View Full Version : เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันศุกร์ที่ ๑๖ สิงหาคม ๒๕๖๗
พิชวัฒน์
16-08-2024, 17:48
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันศุกร์ที่ ๑๖ สิงหาคม ๒๕๖๗
LPOpRNxhsIE
วันนี้ตรงกับวันศุกร์ที่ ๑๖ สิงหาคม พุทธศักราช ๒๕๖๗ กระผม/อาตมภาพเดินทางไปยังอำเภอพระสมุทรเจดีย์ จังหวัดสมุทรปราการ โดยที่คณะกรรมการและคณะอนุกรรมการโครงการหมู่บ้านรักษาศีล ๕ (หนกลาง) นัดแนะพบกันที่ร้านอาหารครัวปลายทาง ปรากฏว่ากระผม/อาตมภาพไปถึงแทบจะเป็นรูปแรก ๆ ตามเคย ขณะเดียวกันก็ยังมีการอบรมในโครงการ Upskills การสอนวิชาศาสนาเปรียบเทียบ จนกระทั่งเมื่อคณะกรรมการและคณะอนุกรรมการหลายท่านเดินทางมาถึง เห็นเข้าแล้วก็ยังมีการบ่นว่า "ได้ปริญญาเอกมาสองใบแล้ว ยังต้องเรียนหนังสืออีกหรือ ?"
จะว่าไปแล้ว ในเรื่องของวิชาทางโลกนั้นเป็นวิชาที่เรียนแล้วไม่รู้จักจบจักสิ้น เพราะว่าเป็นการวิ่งจากโคนไปหาปลาย หรือว่าจากต้นน้ำออกทะเล แต่ว่าวิชาทางธรรมนั้นเป็นวิชาที่ศึกษาจากปลายเข้าหาโคน ก็คือศึกษาไปจนถึงต้นเหตุ คือสมุทัยแห่งการเกิดแก่เจ็บตาย เมื่อทำลายต้นเหตุได้ทุกอย่างก็จบสิ้นลง วิชาโลกจึงเป็นวิชาที่เรียนไม่มีวันจบ ส่วนวิชาธรรมนั้น ถ้าท่านเรียนได้ถูกต้องและเพียรพยายามมากพอ โอกาสที่จะจบย่อมมีอย่างแน่นอน
เมื่อฉันเพลร่วมกันแล้ว พวกเราก็ได้เดินทางเข้าไปยังวัดใหญ่ หมู่ที่ ๔ ตำบลในคลองบางปลากด อำเภอพระสมุทรเจดีย์ จังหวัดสมุทรปราการ เมื่อเข้าไปถึงแล้วก็เห็นว่า วัดของเขานั้นใหญ่สมชื่อจริง ๆ โดยเฉพาะซุ้มนิทรรศการต่าง ๆ ที่จัดเอาไว้นั้น อลังการสุดยอดมาก..!
