ลัก...ยิ้ม
14-02-2011, 11:18
วิญญาณธาตุเป็นอย่างไร คืออะไร
หลวงพ่อฤๅษี ท่านเมตตามาสอนเรื่องนี้ไว้มีความสำคัญดังนี้
๑. วิญญาณธาตุ หมายถึง ระบบประสาทสัมผัสทั้ง ๖ อายตนะ ๖ หรือประตูทั้ง ๖ ของร่างกาย อันมีระบบประสาทรับรู้ของตา-หู-จมูก-ลิ้น-กาย โดยมีใจหรือจิตเป็นผู้รับรู้ (สมองเป็นหนึ่งในอาการ ๓๒ ของร่างกาย เป็นศูนย์รับระบบประสาทสัมผัสของร่างกาย ซึ่งทำงานของมันอยู่เป็นปกติ เกิดดับ ๆ อยู่เป็นสันตติธรรม ผู้ที่ไปรับรู้เรื่องของสมองก็คือจิต จะเห็นได้ชัดเจนตอนร่างกายถูกดมยาให้สลบหรือใช้ยาสลบ ร่างกายทุกส่วนก็สลบรวมทั้งสมองด้วย แต่จิตไม่สลบยังคงรู้อยู่เป็นปกติ มิได้สลบตามร่างกาย จุดนี้ผู้ปฏิบัติธรรมได้ขั้นสูงเท่านั้น จึงจะรู้และเข้าใจได้)
๒. "วิญญาณธาตุตัวนี้แหละเป็นตัวสร้างอารมณ์สุข (พอใจ) สร้างอารมณ์ทุกข์ (ไม่พอใจ) ให้เกิดแก่ร่างกาย
๓. บุคคลใดเอาจิตไปเกาะอารมณ์ทั้งสองแล้วหลงคิดว่า สุข-ทุกข์เวทนาของกายนี้มีในเรา เป็นของเรา (เราคือจิตไม่ใช่กาย) มีในเขาเป็นของเขา แต่พอร่างกายมันตาย อารมณ์เหล่านี้ซึ่งเกิดจากวิญญาณธาตุก็ตายไปพร้อมกับกาย
๔. แต่จิตไม่เคยตาย จิตเป็นอมตะ ผู้ตายคือร่างกายพร้อมวิญญาณธาตุ อันตรายอันใหญ่ยิ่งอยู่ที่จิตไปยึดเกาะติดวิญญาณธาตุ เกาะอารมณ์สุข-ทุกข์ว่าเป็นเรา เป็นของเรา เอาเวทนาของกายมาเป็นเวทนาของจิต นี่แหละคือตัวสักกายทิฏฐิ ตัวอวิชชา
๕. เพราะแยกกาย-เวทนา-จิต-ธรรม ให้ออกจากจิตไม่ได้ สักกายทิฏฐิก็ตัดไม่ได้เช่นกัน
หลวงพ่อฤๅษี ท่านเมตตามาสอนเรื่องนี้ไว้มีความสำคัญดังนี้
๑. วิญญาณธาตุ หมายถึง ระบบประสาทสัมผัสทั้ง ๖ อายตนะ ๖ หรือประตูทั้ง ๖ ของร่างกาย อันมีระบบประสาทรับรู้ของตา-หู-จมูก-ลิ้น-กาย โดยมีใจหรือจิตเป็นผู้รับรู้ (สมองเป็นหนึ่งในอาการ ๓๒ ของร่างกาย เป็นศูนย์รับระบบประสาทสัมผัสของร่างกาย ซึ่งทำงานของมันอยู่เป็นปกติ เกิดดับ ๆ อยู่เป็นสันตติธรรม ผู้ที่ไปรับรู้เรื่องของสมองก็คือจิต จะเห็นได้ชัดเจนตอนร่างกายถูกดมยาให้สลบหรือใช้ยาสลบ ร่างกายทุกส่วนก็สลบรวมทั้งสมองด้วย แต่จิตไม่สลบยังคงรู้อยู่เป็นปกติ มิได้สลบตามร่างกาย จุดนี้ผู้ปฏิบัติธรรมได้ขั้นสูงเท่านั้น จึงจะรู้และเข้าใจได้)
๒. "วิญญาณธาตุตัวนี้แหละเป็นตัวสร้างอารมณ์สุข (พอใจ) สร้างอารมณ์ทุกข์ (ไม่พอใจ) ให้เกิดแก่ร่างกาย
๓. บุคคลใดเอาจิตไปเกาะอารมณ์ทั้งสองแล้วหลงคิดว่า สุข-ทุกข์เวทนาของกายนี้มีในเรา เป็นของเรา (เราคือจิตไม่ใช่กาย) มีในเขาเป็นของเขา แต่พอร่างกายมันตาย อารมณ์เหล่านี้ซึ่งเกิดจากวิญญาณธาตุก็ตายไปพร้อมกับกาย
๔. แต่จิตไม่เคยตาย จิตเป็นอมตะ ผู้ตายคือร่างกายพร้อมวิญญาณธาตุ อันตรายอันใหญ่ยิ่งอยู่ที่จิตไปยึดเกาะติดวิญญาณธาตุ เกาะอารมณ์สุข-ทุกข์ว่าเป็นเรา เป็นของเรา เอาเวทนาของกายมาเป็นเวทนาของจิต นี่แหละคือตัวสักกายทิฏฐิ ตัวอวิชชา
๕. เพราะแยกกาย-เวทนา-จิต-ธรรม ให้ออกจากจิตไม่ได้ สักกายทิฏฐิก็ตัดไม่ได้เช่นกัน