โอรส
26-09-2010, 23:06
ถาม : อำนาจ ริษยา อาฆาต พยาบาท ถือตัว น้อยใจ จะแก้อย่างไร ?
ตอบ : ริษยา อาฆาต พยาบาท น้อยใจ เป็นสาขาหนึ่งของโทสะ อำนาจและถือตัวเป็นทั้งสักกายทิฐิและมานะด้วย
ถาม : เราจะแก้ไขและทำลายสิ่งเหล่านี้ได้อย่างไร ?
ตอบ : ใช้ตัวเดียวเท่านั้น คือประคองสติให้อยู่เฉพาะหน้า อย่าให้ไปข้างหน้า(อนาคต) แล้วอย่าให้ไปข้างหลัง(อดีต)
โดยเฉพาะตัวอดีต จะทำให้น้อยใจ คอยจะคิดปรุงว่าเขาไม่ดีกับเราอย่างนั้น ไม่ดีกับเราอย่างนี้ ทั้ง ๆ ที่เราดีแสนดีแล้ว
จะต้องหยุดกำลังใจให้หยุดอยู่เฉพาะหน้า ถ้าหยุดอยู่เฉพาะหน้าได้ ก็จะไม่ไปน้อยใจให้เสียเวลา
ถาม : อิจฉาเป็นอย่างไรคะ ?
ตอบ : อิจฉาเกิดจากตัวโลภ อยากได้ใคร่มีแบบเขา พอไม่มีแบบเขาก็เกิดอิจฉาขึ้นมา
ตัวโลภ(โลภะ) กับตัวรัก(ราคะ)เป็นตัวเดียวกัน อิจฉาริษยาเขาเพราะว่า เราจะสู้เขาไม่ได้ ในเมื่อดีสู้เขาไม่ได้ ก็กลัวว่าเราจะไม่ได้รับความรักจากคนอื่น
ตัวนี้ภาษาบาลีเรียก "อิสสา" เกือบจะตรงกับคำว่าอิจฉาอยู่แล้ว
ถาม : แล้วจะแก้อย่างไร ?
ตอบ : แก้เหมือนกันเลย เพราะเป็นการฟุ้งซ่าน ส่วนใหญ่การฟุ้งซ่านไม่ไปในอดีต ก็ไปอนาคต เพราะฉะนั้น..ถ้าหยุดอยู่กับปัจจุบันได้ กิเลสทุกตัวตายเกลี้ยง..!
ถาม : แล้วตัวพยาบาท ?
ตอบ : เหมือนกันหมด ตัวพยาบาทนั้นเป็นรากที่ฝังลึกของโทสะ
แรก ๆ ก็เป็นปฎิฆะก่อน คือกระทบแล้วไม่พอใจ พอเราไปคิดปรุงแต่งเพิ่มเติม ก็เกิดเป็นโทสะ อาละวาดขึ้นมา พออาละวาดขึ้นมาไม่ได้อย่างใจ คราวนี้ก็จะกลายเป็นไฟสุมขอน เป็นพยาบาท เก็บเอาไว้เรื่อย ๆ เดี๋ยวอกแตกตายไปเอง
ในการหยุดกิเลสทุกอย่าง ถ้าเราหยุดกำลังใจของเราได้ คือการหยุดความคิด ตัวคิดนั่นก็คือตัวจิตสังขารในการปรุงแต่ง ถ้าหยุดตัวนี้ลงได้ ตัวอื่นก็หยุดหมด ดับหมด
ถ้าไม่มีน้ำมันใส่ลงไปซะอย่าง เครื่องยนต์ก็ไปไม่ได้หรอก พอเครื่องดับหมด ระบบการทำงานอื่น ๆ ก็ไม่ทำงาน
ตอบ : ริษยา อาฆาต พยาบาท น้อยใจ เป็นสาขาหนึ่งของโทสะ อำนาจและถือตัวเป็นทั้งสักกายทิฐิและมานะด้วย
ถาม : เราจะแก้ไขและทำลายสิ่งเหล่านี้ได้อย่างไร ?
ตอบ : ใช้ตัวเดียวเท่านั้น คือประคองสติให้อยู่เฉพาะหน้า อย่าให้ไปข้างหน้า(อนาคต) แล้วอย่าให้ไปข้างหลัง(อดีต)
โดยเฉพาะตัวอดีต จะทำให้น้อยใจ คอยจะคิดปรุงว่าเขาไม่ดีกับเราอย่างนั้น ไม่ดีกับเราอย่างนี้ ทั้ง ๆ ที่เราดีแสนดีแล้ว
จะต้องหยุดกำลังใจให้หยุดอยู่เฉพาะหน้า ถ้าหยุดอยู่เฉพาะหน้าได้ ก็จะไม่ไปน้อยใจให้เสียเวลา
ถาม : อิจฉาเป็นอย่างไรคะ ?
ตอบ : อิจฉาเกิดจากตัวโลภ อยากได้ใคร่มีแบบเขา พอไม่มีแบบเขาก็เกิดอิจฉาขึ้นมา
ตัวโลภ(โลภะ) กับตัวรัก(ราคะ)เป็นตัวเดียวกัน อิจฉาริษยาเขาเพราะว่า เราจะสู้เขาไม่ได้ ในเมื่อดีสู้เขาไม่ได้ ก็กลัวว่าเราจะไม่ได้รับความรักจากคนอื่น
ตัวนี้ภาษาบาลีเรียก "อิสสา" เกือบจะตรงกับคำว่าอิจฉาอยู่แล้ว
ถาม : แล้วจะแก้อย่างไร ?
ตอบ : แก้เหมือนกันเลย เพราะเป็นการฟุ้งซ่าน ส่วนใหญ่การฟุ้งซ่านไม่ไปในอดีต ก็ไปอนาคต เพราะฉะนั้น..ถ้าหยุดอยู่กับปัจจุบันได้ กิเลสทุกตัวตายเกลี้ยง..!
ถาม : แล้วตัวพยาบาท ?
ตอบ : เหมือนกันหมด ตัวพยาบาทนั้นเป็นรากที่ฝังลึกของโทสะ
แรก ๆ ก็เป็นปฎิฆะก่อน คือกระทบแล้วไม่พอใจ พอเราไปคิดปรุงแต่งเพิ่มเติม ก็เกิดเป็นโทสะ อาละวาดขึ้นมา พออาละวาดขึ้นมาไม่ได้อย่างใจ คราวนี้ก็จะกลายเป็นไฟสุมขอน เป็นพยาบาท เก็บเอาไว้เรื่อย ๆ เดี๋ยวอกแตกตายไปเอง
ในการหยุดกิเลสทุกอย่าง ถ้าเราหยุดกำลังใจของเราได้ คือการหยุดความคิด ตัวคิดนั่นก็คือตัวจิตสังขารในการปรุงแต่ง ถ้าหยุดตัวนี้ลงได้ ตัวอื่นก็หยุดหมด ดับหมด
ถ้าไม่มีน้ำมันใส่ลงไปซะอย่าง เครื่องยนต์ก็ไปไม่ได้หรอก พอเครื่องดับหมด ระบบการทำงานอื่น ๆ ก็ไม่ทำงาน