View Full Version : พระธรรมอันเป็นหัวใจที่ต้องการให้รู้เพื่อปฏิบัติให้เกิดผล
ลัก...ยิ้ม
28-10-2009, 14:17
วันเสาร์ที่ ๑๙ ธันวาคม พ.ศ.๒๕๓๕
ครบ ๕๐ วันงานหลวงพ่อ  หลวงพ่อสมเด็จพุฒาจารย์ วัดสระเกศ เป็นประธาน   ท่านเทศน์ ๑ กัณฑ์  ท่านยกย่องหลวงพ่อเป็นอย่างมาก  เกี่ยวกับผลงานในพระพุทธศาสนา   มีรายละเอียดทั้งในเทปและในธัมมวิโมกข์  โปรดช่วยตนเอง
ขอสรุปธรรมที่พระพุทธองค์ทรงเมตตาสอนในระหว่าง ๕๐ วันแรก
เท่าที่ผมเห็นว่าควรจะมีประโยชน์กับผู้อ่าน  ดังนี้
๑.  ทรงเน้นเรื่องการตัดสังโยชน์ ๓ ข้อแรก  เป็นสำคัญ  ด้วยอุบายต่าง ๆ   เพื่อปิดนรกให้ได้เร็วที่สุด  เพราะความตายเป็นของเที่ยงแต่ชีวิตเป็นของไม่เที่ยง  ไม่ขอเขียนรายละเอียด
ลัก...ยิ้ม
28-10-2009, 14:59
๒.  สังโยชน์ ๓ ข้อแรก  ทรงเน้นเรื่องศีลเป็นสำคัญ คือ สีลัพพตปรามาส (สีลัพพตปรามาส ซึ่งแปลเอาความหมายทางธรรมว่า  รักษาศีลให้บริสุทธิ์  จนเป็นอธิศีล)
๓.  "มีเหตุจึงจักมีผล"  พิจารณาได้หลายระดับ  หลายวิธีตามบารมีธรรมของแต่ละคน  ซึ่งไม่เสมอกัน เช่น
 ๓.๑  ศีลเป็นรากฐาน  หรือเป็นพื้นฐานของพระธรรม  ผู้ใดไม่มีศีลอยู่กับจิต  จิตผู้นั้นก็ไม่สามารถจะรองรับพระธรรมในพระพุทธศาสนา  ได้ตามความเป็นจริง
 ๓.๒  ศีลบริสุทธิ์เป็นเหตุ  จึงมีผลทำให้จิตบริสุทธิ์  หรืออธิศีลเป็นเหตุ   มีผลให้เกิดอธิจิต  อธิจิตเป็นเหตุ  มีผลให้เกิดอธิปัญญาตามลำดับ  หรือศีลบริสุทธิ์เพียงใด  จิตก็บริสุทธิ์เพียงนั้น  จิตบริสุทธิ์เพียงใดก็เกิดปัญญาในการตัดกิเลสได้มากเพียงนั้น   ศีล สมาธิ ปัญญา  จึงเป็นธรรมที่เกี่ยวเนื่องกัน  ต้องอาศัยซึ่งกันและกัน   แยกกันไม่ได้ในการปฏิบัติ   จำเป็นต้องปฏิบัติไปพร้อม ๆ กัน  ตั้งแต่เริ่มต้นเข้ามาในพระพุทธศาสนา  จนกระทั่งจบกิจ  จิตดวงนั้นก็มีอัตโนมัติอยู่ใน ศีล สมาธิ ปัญญา ตลอดเวลา  เป็นอกาลิโก  ศีล สมาธิ ปัญญา ย่อมาจากอริยมรรค ๘   ซึ่งเป็นข้อปฏิบัติเพื่อตัดกิเลสให้ขาดหรือตายได้อย่างถาวร  เป็นข้อปฏิบัติในอริยสัจ ๔   ซึ่งเป็นตัวปัญญาสูงสุดในพระพุทธศาสนา  และมีแต่ในพระพุทธศาสนาเท่านั้น  ศาสนาอื่น ๆ ไม่มี
ลัก...ยิ้ม
02-11-2009, 10:53
๓.๓  ศีลจะขาดได้ต้องประกอบด้วยองค์ ๓ คือ
ก)   มีเจตนาที่จะทำชั่ว
ข)   ทำตามเจตนาที่ตนคิดชั่วไว้
ค)   ทำแล้วก็สมตามเจตนา
