View Full Version : กาลเวลาย่อมกลืนกินสรรพสัตว์พร้อมทั้งตัวของมันเอง
วาโยรัตนะ
29-01-2011, 22:34
นิมิตแปลก!
เมื่อเช้าตรู่วันนี้ ผมฝันไปว่าผมเองกำลังขับรถไปบนเส้นทางเส้นหนึ่งกับครอบครัว ขับไปได้ไม่นานก็เห็นรถคันหนึ่งเกิดอุบัติเหตุ วิ่งออกนอกเส้นทางจนตกลงไปในบึงน้ำ ผมเองรีบจอดรถแล้ววิ่งลงไปดู เห็นคนสี่คนมีสองสามีภรรยาและลูกอีกสองคน ต่างกระเด็นออกมาจากรถแล้วกำลังจะจมน้ำ ผมเองไม่คิดอะไรมาก ตัดสินใจกระโจนลงน้ำเข้าไปช่วยทันที โดยช่วยผู้หญิงที่เป็นแม่ก่อน เอาขึ้นฝั่งแล้วแบกขึ้นหลัง กระแทกให้น้ำสำลักออกจนเขาฟื้นตัว แล้วผมก็กระโดดลงไปน้ำอีกครั้ง ช่วยคนที่เป็นพ่อ แล้วกระโจนลงไปช่วยเด็กอีกสองคนตามลำดับ เป็นอันว่าช่วยได้ทั้งครอบครัว แต่มารู้อีกทีว่า พวกเขาเป็นคนนอกพระพุทธศาสนา
เมื่อพูดคุยปลอบใจกันได้ไม่นาน ก็มีญาติ ๆ ของพวกเขามาช่วยดูแลต่อจากผมและพยายามเอารถขึ้นจากบึงน้ำนั้น เมื่อผมเห็นอย่างนั้นแล้ว ก็ถือว่าทุกคนปลอดภัยจึงขอตัวออกเดินทางต่อ
มีความรู้สึกในใจสั่งว่า ให้มองขึ้นไปบนท้องฟ้า เมื่อมองขึ้นกลับรู้สึกแปลกใจมาก มีอีกาฝูงใหญ่บินว่อนเต็มท้องฟ้าไปหมด แต่เมื่อสังเกตดี ๆ มีอะไรก็ไม่รู้ รู้สึกว่ามันโปร่งแสงและมีขนาดใหญ่มาก บินอยู่ด้านหลังอีกาฝูงนั้น พยายามทำสมาธิสังเกตดูดี ๆ จนมันค่อย ๆ เปลี่ยนรูปร่างเป็นเหมือนกับซาตาน หน้าเป็นหัวกระโหลก มือถือเคียวอันใหญ่มาด้วย แล้วมันก็ร้องถามผมว่า
"เอ็งไปช่วยพวกมันทำไม" ดูท่าทางเขาโกรธผมมาก ไม่ทันที่ผมจะได้ระวังตัว มันเอาเคียวอันใหญ่นั้นฟาดลงมาที่ผมทันที มีแสงมีประกายเหมือนฟ้าผ่า ผมเองก็เอามือขึ้นป้องกันทันทีพร้อมระลึกถึงพระ ขอบารมีพระองค์ท่านเมตตา ขอภาพพระท่านสงเคราะห์คลุมร่างกายของกระผม เสียงระเบิดดังสะท้านไปทั่วทั้งท้องฟ้า เขาเห็นผมไม่เป็นอะไร พร้อมกับพูดเสียงดัง ๆ อย่างไม่พอใจมากว่า "สักวันเราจะได้เห็นดีกัน" แล้วหายวับไปกับตา
ผมได้สติตื่นขึ้นพร้อมกับเรื่องราวที่ชัดเจน....พยายามนึกไตร่ตรองดูว่ามันน่าจะเกี่ยวกับอะไร ก็ได้แต่ทิ้งเครื่องหมายคำถามไว้ในใจลึก ๆ ดีเหมือนกันจะได้มีเรื่องตื่นเต้น ๆ กับเขาบ้าง ช่วงนี้อะไร ๆ ก็เหมือนมันจะติดขัดไม่คล่องไปหมด..........
