สิม พุทฺธาจาโร )
วัดถ้ำผาปล่อง อ.เชียงดาว จ.เชียงใหม่

เถรี
24-03-2009, 10:13
สิ่งใดที่เรารู้เท่าทัน สิ่งนั้นไม่สามารถที่จะดึงใจของเราไปทรมานให้เกิดทุกข์ขึ้นได้


หลวงพ่อพุธ ฐานิโย
วัดป่าสาลวัน อ.เมือง จ.นครราชสีมา

เถรี
24-03-2009, 10:14
คนเราเกิดมาทุกรูปทุกนาม รูปสังขารเป็นของไม่เที่ยง เกิดขึ้นแล้วล้วนตกอยู่ในกองทุกข์ด้วยกันทั้งนั้น ไม่ว่าพระราชา มหากษัตริย์ พระยานาหมื่น คนมั่งมีเศรษฐี และยาจก ล้วนตกอยู่ในกองทุกข์ด้วยกันทั้งนั้น มีทางพอจะหลุดพ้นทุกข์ได้ คือ ทำความเพียร เจริญภาวนา อย่าสิมัวเมาในรูปร่างสังขารของตน มัจจุราชมัน บ่ไว้หน้าผู้ใด ก่อนจะดับไป ควรจะสร้างความดีเอาไว้


หลวงปู่พรหม จิรปญฺโญ
วัดประสิทธิธรรม อ.บ้านดุง จ.อุดรธานี

เถรี
24-03-2009, 10:16
เราทุกคนเกิดมาพบพระพุทธศาสนา คือศาสนาของผู้รู้ เราต้องพิจารณาสอนจิต สอนใจของตัว ระวังรักษาอย่าให้ชั่วรั่วไหลเข้ามาทับถม ชั่วที่มีอยู่รีบทำลาย กำจัดปัดเป่าออกไป สิ่งใดที่จะนำความสุข ความเยือกเย็น ความสว่างไสว ความพ้นทุกข์พ้นภัย เรารีบกระทำบำเพ็ญ ให้จิตเห็น จิตรู้ เมื่อเราทุกคนทำอยู่อย่างนี้ เราจะประสบความสุข


พระอาจารย์สิงห์ทอง ธมฺมวโร
วัดป่าแก้วชุมพล จ.สกลนคร

เถรี
24-03-2009, 10:17
....จะทำจะพูดจะคิดสิ่งใด ก็จง ทำพูด คิดแต่ในทางที่จะเป็นประโยชน์แก่ตนและผู้อื่นเถิด


หลวงปู่กงมา จิรปุญฺโญ
วัดดอยธรรมเจดีย์ จ. สกลนคร

ผึ้ง
25-03-2009, 22:20
ถ้ารังเกียจร่างกาย รังเกียจโลก ไปนิพพานได้........
ถ้าไปเพราะความกลุ้ม ไปไม่ได้


(หลวงพ่อพูดที่ตึกรับแขก เมื่อ ๔ ตุลาคม ๒๕๓๗ )
คัดมาจากหนังสือปฐมธรรมยาน(ลูกตามพ่อ) หน้า ๑๒๔

คนเก่า
26-03-2009, 17:48
ผู้เฝ้าดูจิตด้วยธรรม จักพ้นจากบ่วงมาร


หลวงปู่ครูบาพรหมา(พระสุพรหมยานเถร) วัดพระพุทธบาทตากผ้า

คนเก่า
26-03-2009, 17:51
คนดีชอบแก้ไข
คนจัญไรชอบแก้ตัว
คนชั่วชอบทำลาย
คนมักง่ายชอบทิ้ง
คนจริงชอบทำ
คนระยำชอบติ


พระพุทธพจน์วราภรณ์ วัดเจดีย์หลวง

เถรี
21-04-2009, 09:08
ดีที่ไม่มีโทษ ดีนั้นชื่อว่าดีเลิศ

หลวงปู่มั่น ภูริทตฺโต

เถรี
21-04-2009, 09:09
ปกครองยาก สอนยาก ดื้อดึงที่สุด คือ ตัวของเราเอง

หลวงพ่อเนื่อง โกวิโท วัดจุฬามณี

เถรี
21-04-2009, 09:09
รู้จักพอก่อสุขทุกสถาน

หลวงพ่อเงิน พุทฺธโชโต วัดบางคลาน

เถรี
21-04-2009, 09:11
คิดอย่างไรเชื่ออย่างนั้น เชื่ออย่างไรทำอย่างนั้น ทำอย่างไรนิสัยอย่างนั้น นิสัยอย่างไรสันดานอย่างนั้น สันดานอย่างไรได้รับชะตากรรมอย่างนั้น

บุญต้องหาบ บาปต้องละ พระต้องสงบ รบต้องชนะ สละต้องกล้า ค้าต้องกำไร ใจต้องคิด ผิดต้องแก้

หลวงปู่มั่น ภูริทตฺโต

ป้านุช
21-05-2009, 11:38
หลวงปู่บุดดา ถาวโร
วัดกลางชูศรีเจริญสุข จ.สิงห์บุรี

อยู่กับธรรมะสิไม่มีทุกข์ ธรรมะไม่มีสัตว์ ไม่มีคน
อยู่กับคนก็ทุกข์นะสิ อยู่หลายคนก็ทะเลาะกัน
อยู่คนเดียวก็ทะเลาะกับตัวเอง ทะเลาะกับมิจฉาทิฐิ
อยู่กับธรรมะไม่ทะเลาะกับใคร

ป้านุช
09-06-2009, 02:32
ท่านทั้งหลาย การที่เราเกิดมาเป็นมนุษย์นี้ มิได้มาตัวเปล่า
ต่างมีบุญและบาปที่ทำไว้ในอดีตติดมาทุกคน
ต่างกันแต่มากบ้างน้อยบ้าง ไม่ช้าเราก็ต้องตายดอก
อย่ามาแบกเอาบาปเพิ่มไปอีกเลย
ลาภสักการะอันหมุนลงได้เป็นราคาเงินนั้น เป็นสมบัตินอกกาย
ตายแล้วเอาไปไม่ได้ดอก มันเป็นของใช้สอยประจำโลก
เราตายแล้วก็ตกเป็นของคนอื่น เขาอาศัยใช้ต่อไป
ใครจะว่าเป็นของใครไม่ได้ทั้งนั้น
โลกมนุษย์เป็นแหล่งกลางสำหรับอาศัยสร้างบุญ สร้างบาป
โลกนรก โลกสวรรค์ เป็นเพียงโลกที่คอยรับรองผลบุญ - บาป เท่านั้น
เราได้มาเกิดอยู่ในโลกอันเป็นแหล่งกลางเช่นนี้แล้ว
นับว่าเราได้มีโอกาสที่จะเพิ่มบุญผ่อนบาปให้เบาลง
ให้เบาลงกว่าที่เราแบกมาจากอดีตนั้นเถิด อย่าเติมเข้าไปอีกเลย
ไหน ๆ เราก็ต้องตายแน่ อย่ามาหอบเอาบาปเพิ่มไปอีกเลย

หลวงพ่อสด จนฺทสโร
วัดปากน้ำภาษีเจริญ กรุงเทพ ฯ

ป้านุช
09-06-2009, 02:39
ทุกคนจงอย่าได้น้อยใจ ถ้าเข้ามาบำเพ็ญกุศลในทางพระพุทธศาสนาแล้ว
มันไม่ขาดทุนหรอก บุญกุศลมันก็ได้ ขออย่าได้ทำเล่นเท่านั้นแหละ
ครั้นรักษาศีลจริง ๆ คือรักษากาย รักษาวาจาให้เรียบร้อย
เว้นจากโทษทั้งห้า อานิสงส์มันก็ถึงใจ



หลวงปู่ตื้อ อจลธมฺโม
วัดอรัญญวิเวก จ.นครพนม

ป้านุช
09-06-2009, 02:43
ขอให้ท่านได้พิจารณาไตร่ตรองให้จงดีเถิดว่า... ร่างกายของเรานี้ไฉนจึงต้องชำระทุกวันทั้งเช้าและเย็น จะขาดเสียไม่ได้
ทั้งที่หมั่นทำความสะอาดอยู่เป็นนิจ แต่ยังมีกลิ่นไม่น่าอภิรมย์ออกมา แม้จะพยายามหาของหอมมาทาทับ ก็ปกปิดกลิ่นนั้นไม่ได้

ใจของเราล่ะ ซึ่งเป็นใหญ่กว่าร่างกาย เป็นผู้สั่งบัญชางานให้กายแท้ ๆ

มีใครเอาใจใส่ชำระสิ่งสกปรกออกบ้าง ตั้งแต่เล็กจนเติบโตเป็นผู้ใหญ่ มันสั่งสมสิ่งไม่ดีไว้มากเพียงใด
หรือว่ามองไม่เห็นจึงไม่มีความจำเป็นที่จะต้องทำความสะอาดหรือ?



สมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต) พรฺหมฺรงฺสี

วัดระฆังโฆษิตาราม กรุงเทพมหานคร

ป้านุช
09-06-2009, 02:47
ผู้ไม่มีศีลเป็นพื้นฐาน สมาธิจะไม่เกิดหรือตั้งอยู่ไม่ได้

สมาธิมีแล้ว ปัญญาวิปัสสนาจึงจะเกิด

ผู้ไม่มีสมาธิเป็นพื้นฐาน จะปรารถนาวิปัสสนา ก็เหมือนกับดักไซบนอากาศฉะนั้น



หลวงปู่เทสก์ เทสรงฺสี วัดหินหมากเป้ง จ.หนองคาย

ข้อมูล : หนังสือ "บันทึกธรรมภาษิต" โดย หลวงปู่เทสก์ เทสรังสี

ป้านุช
09-06-2009, 02:50
หาคนดีมีศีลธรรมในใจ หายากยิ่งกว่าเพชรนิลจินดา
ได้คนเป็นคนดีเพียงคนเดียวย่อมมีค่ามากกว่าเงินเป็นล้าน ๆ
เพราะเงินเป็นล้าน ๆ ไม่สามารถทำความร่มเย็นให้แก่โลกได้อย่างถึงใจ
เหมือนได้คนดีทำประโยชน์...


