โอรส
11-05-2011, 01:43
ตอนนี้สิ่งนี้วางอยู่ตรงหน้าของเราแล้ว มีคุณค่าขนาดไหน ในเมื่อเรารู้แจ้งแล้วว่า การเกิดเป็นทุกข์อย่างนี้ ในเมื่อเรารู้แจ้งแล้วว่า การอยู่ในโลกเป็นทุกข์อย่างนี้ ขึ้นชื่อว่าการเกิดมาเป็นทุกข์อย่างนี้ การเกิดมาในโลกที่เต็มไปด้วยความทุกข์ยากเร่าร้อนอย่างนี้ เรายังต้องการอีกไหม ? ในเมื่อเราไม่อยากมี ไม่อยากได้ ไม่อยากเป็นอีกแล้ว รับรู้แล้วก็วางไว้ตรงนั้น
ให้เห็นว่าทุกอย่างที่เกิดกับเราเป็นธรรมดา เพราะเราทำเราจึงได้รับ ในเมื่อทุกอย่างเราทำมาเอง ทำไมเราจึงยอมรับผลงานของตัวเองไม่ได้ โบราณท่านว่าปลูกถั่วได้ถั่ว ปลูกงาได้งา เราไปปลูกพริกปลูกตำแยต้องแสบบ้างคันบ้างเราก็ทนเอา แต่ขึ้นชื่อว่าเกิดมาแสบคันอย่างนี้จะไม่มีกับเราอีกแล้ว เพราะเราเกิดชาตินี้เป็นชาติสุดท้าย
ถ้าเทียบกับการที่เราต้องทนมีชีวิตอยู่ไปถึงวันตาย ซึ่งไม่เกิน ๑๐๐ ปีนี้ กับการเวียนตายเวียนเกิดที่นับกัปไม่ถ้วนก็เป็นเวลาแค่นิดเดียว เหมือนอย่างกับหลับตาลงแล้วลืมตาขึ้นก็ผ่านพ้นไปแล้ว ทำไมเราจะอยู่อย่างมีความสุขไม่ได้ ทุกอย่างเกิดขึ้นก็ เออ..ธรรมดา เราทำไว้เราถึงได้รับ เออ..ธรรมดาจะต้องเป็นอย่างนี้อยู่แล้ว ถ้าเกิดมาเราต้องพบต้องเจอแบบนี้ จิตใจก็จะปล่อยวาง
ให้เห็นว่าทุกอย่างที่เกิดกับเราเป็นธรรมดา เพราะเราทำเราจึงได้รับ ในเมื่อทุกอย่างเราทำมาเอง ทำไมเราจึงยอมรับผลงานของตัวเองไม่ได้ โบราณท่านว่าปลูกถั่วได้ถั่ว ปลูกงาได้งา เราไปปลูกพริกปลูกตำแยต้องแสบบ้างคันบ้างเราก็ทนเอา แต่ขึ้นชื่อว่าเกิดมาแสบคันอย่างนี้จะไม่มีกับเราอีกแล้ว เพราะเราเกิดชาตินี้เป็นชาติสุดท้าย
ถ้าเทียบกับการที่เราต้องทนมีชีวิตอยู่ไปถึงวันตาย ซึ่งไม่เกิน ๑๐๐ ปีนี้ กับการเวียนตายเวียนเกิดที่นับกัปไม่ถ้วนก็เป็นเวลาแค่นิดเดียว เหมือนอย่างกับหลับตาลงแล้วลืมตาขึ้นก็ผ่านพ้นไปแล้ว ทำไมเราจะอยู่อย่างมีความสุขไม่ได้ ทุกอย่างเกิดขึ้นก็ เออ..ธรรมดา เราทำไว้เราถึงได้รับ เออ..ธรรมดาจะต้องเป็นอย่างนี้อยู่แล้ว ถ้าเกิดมาเราต้องพบต้องเจอแบบนี้ จิตใจก็จะปล่อยวาง