วาโยรัตนะ
15-04-2011, 11:03
"ควันหลงวันสงกรานต์"
หมอกจาง ๆ หรือควันไม่อาจรู้ แต่ผมและลูกต้องมาล้มหมอนนอนเสื่อเอาช่วงในสงกรานต์ปีใหม่ไทย......เอาวะ คิดใหม่ คิดบวก ใกล้แล้วใกล้จะหมดทุกข์ หมดโศก หมดโรค หมดภัยแล้ว เล่นต้อนรับกันตั้งแต่ต้นปีใหม่ไทยเลย ดีจะได้หมดไว ๆ .....อ้วก
เอาไว้จะถ่ายรูป ต้นมะพร้าวที่โดนปรอทกินมาให้ดูครับ ขอตัวไปกินยาแก้ไข้ก่อน
จะว่าไปแล้วช่วงนี้มันมาแปลก ลูกพี่ลูกน้องผมที่สนิทกันมาก เอาเป็นว่าตอนเขาเด็ก ๆ มันเดินตามผมแทบทุกฝีก้าว มาหักมุขเอาตอนโตนี่เอง น้องเขาเกเรมากไปหน่อย เมื่อสี่เดือนที่ผ่านมาเลยโดนพวกวัยรุ่นที่มีเรื่องกันยิง แต่ก็ไม่ตายก็รักษาตัวตามอาการ แค่โดนที่หลังทะลุเฉียด ๆ ปอดไปนิดหนึ่งเท่านั้น ตอนนั้นเสียเลือดไปมาก หลังจากนั้นเมื่ออาทิตย์ที่แล้ว เจ้าน้องคนนี้ก็มาบ้านผม ปกติมันไม่ค่อยกล้าจะโผล่หน้ามาหาสักเท่าไหร่ เพราะมาทีไรผมก็จะสอนมันแทบทุกที ก็ยังเห็นปกติดี แต่มันบ่นให้ฟังว่า ไปหาหมอมา หมอให้เลือดเพิ่มเพราะ เจ้าตัวมีอาการคล้าย ๆ หน้ามืด
ทรงตัวไม่ค่อยได้ ซึ่งหมอวินิฉัยว่าปริมาณเลือดในตัวน้อยเกินไป
เมื่อวันจันทร์วันพระที่ผ่านมา ผมได้รับโทรศัพท์ ว่าเจ้าลูกพี่ลูกน้องผมคนนี้เสียแล้ว เลยรีบขับจักรยานยนต์ไปดูที่บ้านเขาซึ่งไม่ได้ไกลจากบ้านผม ภาพที่เห็นคือ อาการที่เขาเรียกว่า เลือดไหลออกจากทวารได้แก่ จมูก หู ปาก ทวารหนัก เห็นแล้วก็ชวนให้ปลง ตอนเช้าผมไปทำบุญใส่บาตร นั่งสมาธิที่วัดเป็นปกติเลยอุทิศให้ไป คนเราก็เท่านี้ ยังถือว่าน้องคนนี้มีบุญ ถ้าเขาอยู่ต่อไปโดยไม่ปรับเปลี่ยนนิสัย ก็คงสร้างเวรสร้างกรรม สร้างความเดือดเนื้อร้อนใจกับพ่อแม่ของตัวน้องเขาเองอีกมาก
ผมเองก็ถือเอาเรื่องนี้เป็น มรณานุสติกรรมฐาน นึกถึงความตายเป็นอารมณ์ แล้วก็เดินทางในวิบากแห่งชีวิตกันต่อไป....
