View Full Version : เห็นสรรพสิ่งเป็นหนึ่ง
ลัก...ยิ้ม
09-11-2009, 14:50
เมื่อคนที่มีดวงตาเห็นธรรมมองไปที่สิ่งใดในโลก เขาจะเห็นไตรลักษณ์คืออนิจจัง ทุกขัง อนัตตาในสิ่งนั้นพร้อมกันไปด้วย ทั้งนี้เพราะไตรลักษณ์เป็นสามัญลักษณะคือลักษณะที่สรรพสิ่งต้องมีเหมือนกันหมด ดังนั้น เราจึงกล่าวได้ว่า
คนที่เห็นไตรลักษณ์ก็คือคนที่เห็นสรรพสิ่งเป็นหนึ่งและเห็นความเป็นหนึ่งในสรรพสิ่ง
ที่ว่า เห็นสรรพสิ่งเป็นหนึ่ง หมายถึงว่า มองเห็นสิ่งทั้งหลายทั้งปวงมีสามัญลักษณะหรือลักษณะร่วมกันเหมือนกันคือ อนิจจัง ทุกขัง อนัตตา
ที่ว่า เห็นความเป็นหนึ่งในสรรพสิ่ง หมายถึงว่า เห็นสามัญลักษณะคือ อนิจจัง ทุกขัง อนัตตาอยู่ในสิ่งทั้งหลายทั้งปวง
ผู้ที่เห็นสรรพสิ่งเป็นหนึ่งและเห็นความเป็นหนึ่งในสรรพสิ่งชื่อว่ามีดวงตาเห็นธรรม
ลัก...ยิ้ม
09-11-2009, 14:51
ผู้ใดเห็นมี “ดวงตาธรรม” ผู้นั้นชื่อว่าเห็นพระพุทธเจ้า ดังที่พระพุทธเจ้าตรัสกับพระวักกลิว่า
“โย หิ ปสฺสติ สทฺธมฺมํ โส มํ ปสฺสติ ปณฺฑิโต” เป็นต้น แปลความว่า “ผู้ใดเห็นสัทธรรม ผู้นั้นเห็นเรา เขาเป็นบัณฑิต ส่วนผู้ที่ไม่เห็นสัทธรรม แม้จะมองดูเราก็ไม่เห็นเรา”
ดังนั้น เรากราบพระพุทธรูปครั้งใด ต้องเตือนตัวเองทุกครั้งให้มองเห็นธรรมคือ อนิจจัง ทุกขัง อนัตตา เมื่อเห็นธรรม จิตของเราจะเข้าสู่กระแสนิโรธคือความดับทุกข์ เราจะสามารถอยู่ในโลกโดยไม่จมอยู่กับโลกธรรม แต่สามารถลอยตัวอยู่เหนือโลกธรรมทั้งปวงเหมือนดอกบัวที่เบ่งบานอยู่เหนือน้ำ”
เมื่อเรากราบพระพุทธรูป เราจะเห็นว่าพระพุทธเจ้าประทับอยู่บนดอกบัว ที่เป็นอย่างนี้เพราะพระพุทธเจ้าทรงเปรียบพระองค์เองเหมือนดอกบัวที่เกิดจากโคลนตมแต่โผล่พ้นน้ำโดยไม่แปดเปื้อนมลภาวะรอบข้าง พระพุทธเจ้าทรงอยู่ในโลกโดยที่จิตใจของพระองค์อยู่เหนือโลกธรรม
พระพุทธเจ้าตรัสว่า “ปุณฺฑรีกํ ยถา อุคฺคํ” เป็นต้น แปลความว่า “ดอกบัวโผล่พ้นน้ำ ไม่แปดเปื้อนน้ำ ฉันใด เราอยู่ในโลก ไม่แปดเปื้อนด้วยโลกธรรม ฉันนั้น เพราะฉะนั้น เราจึงเป็นพุทธะ”
สมดังคำประพันธ์ที่ว่า
“องค์ใดพระสัมพุทธ สุวิสุทธสันดาน
ตัดมูลเกลศมาร บ่ มิหม่นมิหมองมัว
หนึ่งในพระทัยท่าน ก็เบิกบานคือดอกบัว
ราคี บ พันพัว สุวคนธ กำจร”
ขอทุกท่านจงมีดวงตาเห็นธรรมและมีจิตใจที่เบิกบานเหมือนดอกบัว
ลัก...ยิ้ม
09-11-2009, 14:51
จากหนังสือ ดวงตาเห็นธรรม พระธรรมโกศาจารย์, ศ.ดร.(ประยูร ธมฺมจิตฺโต) มูลนิธิมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย
ดวงตาเห็นธรรม
สิ่งไหนรู้ได้คิดได้ สิ่งนั้นไม่ใช่เรา เพราะเราเป็นผู้เห็นสิ่งนั้น
เราเห็นพระอาทิตย์ขึ้น-ลง แสดงว่าเราไม่ใช่พระอาทิตย์
เราเห็นเราตั้งแต่เด็กจนโต แสดงว่าเราไม่ใช่เรา
เราเห็นอนิจจัง ทุกขัง อนัตตา ก็แสดงว่าเราไม่ใช่ธรรม และเมื่อพิจารณาแล้วก็จะเห็นแต่สิ่งที่เปลี่ยนแปลงคงอยู่ไม่ได้ทั้งหมดในใจเรา แล้วสิ่งที่ไม่เปลี่ยนแปลงอยู่ที่ไหน ใครเป็นคนเห็นมันตั้งแต่ต้นจนจบ.
.สิ่งไหนเปลี่ยนแปลง สิ่งนั้นไม่ใช่เรา เพราะเราเห็นสิ่งที่เปลี่ยนแปลง.
.หากันแทบตายที่แท้ก็อยู่กับเรานี่เอง.
vBulletin® v3.8.11, Copyright ©2000-2025, vBulletin Solutions Inc.