เข้าระบบ

View Full Version : ชีวิตนี้สำคัญนัก


ลัก...ยิ้ม
10-02-2011, 12:52
ชีวิตนี้สำคัญนัก

สาส์นแห่งความสุข
มรรคาสู่ความสุขสวัสดีแห่งชีวิต

โดยพระเมตตาจาก

สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก

หมายเหตุ...

๑. ขอกราบแทบบาทโมทนาบุญ ในพระเมตตาของพระเดชพระคุณ ท่านเจ้าพระคุณสมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก และกราบโมทนาต่อท่านพระครูธรรมธรเล็ก สุธมฺมปญฺโญ ที่ให้ยิ้มมีโอกาสได้รับหนังสือเล่มนี้เพื่อพิมพ์เผยแพร่ให้ได้อ่านร่วมกัน

๒. หนังสือธรรมเล่มนี้จะประกอบไปด้วยสองส่วนด้วยกัน ส่วนแรกเป็นบทธรรมะ และส่วนที่สองเป็นบทสวดมนต์ ซึ่งยิ้มจะพิมพ์ในส่วนของบทธรรมให้ได้อ่านร่วมกันเท่านั้น

ลัก...ยิ้ม
10-02-2011, 15:30
ชีวิตในชาติปัจจุบันน้อยนัก สั้นนัก

ทุกชีวิต ไม่ว่าคนไม่ว่าสัตว์ มิได้มีเพียงเฉพาะชีวิตนี้ คือ มิได้มีเพียงชีวิตในชาตินี้ชาติเดียว แต่ทุกชีวิตมีทั้งชีวิตในชาติอดีต ชีวิตในชาติปัจจุบัน และชีวิตในชาติอนาคต

ชีวิตนี้น้อยนักนั้น หมายถึง ชีวิตในชาติปัจจุบันน้อยนัก...สั้นนัก ชีวิตคืออายุ ชีวิตในปัจจุบันชาติของแต่ละคน อย่างยืนนานที่สุดก็เกินร้อยปีได้ไม่เท่าไร ซึ่งก็ดูเป็นอายุที่ไม่ยืนมากนัก แม้ไม่นำไปเปรียบกับชีวิตที่ต้องผ่านมาแล้วในอดีตที่นับชาติไม่ถ้วน นับปีไม่ได้ และชีวิตที่จะต้องเวียนวนเกิดตายต่อไปอีกในอนาคตที่จะนับภพชาติไม่ถ้วน นับปีไม่ได้อีกเช่นกัน

ที่ปราชญ์ท่านว่า “ชีวิตนี้น้อยนัก” นั้น ท่านมุ่งให้เปรียบชีวิตนี้กับชีวิตในอดีตที่นับชาติไม่ถ้วน และชีวิตในอนาคตที่จะนับชาติไม่ถ้วนอีกเช่นกัน สำหรับผู้ไม่ยิ่งด้วยปัญญา ไม่สามารถพาตนให้พ้นทุกข์สิ้นเชิงได้

ลัก...ยิ้ม
11-02-2011, 08:07
ชีวิตกับกรรมที่กระทำ

ทุกชีวิต...ก่อนแต่จะได้มาเป็นคน เป็นสัตว์ อยู่ในปัจจุบันชาติ ต่างเป็นอะไรต่อมิอะไรมาแล้วมากมาย แยกออกไม่ได้ว่า... มีกรรมดี กรรมชั่วอะไรบ้าง ทำกรรมใดก่อน ทำกรรมใดหลัง และทั้งกรรมดี กรรมชั่วที่ทำไว้ในชาติอดีตทั้งหลาย ย่อมมากมายเกินกว่าที่ได้มากระทำในชาตินี้ ในชีวิตนี้อย่างประมาณมิได้

กรรมดีกรรมชั่วทั้งหลายเหล่านั้น ย่อมให้ผลตรงตามเหตุทุกประการ แม้ว่าผลจะไม่อาจเกิดขึ้นพร้อมกันทุกสิ่งทุกอย่าง และไม่อาจเรียงลำดับตามเหตุที่ได้กระทำแล้วก็ตาม แต่ผลทั้งหลายย่อมเกิดแน่ แม้เหตุได้กระทำแล้ว

ลัก...ยิ้ม
11-02-2011, 17:22
กรรมที่กระทำย่อมให้ผลตรงตามเหตุเสมอ

เมื่อมีเหตุย่อมมีผล เมื่อทำเหตุย่อมได้รับผล และผลย่อมตรงตามเหตุเสมอ ผู้ใดทำผู้นั้นจักเป็นผู้ได้รับผลเที่ยงแท้แน่นอน เมื่อใดกำลังมีความสุข ไม่ว่าผู้กำลังมีความสุขนั้นจะเป็นเราหรือเขา เมื่อนั้นพึงรู้ความจริงว่าเหตุดีที่ได้ทำไว้แน่กำลังให้ผล ผู้ทำเหตุดีนั้นกำลังเสวยผลแห่งเหตุนั้นอยู่

แม้ปุถุชนจะไม่สามารถหยั่งรู้ให้เห็นแจ้งได้ ว่าทำเหตุดีหรือกรรมดีใดไว้ แต่ก็พึงรู้ พึงมั่นใจว่า เหตุแห่งความสุขที่กำลังได้เสวยอยู่เป็นเหตุดีแน่ เห็นกรรมดีแน่ ผลดีเกิดแต่เหตุดีเท่านั้น ผลดีไม่มีเกิดแต่เหตุไม่ดีได้เลย

เมื่อใดกำลังมีความทุกข์ ความเดือดร้อน ไม่ว่าผู้กำลังมีความทุกข์ความเดือดร้อนนั้น จะเป็นเราหรือเป็นเขา เมื่อนั้นพึงรู้ความจริงว่า เหตุไม่ดีที่ได้ทำไว้แน่ กำลังให้ผล ผู้ทำเหตุไม่ดี กำลังเสวยผลแห่งเหตุนั้นอยู่

แม้ปุถุชนจะไม่สามารถหยั่งรู้ให้เห็นแจ้งได้ ว่าทำเหตุไม่ดีหรือกรรมไม่ดีใดไว้ แต่ก็พึงรู้พึงมั่นใจว่า เหตุแห่งความทุกข์ความเดือดร้อนที่กำลังได้เสวยอยู่ เป็นเหตุไม่ดีแน่ เป็นกรรมไม่ดีแน่ ผลไม่ดีเกิดแต่เหตุไม่ดีเท่านั้น ผลไม่ดีไม่มีเกิดแต่เหตุดีได้เลย

ลัก...ยิ้ม
14-02-2011, 09:39
ผลของกรรมนั้นแน่นอน ไม่มีข้อยกเว้น

เมื่อใดมีความคิดว่า เราทำดีไม่ได้ดี หรือเขาทำดีไม่ได้ดี ก็พึงรู้ว่า เมื่อนั้นกำลังหลงคิดผิดจากความจริง กำลังเข้าใจผิดจากความจริง ทำดีต้องได้ดีเสมอ ไม่มียกเว้นด้วยเหตุผลใดทั้งสิ้น

เมื่อใดมีความคิดว่า เราทำไม่ดีแต่กลับได้ดี หรือเขาทำไม่ดีแต่กลับได้ดี ก็พึงรู้ว่า เมื่อนั้นกำลังหลงคิดผิดจากความจริง กำลังเข้าใจผิดจากความจริง ทำไม่ดีต้องได้ไม่ดีเสมอ ไม่มียกเว้นด้วยเหตุผลใดทั้งสิ้น

ลัก...ยิ้ม
15-02-2011, 08:06
ความซับซ้อนของกรรม
ชีวิตในชาตินี้ชาติเดียวย่อมน้อยนัก เมื่อเปรียบเทียบกับชีวิตในอดีตชาติซึ่งนับจำนวนชาติหาถ้วนไม่ ดังนั้นกรรม คือ การกระทำที่ทำในชีวิตนี้ ในชาตินี้ชาติเดียวจึงน้อยนัก เมื่อเปรียบกับกรรมหรือการกระทำที่ทำไว้แล้วในอดีตชาติ อันนับจำนวนชาติไม่ถ้วน

การเขียนหนังสือด้วยปากกาหรือดินสอลงบนกระดาษแผ่นเดียวนั้น เขียนลงครั้งแรกก็ย่อมอ่านออกง่าย อ่านเข้าใจได้ง่าย แต่ยิ่งเขียนทับ เขียนซ้ำลงไปบนกระดาษแผ่นเดียวกันนั้น ตัวหนังสือย่อมจะทับกันยิ่งขึ้นทุกที การอ่านก็จะยิ่งอ่านยากขึ้นทุกที จนถึงอ่านไม่ออกเลย ไม่เห็นเลยว่าเป็นตัวหนังสือ จะเห็นแต่รอยหมึกหรือรอยดินสอทับกันไปทับกันมาเป็นสีสันเท่านั้น ให้เพียงรู้เท่านั้น ว่าได้มีการเขียนลงบนกระดาษแผ่นนั้น หาอ่านรู้เรื่องไม่ และหาอาจรู้ได้ไม่ว่าเขียนอะไรก่อนเขียนอะไรหลังนี้ฉันใด

การทำกรรมหรือการทำดีทำชั่วก็ฉันนั้น ต่างได้ทำกันมานับภพนับชาติไม่ถ้วน ทับถมกันมายิ่งกว่าตัวหนังสือที่อ่านไม่ออก หารู้ไม่ว่าได้เขียนอะไรก่อนเขียนอะไรหลัง ทำดีอะไรไว้บ้าง ทำไม่ดีอะไรไว้บ้าง มากน้อยหนักเบากว่ากันอย่างไร มาถึงชาตินี้ไม่รู้ด้วยกันทั้งสิ้น เป็นความซับซ้อนของกรรมที่แยกไม่ออก เช่นเดียวกับความซับซ้อนของตัวหนังสือที่เขียนทับกันไปทับกันมา

ลัก...ยิ้ม
16-02-2011, 07:41
สิ่งที่แสดงให้เห็นความซับซ้อนของกรรม

ความซับซ้อนของกรรมแตกต่างกับความซับซ้อนของตัวหนังสือ ตรงที่ตัวหนังสือนั้น...เมื่อเขียนทับกันมาก ๆ ก็ย่อมไม่มีทางรู้ว่าเขียนเรื่องดี หรือเรื่องไม่ดีอย่างไร

แต่กรรมนั้น...แม้ทำซับซ้อนมาเพียงไร ก็มีทางรู้ว่าทำกรรมดีไว้มากน้อยเพียงไร หรือกรรมไม่ดีไว้มากน้อยเพียงไร โดยมีผลที่ปรากฏขึ้นของกรรมนั้นเองเป็นเครื่องช่วยแสดงผลให้เห็น

ลัก...ยิ้ม
17-02-2011, 08:41
ความแตกต่างในชาติกำเนิด

“ชีวิต” หรือ “ชาตินี้” ของทุกคนมีชาติกำเนิดไม่เหมือนกัน เป็นไทยก็มี จีนก็มี แขกก็มี ฝรั่งก็มี มีชาติตระกูลไม่เสมอกัน ตระกูลสูงก็มี ตระกูลต่ำก็มี มีสติปัญญาไม่ทัดเทียมกัน ฉลาดหลักแหลมก็มี โง่เขลาเบาปัญญาก็มี มีฐานะต่างระดับกัน ร่ำรวยก็มี ยากจนก็มี

ความแตกต่างห่างกันนานาประการเหล่านี้ ล้วนเป็นเครื่องชี้ให้ผู้เชื่อในกรรมและผลของกรรม เห็นความมีภพชาติในอดีตของแต่ละชีวิต ในชาติปัจจุบันที่เกิดมาต่างกันในชาตินี้ เพราะทำกรรมไว้ต่างกันในชาติอดีต

ลัก...ยิ้ม
21-02-2011, 10:15
ความได้ภพชาติในชีวิตนี้ ชาตินี้

ความแตกต่างของชีวิตที่สำคัญที่สุด ที่แสดงให้เห็นอำนาจที่ใหญ่ยิ่งที่สุดของกรรม คือ ความได้ภพชาติของพรหมเทพ ความได้ภพชาติของมนุษย์ กับความได้ภพชาติของสัตว์
เทวดา...อาจมาเป็นมนุษย์ได้ เป็นสัตว์ได้

มนุษย์...อาจเป็นเทวดาได้ เป็นสัตว์ได้

และสัตว์...ก็อาจเป็นเทวดาได้ เป็นมนุษย์ได้ ด้วยอำนาจยิ่งใหญ่ของกรรมอันนำให้เกิด

นี่เป็นความจริงที่แท้ จะเชื่อหรือไม่เชื่อ ความจริงนี้ก็ย่อมเป็นความจริงเสมอไป ไม่มีอะไรจะเปลี่ยนแปลงให้ผิดไปจากความจริงได้ จะเชื่อหรือไม่เชื่อก็ควรกลัวอย่างหนึ่งคือ กลัวการไม่ได้กลับมาเกิดเป็นคน ไม่ได้ไปเกิดเป็นเทวดา

เทวดามาถือภพชาติเป็นมนุษย์ เป็นที่ย่อมเชื่อถือกันมากกว่าเทวดาจะไปเป็นอะไรอื่น จึงมีคำบอกเล่าหรือที่สันนิษฐานกันอยู่เสมอว่า ผู้นั้นผู้นี้เป็นเทวดามาเกิด ทั้งนี้ก็โดยสันนิษฐานจากความประณีตงดงามสูงส่งของผู้นั้นผู้นี้

บางรายก็มีพร้อมทุกประการ ทั้งชาติตระกูลที่สูง ฐานะที่ดี ผิวพรรณ วรรณะที่งาม กิริยาวาจามารยาทที่สุภาพอ่อนโยน ไพเราะ เรียบร้อย เฉลียวฉลาด

บางผู้แม้ไม่งามพร้อมทุกประการดังกล่าว ก็ยังได้รับคำพรรณนาว่าเป็นเทวดานางฟ้ามาเกิด เพราะผิวพรรณ มารยาทงดงามอ่อนโยน นุ่มนวล นี้ก็คือการยอมรับอยู่ลึก ๆ ในใจของคนส่วนมาก ว่าเทวดามาเกิดเป็นมนุษย์ได้

ลัก...ยิ้ม
22-02-2011, 08:07
อำนาจของกรรมกับความได้ภพชาติ

เทวดามาเกิดเป็นมนุษย์ มีตัวอย่างสำคัญยิ่งที่พึงกล่าวถึงได้เป็นที่ยอมรับทั่วไป โดยเฉพาะในหมู่พุทธศาสนิกชนทั้งหลาย นั่นคือสมเด็จพระบรมศาสดาสัมมาสัมพุทธเจ้าจากสวรรค์ชั้นดุสิต เสด็จลงโลกมนุษย์ประสูติเป็นพระสิทธัตถราชกุมาร พระราชโอรสพระเจ้าสุทโธทนะกับพระนางสิริมหามายา

เรื่องหนึ่งในพระพุทธศาสนาที่รู้จักกันกว้างขวางคือ เรื่องของเทพธิดาเมขลา เทพธิดาองค์นี้ได้รับแต่งตั้งให้เป็นผู้พิทักษ์รักษามหาสมุทร และมีหน้าที่คุ้มครอง ช่วยเหลือมนุษย์ที่ถือไตรสรณาคมน์ มีศีลสมบูรณ์ปฏิบัติชอบต่อมารดาบิดา พราหมณ์โพธิสัตว์เดินทางไปเรือแตกที่กลางมหาสมุทร พยายามว่ายน้ำเข้าฝั่งอยู่ถึง ๗ วัน เทพธิดาเมขลาจึงแลเห็นได้ไปแสดงตนต่อพระมหาสัตว์ทันที รับรองจะให้ทุกอย่างที่พระมหาสัตว์ปรารถนา และได้เนรมิตสิ่งที่พระมหาสัตว์ขอทุกอย่างคือ เรือทิพย์และแก้วแหวน เงินทอง

พระมหาสัตว์พ้นจากมหาสมุทรได้บำเพ็ญทานรักษาศีลจนตลอดชีวิต ครั้งสิ้นชีวิตแล้วได้ไปบังเกิดในเมืองสวรรค์

พระมหาสัตว์ครั้งนั้นต่อมาคือ พระพุทธเจ้า
เทพธิดาเมขลาต่อมาคือ พระอุบลวัณณาเถรี
ผู้ดูแลช่วยเหลือพระมหาสัตว์คือ พระอานนท์

นี้คือเทวดาถือภพชาติเป็นมนุษย์ได้อย่างน้อยก็ตามความเชื่อถือ จึงมีการเล่าเรื่องเทพธิดาเมขลาดังกล่าว

เทวดามาเกิดเป็นมนุษย์ได้ และมนุษย์ก็เกิดเป็นเทวดาได้ ดังที่สมเด็จพระบรมศาสดาเมื่อประทับอยู่ที่พระวิหารเชตวันได้ทรงนำเรื่องในอดีตมาสาธกว่า เมื่อทรงเสวยพระชาติเป็นพระโพธิสัตว์...หัวหน้าพ่อค้าเกวียนได้ทรงซื้อสินค้าในนครพาราณสี บรรทุกเกวียนนำพ่อค้าจำนวนมากเดินทางไปในทางกันดาร เมื่อพบบ่อน้ำก็พากันขุดเพื่อให้มีน้ำดื่มได้พบรัตนะมากมายในบ่อนั้น

พระโพธิสัตว์ทรงเตือนว่า ความโลภเป็นเหตุแห่งความพินาศ...แต่ไม่มีผู้เชื่อฟัง พวกพ่อค้ายังขุดบ่อต่อไปไม่หยุด หวังจะได้รัตนะมากขึ้น บ่อนั้นเป็นบ่อที่อยู่ของพญานาค เมื่อถูกทำลาย พญานาคก็โกรธใช้ลมจมูกเป่าพิษถูกพ่อค้าเสียชีวิตหมดทุกคน เหลือแต่พระโพธิสัตว์ที่มิได้ร่วมการขุดบ่อด้วย จึงได้รัตนะมากมายถึง ๗ เล่มเกวียน ท่านนำออกเป็นทานและได้สมาทานศีลรักษาอุโบสถจนสิ้นชีวิต ได้ไปเกิดในสวรรค์ เป็นมนุษย์ผู้หนึ่งที่เกิดเป็นเทวดาได้

มนุษย์มีบุญกุศลและความดีพร้อม ทั้งกาย วาจา ใจ มากเพียงใดก็จะเกิดเป็นเทวดาชั้นสูงได้เพียงนั้น คือ สามารถขึ้นไปอยู่บนสวรรค์ชั้นสูงได้เมื่อละโลกนี้แล้ว มนุษย์เกิดเป็นเทวดาได้และเกิดเป็นสัตว์ก็ได้

ในสมัยพุทธกาล ชายผู้หนึ่งโกรธแค้นรำคาญสุนัขตัวหนึ่งที่ติดตามอยู่ตลอดเวลา พระพุทธเจ้าทรงทราบก็ได้ตรัสแสดงให้รู้ว่า บิดาที่สิ้นไปแล้วนั้น...มาเกิดเป็นสุนัขนั้น และได้ทรงพิสูจน์โดยบอกให้สุนัขนำไปหาที่ซ่อนทรัพย์ซึ่งไม่มีผู้ใดรู้นอกจากผู้เป็นบิดาของชายผู้นั้น และสุนัขก็พาไปขุดพบสมบัติที่ฝังไว้ก่อนสิ้นชีวิตได้

สัตว์ไปเกิดเป็นเทวดาได้คงจะมีเป็นอันมาก มีเรื่องต่าง ๆ ในพระพุทธศาสนาที่เล่ากันสืบมา คือ ในสมัยพุทธกาลมีสัตว์ได้ยินเสียงของพระท่านสวดมนต์ก็ตั้งใจฟังโดยเคารพ ตายไปก็ได้ไปบังเกิดเป็นเทพสวรรค์ ด้วยอานุภาพของการให้ความเคารพในพระธรรมของพระพุทธเจ้า

สัตว์ไปเกิดเป็นมนุษย์ได้นี้ต้องเป็นที่เชื่อถืออยู่ลึก ๆ ในจิตสำนึก ถึงแม้เมื่อพบมนุษย์บางคน บางพวกก็ได้มีความแสดงความรู้สึกจริงใจออกมาต่าง ๆ กัน เช่น ลิงมาเกิดแท้ ๆ สัตว์นรกมาเกิดแน่ ๆ ทั้งนี้ก็ด้วยเห็นจากหน้าตา ท่าทางบ้าง กิริยามารยาท นิสัยใจคอ ความประพฤติบ้าง ซึ่งโดยมากผู้ที่พบเห็นด้วยกันก็จะมีความรู้สึกตรงกันดังกล่าว เป็นความรู้สึกที่เกิดจากความเชื่อนั่นเอง ว่าสัตว์มาเกิดเป็นมนุษย์ได้หรือมนุษย์เกิดมาจากสัตว์ได้