วาโยรัตนะ
15-04-2011, 17:44
http://i113.photobucket.com/albums/n212/wonderisland/in-mening-miditation-2.jpg
http://i113.photobucket.com/albums/n212/wonderisland/cave-miditation-2.jpg
วันนี้ป่วย ตัวร้อน นอนหลับตื่น ๆ ทั้งคืน มองไปหน้าพระ เห็นภาพหลวงพ่อฤๅษีพลางบ่นกับหลวงพ่อ นึกได้ก็นอนภาวนาไปหลับบ้างไม่หลับบ้าง ไม่รู้จะทำอะไรหลังจากตื่นแล้ว ก็เลยเอาเปิดเครื่องคอมพิวเตอร์ ทำนั่งวาดรูปตามในจิตนาการต่อไป ทำเอาไว้หลายภาพค้างอยู่ในเครื่อง จะได้ลืมเรื่องสังขารที่มันป่วย ๆ นี้ไป ภาพทั้งสองภาพเป็นภาพในมโนจิตของผม ก็ไม่รู้ที่มาที่ไปเหมือนกันว่าอย่างไร ทำไม เท่าแต่เห็นแล้วชื่นใจ นั่งทำจากโปรแกรม Illustratorได้ไม่เบื่อ ใครจะขอไปใช้ในงานพระพุทธศาสนาก็ขอให้บอก ผมทำไว้หลายภาพ ยินดีให้ครับ
วาโยรัตนะ
15-04-2011, 17:56
http://i113.photobucket.com/albums/n212/wonderisland/in-mening-miditation.jpg
http://i113.photobucket.com/albums/n212/wonderisland/cave-miditation.jpg
วาโยรัตนะ
06-07-2011, 16:05
หลวงพ่อมักกล่าวอุปมาอุปมัยเสมอ ๆ ว่า "การบวชมันก็เหมือนเอาตัวเราไปขังอยู่กรงเดียวกันกับเสือ" เมื่อก่อนผมก็ได้แค่ฟังแบบ สักแต่ว่าฟังไม่ได้รู้ซึ้งอะไรมากมาย แต่การบวชรุ่นพิเศษคราวนี้ โอพระเจ้าช่วย! ทำไมเสือที่อยู่ในกรงเดียวกับผมมันช่างใหญ่โต ดุดัน มันโตขึ้นจริง ๆ ขนาดที่เรียกได้ว่าเดินไปมุมไหนของกรงก็เจอมันตลอด เผลอเมื่อไรเป็นโดนขย้ำ ทำไมอารมณ์ใจมันไม่เหมือนตอนบวชเข้าพรรษาปี ๕๒ เลย
วาโยรัตนะ
05-05-2012, 21:06
ภาคสอง มหาภาคแห่งกำลังใจ
"โยม...ทำต่อไป"
ทัดฤทธิ์-ทิดรัตน์:นมัสการขอรับหลวงพี่ กระผมยังเอาดีแบบที่หลวงพี่แนะนำไม่ได้เลยขอรับ...คนอื่น ๆ เขาไปไหนต่อไหนกันแล้วขอรับ...(เซ็ง เศร้า เหงาและซึม)
หลวงพี่:โยมจะไปเสียใจทำไม โยมยังมีธาตุขันธ์อยู่ ยังมีลมหายใจอยู่....หน้าที่ของโยมคือทำต่อไป...มันถึงแน่ถ้าโยมทำ อาตมาเป็นกำลังใจและเอาใจช่วยอยู่เสมอ อาตมาอาจจะตั้งมาตรฐานสูงเกินไป (ท่านคงปลอบใจกระผม) โยมทำได้ดีแล้ว เกือบจะดีมากด้วย ทำต่อไป "อย่าอยาก เลิกอยาก วางอยาก ความอยากมักจะนำเรื่องไม่ดีมาเสมอโยม จำคำอาตมาเอาไว้นะ...เจริญพร
ทัดฤทธิ์-ทิดรัตน์::baa60776: ขอรับ
วาโยรัตนะ
05-05-2012, 21:31
"วันนี้มีเรื่องดี ๆ กับเขาด้วยหรือ"
