View Full Version : โชคดีที่เรามีในหลวง
ในความรู้สึกของในหลวง  ประชากรทุกเชื้อชาติ  ทุกเผ่าพันธุ์ในประเทศ  ก็คือ พสกนิกรของพระองค์ท่าน  เหมือนกับเป็นลูกที่ท่านต้องให้การสงเคราะห์  เพื่อความกินดีอยู่ดีเสมอหน้ากัน   
พระองค์ท่านไม่ได้มาแบ่งแยกว่า  นี่เป็นพวกฉัน  นั่นเป็นพวกเธอ  เพราะว่าทุกคนก็คือลูกของท่านทั้งหมด   แต่อย่างพรรคการเมืองถ้าขึ้นไปบริหารราชการแผ่นดิน  เขายังมีการแบ่งพรรคแบ่งพวก  นี่พวกฉัน  นั่นพวกเธอ  ถ้าหากว่าเป็นพวกฉันก็ให้เยอะหน่อย  ถ้าหากว่าเป็นพวกเธอก็รอไปก่อน  จริง ๆ แล้วพระองค์ท่านแสดงตัวอย่างที่ดีให้ดูตลอด  แม้กระทั่งพระบรมราโชวาทก็ตรัสเป็นแนวทางการปฏิบัติโดยตลอด  แต่ก็กลายเป็นลมผ่านหูเขาไปเฉย ๆ    
ในปัจจุบันส่วนใหญ่เล่นการเมืองด้วยหลายสาเหตุด้วยกัน  ไม่ใช่เล่นการเมืองด้วยอุดมการณ์ที่จะตั้งใจให้ประเทศชาติเจริญรุ่งเรือง สาเหตุแรก  ปกป้องผลประโยชน์ของพวกพ้องและตัวเอง    ประการที่สอง  ถ้ามีอำนาจอยู่ในมือก็จะเป็นผู้กระทำ  ไม่ใช่ผู้ถูกกระทำ  ประการที่สาม  เพื่อขจัดคู่แข่งทั้งทางการค้าและทางการเมือง 
 
นึกถึงอริสโตเติล  เขาเป็นปราชญ์ที่มีชื่อเสียงมากของกรีก    เขากล่าวไว้เป็นพันปีแล้วว่า  ความดีของคนเริ่มหมดไปทันทีที่เล่นการเมือง   ระบอบการเมืองจะดีแค่ไหนก็ตาม ถ้าคนไม่ดี  ระบอบก็ช่วยอะไรไม่ได้  เหมือนกับกฎหมายเขียนไว้ดีแค่ไหนก็ตาม   ถ้าคนไม่ฟังเสียอย่างก็คงมีการยึดทำเนียบเป็นปกติ    ยึดสนามบินเป็นปกติ  ไม่สนใจอะไร  
พระพุทธเจ้าจึงไม่ได้สรรเสริญระบอบการเมืองการปกครองใด ๆ  เลย  แต่พระองค์ท่านประทานหลักธรรมที่เหมาะแก่ระบอบการปกครองนั้น ๆ  เอาไว้ให้   อย่างเช่นว่า ถ้าเป็นพระเจ้าจักรพรรดิ ก็ต้องมีจักรวรรดิวัตร   ถ้าเป็นพระมหากษัตริย์ ก็ต้องมีทศพิธราชธรรม  ถ้าเป็นระบอบสามัคคีธรรมหรือประชาธิปไตยอย่างในปัจจุบัน  ก็ต้องมีหลักอปริหานิยธรรม   เป็นต้น  เพราะพระองค์รู้เสียยิ่งกว่ารู้ว่า  ระบอบต่อให้ดีแค่ไหนก็ตาม ถ้าคนไม่ดีก็เละเป็นโจ๊กทุกระบอบ  ประเทศเราต้องบอกจริง ๆ  ว่าบุญเหลือเกินที่มีในหลวง  ถ้าไม่มีป่านนี้ล่มจมโงหัวไม่ขึ้นไปนานแล้ว