สมัยพุทธกาล มีเรื่องของพระภิกษุรูปหนึ่งมีจิตหวงห่วงผ้าสบงจีวรที่เพิ่งได้มาใหม่ ซักตากไว้บนราว มรณภาพไปขณะผ้านั้นยังไม่แห้ง จิตที่ผูกพันในผ้าสบงจีวรนั้นนำให้ไปเกิดเป็นตัวเล็นเล็ก ๆ เกาะติดอยู่กับผ้า

พระภิกษุอีกรูปหนึ่ง เห็นผ้าสบงจีวรไม่มีเจ้าของแล้วก็นำไปใช้ พระพุทธองค์ทรงทราบ...ได้ทรงมีพระพุทธดำรัสห้าม ตรัสให้รอเพราะพระภิกษุรูปนั้นจะสิ้นภพชาติของการเป็นเล็นในเวลาเพียงไม่กี่วัน ถ้านำสบงจีวรนั้นไปในขณะยังเป็นเล็นอยู่ ก็จะโกรธแค้น จะไม่ได้ไปเสวยผลแห่งกุศลกรรมที่ได้ประกอบกระทำไว้เป็นอันมาก นี้เป็นเรื่องหนึ่งที่ทรงรับรองว่าอำนาจจิตจะทำให้มนุษย์ไปเป็นสัตว์ได้

ลัก...ยิ้ม
23-02-2011, 09:38
พึงหนีให้พ้นอำนาจอันน่ากลัวของกรรม

เทวดา... มาเกิดเป็นมนุษย์ได้
มนุษย์... ไปเกิดเป็นเทวดาได้
เทวดา... มาเกิดเป็นสัตว์ได้

สัตว์... เกิดเป็นเทวดาได้
มนุษย์... เกิดเป็นสัตว์ได้ และ
สัตว์... ก็กลับเกิดเป็นมนุษย์ได้


อำนาจอันยิ่งใหญ่ของกรรมเท่านั้น ที่ตกแต่งชีวิตให้เป็นไปได้อย่างไม่น่าเชื่อถึงเพียงนี้ กรรมจึงน่ากลัวจริง ๆ น่าหนีให้พ้นอำนาจกรรมจริง ๆ ทั้งกรรมในอดีตและกรรมในปัจจุบัน

ลัก...ยิ้ม
24-02-2011, 08:56
ชนกกรรม กรรมอันนำไปเกิด

กรรมอันเป็นเหตุนำให้เกิด คือ “ชนกกรรม” เป็นกรรมสุดท้ายก่อนชีวิตจะขาดจากภพภูมินี้ หรือเรื่องสุดท้ายที่จิตผูกพันคิดถึงอยู่ คือชนกกรรมอันนำไปเกิด

นึกถึงความดีที่เป็นบุญเป็นกุศลในขณะก่อนจะดับจิต...จิตก็จะไปสู่สุคติ นำกายไปสุคติด้วย นึกถึงความไม่ดีที่เป็นบาปเป็นอกุศลในขณะก่อนจะดับจิต... จิตก็จะไปสู่ทุคติ นำกายไปทุคติด้วย

จิตที่ใกล้จะแตกดับนั้น...ปกติเป็นจิตที่อ่อนมาก และไม่มีกำลังที่จะต้านทานใด ๆ ทั้งนั้น คุ้นเคยกับความรู้สึกใด เกี่ยวกับเรื่องใด ความรู้สึกนั้น เกี่ยวกับเรื่องนั้น ก็จะเข้าครอบงำจิต มีอำนาจเหนือจิต ทำให้จิตเมื่อใกล้จะดับ...ผูกพันอยู่กับความรู้สึกนั้น เกี่ยวกับเรื่องนั้น

เมื่อจิตดับ คือออกจากร่าง... ก็จากไปพร้อมกับความรู้สึกนั้น เกี่ยวกับเรื่องนั้น นำไปก่อเกิดกายที่ควรแก่สภาพจิตทุกประการ

ลัก...ยิ้ม
25-02-2011, 08:18
อำนาจความยึดมั่นของจิตก่อนแตกดับ

ผู้ที่หวงสมบัติ...กลัวจะมีผู้มานำไป ก่อนจะดับจิตมีใจผูกเฝ้าสมบัติอย่างหวงแหน เมื่อดับจิตก็เคยมีที่ไปเกิดเป็นงูเฝ้าอยู่ที่สมบัตินั้น ผู้ใดเข้าไปใกล้ก็จะแสดงตัวให้เห็นเป็นงูใหญ่ เช่นที่เล่ากันถึงเรื่องที่เกิดขึ้นไม่นานมานี้ว่า... ข้าราชการผู้หนึ่ง มีพระพุทธรูปที่หวงมากอยู่องค์หนึ่ง เมื่อได้ละโลกนี้ไป สหายไปเยี่ยมศพได้ขอดูพระองค์นั้น ขณะกำลังดูอยู่ก็มีงูตัวหนึ่งมาจากไหนไม่ปรากฏ มาแผ่แม่เบี้ยอยู่ใกล้ ๆ ผู้มาขอดูไหวทัน... ก็เข้าใจทันทีว่าเจ้าของได้เฝ้าพระอยู่ด้วยความหวงแหน จึงพูดกับงูดัง ๆ ว่า ไม่ได้คิดจะนำพระไปไหนเพียงแต่มาขอดูเท่านั้น... อย่าเป็นห่วง เพียงเท่านั้นงูก็เลื้อยห่างหายไป นี้เป็นตัวอย่างอย่างหนึ่งที่เกิดขึ้นจริงไม่นานมานี้

ที่เชื่อกันว่าผู้ที่หวงสมบัติมาก ๆ ... ตายไปในขณะที่จิตผูกพันเช่นนั้น ต้องไปเกิดเป็นงู ต้องเฝ้าสมบัติ ไม่ได้ไปเสวยผลของกรรมดีใด ๆ ที่ได้กระทำไว้ จนกว่าใจจะปล่อยวาง ละความยึดถือความหวงแหนสมบัตินั้น ๆ

ลัก...ยิ้ม
28-02-2011, 09:34
พึงตั้งจิตปรารถนาให้กลับมาเกิดเป็นมนุษย์

ด้วยผู้ใหญ่ผู้มีสัมมาทิฐิ มีสัมมาปัญญา แต่ไหนแต่ไรมาท่านเชื่อเรื่องอำนาจความยึดมั่นของจิต ท่านจึงสอนลูกหลานไว้ว่าก่อนจะหลับให้ภาวนาพุทโธ นึกถึงพระพุทธเจ้า และให้ตั้งใจปรารถนาว่าเมื่อจากโลกนี้ไปเมื่อใดก็ตาม ขอให้กลับมาเกิดเป็นมนุษย์ทันที ให้ได้พบพระพุทธศาสนา ท่านสอนกันให้ตั้งใจเช่นนี้ก่อนจะหลับไป และสอนว่าถ้าการหลับไปครั้งนั้นจะไม่ได้กลับตื่นขึ้นมาอีก ก็จะได้ไปดีเป็นไปดังแรงปรารถนา

การได้เกิดเป็นมนุษย์พบพระพุทธศาสนานั้น เป็นมงคลสูงสุดของชีวิต ผู้มีสัมมาทิฐิจึงตั้งจิตปรารถนาอย่างจริงจัง

ลัก...ยิ้ม
01-03-2011, 11:13
ชีวิตนี้เท่านั้นที่จะนำไปสู่ความสวัสดี

ผู้อธิษฐานจิตปรารถนาจะกลับมาเกิดเป็นมนุษย์พบพระพุทธศาสนานั้น คือ ผู้รับรองความสำคัญของชีวิตนี้ที่แม้จะน้อยนักว่า ชีวิตนี้เท่านั้นที่จะนำไปสู่ความสวัสดีมีสุขได้อย่างแท้จริง เพราะชีวิตนี้เท่านั้นที่พร้อมสำหรับการบำเพ็ญบุญกุศลทุกประการ

จะทำดีเพียงไร...ก็ทำได้ในชีวิตนี้ จะทำดีสูงสุดจนเกิดผลสูงสุดคือ การปฏิบัติได้สำเร็จมรรคผลนิพพานพ้นทุกข์ได้สิ้นเชิง ไม่ต้องกลับมาเวียนว่ายตายเกิดอีกต่อไป...ก็ทำได้ในชีวิตนี้

การตั้งจิตอธิษฐาน เพื่อไม่ให้หลงไปภพภูมิอื่นหลังละโลกนี้ไปแล้ว แต่เพื่อให้กลับมาสู่ภพภูมิมนุษย์โดยเร็ว และได้พบพระพุทธศาสนาจึงเป็นความถูกต้อง พึงทำอย่างยิ่ง

ลัก...ยิ้ม
02-03-2011, 09:20
การเลือกชีวิตในภพชาติใหม่ให้มีความสุข

แม้ไม่ต้องการมีความทุกข์ในภพชาติหน้า... ก็ต้องทำใจให้ไม่มีความทุกข์เสียตั้งแต่ในภพชาติปัจจุบันนี้ ไม่ปรารถนาเป็นอะไร ไม่ปรารถนาเป็นอย่างไรในชาติหน้า... ก็ต้องทำใจคือ ทำใจไม่ให้เกาะเกี่ยวข้องอยู่กับอะไรนั้น กับอย่างนั้นตั้งแต่ในปัจจุบันชาติ จึงจะสมปรารถนา ไม่เช่นนั้นก็จะสมปรารถนาไม่ได้

การจะทำใจให้เป็นสุขปราศจากทุกข์...แม้พอสมควรขณะใกล้จะดับจิต คือการเลือกชีวิตในภพชาติใหม่ให้มีความสุข ปราศจากความทุกข์ได้พอสมควร แต่การจะสามารถทำใจให้เป็นเช่นไร ในเวลาใกล้จะดับจิตนั้น ก็มิใช่จะทำได้ทันที โดยมิได้มีความคุ้นเคยกับความรู้สึกเช่นนั้นมาก่อน

ลัก...ยิ้ม
03-03-2011, 10:10
ฝึกจิตให้คุ้นเคยกับสิ่งดีมีมงคล

ความคุ้นเคยกับความรู้สึกอย่างใดอย่างหนึ่ง คือ มีความรู้สึกอย่างใดอย่างหนึ่งเสมอ ๆ หรือบ่อย ๆ เนือง ๆ เช่น การท่องพุทโธไว้ในใจเสมอ นั่นก็คือความคุ้นเคยกับพุทโธ ความคุ้นเคยกับบุคคลใดที่เคยให้ความเมตตาอุปการะ ช่วยเหลือจะทำให้ใจนึกถึงบุคคลนั้นได้โดยอัตโนมัติเมื่อถึงคราวคับขัน

ความคุ้นเคยกับความรู้สึกอย่างใดอย่างหนึ่งนั้นก็เช่นกัน อบรมไว้ให้คุ้นเคยกับความรู้สึกใด เช่น คุ้นเคยกับอารมณ์มีพระพุทโธหรือคุ้นเคยกับการท่องพุทโธ เมื่อถึงเวลาคับขัน... ใจจะไม่ไปยึดมั่นเกาะเกี่ยวกับอะไรอื่นที่ไม่คุ้นเคย แต่จะไปเกาะอยู่กับพระพุทโธที่เป็นยอดของสิริมงคลทั้งปวง

ย่อมได้รับสิริมงคลนั้นอันจักนำให้พ้นพาลภัยใหญ่น้อย ความคุ้นเคยกับสิ่งดีมีมงคลจึงเป็นความสำคัญอย่างยิ่ง ทุกคนผ่านชีวิตในอดีตชาติมาแล้วเป็นอันมาก นับภพชาติไม่ถ้วน มีความคุ้นเคยกับเรื่องราวหรืออารมณ์ต่าง ๆ มาแล้วมากมาย คุ้นเคยกับเรื่องราวหรืออารมณ์ใดมาก... ใจยึดมั่นผูกพันข้องติดอยู่กับเรื่องใด อารมณ์ใดมากมาแต่อดีตชาติ ผลของความยึดมั่นผูกพันนั้นจะนำมาสู่ภพชาติปัจจุบัน

ลัก...ยิ้ม
04-03-2011, 10:35
ภพชาติปัจจุบัน แสดงความผูกพันใจในอดีตชาติ

ดูภพชาติของตนในปัจจุบันแล้วก็พอจะเข้าใจว่า อดีตนั้นตนผูกพันกับเรื่องใด อารมณ์ใดมามาก ดีหรือว่าไม่ดี ผู้ที่มีใจผูกพันอยู่กับการเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ ทำทานการกุศลมามากในอดีตชาติ ก็จะรู้ได้จากปัจจุบัน คือปัจจุบันชาติจะสมบูรณ์พูนสุขด้วยทรัพย์สินเงินทอง

ผู้ที่มีใจผูกพันอยู่กับการเอื้ออาทร ดูแลรักษา ให้ข้าวปลาอาหาร ยารักษาไข้ และเงินทอง เพื่อผู้เจ็บไข้ได้ป่วยมามากในอดีตชาติ ไม่เบียดเบียนชีวิตร่างกายผู้อื่น สัตว์อื่น ก็จะรู้ได้จากปัจจุบันชาติ คือ ปัจจุบันชาติจะสมบูรณ์แข็งแรง ไม่เจ็บไข้ได้ป่วย มีพลานามัยดี อันนับเป็นลาภอย่างยิ่ง

ผู้ที่มีใจผูกพันอยู่กับการระวังรักษากาย วาจา ใจของตนให้สุภาพ อ่อนน้อมต่อผู้ควรได้รับความอ่อนน้อม ยกย่อง ไม่ล่วงเกินดูหมิ่นมามากในอดีตชาติ ก็จะรู้ได้จากปัจจุบัน คือปัจจุบันจะเป็นผู้อยู่ในตระกูลสูง อันผู้อยู่ในตระกูลสูงย่อมเป็นผู้ได้รับความเคารพ อ่อนน้อมยกย่อง ไม่ถูกล่วงเกินดูหมิ่น เป็นไปเช่นเดียวกับที่ตนเองได้ปฏิบัติไว้ต่อผู้อื่นเป็นอันมากในอดีตชาติ

ผู้ที่มีใจผูกพันอยู่กับการช่วยประคับประคองรักษาชีวิตผู้อื่น สัตว์อื่นมามากในอดีตชาติ ไม่เบียดเบียนตัดรอนทำลายชีวิตอื่น ก็จะรู้ได้จากปัจจุบัน คือปัจจุบันจะเป็นผู้มีอายุยืน ไม่ถูกตัดรอน เบียดเบียน ทำลายด้วยเหตุใดทั้งสิ้น ไม่ให้ต้องเป็นผู้มีชีวิตน้อย มีชีวิตสั้น

ผู้ที่มีใจผูกพันอยู่กับการรักษากาย วาจา ใจ อยู่ในศีลบริสุทธิ์มามากในอดีตชาติ จะมีจิตใจผ่องใส จะไม่เศร้าหมอง ก็จะรู้ได้จากปัจจุบันชาติ คือปัจจุบันชาติจะเป็นผู้มีผิวพรรณอันงดงาม หน้าตาผ่องใส เป็นที่เจริญตาเจริญใจผู้พบเห็นทั้งหลาย

ผู้ที่มีใจผูกพันอยู่กับการปฏิบัติธรรมมามากในอดีตชาติ ก็จะรู้ได้จากปัจจุบันชาติ คือปัจจุบันชาติจะเป็นผู้มีปัญญาเฉลียวฉลาด ศึกษาปฏิบัติธรรมเข้าใจง่าย เจริญดีในธรรม

ลัก...ยิ้ม
07-03-2011, 10:13
ผู้กระทำกรรมดี ย่อมได้เสวยผลของกรรมดี

ผู้ที่กำลังเสวยผลของกรรมดีในอดีตชาติต่าง ๆ กัน เช่น ได้เกิดในตระกูลสูง สมบูรณ์บริบูรณ์ด้วยทรัพย์สินเงินทอง มีร่างกายแข็งแรง ไม่ถูกเบียดเบียนด้วยโรคภัยไข้เจ็บ อายุยืน หน้าตาผิวพรรณงามผ่องใสหรือมีสติปัญญาเฉลียวฉลาด พึงน้อมใจเชื่อว่าเป็นผลแห่งกรรมดี ที่ได้ประกอบกระทำไว้แล้วเป็นอันมากในอดีตชาติแน่นอน

และแม้ปรารถนาจะเสวยผลดีแห่งกรรมดีนั้นสืบต่อไปในอนาคต ทั้งในอนาคตของปัจจุบันชาติ และทั้งในอนาคตของภพชาติเบื้องหน้าที่พ้นจากภพชาติปัจจุบันไปแล้ว ก็พึงตั้งใจประกอบกรรมดีอันเป็นเหตุดีต่อไปให้มั่นคงสม่ำเสมอ

ลัก...ยิ้ม
08-03-2011, 10:47
ทุกชีวิตล้วนมีทั้งกรรมดีและกรรมไม่ดี

ผลของกรรมดีที่ได้กระทำกันมาที่เป็นความคุ้นเคยกันมา แม้จะสงวนรักษาไว้ให้สืบต่อกันมานานแสนนานต่อไป ก็ต้องพยายามหนีผลของกรรมไม่ดีที่ต้องได้กระทำมาแล้วทุกคนในอดีตชาติ ซึ่งมากมายนับภพชาติไม่ถ้วนและกรรมนั้นกำลังตามมา

ทุกคนล้วนกำลังมีผลของกรรมดีและกรรมไม่ดี ติดตามมาเป็นผลของเหตุที่ได้ทำกันไว้ในอดีตชาติที่สลับซับซ้อนนับไม่ได้

ลัก...ยิ้ม
09-03-2011, 09:00
กรรมส่งผลแก่ชีวิตในชาติปัจจุบัน

ลองนึกถึงภาพของรถบรรทุกขนาดใหญ่กำลังแล่นไล่ทับเราอยู่ ขณะเดียวกันก็มีรถบรรทุกแก้วแหวนเงินทองคันใหญ่กำลังแล่นตาม เพื่อจะยกแก้วแหวนเงินทองเหล่านั้นให้เราด้วย รถทั้งสองคันนั้นกำลังขับแซงกันอย่างรวดเร็ว ผลัดกันนำผลัดกันตาม

นึกภาพนี้แล้วก็นึกถึงใจตนเองว่า ยังมีใจที่จะต้องการแหวน เงินทอง หรือยังมีใจอยากได้อะไรอีกหรือ ในเมื่อรถล่าชีวิตกำลังขับตะบึงติดตามมาอย่างมุ่งมาดปรารถนาตัวเราเป็นเป้าหมาย กรรมไม่ดีกำลังตามส่งผลแก่เราทุกคนแน่นอน

เปรียบผลไม่ดีนั้นดังรถบรรทุกที่กำลังตะบึงไล่กวดเราอยู่ จริง ๆ ที่ยังไม่ทันบดขยี้เราก็เพราะกรรมปัจจุบันของเราที่เรากำลังกระทำอยู่ อาจจะมีแรงพาเราหนีได้ทัน จะอย่างหวุดหวิดน่าเสียวไส้เพียงไร เราผู้ไม่มีตาพิเศษก็หารู้ไม่ กรรมดีเท่านั้นที่เป็นแรงพาเราวิ่งหนีกรรมไม่ดีที่กำลังส่งผลติดตามเราอยู่ในขณะนี้

ลัก...ยิ้ม
10-03-2011, 10:12
มือแห่งอกุศลกรรม

เปรียบกรรมไม่ดีดั่งมือมารที่ใหญ่โตมโหฬารทรงพลังมากมาย มือนั้นกำลังเอื้อมมาจะตะปบเราเพื่อลากเข้าไปขยี้ให้แหลกเหลว หวุดหวิดจะจับปลายผมเราได้ไม่รู้กี่ครั้งกี่หน แต่เราก็ยังพ้นอยู่ได้เพราะความบังเอิญ คือเพราะบังเอิญได้ทำกรรมดีไว้มาก พอเป็นกำลังพาให้หลบหลีกพ้นมือมารไปได้ มีความสวัสดีอยู่ชั่วครั้งชั่วคราว แต่ใช่ว่ามือมารนั้นจะหยุดตามตะครุบเราก็หาไม่ กี่วัน กี่เดือน กี่ปี กี่ภพ กี่ชาติ มือมารจะติดตามตะครุบเราอย่างไม่ท้อแท้เหน็ดเหนื่อย คว้าผิดคว้าถูก ก็จะตามคว้าไม่ลดละ ถ้าปรากฏเป็นภาพก็จะเป็นภาพที่น่ากลัวที่สุด

เด็กที่ไร้เดียงสาเพิ่งจะลืมตาเห็นโลก เคยถูกนำไปฆ่าด้วยความเข้าใจผิดที่ปรากฏเป็นข่าวเมื่อไม่นานมานี้ ทำให้มารดาผู้รักลูกเป็นชีวิตจิตใจแทบเป็นบ้า ทำให้ผู้ที่นำไปฆ่าเพราะเข้าใจผิดต้องได้รับโทษหนัก ได้รับโทษทั้งอาญาบ้านเมืองและทั้งความโกรธแค้นชิงชังของผู้คนมาก หลายเรื่องนี้ชี้ชัดให้เห็นอำนาจที่ยิ่งใหญ่ของกรรม แม้ไม่นำกรรมมาร่วมพิจารณาก็จะเข้าใจไม่ได้เลยว่า เรื่องเช่นนี้เกิดขึ้นได้อย่างไร