"เป็นอย่างไร วันนี้มีเรื่องดี ๆ กับเขาด้วยหรือ?" ท่านยิ้ม ๆ.....หลวงพี่ท่านทักผมแปลก ๆ จนแทบตั้งตัวไม่ทัน....ยังไม่ทันเดินเขาไปในศาลา พลันให้กระผมคิดตรึกตรองอยู่ด้วยใจที่เป็นสมาธิ มันทราบทันทีว่าเรื่องอะไร
จุดธูปกราบพระรัตนตรัยเสร็จ หันไปก้มกราบหลวงพี่ท่าน ถวายข้าวมันไก่ใส่บาตรท่าน
ทัดฤทธิ์-ทิดรัตน์: หลวงพี่ครับ จริง ๆ ตอนแรกกระผมตั้งใจจะมาตักบาตรหลวงพี่ แต่อีกใจหนึ่งมันก็อยากไปถ่ายรูปครับ ซึ่งที่ถ่ายรูปของผมประจำ ๆ ก็ตีนเขาทางขึ้นมาหาหลวงพี่นี้แหละขอรับ ผมเลยออกจากบ้านมาพร้อมกล้อง แต่ในใจมันก็เถียงกันมาตลอดทาง เหมือนมีฝ่ายดีกับฝ่ายเลว มันสู้กันขอรับ กระผมก็เลยถือโอกาสดูมันสู้กันครับ
โอ้โห!.....กระผมขับรถไป ใจก็จับสมาธิเบา ๆ นั่งดูมันสู้กันมาตลอดทางครับ ต่างฝ่ายก็ต่างอ้างเหตุผลสารพัดขอรับ จนกระผมมาสะดุดที่
"ฝ่ายดีมันบอกว่า วันนี้ฝนตก ถ้าโยมคนอื่น ๆ ทุกคนเขาไม่สามารถเอาอาหารมาถวายหลวงพี่ได้ แล้วหลวงพี่ท่านจะฉันเช้าได้อย่างไร ไม่ต้องอดหรือ แค่นี้ยังเอาใจใส่ดูแลท่านไม่ได้ คุณเอง (ตัวกระผม) ก็อย่าไปหวังเอาดีกับการปฏิบัติเลย"
พอเสร็จประโยคนี้ กระผมเห็นฝ่ายเลวมันแพ้เลยครับ ขับรถกลับไปซื้อข้าวมันไก่มาถวายแทบไม่ทัน อาย..อายตัวเองมากขอรับ
หลวงพี่: ดีแล้วโยม หัดดูมันให้เยอะ ๆ การจะกระทำความดี มันทำได้ยาก มันเรื่องของนักปฏิบัติที่เราต้องหมั่นดูหมั่นพิจารณา ดีแล้ว ๆ เออ..วันหลังก็ให้มันมีเรื่องดี ๆ แบบนี้มาบ่อย ๆ นะ ท่านพูดพลางหัวเราะ
สิ่งหนึ่งที่กระผมยังสงสัยว่า "ท่านทราบได้อย่างไร"
วาโยรัตนะ
24-10-2012, 22:41
หลวงพ่อท่านกล่าวถึง ภรรยาของผมว่า "ไปไกลแล้ว" เรื่องของการปฏิบ้ติ มันไม่ไว้หน้าใครใด ๆ ทั้งสิ้น ใครทำใครได้ เท่าเทียมกันเสมอ กระผมก็อนุโมทนากับเธอเป็นอย่างยิ่ง เราสองคนผ่านร้อนผ่านหนาวเรื่องของการปฏิบัติมาพอตัว ล้มลุกคลุกคลานกันก็หลายครั้งหลายหน บางก็ท้อเสียเต็มประดา....ได้สติ ได้กำลังใจจากครูบาอาจารย์ทุก ๆ ท่าน ที่คอยแนะนำสั่งสอนให้กำลังใจมาตลอด
ในความเป็นครอบครัวนักปฏิบัติธรรม หลายต่อหลายครั้ง กระผมบอกกับเธอว่า หลายคนรอบ ๆ ตัวเรากำลังมองครอบครัวเราอยู่ว่า "มันปฏิบัติธรรมกัน จะไปได้กี่น้ำ" บททดสอบก็มีเข้ามาเรื่อย หนักที่สุดถึงขั้นเข้าทรงลงเจ้า มาอ้างตัวว่า เธอจะต้องเป็นร่างทรง จะต้องกินเจไปตลอดชีวิต เช้าเป็นภรรยาผม ตกบ่ายเป็นร่างของท่านนั้นท่านนี้ ครอบครัวอยู่กันอย่างไม่มีความสุข ลูก ๆ ก็ทั้งกลัวทั้งสับสน..................
