View Full Version : ดอกบัว
http://image.ohozaa.com/ia/2cahu.jpg (http://image.ohozaa.com/show.php?id=795605c4b5d5ebfcc2b0ebbbab151487)
ในขณะที่โยมถวายดอกบัวให้พระอาจารย์  ท่านก็ได้กล่าวขึ้นว่า  "รู้จักเจ้าชายสัตบุษย์ไหม ?"  
แล้วท่านก็เล่าให้ฟังว่า "คุณประสิทธิ์  แคล้วโยธา  เขาปรารถนาพระโพธิญาณ  ไปไหนก็ถวายแต่ดอกบัว   ตอนที่เขาเอาพระบรมธาตุข้อนิ้วพระหัตถ์มาไว้ที่พุทธมณฑล  คุณประสิทธิ์ได้เอาดอกบัวไปถวายวันละ  ๑  คันรถ    ขอยืนยันว่าวันละ  ๑  คันรถ  เขาจะเอาไปมอบให้เจ้าหน้าที่  เพื่อที่จะให้เขาไปบูชาไหว้พระธาตุกัน  เขาไปไหนก็ถวายแต่ดอกบัว  พรรคพวกเลยเรียกว่า  เจ้าชายสัตบุษย์   "
ถ้าหากจะดูอานิสงส์การถวายดอกบัวแล้ว  ต้องดูพระอุบลวรรณาเถรี  ในอดีตชาติเป็นพระนางปทุมวดี  ท่านคลอดลูกแปลก ๆ   ท่านคลอดลูก  ๑  คนได้แถมมาอีก  ๔๙๙   คน  เขาบอกว่าลูกที่คลอดนั้น เกิดโดยชลาพุชะ (เกิดในมดลูก  เกิดในครรภ์)  แต่ว่ามีลูกที่เป็นสังเสทชะ (เกิดจากเม็ดเหงื่อ) อีก  ๔๙๙ คน คลอดทีเดียวบานเบิกเลย
ลูกของท่านทุกคน เป็นพระปัจเจกพุทธเจ้าทั้งหมด   ไม่รู้ว่าสร้างบุญอะไรมา  มีลูก ๕๐๐  คน  เป็นพระปัจเจกพุทธเจ้าหมด    ท่านเป็นพระราชินี  ลูกก็มีทหารมีพี่เลี้ยงคอยดูแลอยู่   ปรากฏว่าวันนั้นลูกไปเที่ยวอุทยาน  ลูกอายุครบ  ๗  ขวบพอดี   เวลาเห็นดอกบัว ความปรารถนาเดิม   ธรรมะเดิมกลับมาหมด ก็เลยพากันนั่งเข้าสมาธิ  บรรลุมรรคผลเป็นพระปัจเจกพุทธเจ้าพร้อมกันทั้ง  ๕๐๐ องค์
  พอตอนบ่ายพวกทหารก็มาตาม  "พระลูกเจ้ากลับได้แล้ว เดี๋ยวพระแม่เจ้าจะเป็นห่วง"     ท่านก็บอกว่า "กิจในการกลับวังไม่มีแล้ว  เพราะเราเป็นนักบวช"   พวกทหารก็หัวเราะ  บอกว่าพวกนักบวชเขาไม่แต่งตัวแบบนี้หรอก    พระปัจเจกพุทธเจ้าก็ถามว่า นักบวชเขาแต่งตัวกันอย่างไร  ? ทหารบอกว่านักบวชจะไม่ประดับตกแต่งด้วยเครื่องประดับอย่างนี้   นักบวชจะต้องห่มผ้ากาสาวพัสตร์  จะต้องโกนผมสั้น  ยาวไม่เกิน  ๒  องคุลี  มีบาตร ฯลฯ  
พอท่านทั้งหลายได้ยินก็ยืนขึ้น  ยกมือลูบศีรษะกลับเพศกลายเป็นพระหมด   บาลีบอกว่า สารูปและอาจาระเป็นเหมือนดั่งพระมหาเถระที่บวชมาได้แล้ว  ๑๐๐  พรรษา   แล้วท่านก็เหาะไปภูเขาคันธมาศกัน  พระนางปทุมวดีคิดถึงลูกก็จุดธูป    นิมนต์มารับบาตรในวัง    
แล้วท่านก็คั่วข้าวตอกห่อด้วยใบบัว  ๕๐๐  ห่อ  พร้อมกับดอกบัว  ถวายทุกรูป  แล้วอธิษฐาน  เมื่อได้ทำบุญกับพระปัจเจกพุทธเจ้าทั้ง  ๕๐๐  สิ้นชีวิตจากชาตินั้นแล้ว ท่านไปเสวยสุขในเทวโลกเป็นเวลานับประมาณไม่ได้   เมื่อจุติลงมาใหม่   เกิดมาแล้วเดินไปกี่ก้าวก็มีดอกบัวผุดขึ้นมารับ   บานรอรับเท้าทีละดอก 
ชาติปัจจุบันนี้มาเกิดเป็นพระอุบลวรรณาเถรี    ท่านบอกว่ามีผิวงามเหมือนบัวเขียว (นิลุบล) คำว่านิลแปลว่าเขียวก็ได้  แปลว่าดำก็ได้  แต่ว่านิลจริง ๆ เป็นสีน้ำเงิน  แสดงว่าท่านเป็นคนผิวดำ ที่มีผิวสวยเกลี้ยงเกลามาก ๆ  เลย    ปรากฏว่าเป็นที่หมายปองของพระมหากษัตริย์  ทั้งเจ้าชาย  ทั้งเศรษฐี  คนเป็นพ่อไม่รู้จะยกให้ใคร   เพราะถ้ายกให้ใครสักคน ก็จะขัดใจกับคนที่เหลือ
  
พ่อก็เลยไปถาม  "ลูกเอ๋ย..จะบวชไหม ?"    ด้วยวิสัยเดิมที่ท่านสร้างบุญมามหาศาล  พอได้ยินก็เข้าใจเลย ว่าพ่อลำบากใจอย่างไร  ก็บอกว่า"ถ้าอย่างนั้นลูกจะบวช"    ก็เลยไปบวชในสำนักภิกษุณี  กลายเป็นพระอรหันต์   เป็นอัครสาวิกาที่เลิศไปด้วยฤทธิ์ อัครสาวกที่เลิศด้วยฤทธิ์ฝ่ายภิกษุ ก็คือพระมหาโมคคัลลานะ  ฝ่ายภิกษุณีก็ต้องเป็นพระอุบลวรรณาเถรี
เทศน์ช่วงเช้า  ณ  บ้านอนุสาวรีย์
วันเสาร์ที่  ๑๐  ตุลาคม  ๒๕๕๒
vBulletin® v3.8.11, Copyright ©2000-2025, vBulletin Solutions Inc.