เถรี
17-02-2010, 09:16
อ่านประวัติศาสตร์ไทยรบพม่าแล้ว พวกเราเห็นภาพพจน์ของพระมหาอุปราชาไปในลักษณะไหน ? แพ้ทั้งปี..ใช่ไหม ?
มังสามเกียด ต้องบอกว่าท่านเกิดผิดยุค ถ้าหากไม่ได้เกิดยุคเดียวกับพระนเรศวร ท่านคงประสบความสำเร็จมาก ไปนึกถึงพระพุทธเจ้ากับพระเทวทัต ศึกษาวิชาอยู่กับอาจารย์ทิศาปาโมกข์เดียวกัน อาจารย์ก็จะชมว่าเทวทัตนั้นเก่ง แต่สิทธัตถะเก่งกว่า..ประจำเลย เขาเรียกว่าเกิดผิดยุค ถ้าต่างคนต่างเกิดคนละประเทศ ไม่ได้มายุ่งเกี่ยวกันก็ดังทั้งคู่ แต่นี่ต้องมาเกี่ยวดองกัน ก็เลยกลายเป็นถูกตีตราว่าแพ้ตลอด
แต่ถ้าเราพิจารณากันให้ดี ๆ ต้องบอกว่าพระมหาอุปราช ฝีมือท่านพอตัวเลย เพราะว่าทันทีที่พระนเรศวรประกาศอิสรภาพที่เมืองแครง พระองค์ก็ยกทัพบุกหงสาวดีเลย ปรากฏว่าพระเจ้านันทบุเรงไม่อยู่ ยกทัพไปตีเมืองอังวะ คนที่เฝ้าหงสาวดีก็คือพระมหาอุปราช พระนเรศวรต้องถอยทัพกลับ ถ้าอยู่ในสถานที่อันเหมาะสม ก็แปลว่าฝีมือของท่านอยู่ในระดับที่น่าเกรงขามทีเดียว ถ้าหากว่ากันตามประวัติศาสตร์ พระมหาอุปราชชนไก่ก็แพ้ ตีเมืองคังก็แพ้ ทำยุทธหัตถีก็แพ้
ของอาตมาเองนี่น้องชายเขาเกิดผิดยุค อาตมาเรียนเก่ง เขาก็ไปหวังกับน้องชายด้วยว่าต้องเหมือนกัน อาตมาทำให้น้องหมดความมั่นใจไปเลย เพราะอาตมาเก่งกว่า ตอนที่เขาจะเรียนปริญญาตรี ปริญญาโท เขาก็บ่นว่ากลัวจะเรียนไม่ไหว อาตมาต้องตบกะโหลกบอกว่า "เอ็งจำไว้เลยนะว่า..ในโลกนี้เอ็งแพ้ข้าคนเดียว..!" ถ้าไม่ตบกะโหลกให้เขารู้ว่า เขาเองก็มีความสามารถ เขาจะหมดกำลังใจ เพราะเขาแพ้อาตมาตลอด
ขอสรุปว่า ถ้าเราเกิดผิดยุคผิดสมัย เราอาจจะตกจากหน้าประวัติศาสตร์ แต่ถ้าเกิดถูกยุคถูกสมัย ความสามารถห่วย ๆ อย่างเรานี่ อาจจะดังระเบิดติดประวัติศาสตร์ไปชั่วฟ้าดินสลายเลย ดังนั้น..แต่ละคนจะต้องหาช่องทางของตัวเอง แล้วก็ตะกายขึ้นไป ต้องดูต้นไม้ เวลาต้นไม้งอกขึ้นมา ก็ไม่รู้ว่าจะเจออะไรบ้าง แต่ถ้าเกิดมาเจอว่าอยู่ใต้ร่มไม้อื่นเขา ต้นไม้ก็พยายามจะเบนออกไปหาแสงแดด แล้วก็ชูยอดขึ้นไปในจุดที่เหมาะสมกับตัวเอง ในความเป็นคนของพวกเรา ต้องมีปัญญามากกว่าต้นไม้ ในเมื่อต้นไม้หาจุดในที่เหมาะสมของเขาได้ เราก็ต้องหาได้ ในเมื่อเอาดีทางโลกไม่ได้ เอาดีทางธรรมก็ได้ รับรองว่าดีแท้ด้วย
พระครูธรรมธรเล็ก สุธมฺมปญฺโญ
เทศน์ช่วงเย็น ณ บ้านอนุสาวรีย์