เด็กคนหนึ่งถูกมุ่งทำลาย แต่เด็กคนนั้นกลับอยู่รอดปลอดภัย เด็กอีกคนหนึ่งเป็นที่ห่วงใยทะนุถนอมดังแก้วตาดวงใจ แต่กลับถูกทำลายตายไป ทั้งสองยังบริสุทธิ์ไร้เดียงสา เพิ่งมีเวลาเห็นโลกไม่กี่วัน มือของกรรมนำเด็กที่มิได้เป็นที่มุ่งร้ายในปัจจุบัน ไปสู่อำนาจแห่งกรรมในอดีต ซึ่งมิใช่เป็นกรรมของใครอื่น แต่เป็นกรรมของเด็กนั้นเอง ที่ต้องได้กระทำไว้แน่นอนในชาติใดชาติหนึ่งในอดีต ที่พ้นความรู้เห็นของปุถุชนทั้งหลาย แต่หาได้พ้นความรู้เห็นของท่านผู้พ้นแล้วจากความเป็นปุถุชนไม่

ลัก...ยิ้ม
11-03-2011, 11:11
กุศลกรรมเท่านั้นที่ตัดรอนอกุศลกรรมได้

กรณีที่มีเด็กถูกฆ่าผิดตัวนั้น เด็กตายแล้ว... พ้นแล้วจากความเข้าใจของคนทั้งหลายว่า เด็กคนนั้นไปได้สุข ได้ทุกข์ อยู่ในภพภูมิใด แต่เขาก็ได้เป็นอีกหนึ่งที่เตือนใจอย่างแรงให้กลัวกรรม

เมื่อกรรมจะให้ผลคือเมื่อกรรมตามมาทัน ก็ไม่มีอะไรจะยับยั้งได้นอกจากกรรมด้วยกัน คือเมื่ออกุศลตามทัน ก็ต้องกุศลกรรมที่ใหญ่ยิ่งกว่าเท่านั้น ที่จะตัดรอนอกุศลกรรมได้ และช่วยให้สวัสดีไปได้ครั้งหนึ่งคราวหนึ่ง

เรื่องเด็กคนหนึ่งถูกมุ่งร้ายให้ถึงตาย แต่เด็กอีกคนหนึ่งที่เป็นความรักสุดจิตใจของแม่พ่อกลับต้องตายแทน แม่คนหนึ่งที่เป็นฆาตกรต้องรับอาญาแผ่นดินมีชีวิตที่ทรมานในที่คุมขัง แม่คนหนึ่งที่ต้องเสียลูกรักเพียงชีวิตเพราะถูกเอาไปฆ่าผิดตัว ต้องเศร้าโศกสุดแสนไปนานนัก

เด็กคนที่รอดตายอย่างน่าอัศจรรย์ทั้งที่ตนนั้นถูกมุ่งร้าย คงเป็นที่รังเกียจของคนจำนวนไม่น้อย ว่าเป็นเลือดเนื้อเชื้อไขหญิงใจดำอำมหิต ดูผู้เกี่ยวข้องในเรื่องนี้ทั้งหมดถึง ๔ ชีวิต จะเห็นได้ชัดแจ้งว่ากรรมมีอำนาจใหญ่ยิ่งนัก ทุกชีวิตถูกอกุศลกรรมตามทันแน่แท้ และไม่มีกุศลกรรมความดีพอที่จะตัดรอนอกุศลกรรมให้ทันเวลาได้ จึงประสบความทุกข์เดือดร้อนแสนสาหัสไปตามกัน

ลัก...ยิ้ม
14-03-2011, 11:06
มองให้เห็นความน่ากลัวของกรรม

นี่ไม่ใช่เรื่องบังเอิญ...พึงรอบคอบพิจารณาด้วยปัญญาของผู้นับถือพระพุทธศาสนา ให้เห็นความน่ากลัวของกรรม ให้เห็นความน่าสลดสังเวช เมื่อผู้ใดผู้หนึ่งต้องตกอยู่ในอุ้งมือที่ร้ายแรงแห่งกรรม และเราเองก็มีมือกรรมตามตะครุบอยู่เหมือนกัน ไม่อาจเห็นได้ด้วยตา ก็พึงใช้ปัญญาให้เห็นด้วยใจ และพยายามหนีให้เต็มสติปัญญา อย่าให้ถึงวันที่ต้องตกอยู่ในอุ้งมือที่แข็งแกร่งแห่งกรรมร้าย

ผู้ที่เกิดมาดีมีสุขสมบูรณ์ในภพชาตินี้ ก็มิใช่ว่าไม่มีมือแห่งอกุศลกรรมตามตะครุบอยู่...มีแน่ ทุกคนมีมือแห่งอกุศลกรรมตามตะครุบอยู่แน่ แต่ในขณะเดียวกัน ทุกคนก็มีมือแห่งกุศลกรรมเป็นผู้ช่วยอยู่

มือแห่งกุศลกรรมนั้น ถ้าเปรียบให้เห็นง่าย ๆ ก็ต้องเปรียบกับเท้า มีมือผู้ร้ายติดตามตะครุบอยู่ จะหนีพ้นก็ต้องอาศัยเท้า วิ่งให้เร็วที่สุดเท่าที่จะเร็วได้ นั่นก็คือต้องทำบุญทำกุศล คุณงามความดีให้มากที่สุด ให้เต็มสติปัญญาความสามารถเสมอ ความดีเท่านั้นจะช่วยให้พ้นมือแห่งกรรมร้ายได้ แม้จะพ้นอย่างหวุดหวิดก็ต้องดีกว่าไม่พ้น

ลัก...ยิ้ม
15-03-2011, 09:42
บุคคลพึงเชื่อในกรรมและผลของกรรม

ทุกคนมีมือแห่งอกุศลกรรม... ที่น่ากลัวที่สุด ตามตะครุบอยู่ ไม่มีใคร.. ไม่มี และมีกันคนละไม่น้อยด้วย เพราะทุกคนได้ผ่านภพชาติมาแล้วนับไม่ถ้วน ยาวนานนัก ทำอะไรต่อมิอะไรกันมาเสียนักต่อนัก ทั้งกรรมดีและกรรมชั่วสลับซับซ้อนกันอยู่ และลืมกันเสียสิ้นแล้ว

ทั้งบางคนก็ยังไม่อยากเชื่อว่า ได้เคยเกิดมาแล้วในอดีตชาติมากมายหลายชาติจนนับไม่ได้ จึงยิ่งไม่นึกเลยว่า... ได้เคยทำกรรมดี กรรมชั่วมาก่อนจะมาเกิดเป็นมนุษย์ในปัจจุบันชาตินี้

การไม่นึกนี่แหละจะทำให้ประมาท... ไม่พยายามหนีผลแห่งกรรมไม่ดี และเมื่อกรรมไม่ดีตามมาทันถึงตัวเมื่อใด กรรมนั้นก็จะใช้อำนาจที่ร้ายแรงอย่างไม่ปรานีเลย

ลัก...ยิ้ม
16-03-2011, 09:58
สิ่งที่ควรนึกไว้เสมอในชีวิตนี้

ก่อนจะมาเป็นเราแต่ละคนในภูมิของมนุษย์นี้ ต่างก็ได้เป็นอะไรมาแล้วมากมายนับชนิดนับชาติไม่ได้ เป็นกันทั้งเทวดา สัตว์ใหญ่ สัตว์เล็กรวมทั้งมนุษย์ชาย หญิง คนมี คนจน คนสวย คนไม่สวย คนพิการ คนไม่พิการ อายุสั้น อายุยาว ขาว ดำ ไทย จีน แขก ฝรั่ง ต่างเคยมีเคยเป็นกันมาแล้วทั้งนั้น แม้เป็นผู้ระลึกชาติได้ก็จะสลดสังเวชยิ่งนัก และอาจจะสละละวางความโลภ ความโกรธ ความหลงได้เป็นอันมาก

เห็นสุนัขขี้เรื้อนสักตัว... แล้วลองนึกว่าครั้งหนึ่งเราก็เคยเป็นเช่นเดียวกัน เคยกระเซอะกระเซิง เที่ยวหาอาหารกิน ถูกคนตี ถูกสุนัขด้วยกันกัด ถูกใครทั้งหลายที่มาประสบพบผ่าน แสดงกิริยาวาจารังเกียจ เกลียดชัง ไม่ยอมแม้จะให้เข้าไปใกล้เพื่ออาศัยร่มเงากันแดดกันฝน ก้อนอิฐก้อนหินก็ถูกทุ่มถูกขว้างใส่ ให้ต้องถึงกับเลือดตกยางออก ตกใจกลัวภัยนานา แต่จะบอกกล่าวอ้อนวอนให้ผู้ใดเห็นใจ... ก็ทำไม่ได้ อย่างมากก็ได้แต่เพียงเปล่งเสียงโหยหวน ที่หามีผู้ใดเข้าใจในความทุกข์ร้อนไม่

แม้ได้นึกไปในอดีตเช่นนั้น... สมมติตัวเองว่าในภพชาติหนึ่งเป็นเช่นนี้ นึกให้จริงจังเช่นนี้ ก็จะเกิดความกลัวกรรม...เพราะย่อมได้ความเข้าใจได้ว่า กรรมไม่ดีแน่แท้ที่ทำให้ชีวิตต้องเป็นเช่นนี้

ลัก...ยิ้ม
17-03-2011, 10:35
สร้างความเข้าใจที่ถูกต้องเกี่ยวกับกรรม

อย่าเป็นผู้ปฏิเสธเรื่องกรรม และการให้ผลของกรรมอย่างปราศจากเหตุผล คืออย่าปฏิเสธดื้อ ๆ ว่าใครจะเคยเกิดเป็นอะไรมาก่อนก็ตาม ก็ไม่ใช่เรา เราไม่เคยเกิดเป็นเช่นนั้น คนจะเกิดมาแต่สัตว์ไม่ได้ สัตว์จะไปเกิดเป็นคนก็ไม่ได้... ไม่มีเหตุผล เป็นความเชื่อที่ปราศจากเหตุผล เป็นคนสมัยใหม่แล้วจะเชื่ออย่างนั้นไม่ได้ เพื่อความไม่ประมาทจงอย่าปฏิเสธโดยไม่รู้จริงเช่นนี้ เพราะวันหนึ่งจะหนีไม่พ้นผลที่น่ากลัวนักของกรรม

เด็กบางคนวิ่งเล่นอยู่อย่างสนุกสนานในโรงเรียน อยู่ ๆ ก็มีลูกปืนแล่นเข้าตัดชีวิต... ปลิดชีพจากโลกนี้ไปอย่างง่ายดาย เด็กตายไปแล้ว... ไปเป็นสุข ไปเป็นทุกข์ก็เรื่องหนึ่ง แต่มารดา บิดาผู้ต้องสูญเสียลูกไปปุบปับ เป็นอีกเรื่องหนึ่งที่พึงพิจารณาให้เกิดความเข้าใจในเรื่องของกรรม และการให้ผลของกรรมว่า ต้องเคยทำความทุกข์แสนสาหัสให้เกิดแก่ผู้ใดมาก่อนแล้วในอดีต จึงต้องมาได้รับความทุกข์แสนสาหัสจากผู้ที่ไม่รู้จักหน้าตา ผู้ที่ไม่ปรารถนาจะก่อทุกข์โทษภัยใด ๆ เลย และทุกคนมีโอกาสที่จะประสบเหตุการณ์เช่นนั้น เป็นไปได้ที่อยู่ดี ๆ จะต้องสูญเสียยิ่งใหญ่ เช่น มารดา บิดาที่เสียลูกไปอย่างไม่รู้ต้นสายปลายเหตุ รู้ได้แน่นอนเพียงแต่ว่า... นั่นเป็นผลของกรรมไม่ดีที่ต้องได้กระทำไว้ในภพชาติใดชาติหนึ่งแน่นอน

ลัก...ยิ้ม
18-03-2011, 10:09
สิ่งสำคัญที่ควรอบรมให้ยิ่งในชีวิตนี้

พระสำคัญองค์หนึ่ง... ซึ่งเป็นที่รู้จักกันดีว่าเป็นพระดี เป็นพระสำคัญยิ่งคือ สมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต พรหมรังสี) วัดระฆังโฆสิตาราม มีเรื่องเล่าถึงท่านว่า ครั้งหนึ่งพระในวัดของท่านตีเพื่อนพระด้วยกันจนหัวแตก ท่านได้ชำระความด้วยการบอกพระที่เป็นเจ้าทุกข์ว่า เป็นฝ่ายผิดเพราะเป็นผู้ทำเขาก่อน

เมื่อเป็นที่พิศวงสงสัยที่ท่านตัดสินเช่นนั้น ท่านก็อธิบายว่า... พระองค์ที่ถูกตีหัวแตกในชาตินี้ต้องได้ตีพระอีกองค์มาก่อน ไม่ในชาติใดก็ชาติหนึ่ง ถ้าจะให้รับโทษที่ทำในชาตินี้ก็จะไม่สิ้นสุดเวรกรรม ถ้าไม่ถือโทษความผิดในชาตินี้ ก็จะเป็นอันเลิกแล้วต่อกัน ท่านได้ถามความสมัครใจของพระองค์ที่ถูกตีหัวแตกว่าต้องการอย่างไร พระองค์นั้นก็ยินดียกโทษ ไม่เอาความเป็นอันเลิกแล้วต่อกัน ท่านว่าจะได้ไม่มีการจองเวรกันต่อไป

เรื่องนี้ท่านสอนให้เห็นว่า... เมื่อทำกรรมใดแล้ว จักต้องได้รับผลตอบแทนแน่..แม้ข้ามภพข้ามชาติ ทำกรรมใดจักได้รับผลนั้น ผู้ใดทำผู้นั้นจักได้รับ ไม่ช้าก็เร็วต้องได้รับและจะไม่จบสิ้นแม้ไม่มีการเลิกผูกเวร แต่ถ้าเลิกผูกเวรก็จะจบสิ้นเพียงนั้น การให้อภัยด้วยใจจริงในความผิดของผู้อื่นทีทำต่อตน จึงเป็นความสำคัญ เป็นสิ่งที่ควรอบรมให้ยิ่ง

ลัก...ยิ้ม
21-03-2011, 11:27
การระลึกชาติแสดงถึงความมีภพชาติ

คนระลึกชาติได้ทุกวันนี้ยังมีอยู่ บางคนก็ระลึกได้ตั้งแต่อายุยังน้อย พอพูดได้ก็บอกเป็นเรื่องเป็นราว... ขอไปหาแม่เก่าพ่อเก่าที่บ้านนั้นบ้านนี้ บางคนเห็นรูปใครบางคนก็สนใจมากมาย ถามชื่อและบางรายก็บอกเล่าเรื่องอดีต เคยใกล้ชิดกับผู้นั้นผู้นี้ เคยเป็นทหารไปร่วมรบในอดีตกาลนานไกล

ที่น่าอัศจรรย์ก็คือที่เด็กชายเล็ก ๆ บางคนเล่าว่า เคยเป็นทหารร่วมรบด้วยกันกับสมเด็จพระบุรพบรมกษัตริยาธิราชเจ้าบางพระองค์ ทั้งที่เขายังเด็กไร้เดียงสา เขายังไม่ทันจะรู้ว่าพระมหากษัตริย์ของเขาพระองค์นั้นทรงเป็นนักรบผู้ยิ่งใหญ่ และเขาก็ยังบริสุทธิ์เกินกว่าจะคิดแต่งเรื่องราวขึ้นหลอกลวงเพื่อประโยชน์อย่างใด ผู้ที่ได้ฟังเขาพูดอย่างเด็กทารกไร้เดียงสา จึงยอมรับว่าเขากำลังระลึกได้ถึงในอดีตชาติของเขานี้เป็นตัวอย่างหนึ่ง ที่แสดงความมีภพชาติในอดีตของคนทั้งหลาย สัตว์ทั้งหลายในปัจจุบันชาติ

ท่านพระอาจารย์สำคัญองค์หนึ่งที่เป็นพระปฏิบัติ ท่านเดินป่าอยู่เป็นประจำในชีวิตของท่าน โดยเพื่อนปฏิบัติธรรมร่วมทางไปด้วยบ้างเป็นครั้งคราว เป็นที่รู้กันดีว่าเมื่อพบช้างในระหว่างทาง ท่านพระอาจารย์องค์นั้นก็จะต้องเป็นผู้นำเจรจาปราศรัยกับช้าง ท่านจะพูดจากับช้างใหญ่ด้วยภาษามนุษย์ และท่านจะใช้วาจาไพเราะอ่อนโยนยิ่งนัก เป็นที่เจริญหู เจริญใจ ช้างก็ฟังท่านโดยดี เมื่อท่านขอให้หลีก... ก็จะหลีก ขอให้หลบ... ก็หลบ ขอให้ไปให้พ้น... ก็จะไปให้พ้น

ท่านทำได้เช่นนี้โดยที่องค์อื่นทำไม่ได้ เพราะอะไรน่าจะตั้งปัญหานี้ขึ้น และผู้ไม่ปฏิเสธว่าผู้อยู่ในปัจจุบันชาตินั้นมีอดีตชาติ ย่อมจะยอมคิดว่าท่านพระอาจารย์องค์นั้น ท่านคงจะมีอะไรเกี่ยวข้องกับช้างมาแล้วในอดีตชาติ และจะต้องเกี่ยวข้องกับช้างอย่างสำคัญด้วย ในชาตินี้ท่านจึงสามารถพูดจากับช้างได้รู้เรื่อง และช้างก็ยินดีอ่อนให้กับท่านอย่างน่าอัศจรรย์นัก

เมื่อคิดเช่นนี้ก็น่าจะคิดต่อไปได้ว่า จากช้างก็มาเป็นมนุษย์ได้ สำหรับผู้มีญาณหยั่งรู้ไปในอดีตย่อมรู้ได้ว่าท่านพระอาจารย์องค์นั้น ท่านอาจจะเคยเกิดเป็นช้างสำคัญก่อนจะมาเป็นมนุษย์ในภพชาตินี้ก็เป็นได้ และก็เป็นได้อีกเช่นกันที่ท่านอาจจะเกิดเป็นช้างอยู่หลายภพหลายชาติ ในบรรดาภพชาติที่นับไม่ถ้วน

ลัก...ยิ้ม
22-03-2011, 10:45
อกุศลกรรมนำไปสู่ทุคติ
เมื่อเราเกิดมาเป็นมนุษย์ในภพชาตินี้ และสามารถมีญาณหยั่งรู้ภพชาติในอดีตของตนที่เป็นสัตว์ เช่นท่านพระอาจารย์องค์สำคัญที่ท่านเล่าไว้ว่าเคยเกิดเป็นไก่ ย่อมรู้ชัดถึงความแตกต่างระหว่างความเป็นคนกับเป็นสัตว์ ย่อมได้ความสลดสังเวชและย่อมได้ความหวาดกลัว ความต้องเวียนว่ายตายเกิดเป็นที่สุด เพราะได้รู้ชัดด้วยตนเองแล้วว่าการพลาดพลั้งทำกรรมไม่ดี ไม่ว่าจะในทางกายหรือทางใจ คือการนำไปสู่ทุคติต่าง ๆ อันไม่เป็นที่พึงปรารถนาอย่างยิ่ง อันจักก่อให้เกิดความทุกข์ร้อนนานาประการ

การที่อยู่ดี ๆ ก็ถูกจี้ถูกปล้นจนถึงชีวิตเป็นการต้องตายจากผู้เป็นที่รัก สิ่งเป็นที่รักอย่างไม่รู้ตัว อย่างไม่อาจขอความช่วยเหลือจากผู้ใดได้ ผู้นับถือพระพุทธศาสนารู้ว่า นั่นเป็นผลของกรรมที่ต้องได้กระทำไว้แล้วในภพชาติใดภพชาติหนึ่ง ซึ่งปุถุชนคนไม่มีญาณพิเศษทั้งหลายหาอาจรู้ชัดไม่ว่า ได้มีการทำกรรมอันเป็นอกุศลเหตุนั้นตั้งแต่เมื่อใด และจะส่งผลเมื่อใด

ลัก...ยิ้ม
23-03-2011, 12:17
ทุกชีวิตผ่านภพชาติในอดีตมามากมาย

แต่ผู้ปฏิบัติธรรมจนสามารถมีความรู้พิเศษจะรู้ได้ และบางทีก็ได้แสดงให้รู้ล่วงหน้า เช่นที่พระอาจารย์สำคัญองค์หนึ่ง ท่านปรารภให้ได้ยินกันเนือง ๆ ว่า ในอดีตท่านเคยขับเกวียนทับเด็กตายโดยจงใจเจตนา ดังนั้นท่านจะต้องได้รับผลกรรมนั้นคือ จะต้องถูกรถชนจนเสียชีวิตแน่ในภพชาตินี้