หลวงปู่มั่น ภูริทัตโต
วัดป่าสุทธาวาส จ.สกลนคร

ป้านุช
09-06-2009, 02:53
ความมืดก็อยู่ที่นี่ ความสว่างก็อยู่ที่นี่ ความโง่ ความหลง
ก็อยู่ในตัวของเรานี้ ความรู้ความฉลาดก็อยู่ในใจของเรานี้
ใจดวงนี้จึงเป็นเหมือนเก้าอี้ตัวเดียว แต่คนรอนั่งบนเก้าอี้มีสองคน
ถ้าคนหนึ่งเข้านั่ง อีกคนหนึ่งก็ต้องยืน ถ้าแบ่งกันนั่งก็ได้นั่งคนละซีก
เช่นเดียวกับความโง่ ความฉลาดแทรกกันอยู่ในใจดวงเดียว
จะว่าโง่จริง ๆ ก็รู้อยู่ จะว่าหลงจริง ๆ ก็ยังรู้อยู่
แต่ถ้าจะว่ารู้จริง ๆ ก็ยังมีความโง่ ความฉลาดแทรกอยู่ด้วย
จีงเทียบกับเก้าอี้ตัวเดียวแต่คนนั่งสองคน
ใจดวงเดียวแต่มีความโง่กับความหลงแทรกกันอยู่คนละซีก
ถ้าใครมีกำลังมากกว่า คนนั้นก็ได้นั่งมาก...


หลวงตามหาบัว ญาณสมฺปนฺโน
วัดป่าบ้านตาด จ.อุดรธานี

ป้านุช
09-06-2009, 03:07
"วิปัสสนาคือให้พิจารณาในทุกสิ่งทุกอย่างว่าเป็นอนัตตา
อนัตตาคือการเดินทางไปสู่โลกแห่งนิพพาน โลกเรานี้เป็นโลกแห่งอัตตา"


หลวงปู่ทวด(เหยียบน้ำทะเลจืด)

ป้านุช
09-06-2009, 03:09
"นิพพาน คือว่างจากกิเลส จิตวิญญาณของพระอรหันต์ไม่สูญ
ที่วิญญาณสูญนั่นคือวิญญาณในขันธ์ ๕ เท่านั้น "


สมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต) พรหมรังษี

ป้านุช
09-06-2009, 03:25
พุทธะ อยู่ในกายมนุษย์

อีกจุดหนึ่งที่มนุษย์ไม่ยอมสนใจ คือไม่สนใจค้นในกายของตนเอง สิ่งหนึ่งที่เรียกว่าพุทธะนั้นอยู่ในกาย
ถ้าจิตของผู้นั้นสามารถค้นเข้าไปถึงกายในกายอันบริสุทธิ์ สิ่งนี้ภาษาทางโลกเรียกว่าพลังชนิดหนึ่ง ที่ยอดเยี่ยมอยู่ในตัวเรา
แต่เราไม่รู้จักค้นออกมาใช้ เพราะอะไรเล่า ทำไมเราจึงถามว่าเหตุใดองค์สมณะโคดมจึงสามารถระลึกชาติได้
เพราะมี ปุพเพนิวาสานุสสติญาน มีอนาคตญาณ หรือมีญาณอะไร สิ่งเหล่านี้เราไม่ต้องไปรับรู้ เราไม่ต้องยุ่ง
เราไม่ต้องไปคิดถึงว่าเราจะได้ฌานโน้นฌานนี้ หลักของการปฏิบัติอันหนึ่งมีอยู่ว่า เราจะยึดอะไรเป็นสรณะของการปฏิบัติวิปัสสนากรรมฐาน

คำว่า กรรมฐาน นั้นหมายถึงการกำหนดจิตของเราให้จดจ่ออยู่กับสิ่งใดสิ่งหนึ่ง เพื่อรวมพลังจิตไม่ให้ฟุ้ง
เมื่อรวมพลังจิตอันนั้นไม่ให้ฟุ้งแล้ว รวมอยู่ในจุดใดจุดหนึ่ง รวมจนได้อารมณ์แห่งปีติ คือนิ่งเฉยแห่งจุดนั้น เมื่อนั้นให้ขึ้นวิปัสสนา
วิปัสสนาคือให้พิจารณาในทุกสิ่งทุกอย่างว่าเป็นอนัตตา
อนัตตาคือการเดินทางไปสู่โลกแห่งนิพพาน โลกแห่งอรหันต์ โลกแห่งโพธิสัตว์ โลกแห่งอนาคา อนาคามี
โลกเรานี้เป็นโลกแห่งอัตตา ทำอย่างไรเราถึงจะไปสู่จุดแห่งการเป็นอนัตตาได้



สมเด็จพระสังฆราชคุรูปาจารย์ หลวงปู่ทวด(เหยียบน้ำทะเลจืด)
พระเถระสมัยกรุงศรีอยุธยา

ป้านุช
10-06-2009, 01:39
ปฐมพุทธพจน์ : ความสิ้นไปแห่งตัณหาทั้งหลาย

เราเมื่อแสวงหาอยู่ ซึ่งนายช่างผู้สร้างเรือน
เมื่อยังไม่พบ จึงแล่นไป
สู่สงสารเป็นอเนกชาติ
การเกิดแล้วเกิดอีกเป็นทุกข์

นายช่างผู้สร้างเรือน เราเห็นท่านแล้ว
ท่านจักไม่ได้สร้างเรือนอีก
โครงเรือนทั้งปวงของท่าน ถูกเราหัก พังสิ้นแล้ว
จิตของเราได้สภาวธัมม์ซึ่งไม่ปรุงแต่ง
เราได้ถึงความสิ้นไปแห่งตัณหาทั้งหลาย.


หมายเหตุ
“ความสิ้นไปแห่งตัณหา” เป็นปฐมพุทธพจน์ คือ...
พุทธพจน์บทแรกที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงอุทานในพระหฤทัย
เมื่อทรงตรัสรู้สัจจธรรม ณ ใต้ต้นโพธิ์ ริมฝั่งน้ำเนรัญชรา



พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกายะ ธัมมปทปาฬิ เล่ม ๑๘

ป้านุช
10-06-2009, 02:00
การทำสมาธินั้น บางคนเป็นสมาธิง่ายมาก แต่บางคนทำตั้ง ๒-๓ ปีจึงจะเป็นก็มี

เรื่องนี้ถ้ารู้ว่าบุญบารมีวาสนาของเรายังอ่อน ไม่ได้สร้างสมมาแต่บุรพชาติหนหลัง

นึกรู้อย่างนี้แล้วอย่าท้อใจ ถ้ารู้ตัวว่า...ตนเองวาสนาอ่อน อินทรีย์อ่อน

จะปล่อยให้แก่เองไม่ได้หรอก ต้องปฏิบัติเอาจึงจะได้

เหมือนผลไม้ในสวน เจ้าของต้องปรนนิบัติ ใส่ปุ๋ย รดน้ำ พรวนดิน

ระวังดูแลรักษาไม่ให้เป็นอันตราย มันก็ค่อยเจริญงอกงามขึ้นเอง ไม่เสียผลหรอก

ถ้าเราทำเหตุ ผลก็ต้องได้รับ ถ้าเราไม่ทำสิ่งใด เราย่อมไม่ได้สิ่งนั้น

เหมือนสมบัติภายนอก ต้องการสิ่งใดก็ต้องขวนขวายหามาไว้

ความปรารถนาที่จะทำบุญให้ทานหรือรักษาศีลพอให้มีได้

แต่ความปรารถนาความสงบอยากให้จิตรวมนั้น เป็นข้าศึกแก่สมาธิอย่างยิ่ง

ขอแนะนำไว้...ถ้าเกิดความอยากขึ้น มักจะเกิดท้อใจ ทุกข์ใจ เดือดร้อน

เกิดความร้อนใจ โกรธให้ตนเอง ถ้าความอยากมันเกิดขึ้น ให้เอาจิตเพ่งความอยาก

แต่อย่าถือว่าเป็นจิตของเรา ให้กำหนดรู้ว่า...

ความอยากเป็นเพียงอาการของใจ ความอยากเป็นความนึกคิดของใจเท่านั้น




หลวงปู่คำดี ปภาโส

วัดถ้ำผาปู่นิมิต จ.เลย

ป้านุช
10-06-2009, 02:04
ไม่ต้องหนีไปไหน หัดเปลี่ยนตัวหลงเป็นตัวรู้เข้าไป
เอาตั้งแต่รู้นี่ไปเลย ค่อย ๆ เปลี่ยนไป ทำเรื่อยไป
นี่กรรมฐาน มันเป็นวิปัสสนา
บรรลุเพื่อ มรรค ผล นิพพานแท้ ๆ



หลวงพ่อคำเขียน สุวณฺโณ วัดป่าสุคโต จ.ชัยภูมิ

ป้านุช
12-06-2009, 17:11
คติธรรมคำสอน ของ หลวงปู่ทวด เหยียบน้ำทะเลจืด

ธรรมประจำใจ
พูดมาก เสียมาก พูดน้อย เสียน้อย ไม่พูด ไม่เสีย นิ่งเสีย โพธิสัตว์


ละได้ย่อมสงบ
ทุกสิ่งทุกอย่างในโลกนี้ ล้วนแต่เคลื่อนที่ไปสู่ความเป็นอนิจจัง ทุกขัง อนัตตา
ทุกอย่างในโลกนี้ เคลื่อนไปสู่การสลายตัวทั้งสิ้น ไม่ยึด ไม่ทุกข์ ไม่สุข ละได้ย่อมสงบ


สันดาน
ภูเขาถูกมนุษย์ทำลายลงมาได้ แต่สันดานของคนเราที่นอนนิ่งอยู่ในก้นบึ้งซึ่งไม่เหมือนกัน ย่อมขัดเกลาให้ดีเหมือนกันได้ยาก


ชีวิตทุกข์
การเกิดมาเป็นมนุษย์ชาติหนึ่ง จะว่าประเสริฐก็ประเสริฐ จะว่าไม่ประเสริฐก็ไม่ประเสริฐ
จะเห็นได้ว่า ตื่นเช้าก็มีความทุกข์เข้าครอบงำ จะต้องล้างหน้า ล้างปาก ล้างฟัน ล้างมือ เสร็จแล้วจะต้องกินต้องถ่าย นี่คือความทุกข์แห่งกายเนื้อ
เมื่อเราจะออกจากบ้านก็จะประสบความทุกข์ในหมู่คณะ ในการงาน ในสัมมาอาชีวะ การเลี้ยงตนชอบ นี่คือ ความทุกข์ในการแสวงหาปัจจัย


บรรเทาทุกข์
การที่เราจะไม่ต้องทุกข์มากนั้น เราจะต้องรู้ว่า เรานี้จะต้องไม่เอาชีวิตไปฝากสังคม
เราต้องเป็นตัวของเราเองและเราจะต้องวินิจฉัย ในเหตุการณ์ที่จะเข้ามาเกี่ยวข้องกับตัวเราว่าสิ่งใดเราควรทำ สิ่งใดไม่ควรทำ


ยากกว่าการเกิด
ในการที่เราเกิดมา ชีวิตแห่งการเกิดนั้นง่าย แต่ชีวิตแห่งการอยู่นั้นสิยาก เราจะทำอย่างไรให้อยู่ได้อย่างสุขสบาย