สมัยเรียนอยู่ชั้น ป.๓ - ป.๔    เขาให้ท่องเลยว่า สินค้าส่งออกสำคัญของไทยเราคือข้าว  ยางพารา  ดีบุก  และมันสำปะหลัง พอมาตอนหลังก็เพิ่มข้าวโพดและอ้อยขึ้นมาด้วย  ตั้งแต่ช่วงนั้น ก็มีการส่งเสริมให้ทำเกษตรกรรมเชิงเดี่ยว  ก็คือ ปลูกพืชชนิดเดียวเป็นจำนวนมาก ๆ  เพื่อที่จะป้อนโรงงานหรือส่งต่างประเทศ  การปลูกพืชเชิงเดี่ยวต้องอาศัยพื้นที่เป็นจำนวนมาก  จึงจะเพียงพอกับความต้องการ    
ช่วงระยะเวลาที่ไม่นานที่ผ่านมา  มันสำปะหลังกิโลละ ๖๐  สตางค์  ตันหนึ่งราคาแค่  ๖๐๐  บาท   มันสำปะหลังตันหนึ่งต้องใช้พื้นที่เท่าไรในการปลูก ?   เมื่อต้องใช้พื้นที่มาก การบุกรุกพื้นที่ป่าเพื่อเกษตรกรรมก็ต้องมากเป็นเงาตามตัวไป  ป่าไม้บ้านเราก็หดหายไปเร็วมาก ๆ  และโดยเฉพาะสินค้าที่ขึ้นชื่อลือชาในสมัยนั้น คือ ไม้สัก  ก็กลายเป็นว่าทั้งสินค้าเกษตรเชิงเดี่ยวและไม้สัก  เป็นตัวทำลายป่าที่เร็วที่สุด    ปัจจุบันนี้เขาปลื้มใจมากว่าประเทศไทยมีป่าอยู่  ๒๐  %  อาตมาบอกว่าเหลือถึง  ๑๐  %  ก็ดีเกินแล้ว  เพราะว่าการดูพื้นที่ป่าเขาใช้ดาวเทียมอ่านเอา  สวนยางพารา  สวนปาล์มน้ำมัน  ดาวเทียมแยกไม่ได้นี่ เขียว ๆ เหมือนกัน ก็เหมาเป็นพื้นที่ป่าหมด    ข้าราชการรู้หรือเปล่า..? รู้..แต่ถ้ารายงานว่าเหลือน้อยเดี๋ยวโดนตัดงบ    ก็รายงานไปตามที่ดาวเทียมว่ามา   
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวพยายามจะใช้หลักเศรษฐกิจพอเพียงเข้ามา  เพื่อที่จะแก้ไขปัญหาเหล่านี้   เพราะว่าปัจจุบันสังคมผู้บริโภคต่าง ๆ ทำให้นักการเมืองไม่ได้คำนึงถึงผลประโยชน์ของชาวบ้าน  อันนี้ไม่ได้มาตำหนิ  แต่บอกกล่าวความจริงให้ฟัง    เมื่อไม่ได้คำนึงถึงผลประโยชน์ชาวบ้าน  ก็ปล่อยให้ทุนข้ามชาติเข้ามายึดพื้นที่ทำกินในบ้านเราเมืองเรา  อย่างปัจจุบันพวกบรรดาห้างยักษ์ที่ปรากฏขึ้นมา ทำให้พวกบรรดาโชห่วยต่าง ๆ สู้เขาไม่ไหว  ตายสนิท..! แล้วพวกเราก็พลอยช่วยกันรุมซ้ำไปด้วย  เพราะเห็นว่าซื้อง่าย  ไปสะดวก   แล้วราคาถูกด้วย 
ปัจจุบันนี้ใครก็ตามที่สามารถกุมสภาพเอาไว้ได้   คือ มีที่ตั้งสินค้าเพื่อให้คนมาเลือกซื้อสินค้ามากเท่าไร  ก็จะมีกำลังในการต่อรองสูงเท่านั้น   สมมติอย่าง 7 Eleven  วางสินค้าเท่านั้นเท่านี้  ก็แปลว่าจะขายได้หรือไม่ได้ก็ตาม  ต้องจ่ายให้เขาก่อน   แล้วบรรดาร้านใหญ่ ๆ  บางแห่งก็นิยมการขายส่ง อย่างเช่นขายยกโหล  ในเมื่อเขาขายส่ง  ขายได้จำนวนมาก  การต่อรองก็มาก  ทำให้สินค้าของเขาราคาถูกกว่าร้านเล็ก ๆ  ทั่วไป  ร้านเล็ก ๆ สู้ไม่ได้ก็ค่อย ๆ  ตายลงไป   แล้วท้ายสุดคนไทยจำนวนหนึ่งก็ไม่รู้จะทำมาหากินอะไร  