เข้าระบบ

View Full Version : อดทนอดกลั้น


เถรี
14-01-2010, 08:27
ถาม : บวชรอบหน้าก็ยังเฮฮาเหมือนรอบนี้หรือครับ ?
ตอบ : ถ้าบวชแล้วตั้งใจปฏิบัติตามศีล เฮฮาอย่างนี้ไม่ได้หรอก เพราะกลัวพลาด เราต้องปรับตัวไประยะหนึ่ง ประมาณสัก ๒ - ๓ พรรษา แล้วแต่ว่ารู้ตัวช้าเร็ว แล้วเราจะเป็นอันหนึ่งอันเดียวกับศีล ชนิดที่ว่าขยับตัวก็รู้ว่าศีลจะขาด

ถาม : รอบที่ผ่านมาก็เฮฮาแล้ว กลัวรอบหน้าจะเฮฮากว่าเดิมครับ ?
ตอบ : อย่าลืมว่าสมัยก่อนศีลครบถ้วนสมบูรณ์ทุกสิกขาบท พระท่านไปพระนิพพานกันนับไม่ถ้วน สมัยนี้ศีลเกี่ยวกับภิกษุณีก็ดี เกี่ยวกับการสร้างเครื่องใช้ไม้สอยก็ดี เราไม่จำเป็นต้องทำอย่างนั้นแล้ว เพราะว่าภิกษุณีไม่มี เครื่องใช้ไม้สอยต่าง ๆ ญาติโยมถวายให้ใช้พอเพียง เราได้กำไรมา ๖๐ - ๗๐ ข้อแล้ว ต้นทุนขนาดนี้ถ้ายังเอาดีไม่ได้ ก็เอาหัวโขกข้างฝาเถอะ..!

อย่าลืมว่าในการบวชนั้น แรก ๆ เราก็คือลูกชาวบ้าน รัก โลภ โกรธ หลงเต็มตัวเหมือนกัน แต่ว่าเปลี่ยนเครื่องแบบ เปลี่ยนกฎกติกาในการดำเนินชีวิตมา กว่าจะปรับให้คุ้นชินได้ก็นาน ฉะนั้น..ก่อนที่จะปรับให้คุ้นชินได้ จะเป็นตอนที่ลำบากที่สุด เพราะโลภะ ราคะ โทสะ โมหะ ไม่รอเราปรับ แต่เข้ามาตลอดเวลา มีอย่างเดียวก็คือ ต้องดื้อสู้กันไป

อย่าลืมว่าโอวาทปาฏิโมกข์พระพุทธเจ้าท่านขึ้นต้นว่าอย่างไร ขันตี ปรมัง ตโป ตีติกขา ขันติ คือความอดทน เป็นตบะ (ความเพียรในการเผากิเลส) อย่างยิ่ง คือไม่มีอะไรที่จะประดับนักปราชญ์ให้งามไปยิ่งกว่าความอดทนอดกลั้นอีกแล้ว การสู้กับกิเลสมีอะไรที่ไม่ต้องทน ถามหน่อย ? ถ้าทนไม่ไหวก็สึกหาลาเพศ กระเด็นจากผ้าเหลืองไป หรือไม่ก็ยอมเลวหน้าด้านอยู่กับผ้าเหลือง มีเยอะแยะอีกเท่าไรก็ไม่รู้ แต่ว่าจะไปรู้เอาตอนตาย ซึ่งตอนนั้นก็แก้ตัวไม่ทันแล้ว

ฉะนั้น...ครูบาอาจารย์ในอดีตท่านอดทนอดกลั้นมาตลอด จนกระทั่งประสบความสำเร็จ ต้องบอกว่าคนเกิดมาบุญไม่เท่ากัน บางทีต้นทุนเรามากกว่าท่านด้วย คำว่าต้นทุนมากกว่าท่าน ก็คือ ท่านไปหมดแล้ว แต่เรายังมีเวลาสะสมอีกนาน แต่สะสมดีหรือชั่วไม่รู้นะ แสดงว่าต้นทุนเราเยอะกว่า เมื่อต้นทุนเราเยอะกว่า ท่านทำได้เราต้องทำได้ แล้วก็บ้าลุยไปเลย

ถาม : เอาต่ออีกรอบนะ ?
ตอบ : เอาบ่อย ๆ เอาหัวเป็นเขียงลับมีดไปเรื่อย เดี๋ยวพอมีดคมได้ที่ เราก็ได้ที่เหมือนกัน


พระครูธรรมธรเล็ก สุธมฺมปญฺโญ
ถาม-ตอบ ช่วงเย็น ณ บ้านอนุสาวรีย์
วันศุกร์ที่ ๑ มกราคม ๒๕๕๓