ไม่สิ้นสุด
แม่น้ำ ทะเล และมหาสมุทร ไม่มีที่สิ้นสุดของน้ำฉันใด กิเลสตัณหาของมนุษย์ก็ย่อมไม่มีที่สิ้นสุดฉันนั้น


ยึดจึงเดือดร้อน
ทุกวันนี้ เกิดความทุกข์ ความเดือดร้อน ก็เพราะมนุษย์ไปยึดโน่น ยึดนี่ ยึดพวกยึดพ้อง ยึดหมู่ยึดคณะ ยึดประเทศเป็นสรณะ โดยไม่คำนึงถึงธรรม
สากลจักรวาลโลกมนุษย์นี้ ทุกคนมีกรรมจึงเกิดมาเป็นสัตว์โลก สัตว์โลกทุกคนต้องใช้กรรมตามวาระ ตามกรรม
ถ้าทุกคนยึดถือเป็นอารมณ์ ก็จะเกิดการเข่นฆ่ากัน เกิดการฆ่าฟันกัน เพราะอารมณ์แห่งการยึดถืออายตนะ
ฉะนั้น ต้องพิจารณาให้ถ่องแท้ว่า สิ่งใดทำแล้ว สัตว์โลกมีความสุข สิ่งนั้นควรทำ นี่คือ หลักความจริงของธรรมะ


อยู่ให้สบาย
ในภาวะแห่งการที่จะอยู่อย่างสบายนั้น เราต้องอยู่กันอย่างไม่ยึด อยู่กันอย่างไม่ยินดี อยู่กันอย่างไม่ยินร้าย
อยู่กันอย่างพยายามให้จิตวิญญาณของนามธรรมนั้นเหนืออารมณ์ เหนือคำสรรเสริญ เหนือนินทา เหนือความผิดหวัง เหนือความสำเร็จ เหนือรัก เหนือชัง


ธรรมารมณ์
การอยู่อย่างมีธรรมารมณ์คือ การอยู่เหนือความรู้สึกทั้งปวง อยู่อย่างรู้หน้าที่การเป็นคน และรู้หน้าที่ในการงาน
คือรู้ว่าสิ่งที่เราทำนั้น เป็นสิ่งที่เราต้องทำ ไม่ใช่ทำเพื่อหวังผลตอบแทน เพราะถ้าเราทำงานเพื่อหวังผลตอบแทนต่าง ๆ แล้ว
ถ้าสิ่งต่าง ๆ ไม่สัมฤทธิ์ผลตามความหวังนั้น เราย่อมเกิดความโทมนัส เสียใจ น้อยใจ เป็นทุกข์


กรรม
ถ้าเรามีชีวิตอยู่อย่างที่ว่า เกิดเพราะกรรม อยู่เพื่อกรรม ทำเพราะกรรม ตายเพราะกรรมแล้ว ชีวิตการเป็นมนุษย์ย่อมมีความภิรมย์ มีความรื่นเริง


มารยาทของผู้เป็นใหญ่
" ผู้ใหญ่ไม่ใช่อยู่ที่เกิดก่อน ผู้ดีไม่ใช่อยู่ที่เรียนสูง " มารยาทจรรยาของการเป็นผู้ใหญ่ ก็คือต้องสุขุมรอบคอบ
และไม่ยึดติดเสียงเป็นหลัก คือ ต้องไม่หวั่นไหวกับคำนินทาและสรรเสริญ


โลกิยะหรือโลกุตระ
คนที่เดินทางโลกุตระ ย่อมไปดีทางโลกิยะไม่ได้ คนที่เดินทางโลกิยะย่อมสำเร็จทางโลกุตระได้ยาก เพราะอะไร
ถ้าคนหนึ่งสำเร็จได้ทั้งโลกิยะ และโลกุตระง่ายแล้ว ทำไมองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธโคดม ต้องสละราชบัลลังก์แห่งจักรพรรดิไปเป็นธรรมราชาเล่า
ถ้าเป็นไปได้ พระองค์เป็นมหาจักรพรรดิพร้อมทั้งธรรมราชาไม่ดีหรือ แต่มันเป็นไปไม่ได้ เพราะโลกของโลกิยะและโลกุตระเดินคู่ขนานกัน
เราต้องตัดสินใจ ต้องมีความเด็ดเดี่ยวและกล้าหาญในการที่จะเลือกทางใดทางหนึ่ง


ศิษย์แท้
พิจารณากาย ในกาย พิจารณาธรรม ในธรรม พิจารณาวิญญาณ ในวิญญาณ นั่นแหละคือสานุศิษย์อันแท้จริงของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า


รู้ซึ้ง
ทุกอย่างจะต้องมีเหตุ เมื่อมีเหตุ จึงจะมีผล ผลนั้นเกิดจากเหตุ เราได้วินิจฉัยข้อนี้แล้ว เราจึงรู้ซึ้งถึงพุทธศาสนา


ใจสำคัญ
การทำบุญนั้น จะต้องทำด้วยจิตใจบริสุทธิ์ จะต้องทำด้วยความศรัทธา ผลสะท้อนมันจะเกิดขึ้น เกินความคาดหมาย


หยุดพิจารณา
คนเรานี้ ถ้าไม่มีอะไรทำ อยู่ในที่วิเวกคนเดียว จิตมันจะฟุ้งซ่าน และถ้าภาวะนั้น ตนไม่ปล่อยให้จิตฟุ้งซ่านไปเรื่อย ๆ
คือหยุดพิจารณาแล้วค้นสัจจะของ ศีล สมาธิ ปัญญา ย่อมที่จะค้นหาสัจจะในธรรมะได้


บริจาค
ทำบุญสังฆทานเป็นจาคะ จาคะเป็นการบริจาคโภคทรัพย์ภายนอก การสวดมนต์เป็นการภาวนา การภาวนาเป็นการบริจาคภายใน
เพราะฉะนั้น ถ้านับในด้านทิพย์อำนาจ การบริจาคภายในย่อมได้กุศลมากกว่าการบริจาคภายนอก นี่คือเรื่องของนามธรรม



ทำด้วยใจสงบ
เราจะทำบุญก็ดี เราจะทำอะไรก็ดี จงทำด้วยความสงบ อย่าทำด้วยอารมณ์แห่งความร้อน
เพราะการทำด้วยอารมณ์ร้อนนั้น มันจะพาเราไปสู่หายนะ
เมื่อเกิดอารมณ์ร้อน เราจะทำสิ่งใดสิ่งหนึ่ง จงอย่าทำ นั่งให้จิตใจมันสบายเสียก่อน
เมื่อจิตใจสบายแล้วปัญญาก็เกิด เมื่อเกิดปัญญาแล้ว จะทำสิ่งใดก็เป็นไปโดยความสะดวก


มีสติพร้อม
จะทำสิ่งใดก็ตาม เราต้องมีสติพร้อม คือ อย่าให้มีโทสะ อย่าให้อารมณ์เข้ามาควบคุมสติ อย่าให้เรื่องส่วนตัวและขาดเหตุผลมาอยู่เหนือความจริง


เตือนมนุษย์
มนุษย์ผู้ใด เห็นแก่งานส่วนตัว มนุษย์ผู้นั้น จะไม่มีงานทำในไม่ช้า
มนุษย์ผู้ใด เห็นแก่ทรัพย์ส่วนตัว มนุษย์ผู้นั้น จะไม่มีทรัพย์ครองในไม่ช้า
มนุษย์ผู้ใด เห็นแก่นอนมาก มนุษย์ผู้นั้น จะไม่ได้นอนในไม่ช้า

พิจารณาตัวเอง
คืนหนึ่งก็ดี วันหนึ่งก็ดี ควรให้มีเวลาว่างสัก ๕ นาที หรือ ๑๐ นาที ไม่ติดต่อกับใคร ให้นั่งเฉย ๆ
คิดถึงเหตุการณ์ที่เราทำไปแต่ละวัน ๆ ว่าที่เราทำไปนั้นเป็นอย่างไร
คือให้ปลีกตัวมีเวลาเป็นของตัวเองบ้าง คิดเอาแต่เรื่องของตัว อย่าไปคิดเรื่องของคนอื่น
เพราะมนุษย์เราส่วนมากทุกวันนี้ มักเอาแต่เรื่องของคนอื่นมาคิด ไม่ค่อยคิดเรื่องของตัวเอง


จากหนังสือ เรียนธรรมะบูชาพระสุปฏิปันโน เล่มของ หลวงปู่ทวด

ป้านุช
14-08-2009, 13:55
"จงพยายามให้เรากินกาล อย่าให้กาลกินเรา วันคืนล่วงไป ๆ อย่านิ่งนอนใจ ให้รีบเร่งทำความเพียร"

หลวงปู่ขาว อนาลโย

ป้านุช
14-08-2009, 13:56
"ติดดี นี่แก้ยากกว่าติดชั่วเสียอีก"


พระอาจารย์มั่น ภูริทตฺตเถระ

ป้านุช
14-08-2009, 13:58
"ถ้าใจของเราเป็นโทษเสียแล้ว จะไปทำบุญทำทานอะไรก็ไม่ได้ผล
เหมือนกับเราขนปุ๋ยไปใส่ต้นไม้ที่ตายแล้ว"

ท่านพ่อลี ธมฺมธโร

ป้านุช
14-08-2009, 14:01
"การภาวนานั้น เป็นการรักษาใจ รักษาจิต และซักฟอกจิตให้เบาบางหรือจนหมดกิเลส
คือความโลภ โกรธ และหลง อันเป็นเครื่องร้อยรัด"


หลวงปู่เหรียญ วรลาโภ

ป้านุช
14-08-2009, 14:04
"การฟังธรรม หมายถึงการฟังจิตของเรา เราพึงตั้งข้อสังเกตลงที่จิตของเราว่า
ในปัจจุบันนี้ จิตของเราเป็นอย่างไร ถ้าคนไม่ตั้งใจแล้ว ก็ไม่มีเวลาอยู่ตลอดกาล"


หลวงปู่สิม พุทธาจาโร

ป้านุช
14-08-2009, 14:10
"คำสอนของพระพุทธองค์ตรัสว่า สังขารทั้งหลายเป็นทุกข์
แต่ทำไมเราจึงละทุกข์ไม่ได้ ก็เพราะปัญญาของเราไม่พอ"


หลวงปู่เทสก์ เทสรังสี

ตัวเล็ก
14-08-2009, 14:17
"ชีวิตนี้น้อยนัก แต่ชีวิตนี้สำคัญนัก เป็นหัวเลี้ยวหัวต่อ เป็นทางแยกจะไปสูงไปต่ำ จะไปดี ไปร้าย เลือกได้ในชีวิตนี้เท่านั้น พึงสำนึกข้อนี้ให้จงดี แล้วจงเลือกเถิดเลือกให้ดีเถิด..."