แต่ขณะเดียวกันทั้ง ๆ  ที่ไม่รู้จะทำมาหากินอะไร เราก็เอาเงินไปเทให้พวกทุนนอก  แห่กันไปซื้อทุกวัน ๆ กลายเป็นว่า เขาขนเงินเราออกนอกประเทศไปเรื่อย  ถามว่าบรรดากลุ่มทุนของไทยที่ทำเรื่องพรรค์นี้มีอยู่ไหม..? ก็มีอยู่  อย่างกลุ่มของซีพีหรือเซ็นทรัล  แต่ว่าเราเองมักก็จะเอาความสะดวก    อย่างโลตัสเมื่อก่อนก็เป็นของซีพีเขา  แต่โดนพวกเทสโกของต่างประเทศเทกโอเวอร์ไป
ในหลวงพยายามเอาหลักธรรมของพระพุทธเจ้ามา  เพื่อที่จะให้พวกเราได้ใช้ธรรมะในการดำเนินชีวิต  แต่บรรดานักเศรษฐศาสตร์ต่าง ๆ  นักวิชาการต่าง ๆ  ที่จบต่างประเทศมา  เขามักจะนิยมว่า ถ้าเป็นหนี้แปลว่ามีเครดิต    เรื่องเศรษฐกิจพอเพียงเป็นเรื่องของการล้าหลัง  ก็แนะนำให้กู้หนี้ยืมสินกันต่อไป   แล้วการกู้เงินต่างประเทศโดยเฉพาะช่วงเศรษฐกิจตกและไอเอ็มเอฟเขาคุมหลังอยู่  เราจะเห็นว่า เราต้องขายกิจการเป็นจำนวนมากในราคาที่ถูกเสียยิ่งกว่าถูก   พวกต่างชาติก็แย่งเข้ามาซื้อ ต่างชาติก็ซื้อเท่าไรไม่มีปัญหา  แต่คนไทยซื้อที่ดินรัชดาไปหน่อยเดียวซวยไปเลย 
 
ในหลวงท่านเอาระบบเศรษฐกิจพอเพียงมาจากไหน ?  ก็จากหลักธรรมข้อสันโดษของพระพุทธเจ้าท่าน  คำว่าสันโดษที่แปลว่าพอเพียงนั้น ถือว่าเป็นอัจฉริยภาพของในหลวง ที่ท่านแปลให้เราเข้าใจง่าย ๆ  
พระพุทธเจ้ากล่าวถึงสันโดษในหลายลักษณะด้วยกัน    ไม่ใช่ว่าสันโดษต้องทำตัวจน ๆ ปอน ๆ    ท่านบอกว่า
ยถาลาภสันโดษ  ยินดีตามที่ได้มา   ได้เยอะก็พอใจ  ได้น้อยก็พอใจ  
ยถาพลสันโดษ  ยินดีตามกำลังของตนที่หาได้    ถ้าหากว่าทุนหนา  กล้าเสี่ยง  ก็อาจจะได้เป็นหมื่น ๆ  ล้าน    
ยถาสารุปปสันโดษ    ยินดีตามฐานะ  ตามสภาพของตน    คนมีร้อยล้านจะอยู่จะกินแบบคนร้อยล้าน   ไม่มีใครเขาว่า เพราะเรามี  คนมีพ้นล้านจะอยู่จะกินแบบคนพันล้าน  ไม่ได้มีใครว่า เพราะเรามี    
เพราะฉะนั้น..สันโดษไม่ใช่ว่าไม่ได้เอาอะไร  แต่ว่าให้เป็นสัมมาอาชีวะ   ถูกต้องตามศีลตามธรรม   ไม่ทำอะไรเกินกำลังตัวเอง  ในหลวงสอนว่า พอเหลือแล้วค่อยขาย    ส่วนใหญ่บ้านเราเป็นสังคมเกษตรกรรมมาตั้งแต่ดึกดำบรรพ์   พื้นที่ที่น่าเสียดายที่สุดก็กรุงเทพมหานครของเรานี่แหละ   เพราะสมัยโบราณหลัก ๆ  ที่จะอยู่ได้เลยก็คือ  ต้องปลูกข้าว  บรรพบุรุษของเราก็อุตส่าห์ไปเสาะหาพื้นที่ซึ่งเหมาะที่สุดสำหรับปลูกข้าว  ฝนฟ้าดีทั้งปี  แต่พอมารุ่นหลังแทนที่จะใช้ปลูกข้าวทำไร่ทำสวน ก็เอามาสร้างตึก  แต่ฝนไม่ได้จำนี่ว่าเป็นตึกหรือเป็นข้าว ก็ตกตามปกติของฝน  แล้วก็ไปบ่นว่าน้ำท่วมกรุงเทพฯ  ในเมื่อบ้านเราเป็นสังคมเกษตรกรรม  การที่เราจะยืนหยัดอยู่ได้ ก็ต้องอาศัยบรรดาผลผลิตทางการเกษตรนี่แหละ  
