เข้าระบบ

View Full Version : โลกธรรมภายนอก และโลกธรรมภายใน


ลัก...ยิ้ม
21-03-2011, 13:02
โลกธรรมภายนอก และโลกธรรมภายใน

สมเด็จองค์ปฐม ทรงมีเมตตาตรัสสอนเรื่องนี้ไว้ดังนี้

๑. “เพลานี้พวกเจ้าจักต้องการที่จักพ้นโลก ก็จงพิจารณาโลกธรรม ๔ ตัวเท่าที่ติดอยู่นี้ ให้เห็นว่าเป็นคุณหรือเป็นโทษเถิด ใช้ปัญญาค่อย ๆ พิจารณาว่าโลกธรรม ๔ ตัวนี้มันดีหรือไม่ อะไรมันเป็นเหตุทำให้จิตของเราติดมันได้ เมื่อพิจารณาจนรู้ถึงต้นเหตุ ก็จงดับต้นเหตุแห่งธรรมนั้นด้วยปัญญา อันเกิดจากการพิจารณานั้น ๆ ก็จักตัดการติดโลกธรรม ๔ นี้ลงไปได้ง่าย”

๒. “โลกธรรมนั้นมีทั้งภายนอกและภายใน

ก) โลกธรรมภายนอก คนอื่นเขาให้ลาภ-ยศ-สรรเสริญ-สุข แก่เรา นี่ภายนอก
ข) โลกธรรมภายใน เช่น เวลาเรานำทรัพย์ไปซื้ออาหารมา นี่เอาแค่หยาบ ๆ เรียกว่า ลาภปาก เราทำลาภให้เกิดขึ้นแก่ตัวเราเอง เราติดในลาภนั้นไหม


ยศ... สมมุติคุณหมอเป็นนายพล ยังไม่ออกจากราชการได้รับการแต่งตั้งมาแล้ว เคยไหมที่จักปลื้มใจ เวลานี้เราได้พลโทต่อไปเราจักได้พลเอก นี่แต่งตั้งยศให้ตัวเองเสร็จ นึกปลื้มใจในยศว่า ต้องได้ตำแหน่งสูงขึ้น ให้ยศกับตัวเอง เอาตำแหน่งล่อจิตของตนเองให้ฟูเข้าไว้ก่อน หรือเหมือนกับคนที่ไม่มีความรู้ในพระพุทธศาสนาดีพอ ก็ชอบให้ยศตัวเอง ตั้งตนเองเป็นคณาจารย์ใหญ่ เที่ยวสอนคนไปให้ประพฤติผิด ๆ ไป อุปมาอย่างนี้ชัดไหม (ก็รับว่า ชัด)

๓. “หรืออย่างที่เจ้าศึกษาพระไตรปิฎก ภิกษุณีอยากมีชื่อเสียงเลื่องลือ เอาของกำนัลไปเป็นสินจ้างให้เหล่านักฟ้อน-ร้องรำแต่งเพลงเชียร์-สรรเสริญชื่อเสียงของตนให้เลื่องลือขจรไกล นี่เป็นการให้ยศ และให้สรรเสริญแก่ตนเองเสร็จสรรพในตัว”

๔. “อนึ่งการสรรเสริญตนเอง คือ การสรรเสริญขันธ์ ๕ นี่สิเห็นชัด บางขณะอาบน้ำอยู่ มันไม่สกปรกเท่าชาวบ้านเขา หรือบางขณะหวีผมอยู่ ผมนี่มันดีนะ ยังไม่ขาวหงอกเท่ากับคนวัยเดียวกัน นี่ตัวสรรเสริญที่ให้กับตัวเอง มันร้ายยิ่งกว่าคำสรรเสริญที่มาจากภายนอกเสียอีก”

๕. “สุขก็เช่นกัน การบริโภคอาหารให้กับตนเอง มีรสอร่อยคิดว่าเป็นสุข การนอนอย่างสบาย ไม่คิดว่าร่างกายจะตายเพลิดเพลินในการนอน ก็คิดว่าเป็นสุข ร่างกายนี้แข็งแรงไม่เจ็บ ไม่ไข้ ก็คิดว่าสุข หรือในบุคคลผู้ยังเสพเมถุนธรรมอยู่ ได้เสพเมถุนธรรม ก็คิดว่าสุข”

๖. “โลกธรรมภายนอกเขาหลอกเรา แต่โลกธรรมภายในเราหลอกเราเอง โลกธรรมภายนอกเราก็โง่ที่มีความเชื่อให้เขาหลอก โลกธรรมภายใน... เรายิ่งโง่หนัก มีความหลงเชื่อให้เราหลอกเราเองอย่างสนิทใจ จึงปลดโลกธรรมไม่ออกสักที ดูให้ดี ๆ ว่าต้นเหตุมันติดที่ตรงไหน ติดที่ร่างกายตัวเดียว พิจารณาให้ดี ดูให้ออกว่าติดอย่างไร ติดตรงไหน ปลดตรงนั้น เหมือนคนปวดอุจจาระ แต่ไปปลดกระดุมเสื้อถ่ายทุกข์ได้ไหม ต้องปลดกางเกงจึงจักถ่ายทุกข์ได้ ทำให้มันตรงจุดก็ไม่มีอะไรจักไม่ตรง”

๗. “พวกเจ้าที่ยังปฏิบัติกันไม่ได้ผล เพราะติดอยู่ที่ตรงนี้ ไม่ทำให้ตรง สะเปะสะปะกันไปเรื่อย ดูให้ดี ๆ สิ ใช้ปัญญามาว่ากัน ตีอารมณ์ไปเป็นจุด ๆ แล้วจักพ้นทุกข์ของอารมณ์ ๒ กันไปได้เอง ดีไม่ดีมีสิทธิ์ว่ากันไปถึงพระอรหันต์เลยนะ ถ้าไม่โง่จนเกินไป”


ธรรมที่นำไปสู่ความหลุดพ้น เล่ม ๗
รวบรวมโดย พล.ต.ท. นพ.สมศักดิ์ สืบสงวน

ขอเชิญทุกท่านเข้าไปอ่านได้ที่ www.tangnipparn.com (http://www.tangnipparn.com)