จากหนังสือ "ชีวิตนี้น้อยนัก"
สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปรินายก

ป้านุช
27-08-2009, 18:52
สามจง

จงทำใจให้หนักแน่น

ให้เหมือนพระพุทธ

จงทำวาจาให้บริสุทธิ์

ให้เหมือนพระธรรม

จงทำกายให้งามขำ

ให้เหมือนพระสงฆ์



จากหนังสือ ธัมมจักกัปปวัตนสูตร อภิลักขิตสมัยคล้ายวันเกิด ๘๔ ปี
สมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์ (วรปุญญมหาเถร)
วัดปากน้ำ ภาษีเจริญ กรุงเทพมหานคร
๒๖ สิงหาคม ๒๕๕๒

ป้านุช
27-08-2009, 19:15
หยุดตั้งแต่ต้นจนกระทั่งพระอรหันต์

แต่ว่าจะไปทางนี้ต้องหยุด
ทางธรรมเริ่มต้นต้องหยุดตั้งแต่ต้นจนกระทั่งพระอรหันต์
ถ้าไม่หยุดมันก็ไปไม่ได้ ชัดทีเดียว แปลกไหมล่ะ
ไปทางโลกเขาต้องไปกันปราดเปรียวว่องไวคล่องแคล่ว
ต้องเล่าเรียนกันมากมาย
จนกระทั่งรู้เท่าทันเหลี่ยมคูผู้คนตลอดสาย
จึงจะปกครองโลกให้เจริญรุ่งเรืองได้
แต่ว่าจะไปทางธรรมนี่แปลก
หยุดเท่านั้นแหละไปได้ หยุดอันเดียวเท่านั้น



พระมงคลเทพมุนี (สด จนฺทสโร)
จากพระธรรมเทศนาเรื่อง หลักการเจริญภาวนาสมถวิปัสสนากัมมัฏฐาน

ป้านุช
28-08-2009, 15:36
ตั้งใจ

ที่เขาบอกว่า "ตั้งใจ"นะ เราจะต้องเอาใจไปหยุดตรงนั้นทีเดียวถึงจะถูกเป้าหมายใจดำ เขาบอกว่าตั้งใจ

เวลานี้เอ็งจะทำบุญทำกุศล เราก็ต้องตั้งใจตรงนั้น
บัดนี้เราจะรักษาศีลก็ต้องตั้งใจตรงนั้น
บัดนี้เราจะเจริญภาวนา เราก็ต้องตั้งใจตรงนั้นเหมือนกัน

ต้องเอาใจไปหยุดตรงกลางนั้น เมื่อเอาใจไปหยุดอยู่กลางนั้นได้แล้ว ก็ใช้สัญญาจำให้มั่น
หยุดนิ่ง บังคับให้นิ่งเชียว ถ้าไม่นิ่งก็ต้องใช้บริกรรมภาวนาบังคับไว้ บังคับหนักเข้า หนักเข้า หนักเข้า
พอถูกส่วนเข้า ใจหยุดนิ่ง ใจหยุด พอใจหยุดเท่านั้นแหละถูกตัวสมถะแล้ว

หยุดนั่นแหละเป็นตัวสมถะ หยุดนั่นเองเป็นตัวสำเร็จทั้งทางโลกและทางธรรมสำเร็จหมด

โลกที่จะได้รับความสุข ใจต้องหยุดตามส่วนของโลก
ธรรมที่จะได้รับความสุข ต้องหยุดตามส่วนของธรรม

ท่านได้แนะนำไว้ตามวาระพระบาลีว่า
นตฺถิ สนฺติ ปรํ สุขํ
สุขอื่นนอกจากหยุดจากนิ่งไม่มี

หยุดนั่นเองเป็นตัวสำคัญ เพราะเหตุนั้นต้องทำใจให้หยุด
เมื่อใจของเราหยุดแล้ว เราก็ต้องหยุดในหยุด หยุดในหยุด
ไม่มีถอยหลังกลับ หยุดในหยุด หยุดในหยุด หยุดในหยุด อยู่นั่นเอง


พระมงคลเทพมุนี (สด จนฺทสโร)
จากพระธรรมเทศนาเรื่อง หลักการเจริญภาวนาสมถวิปัสสนากัมมัฏฐาน

มายา
29-08-2009, 02:12
"จงทำใจให้เหนือกรรม แล้วจิตจะเป็นสุข"

จากหนังสือ "พ่อสอนลูก" หน้า ๒
โดย หลวงพ่อพระราชพรหมยาน

ป้านุช
29-08-2009, 12:11
คำว่า "ไม่สบายใจ" อย่าใช้และอย่าให้มีขึ้นในใจต่อไป

"Let it go, and get it out !"

ก่อนมันจะเกิดต้อง "Let it go" ปล่อยให้มันผ่านไป อย่ารับเอาความไม่สบายใจไว้

ที่จะทำอะไรไม่ผิดนั้น ข้อสำคัญอยู่ที่สติ ถ้ามีสติคุ้มครองกาย วาจา ใจอยู่ทุกขณะ จะทำอะไรไม่ผิดพลาดเลย
ที่ผิดพลาดเพราะขาดสติคือ เผลอ เหม่อ เลินเล่อ ประมาท ระเริง หลงลืมจึงผิดพลาด

จงนึกถึงคติพจน์ว่า
"กุมสติต่างโล่ป้อง อาจแกล้วกลางสนาม"

ต้องฝึกหัดแก้ไขปรับปรุงจิตใจเสียใหม่ ทั้งก่อนที่จะทำอะไร หรือกำลังกระทำอยู่
และเมื่อเวลากระทำเสร็จแล้ว ต้องหัดให้จิตใจแช่มชื่นรื่นเริงเกิดปีติปราโมทย์เป็นสุขสบายอยู่เสมอ
เป็นเหตุให้เกิดกำลังกายกำลังใจ "Enjoy living" มีชีวิตอยู่ด้วยความเบิกบาน
สมองจึงจะเบิกบาน จะศึกษาเล่าเรียนก็เข้าใจง่าย
เหมือนดอกไม้ที่แย้มบานรับหยาดน้ำค้างและอากาศอันบริสุทธิ์ฉะนั้น

"จงเลือกทำแต่กรรมที่ดี ๆ นะ"
เป็นคำแทนคำอวยพรอย่างสูงสุด ประกอบด้วยเหตุผล

เมื่อทำกรรมดีแล้วไม่ให้พรก็ต้องดี เมื่อทำชั่วแล้วจะมาเสกสรรปั้นแต่งอวยพรอย่างไรก็ดีไม่ได้
ทำชั่วเหมือนก้อนหินจะต้องจมทันที ไม่มีผู้วิเศษใด ๆ จะเสกเป่าอวยพรขอร้องให้หินลอยขึ้นมาได้
ทำกรรมชั่วต้องล่มจมป่นปี้ เสียราศี เกียรติคุณ ชื่อเสียง
เหมือนก้อนหินหนักจมลงไปอยู่กับโคลนใต้น้ำ



เจ้าคุณนรฯ พระภิกษุพระยานรรัตนราชมานิต (ธมฺมวิตกฺโก)
วัดเทพศิรินทราวาส

ป้านุช
31-08-2009, 17:37
คนฉลาด

การเรียนวิชาใด ๆ เราต้องใช้วิชานั้น ๆ ได้นะ
ถ้าเรียนแล้วใช้วิชานั้น ๆ ไม่ได้ จะเรียนทำไมเสียเวลาเปล่า ๆ เสียข้าวสุก
จะเรียนวิชาไหนต้องใช้วิชานั้นได้ เอาวิชานั้นใช้ได้
เหมือนอย่างกับเราเรียนวิชาวันนี้ เราจะต้องเรียนจริงทำจริง
ต้องพึ่งวิชาที่เราเรียนนี้ให้ได้ ให้ศักดิ์สิทธิ์ทีเดียว

ครูใช้ได้อย่างไรเราก็ต้องได้เหมือนครู

อย่างนี้เรียกว่า คนมีปัญญา เรียกว่า คนฉลาด



พระมงคลเทพมุนี (สด จนฺทสโร)
จากพระธรรมเทศนาเรื่อง หลักการเจริญภาวนาสมถวิปัสสนากัมมัฏฐาน

ป้านุช
31-08-2009, 19:15
http://www.watthakhanun.com/webboard/picture.php?albumid=11&pictureid=76

ป้านุช
31-08-2009, 20:48
http://www.watthakhanun.com/webboard/picture.php?albumid=11&pictureid=78

สายท่าขนุน
31-08-2009, 21:01
คำพระอาจารย์แบบ "Blue" ชูสามารถ
คำพระพุทธสุดสะอาดวาดสี "White"
ขออ่านใหม่ใส่สี "Red" เจตน์ฝึกใจ
รอต่อไป ใครหนอจะเมตตา:onion_love:

ป้านุช
31-08-2009, 21:05
http://www.watthakhanun.com/webboard/picture.php?albumid=11&pictureid=79

อ้นสองเจ็ด
01-09-2009, 02:31
แมลงเม่าจะยอมพลีชีพในกองไฟ โดยหวังเพียงให้ได้รับแสงสว่างและไออุ่นจากเปลวไฟเพียงชั่วขณะ
มดจะยอมตายจมอยู่ในทะเลแห่งความหวาน เพียงเพื่อให้ได้ดูดรสของน้ำหวาน
และมนุษย์ผู้ยอมทน วนเวียนอยู่ในทะเลทุกข์ของวัฏสงสารอันยาวนาน ก็เพียงเพื่อแลกกับความสุขเล็กน้อย อันเกิดจากรูป เสียง กลิ่น รส โผฏฐัพพะและธรรมารมณ์เท่านั้น

พระอาจารย์บุญช่วย ฐิตสาโร
วัดถ้ำตับเต่า จ.เชียงใหม่

อ้นสองเจ็ด
01-09-2009, 02:33
ไม่มีการล้มครั้งใด ที่ไม่มีการลุก หากยังมีลมหายใจอยู่

พระอาจารย์บุญช่วย ฐิตสาโร
วัดถ้ำตับเต่า จ.เชียงใหม่

อ้นสองเจ็ด
01-09-2009, 02:36
จงนินทาด่าว่าตนเอง ก่อนที่จะนินทาด่าว่าผู้อื่น
จงตำหนิและตักเตือนตนเองก่อน จึงจะตำหนิและตักเตือนผู้อื่น
จงเพ่งดูความไม่บริสุทธิ์ของตนเองก่อน จึงจะเพ่งดูความไม่บริสุทธิ์ของผู้อื่น