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวให้ทำลักษณะเศรษฐกิจพอเพียง  ก็คือ  ย้อนเข้าไปหาการเกษตร   โดยเฉพาะเกษตรทฤษฎีใหม่ของพระองค์ท่าน    ถ้าหากว่าย้อนกลับไปสังคมเกษตร   และเป็นเกษตรทฤษฎีใหม่ผสมผสาน  ซึ่งความจริงเป็นของเก่า    ต่อให้เราขายไม่ได้ก็ยังมีกิน
สมัยอาตมาเด็ก ๆ นี่เห็นชัดมาก    เพราะที่บ้านทำไร่และสวนผัก  ถ้าปลูกแล้วขายไม่ได้  หัวหน้าครอบครัวก็ไม่หนักใจ เพราะอย่างไรลูกเมียก็มีกิน   ขณะเดียวกัน หมู่บ้านอื่นที่เป็นไทยทรงดำ ที่เราเรียกว่า  ลาวโซ่ง    เขานิยมปลูกข้าว แต่ปลูกผักไม่เป็น   หาผักหรือหญ้าตามพื้นที่ชายป่าหรือชายเขา  โยมแม่ก็ใช้วิธีหาบผักไปแลกข้าว  ไม่ได้ขายนะ..ขอยืนยันว่าแลก  ที่บ้านไม่เคยปลูกข้าว แต่มีข้าวเปลือกล้นยุ้งทุกปีเลย    นั่นเป็นสังคมเดิมของพวกเรา ที่ทุกบ้านยังพึ่งพาอาศัยกันอยู่ ยังเป็นไปตามหลักธรรมะ  นอกจากสัมมาอาชีวะแล้ว ยังเป็นสันโดษด้วย  
ในปัจจุบันนี้จำนวนประชากรเพิ่มมากขึ้นทุกวัน ๆ   เห็นเขาบอกว่านาทีหนึ่งมีคนเกิดอย่างน้อย ๆ ก็ ๑  คน  ก็แปลว่าชั่วโมงหนึ่งมีคนเกิด  ๖๐  คน   วันหนึ่งมีคนเกิดเป็นพัน  คนเกิดมากขึ้นทุกที ๆ  คนตายน้อยลงไปเรื่อย ๆ  เพราะว่าระบบรักษาพยาบาลดีขึ้น  ประชากรก็จะมากขึ้นเรื่อย ๆ  แต่พื้นดินไม่ได้มากขึ้นด้วย  
เราจะเห็นว่าพระเดชพระคุณหลวงพ่อวัดท่าซุงก่อนจะมรณภาพ ท่านเคยเตือนไว้ว่า  ใครมีพื้นที่อย่าขายเสียหมด ให้ปลูกผักปลูกหญ้าไว้บ้าง  ถึงเวลาจะได้มีกิน   ใครก็ตามที่ประกอบอาชีพ  อย่างเช่นว่ารับราชการหรือเป็นพนักงานห้างร้านอะไรก็ดี  ถ้ามีมรดกเป็นที่ดิน  อย่าเพิ่งรีบขายทิ้ง  ยิ่งทิ้งไว้นานเท่าไร ราคาจะยิ่งสูงขึ้นไปเรื่อย   เราขายไปได้เงินมา เงินมีแต่ราคาตกลงไปทุกวัน  ให้เก็บเอาไว้  ถือว่าเป็นทางถอยสุดท้ายของเรา    ถ้าสภาพเศรษฐกิจไปไม่ไหว  เราย้อนกลับบ้านไปปลูกผักปลูกหญ้าของเรา  ก็ยังอาศัยกินได้อยู่   