ท่านปรารภอยู่นานปี และแล้ววันหนึ่งท่านก็เตรียมตัวออกเดินทางจากวัด เมื่อถูกทักท้วงว่ารุ่งขึ้นจึงจะถึงวันที่ท่านได้รับอาราธนาไปในการทำบุญที่บ้านหนึ่ง ท่านก็ตอบง่าย ๆ ตรงไปตรงมาว่า ถึงเวลาวันนั้นแหละ ถูกแล้ว ไม่มีผู้เข้าใจความหมายของท่าน

และในวันนั้นเอง เมื่อออกไปพ้นวัดเพียงไม่นาน รถที่ท่านนั่งไปก็คว่ำ... ทับร่างท่านมรณภาพทันที ท่านมรณภาพองค์เดียว คนอื่นทุกคนปลอดภัย หลังจากนั้นไม่กี่วันได้มีการทำศพท่าน ปรากฏว่าอัฐิของท่านที่ยังไม่ทันเย็นสนิทได้กลายเป็นมณีสีสวยงามต่าง ๆ กัน ที่รู้จักกันดีในบรรดาพุทธศาสนิกชนทั้งหลายว่า นั่นคือพระธาตุ... เครื่องหมายแสดงความไกลกิเลสสิ้นเชิงแล้ว พระอาจารย์องค์นี้ท่านไม่เพียงแสดงให้เห็นอำนาจของกรรมที่ผู้ใดได้ทำแล้ว จักต้องได้รับผลแม้จะปฏิบัติธรรมสูงสุดก็ยังหนีไม่พ้น ท่านยังแสดงให้เข้าใจด้วยว่าทุกชีวิตผ่านภพชาติในอดีตมาแล้ว จะต้องผ่านมามากมายด้วยกันทั้งนั้น

ลัก...ยิ้ม
25-03-2011, 11:25
มือแห่งบุญ มือแห่งบาป

เป็นที่เห็นกันว่า ทุกคนมีชีวิตที่มิได้ราบรื่นเสมอไป ไม่มีสุขตลอดชีวิต ไม่มีทุกข์ตลอดชีวิต ไม่พบแต่สิ่งที่ดีงามตลอดชีวิต ไม่พบแต่สิ่งชั่วร้ายตลอดชีวิต แต่ละคนพบอะไร ๆ ทั้งดีทั้งร้าย หนักบ้าง เบาบ้าง โดยที่บางทีก็ไม่เป็นที่เข้าใจว่าทำไมจึงต้องเป็นเช่นนั้น เช่น บางคนเกิดในครอบครัวที่ต่ำต้อย ลำบากยากจน พอเกิดได้ไม่นาน เงินทองจำนวนมากก็เกิดในครอบครัว เป็นลาภลอยของมารดาบิดาบ้าง เป็นความได้ช่องได้โอกาสทำธุรกิจการงานบ้าง ใคร ๆ ก็ต้องพูดกันว่าลูกที่เกิดมาใหม่นั้นเป็นผู้มีบุญ ทำให้มารดาบิดามั่งมีศรีสุข

ถ้าไม่คิดให้ดีก็เหมือนจะเป็นการพูดไปเรื่อย ๆ ไม่มีมูลความจริง และทั้งผู้พูดผู้ฟังก็มักจะไม่ใส่ใจพิจารณา ให้ได้ความรู้สึกลึกซึ้งจริงจัง แต่ถ้าพิจารณากันให้จริงจังด้วยการคำนึงถึงเรื่องกรรม และการให้ผลของกรรมก็น่าจะเชื่อได้ว่า เด็กที่เกิดใหม่นั้น... เป็นผู้มีบุญมาเกิด

ผู้มีบุญ คือ ผู้ที่ทำบุญทำกุศลทำคุณงามความดีไว้มากในอดีตชาติ อันความเกิดขึ้นของผู้มีบุญนั้น ย่อมเกิดขึ้นพร้อมกับมีบุญห้อมล้อมรักษา แม้ชนกกรรมอันนำให้เกิด จะนำให้เกิดลำบาก แต่เมื่อบุญที่ทำไว้มากกว่ากรรมไม่ดีที่นำให้ลำบากก็จะต้องถูกตัดรอนด้วยอำนาจของกุศลกรรม คือบุญอันยิ่งใหญ่กว่า คือ เกิดมามารดาบิดายากจนมือแห่งบุญก็จะต้องเอื้อมมาโอบอุ้มให้พ้นจากความลำบากยากจน ให้มั่งมีศรีสุขควรแก่บุญที่ได้ทำไว้

ผู้ที่เกิดในที่ลำบากยากจน แต่เมื่อมีบุญเก่าได้กระทำไว้มากมายเพียงพอ มือแห่งบุญก็จะเอื้อมมาโอบอุ้มให้พ้นความยากลำบากได้อย่างรวดเร็ว พ้นจากความยากจนดังปาฏิหาริย์ มีตัวอย่างให้เห็นอยู่... เด็กบางคนทำบุญทำกุศลไว้ดี แต่ชนกกรรมนำให้เกิดกับมารดาบิดาที่ยากแค้นแสนสาหัส พอเกิดมารดาบิดาก็หาทางช่วยให้ลูกพ้นความเดือดร้อน นำเอาไปวางไว้หน้าบ้านผู้มั่งมีศรีสุข ที่รู้กันว่าเป็นผู้มีเมตตาแล้วเด็กคนนั้นก็ได้เป็นสุข อยู่ในความโอบอุ้มของมือแห่งบุญ ควรแก่บุญที่เขาได้กระทำไว้

แต่เด็กบางคนเกิดในที่ต่ำต้อยยากไร้ และเป็นผู้ที่มิได้ทำบุญทำกุศลมาในอดีตชาติเพียงพอ ย่อมไม่มีมือแห่งบุญมาโอบอุ้มเขาให้พ้นความลำบากยากจน แม้เมื่อมารดาบิดาจะพยายามเสี่ยงนำเขาไปวางไว้ในที่ที่หวังว่าจะมีผู้ดีมีเงินมานำไปอุปการะเลี้ยงดู ความไม่มีบุญทำไว้ก่อน... ทำให้ไม่เป็นไปดังความปรารถนาของผู้เป็นมารดาบิดา เขาอาจจะถูกทิ้งอยู่ตรงที่ที่ถูกนำไปวางและสิ้นชีวิตไป ณ ที่นั้นอย่างโดดเดี่ยวเดียวดาย อาจจะทรมานด้วยความหนาว ความร้อน ความหิว โดยหาผู้ช่วยเหลือไม่ได้ และผู้เป็นมารดาก็อาจถูกจับไปรับโทษอาญา... นั้นเป็นเรื่องอำนาจอันยิ่งใหญ่นักของกรรมอย่างแท้จริง

ลัก...ยิ้ม
28-03-2011, 09:33
ผู้มีปัญญากลัวกรรมยิ่งนัก

อดีตชาติของทุกคนมีมากมายนัก จึงได้ทำกรรมไว้มากมายนัก กุศลกรรมบ้างอกุศลกรรมบ้าง ชีวิตในปัจจุบันจึงมีดีบ้างไม่ดีบ้าง สุขบ้าง ทุกข์บ้าง คนมั่งมีเป็นมหาเศรษฐี... ก็ด้วยอำนาจของกุศลกรรม คือการบริจาคช่วยเหลือเจือจุนผู้อื่นที่ได้กระทำไว้ในอดีตชาติ

เมื่ออกุศลกรรม คือการคดโกง เบียดเบียนทรัพย์สินให้ผู้อื่นต้องเดือดร้อน ที่ได้กระทำไว้ในอดีตชาติตามมาส่งผล และเมื่อเป็นผลที่แรงกว่า มีกำลังกว่ากุศลกรรมที่กำลังเสวยผลอยู่ อกุศลกรรมก็จะตัดรอนกุศลกรรม ส่งผลไม่ดีของอกุศลกรรมให้เกิดแทน ความมั่งมีก็จะกลับเป็นความไม่มี เงินทองของมีค่าจะสูญหายหมดไป อกุศลกรรมแรงมาก... ก็สามารถทำให้มหาเศรษฐีสิ้นเนื้อประดาตัวได้ ที่กำลังเป็นสุขก็จะกลับเป็นทุกข์ เดือดร้อน อำนาจของกรรมเป็นเช่นนี้จริง

ผู้มีปัญญาจึงกลัวกรรมยิ่งกว่ากลัวอะไรอื่น กลัวเพราะรู้ว่า เมื่อทำกรรมไม่ดีไว้แล้ว จะต้องได้รับผลไม่ดี และเมื่อถึงเวลาที่กรรมส่งผลไม่ดีมาถึงตัวแล้ว แม้ตั้งแต่เกิดมาในชาตินี้จะไม่เคยทำกรรมไม่ดีเช่นนั้น แต่ก็ต้องได้รับผลไม่ดี ที่อาจทำให้พิศวงสงสัยกันมากจนเป็นมิจฉาทิฐิ... ความเห็นผิด คือเห็นไปว่าทำดีไม่ได้ดี ซึ่งความจริงไม่ใช่เช่นนั้น ทำดีต้องได้รับผลดีเสมอ ทำไม่ดีจึงจะได้รับผลไม่ดี

ลัก...ยิ้ม
29-03-2011, 11:24
ไม่มีอะไรยับยั้งการส่งผลของกรรมได้

เพียงในชาติปัจจุบันเท่านั้น... มีอายุกันเพียงอย่างมากร้อยปีเท่านั้น ทุกคน ทุกสัตว์ต่างก็ทำกรรมมาแล้วมากมายนับไม่ถ้วน เป็นกรรมดีคือกุศลกรรมบ้าง เป็นกรรมชั่วคืออกุศลกรรมบ้าง มากมายจริง ๆ เพียงทำในชาติเดียวก็มากมายจริง ๆ แล้ว เมื่อได้ทำมานับภพนับชาติไม่ถ้วนจะมากมายเพียงไหน

ขณะที่มาเป็นอยู่ในภพนี้ชาตินี้ ได้ละภพชาติในอดีตที่ทำกรรมเอาไว้เบื้องหลังมากนักหนา กรรมดีกรรมชั่วอาจไม่เสมอกัน บางคนกรรมดีอาจมากกว่า บางคนกรรมชั่วอาจมากกว่า

บางคนทำกรรมดีที่ไม่สำคัญ ไม่ยิ่งใหญ่ แต่ทำกรรมไม่ดีที่สำคัญหนักนักหนา เช่นนี้... ย่อมได้เสวยผลตามเหตุคือ ในภพชาตินี้ย่อมประสบส่วนดีน้อยกว่าส่วนไม่ดี ส่วนผู้ที่ทำกรรมดีมาก ทำกรรมไม่ดีน้อย เช่นนี้... ย่อมได้เสวยผลตามเหตุคือ ในภพชาตินี้ย่อมประสบส่วนดีมากกว่าส่วนไม่ดี ดังมีตัวอย่างให้พบเห็นอยู่ทั่วไปในทุกวันนี้

เมื่อกรรมดีจะส่งผล... ก็ไม่มีอะไรหรือผู้ใดจะกีดกั้นยับยั้งได้ กรรมไม่ดีที่แรงกว่าเท่านั้นที่จะกีดกั้นขัดขวาง ไม่ให้กรรมดีส่งผล แต่ถ้ากรรมดีแรงกว่ากรรมไม่ดี กรรมดีก็ต้องส่งผลจนได้ กรรมไม่ดีหาอาจขัดขวางได้ไม่ อะไร ๆ ก็หาอาจขัดขวางได้ไม่

เมื่อกรรมไม่ดีจะส่งผล... ก็ไม่มีอะไรหรือผู้ใดจะกีดกั้นยับยั้งได้ กรรมดีที่แรงกว่าเท่านั้นที่จะกีดกั้นขัดขวาง ไม่ให้กรรมไม่ดีอาจส่งผลได้ แต่ถ้ากรรมไม่ดีแรงกว่ากรรมดี กรรมไม่ดีก็ต้องส่งผลจนได้ กรรมดีหาอาจขัดขวางได้ไม่ อะไร ๆ ก็หาอาจขัดขวางได้ไม่

ลัก...ยิ้ม
30-03-2011, 09:45
เมื่อรู้ความจริงว่าชีวิตนี้น้อยนัก
ย่อมไม่ประมาทและพยายามหนีให้พ้นกรรม
ชีวิตนี้น้อยนัก คือ ชีวิตในภพภูมินี้ในชาตินี้ น้อยกว่าชีวิตที่ผ่านมาแล้วในอดีตชาติมากมายอย่างไม่อาจประมาณได้ถูกถ้วน ผู้มีปัญญาเมื่อนึกถึงความจริงนี้ ย่อมไม่ประมาท ย่อมเห็นภัยที่จะตามมา เป็นภัยที่จักเกิดแต่กรรมทั้งหลาย ที่ได้ประกอบกระทำไว้ด้วยตนเองในอดีตชาติที่มากมายพ้นประมาณ ย่อมพยายามหนีให้พ้น... หนี ให้กรรมไม่ดีตามไม่ทัน หรือไม่ก็พยายามสร้างกำลังที่จะเอาชนะความแรงของกรรมที่ไม่ดีให้ได้ เพื่อไม่ต้องรับผลของกรรมไม่ดีที่อาจร้ายแรงทำความชอกช้ำให้แก่ชีวิตได้เป็นอันมาก

ผู้ที่มุ่งแต่จะได้ในชาตินี้ โดยที่ไม่ได้คำนึงถึงความถูกต้องชอบธรรม เป็นการทำกรรมไม่ดีเป็นส่วนใหญ่ เท่ากับให้โอกาสกรรมไม่ดีในอดีตชาติที่ได้สั่งสมไว้ ให้ตามส่งผลทันในชาตินี้ง่ายเข้า และส่งผลได้แรงเต็มที่ง่ายเข้า โดยไม่มีกรรมดีเพียงพอจะช่วยเหลือยับยั้ง หรือผ่อนคลายให้เบาลง

ลัก...ยิ้ม
31-03-2011, 14:08
มีจิตใจเชื่อมั่นต่อพระพุทธเจ้าอย่างมั่นคง

ผู้ที่ได้รับอะไร ๆ ร้ายแรงต่าง ๆ เช่น เสียสติบ้าคลั่งอย่างไม่ทันจะรู้ตัว ประสบอุบัติเหตุร้ายแรงถึงเสียชีวิต หรือไม่ก็เสียหมดทั้งครอบครัว หรือประสบความหายนะ สิ้นเนื้อประดาตัว ต้องเศร้าโศกเสียใจจนขาดสติ เป็นต้น

ผลของกรรมไม่ดีเช่นนี้... แม้จะติดตามทุกคนผู้ทำเหตุแห่งกรรมไม่ดีนั้นอยู่ แต่ก็อาจไม่สามารถตามทัน ถ้าผู้นั้นจะพยายามวิ่งหนีอยู่เต็มสติปัญญา เต็มความสามารถ

พลังสำคัญประการหนึ่งที่จะช่วยให้สามารถหนีพ้นมือแห่งกรรมไม่ดีที่ติดตามตะครุบอยู่ได้ และเป็นพลังที่จะสามารถทำให้เกิดขึ้นได้ไม่ยาก คือ การนึกถึงพระพุทธเจ้า นึกถึงพุทโธ นึกไว้ให้คุ้นเคยให้เป็นอันหนึ่งอันเดียวกับใจ สิ่งใดที่เป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน หมายถึงความจะไม่แยกจากกันได้เลย... ไม่ว่าเวลาใดก็ตาม จะสุข จะทุกข์ จะเป็นจะตาย ใจก็จะมีพุทโธ พุทโธ... จะมีอยู่ในใจ

กรรมดีก็ตาม กรรมไม่ดีก็ตาม เมื่อจะส่งผลจะต้องมีสื่อมีเครื่องมือเป็นเครื่องนำให้ถึงผู้จะต้องรับผลแห่งกรรมนั้น ทั้งกรรมดีและกรรมไม่ดี เช่น คนเมาสุราขับรถพุ่งเข้าชนผู้จะต้องรับผลแห่งกรรมที่จะถูกรถนั้นชนถึงตาย หรือถึงพิการ หรือบาดเจ็บสาหัส ต้องเสียเงินทองรักษาพยาบาลมากมาย คนเมาสุราที่ขับรถพุ่งเข้าชน คือเครื่องมือแห่งกรรม ซึ่งมีสุราเป็นเครื่องมือบังคับให้พุ่งตรงจุดหมายได้ คือให้กรรมส่งผลได้สำเร็จ หรือที่เรียกว่าให้กรรมตามทันได้

แต่แม้ผู้ที่กรรมนั้นตามอยู่ เป็นผู้กำลังวิ่งหนีกรรมไม่ดีอยู่เต็มกำลังด้วยการทำความดีต่าง ๆ มีการท่องพุทโธให้เป็นอันหนึ่งอันเดียวกับใจ เป็นต้น พุทโธอันเป็นยอดของความดี... ก็จะเปรียบได้ดังพลังจิตอันแรงกล้าของนักสะกดจิต ที่สะกดผู้ขับรถซึ่งกำลังมึนเมาด้วยฤทธิ์สุราให้หยุดรถเสียทันที ก่อนจะทันพุ่งเข้าชนเป้าหมายที่กรรมตามอยู่ ความสวัสดีย่อมมีแก่ผู้ที่กรรมตามติดอยู่นั้นอย่างเป็นที่น่าอัศจรรย์นัก

ลัก...ยิ้ม
04-04-2011, 11:02
ผู้มีสัมมาทิฐิ ความเห็นชอบ
ย่อมไม่ปฏิเสธในสิ่งที่ไม่มีทางเสียหาย
อันกรรมไม่ดีนั้น... มีคู่ที่มักจะใช้ด้วยกัน ซึ่งมีความหมายในทางไม่ดี คือ เจ้ากรรมนายเวร ผู้มีสัมมาทิฐิย่อมไม่ปฏิเสธความเชื่อที่มีอยู่ว่าเจ้ากรรมนายเวรนั้นมี ไม่ใช่ไม่มี

เจ้ากรรมนายเวร คือ ผู้ที่ถูกทำร้ายก่อนและผูกอาฆาตจองเวร แม้ไม่อาฆาตจองเวรก็ไม่เป็นเจ้ากรรมนายเวร คือไม่เป็นผู้คิดร้าย ไม่ติดตามทำร้ายให้เป็นการตอบสนองหรือที่เรียกกันว่าแก้แค้น

ผู้มีสัมมาทิฐิ... ความเห็นชอบประกอบด้วยสัมมาปัญญา แม้จะไม่เห็นหน้าตาของเจ้ากรรมนายเวร แต่ย่อมไม่ประมาท ไม่ว่าเป็นสิ่งไม่มีและย่อมไม่เห็นเป็นความเหลวไหล ไม่มีเหตุผล ที่ท่านสอนให้ทำบุญอุทิศท่านผู้เป็นเจ้ากรรมนายเวร เช่นเดียวกับท่านผู้เป็นมารดาบิดา บุพการี ผู้มีพระคุณทั้งปวง อะไรที่ไม่มีทางเสียหาย มีแต่เป็นทางได้หรือเสมอตัว ผู้มีปัญญาย่อมทำ ย่อมไม่ปฏิเสธ

เหตุที่ต่างก็มีภพชาติมานับไม่ถ้วนในอดีต ต่างก็ทำกรรมทั้งดีและไม่ดีไว้นับไม่ถ้วนเช่นกันในภพชาติทั้งหลายนั้น เจ้ากรรมนายเวรที่ได้ไปก้ำเกินเบียดเบียนทำร้ายไว้ก็ย่อมมีไม่น้อยเช่นกัน ทำนองเดียวกับผู้เป็นมารดาบิดา บุพการี ผู้มีพระคุณก็ต้องมีมากมายเช่นกัน ชาตินี้แม้จะไม่อาจล่วงรู้ได้ว่าเป็นใครต่อใครบ้าง แต่ก็พึงยอมรับว่า มีอยู่ทั้งในภพภูมิที่พ้นความรู้เห็นของผู้ไม่มีความสามารถ และทั้งที่อยู่ในภพภูมิเดียวกับเราทั้งหลายนี้ด้วย ทั้งเจ้ากรรมนายเวรและผู้มีพระคุณ

ลัก...ยิ้ม
05-04-2011, 10:21
ตั้งใจจริงที่จะขอโทษ
และตอบแทนต่อเจ้ากรรมนายเวร ด้วยการอุทิศบุญกุศล

เมื่อจะขอโทษท่านผู้เป็นเจ้ากรรมนายเวร ก็พึงทำเช่นเดียวกับเมื่อจะตอบแทนพระคุณท่านผู้มีพระคุณ คือทำบุญทำกุศลด้วยความตั้งใจจริงที่จะอุทิศให้ แล้วตั้งใจจริงบอกกล่าวให้รับรู้ ให้ยอมรับ ในความมีเจตนาจริงใจที่จะขอโทษและตอบแทน

การบอกกล่าวด้วยใจจริงต่อผู้ไม่มีตัวตนปรากฏให้เห็นเช่นนี้... ไม่ใช่ความหลง ไม่ใช่ความไร้เหตุผล แต่เป็นความปฏิบัติที่ถูกต้องและจะได้ผล อาจพาพ้นมือแห่งกรรมไม่ดีที่ตามอยู่ได้ การทำบุญทำกุศล แม้จะไม่ปรารถนาให้เกิดผลแก่ตนเองโดยตรง ผลก็ย่อมเกิดแน่นอนอยู่แล้ว