พระอาจารย์บุญช่วย ฐิตสาโร
วัดถ้ำตับเต่า จ.เชียงใหม่

อ้นสองเจ็ด
01-09-2009, 02:39
อย่าว่าแต่จะสร้างความทุกข์และความเดือดร้อนให้แก่ผู้อื่นเลย สำหรับผู้ปรารถนาต่อการสร้างบารมีแล้ว แม้แต่ต้องยอมให้ตนทุกข์และเดือดร้อนบ้าง เพื่อความสุขของผู้อื่น เขาก็ย่อมจะยอมได้

พระอาจารย์บุญช่วย ฐิตสาโร
วัดถ้ำตับเต่า จ.เชียงใหม่

อ้นสองเจ็ด
01-09-2009, 09:48
ใจกิเลสมิอาจจะรู้ซึ้งถึงความรู้สึกของใจธรรมได้ แต่ใจธรรมกลับรู้ซึ้งถึงความรู้สึกของใจกิเลส เหตุเพราะใจธรรมได้เคยผ่านใจกิเลสมาก่อนนั่นเอง และก็ไม่มีใจธรรมดวงไหนที่จะเข้าถึงความเป็นธรรม โดยไม่เคยผ่านใจกิเลสมาก่อนด้วย เพราะความโง่เง่าย่อมมาก่อนความฉลาด อวิชชาย่อมมาก่อนวิชชา และกิเลสย่อมมาก่อนธรรมเสมอ

พระอาจารย์บุญช่วย ฐิตสาโร
วัดถ้ำตับเต่า จ.เชียงใหม่

อ้นสองเจ็ด
01-09-2009, 09:52
เธอรู้หรือยังว่า...
สูงสุดของโลก ก็ยังจัดว่าต่ำสุดของธรรม
ดีที่สุดของโลก ก็ยังจัดว่าเลวที่สุดของธรรม
สะอาดที่สุดของโลก ก็ยังจัดว่าสกปรกที่สุดของธรรม
สวยที่สุดของโลก ก็ยังจัดว่าขี้เหร่ที่สุดของธรรม
สุขที่สุดของโลก ก็ยังจัดว่าทุกข์ที่สุดของธรรม
รวยที่สุดของโลก ก็ยังจัดว่าจนที่สุดของธรรม

พระอาจารย์บุญช่วย ฐิตสาโร
วัดถ้ำตับเต่า จ.เชียงใหม่

อ้นสองเจ็ด
01-09-2009, 09:56
ความทุกข์และปัญหาคือ ยากำลังของผู้มีธรรม แต่ความทุกข์และปัญหากลับเป็นพิษ บั่นทอนกำลังของผู้ไร้ธรรม

พระอาจารย์บุญช่วย ฐิตสาโร
วัดถ้ำตับเต่า จ.เชียงใหม่

ป้านุช
04-09-2009, 01:54
นั่งก็ตาย
นอนก็ตาย
ยืนก็ตาย
เดินก็ตาย


หลวงปู่ชอบ ฐานสโม
วัดป่าสัมมานุสรณ์ อ.วังสะพุง จังหวัดเลย

ป้านุช
07-09-2009, 00:44
การปฏิบัติ สำคัญที่การรวมจิตเป็นใหญ่
เพราะพื้นฐานแห่งความดีความชั่ว ย่อมเกิดที่จิต

ถ้าจิตตัวนี้ปราศจากสติเป็นเครื่องคุ้มครองหรือประคับประคองเมื่อใด
เมื่อนั้น จิตดวงนี้ก็จะต้องมีความเผลอ ไปนึกสร้างบาปกรรมใส่ตัวเลย

เพราะฉะนั้น การอบรมจิตให้มีสติ จึงเป็นสิ่งจำเป็น
ความทุกข์ทั้งหลายเกิดจากกิเลส โลภะ ราคะบ้างโทสะบ้าง โมหะบ้าง

ถ้าต้องการมีความสุข ต้องกำจัดกิเลสของตน กิเลสในใจตนเอง
ไม่ใช่ไปตั้งหน้าตั้งตากำจัดกิเลสคนอื่น


หลวงพ่อพุธ ฐานิโย
วัดป่าสาลวัน อำเภอเมือง จังหวัดนครราชสีมา

ตัวแสบจำเป็น
14-09-2009, 13:21
กรรมฐานแก้กรรม แก้ความรู้สึกที่จะไม่ทำต่อไปได้ แก้ไขความรู้สึกที่โวยวาย
ที่จะรับกรรมจากเหตุเดิมในปัจจุบัน ให้เข้าใจและยอมรับแบบสบาย ๆ ได้
แต่จะแก้ให้เจ๊ากันไม่ได้

หลวงตาวัชรชัย วัดเขาวง (ถ้ำนารายณ์)

ตัวแสบจำเป็น
14-09-2009, 13:28
ความเลวทำให้น้อยที่สุด อย่าทำเสียเลยดีกว่า แต่ถ้าทนไม่ไหวก็ทำไปเถอะ
แต่อย่าผิดศีลห้า อย่าเลวเกินศีลห้า เข้าใจไหมลูก? เสร็จแล้วในเวลาเดียวกัน
ก็ต้องทำความดีให้เพิ่มเติม ให้มันเต็มเปี่ยมไว้เสมอ ให้มีศีลบริสุทธิ์ไว้ตลอด
เสร็จแล้วก็ออนไลน์ไว้กับพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์นะ

หลวงตาวัชรชัย วัดเขาวง (ถ้ำนารายณ์)

ตัวแสบจำเป็น
14-09-2009, 13:32
อย่าลืมนะ.. ตอนนี้เป็นบุญสูงสุด พรุ่งนี้ยังไม่ได้ทำเพิ่ม กราฟมันหยุดอยู่ตรงนี้
ชาติก่อนก็สู้วันนี้ไม่ได้ เมื่อวานก็สู้วันนี้ไม่ได้ เพราะเราทำเพิ่ม ปัญหาคือ
นึกบุญไม่ออก นึกถึงบุญไม่ออก เรื่องมันถึงเกิด นึกถึงแต่บาปใหม่ ดีไม่ดี
ไปนึกถึงบาปที่คนอื่นเขาทำ เราไม่ได้ทำสักหน่อย หยุดนึกถึงเรื่องคนอื่นเสีย
หยุดนึกถึงอดีตเสีย อนาคตอย่าพลุ่งพล่าน ปัจจุบันมองเฉพาะกุศลอย่างเดียว

นึกง่าย ๆ นะ นึกถึงวันนี้นะลูกนะ บุญน่ะ เมื่อวานมันผ่านไปแล้ว สู้วันนี้ไม่ได้หรอก
พรุ่งนี้ก็ไม่รู้จะอยู่ได้ไหม "เอาวันนี้แหละลูก"

หลวงตาวัชรชัย วัดเขาวง (ถ้ำนารายณ์)

ป้านุช
21-09-2009, 15:32
ดอกบัวเป็นดอกไม้อันเกิดมาแต่โคลนตมแต่น้ำ
แต่ดอกบัวก็ไม่ติดโคลนติดน้ำ
เพชรเกิดมาแต่หิน แต่เพชรก็ไม่ติดหิน
ฉันใดก็ดี
คนเราที่เกิดมาในโลกก็ไม่ควรติดโลกฉันนั้น


เจ้าคุณนรฯ พระภิกษุพระยานรรัตนราชมานิต (ธมฺมวิตกฺโก)
วัดเทพศิรินทราวาส

:875328cc::875328cc::875328cc:

ป้านุช
22-09-2009, 10:11
จิตของคนเราถ้าไม่ควบคุมเอาไว้ภายในให้ดี
มันจะส่งส่ายออกนอกตามความเคยชิน
แล้วเที่ยวไปเสวยอารมณ์ต่าง ๆ ซึ่งมักจะคิดกันว่าดี
ความจริงมันแส่ไปหาทุกข์ให้ตัวเองทั้งนั้น


พระครูธรรมธรเล็ก สุธมฺมปญฺโญ
วัดท่าขนุน กาญจนบุรี

ป้านุช
22-09-2009, 10:24
การรักษาระเบียบวินัยที่เป็นของหยาบยังทำไม่ได้
แล้วการเข้าถึงธรรมที่เป็นของละเอียดจะเข้าถึงได้อย่างไร?


พระครูธรรมธรเล็ก สุธมฺมปญฺโญ
วัดท่าขนุน กาญจนบุรี

ป้านุช
22-05-2010, 21:23
"ใครผิดถูกดีชั่วก็ตัวเขา

ใจของเราเพียรระวังตั้งถนอม

อย่าให้อกุศลวนมาตอม

ควรถึงพร้อมบุญกุศลผลสบาย"


พระอาจารย์มั่น ภูริทตฺโต

ป้านุช
22-05-2010, 21:31
สิ่งที่ล่วงไปแล้ว ไม่ควรทำความผูกพัน เพราะเป็นสิ่งที่ล่วงไปแล้วอย่างแท้จริง
แม้กระทำความผูกพันและหมายมั่นให้สิ่งนั้นกลับมาเป็นปัจจุบัน ก็เป็นไปไม่ได้
ผู้ทำความสำคัญมั่นหมายนั้นเป็นทุกข์แต่ผู้เดียว โดยความไม่สมหวังตลอดไป
อนาคตที่ยังมาไม่ถึงนั้น เป็นสิ่งไม่ควรไปยึดเหนี่ยวเกี่ยวข้องเช่นกัน

อดีตปล่อยไว้ตามอดีต อนาคตปล่อยไว้ตามกาลของมัน
ปัจจุบันเท่านั้นจะสำเร็จประโยชน์ได้ เพราะอยู่ในฐานะที่ควรทำได้ ไม่สุดวิสัย


พระอาจารย์มั่น ภูริทตฺโต

ป้านุช
24-07-2010, 22:08
ผิดหนึ่งพึงจดไว้ ในสมอง
เร่งระวังผิดสอง ภายหน้า
สามผิดเร่งคิดตรอง จงหนัก เพื่อนเอย
ถึงสี่อีกทีห้า หกซ้ำ อภัยไฉน!