๖๐ กว่าปีที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงครองราชย์มา  พระองค์ท่านทำเพื่อความอยู่ดีกินดีของประชาชนทุกหมู่ทุกเหล่า    ไม่ได้เห็นแก่ความเหนื่อยยาก ความสะดวกสบายของพระองค์ท่านเลย  อยากจะบอกว่าถ้ามีคนที่เดินทางไปทั่วประเทศไทยมากที่สุด ก็เห็นจะมีพระเจ้าอยู่หัวเท่านั้น  พวกเราจะเที่ยวเก่งขนาดไหนก็คงไม่ได้ไปทุกซอกทุกมุมอย่างนั้น  เมื่อเป็นดังนั้น ก็อยากจะให้ข้อคิดพวกเราว่า  หลักธรรมของพระพุทธเจ้าจริง ๆ  แล้วสามารถใช้ได้ในทุกสถานการณ์  ไม่ว่าเพื่อจะประโยชน์สุขในปัจจุบัน  ประโยชน์สุขในอนาคตคือหลังจากตายไปแล้ว   ตลอดจนประโยชน์สูงสุดคือล่วงพ้นจากทุกข์ได้  และองค์ในหลวงของเราใช้หลักธรรมการปกครองประเทศมา  ๖๐  กว่าปี 
บ้านเรายังโชคดีมาก ๆ ถ้าหากว่าไม่มีในหลวงที่ทรงคุณธรรมอยู่แล้ว กลัวอยู่อย่างเดียวว่าจะมีเหมือนกับบันทึกโบราณ  ที่กล่าวถึงเมืองโซดอมและกอมโมราห์  ทั้งสองเมืองนี้ผู้ที่รอดออกไปได้  เขาบันทึกไว้ว่า  พระเจ้าบอกว่าถ้าในเมืองมีคนดีเหลืออยู่แม้แต่คนเดียวก็จะไม่ถูกทำลายโดยภัยธรรมชาติ  เพราะยังมีเทวดารักษาอยู่  แต่นี่หาคนดีไม่ได้เลย  ก็เลยจำเป็นที่จะต้องปล่อยให้ภัยธรรมชาติทำลายเมืองนี้เสีย
นึกถึงอีกส่วนหนึ่งที่กล่าวไว้ในพระอภิธรรม มีบุคคลประเภทหนึ่งที่เรียกว่า ฐิตะกัปปี ก็คือผู้ยังกัปนี้ให้ตั้งอยู่
 
กัป คือ อายุการดำเนินไปของโลก การทำลายล้างสิ้นไปของโลก มีทำลายด้วยลม ด้วยน้ำ ด้วยไฟ ด้วยอาวุธ ด้วยโรคภัย แม้ว่าไฟบรรลัยกัลป์จะล้างโลกอยู่ แต่ถ้ามีบุคคลที่จะบรรลุมรรคผลอยู่แม้แต่คนเดียว ตราบใดที่เขายังไม่บรรลุมรรคผล ตราบนั้นไฟบรรลัยกัลป์จะล้างโลกไม่ได้ เขาถึงได้เรียกบุคคลนี้ว่า ฐิตะกัปปี คือ ผู้ยังกัปให้ตั้งอยู่ 
 
พวกเราถือว่าเป็นส่วนหนึ่งที่จะยังประเทศไทยให้อยู่รอดได้ ด้วยหลักการปฏิบัติในศีล สมาธิ ปัญญา ตราบใดที่พวกเรายังตั้งใจปฏิบัติอยู่ และอุทิศส่วนกุศลให้แก่เทพเจ้าต่าง ๆ ที่รักษาประเทศของเราอย่างสม่ำเสมอ ท่านทั้งหลายเหล่านั้น ก็ยังพอมีกำลังที่จะไปคานกับอีกฝ่ายหนึ่ง ซึ่งเสวยบุญของตนอยู่และมีเทพเจ้ารักษาอยู่เหมือนกัน แต่ว่าเขาเสวยบุญอย่างเดียวจริง ๆ โดยการไม่ได้สร้างของใหม่ขึ้นเลย มีแต่สร้างบาปกรรม แต่ในเมื่อวาระบุญมันส่งผลก็ทำให้เขาเป็นใหญ่เป็นโตในแผ่นดินขึ้นมา ถ้าพวกเราไม่หมั่นตั้งใจบำเพ็ญภาวนา โดยเฉพาะอุทิศส่วนกุศลให้แก่เทพเจ้าต่าง ๆ แล้ว โอกาสที่ประเทศไทยของเราจะล่มจมสูญสลายมีสูงมาก เพราะนักการเมืองสมัยนี้ไม่คำนึงถึงผลประโยชน์ของประชาชน นอกจากผลประโยชน์ของพวกพ้องและตัวกูเอง 
 
