PDA

View Full Version : จริตมีเกิน ๖ อย่าง..!


โอรส
07-04-2011, 01:13
ถาม : เรื่องของจริตเป็นลักษณะประเภทของจิตหรือไม่ ?
ตอบ : จริต เป็นรากเหง้านิสัยของเราที่ฝังลึก ใช้คำว่า "สันดาน" แทนก็ได้ ไม่ว่าจะเป็นความรัก ชอบ เกลียด ชัง

จริง ๆ แล้วจริต ๖ ประการ ทุกคนมีครบ เพียงแต่ว่าจะมีตัวใดตัวหนึ่งเด่นออกมา ก็จะนับเป็นลักษณะจริตอย่างนั้น

เป็นคนขี้โมโห จะเป็นโทสะจริต
เป็นคนรักสวยรักงาม ก็เป็นราคะจริต
เป็นคนประเภทขี้กังวล ตัดสินใจไม่เด็ดขาดก็จะเป็น วิตกจริต เป็นต้น
ทุกอย่างเรามีครบ แต่ว่ามีอย่างไหนมากก็จัดเป็นจริตนั้น ๆ


ถาม : แล้วมีแค่ ๖ ประการหรือเปล่าครับ ?
ตอบ : จริง ๆ มีเยอะกว่านั้น อย่างพวกดัดจริต วิกลจริต แต่พระพุทธเจ้าไม่ได้จัดเอาไว้ เพราะไม่ใช่อุปนิสัยที่แท้จริง..!

โอรส
07-04-2011, 01:13
ถาม : ผมสงสัย อย่างสมมติว่า คนที่รักสันโดษเขาเป็นคนจริตอย่างไร ดูจากอะไรครับ ?
ตอบ : จริง ๆ ตรงนี้เราไม่จำเป็นจะต้องไปรู้ก็ได้ เขาต้องมีความเข้าใจเองว่าเขามีจริตอะไร เพื่อเลือกกรรมฐานให้เหมาะกับตัวเองได้ เราจะไปเสียเวลาอยากรู้เรื่องของคนอื่นทำไม เขาตัองรู้ตัวเอง แต่ถ้าอยากรู้จริง ๆ ก็ต้องฝึกให้ได้เจโตปริยญาณ


ถาม : มีวิธีเดียวหรือเปล่าครับ ?
ตอบ : วิธีการสังเกตหยาบ ๆ ก็มีอยู่เหมือนกัน อย่างเช่นว่า โทสะจริตกับพุทธิจริต อาการแสดงออกเหมือน ๆ กันหมด คือ ทำอะไรทำแรง ทำเร็ว เช่น ให้กวาดบ้าน พวกโทสะจริตกับพุทธิจริต ก็จะลากโครม ๆ ไม่กี่ที ฝุ่นตลบไปทั้งบ้าน ไม่กวาดเลยยังจะดีกว่า เวลาเดินก็ลงส้นโครม ๆ ไปเลยอย่างนั้น

แต่ว่าจะไปต่างกันตรงจุดสุดท้าย พุทธิจริตจะประกอบไปด้วยปัญญามากกว่า เวลาทำอะไรก็รู้สึกว่าจะมีเหตุมีผลเหมาะสมไปหมด แต่โทสะจริตจะไม่มีตัวนี้ จะเป็นประเภทขี้โมโห แล้วก็โง่ดักดาน ...(หัวเราะ)... จะต่างกัน อาการภายนอกจะคล้ายคลึงกัน แต่ก็มีจุดแยกให้เราดูออกได้

ส่วนพวกโมหะจริต กับ วิตกจริต ก็คล้ายคลึงกัน พวกหนึ่งจะประเภท โง่ เซ่อ เซื่องซึมไปเลย อีกพวกหนึ่งก็ตัดสินใจอะไรไม่เด็ดขาด มัวแต่เงอะงะอยู่นั่นเอง อาการจะใกล้เคียงกัน แต่จะมีจุดที่แตกต่างให้เห็น ซึ่งเป็นส่วนหยาบ

แต่โอกาสที่จะดูผิดมีเยอะ ขนาดพระสารีบุตร ท่านยังให้กรรมฐานแก่พระลูกชายนายช่างทองผิดเลย นั่นพระอัครสาวกเบื้องขวานะ..จนกระทั่งไปเจอพระพุทธเจ้า พระองค์ท่านจึงบอกว่า พระลูกนายช่างทอง จริง ๆ แล้วเป็นโทสะจริต แล้วให้ไปฝึกกสิณสีแดงแทน กลายเป็นพระอรหันต์ภายในที่นั่งเดียว ก่อนหน้านั้นเสียเวลาไปหนึ่งพรรษาเต็ม ๆ

สนทนากับพระอาจารย์เล็ก สุธมฺมปญฺโญ
ณ บ้านอนุสาวรีย์ฯ เดือนเมษายน พุทธศักราช ๒๕๔๕

ตั้มศักดิ์
09-04-2011, 15:33
ขออนุญาตนำไปเผยแพร่ในเว็บพลังจิตครับ