ท่านเจ้าคุณนรรัตนราชมานิต (ธมฺมวิตกฺโกภิกขุ)
วัดเทพศิรินทราวาส

ป้านุช
23-01-2011, 14:38
ถึงกายแพ้แต่ใจเราไม่แพ้
ใจไม่แก่เจ็บตายตามกายหนา
กายนี้มันจะเน่าเราก็ลา
ไปสวรรค์ชั้นฟ้านิพพานเอย


ท่านเจ้าคุณนรรัตนราชมานิต (ธมฺมวิตกฺโกภิกขุ)
วัดเทพศิรินทราวาส

ป้านุช
24-01-2011, 22:10
รู้หลบเป็นปีก รู้หลีกเป็นหาง รู้จักจับ รู้จักวาง รู้ทางพระนิพพาน

พระราชญาณวิสุทธิโสภณ
(หลวงปู่ท่อน ญาณธโร)
วัดศรีอภัยวัน จ.เลย

ป้านุช
24-01-2011, 22:25
ถ้าตั้งสติแล้วไม่ห่วงใคร
ใครจะเป็นใครจะตายมันเรื่องของเขา
เรื่องของเรามีหน้าที่ภาวนา

พระราชญาณวิสุทธิโสภณ
(หลวงปู่ท่อน ญาณธโร)
วัดศรีอภัยวัน จ.เลย

ป้านุช
29-01-2011, 00:38
สมบัติพัสถานทั้งหลายมันมีประจำอยู่ในโลกนี้มาแล้วอย่างสมบูรณ์
ผู้ที่ขาดปัญญาและไร้ความสามารถ ก็ไม่อาจแสวงหาเพื่อยึดครอง
สมบัติเหล่านั้นได้
ย่อมครองตนอยู่ด้วยความฝืดเคืองและลำบากขันธ์

ส่วนผู้ที่มีปัญญามีความสามารถ
ย่อมแสวงหายึดสมบัติของโลกไว้ได้อย่างมากมาย
อำนวยความสะดวกแก่ตนได้ทุกกรณี ฯ

ส่วนพระอริยเจ้าทั้งหลาย ท่านพยายามดำเนินตนเพื่อออกจากสิ่งเหล่านั้นทั้งหมด
ไปสู่ภาวะแห่งความไม่มีอะไรเลย เพราะว่า


ในทางโลก มีสิ่งที่มี
ส่วนในทางธรรม มีสิ่งที่ไม่มี

หลวงปู่ดูลย์ อตุโล

ป้านุช
05-02-2011, 23:07
นิพพานใจจะต้องเด็ดเดี่ยวมากนะ ต้องไม่ห่วงใคร จะต้องไปคนเดียว

พระราชญาณวิสุทธิโสภณ
(หลวงปู่ท่อน ญาณธโร)
วัดศรีอภัยวัน จ.เลย

ป้านุช
05-02-2011, 23:10
เราคนเดียวเที่ยวรัก เที่ยวโกรธหาโทษใส่ตัว

พระราชญาณวิสุทธิโสภณ
(หลวงปู่ท่อน ญาณธโร)
วัดศรีอภัยวัน จ.เลย

ลัก...ยิ้ม
07-02-2011, 14:59
ตั้งใจทำ
สำรวมตน
เสียสละออก
ไม่ยุ่งไม่อยากในสิ่งใด
ให้งาม
ให้สงบ
จึงรู้จักตนเอง

(หลวงปู่จาม มหาปุญฺโญ)

ป้านุช
05-03-2011, 08:48
กระแสแห่งความว่าง

เพื่อเป็นการละความโง่ ๓ ประการ
ที่จะทำให้เราคงอยู่ในวิถี หรือกระแสแห่งความว่าง คือ
การละความเห็นแก่ตัว
ละความลังเลสงสัย
และละความงมงายจนเคยชิน

คำสอนหลวงปู่ดูลย์ อตุโล

ช้างน้อย
30-05-2011, 10:34
บ่ ต้องดีใจ
บ่ ต้องเสียใจ
ดีก็ช่าง
ร้ายก็ช่าง
เทศน์ที่สั้นที่สุด วาง


หลวงปู่ชอบ ฐานสโม
วัดป่าสัมมานุสรณ์ อ.วังสะพุง จ.เลย

ขออนุญาตนำไปเผยแพร่ใน Facebook นะคะ :875328cc:

ช้างน้อย
30-05-2011, 10:44
ปกครองยาก สอนยาก ดื้อดึงที่สุด คือ ตัวของเราเอง

หลวงพ่อเนื่อง โกวิโท วัดจุฬามณี

ขอนำไปเผยแพร่ใน facebook นะคะ:875328cc:

สุดใจ
30-05-2011, 12:08
พระพุทธเจ้าทุกพระองค์ ก็ธรรมะอันเก่านี้
พระวินัยอันเก่า พระสูตรอันเก่า พระอภิธรรมอันเก่า
เรามาฝึกฝนก็ตั้งใจ มาตั้งใจเรียนรู้ต่อยอดของเก่า
เรียนให้จบให้ได้ในชาติชีวิตนี้

การฝึกอบรมธรรมะ ให้เกิดขึ้นในใจนี้ อย่าเข้าใจว่ามันหนักเกินกว่ากำลังของตน
ให้พอใจในการปฏิบัติ จดจ่อพากเพียร
ใคร่ครวญ คิดอ่านแก้ไข ใช้ปัญญากำกับ
อย่าอยาก อย่าโกรธให้เจ้าของ อย่าน้อยใจ
ทำไปเท่าที่ตนทำได้ อกุศล อุปสรรค ตัวขัดขวาง มันมีอยู่ก็เรื่องของมัน
เรื่องของความตั้งใจเป็นเรื่องของเรา เล็กน้อยก็ต้องเอา สะสมเรื่อยไป

จะได้เป็นมนุษย์มันมิได้เกิดมาได้ง่าย ๆ ยากแสนยาก
มารู้ภาวะแล้วทำไมไม่ใส่ใจ ก็สุดแท้แต่
นรกไม่เต็ม สวรรค์ไม่เต็ม
"อยากไปไหน...ก็ไปเถอะ"

หลวงปู่จาม มหาปุญฺโญ

ป้านุช
30-05-2011, 23:50
"ถ้ามีเวลาสำหรับหายใจ ก็ต้องมีเวลาสำหรับภาวนา"

หลวงปู่ดูลย์ อตุโล

ช้างน้อย
31-05-2011, 09:21
ขออนุญาตเผยแพร่ใน Facebook นะคะ

โมทนาค่ะ

สุดใจ
31-05-2011, 16:01
"จงระวังความคิด เพราะมันจะกลายเป็นความประพฤติ...
จงระวังความประพฤติ เพราะมันจะกลายเป็นความเคยชิน....
จงระวังความเคยชิน เพราะมันจะกลายเป็นอุปนิสัย...
จงระวังอุปนิสัย เพราะจะกำหนดชะตากรรมไปชั่วชีวิต "

หลวงปู่ชา สุภทฺโท

สุดใจ
01-06-2011, 07:57
"ทุกข์เพราะเกิดดับ มันมีอยู่แล้ว...
เอาราคะ โลภะ โทสะ โมหะ...มาเพิ่ม
...ยิ่งทุกข์ใหญ่"

หลวงปู่บุดดา ถาวโร

สำราญใจ
03-06-2011, 00:31
ขออนุญาตเผยแพร่ใน Facebook ครับ โมทนาครับ

พี่เสือ
23-06-2011, 21:29
พุทโธคือใจ ให้รักษาใจ

หลวงปู่เนย สมจิตฺโต
วัดป่าโนนแสนคำ ต.เจริญศิลป์ อ.เจริญศิลป์ จ.สกลนคร

ป้านุช
25-06-2011, 10:12
"...กำหนดรู้ทุกข์แล้ววาง

ทุกคนมีกรรมเป็นของตัว

เกิดอีกก็ทุกข์อีก

ดังนั้น ไปพระนิพพานดีกว่า..."


พระครูธรรมธรเล็ก สุธมฺมปญฺโญ

ชยาคมน์
01-07-2011, 09:22
ขออนุญาตนำไปเผยแพร่ที่ Facebook ของชมรมโมทนาบุญ เว็บพลังจิตครับ

ตัวเล็ก
18-07-2011, 13:19
ได้มีโอกาสไปกราบหลวงพ่อสมปอง ณ อาศรมบายใจ เมื่อวันที่ ๒ ก.ค. ๒๕๕๔ ท่านได้เมตตาให้พรไว้ว่า...

"ขอให้เธอทุกคน จงแพ้พระ ชนะมาร และชนะใจตนเอง"

สุดใจ
19-09-2011, 09:05
ต้นไม้สอนธรรม ที่วัดหนองป่าพง


http://watthakhanun.com/webboard/attachment.php?attachmentid=14451&stc=1&d=1316397661

http://watthakhanun.com/webboard/attachment.php?attachmentid=14452&stc=1&d=1316397661

http://watthakhanun.com/webboard/attachment.php?attachmentid=14453&stc=1&d=1316397661

http://watthakhanun.com/webboard/attachment.php?attachmentid=14454&stc=1&d=1316397661

http://watthakhanun.com/webboard/attachment.php?attachmentid=14455&stc=1&d=1316397661

http://watthakhanun.com/webboard/attachment.php?attachmentid=14456&stc=1&d=1316397672

http://watthakhanun.com/webboard/attachment.php?attachmentid=14457&stc=1&d=1316397672

http://watthakhanun.com/webboard/attachment.php?attachmentid=14458&stc=1&d=1316397672

สายท่าขนุน
19-09-2011, 11:34
คำถาม : “ทำอย่างไร ถ้าใจหมองเพราะรู้สึกผิด”

คำตอบ : “หยุดคิด”

“เมื่อเราเป็นผู้ปรุงแต่งให้ใจหมองเอง เราก็หยุดคิดเอง”


หลวงพ่อวิชา ให้คติสอนใจไว้เมื่อวันที่ ๑๗ กันยายน ๒๕๕๔ ที่วัดชอนทุเรียน จ.นครสวรรค์

สายท่าขนุน
19-09-2011, 16:29
“จะไปพระนิพพาน
ก็ต้องทำใจให้อยู่เหนือบุญเหนือบาป”


หลวงพ่อวิชา ให้ข้อธรรมเมื่อวันที่ ๑๗ กันยายน ๒๕๕๔ ที่วัดชอนทุเรียน จ.นครสวรรค์

ลัก...ยิ้ม
20-09-2011, 08:03
การตำหนิติเตียนผู้อื่น แม้เขาจะผิดจริงหรือไม่ผิดก็เป็นการก่อกวนจิตใจตนเองให้ขุ่นมัวไปด้วย และเป็นสาเหตุให้เกิดทุกข์ เพราะฉะนั้นควรพิจารณาตัวเองจะดีกว่า
หลวงปู่มั่น ภูริทัตโต