ในหลวงนอกจากเหนื่อยแล้ว ยังชราภาพมาก สุขภาพไม่ไหวแล้ว อย่างที่อาตมาบอกว่า อยู่ได้วันหนึ่งถือว่ากำไรวันหนึ่ง ถ้าหากว่าพวกเราตั้งหน้าตั้งตาประกอบกรรมทำดี พระองค์ท่านก็ยังมีกำลังใจที่จะอยู่ต่อ แต่ถ้าหากว่ามือไม่พายแล้วยังเอาเท้าราน้ำอีก มีแต่จะช่วยเหยียบย่ำซ้ำเติมให้ประเทศชาติล่มจมไปง่ายขึ้น ขอบอกว่าถ้าพระองค์ท่านหมดกำลังใจ ตัดสินใจไปเสียวันไหน เราจะเดือดร้อนกว่าที่คิด เพราะว่าบางพวก บางกลุ่ม บางศาสนา เขารออยู่อย่างเดียวว่า เมื่อไรในหลวงจะสวรรคต เขาถือเป็นดีเดย์เลย ไปเมื่อไรเขาเอาแน่ แล้วถ้าถึงเวลานั้น ที่เดือดร้อนที่สุดจะกลายเป็นพระอย่างอาตมานี่แหละ จะโดนเสียก่อน เพราะว่าพระนั้นมีจุดบอดตรงที่ว่า เครื่องแต่งตัวแปลกแยกกว่าชาวบ้านอย่างชัดเจน ที่อยู่ก็มีหลักแหล่งอย่างแน่นอน ชนิดที่หลบไปไหนไม่ได้ เขาจะใช้กำลังคนหรือกฎหมายก็ตาม สามารถที่จะบีบบังคับจัดการได้ง่าย 
 
ดังนั้น..ถ้ามีวิธีใดก็ตาม ที่คิดว่าเราจะสร้างกุศล สร้างกำลังกายกำลังใจ เพื่อให้พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงพระเจริญยิ่งยืนนานต่อไปได้ ให้ขวนขวายและเร่งทำกันให้มากไว้ โดยเฉพาะในส่วนของหลักธรรมต่าง ๆ ถ้าเรายึดถือและปฏิบัติกระทำโดยพร้อมเพรียงกัน ประเทศชาติจะสงบร่มเย็น เพราะว่าต่างคนต่างทำความดี ต่างคนต่างตัดรัก โลภ โกรธ หลง ของตนเอง ไม่ไปกระทบกระทั่งใคร ไม่แห่ตามข่าวลือต่าง ๆ ไป ถ้าเป็นดังนั้นในหลวงก็คงมีกำลังพระทัยที่จะอยู่ไปอีกสักระยะหนึ่ง
อย่าประมาทเป็นอันขาด  หลายท่านว่าในหลวงจะอยู่เป็นร้อยปี    สุขภาพของคนแก่ระดับนั้น โดยเฉพาะใช้งานมามากในตอนหนุ่ม ๆ  มาแสดงออกให้เห็นซึ่งความชำรุดทรุดโทรมในปัจจุบันนี้  เราจะเห็นได้ว่า ทันทีที่ในหลวงเข้าโรงพยาบาลครั้งแรก  จะเห็นความทรุดโทรมอย่างชัดเจนเลย  เหมือนกับรถยนต์ที่ใช้งานหนัก ๆ ตอนที่ยังใหม่  พอถึงเวลาช่วงท้าย การชำรุดที่ต้องซ่อมแซมก็หนักกว่าปกติทั่วไป   จะไปประมาทว่าท่านจะอยู่เป็นร้อยปี  เดี๋ยวก็น้ำตาเล็ดอีก  
ถ้าเราได้วันหนึ่งก็เอาแค่วันหนึ่ง  พยายามเร่งขวนขวายความดีของเราให้มากที่สุด  ถวายเป็นพระราชกุศลแด่พระองค์ท่านให้มากที่สุด  โดยหวังว่าเทพเจ้าต่าง ๆ ทั้งหลาย  ทั้งที่รักษาพระองค์ท่านก็ดี  ทั้งที่รักษาประเทศชาติก็ดี  จะได้รับส่วนกุศลนี้ไป และมีกำลังช่วยกันค้ำจุนพระวรกายของพระองค์ท่าน ให้ดำรงขันธ์อยู่ต่อไปได้อีกสักระยะหนึ่ง  ช่วยกันค้ำจุนสถานการณ์บ้านเมืองของเรา อย่าให้มีอันเป็นไปมากกว่านี้