ดังนั้น ในการทำบุญทำกุศลทุกครั้ง จึงพึงทำใจให้กว้าง เอื้ออาทรไปถึงผู้อื่นทั้งนั้น ที่แม้ว่าจะอยู่ต่างภพภูมิกัน ก็ตั้งใจอุทิศให้อย่างจริงใจ ให้ด้วยสำนึกในความผิดพลาดก้ำเกิน ที่ตนอาจได้กระทำแล้วต่อใคร ๆ ทั้งนั้น ให้ด้วยสำนึกในพระคุณที่ได้รับจากผู้มีพระคุณทั้งหลาย ทั้งโดยตรงและโดยอ้อม

ค่อย ๆ คิด ค่อย ๆ บอกกล่าว แสดงความจริงใจให้อ่อนโยนและไพเราะด้วยถ้อยคำ จะเกิดผลยิ่งกว่าใช้ถ้อยคำและจิตใจที่ไม่ไพเราะจริงใจ ไม่ใช่มนุษย์เท่านั้นที่ชอบความอ่อนโยน ความไพเราะจากใจจริง ผู้ต่างภพภูมิทั้งหลายก็มิได้แตกต่างออกไป ใจหรือจิตของมนุษย์ก็เป็นใจหรือจิตดวงเดียวกัน เมื่อมนุษย์ละชาตินี้ไปสู่ภพชาติอื่น ภพภูมิอื่นแล้วก็พึงระลึกถึงความจริงนี้

ลัก...ยิ้ม
07-04-2011, 11:04
กรรมที่หนักกว่า จักส่งผลแก่ชีวิตก่อน

การส่งผลของกรรมดีและกรรมไม่ดีนั้น... ข้ามภพข้ามชาติได้ กรรมในอดีตชาติส่งผลมาทันในปัจจุบันชาติก็มี ส่งไปถึงในอนาคตชาติก็มี แล้วแต่ผู้ทำกรรมจะสามารถหนีได้ไกลเท่าไร หรือหนีได้นานเท่าไร ก็คือแล้วแต่ว่าในปัจจุบันชาติ ผู้ทำกรรมแล้วในอดีตชาติจะสามารถในการทำจิตใจ ทำบุญทำกุศล หรือว่าทำความดีได้มากเพียงไหน เป็นกรรมที่ใหญ่ยิ่งหนักหนากว่ากรรมไม่ดีหรือไม่

การให้ผลกรรมก็เช่นเดียวกับการตกจากที่สูงของวัตถุ สิ่งใดหนักกว่า เมื่อตกลงจากที่เดียวกัน ในเวลาใกล้เคียงกัน... สิ่งนั้นย่อมถึงพื้นก่อน

เปรียบดังกรรมสองอย่าง คือกรรมดีและกรรมไม่ดีกระทำในเวลาใกล้เคียงกัน กรรมที่หนักกว่า... ไม่ว่าจะเป็นกรรมดีหรือกรรมไม่ดีก็ตาม... ย่อมส่งผลก่อน กรรมที่เบากว่าย่อมส่งผลทีหลัง และย่อมส่งผลทั้งสองแน่นอน ไม่เร็วก็ช้า ไม่ชาตินี้ก็ชาติหน้า ไม่ชาติหน้าก็ชาติต่อไป...ต่อไป... ต่อไป อาจจะมีอีกหลายภพชาติก็ได้ เพราะกรรมไม่ใช่สิ่งที่จะลบเลือนได้ด้วยกาลเวลา นานเพียงไร... กรรมก็ยังให้ผลอยู่เสมอ กรรมจึงมีอำนาจเหนืออำนาจทั้งปวง

ลัก...ยิ้ม
08-04-2011, 11:12
พระพุทธองค์รับรองว่า “ชาติอนาคต” มีแน่

ท่านพระอาจารย์สำคัญองค์หนึ่ง ท่านปรารถนาพุทธภูมิ คือปรารถนาเป็นพระพุทธเจ้า ครั้นมาระลึกชาติได้ว่า เคยเกิดเป็นไก่หลายร้อยหลายพันชาติก่อนที่จะได้มาเป็นมนุษย์ในชาตินี้ ท่านก็เปลี่ยนความปรารถนาที่จะเป็นพระพุทธเจ้ามาเป็นผู้ไกลกิเลส... ไม่ต้องเวียนว่ายตายเกิดต่อไป เพราะท่านสลดสังเวชชีวิตที่ผ่านมาแล้วมากมาย และหวาดเกรงชีวิตที่จะต้องพบอีกต่อไปนับภพนับชาติไม่ถ้วน กว่าจะถึงจุดปรารถนาคือพุทธภูมิ ซึ่งมิใช่ว่าจะไปถึงกันได้โดยง่ายโดยเร็ว จะต้องใช้เวลานานแสนนานในอีกหลายร้อยหลายพันภพภูมิ โดยไม่อาจรู้ได้ว่า กรรมจะนำให้ไปเป็นอะไร ลำบากยากเข็ญอย่างไร

ซึ่งสำหรับท่านผู้ได้รู้แจ้งในอดีตชาติของท่านแล้ว ก็เกิดความกลัวยิ่งนัก ด้วยความพากเพียร พยายามสุดสติปัญญาความสามารถ ที่จะตัดภพชาติอนาคตให้หมดสิ้นไปโดยเร็ว ในที่สุดก็เชื่อกันว่าท่านพระอาจารย์สำคัญองค์นั้น ท่านก็สำเร็จประสงค์ถึงความพ้นทุกข์อย่างสิ้นเชิงได้ในภพภูมิปัจจุบัน

ครูอาจารย์สำคัญ ๆ ท่านรับรอง และพระพุทธเจ้าทรงรับรองว่า ชาติในอนาคตมีอยู่สำหรับผู้ที่ยังไม่สามารถทำกิเลสให้หมดสิ้นได้ และการทำกิเลสให้หมดสิ้นนั้น คนเป็นจำนวนมากทำไม่ได้ในเวลาอันสั้น ทั้งยังมีคนอีกเป็นจำนวนมากที่ไม่สนใจจะทำให้กิเลสหมดสิ้น ยังเกลือกกลั้วอยู่กับกิเลสอย่างหลงผิด ดังนั้นภพชาติสำหรับคนเหล่านี้ยังมีอยู่มากมายนักหนา ใช้เวลานานแสนนานนับภพนับชาติหาได้ไม่ โอกาสที่กรรมจะตามไปถึงจึงมีมากมายนัก ไม่วันใดก็วันหนึ่ง ไม่ชาติใดก็ชาติหนึ่ง

ลัก...ยิ้ม
11-04-2011, 09:46
พึงทำทุกอย่างเพื่อไม่ให้อนาคตต้องเป็นทุกข์
อย่าคิดผิดว่า เมื่อถึงวันนั้นเวลานั้นก็จะจำไม่ได้แล้วว่าเราเป็นเรา อะไรเกิดขึ้นก็ไม่เดือดร้อน ความคิดเช่นนี้อาจจะเกิดแก่เราแล้วในอดีตชาติ และมาในปัจจุบันเมื่อต้องพบกับความเดือดร้อน... เราก็เดือดร้อน มิใช่ว่าเราไม่เดือดร้อน ทั้งที่ไม่ใช่ว่าเราจะจำได้ว่าเราเป็นเรา ไม่ว่าจะเกิดเป็นใคร เป็นอะไร เมื่อใด ภพชาติไหนก็ตาม เมื่อเป็นทุกข์ก็ต้องเป็นทุกข์ เมื่อเป็นสุขก็ต้องเป็นสุข จึงไม่ควรประมาทอย่างยิ่ง จึงควรพยายามทำทุกอย่าง เพื่อไม่ให้ในอนาคตต้องเป็นทุกข์ หรือเพื่อไม่ให้กรรมไม่ดีที่ทำไว้ตามทัน ไม่ว่าเมื่อใดก็ตาม

ลัก...ยิ้ม
12-04-2011, 10:46
ชีวิตนี้สำคัญนัก พึงใช้ให้เป็นประโยชน์ให้สมกับความสำคัญ
ชีวิตนี้แม้น้อยนัก แต่ก็เป็นความสำคัญนัก สำคัญยิ่งกว่าชีวิตในอดีต และชีวิตในอนาคต ที่ว่า “ชีวิตนี้” ก็คือชีวิตในชาติปัจจุบันนี้สำคัญก็เพราะในชีวิตนี้... “เราสามารถหนีกรรมไม่ดีที่ทำไว้ในอดีตได้ และสามารถเตรียมสร้างชีวิตในอนาคตได้ดีเลิศเพียงใดก็ได้ หรือตกต่ำเพียงใดก็ได้" ชีวิตในอดีตล่วงเลยแล้วทำอะไรอีกไม่ได้ต่อไปแล้ว ชีวิตในอนาคตก็ยังไม่ถึง ยังทำอะไรไม่ได้

เช่นนี้จึงกล่าวได้ว่า “ชีวิตนี้สำคัญนัก” พึงใช้ชีวิตนี้ให้เป็นประโยชน์ให้สมกับความสำคัญของชีวิตนี้ ชีวิตนี้น้อยนัก... แต่มีความสำคัญนักด้วยเหมือนกัน ถ้าชีวิตนี้ไม่วิ่งหนีกรรมไม่ดีในอดีต ชีวิตนี้ก็จะรับผลกรรมไม่ดี ถ้าวิ่งหนีก็จะพ้นได้ กรรมไม่ดีจะตามทันหรือไม่ขึ้นอยู่กับชีวิตนี้ ยิ่งกว่านั้นถ้ากรรมตามทันในชีวิตนี้ก็จะตามต่อไปได้อีกในชีวิตอนาคต กรรมไม่ดีที่ทำไว้ในอดีตมากมายอาจจะตามไม่ทันตลอดไปก็ได้ ถ้าทำชาตินี้ให้ดีที่สุด

ลัก...ยิ้ม
18-04-2011, 10:24
ความเป็นไปได้ มีอยู่สำหรับทุกชีวิต
ดูภาพผู้คนในบางประเทศที่อดอยากแสนสาหัส หน้าตาแทบจะไม่เป็นคน เหมือนโครงกระดูกเดินได้ เด็กเล็ก ๆ น่าสงสารไม่มีเนื้อ มีแต่หนังหุ้มกระดูก ผู้ใดเห็นผู้นั้นก็สลดใจอย่างยิ่ง สงสารอย่างยิ่ง เมื่อเกิดความรู้สึกเช่นนั้นก็พึงนึกถึงตนเอง ใครเล่าจะรับรองได้ว่า เมื่อตายไปจากภพชาตินี้แล้ว จะไม่ไปเกิดในประเทศนั้น จะไม่ไปมีสภาพเช่นโครงกระดูกเดินได้ อยู่ด้วยความอดอยากยากแค้นเช่นนั้น

ใครเล่าจะรับรองได้ว่า ในอดีตชาติเราไม่ได้เป็นคนคับแคบ ไม่เคยทำบุญให้ข้าวปลาอาหารแก่ใครเลย มารดา บิดา ผู้แก่ชรา... ก็หาได้สนใจให้ข้าวให้น้ำ ให้มีความสุขอิ่มหนำสำราญไม่ ยิ่งเป็นสัตว์อย่างหมา แมวด้วยแล้ว... ไม่เคยเมตตาปรานีให้ข้าวสักเม็ด ให้น้ำสักหยด เมื่อไม่รู้ตัวว่าเคยเป็นเช่นนี้มาก่อนในอดีตชาติ ก็ไม่อาจรู้ได้ว่าในอนาคต เราจะต้องไปมีสภาพอดอยากจนเป็นโครงกระดูกเดินได้หรือไม่

ความเป็นไปได้มีอยู่สำหรับทุกคน เพราะทุกคนได้ทำกรรมไว้เป็นอันมากต่าง ๆ กัน อันอาจจะเป็นเหตุให้ต้องอดอยากยากแค้นอย่างแสนสาหัส ตั้งแต่ที่เริ่มลืมตามาเห็นโลกไปเกิดในประเทศที่เรียกกันว่าเป็นนรกในโลก

ลัก...ยิ้ม
19-04-2011, 10:38
ชีวิตนี้เท่านั้น ที่มีโอกาสวิ่งหนีกรรม
อย่าประมาท อย่ามั่นใจว่า อนาคตสำหรับเราจะไม่เป็นเช่นนั้น กรรมเช่นนั้นอาจจะวิ่งไล่เรามาโดยที่เราไม่รู้ไม่เห็น แม้ไม่ประมาท... ต้องวิ่งหนีให้สุดกำลังความสามารถ ชีวิตนี้เท่านั้นที่เราจะพบทางหนีได้และชีวิตนี้ก็น้อยนัก มัวผัดวันประกันพรุ่งไม่ได้ พ้นจากชาตินี้ไปแล้วจะไม่มีโอกาสดีให้วิ่งหนีกรรมได้อีกเลย

เมื่อชีวิตนี้น้อยนัก... ผู้มีปัญญา มีสัมมาทิฐิ ก็คิดไปทางหนึ่ง
ผู้เบาปัญญา... มีมิจฉาทิฐิ ก็คิดไปทางหนึ่ง

พวกผู้มีปัญญา มีสัมมาทิฐิ คือความเห็นชอบก็จะคิดได้ว่าชีวิตนี้สั้น อีกไม่เท่าไรก็จะต้องตาย ตายแล้วก็เอาอะไรไปด้วยไม่ได้ เอาไปได้ก็แต่บุญบาป หรือเอาไปได้แต่ความดีความชั่วเท่านั้น พวกผู้มีปัญญาคิดเช่นนี้จึงเร่งทำความดี

ส่วนพวกผู้เบาปัญญา มีมิจฉาทิฐิ คือความเห็นผิดก็จะคิดว่า ชีวิตนี้สั้นอีกไม่เท่าไรก็จะต้องตาย มีวิธีใดจะให้ได้มาซึ่งทรัพย์สินเงินทอง ก็ต้องรีบหาไม่มัวคำนึงว่าจะผิดหรือถูก ผิดก็ช่างให้ได้ก็พอใจ พวกผู้เบาปัญญาคิดเช่นนี้ จึงทำบาปทำความไม่ดีได้เสมอ

ชีวิตนี้สำหรับบุคคลสองประเภทดังกล่าว มีคุณ มีโทษแก่สองฝ่ายแตกต่างกัน เป็นตามทิฐิคือความเห็นดังกล่าว

ลัก...ยิ้ม
20-04-2011, 10:52
พุทธวิธีพาชีวิตหนีให้พ้นจากมือแห่งกรรม

อย่าเป็นผู้มีมิจฉาทิฐิที่โฉดเขลาเบาปัญญาเลย เพราะว่าจะทำชีวิตนี้ให้สูญเปล่า ไม่อาจหนีพ้นมือที่น่าสะพรึงกลัวแห่งกรรมไม่ดี ไม่อาจได้เข้าไปอยู่ในโอบอุ้มทะนุถนอมของมือที่อบอุ่นแห่งบุญคือกรรมดี โอกาสอันดีที่มีอยู่น้อยนัก เพียงชั่วชีวิตอันน้อยนักนี้ก็จะผ่านไปอย่างไม่อาจเรียกกลับคืนได้ กรรมไม่ดีที่ทำไว้แน่ก็จะแห่ล้อมเข้าประชิด แล้วอะไรจะเกิดขึ้นในชีวิตนี้ ชีวิตของผู้ที่ไม่รู้จักวิ่งหนีกรรม

มาเป็นผู้มีปัญญามีสัมมาทิฐิเถิด ชีวิตอันน้อยนี้จะได้ไม่สูญเปล่า จะได้สามารถใช้ชีวิตให้เป็นประโยชน์ยิ่งใหญ่ได้ คือหนีไกลจากกรรมไม่ดีได้ กรรมไม่ดีที่กำลังติดตามเราทุกคนอยู่นั้นมีมากมายนัก ทั้งที่หนักและเบาทั้งที่จะทรมานชีวิตเราไม่หนักนักหนา ทั้งที่จะทรมานเราจนแทบว่าจะรับไม่ไหว และทั้งที่เราอาจจะรับไม่ไหวจริง ๆ ด้วย

คิดดี พูดดี ทำดี เพียงทำสามประการนี้ให้สม่ำเสมอตามที่พระพุทธองค์ทรงสอน ก็สามารถหนีมือแห่งกรรมไม่ดีได้ มือแห่งกรรมที่ไม่ดีจะไม่สามารถตะครุบไว้ในอำนาจได้ บาปกรรมใด ๆ แม้ได้กระทำไว้ตั้งแต่อดีตชาติจะไม่อาจตามสนองได้ง่าย ๆ ในภพชาตินี้ อย่างมากก็เพียงไล่ตามตะครุบอยู่อย่างหมายมั่นจะทำให้ได้สำเร็จเท่านั้น ถ้าคิดดี พูดดี ทำดีเสมอ

ลัก...ยิ้ม
21-04-2011, 10:05
อำนาจร้ายแรงแห่งกรรม

ทุกวันนี้มีตัวอย่างผู้ที่ถูกมือแห่งกรรมตามทันจับได้มากมาย คนสวยคนงามถูกมือของกรรมร้ายทำให้กลายเป็นคนสิ้นสวยสิ้นงาม ทนความรู้สึกของตน เห็นรูปลักษณ์ของตนด้วยความเจ็บปวดแสนสาหัส บางคนแขนขาบริบูรณ์ ถูกมือของกรรมร้าย ทำให้กลายเป็นคนเหลือขาครึ่งเดียวบ้าง ข้างเดียวบ้าง

บางคนมีลูกรักดังดวงใจ ลูกออกจากบ้านแล้วก็ไม่ได้กลับบ้านอีกเลย มือของกรรมร้ายปลิดชีวิตของเขาแล้วอย่างโหดเหี้ยมอำมหิต... กลายเป็นศพคอขาดก็มี ไส้ทะลักก็มี คนบางคนหลับอยู่ในบ้านเรือนของตนด้วยความรู้สึกปลอดภัยแท้ ๆ แต่ก็กลับมีมือของกรรมร้ายเอื้อมเข้าไปห้ำหั่นถึงฟูกถึงหมอน เสียเลือดเสียเนื้อและเสียชีวิต นี้คือ “อำนาจร้ายแรงแห่งกรรม”

ลัก...ยิ้ม
22-04-2011, 10:40
ไม่มีผู้ใดได้รับสิ่งที่ตนไม่ได้ทำไว้ด้วยตนเอง

ดังที่สมเด็จพระพุฒาจารย์โต ท่านตัดสินความระหว่างพระสององค์ว่า องค์ที่ถูกทำร้ายเป็นผู้ที่ทำร้ายก่อน ผู้ไม่เข้าใจเรื่องกรรมและการให้ผลของกรรม ก็จะคิดว่าสมเด็จฯ ท่านไม่ยุติธรรม ตัดสินเข้าข้างคนผิด แต่ผู้เข้าใจเรื่องกรรมและการให้ผลของกรรม ย่อมเข้าใจคำตัดสินของสมเด็จฯ ท่าน ไม่มีผู้ใดจะได้รับสิ่งที่ตนไม่ได้ทำไว้ด้วยตนเอง

ทำไว้ในอดีต... มารับผลในปัจจุบันได้
ทำในปัจจุบัน... ก็จะได้รับผลในอนาคตเช่นกัน
และอนาคตนั้น... ไม่หมายถึงต้องข้ามภพชาติเสมอไป อนาคตในภพชาตินี้ก็ได้

ดังนั้น แม้เชื่อในเรื่องของกรรมและการให้ผลของกรรมหรือไม่เชื่อก็ตาม ก็ไม่สมควรเสี่ยงรับผลร้ายที่จะเกิดแต่การทำความไม่ดี ความไม่ดีหนักหนาเพียงไรยิ่งให้ผลร้ายแรงเพียงนั้น ยิ่งไม่สมควรเสี่ยงอย่างยิ่งที่จะทำความไม่ดีหนักนั้น

ลัก...ยิ้ม
25-04-2011, 10:36
อำนาจของกรรมชั่วร้าย

อำนาจของกรรมชั่วร้ายนั้น สามารถทำให้ธรณีแยกออกสูบผู้ทำกรรมนั้นได้ พระเทวทัตเป็นตัวอย่างที่แสดงความน่ากลัวที่สุดของกรรม ท่านคิดทำลายพระพุทธเจ้าแม้เพียงทำได้เล็กน้อยนัก คือเพียงทำให้พระพุทธบาทห้อพระโลหิตและสำนึกผิดได้ในที่สุด พร้อมจะขอประทานโทษแต่ก็หนีมือแห่งกรรมร้ายแรงที่ทำไว้ไม่พ้น...หนีไม่ทัน พระเทวทัตถูกธรณีสูบทันทีที่เท้าสัมผัสพื้นธรณีขณะกำลังจะได้เข้าไปเห็นพระพักตร์สมเด็จพระบรมศาสดา จึงไม่ทันได้กราบพระพุทธบาทขอประทานโทษทั้งปวง