ป้านุช
02-03-2012, 23:38
ผู้เห็นคุณค่าของตัว จึงเห็นคุณค่าของผู้อื่น

ว่ามีความรู้สึกเช่นเดียวกัน ไม่เบียดเบียนทำลายกัน

ผู้มีศีลสัตย์เมื่อทำลายขันธ์ไปในสุคติในโลกสวรรค์

ไม่ตกต่ำเพราะอำนาจศีลคุ้มครองรักษาและสนับสนุน

จึงควรอย่างยิ่งที่จะพากันรักษาให้บริบูรณ์

ธรรมก็สั่งสอนแล้วควรจดจำให้ดี ปฏิบัติให้มั่นคง

จะเป็นผู้ทรงคุณสมบัติทุกอย่างแน่นอน

หลวงปู่มั่น ภูริทัตโต

สุรจิตร
03-03-2012, 22:28
กลัวทำไมการตาย กลัวการเกิดดีกว่า

หลวงพ่อเกษม เขมโก

ป้านุช
12-03-2012, 23:06
การถือตัวถือตนว่า เราเสมอเขาก็ดี

เราดีกว่าเขาก็ดี เราเลวกว่าเขาก็ดี

เป็นปัจจัยของความทุกข์

อย่ามองคน ด้วยฐานะ

อย่ามองคน ด้วยศักดิ์ศรี

อย่ามองคน ด้วยความรู้ความสามารถ

มองคนแต่เพียงว่าสภาพของเขา

เป็นวัตถุเหมือนสภาพของเรา

จิตใจของเราพร้อมในการเมตตาปรานีไม่ถือตน

เขาจะมาในฐานะเช่นใดก็ช่าง

ถือว่าเป็นเพื่อนเกิด แก่ เจ็บ ตาย เหมือนกันหมด

การกำหนดอารมณ์อย่างนี้

เราก็สามารถจะกำจัดตัวมานะ

การถือตัวถือตนเสียได้

อย่างนี้เรียกว่า อรหัตมรรค


หลวงพ่อพระราชพรหมยาน วัดท่าซุง

ป้านุช
03-05-2012, 11:48
จิตเป็นเครื่องบังคับกายกับวาจาให้พูดและให้ทำงาน
จิตที่ไม่ติดพัวพันในอารมณ์ทั้งปวง เรียกว่า บริสุทธิ์


หลวงปู่มั่น ภูริทัตโต

ป้านุช
07-08-2012, 16:40
https://fbcdn-sphotos-d-a.akamaihd.net/hphotos-ak-ash4/394697_261050980678170_2033268561_n.jpg

''จิตใจคนเรา ต้องมีสิ่งดีให้ยึดเกาะ
ไม่มีอะไรเกาะก็ไม่มีอะไรปล่อยวาง
การจะไปถึงนิพพานต้องปล่อยวางทั้งดีและไม่ดี
และถ้าไม่ยึดเกาะสิ่งดีไว้ก็อาจทำให้ใจมุ่งไปเกาะในสิ่งไม่ดี เกิดโทษกับชีวิต
ฉะนั้นต้องเกาะความดีเอาไว้ พอได้จังหวะพอดีก็ค่อยปล่อย
เพื่อจะหลุดพ้นการเวียนว่ายตายเกิดไปสู่พระนิพพาน ''

พระครูวิลาศกาญจนธรรม (พระอาจารย์เล็ก สุธมฺมปญฺโญ)

ป้านุช
18-08-2012, 00:08
https://fbcdn-sphotos-b-a.akamaihd.net/hphotos-ak-ash3/563931_415291251850511_1715726980_n.jpg

ป้านุช
18-08-2012, 00:20
https://fbcdn-sphotos-b-a.akamaihd.net/hphotos-ak-snc7/312026_397822090283228_684355950_n.jpg

ธรรมะอยู่กับปัจจุบัน ไม่อยู่กับผู้ที่ตายไปแล้ว
ไม่อยู่กับผู้ที่ยังไม่เกิด ไม่อยู่กับอดีต ไม่อยู่ในอนาคต
รวมอยู่ในปัจจุบันนั้นดีมาก ให้แก้จิตภาวนาในปัจจุบัน
ภาวนาทำจิตให้เด็ดเดี่ยว ร่างกายประกอบไตรลักษณะ
เร่งความเพียรให้ลึกเข้าไปเพื่อประโยชน์ในการดับอนุสัย
ชำระกิเลสที่นอนกองอยู่ในใจ
ให้อวิชชาออกไป เพื่อวิชชาเข้าแทน

หลวงปู่หลุย จนฺทสาโร

ป้านุช
18-08-2012, 00:24
https://fbcdn-sphotos-e-a.akamaihd.net/hphotos-ak-snc6/195926_397822246949879_1517992098_n.jpg

ไม่มีห่วง ไม่มีดีใจ ไม่มีเสียใจ ไม่มีพอใจ ไม่มีหัวเราะ
ไม่มีร้องไห้ ไม่มีบุญ ไม่มีบาป ไม่มีดี ไม่มีเลว จึงใกล้นิพพาน

ถ้ายังห่วงแสดงว่ายังไกลอยู่
ยังเก็บ ยังกอบ ยังกำ ยังโกยอยู่
แสดงว่ายังห่างอยู่มาก

เราจะไม่ให้มีความห่วงอยู่เลย
จะไม่ให้มีความตระหนี่ถี่เหนียวมาเป็นใหญ่กว่าใจเราได้เลย
เราจะขูดออกขัดออก

น้ำใสน้ำนิ่ง จะเห็นปลา เห็นทรายชัด
ถ้าน้ำกระเพื่อมก็ไม่เห็น
เปรียบกับจิตที่เป็นหนึ่ง หยุดนิ่งย่อมรู้หมด มีอะไรรู้หมด
รู้จิตผู้อื่นต้องทำให้เป็นวสีจึงจะรู้ได้ตลอด

หลวงปู่ท่อน ญาณธโร

ป้านุช
18-08-2012, 10:16
https://fbcdn-sphotos-e-a.akamaihd.net/hphotos-ak-snc7/574671_398891373509633_217131522_n.jpg
ที่ใจเป็นทุกข์ เพราะเกิดความยึดมั่น แล้วมีการปรุงแต่งในความคิดขึ้น
และอุบายที่จะละความทุกข์ก็คือหยุดการปรุงแต่งแล้วปล่อยวางให้เป็น

หลวงปู่ดูลย์ อตุโล

ป้านุช
18-08-2012, 10:21
https://fbcdn-sphotos-g-a.akamaihd.net/hphotos-ak-snc7/380478_423525941016013_1341784290_n.jpg

เกิดมาชาติหนึ่งเวลาเรามีไม่มาก เวลาสูญเปล่ามีมาก
เวลาทำงานจริง ๆ มีไม่มาก เวลาสูญเปล่ามีตลอดชีวิต
เวลาเหลือน้อย จะทำอะไรให้รีบทำ

ครูบาชัยยะวงศาพัฒนา (ครูบาวงศ์)
วัดพระพุทธบาทห้วยต้ม

ป้านุช
20-08-2012, 22:08
https://fbcdn-sphotos-f-a.akamaihd.net/hphotos-ak-ash4/225142_399691833429587_672292727_n.jpg


กิเลสกองไหนที่ทำให้จิตใจเศร้าหมอง ขุ่นมัว
ให้รีบตัด รีบละออกไป เลิกไม่ได้ละไม่ได้ ก็ให้นึกถึงความตาย
ใครจะว่าร้ายป้ายสี ก็ให้นึกว่าเขาจะต้องตาย
เราคือกายกับจิตก็ต้องตายจากกันไป
จะมาโกรธ มาโลภ มาหลง มายึดหน้าถือตา
ยึดอะไรต่อมิอะไรไปทำไม จงปล่อยวางให้มันหมดสิ้นไป

หลวงปู่สิม พุทฺธาจาโร

ป้านุช
22-08-2012, 00:53
https://fbcdn-sphotos-a-a.akamaihd.net/hphotos-ak-ash3/549595_400072230058214_1442292000_n.jpg

“…ตัณหาทั้งหลายก็ไหลมาจากเหตุ ให้ละวางเสียให้หมด
ให้ตั้งอยู่ในศีล ในทาน ในการบำเพ็ญกุศล
ละบาปเสียให้หมดทั้งทางกาย ทางวาจา ทางใจที่ทุจริต
ละเสียให้หมด รักษากาย วาจา ใจที่สุจริตไว้
เมื่อนำทุจริตออกหมดแล้ว จะเหลือแต่สุจริตธรรมตั้งอยู่ในศีล
กายก็เป็นศีล วาจาก็เป็นศีล ใจก็เป็นศีล
เป็นธรรม เป็นมรรค เป็นผลตั้งขึ้นในจิตใจ
สุจริตธรรมตั้งอยู่ในจิตก็เบาสบาย…”

หลวงปู่แหวน สุจิณฺโณ

ป้านุช
23-08-2012, 02:00
https://fbcdn-sphotos-f-a.akamaihd.net/hphotos-ak-snc7/377328_400070853391685_2121886795_n.jpg

เวลามีเท่ากัน อยู่ที่จะทำอะไร บันทึกอะไรลงไป
ให้ดูทุกวันนี้ สิ่งที่เราคิด สิ่งที่เราทำมันมีประโยชน์หรือเปล่า
พูดแล้วต้องทำ นึกแล้วต้องทำ ตั้งสัจจะแล้วทำไม่ได้
อีกหน่อยทำให้ใจโลเล แล้วก็ขี้เกียจ

หลวงปู่ดู่ พรฺหมฺปญฺโญ

ป้านุช
23-08-2012, 09:12
https://fbcdn-sphotos-h-a.akamaihd.net/hphotos-ak-ash3/542533_400606510004786_160705284_n.jpg

อย่าสนใจสิ่งใดมากยิ่งกว่าธรรมภายในใจ
ให้ดูจิตใจตัวเอง อย่าไปเที่ยวดูเรื่องคนอื่นคนใด
เป็นความเสียหายไม่ดีเลย อย่าไปเห็นแต่โทษคนนั้นโทษคนนี้
มันมีโทษด้วยกันทุกคน กิเลสเป็นตัวสร้างโทษสร้างกรรม มีด้วยกันทุกคน

หลวงตามหาบัว ญาณสมฺปนฺโน

ป้านุช
23-08-2012, 15:16
https://fbcdn-sphotos-h-a.akamaihd.net/hphotos-ak-prn1/s480x480/558838_352326704855051_51365834_n.jpg

“ใจน้อมอยู่กับงานได้ก็เพราะอำนาจของสติ
สติทำให้เรารู้เท่าทันความนึกคิด
เมื่อจิตแล่นไปพะวงกับอนาคต หรือเกาะกุมอยู่กับอดีตที่ผ่านมา
สติก็เหนี่ยวจิตให้มาอยู่กับงานการที่กำลังอยู่เฉพาะหน้านั้น”

พระไพศาล วิสาโล

ชยาคมน์
24-08-2012, 10:03
http://www.watthakhanun.com/webboard/attachment.php?attachmentid=17974&stc=1&d=1345776891