หากมีกรรม (การกระทำ) ครบ ๓ ข้อนี้  ศีลขาด ๑๐๐%   หากเพียงแค่คิดชั่ว  แต่ยังไม่ได้ลงมือทำ  ศีลก็ยังไม่ขาด  แต่ศีลก็ด่าง เป็นความชั่วระดับมโนกรรม   หากลงมือกระทำชั่วตามที่คิด  แต่ไม่สำเร็จตามที่คิด  ศีลก็ยังไม่ขาด ศีลทะลุเป็นรู ๆ ยังไม่ถึงขาด เช่น วางแผนคิดจะโกหกเขา   โดยเจตนาเพื่อเอาประโยชน์ใส่ตน  แล้วก็ทำตามแผนคือพูดโกหก  พูดไม่ตรงกับความเป็นจริง   เพื่อหวังผลประโยชน์ให้ตัวเอง  แต่บังเอิญผู้รับฟังไม่เชื่อ ศีลก็ยังไม่ขาด แต่ทะลุเป็นรูแล้ว  เป็นความชั่วขั้นวจีกรรม  โดยมีมโนกรรมเป็นหัวหน้า   ขอให้ผู้อ่านเอาไปคิดพิจารณาต่อเอง  ปัญญาจึงจะเกิดขึ้นจริง ๆ หมายความว่า  จริงที่เรา จริงที่ผลของการปฏิบัติของเราเองเท่านั้น   การพูด การสนทนาธรรม การอ่านหนังสือธรรมะมาก ๆ  ยังไม่ใช่ของจริง   เป็นเพียงแค่แนวทาง เป็นเพียงแค่หนทางของการปฏิบัติเท่านั้น   ของจริงอยู่ที่ผล  ซึ่งไม่สามารถจะทำแทนกันได้ โมทนากันไม่ได้  ของใครก็ของมันหรือกรรมใครกรรมมันทั้งสิ้น
ลัก...ยิ้ม
02-11-2009, 11:00
๓.๔   พระโสดาบันท่านตัดสังโยชน์ ๓ ข้อแรกได้แล้ว
 ความสำคัญอยู่ที่ศีล  แต่ศีลก็ยังแยกออกเป็น ๓ ระดับ คือ  ศีลไม่ขาด แต่จิตยังหยาบอยู่เป็นเหตุ  มีผลทำให้ต้องมาเกิดอีก ๗ ชาติ,  ศีลไม่ขาด แต่วจีกรรมยังไม่สมบูรณ์เป็นเหตุ  มีผลทำให้ต้องมาเกิดอีก ๓ ชาติ,  ศีลไม่ขาด แต่มโนกรรมยังไม่สมบูรณ์เป็นเหตุ  มีผลทำให้ต้องมาเกิดอีก ๑ ชาติ
สรุปในข้อนี้ก็คือ จะต้องใช้กรรมบท ๑๐ เป็นหลักในการปฏิบัติร่วมด้วย  จึงจะทำให้ศีลบริสุทธิ์ขึ้น (กรรมบท ๑๐ แบ่งเป็น ๓ หมวด  มีกายกรรม ๓ ไม่ฆ่าสัตว์ ไม่ลักทรัพย์ ไม่ประพฤติผิดในกาม,   วจีกรรม ๔ มีไม่พูดโกหก ไม่พูดคำหยาบ ไม่พูดส่อเสียด ไม่พูดเรื่องไร้สาระ,  มโนกรรม ๓ มีไม่คิดอยากได้ของผู้อื่นโดยไม่ชอบ ไม่คิดประทุษร้ายผู้อื่น ไม่สงสัยในคำสอนของพระพุทธเจ้า)  ในข้อนี้ทรงตรัสไว้ย่อ ๆ มีความว่า ไม่ทำ ไม่พูด ไม่คิด (ชั่ว)   หมายความว่า ไม่เอากายไปทำชั่ว ๕ ประการ ก็คือศีล ๕ นั่นเองไม่พูดก็คือ ระวังกรรมบท ๑๐ หมวดวาจา ๔ นั่นเอง    ไม่คิดก็คือระวังมโนกรรม ๓ เกี่ยวกับอารมณ์ โลภ โกรธ หลง นั่นเอง
ลัก...ยิ้ม
02-11-2009, 11:01
หมายเหตุ  จากหนังสือธรรมะหลวงพ่อ  รวบรวมโดย พล.ต.ท.นพ.สมศักดิ์  สืบสงวน เล่ม ๑
vBulletin® v3.8.11, Copyright ©2000-2025, vBulletin Solutions Inc.