แต่ว่าโดยธรรมเนียมแล้ว ไม่ว่าคณะกรรมการและคณะอนุกรรมการเดินทางไปถึงไหน ถ้าหากว่ามีสิ่งศักดิ์สิทธิ์อยู่ในวัดนั้น ก็ต้องไปกราบสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ สวดมนต์อุทิศส่วนกุศลกันก่อน ถ้าหากว่าเป็นสถานที่ทั่วไป ไม่มีสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่จำเพาะเจาะจง ก็จะต้องไปกราบพระประธานในอุโบสถ และสวดมนต์ไหว้พระกันที่นั่น
เมื่อเสร็จพิธีแล้ว พวกเราก็ได้เดินดูซุ้มนิทรรศการต่าง ๆ ซึ่งในงานโครงการหมู่บ้านรักษาศีล ๕ ของจังหวัดสมุทรปราการนั้น ต้องบอกว่า "ตีโจทย์แตก" แล้วในขณะเดียวกัน ก็จัดงานทุกอย่างได้ยิ่งใหญ่และทุ่มเทจริง ๆ ไม่ว่าจะเป็นของปีที่แล้วที่วัดบางหัวเสือก็ดี หรือว่าปีนี้ที่วัดใหญ่ในคลองบางปลากดก็ดี ล้วนแล้วแต่ทำให้คณะกรรมการประทับใจเป็นอย่างยิ่ง
การเดินดูนิทรรศการอย่างเดียวผ่านไปเกือบ ๒ ชั่วโมง..! กว่าที่จะเข้าสู่ศาลาเอนกประสงค์ เพื่อทำการตรวจประเมินยกบ้านคลองสามแพรก ตำบลในคลองบางปลากด ขึ้นเป็นหมู่บ้านรักษาศีล ๕ ต้นแบบ
ต้องบอกว่าสมควรที่จะได้เป็นต้นแบบอย่างยิ่ง เนื่องเพราะว่าเฉพาะการปฏิบัติธรรมนั้นมีปีละ ๕๒ ครั้ง แปลว่ามีกันทุกอาทิตย์ ส่วนการปฏิบัติธรรมในวันสำคัญทางพระพุทธศาสนานั้น วันพระมี ๔๕ ครั้ง วันสำคัญทางพระพุทธศาสนาอีก ๔ ครั้ง วันเฉลิมพระชนมพรรษา วันพ่อแห่งชาติ วันแม่แห่งชาติอีก ๔ ครั้ง สรุปว่าปีหนึ่งมี ๕๒ อาทิตย์ ทางวัดใหญ่ในคลองบางปลากด จัดการปฏิบัติธรรมไปร้อยกว่าครั้ง..!
วัดท่าขนุนของกระผม/อาตมภาพที่มีการจัดปฏิบัติธรรมบ่อย ๆ ปีนี้ยังมีแค่ ๙ ครั้งเท่านั้น ต้องบอกว่าเป็นอะไรที่ประทับใจสุดยอด กระผม/อาตมภาพเทคะแนนในมือที่มีอยู่ ๒๐ คะแนนให้ไปชนิดหมดเกลี้ยง ไม่มีอะไรเหลือเลย เพราะว่าในทุกกฎเกณฑ์กติกา ทางวัดใหญ่นี้ทำเกินทั้งสิ้น..!
ต้องขอชมเชยท่านอาจารย์ ดร.พระมหาวิฑูร ธมฺมโชโต ป.ธ.๘ เจ้าอาวาสวัดใหญ่ในคลองบางปลากด เจ้าคณะอำเภอพระสมุทรเจดีย์ ว่าท่านสามารถสนองนโยบายของทางจังหวัด ซึ่งนำโดยหลวงพ่อโพไซดอน ก็คือท่านเจ้าคุณพระเทพสมุทรวัชราจารย์ (จรัล สิริธมฺโม) เจ้าอาวาสวัดบางพลีใหญ่ใน พระอารามหลวง ซึ่งกระผม/อาตมภาพเห็นคำว่า "เทพสมุทร" ก็เลยเรียกท่านว่า "หลวงพ่อโพไซดอน" เพียงแต่ไม่รู้ว่าจะมีใครเป็น "อควาแมน" ให้ท่านได้สั่งงานกระทำการต่าง ๆ ได้อย่างชนิดที่เรียกว่ายอดเยี่ยมแบบนี้กี่คน ?
แต่ว่าด้วยความที่หัวแถวคือเจ้าคณะจังหวัด ท่านเป็นผู้เอาจริงเอาจังกับเรื่องแบบนี้ และทีมงานทุกอำเภอก็ล้วนแล้วแต่ "ตีโจทย์แตก" และช่วยเหลือกันดีเป็นอย่างยิ่ง จึงทำให้การตรวจประเมินโครงการหมู่บ้านรักษาศีล ๕ ต้นแบบของจังหวัดสมุทรปราการนั้น ประทับใจทุกครั้ง ถึงขนาดคณะกรรมการแซวกันว่า "ต่อให้มีปลาสลิดบางบ่อมา ก็ไม่สามารถที่จะเพิ่มคะแนนให้มากกว่านี้อีกแล้ว" ทำเอาสนุกเฮฮากันเป็นที่ยิ่ง..!