น่าจะคิดถึงความทรมานทั้งกายและใจของพระเทวทัตเมื่อเสวยผลกรรมนั้น น่าจะคิดให้จริงจังเพื่อให้เกิดความกลัวกรรมที่มีอำนาจยิ่งใหญ่นัก

การทำลายพระพุทธเจ้ากับการทำลายพระพุทธศาสนา... ย่อมเป็นกรรมหนักเสมอกัน พึงสังวรระวังให้รอบคอบในเรื่องนี้ อย่าคิดอย่างประมาทว่า พระพุทธศาสนาไม่มีชีวิต ตายไม่มี บาดเจ็บไม่มี จะทำอะไรกับพระพุทธศาสนาจึงไม่น่าจะเป็นบาป เป็นอกุศลกรรม อย่าประมาทในเรื่องนี้ มิฉะนั้นเมื่อต้องได้เสวยผลแห่งการทำลายพระพุทธศาสนา... จะทุกข์ทรมานนัก ใครก็จักช่วยไม่ได้

ลัก...ยิ้ม
26-04-2011, 10:33
จิตสำนึกของผู้กระทำกับผลของกรรม
การทำลายชีวิตสัตว์นั้นเป็นบาปหนักเบาต่างกัน ทำลายชีวิตสัตว์ใหญ่…บาปมากกว่าทำลายชีวิตสัตว์เล็ก ทำลายชีวิตสัตว์อายุยืน... บาปมากกว่าทำลายชีวิตสัตว์อายุสั้น ทำลายชีวิตสัตว์ที่มีคุณ... บาปมากกว่าทำลายชีวิตสัตว์ทั่วไป

เป็นที่เข้าใจกันเช่นนี้ ซึ่งก็มีเหตุผลที่น่าเข้าใจเช่นนั้น ฆ่าวัว ควายกับฆ่ายุง ฆ่ามด... บาปน่าจะมากน้อยกว่ากัน ผลกรรมที่ผู้ฆ่าได้รับก็จะหนักเบากว่ากันเป็นอันมาก

มีเรื่องจริงที่เกิดขึ้นและผู้ประสบพบเห็นเล่าต่อ ๆ กันมาว่า มีผู้มีอาชีพฆ่าวัวฆ่าควายนั้น เมื่อใกล้จะตายต้องทนทุกข์ทรมานดิ้นรน กระเสือกกระสน และส่งเสียงร้องเหมือนเสียงวัวเสียงควายที่ถูกเชือดก่อนตาย ส่วนผู้ที่ตบยุงหรือบี้มด... แม้จะเป็นบาปแน่นอนที่ทำลายชีวิตสัตว์ แต่ไม่ปรากฏผลของกรรมนี้ให้เห็นได้รู้ชัด เหตุผลก็อยู่ที่จิตสำนึกของผู้กระทำกรรมสองประเภทนั้น ผู้ฆ่าวัวฆ่าควายแม้จะใจร้ายใจดำสักเพียงไร ย่อมเป็นไปไม่ได้ที่จะลืมภาพการตายของสัตว์ใหญ่ถึงเพียงนั้นได้ และย่อมเป็นไปไม่ได้ที่จะไม่รู้สึกเลยว่าการฆ่านั้นเป็นบาปใหญ่ ความรู้สึกหลอกหลอนเกี่ยวกับการฆ่าวัว ฆ่าควายด้วยมือของตนนั่นแหละ ที่ติดตามมาส่งผลให้ผู้นั้นต้องทนทุรนทุราย และร้องเป็นเสียงวัวเสียงควายเหมือนที่ตนเองเคยได้ยิน เคยได้เห็นในการฆ่าแต่ละครั้งเสมอมา

บางคนที่เคยเห็นการตายของผู้มีอาชีพฆ่าสัตว์ใหญ่มีความรู้สึกว่า ผู้ใกล้จะตายนั้นไม่มีชีวิตจิตใจเป็นคนเสียแล้ว แต่ได้กลายเป็นชีวิตจิตใจของวัวของควายไปจริง ๆ เห็นได้จากกิริยาอาการและสุ้มเสียงที่เขาร้องเหมือนเสียงสัตว์ที่บาดเจ็บแสนสาหัส

ความรู้สึกนี้จะถูกหรือผิดก็ตาม ที่จริงแน่คือเขากำลังรับผลของกรรมที่ตามทันในช่วงสุดท้ายของชีวิตในภพชาตินี้ และไม่แน่ว่าสิ้นสุดเพียงเท่านั้นหรือจะติดตามต่อไปในภพชาติข้างหน้าให้ชีวิตต้องไม่แตกต่างกับชีวิตของสัตว์ที่ถูกเบียดเบียนทำร้ายอย่างทารุณ

การทำบาปเล็กน้อย เช่น บี้มด ตบยุง ไม่ปรากฏผลบาปให้เห็นว่าเกิดแก่ผู้ทำ นั่นก็เป็นเพราะผู้ทำไม่ผูกใจว่าได้ทำบาป

“ใจ” นี้สำคัญนัก... นำไปผูกไว้กับเรื่องใดสิ่งใด ก็จะปรากฏให้เห็นเป็นผล เช่น พระรูปหนึ่งในสมัยพุทธกาล ท่านทำตะไคร้น้ำขาดและมรณภาพก่อนที่จะหาพระปลงอาบัติได้ จิตท่านผูกอยู่ด้วยความเป็นห่วงจึงได้ไปเกิดเป็นพญานาค ส่วนผู้เผลอตบยุงหรือเผลอบี้มด แม้ใจไม่ผูกยึดอยู่ว่าได้ทำบาปก็จะเป็นเรื่องเล็กน้อย การทำบาปหรือทำกรรมเล็กน้อยเช่นนี้ จะไม่ส่งผลให้ปรากฏ ถ้าผู้ทำไม่ไปผูกใจเดือดร้อนกังวลอยู่ แล้วถ้าจะไม่ทำเสมอ ๆ การทำบาปเสมอ ๆ แม้ทำกับสัตว์เพียงมด ปลวก กรรมเล็กก็จะเป็นกรรมใหญ่ได้ พึงรอบคอบในเรื่องนี้เพื่อชีวิตจะได้สวัสดี

การฆ่าวัวฆ่าควายก็ยังมีผลให้ผู้ฆ่าดูราวกับเปลี่ยนชีวิตจิตใจจากคนเป็นวัวเป็นควาย ให้เป็นที่สลดสังเวชแก่ผู้พบเห็นได้ การฆ่าคนจะมีผลเป็นอย่างไร ทำไมผู้ร้ายฆ่าคนจะไม่รู้สึกเลยหรือ แต่ด้วยอำนาจกรรมเมื่อตามมาถึงผู้ใดที่ได้กระทำกรรมนั้นไว้ ก็ย่อมยากที่จะยับยั้งแห่งกรรมนั้นได้ ลูกยังลืมว่าแม่ แม่ยังลืมไปว่าลูก ผู้นับถือพระพุทธศาสนาก็ยังลืมว่าพระว่าเณร พระเณรก็ยังลืมตัวเองว่าเป็นพระเป็นเณร... ฆ่ากันได้ ทำร้ายกันได้ ทำผิดศีลผิดธรรมกันได้อย่างไม่น่าเชื่อ อำนาจยิ่งใหญ่ของกรรมที่นำไปเช่นนั้น และยังจะนำต่อไปข้ามภพข้ามชาติ เกิดผลร้ายแก่ผู้ขาดสติขาดปัญญา ที่จะพาตัวหนีให้พ้นมือแห่งกรรมที่ตนได้กระทำไว้แล้วด้วยตนเองแน่นอน

ลัก...ยิ้ม
27-04-2011, 09:40
กรรมหนักจากการทำไม่ดีต่อพระพุทธศาสนา

ผู้ฆ่าคนมีบาปหนักกว่าผู้ฆ่าวัวฆ่าควาย ผู้ทำร้ายพระพุทธเจ้ามีบาปหนักกว่าผู้ฆ่าคน เห็นได้จากพระเทวทัตที่ถูกธรณีสูบ แต่อย่าประมาทคิดว่าเราปลอดภัยจากการถูกธรณีสูบแน่แล้วเพราะไม่มีพระพุทธเจ้า ให้เราคนใดคนหนึ่งซึ่งถึงจะชั่วช้าเพียงไรทำร้ายพระองค์ได้ พระพุทธเจ้าไม่มีพระองค์ปรากฏให้เห็นก็จริง ทำร้ายพระองค์ท่านไม่ได้ก็จริง แต่สิ่งที่เกี่ยวเนื่องแนบแน่นกับพระองค์ท่านมีอยู่ ทำลายสิ่งนั้นจะผิดไปจากทำลายพระองค์ท่านหาได้ไม่

นึกถึงใจตนเอง... มีลูกเป็นที่รักเพียงดวงใจ เฝ้าทะนุถนอมกล่อมเกลี้ยงเลี้ยงมาจนเติบใหญ่ ถูกผู้ร้ายประหัตประหาร ใจของผู้เป็นแม่พ่อก็เหมือนกับตนเองถูกประหัตประหารด้วย

พระพุทธศาสนา คือ สิ่งที่เกี่ยวเนื่องแนบแน่นเป็นอันหนึ่งอันเดียวกับพระพุทธเจ้า กว่าจะทรงค้นพบและตั้งขึ้นได้ลำบากยากเย็นยิ่งกว่าใครสักคนจะมีลูกเป็นที่รักดั่งดวงใจ ทำร้ายลูกก็เท่ากับทำร้ายผู้เป็นแม่พ่อ ทำลายพระพุทธศาสนาจึงไม่แตกต่างกับทำลายพระพุทธเจ้าแน่นอน... ไม่มีผู้ใดทำได้

แต่แน่นอน... เพียงการพยายามทำ ก็บาปหนักยิ่งกว่าบาปฆ่าคนตาย ผลของกรรมนี้อาจจะลี้ลับ เห็นยากและเห็นช้า จึงทำให้พากันคิดว่าการทำลายพระพุทธศาสนานั้นไม่เป็นบาป ไม่เป็นอกุศล

การจงใจทำลายพระพุทธศาสนาที่ไม่สำเร็จผล น่าจะเกิดผลไม่ดีแก่ผู้มุ่งทำร้ายน้อยกว่าผู้ไม่ได้เจตนาทำลาย... แต่ประพฤติตนเช่นเจตนาทำลาย

บุคคลประเภทหลังนี้ โดยเฉพาะที่นับถือพระพุทธศาสนากล่าวได้ว่า เป็นผู้ที่ทำกรรมไม่ดีต่อพระพุทธศาสนาซึ่งพระพุทธเจ้าทรงตั้งขึ้น ทรงประคับประคองมาโดยมีพุทธบริษัทที่ดีมารับ มาประคับประคองต่ออย่างถือเป็นสมบัติล้ำค่า ไม่มีพระพุทธองค์แล้ว... พระพุทธศาสนา คือตัวแทนพระพุทธองค์ ผู้เป็นสมาชิกของบริษัทสี่ในพระพุทธศาสนา แม้ทำตนให้เศร้าหมองด้วยประพฤติผิดศีล ผิดธรรม ผิดวินัย แม้จะทำให้พระพุทธศาสนาเศร้าหมองไม่ได้ แต่เมื่อตนเป็นจุดหนึ่งในพระพุทธศาสนา... ก็เท่ากับทำให้พระพุทธศาสนามีจุดเศร้าหมองปะปนอยู่ เล็กน้อยเพียงไรก็เป็นจุดดำ

ความประพฤติปฏิบัติเช่นนั้นเป็นการทำกรรมไม่ดีต่อสิ่งสูงสุด ผลไม่ดีที่จะเกิดแก่ผู้ทำกรรมไม่ดีนั้นย่อมร้ายแรงแน่นอน พึงอย่าประมาท พึงกลัวกรรมหนักที่จะเกิดจากการทำไม่ดีต่อพระพุทธศาสนา

ลัก...ยิ้ม
28-04-2011, 10:46
พึงปฏิบัติต่อพระพุทธศาสนาให้รอบคอบ
ผู้เบาปัญญามีมิจฉาทิฐิ เห็นว่าพระพุทธศาสนาไม่ใช่คน ไม่มีเลือดเนื้อชีวิตจิตใจ คิดจะทำลายก็ทำกันไปต่าง ๆ นานา ผู้เบาปัญญาหารู้ไม่ว่า เมื่อกรรมตามทัน... โทษนั้นร้ายแรงหนักหนานัก พระเทวทัตก็มิได้ถูกธรณีสูบทันทีที่ทำร้ายพระพุทธเจ้า เมื่อถึงเวลากรรมตามทัน... พระเทวทัตจึงจมธรณี พ้นที่จะดิ้นรนให้พ้นจากความตายอย่างทนทุกข์ทรมานน่าสยดสยองนั้นได้ ผู้พยายามทำลายพระพุทธศาสนาก็เช่นกัน ฉะนั้นอย่าประมาท... อะไรที่ไม่น่าเชื่อเกิดอยู่เสมอ เกิดได้เสมอ ในอดีตธรณีสูบได้ ในปัจจุบันหรือในอนาคตธรณีก็สูบได้ เมื่อต้องเป็นไปตามอำนาจอันยิ่งใหญ่ของกรรม

แม่พ่อที่มีลูกรักเพียงดวงใจ แม้ลูกนั้นมิใช่ลูกที่ดี มิใช่ลูกที่มีคุณประโยชน์แก่ใคร เมื่อใดเขาถูกทำร้ายบาดเจ็บสาหัส หรือถึงเสียชีวิต เมื่อนั้นก็เหมือนทำร้ายแม่พ่อหนักหนาเช่นนั้นด้วย พระพุทธศาสนาเป็นดวงพระหฤทัยของพระพุทธเจ้า ทรงได้มาด้วยพระมหากรุณาเปี่ยมพระพุทธหฤทัยเปรียบเป็นพระพุทธบุตร พระพุทธศาสนาก็เป็นพระพุทธบุตรที่ประเสริฐเลิศล้ำ หาผู้เปรียบเสมอมิได้ มีคุณประโยชน์กว้างใหญ่ไพศาล ปราศจากขอบเขต และยั่งยืนยาวนานอยู่ทุกกาลเวลา เป็นที่รักที่เทิดทูนสูงส่งนักหนาของพรหม เทพ มนุษย์ สัตว์ เสมอกันกับองค์สมเด็จพระบรมศาสดา พระผู้ทรงสถาปนาพระพุทธศาสนาไว้แทนพระองค์ อย่าเป็นคนเบาปัญญา... พึงปฏิบัติต่อพระพุทธศาสนาให้รอบคอบ มิฉะนั้นจะเสียประโยชน์จากการมีชีวิตอยู่ในชาตินี้ที่น้อยนัก ชีวิตผ่านไปพ้นเมื่อไร... จะเรียกกลับคืนไม่ได้ กรรมไม่ดีทั้งหลายจะห้อมล้อมจนแหลกเหลว ดังที่ปรากฏให้เห็นให้ได้ยินอยู่เสมอ ให้ขนลุกขนพองสยดสยองอยู่ไม่เว้นวาย

ชีวิตในอดีตชาติล่วงเลยไปแล้ว กรรมดีกรรมชั่วก็ได้เป็นอันทำแล้วทั้งนั้น... ไม่มีที่จะให้โดยไม่ได้ทำ แต่ชีวิตในอนาคตชาติกำลังใกล้เข้ามาเป็นลำดับ ไม่นานนักก็จะถึง เพราะชีวิตนี้น้อยนัก... จบสิ้นง่าย ชีวิตในภพชาติข้างหน้าต่างหากที่ยาวนานจนประมาณไม่ได้ ความสุขอันยาวนานหรือความทุกข์ที่ยืดเยื้อ จะมีมาพร้อมกับชีวิตในชาติอนาคตแน่นอน

ลัก...ยิ้ม
29-04-2011, 10:03
ชีวิตนี้ ชีวิตเดียวที่จะพาไปสู่นิพพานได้

เรามีบุญที่ได้เกิดมาเป็นมนุษย์ ได้มีชาตินี้ มีชีวิตนี้... ที่แม้จะน้อยนักแต่ก็เป็นชีวิตเดียวที่สามารถจะพาเราหนีกรรมไม่ดีได้ และก็เป็นชีวิตเดียวที่จะพาเราไปสวรรค์ก็ได้ นิพพานก็ได้

พระพุทธศาสนาก็เช่นเดียวกับพระพุทธเจ้า เพราะพระพุทธศาสนาประกอบพร้อมด้วยพระพุทธเจ้า พระธรรมคำสอนของพระพุทธเจ้า และพระสงฆ์อริยสาวกของพระพุทธเจ้า พระพุทธศาสนาจึงมีคุณเช่นเดียวกับที่พระพุทธเจ้าทรงมีพระคุณ พระคุณของพระพุทธเจ้ายิ่งใหญ่เพียงไร พระพุทธองค์ได้ทรงมอบไว้ในพระพุทธศาสนาหมดสิ้นแล้ว

เราเรียนพระพุทธศาสนาหรือเรียนพระธรรมกันอยู่ตลอดมาแม้จนทุกวันนี้ เท่ากับเรากำลังพยายามจะให้สามารถแลเห็นพระพุทธเจ้าให้ได้ แต่ก่อนที่จะได้เห็นพระพุทธองค์ เราจำเป็นต้องรอบคอบ ระวังรักษาพระพุทธศาสนาอย่างดี อย่าประมาท มองให้เห็นผู้เบาปัญญา มีมิจฉาทิฐิ แม้ผู้นั้นจะเป็นตัวเราก็ต้องมองให้ตรงตามความจริง ไม่เห็นภัยจะกันภัยไม่ได้ ไม่เห็นผู้มุ่งร้ายทำลายพระพุทธศาสนา... ก็จะป้องกันพระพุทธศาสนาไม่ได้

ลัก...ยิ้ม
03-05-2011, 10:57
ยึดมั่นในความกตัญญูกตเวที

การที่จะป้องกันตัวเองมิให้หลงใหล เลื่อนลอยไปเป็นผู้ทำลายพระพุทธศาสนาแม้โดยมิได้ตั้งใจ จำเป็นต้องมีหลักยึดมั่น กระแสใด ๆ ก็จะพัดพาไปไม่ได้

หลักที่น่าจะมั่นคง แข็งแรง และสามารถที่จะรับการยึดเหนี่ยวได้ทุกเวลานั้น น่าจะเป็นหลักแห่งความกตัญญูกตเวที พึงยึดกตัญญูกตเวทีไว้ให้เป็นหลักประจำใจมั่น ผลที่เกิดตามมานั้น... จะไม่มีเสียหายแม้แต่น้อย

“กตัญญูกตเวที”... ความรู้คุณที่ท่านทำแล้วแก่ตน และตอบแทนพระคุณนั้น พระพุทธองค์ทรงสรรเสริญว่าเป็นธรรมของคนดี คือคนดีมีธรรมนี้หรือธรรมนี้ทำให้คนเป็นคนดี คือ คนใดมีธรรมคือความกตัญญูกตเวทีคนนั้นก็คือคนดีนั่นเอง ในด้านตรงกันข้าม คนใดไม่มีกตัญญูกตเวที คนนั้นย่อมไม่ใช่คนดี

ลัก...ยิ้ม
04-05-2011, 10:33
เร่งอบรมใจให้มีกตัญญูกตเวทิตาธรรม
เพื่อสร้างชีวิตในภพชาติข้างหน้าให้งดงาม

เชิญสำรวจตนให้ทุกคน ให้เห็นตนอย่างชัดเจนตรงความจริงว่ามีความกตัญญูกตเวทีหรือไม่ แล้วก็จะได้รู้จักตนเองว่าเป็นคนดีหรือไม่ ไม่มีกตัญญูกตเวที... ไม่เป็นคนดีจริง ๆ อย่าสงสัย แต่จงเร่งอบรมใจตนเองให้มีกตัญญูกตเวทิตาธรรมให้จงได้ อย่าให้ผ่านชีวิตนี้ไปสู่ชีวิตหน้าที่ยาวนาน โดยไม่ถือโอกาสสร้างชีวิตในภพชาติข้างหน้าให้สวยสดงดงามอย่างยิ่ง

“กตัญญูกตเวทิตาธรรม” เป็นเครื่องสร้างคนให้เป็นคนดีได้จริง ๆ เพราะความรู้คุณท่านผู้มีคุณและตั้งใจจะตอบแทนพระคุณ คือเครื่องป้องกันที่สำคัญที่สุดที่จะกันให้พ้นจากการทำผิดคิดร้ายได้ทั้งหมด โดยมีจุดมุ่งอยู่ที่ความไม่ปรารถนาจะทำให้ผู้มีพระคุณเป็นทุกข์เดือดร้อนกายใจ

ลัก...ยิ้ม
06-05-2011, 11:03
กตัญญูกตเวทีเป็นเหตุให้คิดดี พูดดี ทำดี
ทุกคนมีผู้มีพระคุณของตน อย่างน้อยก็มารดา บิดา ครูอาจารย์ เพียงมีกตัญญูรู้คุณท่านเท่าที่กล่าวนี้ ก็เพียงพอจะคุ้มครองตนให้พ้นจากความไม่ดีทั้งปวงได้ ขอให้เป็นความกตัญญูกตเวทีจริงใจเท่านั้น อย่าให้เป็นเพียงนึกว่าตนเป็นคนกตัญญู ความจริงกับความนึกเอาแตกต่างกันมาก ผลที่จะได้รับจึงแตกต่างกันมากด้วย