วันศุกร์ที่ ๕ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๓
มังสามเกียด ต้องบอกว่าท่านเกิดผิดยุค ถ้าหากไม่ได้เกิดยุคเดียวกับพระนเรศวร ท่านคงประสบความสำเร็จมาก ไปนึกถึงพระพุทธเจ้ากับพระเทวทัต ศึกษาวิชาอยู่กับอาจารย์ทิศาปาโมกข์เดียวกัน อาจารย์ก็จะชมว่าเทวทัตนั้นเก่ง แต่สิทธัตถะเก่งกว่า..ประจำเลย เขาเรียกว่าเกิดผิดยุค ถ้าต่างคนต่างเกิดคนละประเทศ ไม่ได้มายุ่งเกี่ยวกันก็ดังทั้งคู่ แต่นี่ต้องมาเกี่ยวดองกัน ก็เลยกลายเป็นถูกตีตราว่าแพ้ตลอด
แต่ถ้าเราพิจารณากันให้ดี ๆ ต้องบอกว่าพระมหาอุปราช ฝีมือท่านพอตัวเลย เพราะว่าทันทีที่พระนเรศวรประกาศอิสรภาพที่เมืองแครง พระองค์ก็ยกทัพบุกหงสาวดีเลย ปรากฏว่าพระเจ้านันทบุเรงไม่อยู่ ยกทัพไปตีเมืองอังวะ คนที่เฝ้าหงสาวดีก็คือพระมหาอุปราช พระนเรศวรต้องถอยทัพกลับ ถ้าอยู่ในสถานที่อันเหมาะสม ก็แปลว่าฝีมือของท่านอยู่ในระดับที่น่าเกรงขามทีเดียว ถ้าหากว่ากันตามประวัติศาสตร์ พระมหาอุปราชชนไก่ก็แพ้ ตีเมืองคังก็แพ้ ทำยุทธหัตถีก็แพ้
ของอาตมาเองนี่น้องชายเขาเกิดผิดยุค อาตมาเรียนเก่ง เขาก็ไปหวังกับน้องชายด้วยว่าต้องเหมือนกัน อาตมาทำให้น้องหมดความมั่นใจไปเลย เพราะอาตมาเก่งกว่า ตอนที่เขาจะเรียนปริญญาตรี ปริญญาโท เขาก็บ่นว่ากลัวจะเรียนไม่ไหว อาตมาต้องตบกะโหลกบอกว่า "เอ็งจำไว้เลยนะว่า..ในโลกนี้เอ็งแพ้ข้าคนเดียว..!" ถ้าไม่ตบกะโหลกให้เขารู้ว่า เขาเองก็มีความสามารถ เขาจะหมดกำลังใจ เพราะเขาแพ้อาตมาตลอด
ขอสรุปว่า ถ้าเราเกิดผิดยุคผิดสมัย เราอาจจะตกจากหน้าประวัติศาสตร์ แต่ถ้าเกิดถูกยุคถูกสมัย ความสามารถห่วย ๆ อย่างเรานี่ อาจจะดังระเบิดติดประวัติศาสตร์ไปชั่วฟ้าดินสลายเลย ดังนั้น..แต่ละคนจะต้องหาช่องทางของตัวเอง แล้วก็ตะกายขึ้นไป ต้องดูต้นไม้ เวลาต้นไม้งอกขึ้นมา ก็ไม่รู้ว่าจะเจออะไรบ้าง แต่ถ้าเกิดมาเจอว่าอยู่ใต้ร่มไม้อื่นเขา ต้นไม้ก็พยายามจะเบนออกไปหาแสงแดด แล้วก็ชูยอดขึ้นไปในจุดที่เหมาะสมกับตัวเอง ในความเป็นคนของพวกเรา ต้องมีปัญญามากกว่าต้นไม้ ในเมื่อต้นไม้หาจุดในที่เหมาะสมของเขาได้ เราก็ต้องหาได้ ในเมื่อเอาดีทางโลกไม่ได้ เอาดีทางธรรมก็ได้ รับรองว่าดีแท้ด้วย
พระครูธรรมธรเล็ก สุธมฺมปญฺโญ
เทศน์ช่วงเย็น ณ บ้านอนุสาวรีย์
วันศุกร์ที่ ๕ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๓