สติภายในมันคอยย้ำเรื่อยว่า เราจะปล่อยให้เหตุการณ์ต่าง ๆ เหล่านั้นมาขัดขวาง มาเบี่ยงเบนเราออกห่างจากพระรัตนตรัยไม่ได้....ถึงขั้นที่ว่า ผมต้องเจรจาพูดคุยกันกับ.........ซึ่งอ้างตัวเป็น "ท่าน" ต่าง ๆ นานาว่า
"อย่ามายุ่งกับครอบครับของกระผม กระผมและภรรยา เราต่างมอบกายถวายชีวิตต่อพระรัตนตรัย อะไรที่สำคัญกว่า พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ ไม่มี ขอท่านจงไปตามทางของท่านเถิด.....หากท่านไม่ยอมก็เอาชีวิตผมไปตอนนี้ ต่อหน้าพระรัตนตรัย เพราะผมมั่นใจว่าผมไปพระนิพพานแน่นอน"
และเราก็ผ่านเหตุการณ์ทำนองเดียวกันนี้มาอีกสามวาระ
วาโยรัตนะ
09-11-2012, 20:02
หากจะกล่าวย้อนไปในเรื่องที่ทิ้งท้ายเอาไว้ กระผมเองก็สับสนเสียเต็มประดา ที่นึกขึ้นมาได้ในใจก็คือ พระเดชพระคุณหลวงพ่อเล็ก ขอบารมีท่านเมตตา โดยโทรไปกราบเรียนปรึกษาหลวงพ่อท่านด้วยทั้งความเคารพและความกลัว ซึ่งกลัวในที่นี้ก็คือ กลัวว่าจะเป็นการรบกวนหลวงพ่อท่าน ตรึกตรองดูอยู่หลายวาระ อีกทั้งทาง...........ก็มาเหมือนได้ใจ สอนธรรมะที่เหมือนจะถูกต้องสวยหรูไปแทบทุกประการ ไม่ว่าใครต่อใครต่างก็หลงกันทุกคน เล่นเอาญาติ ๆ ผมทั้งบ้านเคลิ้มไปตาม ๆ กัน แต่หากพิจารณาให้ดีแล้วดูท่าจะไม่ได้การ เพราะมันจะตายตอนจบ พวกจะกินเจกันทั้งบ้านแล้ว (ผมจะอดกินหมูกินปลาไปด้วย อันนั้นคือความน่ากลัวที่สุด อันนี้ไม่ใช่ประเด็นหลักครับ อดจริง ๆ ก็อดได้ แต่กินเจแบบไร้เหตุผลอันนี้อดไม่ได้ เหมือนที่เรา ๆ ท่าน ๆ เห็นคนนุ่งขาวห่มขาวกินเจกัน แต่ใจยังหยาบ ปากยังนินทา ตายังดูหมิ่น ศีลยังไม่ครบ..ก็ยังไม่ได้ประโยชน์อันควรจะพึงได้ อันนี้กระผมขอรับผิดชอบในคำพูดนะครับ:87a4e689: )
วินาทีที่ได้ยินเสียงพระเดชพระคุณหลวงพ่อคือ
"กำลังจะทำข้อสอบอยู่ มีเวลาให้คุณห้านาที มีอะไรว่ามา..เชิญ"
:e111de78:ทัดฤทธิ์-ทิดรัตน์: หลวงพ่อขอรับ คือว่า.........มาอ้างตัวให้ภรรยาผมยอมรับเป็นร่างทรง ให้กินเจตลอดชีวิต เด็ก ๆ ก็กลัวและสับสน แล้วกระผมควรจะทำอย่างไรดีขอรับ
หลวงพ่อ : อยากจะบอกคุณว่า ต่อให้ใหญ่ค้ำฟ้ามาจากไหนก็ตาม ไม่มีสิทธิ์มาบังคับเราแบบนี้ได้ ถ้าเราไม่ยอม ให้ใหญ่ระดับไหนก็ตามก็ไม่มีสิทธิ์ เว้นแต่ว่าเราจะไปยอมเขาเอง.....
