โอรส
12-11-2010, 01:01
ถาม : ...(คุยเรื่องหิน)...?
ตอบ : อย่างนี้เอาไปแลกที่ดวงดาวสิปปังได้ ที่นั่นหินจะมีค่ามาก เพราะเขาไม่มีหินแบบนี้ เขามีแต่เพชร..! เอาไปแลกสักกระสอบหนึ่ง ไปถึงก็โกย ๆ เอา ไม่มีใครเขาว่าหรอก เพราะมีเต็มไปหมด ถึงขนาดเอามาประดับโต๊ะ ประดับเก้าอี้กัน
ถาม : ที่ไหนคะ ?
ตอบ : ดาวดวงหนึ่งจ้ะ ชื่อภาษาบาลีเขาเรียกว่า "สิปปัง" คือ ศิลปะ พวกนี้เขาจะช่างแต่งตัว ประดับเพชรกันครั้งหนึ่งเป็นกุรุส
ถาม : แล้วอยู่ในสุริยะจักรวาลหรือเปล่า ?
ตอบ : อยู่คนละจักรวาลกัน แต่พอไปไหว ถ้าหากว่าเครื่องไม้เครื่องมือของเราเหมือนเขา เพราะว่าดวงดาวอื่น ๆ เขาเจริญกว่าเราเยอะ
ถาม : ในจักรวาลอื่น ๆ นี้ มีพระอรหันต์หรือเปล่าครับ ?
ตอบ : ต้องดูก่อน ถ้าหากที่ไหนก็ตามที่ธรรมะของพระพุทธเจ้าคงอยู่ และมีผู้ปฏิบัติตาม ที่นั่นก็จะมีพระอริยเจ้า
สถานที่เหล่านั้น บางครั้งพระพุทธเจ้าก็เสด็จไปโปรด บางครั้งพระอรหันต์ก็ไปโปรดเหมือนกัน เพียงแต่ว่าของเขาจะบรรลุธรรมยากอยู่ตรงจุดที่ว่า เขาสบายเกินไป
พอบอกว่า อนิจจัง ไม่เที่ยง ก็เขาอยู่กันเป็นหมื่น ๆ ปี
บอกว่า ทุกขัง เป็นทุกข์ เขาก็สบาย เหมือนอยู่ด้วยบุญฤทธิ์เสียด้วยซ้ำไป
บางดวงดาว อย่างดาวพุธของเรา เวลาจะไปไหนก็ลอยไป จะกินข้าว ก็ไม่ต้องสีหรือตำ เพราะข้าวไม่มีเปลือก รูดมาก็ใส่หม้อได้เลย
ถ้ายิ่งเป็นของอุตรกุรุทวีป คือ ดาวพลูโต รูดมาถึงก็ตั้งบนแก้วมณี ดีกว่าไมโครเวฟเสียอีก สุกพอดีไม่เคยไหม้เลย อยากได้กับข้าวก็นึกเอา อยู่สบายจนกระทั่งบอกว่าทุกข์เป็นอย่างไร ยังไม่รู้เลย ก็เลยเข้าถึงธรรมได้ยากหน่อย
ตอบ : อย่างนี้เอาไปแลกที่ดวงดาวสิปปังได้ ที่นั่นหินจะมีค่ามาก เพราะเขาไม่มีหินแบบนี้ เขามีแต่เพชร..! เอาไปแลกสักกระสอบหนึ่ง ไปถึงก็โกย ๆ เอา ไม่มีใครเขาว่าหรอก เพราะมีเต็มไปหมด ถึงขนาดเอามาประดับโต๊ะ ประดับเก้าอี้กัน
ถาม : ที่ไหนคะ ?
ตอบ : ดาวดวงหนึ่งจ้ะ ชื่อภาษาบาลีเขาเรียกว่า "สิปปัง" คือ ศิลปะ พวกนี้เขาจะช่างแต่งตัว ประดับเพชรกันครั้งหนึ่งเป็นกุรุส
ถาม : แล้วอยู่ในสุริยะจักรวาลหรือเปล่า ?
ตอบ : อยู่คนละจักรวาลกัน แต่พอไปไหว ถ้าหากว่าเครื่องไม้เครื่องมือของเราเหมือนเขา เพราะว่าดวงดาวอื่น ๆ เขาเจริญกว่าเราเยอะ
ถาม : ในจักรวาลอื่น ๆ นี้ มีพระอรหันต์หรือเปล่าครับ ?
ตอบ : ต้องดูก่อน ถ้าหากที่ไหนก็ตามที่ธรรมะของพระพุทธเจ้าคงอยู่ และมีผู้ปฏิบัติตาม ที่นั่นก็จะมีพระอริยเจ้า
สถานที่เหล่านั้น บางครั้งพระพุทธเจ้าก็เสด็จไปโปรด บางครั้งพระอรหันต์ก็ไปโปรดเหมือนกัน เพียงแต่ว่าของเขาจะบรรลุธรรมยากอยู่ตรงจุดที่ว่า เขาสบายเกินไป
พอบอกว่า อนิจจัง ไม่เที่ยง ก็เขาอยู่กันเป็นหมื่น ๆ ปี
บอกว่า ทุกขัง เป็นทุกข์ เขาก็สบาย เหมือนอยู่ด้วยบุญฤทธิ์เสียด้วยซ้ำไป
บางดวงดาว อย่างดาวพุธของเรา เวลาจะไปไหนก็ลอยไป จะกินข้าว ก็ไม่ต้องสีหรือตำ เพราะข้าวไม่มีเปลือก รูดมาก็ใส่หม้อได้เลย
ถ้ายิ่งเป็นของอุตรกุรุทวีป คือ ดาวพลูโต รูดมาถึงก็ตั้งบนแก้วมณี ดีกว่าไมโครเวฟเสียอีก สุกพอดีไม่เคยไหม้เลย อยากได้กับข้าวก็นึกเอา อยู่สบายจนกระทั่งบอกว่าทุกข์เป็นอย่างไร ยังไม่รู้เลย ก็เลยเข้าถึงธรรมได้ยากหน่อย