ถ้าหากว่าโดยวาระกรรมของเราแล้ว  ประเทศชาติของเราช่วงนี้อยู่ในจุดที่แย่  และจะแย่มากขึ้น ดังนั้น..วิธีแก้กรรมที่ง่ายที่สุดก็คือ ทำความดีให้มากเข้าไว้  เหมือนอย่างกับไฟที่ร้อนมาก  ก็ต้องพยายามหาน้ำดับให้ได้  แม้ว่าน้ำจะไม่พอดับไฟ อย่างน้อย ๆ ให้บรรเทาเบาบางลงไปบ้างก็ยังดี    ไม่ทราบว่าญาติโยมคิดผิดหรือเปล่าที่มาที่นี่  มาทีไรได้การบ้านหนัก ๆ กลับไปทุกที   ก็ได้แต่เตือนสติพวกเราเอาไว้แต่เพียงเท่านี้   เพราะว่าในปัจจุบันสถานการณ์ต่าง ๆ ไปเร็วมาก  แค่ข่าวลือวูบเดียวเท่านั้นเอง  ทำเอาหุ้นตกฮวบลงไปไม่รู้เท่าไรแล้ว    ในเมื่อสถานการณ์ทุกอย่างมาเร็ว เราก็ต้องตั้งหลักและยืนหยัดให้ได้  
สิ่งที่จะทำให้เรายืนหยัดได้ในสังคมปัจจุบันก็คือ แน่วแน่มั่นคงและเข้มแข็งในกำลังใจของเราเอง    ที่จะไม่ไหลตามกระแสบริโภคนิยม  ไม่ไปตาม รัก โลภ โกรธ หลง ของคนส่วนใหญ่เขา   ถ้าทำอย่างนั้นได้ เราก็จะเหมือนก้อนหินกลางน้ำ   อย่างน้อย ๆ ถ้าก้อนเล็ก..ไม่สามารถให้คนอื่นเกาะพักพิงได้  ก็ยังยืนหยัดได้ด้วยตนเอง ไม่เป็นภาระแก่คนอื่นเขา  แต่ถ้าเราเป็นหินใหญ่กลางน้ำได้    ก็เป็นที่เกาะ ที่อาศัยพักพิงของคนอื่นด้วย  ยืนหยัดด้วยตัวเองได้ด้วย ก็จะช่วยประเทศชาติได้มากกว่านี้    
อาตมาเป็นส่วนหนึ่งของสังคม  ส่วนหนึ่งของประเทศ  และสถาบันหนึ่งที่เป็นหลักยึด  ก็ได้แต่นำสิ่งที่จะพอบอกกล่าวกันได้มาพูด เพราะว่าหลายต่อหลายอย่างก็เป็นการฝืนกฎของกรรมมากเกินไป  บางทีการรู้เรื่องต่าง ๆ แต่พูดไม่ได้ ก็รู้สึกว่าอกจะแตกตายเหมือนกัน  
พระครูธรรมธรเล็ก  สุธมฺมปญฺโญ
เทศน์ก่อนทำกรรมฐาน ณ  บ้านอนุสาวรีย์
วันเสาร์ที่  ๗  พฤศจิกายน  ๒๕๕๒
ถาม :  สุดท้ายในหลวงต้องสวรรคตอยู่ดี ?
ตอบ :  ไม่ช้าก็เร็ว  ถึงได้ว่าต้องเตรียมตัวเตรียมใจกันตั้งแต่เนิ่น ๆ  
ถาม :  แต่ว่าราชวงศ์จักรีอยู่ยั้งยืนยงไม่ใช่หรือ ?
ตอบ :  พระพุทธเจ้าตรัสว่า สัพเพ สังขารา อนิจจา  สรรพสิ่งทั้งหลายไม่เที่ยง   สัพเพธัมมา อนัตตา  ท้ายสุดก็ไม่มีอะไรให้ยึดถือมั่นหมายได้
vBulletin® v3.8.11, Copyright ©2000-2025, vBulletin Solutions Inc.