ผู้มีกตัญญูกตเวทีจะรู้จักบุญคุณของผู้มีบุญคุณทั้งหมด จะตอบสนองทุกคนอย่างเต็มสติปัญญาความสามารถควรแก่ผู้รับ และนี่เองที่จะเป็นเหตุให้ “คิดดี พูดดี ทำดี” เพราะเกรงว่าการคิดไม่ดี พูดไม่ดี ทำไม่ดี จะมีส่วนทำให้ผู้มีบุญคุณเดือดร้อน เช่น มารดา บิดา เป็นผู้มีพระคุณ ลูกกตัญญูจะประพฤติตัวเป็นคนดี จะไม่เป็นคนเลวเพราะเกรงว่ามารดา บิดาจะเสื่อมเสีย ก็เท่ากับคุ้มครองตนเองได้แล้วด้วยความกตัญญูกตเวที

ลัก...ยิ้ม
09-05-2011, 10:49
พึงมีกตัญญูกตเวทีต่อพระพุทธเจ้า

พระพุทธเจ้าทรงมีพระคุณใหญ่ยิ่งอย่างที่สุด ทรงมีพระคุณต่อโลกต่อศาสนิกของโลก พระธรรมคำสอนของพระพุทธองค์ที่ทำให้พุทธศาสนิกเป็นคนดีมีธรรมะนั้น มิได้เป็นคุณเฉพาะพุทธศาสนิกเท่านั้น แต่เป็นคุณไปทั่วถึง คนดีคนเดียว... ให้ความร่มเย็นเป็นสุขได้อย่างกว้างไกล เช่นเดียวกับคนไม่ดีเพียงคนเดียว ก็ให้ความทุกข์ความร้อนได้มากมาย

พระพุทธศาสนาสร้างพุทธศาสนิกชนที่ดี ก็เท่ากับพระพุทธศาสนาได้สร้างความร่มเย็นเป็นสุขให้แก่โลกด้วยเหมือนกัน พึงมีกตัญญูกตเวทีต่อพระพุทธเจ้า คิดดี พูดดี ทำดี ให้เป็นไปดังที่ทรงแสดงสอนไว้ จะหนีกรรมเก่าได้ทัน และจะสร้างชีวิตในชาติใหม่ในภายหน้าให้วิจิตรงดงามเพียงใดก็ได้

ลัก...ยิ้ม
10-05-2011, 10:43
พระพุทธบารมีแห่งพระพุทธองค์
ทำให้พบความสวัสดีทั้งชีวิตนี้และชีวิตหน้า
พระพุทธเจ้าเสด็จดับขันธปรินิพพานแล้วไม่ได้หายไปไหน พระพุทธบารมียังคงปกปักรักษาโลกอยู่ คนในโลกยังรับพระพุทธบารมีได้ มิได้แตกต่างไปจากเมื่อยังทรงดำรงพระชนม์อยู่ เพียงแต่ว่าจำเป็นต้องเปิดใจออกรับ มิฉะนั้นก็จะรับไม่ได้

การเปิดใจรับพระพุทธบารมีไว้คุ้มครองรักษาตนไม่ยากลำบาก ไม่เหมือนการเข็นก้อนหินใหญ่ที่ปิดปากถ้ำ เพียงน้อมใจนึกถึงพระพุทธเจ้าให้จริงจังอยู่เสมอก็จะรับพระพุทธบารมีได้ จะมีชีวิตที่สวัสดี มีสุข สงบได้

ลัก...ยิ้ม
11-05-2011, 10:48
อานุภาพแห่งพระพุทธบารมี
พระพุทธเจ้าเสด็จดับขันธปรินิพพานแล้ว ไม่ทรงเวียนว่ายตายเกิดในวัฏสงสารอีกต่อไป แต่พระพุทธบารมียังพรั่งพร้อม พระอาจารย์สำคัญองค์หนึ่งท่านเล่าไว้ว่า... เมื่อปฏิบัติเพื่อความหลุดพ้นอยู่ในป่าดงพงพีนั้น พระพุทธเจ้าได้เสด็จไปทรงสอนท่านด้วยพระพุทธบารมีเสมอ และท่านพระอาจารย์องค์นั้นต่อมาเป็นที่ศรัทธาและเคารพของพุทธศาสนิกจำนวนมาก ที่เชื่อมั่นว่าท่านปฏิบัติถึงจุดมุ่งหมายปลายทางแล้ว

พระพุทธเจ้าเมื่อเสด็จดับขันธ์ปรินิพพานแล้ว ด้วยพระพุทธบารมีเสด็จไปทรงแสดงธรรมโปรดพระอาจารย์องค์สำคัญให้บรรลุมรรคผลนิพพานได้ ไม่มีอะไรให้สงสัยว่าเป็นสิ่งที่สุดวิสัย เป็นสิ่งที่เป็นไปไม่ได้

มีเรื่องของท่านพระโมคคัลลาน์เป็นเครื่องยืนยันรับรอง คือเมื่อปฏิบัติธรรมถึงจุดปรารถนาสูงสุดแล้ว ท่านถูกโจรเจ้ากรรมในอดีตพยายามหาทางจะทำลายชีวิตท่าน ท่านพยายามใช้อิทธิฤทธิ์หลบหนี แต่โจรก็ยังติดตามไม่หยุดยั้ง จนท่านเบื่อหน่ายที่จะหนีต่อไป... จึงยอมให้โจรจับได้และทุบจนร่างแหลกเหลว นิพพานในที่สุด เมื่อนิพพานแล้วท่านได้รวมร่างเข้าอีกครั้งหนึ่งเหาะไปเฝ้าพระพุทธเจ้า กราบทูลเรื่องราวให้ทรงทราบ แล้วทูลกราบลา

เรื่องของท่านพระโมคคัลลาน์ เป็นเครื่องให้ความเข้าใจอย่างกระจ่างแจ่มชัดว่า พระพุทธเจ้าก็ดี พระอรหันต์เจ้าก็ดี แม้ดับขันธปรินิพพานแล้ว ท่านก็เพียงไม่มีร่างเหลืออยู่เท่านั้น บารมีและคุณธรรมทั้งปวงของท่านยังพรั่งพร้อมเป็นประโยชน์ได้อย่างยิ่ง

ลัก...ยิ้ม
12-05-2011, 11:11
ผู้มีปัญญาพึงเร่งปฏิบัติพระพุทธศาสนา
เมื่อมั่นใจในความดำรงอยู่อย่างยั่งยืนนิรันดรแห่งพระพุทธบารมี หรือคุณธรรมของพระพุทธองค์ และของครูอาจารย์สำคัญทั้งหลายที่ท่านไกลแล้วจากกิเลสเครื่องเศร้าหมอง

พุทธศาสนิกทั้งหลายผู้มีสัมมาปัญญาสัมมาทิฐิ ควรเร่งปฏิบัติพระพุทธศาสนาให้ได้เป็นคนดีตามลำดับไป ให้เป็นที่ปรากฏประจักษ์ในพระญาณหยั่งรู้ของพระพุทธองค์ เท่ากับเปิดประตูใจออกอย่างกว้างขวางรับพระพุทธบารมี ให้พระพุทธบารมีเสริมส่งบารมีของตนจนกว่าตนเองจะสามารถเป็นผู้มีบารมี มีคุณธรรมดำรงได้เมื่อไร

วันนั้นผู้นั้นก็จะไม่ต้องกังวลที่จะใช้ชีวิตนี้ทำทางหนีมือแห่งกรรม และไม่ต้องกังวลสร้างชีวิตในชาติอนาคตให้สมบูรณ์บริบูรณ์สวยสดงดงามต่อไป

ลัก...ยิ้ม
13-05-2011, 11:07
สิ่งสำคัญยิ่งอันพึงแสวงหาในชีวิตนี้
แทบทุกคนเคยเป็นมาแล้วทั้งเทวดา เจ้าฟ้ามหากษัตริย์ ยาจกวณิพก เศรษฐี คหบดี ตลอดจนสัตว์ใหญ่สัตว์น้อย... เคยตายมาแล้วด้วยอาการต่าง ๆ ตายอย่างเทวดา ตายอย่างเจ้าฟ้าเจ้าแผ่นดิน ตายอย่างขอทานข้างถนน ตายอย่างสัตว์ทั้งที่ตายเองและที่ถูกฆ่าตาย

เคยมีทั้งสุขมีทั้งทุกข์ เคยทั้งเป็นผู้ร้ายเป็นทั้งผู้ดี น้ำตาเคยท่วมบ้านท่วมเมืองมาแล้ว... กระดูกทับถมแผ่นดินนี้หาที่ว่างสักเท่าปลายเข็มหมุดจะปักลงก็ไม่พบ เปรียบกับชีวิตนี้เพียงชาติเดียว... ชีวิตนี้จึงน้อยนัก จะห่วงใยแสวงหาอะไรอีกมาให้ชีวิตนี้ ที่สำคัญกว่าการห่วงหาทางหนีให้พ้นมือแห่งกรรมที่ทำไว้มากมายในอดีตชาติ

ลัก...ยิ้ม
18-05-2011, 08:58
กรรมและผลของกรรม กับความเป็นไปของชีวิตในภพชาติหน้า
แทบทุกคน... มีชาติในอนาคตไกลออกไป พ้นความรู้เห็นของใครทั้งหลาย จะเกิดเป็นอะไรต่อมิอะไรก็ได้ทั้งสิ้นตามอำนาจของกรรมที่ได้ทำไว้แล้ว ทั้งที่ได้ทำไว้เมื่อในอดีตชาติและที่ทำในชาตินี้ สำคัญที่ว่าได้ทำกรรมใดมากกว่า แรงกว่า สำคัญกว่า กรรมนั้นก็จะส่งผลมากกว่าเร็วกว่า และหนักแน่นมั่นคงกว่า

ถ้าเป็นกรรมดีก็จะให้ความสุขความเจริญ มีบุญห้อมล้อมรักษา ถ้าเป็นกรรมชั่วก็จะให้ความทุกข์ ความเสื่อมโทรม มีบาปห้อมล้อมรังควาน

ลัก...ยิ้ม
19-05-2011, 08:35
สภาพชีวิตที่ดำเนินไปสู่ทุคติและสุคติ
ชีวิตนี้ตกอยู่ใต้อำนาจของความโลภ ความโกรธ และความหลง แสวงหาอำนาจวาสนาบารมี ทรัพย์สิน เงินทอง อย่างไม่คำนึงถึงความถูกต้อง อย่างไม่คำนึงถึงศีลธรรมใด ๆ ชื่นชมสมใจแล้วมิใช่ว่าจะอยู่ได้ยั่งยืน จะชื่นชมสมปรารถนาไปได้อย่างมากก็ชั่วอายุร้อยปี แล้วก็หมดสิ้นทุกสิ่งทุกอย่าง ทิ้งชื่อเสียงที่เน่าเหม็นไว้ให้คนโจษขาน... พาแต่จิตดวงเดียวร่อนเร่ไป ทำกรรมไม่ดีไว้ก็จะไปพร้อมกับจิตที่ห่อหุ้มด้วยความไม่ดี ไปสู่ทุคติภพภูมิที่ไม่ดี ภพภูมิที่มีแต่ความทุกข์

จิตดวงเดียวที่ปราศจากอำนาจวาสนาบารมีทรัพย์สินเงินทอง ที่เมื่อมีชีวิตในชาตินี้กอบโกยไว้ด้วยอำนาจกิเลส จักท่องเที่ยวทุกข์ร้อนไปนานนักหนา นับกาลเวลาหาได้ไม่ นับภพชาติหาถูกไม่ในทุคติ

ชีวิตนี้ที่ไม่ตกอยู่ใต้อำนาจความโลภ ความโกรธ ความหลง มั่นคงอยู่ในความดี ความมีศีลมีธรรม จะร่มเย็นเป็นสุขชั่วกาลนาน ความสุขที่จักไม่สิ้นสุดลงพร้อมกับชีวิตนี้ที่น้อยนัก ที่มีเวลาเพียงร้อยปีเท่านั้นโดยประมาณ

จิตดวงเดียวที่พรั่งพร้อมด้วยบุญกุศล จักท่องเที่ยวเบิกบานไปนานนัก นับกาลเวลาหาได้ไม่ นับภพชาติหาถูกไม่ในสุคติ จนกว่าจะถึงที่สุดแห่งทุกข์พ้นการเวียนว่ายตายเกิดอีกต่อไป อันเป็นจุดสูงสุดในพระพุทธศาสนาที่สมเด็จพระบรมศาสดาทรงนำไปแล้ว และทรงแสดงแจ้งทางไว้ให้แล้วอย่างละเอียดถี่ถ้วนด้วยพระมหากรุณาที่เปรียบมิได้

พุทธสาวกทั้งหลาย... ได้ตามเสด็จไปถึงจุดหมายอันเป็นบรมสุขนั้นแล้วมาก มีทั้งในสมัยพุทธกาลและปัจจุบันนี้ ทั้งจะสืบต่อไปในอนาคตกาลนานไกล ตราบที่ยังมีผู้ใส่ใจปฏิบัติธรรมคำสอนของพระพุทธองค์อยู่

ลัก...ยิ้ม
20-05-2011, 10:29
ความปลงใจในเรื่องกรรมมีคุณยิ่งนัก

ความปลงใจเชื่อให้จริงในเรื่องกรรมและการให้ผลของกรรมมีผลใหญ่ยิ่ง ทำให้กลัวการทำกรรมไม่ดี ผลไม่ดีย่อมไม่เกิดแก่ตน ความสบายทั้งปวงย่อมมีมา แต่อย่างไรก็ตาม แม้ยังไม่เชื่อในเรื่องการให้ผลของกรรมว่าตรงตามเหตุ จะลองพิสูจน์ด้วยการไม่ทำกรรมไม่ดีให้ตลอดไป ก็ย่อมจะได้รับผลเป็นความถูกต้องว่า ผลของกรรมจักไม่ผิดไปจากเหตุ

ความสบายใจที่เกิดจากความปลงใจเชื่อในเรื่องกรรม และการให้ผลของกรรมนั้นยิ่งใหญ่มาก เมื่อต้องประสบความทุกข์ยากใดก็ตาม ความเชื่อในเรื่องกรรมและการให้ผลของกรรม จะทำให้ปลงใจยอมรับว่าตนเป็นผู้ทำเหตุที่ไม่ดีไว้ อาจจะในปัจจุบันชาติหรือไม่ก็ในอดีตกาลนานไกลที่นานจนจำไม่ได้ ระลึกไม่ได้ และการให้ผลของกรรมก็ไม่อาจหลีกเลี่ยงให้พ้นได้ จะเร็วหรือช้าก็ต้องให้ผลแน่ ข้ามภพข้ามชาติก็ให้ผล เรื่องของกรรมจึงลึกซึ้งเข้าใจยากนัก ถ้าเข้าใจแม้เพียงพอสมควรก็จะได้ความสบายใจกว่าไม่เข้าใจเสียเลย

ความไม่เข้าใจในเรื่องกรรมและการให้ผลของกรรม มีโทษสถานเดียวไม่มีคุณเลย ไม่ว่าจะเป็นกรรมของตัวเองหรือกรรมของผู้อื่นก็ตาม ผู้มีปัญญาแม้พอสมควรจึงพยายามทำความเข้าใจในเรื่องของกรรม หรือแม้ไม่เข้าใจจริงก็ใช้วิธีเชื่อไว้ก่อน ซึ่งเป็นการแสดงความเป็นผู้มีปัญญายิ่งกว่าผู้ที่ปฏิเสธไม่ยอมเชื่อเลย

ลัก...ยิ้ม
23-05-2011, 08:39
สัมมาทิฐิ... ความเห็นที่ถูกต้อง

แม้เชื่อเรื่องกรรมและการให้ผลของกรรมแล้ว ก็ต้องเชื่อในเรื่องทิฐิคือความเห็นด้วย ไม่เช่นนั้นแม้เชื่อในเรื่องกรรมเพียงไรทิฐิที่ไม่ชอบก็อาจพาให้ทำกรรมไม่ดีได้ โดยมิจฉาทิฐินำให้เห็นกรรมดีเป็นกรรมไม่ดี กรรมไม่ดีเป็นกรรมดี

แต่การจะรู้ว่าคนมีทิฐิอย่างไร สัมมาทิฐิหรือมิจฉาทิฐิ ก็เป็นการยาก ต้องอาศัยปัญญาที่ประณีตในการพิจารณา ต้องรอบคอบด้วยเหตุผล ไม่มีการหลงตัว ลืมตัวแอบแฝงอยู่ในจิตใจ ไม่มีตัณหา อุปาทานรุนแรง แม้ว่าจะยังมีอยู่ตามวิสัยของผู้ที่ยังไม่บรรลุมรรคผลนิพพาน ยังเป็นปุถุชน

ลัก...ยิ้ม
24-05-2011, 07:49
พึงอบรมตนให้มีสัมมาทิฐิ

แม้ทำความเข้าใจที่ถูกต้องให้เกิดขึ้นในจิตใจตนได้แล้ว การปฏิบัติที่ถูกต้องก็ย่อมจะต้องตามมาอย่างแน่นอน เพราะใจเป็นใหญ่ ใจเป็นประธาน ทุกสิ่งสำเร็จได้ด้วยใจ คือทุกสิ่งล้วนเป็นไปตามอำนาจความเห็นถูกเห็นผิดของใจ การอบรมความเห็นให้ถูกต้อง ให้เป็นสัมมาทิฐิ (ความเห็นชอบ) ไม่ให้เป็นมิจฉาทิฐิ (ความเห็นผิด) จึงเป็นความสำคัญที่สุด

ลัก...ยิ้ม
25-05-2011, 08:09
ใจของเราทุกคนสำคัญยิ่งนัก
พึงมีสติปัญญา เมตตากรุณาเข้ากำกับใจไว้
ใจของเราทุกคนสำคัญนัก สติก็สำคัญนัก ปัญญาก็สำคัญนัก ทั้งหมดนี้ไม่ควรแยกจากกัน มีใจก็ต้องให้มีสติ ต้องให้มีปัญญา ต้องให้มีกรุณา ประคับประคองกันไปให้เสมอ อย่าให้มีสิ่งอื่น นอกจากสติปัญญาและเมตตากรุณาเข้ากำกับใจ

สติและปัญญาพร้อมเมตตากรุณานั้น เมื่อเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันกับใจ จะทำให้ใจมีความเห็นชอบได้ ตรงกันข้าม... แม้ใจขาดสติปัญญาและเมตตากรุณา ก็จะทำให้ใจมีมิจฉาทิฐิ... ความเห็นผิดได้ง่าย

ลัก...ยิ้ม
26-05-2011, 09:10
กรรมดีทางใจ : มโนกรรมที่สำคัญยิ่ง
“กรรมดีทางใจ” หรือ “มโนกรรม” ที่สำคัญยิ่ง คือ ความมั่นในกตัญญุตาธรรม รู้พระคุณที่ท่านได้กระทำแล้ว พระคุณแคบ ๆ ก็คือเฉพาะที่ท่านได้กระทำแล้วแก่เรา กว้างออกไปอย่างไม่มีขอบเขต คือพระคุณที่ท่านทำแล้วแก่ใคร ๆ ทั้งนั้น ไม่จำเป็นต้องเฉพาะแก่เรา

ใจที่ระลึกถึงพระคุณหรือในความดีของท่านเช่นนี้ เป็นใจที่มีกรรมดี เป็นใจที่กำลังทำความดีย่อมได้รับผลดีแห่งกรรมดีนั้นโดยลำดับ ผลดีอันดับแรกที่จะเกิดแก่ผู้มีกตัญญุตาธรรม คือการได้กายกรรม วจีกรรมที่ดี ที่จะส่งผลดีต่อไปอีกนานาประการแก่ผู้มีมโนกรรมดีเป็นจุดเริ่มต้น ตรงกันข้ามกับผู้มีอกตัญญูทุกประการ

ลัก...ยิ้ม
27-05-2011, 08:55
ความสวัสดีแห่งตนเป็นผลของมโนกรรมที่ดี

กตัญญูกตเวทิตาธรรม... ความรู้พระคุณและการตอบแทนพระคุณ เป็นกรรมดีทั้งกาย วาจา ใจ จึงเป็นกรรมที่ให้ผลดีได้เสมอ ความกตัญญูจะเป็นเครื่องป้องกันมิให้มีความคิดทำความไม่ดี เพราะเมื่อมีกตัญญูรู้พระคุณท่าน เป็นต้นว่า รู้พระคุณของมารดาบิดา ก็ย่อมไม่กล้าที่จะคิดทำความไม่ดี ไม่คิดที่จะทำความเสื่อมเสีย หรือทำความทุกข์ร้อนให้เกิดแก่ท่าน โดยมีกตัญญูกตเวทิตาธรรมนั่นเองเป็นเครื่องห้ามกันไว้

