เถรี
16-02-2009, 11:00
ท่านเจ้าคุณพรหมคุณาภรณ์(ป.อ.ปยุตโต) ท่านสอนให้เราพิจารณาคุณค่าแท้ คุณค่าเทียม
อย่างลูกเชอรี่..คุณค่าแท้ ๆ ก็คืออาหาร แต่คุณค่าเทียมแสดงออกว่า ฉันกินของแพง เข้าใจหรือยัง ?
นี่..อย่างนาฬิกา..คุณค่าแท้ก็คือเครื่องดูเวลา แต่คุณค่าเทียมก็อย่างพวกโรเล็กซ์เรือนละแสนกว่าบาท มีไว้ประดับฐานะ ซึ่งไม่มีความจำเป็นเลย เรือนละสามร้อยบาทก็ใช้ดูเวลาได้แล้ว แถมเวลาตกหล่นเราก็ไม่เสียดายด้วย ใส่โรเล็กซ์ไป อยู่ ๆ มืออาจจะขาด โดนคนอื่นชิงเอาไปจำนำแทน ดังนั้น..นักปฏิบัติเมื่อไปถึงระดับหนึ่งจึงเหมือนกับขวางโลก เพราะไม่เห็นประโยชน์ในสิ่งที่คนอื่นเขาเห็นกัน
นึกหลวงพ่อเจ้าคณะอำเภอรูปก่อน ตอนที่น้ำมันขึ้นลิตรละ ๑๓ บาท อาตมาก็โละรถเสียจนเกลี้ยงวัด ท่านบ่นว่า "อาจารย์เล็กบ้า มีรถดี ๆ ไม่รู้จักขี่.." อาตมาบอกท่านไปว่า "จะมีประโยชน์อะไรละครับ อาจารย์เล็กนั่งสองแถวเขาก็ว่าอาจารย์เล็กรวย หลวงพ่อนั่งรถเบนซ์เขาก็รู้ว่าหลวงพ่อยืมตังค์ผมเติมน้ำมัน..!" เพราะฉะนั้น..ทุกอย่างไม่ได้อยู่ที่เปลือกนอก
แต่ว่าปัจจุบันน่าเสียดายว่า บรรดานักบวชของเราหลงประเด็นไปเยอะ โดยเฉพาะหลายต่อหลายท่านที่บวชเข้ามา ตอนแรกตั้งใจมาเพื่อมาละกิเลส พออยู่ ๆ ไปกลายเป็นสะสมกิเลสโดยไม่รู้ตัว จากที่เคยทำเพื่อความสุขของคนอื่น เพื่อประโยชน์ของส่วนรวม ก็กลายเป็นว่าทำเพื่อความสุขของตัวเอง เพื่อประโยชน์ของตัวเอง ยกตัวอย่าง สร้างกุฏิตัวเองราคาหลายล้าน แต่พระลูกวัดต้องไปยัดกันอยู่บนศาลา เอาจีวรมากั้นห้อง มีจริง ๆ และหลายวัดด้วย..!
อย่างลูกเชอรี่..คุณค่าแท้ ๆ ก็คืออาหาร แต่คุณค่าเทียมแสดงออกว่า ฉันกินของแพง เข้าใจหรือยัง ?
นี่..อย่างนาฬิกา..คุณค่าแท้ก็คือเครื่องดูเวลา แต่คุณค่าเทียมก็อย่างพวกโรเล็กซ์เรือนละแสนกว่าบาท มีไว้ประดับฐานะ ซึ่งไม่มีความจำเป็นเลย เรือนละสามร้อยบาทก็ใช้ดูเวลาได้แล้ว แถมเวลาตกหล่นเราก็ไม่เสียดายด้วย ใส่โรเล็กซ์ไป อยู่ ๆ มืออาจจะขาด โดนคนอื่นชิงเอาไปจำนำแทน ดังนั้น..นักปฏิบัติเมื่อไปถึงระดับหนึ่งจึงเหมือนกับขวางโลก เพราะไม่เห็นประโยชน์ในสิ่งที่คนอื่นเขาเห็นกัน
นึกหลวงพ่อเจ้าคณะอำเภอรูปก่อน ตอนที่น้ำมันขึ้นลิตรละ ๑๓ บาท อาตมาก็โละรถเสียจนเกลี้ยงวัด ท่านบ่นว่า "อาจารย์เล็กบ้า มีรถดี ๆ ไม่รู้จักขี่.." อาตมาบอกท่านไปว่า "จะมีประโยชน์อะไรละครับ อาจารย์เล็กนั่งสองแถวเขาก็ว่าอาจารย์เล็กรวย หลวงพ่อนั่งรถเบนซ์เขาก็รู้ว่าหลวงพ่อยืมตังค์ผมเติมน้ำมัน..!" เพราะฉะนั้น..ทุกอย่างไม่ได้อยู่ที่เปลือกนอก
แต่ว่าปัจจุบันน่าเสียดายว่า บรรดานักบวชของเราหลงประเด็นไปเยอะ โดยเฉพาะหลายต่อหลายท่านที่บวชเข้ามา ตอนแรกตั้งใจมาเพื่อมาละกิเลส พออยู่ ๆ ไปกลายเป็นสะสมกิเลสโดยไม่รู้ตัว จากที่เคยทำเพื่อความสุขของคนอื่น เพื่อประโยชน์ของส่วนรวม ก็กลายเป็นว่าทำเพื่อความสุขของตัวเอง เพื่อประโยชน์ของตัวเอง ยกตัวอย่าง สร้างกุฏิตัวเองราคาหลายล้าน แต่พระลูกวัดต้องไปยัดกันอยู่บนศาลา เอาจีวรมากั้นห้อง มีจริง ๆ และหลายวัดด้วย..!