“คนเราเป็นฆราวาส เป็นหนุ่ม
มันสุก ๆ ดิบ ๆ แล้วมาบวช
พอเป็นพ่อนาคก็ต้องเป็นเทวดา
คือ สวมชุดตะลอมพอก
อย่างนั้นเรียกว่าเป็นเทวดา
ไม่ใช่มนุษย์ธรรมดาแล้ว
เพราะจะได้เป็นสงฆ์ เป็นบัณฑิต
พอเข้าไปอยู่หน้าอุปัชฌาย์ ก็เป็นพรหมแล้ว

ทีนี้พอบวชเสร็จแล้วสึก
บางคนแทนที่จะเป็นบัณฑิตหรือเป็นทิด
กลับกลายเป็นเดรัจฉานไปเสียทันตาเห็น
สึกเช้า เมาเย็น พวกนี้ไม่สมกับได้บวชได้เรียน
ไม่เป็นบัณฑิต กลับเป็นหมาไปได้ ”

หลวงพ่อเดิม พุทฺธสโร
วัดหนองโพ จ.นครสวรรค์

ป้านุช
27-08-2012, 00:58
https://fbcdn-sphotos-e-a.akamaihd.net/hphotos-ak-ash4/603394_401483429917094_512349084_n.jpg

บุญบาป เป็นของเที่ยงแท้แน่นอน
ใครจะมาว่าเรา เป็นเรื่องปากเขา
จิตเรามีหน้าที่ภาวนา
ยืนให้มีสติ เดินให้มีสติ
ทำอะไร พูดอะไร ให้มีสติ
รู้ภายนอกรู้ไปทำไม
รู้ภายใน รู้กาย รู้จิตของตัวเองดีกว่า

หลวงปู่สิม พุทฺธาจาโร
วัดถํ้าผาปล่อง จ.เชียงใหม่

ป้านุช
01-09-2012, 10:04
http://www.watthakhanun.com/webboard/attachment.php?attachmentid=17998&stc=1&d=1346469788

ทำหน้าที่ของเราให้ดีที่สุด ถึงเวลาก็จากไปอย่างสง่างามที่สุด

พระครูวิลาศกาญจนธรรม (หลวงพ่อเล็ก สุธมฺมปญฺโญ)

ชยาคมน์
07-09-2012, 17:19
https://fbcdn-sphotos-f-a.akamaihd.net/hphotos-ak-snc7/581608_430111067024167_1685695980_n.jpg

"...ธรรมที่ลึกลับ ไม่ควรพูดให้คนอื่นรู้
เพราะคนอื่นไม่เห็นตาม ธรรมจะเสีย
ต้องพูดต่อผู้ปฏิบัติเหมือนกัน..."

หลวงปู่มั่น ภูริทตฺโต

นางมารร้าย
03-10-2012, 20:57
ดี-ชั่ว มิได้เกิดขึ้นมาเอง แต่อาศัยการทำบ่อยก็ชินไปเอง เมื่อชินแล้วก็กลายเป็นนิสัย ถ้าเป็นฝ่ายชั่วก็แก้ไขยาก คอยแต่จะไหลลงไปตามนิสัยที่ทำอยู่เสมอ ถ้าเป็นฝ่ายดี ก็นับว่าคล่องแคล่วแกล้วกล้าขึ้นเป็นลำดับ

(โอวาทหลวงปู่มั่น ภูริทตฺโต)

นางมารร้าย
10-01-2013, 16:32
http://www.watthakhanun.com/webboard/attachment.php?attachmentid=18908&stc=1&d=1357811512

เดือนแก้ว
10-01-2013, 19:02
http://www.watthakhanun.com/webboard/attachment.php?attachmentid=18909&stc=1&d=1357819290

หลวงพ่อบอกว่า "เวลามี แต่เราไม่จัดสรรเอง"

เล็กพริกขี้หนู
11-01-2013, 23:31
สิ่งที่ล่วงไปแล้ว ไม่ควรทำความผูกพัน เพราะเป็นสิ่งที่ล่วงไปแล้วอย่างแท้จริง
แม้กระทำความผูกพันและหมายมั่นให้สิ่งนั้นกลับมาเป็นปัจจุบัน ก็เป็นไปไม่ได้
ผู้ทำความสำคัญมั่นหมายนั้นเป็นทุกข์แต่ผู้เดียว โดยความไม่สมหวังตลอดไป
อนาคตที่ยังมาไม่ถึงนั้น เป็นสิ่งไม่ควรไปยึดเหนี่ยวเกี่ยวข้องเช่นกัน

อดีตปล่อยไว้ตามอดีต อนาคตปล่อยไว้ตามกาลของมัน
ปัจจุบันเท่านั้นจะสำเร็จประโยชน์ได้ เพราะอยู่ในฐานะที่ควรทำได้ ไม่สุดวิสัย


พระอาจารย์มั่น ภูริทตฺโต

ขออนุญาตนำไปเผยแพร่ใน Facebook ค่ะ

กานต์
12-01-2013, 22:28
http://www.watthakhanun.com/webboard/attachment.php?attachmentid=18920&d=1358004562
หลวงพ่อพระราชพรหมยาน วัดท่าซุง

นางมารร้าย
15-01-2013, 15:59
http://www.watthakhanun.com/webboard/attachment.php?attachmentid=18935&stc=1&d=1358241581

นางมารร้าย
16-01-2013, 14:41
ไม่ดี ก็ให้มันตาย
ไม่ตาย ก็ให้มันดี

พระโพธิญาณเถระ (หลวงพ่อชา สุภัทโท)

นางมารร้าย
17-01-2013, 10:30
http://www.watthakhanun.com/webboard/attachment.php?attachmentid=18956&stc=1&d=1358394652

ป้านุช
21-03-2013, 09:33
https://fbcdn-sphotos-h-a.akamaihd.net/hphotos-ak-frc1/526795_548713588484845_1605732596_n.jpg

เรามหาวีระ มีพระราชานามว่า "ภูมิพล" เป็นผู้อุปถัมถ์
ร่วมด้วยพุทธศาสนิกชนส่วนใหญ่
สร้างวัดนี้เป็นพุทธบูชา

เมื่อศักราชล่วงไปได้ ๒๗๐๐ ปีปลาย
จะมีพระเจ้าธรรมิกราช นามว่า "ศิริธรรมราชา"
สืบเชื้อสายเชียงแสนบวกสุโขทัย ร่วมกับพระอรหันต์
จะมาบูรณะวัดนี้สืบพระศาสนาต่อไป

คณะเราขอโมทนาด้วย แต่อยู่ช่วยไม่ได้
เพราะไปนิพพานหมดแล้ว

แผ่นทองคำจารึกนี้ หลวงพ่อบรรจุไว้ในโบสถ์
วัดท่าซุง เมื่องานฝังลูกนิมิต วันที่ ๒๔ เมษายน พุทธศักราช ๒๕๒๐

ป้านุช
01-09-2013, 23:26
หลวงปู่บุดดา ถาวโร ได้รับนิมนต์ไปฉันเพลบ้านโยม ซึ่งเป็นตึกแถวสองชั้น

เมื่อฉันเพลแล้ว เจ้าบ้านเห็นว่าหลวงปู่เดินทางมาเหนื่อย
จึงให้ท่านนอนพักผ่อน ก่อนเดินทางกลับ

มีลูกศิษย์หลายคนนั่งเฝ้าและคุยกันเบา ๆ เพื่อไม่ให้เสียงดัง

ทันใดนั้นเอง ข้างห้องซึ่งเป็นร้านขายของ
เดินลากเกี๊ยะกระทบพื้นบันไดดัง เกี๊ยะ เกี๊ยะ ขึ้นไปชั้นบน

ศิษย์คนหนึ่งทนเสียงเกี๊ยะไม่ได้ จึงพูดขึ้นว่า

“แหม! เดินเสียดังเชียว”

หลวงปู่ซึ่งนอนหลับตาอยู่พูดว่า

“เขาเดินของเขาอยู่ดี ๆ เราเอาหูไปรองเกี๊ยะเขาเอง”

(จาก “หลวงปู่สอนศิษย์” จากหนังสือหนึ่งศตวรรษ หลวงปู่บุดดา ถาวโร)

สุรจิตร
23-09-2014, 09:39
เราเกิดแล้ว แก่แล้ว เจ็บแล้ว เหลือแต่ตาย

หลวงพ่อพูน วัดบ้านแพน

สุรจิตร
29-12-2014, 09:06
"ตายเป็นตาย แต่จะให้สัจจะที่ตั้งไว้ขาดไม่ได้ ไม่ยอม ในร่างกายนี้อะไรจะเสียผุพังไปก็ตาม แต่จะให้สัจจะเสียไปไม่ได้ เพราะแม้สัจจะที่เราให้ไว้กับตัวเรา เรายังรักษามันไม่ได้ แล้วเราจะหวังพบธรรมะอันประเสริฐซึ่งอยู่เหนือสัจจะ แล้วเราจะพบพานธรรมนั้นได้อย่างไรกัน"

หลวงปู่เจี๊ยะ จุนฺโท

สุรจิตร
20-02-2015, 17:21
ลูกรัก
ลูกมีเจตนาน่ารัก มีอารมณ์หวังผลพระนิพพาน ถ้าลูกตั้งใจไว้อย่างนี้จะตายเมื่อไร ไปนิพพานเมื่อนั้นลูก คนจะไปนิพพานได้เพราะเบื่อโลก และวางเฉยไม่ยินดียินร้ายในเรื่องของโลก ไม่สนใจมันเลย แต่ทำงานตามหน้าที่ ไม่บ่นและไม่กลุ้ม แต่ไม่ต้องการมันอีก เท่านี้ก็นิพพานแน่

(พระมหาวีระ ถาวโร)

สุรีย์พร จึงสง่าสม
23-02-2015, 17:11
"พ่อไม่เคยสอนลูกให้นินทาใคร แล้วพ่อก็ไม่เคยสอนให้ลูกรับคำนินทาและสรรเสริญ"
หลวงพ่อวัดท่าซุง

สุรจิตร
24-07-2016, 22:29
การแสวงหาพระเก่า พระแท้ที่ถูกต้อง คือใจที่ต้องฝึกฝนอบรมเรื่องศีล สมาธิ และปัญญา เพื่อให้ใจเป็นพระขึ้นมาเสียเอง โดยอาศัย พุทธัง สะระณัง คัจฉามิ ธัมมัง สะระณัง คัจฉามิ และ สังฆัง สะระณัง คัจฉามิ เป็นที่พึ่งของใจเสียก่อน

หลวงปู่ดู่ พรหมปัญโญ