ความสวัสดีแห่งตนย่อมเป็นผล เกิดได้ด้วยมีกตัญญูกตเวทิตาธรรมประจำใจ เป็นกรรมทางใจหรือมโนกรรมที่ดี ตรงกันข้ามกับผู้อกตัญญู ผู้เนรคุณทุกประการ กรรมดีทางใจที่สูงส่งใหญ่ยิ่งที่สุด ที่ยังให้บังเกิดผลดีที่ใหญ่ยิ่งสูงส่งที่สุด คือกรรมทางพระหฤทัยของพระสิทธัตถราชกุมาร ก่อนแต่จะได้ทรงตรัสรู้พระสัพพัญญุตญาณเป็นพระพุทธเจ้า

ลัก...ยิ้ม
30-05-2011, 08:08
มโนกรรมที่ใหญ่ยิ่งสูงส่งที่สุด

กรรมดีทางพระหฤทัยนั้น คือพระมหากรุณาที่จะทรงช่วยสัตว์โลกทั้งปวงให้พ้นทุกข์ เป็นกรรมดีที่ใหญ่ยิ่งสูงส่งที่สุด ไม่มีกรรมทางใจของผู้ใดเปรียบได้

กรรมทางพระหฤทัยพระสิทธัตถราชกุมารสูงสุด เต็มบริบูรณ์พระหฤทัย จึงเป็นเหตุให้เกิดผลเป็นกรรมทางพระกาย พระวาจาอย่างใหญ่ยิ่ง จนได้ถึงเสด็จออกบรรพชา แสวงหาทางเพื่อให้ทรงบรรลุจุดที่ทรงมุ่งหมาย

ทรงสละสิ้นทุกสิ่งทุกอย่าง ที่ย่อมไม่มีผู้ใดสละได้เพราะสิ่งที่ทรงสละนั้น เป็นที่สิ่งที่บุคคลทั่วไปปรารถนาจะไขว่คว้าให้ได้มาเป็นสมบัติของตน ทรงสละสิ่งอันเป็นเครื่องบำรุงบำเรอความสุขทุกประการ มีราชบัลลังก์เป็นสำคัญ ทรงเหนื่อยยากตรากตรำพระวรกาย ทรงสละความเป็นพระมหากษัตริย์... ลงสู่ความเป็นผู้ขอที่ไม่มีอะไรเป็นของพระองค์เลย

ทรงกระทำได้ถึงเพียงนี้ ก็ด้วยทรงมีกรรมดียิ่งทางพระหฤทัยคือ มีพระมหากรุณาคุณเป็นมโนกรรม ... กรรมทางใจที่ให้ผลตรงตามเหตุพระพุทธศาสนาที่สุดประเสริฐ บังเกิดขึ้นเป็นผลแห่งพระมหากรุณาคุณอันเป็นกรรม ส่วนเหตุที่สุดประเสริฐนั้น เป็นผลสูงสุดตรงตามเหตุคือ กรรมที่สูงสุด

ลัก...ยิ้ม
31-05-2011, 08:15
บุคคลไม่ควรลังเลในการทำความดี
การทำกรรมดีหรือกุศลกรรมให้มาก ย่อมอาจให้ผลตัดรอนอกุศลกรรมได้ อกุศลกรรมที่หนักที่แรงจำเป็นต้องมีกุศลกรรมที่หนักกว่า แรงกว่ามาก ๆ จึงจะสามารถตัดกันได้ทันท่วงที

นั่นก็คือ แม้มีอกุศลกรรมที่ทำไว้แล้วมาส่งผลทำให้ตกอยู่ที่ร้อนที่คับขัน กุศลกรรมที่ทำอยู่แม้แรงกว่า หนักกว่า ย่อมจะสามารถตัดผลของอกุศลกรรมให้ขาดได้ในพริบตา มีตัวอย่างปรากฏให้รู้ให้เห็นอยู่ทุกวันนี้ จึงไม่ควรลังเลที่จะทำความดี คือกุศลกรรมให้มาก ให้สม่ำเสมอตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป

ลัก...ยิ้ม
01-06-2011, 08:18
การสงสัยเรื่องการให้ผลของกรรมเป็นการดี
ใครเล่าที่ระลึกได้ว่าได้ทำกรรมใดไว้ในอดีต นึกไม่ได้ทั้งนั้นทั้งกรรมดีและกรรมชั่ว จะมาระลึกรู้กันบ้างก็เมื่อต้องประสบผลของกรรมแล้ว บางคนจึงสงสัยว่านั่นคงเป็นผลของกรรมชั่ว เพราะทำให้เคราะห์ร้ายเดือดเนื้อร้อนใจ บางคนจึงจะสงสัยว่านั่นคงเป็นผลของกรรมดี เพราะทำให้ได้รับโชคดี มีความสุขกายสบายใจ

การที่มารู้มาสงสัยในเรื่องการให้ผลของกรรมนี้ เป็นการดีเท่ากับเป็นการแสดงว่ามีความเชื่อในเรื่องกรรมอยู่ในใจ แม้จะยังไม่ปฏิบัติจริงจังให้เป็นการแสดงความกลัวกรรม อันสมควรกลัวอย่างยิ่ง

ที่ปากพูดกันอยู่ว่า “กรรมไม่ดีน่ากลัวนั้น” ถ้าทำให้ความรู้สึกน่ากลัวเกิดขึ้นในใจได้จริง และไม่เพียงให้รู้สึกว่ากรรมไม่ดีน่ากลัวเท่านั้น ต้องให้กลัวกรรมไม่ดีด้วยจริง ๆ จึงจะเกิดผลเป็นคุณแก่ตน สักแต่ปากพูดไปใจไม่จริงดังปากก็หามีประโยชน์แก่ตนไม่ แต่อาจจะมีประโยชน์แก่ผู้ได้รับฟังที่นำไปคิดพิจารณา และเกิดความรู้สึกกลัวกรรมไม่ดีขึ้นอย่างจริงใจ

ลัก...ยิ้ม
02-06-2011, 08:21
กรรมดีเท่านั้นจักนำไปสู่ภพชาติหน้าที่ดี
กรรมนั้นให้ผลสัตย์ซื่อนักเหมือนผลของยาพิษร้ายแรง กรรมนั้นเมื่อทำแล้วก็เหมือนดื่มยาพิษร้ายแรงเข้าไปแล้ว จักไม่เกิดผลร้ายแก่ชีวิตและร่างกายย่อมไม่มี ย่อมเป็นไปไม่ได้ ผู้เบียดเบียนเขาแม้จะได้สิ่งที่มุ่งหวังไว้ แต่ผลที่แท้จริงอันจักเกิดจากกรรมคือ ย่อมจักเป็นทุกข์เป็นโทษแก่ผู้กระทำอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้

ชีวิตนี้จักสวัสดีและชีวิตข้างหน้าก็จักสวัสดีได้ ถ้ามือแห่งกรรมร้ายไม่เอื้อมมาถึงเสียก่อน มือแห่งกรรมร้ายใด ๆ ก็จะเอื้อมมาถึงไม่ได้ ถ้าชีวิตนี้วิ่งหนีได้เร็วกว่า และการจะวิ่งหนีให้เร็วกว่ามือแห่งกรรมนั้นก็จะต้องอาศัยกำลังบุญกุศล อาศัยคุณงามความดีเป็นอันมากและสม่ำเสมอ

อย่างไรก็ตาม กรรมทางใจคือ ความคิดทางใจ ก่อนจะตกอยู่ในอุ้งมือแห่งกรรมที่จะนำชีวิตไปนั้นสำคัญมาก กรรมนั้นจักนำไปเป็นแรงให้เสวยผลแห่งกรรมนั้นเป็นลำดับแรก ดังนั้นในยามที่ต่างกำลังวิ่งหนีกรรมไม่ดีอยู่นี้ ท่านจึงสอนให้มีพระอยู่ในใจ ให้คุ้นเคยกับพระ ด้วยการภาวนาพุทโธ หรือธัมโม หรือสังโฆ ไว้ให้เสมอยามที่ต้องตกใจหรือต้องทุกข์ทรมาน เพราะมือแห่งกรรมมากำชีวิตไว้ก็จะมีพระอยู่ในใจตามความคุ้นเคยที่ทำมาเป็นประจำแล้ว เป็นกรรมที่ดียิ่งทางใจ มือแห่งกรรมดีมีแต่จะพาไปดีเท่านั้น

มีพระพุทธเจ้า มีพุทโธอยู่ในใจ ถ้าไม่หมดอายุ โรคภัยไข้เจ็บหรืออุบัติเหตุแม้ร้ายแรงเพียงไรนั้น ก็จะไม่สามารถทำลายชีวิตได้ ถ้าหมดอายุก็จะได้ไปสู่สุคติ จึงควรนึกถึงพระพุทธเจ้า ภาวนาพุทโธไว้เสมอ

ลัก...ยิ้ม
03-06-2011, 08:06
พึงน้อมใจเชื่อกรรมอย่างมีกตัญญูกตเวที
ก่อนทำกรรมใด ขอให้น้อมใจนึกถึงพระพุทธเจ้าว่า ทรงเสียสละลำบากเพียงไหนเพื่อสอนให้เชื่อกรรม ให้ไม่ทำกรรมไม่ดีทั้งหลาย ให้ทำแต่ความดี และกรรมดีที่ทรงแสดงสอนก็มิได้ทรงปิดบังแม้แต่น้อย

ทรงแสดงกรรมดีถึงที่จะพาให้พ้นจากการเวียนว่ายตายเกิดได้ พ้นทุกข์อย่างสิ้นเชิง ผลของกรรมไม่ดีก็ทรงแสดงสอนด้วยพระองค์เอง พระโรคลงพระโลหิตก่อนเสด็จดับขันธปรินิพพานนั้น ทรมานยิ่งนัก ต้องทรงมุ่งพระพุทธฤทัยที่จะทรงสอนเป็นวาระสุดท้าย ก่อนที่เสด็จจากไปก่อนที่ไม่มีผู้ใดได้สดับพระสุรเสียงทรงสอนอีกเลย

แม้ไม่ทรงมุ่งเช่นนั้น การเสด็จดับขันธปรินิพพานก็คงจะไม่ทรมานพระกาย ทั้งด้วยทรงกระหายน้ำและด้วยทรงลงพระโลหิต ทรงมุ่งแสดงผลของกรรมให้ประทับจับใจให้บังเกิดผลดีให้ได้

ดังนั้น ผู้มีสติพึงระวังไม่ทำความไม่ดี ทั้งกาย วาจา ใจ และพากันน้อมรับให้เต็มสติปัญญาความสามารถ เชื่อกรรมอย่างมีกตัญญูกตเวทีในพระมหากรุณาของพระพุทธองค์เถิด จักเป็นสิริมงคลล้ำเลิศอย่างสูงสุดอันเป็นที่ปรารถนาทั่วกัน

กรรมดีทางใจที่ควรพร้อมกันทำให้เกิดขึ้นเพื่อความสุขสวัสดีทั้งของตนเองและประเทศชาติ ก็คือความมั่นคงในพระคุณของพระพุทธเจ้า

ลัก...ยิ้ม
06-06-2011, 09:02
พระบารมีแผ่ไปทุกหนแห่ง ทุกเวลานาที

พระบารมีนั้นยิ่งใหญ่ไพศาลแผ่ไปทุกหนทุกแห่ง ทุกเวลานาที พึงพร้อมกันน้อมใจรับ เพียงด้วยการรำลึกถึงพระพุทธองค์ว่า พุทโธ พุทโธ พุทโธ ในทุกเวลานาทีที่มิได้มีภาระอื่น จะนั่ง นอน ยืน เดิน พึงพร้อมกันทำอย่าได้ว่างเว้นและทุกคนทำได้ ทุกคนมีเวลาทำอย่างมากมาย ในรถที่ติด ในที่นอนที่นอนไม่หลับ ในงานที่มิได้ต้องใช้ความคิดมากมายนัก ในเวลารับประทาน ฯลฯ การภาวนาพุทโธไม่ใช่งานหนัก ไม่ใช่งานยาก แต่มีคุณมหาศาลเกินกว่าจะมีผู้ใดบอกได้ ผู้ใดทำผู้นั้นจะได้เข้าใจด้วยตนเอง จึงขอให้ทำเพื่อหนีผลแห่งกรรมไม่ดีที่ไม่อาจรู้เห็นได้ ว่ากำลังจะเกิดแก่ชีวิตในวินาทีใดและร้ายแรงเพียงไหน เช่นที่ได้เกิดขึ้นให้เห็นอยู่แล้วทุกวันนี้

ตั้งจิต “ขออโหสิกรรม” และ “ให้อโหสิกรรม” ต่อผู้เป็นเจ้ากรรมนายเวร ต่อผู้ที่ได้ล่วงล้ำก้ำเกินกันทั้งน้อยใหญ่ แล้วภาวนาพุทโธไว้เถิดให้เป็นอันหนึ่งอันเดียวกับใจ ไม่หมดอายุก็จะสวัสดี หมดอายุก็จะไปดี ไปสบาย ไม่ลำบาก

ลัก...ยิ้ม
07-06-2011, 08:11
ธรรมเครื่องคุ้มครองให้สวัสดี

กำลังความสามารถในการวิ่งหนีมือแห่งกรรมชั่ว กรรมร้าย คือการทำดีพร้อมทั้งกาย วาจา ใจ ทุกเวลา ผู้จะมีสติระวังไม่ทำความไม่ดีทั้งกาย วาจา ใจได้ยิ่งกว่าผู้อื่น คือผู้มีกตัญญูกตเวทีอันเป็นธรรมสำคัญ... ธรรมที่จะทำให้คนเป็นคนดี มีความห่วงใย ปรารถนาจะระวังรักษาผู้มีพระคุณไม่ให้ต้องเสียชื่อเสียง และไม่ต้องเสียทั้งน้ำใจ จึงเป็นผู้มีธรรมเครื่องคุ้มครองให้ทำแต่ความดี ทั้งกาย วาจา ใจ ทุกเวลา

ลัก...ยิ้ม
08-06-2011, 08:29
ชีวิตนี้สำคัญนัก... จงเลือกให้ดีเถิด
ชีวิตนี้น้อยนัก... พึงใช้ชีวิตนี้อย่างผู้มีปัญญาให้เป็นทางไปสู่ชีวิตข้างหน้าที่ยืนนาน ให้เป็นสุคติที่ไม่มีกาลเวลาหาขอบเขตมิได้ โดยยึดหลักสำคัญคือความกตัญญูกตเวทีต่อมารดา บิดา ต่อสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ ให้มั่นคงอยู่ทุกลมหายใจเข้าออกเถิด

ชีวิตนี้น้อยนัก
แต่... “ชีวิตนี้สำคัญนัก”
เป็นหัวเลี้ยวหัวต่อ เป็นทางแยก
จะไปสูงไปต่ำ จะไปดีไปร้าย
เลือกได้ในชีวิตนี้เท่านั้น
พึงสำนึกข้อนี้ให้จงดี
แล้วจงเลือกเถิด... เลือกให้ดีเถิด

ลัก...ยิ้ม
09-06-2011, 07:34
ตนแลเป็นคติของตน
ที่มักกล่าวว่าคนนั้นพาคนนี้ไปไม่ดีนั้น... ไม่ถูก
ไม่มีผู้ใดพาใครไปไหนได้ นอกจากเจ้าตัวจะเป็นผู้พาตัวเองไป เช่น...
ถ้ามีผู้ชวนให้ไปทำบุญทำกุศล ถ้าตัวเองไม่ยอมเห็นด้วยก็จะไม่ทำบุญทำกุศล
ไม่ว่าเรื่องใด... ถ้าตนไม่เห็นดีตามไปด้วย ก็จะไม่มีผู้ใดมานำไปได้
ท่านจึงกล่าวว่า... “ตนเป็นคติของตน”บุคคลผู้ใด... สามารถรักษาจิตใจ วาจา การกระทำให้เป็นไปเพื่อไม่เป็นการให้ทุกข์แก่ผู้อื่นนั้น
ไม่เรียกว่าเป็นการทำเพื่อผู้อื่น ไม่เรียกว่าเป็นการถือว่า... ผู้อื่นเป็นที่รักยิ่งของตน
แต่เป็นการทำเพื่อตนเอง เป็นการถือว่าตนเป็นที่รักของตนอย่างยิ่ง
“ไม่มีความรักอื่นเสมอด้วยรักตน”

ลัก...ยิ้ม
10-06-2011, 07:41
อำนาจอันยิ่งใหญ่
ชีวิตหรือชาตินี้ของทุกคนล้วนมีชาติกำเนิดไม่เหมือนกัน เป็นไทยก็มี จีนก็มี แขกก็มี ฝรั่งก็มี
มีชาติตระกูลไม่เสมอกัน... สูงก็มี ต่ำก็มี มีสติปัญญาไม่ทัดเทียมกัน ฉลาดหลักแหลมก็มี โง่เขลา
เบาปัญญาก็มี มีฐานะต่างระดับกัน ร่ำรวยก็มี ยากจนก็มี ความแตกต่างนานาประการนั้น เป็นผล
มาจากกรรมในชาติอดีตทั้งสิ้น
เทวดา... มาเกิดเป็นมนุษย์ได้
มนุษย์... ไปเกิดเป็นเทวดาได้
เทวดา... มาเกิดเป็นสัตว์ได้
สัตว์... ไปเกิดเป็นเทวดาได้
มนุษย์... เกิดเป็นสัตว์ได้
สัตว์... เกิดเป็นมนุษย์ได้
อำนาจอันยิ่งใหญ่ของกรรมเท่านั้น ที่ตกแต่งชีวิตให้เป็นไปได้อย่างไม่น่าเชื่อ กรรมจึงน่ากลัวจริง ๆ
น่าหนีให้พ้นกรรม ทั้งกรรมในอดีตและกรรมในปัจจุบัน

ลัก...ยิ้ม
13-06-2011, 07:27
ผู้ชนะที่มีความสุขยิ่ง
ความทุกข์... จะต้องมีอยู่ตราบที่กิเลสทั้งสามกองคือ โลภ โกรธ หลง มีอยู่ กิเลสมีมากเพียงใด... ทุกข์ก็มีมากเพียงนั้น เมื่อใดกิเลสสามกองหมดไปจากจิตใจสิ้นเชิง นั่นแหละความทุกข์จึงจะหมดไปได้เช่นกัน

จึงควรพยายามทำกิเลสให้หมดสิ้นให้จงได้ มีมานะ พากเพียร ใช้สติปัญญาให้รอบคอบ ใช้ให้เต็มความสามารถ ทุกเวลา นาทีที่ทำได้ แล้วจะเป็นผู้ชนะ... มีความสุขอย่างยิ่ง

อย่าเข้าข้างตัวเองผิด ๆ ... ดูตัวเองให้เข้าใจ เมื่อโลภเกิดขึ้นให้รู้ว่ากำลังคิดโลภแล้ว และหยุดความคิดนั้นเสีย เมื่อโกรธเกิดขึ้นให้รู้ว่าคิดโกรธแล้ว... หยุดเสีย เมื่อหลงเกิดขึ้นให้รู้ว่าคิดหลงแล้ว... หยุดเสีย

หัดหยุดความคิดที่เป็นกิเลสเสียก่อน เริ่มหัดหยุดเสียตั้งแต่บัดนี้เถิด จะเป็นการเริ่มฐานต่อต้าน กำราบปราบทุกข์ให้สิ้นไป... ที่จะให้ผลอย่างแท้จริงแน่นอน

ลัก...ยิ้ม
14-06-2011, 07:32
สพฺพทานํ ธมฺมทานํ ชินาติ
การให้ธรรมเป็นทาน ชนะการให้ทั้งปวง

อานิสงส์ของการไหว้พระสวดมนต์

๑. การสวดมนต์ทุกวันเป็นมงคลแก่ตนเองและครอบครัว

๒. เป็นการบำเพ็ญภาวนาอย่างหนึ่ง

๓. ทำให้จิตบังเกิดกุศลได้ง่าย

๔. ทำให้ใจสงบสุขุม

๕. เหมาะสำหรับการเตรียมตัวก่อนปฏิบัติวิปัสสนากรรมฐาน

๖. สวดมนต์เพื่อถวายเป็นพุทธบูชา

๗. เป็นบุญที่ได้กล่าวคำศักดิ์สิทธิ์ที่พระพุทธเจ้าบัญญัติไว้

๘. เพื่อป้องกันภัยวิบัติ

๙. เพื่อความสำเร็จในสมบัติทั้งปวง

๑๐. เพื่อให้ทุกข์ต่าง ๆ หมดไป

๑๑. เป็นการขจัดภัยต่าง ๆ

๑๒. เพื่อบรรเทาความเจ็บป่วยต่าง ๆ

การสวดมนต์ที่ถูกต้องนั้น ก็ต้องสวดให้ได้ใจความ ไม่สวดเร็วเกินไป หรือสวดช้าเกินไป เสียงดังพอประมาณเพื่อให้เทพยดาทั้งหลายเป็นพยานว่า ท่านได้สวดมนต์ถวายเป็นพุทธบูชา

ลัก...ยิ้ม
14-06-2011, 07:34
จบแล้วนะคะ