ลัก...ยิ้ม
18-03-2010, 17:31
อย่าประมาทกาลเวลา (ครูบาศรีวิชัย)
จากนั้นท่านพระครูบาศรีวิชัย ก็เมตตามาช่วยสอนต่อ มีความสำคัญดังนี้
๑. “รู้แล้วก็หมั่นทำความเพียรละสังโยชน์ให้ได้ ก่อนที่ลมหายใจจะหมดด้วย อย่าประมาทกาลเวลา ในโลกมนุษย์นี้สั้นนิดเดียว พยายามใช้ทุกขณะจิตให้มีค่า ไม่ว่าจะอยู่คนเดียวหรืออยู่หลายคนรวมเป็นหมู่ จงหมั่นรักษาอารมณ์ของจิตให้วิเวก สงบอยู่กับศีล สมาธิ ปัญญา มุ่งพระนิพพานให้มากที่สุด”
๒. “โอกาสที่จะทำความเพียร อยู่ที่กำลังใจของเราเอง อย่าเลือกหมู่เหล่า อย่าเลือกสถานที่ หากทำไม่ได้ก็จงอย่าโทษใคร โทษจิตของตนเองที่โง่ ไม่ฉลาด หาความวิเวกไม่เป็น”
๓. “จำไว้ คนที่ปฏิบัติธรรมต้องเอาจิตรู้ลมทุกขณะจิต”
๔. “ค่อย ๆ ทำไป ระเบียบก็ต้องเป็นระเบียบ จะเอาสงบสงัดต้องทำให้ได้เป็นอกาลิโกสิ มันถึงจะเป็นของแท้ ขยันมาก ๆ ก็แล้วกัน มรรคผลมันไม่หนีไปไหนหรอก”
๕. “เรื่องการกล่าวโทษโจทก์ความผิดของผู้อื่น เลิกกันเสียที ทุกอย่างเป็นกฎของกรรมทั้งสิ้น ใครจะว่าอะไร อะไรมันจะเกิดก็เรื่องของกฎของกรรม เอ็งทำจิตให้ยอมรับเข้าไว้ เห็นธรรมดาของกฎของกรรม ให้เข้าถึงใจ แล้วใจมันก็จะสบายไปเอง”
จากนั้นท่านพระครูบาศรีวิชัย ก็เมตตามาช่วยสอนต่อ มีความสำคัญดังนี้
๑. “รู้แล้วก็หมั่นทำความเพียรละสังโยชน์ให้ได้ ก่อนที่ลมหายใจจะหมดด้วย อย่าประมาทกาลเวลา ในโลกมนุษย์นี้สั้นนิดเดียว พยายามใช้ทุกขณะจิตให้มีค่า ไม่ว่าจะอยู่คนเดียวหรืออยู่หลายคนรวมเป็นหมู่ จงหมั่นรักษาอารมณ์ของจิตให้วิเวก สงบอยู่กับศีล สมาธิ ปัญญา มุ่งพระนิพพานให้มากที่สุด”
๒. “โอกาสที่จะทำความเพียร อยู่ที่กำลังใจของเราเอง อย่าเลือกหมู่เหล่า อย่าเลือกสถานที่ หากทำไม่ได้ก็จงอย่าโทษใคร โทษจิตของตนเองที่โง่ ไม่ฉลาด หาความวิเวกไม่เป็น”
๓. “จำไว้ คนที่ปฏิบัติธรรมต้องเอาจิตรู้ลมทุกขณะจิต”
๔. “ค่อย ๆ ทำไป ระเบียบก็ต้องเป็นระเบียบ จะเอาสงบสงัดต้องทำให้ได้เป็นอกาลิโกสิ มันถึงจะเป็นของแท้ ขยันมาก ๆ ก็แล้วกัน มรรคผลมันไม่หนีไปไหนหรอก”
๕. “เรื่องการกล่าวโทษโจทก์ความผิดของผู้อื่น เลิกกันเสียที ทุกอย่างเป็นกฎของกรรมทั้งสิ้น ใครจะว่าอะไร อะไรมันจะเกิดก็เรื่องของกฎของกรรม เอ็งทำจิตให้ยอมรับเข้าไว้ เห็นธรรมดาของกฎของกรรม ให้เข้าถึงใจ แล้วใจมันก็จะสบายไปเอง”