ทัดฤทธิ์-ทิดรัตน์:กระผมไม่ยอมขอรับหลวงพ่อ กระผมกลัวคนอื่นเขาจะว่าได้ ว่าปฏิบัติธรรมแล้วสุดท้ายก็กลายเป็นร่างทรง
หลวงพ่อ:เอาแบบนี้ คุณไปขอเขาสามข้อ
ข้อหนึ่ง:ถ้ายอมเป็นร่างแล้ว จะต้องไม่มีอาการวิกลจริตต่อหน้าสาธารณชน
ข้อสอง:จะช่วยอะไรใคร ก็ต้องสำเร็จอย่างเดียวเท่านั้น คำว่าไม่หาย ไม่สำเร็จจะต้องไม่มีโดยเด็ดขาด
ข้อสาม:ยอมช่วยเหลือเป็นร่างให้แล้ว จะต้องไม่ยากจน กัดก้อนเกลือกิน ช่วยเขาแล้วเขาก็ต้องช่วยเราด้วย ถ้าเราต้องลำบากแล้วจะไปช่วยเขาทำเกลืออะไร
ทั้งสามข้อนี้เขาต้องยอมรับปากเราทุกข้อโดยไม่มีข้อแม้ใด ๆ
แต่อาตมาก็ขอยืนยันว่า "ต่อให้ใหญ่คับฟ้ามาจากไหนก็ไม่มีสิทธิ์มาบังคับเราได้ จำเอาไว้..เราเป็นตัวของเราเอง" คุณรีบไปจัดการตามที่บอกนี้นะ ขอให้โชคดี
วาโยรัตนะ
29-11-2012, 02:16
กราบรอยพระพุทธบาท เกาะแก้วพิสดาร
วันนี้วันลอยกระทงนับเป็นวันสำคัญซึ่งกระผมเองก็ตั้งหน้าตั้งตารอคอย โดยอาจจะแตกต่างไปจากคนอื่น ๆ ทั่วไป ที่ต่างก็รอจะได้ไปเที่ยวงานลอยกระทง
ทุกปีในวันลอยกระทงนี้ "หลวงพี่บนเขา" ท่านจะถือเป็นประเพณีคือการไปบูชารอยพระพุทธบาท ปีนี้ท่านสั่งให้ช่วยกันพับดอกบัว ๑,๐๐๐ ดอก ร้อยดอกดาวเรือง ๕๐๐ ดอก และร้อยดอกมะลิ ถวายเป็นพุทธบูชาดังในภาพ
ช่วงเช้าอากาศแย่มาก แย่เสียจนนึกหวั่นในใจว่า อากาศจะเปิดให้เดินทางไปเกาะได้อย่างสะดวกหรือไม่.....แต่อัศจรรย์เมื่อถึงเวลาอากาศกลับสดใสมีแดด ลมฝนสงบเงียบทั้ง ๆ ที่สามวันติด ๆ แล้วที่อากาศปิดมาตลอด
เมื่อไปถึงก็เป็นอันชื่นใจ เมื่อเห็นองค์พระได้รับการบูรณะซ่อมแซม กราบพระพุทธรูปปางประทับรอยพระพุทธบาท แล้วก็ตรงไปกราบรอยพระพุทธบาท ถวายดอกไม้ต่าง ๆ เรียงเป็นลำดับชั้น ทุกคนต่างก็ชื่นใจปีติยินดี ความเมื่อยล้าจากการพับดอกไม้ร้อยมาลัย มันหายเป็นปลิดทิ้งมีแต่ "บุญ" อันหาประมาณมิได้ในครั้งนี้
วาโยรัตนะ
11-02-2013, 16:56
เรื่องของการอธิษฐาน
หลวงพี่บนเขา: (คำถามที่ท่านถาม มันเหมือนจรวดนำวิถีที่บินว่อนข้ามหัวของผมไปตกเอาบุคคลเบื้องหลัง)
"พวกเธอตามประทีปกันมาหลายปี เคยเข้าถึงปีติธรรมในการตามประทีปบูชาพระรัตนตรัยและพระบรมสารีริกธาตุหรือไม่"
บรรยากาศช่างเงียบเสียจริง ๆ แต่ในขณะนั้นผมเห็นจรวดนำวิถีบินข้ามหัวผมไป...เป็นคำถามจากหลวงพี่ซึ่งปกติท่านก็ไม่ค่อยจะพูดอะไรมาก ท่านมักนั่งเงียบ ๆ แต่วันนี้นับได้ว่าเป็นเรื่องแปลก คำถามก็แปลก ปกติถ้าเป็นเรื่องของการปฏิบัติท่านมักคุยเป็นส่วนตัวกับแต่ละบุคคลมากกว่า
เอา! ว่าอย่างไรกัน ท่านสอบถามอีกครั้ง
ความเงียบที่เกิดขึ้นมันจี้หัวใจผมมาก ผมก็เลยต้องตอบท่านไปแทนพี่ ๆ อีกสองท่าน
ทัดฤทธิ์-ทิดรัตน์: ตามที่กระผมเคยเล่าถวายหลวงพี่แบบนั้นเขาเรียกว่าเข้าถึงปีติในการตามประทีปหรือเปล่าครับ
ท่านก็ตอบพร้อมยิ้มเล็กน้อยว่า "ใช่"
แล้วท่านก็พูดสอนว่า "โยมจะทำอะไรก็ให้รีบทำกันนะ เวลาไม่เคยรอท่า เห็นหรือเปล่าว่าวันนี้ก็ผ่านไปอีกวันแล้ว มีโอกาสได้ตามประทีป ได้อธิษฐานต่อดวงประทีปก็ให้ตั้งจิตตั้งใจ ยิ่งอธิษฐานเพื่อการปฏิบัติหรือเพื่อมรรคผลนิพพาน ก็จะยิ่งเร่งรัดงวดระยะเวลาเข้ามาเรื่อย โดยเฉพาะการตามประทีปแล้วอธิษฐาน ทำอะไรก็ให้จบภายในชาตินี้หรือไม่ก็ภายในพระศาสนาแห่งองค์ปัจจุบันนี้ หากพลาดพลั้งประการใดก็อธิษฐานให้ดี ๆ อย่าให้พลาดขาดทุนตกอบาย......รู้หรือเปล่าว่าช่วงหมดพระศาสนานี้แล้ว กว่าเข้าสู่ยุคพระศาสนาของพระศรีอริยเมตไตรย มันนานแสนนานขนาดไหน พวกเราถือว่ามีบุญได้มาตามประทีปก็อย่าให้ขาดทุน การภาวนา การปฏิบัติก็ทำไป อย่าบ่นว่าตามประทีปแล้วอธิษฐานแล้วไม่เห็นได้อะไร พระพุทธเจ้าท่านตั้งความปรารถนาจะเป็นพระพุทธเจ้าในใจ ยังใช้เวลาเป็นอสงไขยเลย พวกเราทำแค่นี้ก็อย่าหมดกำลังใจ อธิษฐานบารมีสำคัญมาก"
หลังจากนั้นท่านอื่นก็ลากลับบ้าน เหลือกระผมกับหลวงพี่ตามลำพัง กระผมเองก็ตามประทีปในส่วนที่เหลืออยู่อย่างมีสติ พยายามดูจิตดูใจในการตามประทีปแต่ละดวงอย่างประณีตบรรจงเมื่อก่อนตอนมาตามประทีปแรก ๆ หลวงพี่ท่านเคยพูดว่า "ตามไปเดี๋ยวจะรู้เอง"
หลายต่อหลายครั้งจะมีความรู้พิเศษ ๆ หรือคำอธิษฐานแปลก ๆ เกิดขึ้นในใจ โดยที่กระผมเองก็ยังงงว่า เกิดขึ้นได้อย่างไร เราปรุงแต่งไปก่อนหรือคิดเอาไว้แล้วว่าจะอธิษฐานอย่างนั้นหรือ แต่เมื่อพิจารณาดู ทำไมจิตของเรามันช่างสะท้านหวั่นไหวไปกับคำอธิษฐานนั้น ๆ เหมือนจะหนำใจมาก สอบถามหลวงพี่ท่าน ท่านก็ตอบว่า "คำอธิษฐานจะออกมาเอง มันจะละเอียดกว่าที่เราตั้งใจจะอธิษฐานอีก"
เอาไว้ผมจะยกตัวอย่างให้ฟังในตอนหน้าครับ ว่ามีคำอธิษฐานใด ๆ ออกมาบ้าง แล้วเมื่อกราบเรียนถามท่าน ท่านตอบให้หมดว่าเป็นอย่างไร เพื่ออะไร
ป.ล. กว่าจะมีอารมณ์ในการเขียน....ต้องรอให้มีแรงบันดาลใจครับ
vBulletin® v3.8.11, Copyright ©2000-2025, vBulletin Solutions Inc.