และที่อัศจรรย์ยิ่งกว่านั้นก็คือ ท่านโชติพงศ์ เปล่งวิทยา นายอำเภอพระสมุทรเจดีย์นั้น ปีที่แล้วเป็นนายอำเภอพระประแดง ซึ่งเข้าไปรับการตรวจประเมินชุมชนที่บ้านบางหัวเสือเช่นกัน ไม่ทราบเหมือนกันว่าท่านทำบุญมาด้วยอะไร ? ถึงได้สนองงานคณะสงฆ์เต็มที่ทั้งสองปี..!
ขอให้บุญบารมีในครั้งนี้ส่งผลให้ท่านก้าวขึ้นไปเป็นปลัดจังหวัด เป็นผู้ว่าราชการจังหวัด ตลอดจนถึงเข้าไปเป็นใหญ่เป็นโตในกระทรวงมหาดไทยโดยเร็วด้วยเถิด เนื่องเพราะว่าการทำงานของท่านนอกจากจะ "ถึงลูกถึงคน" แล้ว ท่านยังนำข้าราชการทุกภาคส่วน ปฏิญาณตนในการนำศีล ๕ เป็นเครื่องดำเนินชีวิต โดยขอให้คณะกรรมการและคณะสงฆ์เป็นสักขีพยานอีกด้วย..!
กระผม/อาตมภาพเองได้บอกกล่าวกับทุกท่านในที่นั้นว่า โดยปกติแล้วคณะกรรมการของเรานั้น เขาให้มาดูความเป็นระเบียบเรียบร้อยและความถูกต้อง แต่เรามักจะเจอความไม่เป็นระเบียบเรียบร้อยและความไม่ถูกต้อง ซึ่งจะว่าไปแล้วก็ได้ทำผิดหน้าที่ของตนเอง..! แต่ก็ถือว่าเราต้องให้คำแนะนำ เพื่อให้เขาได้แก้ไขให้กลับไปให้เป็นระเบียบและถูกต้องด้วย
แต่ว่าบรรดาหมู่บ้านที่ได้รับการยกขึ้นเป็นต้นแบบของจังหวัดสมุทรปราการทั้ง ๒ ปีที่ผ่านมา ไม่มีอะไรเป็นข้อตำหนิได้เลย จึงขอชมเชยเอาไว้ ณ ที่นี้อีกวาระหนึ่ง พูดง่าย ๆ ว่าใครก็ตามถ้าหากว่าทำดีทำถูกขนาดนี้ เราจะตระหนี่คำชมไม่ได้ ในลักษณะที่ว่าถ้าเป็น "ต้นแบบ" ก็คงเป็นต้นแบบประมาณ ๙๘ หรือว่า ๑๐๐ เปอร์เซ็นต์เต็ม จะได้เป็นตัวอย่างให้กับหมู่บ้านอื่น ๆ ที่จะได้รับการยกขึ้นเป็นต้นแบบด้วยว่า ของดีที่แท้จริงเป็นอย่างนี้นี่เอง..!
เมื่อได้รับการตรวจประเมิน และเป็นสักขีพยานในการปฏิญาณตนถือศีล ๕ เป็นเครื่องดำเนินชีวิตแล้ว พวกเราก็ต้องฝ่ารถติดสาหัสสากรรจ์ เพื่อที่จะเดินทางกลับไปยังวัดของใครของมัน แต่ด้วยความที่กระผม/อาตมภาพนั้นยังมีภารกิจต่อเนื่อง จึงต้องเดินทางเข้าไปพักที่วัดอุทยาน จังหวัดนนทบุรี ซึ่งเส้นทางถนนกาญจนาภิเษกช่วงนี้ มีแต่บรรดารถใหญ่โตมหึมา ไม่ว่าจะ ๑๘ ล้อ หรือว่า ๒๒ ล้อ ตลอดจนกระทั่ง ๖ ล้อและ ๔ ล้อใหญ่ ๆ เล็ก ๆ แน่นไปหมด ไม่สามารถที่จะทำความเร็วได้
โรคภัยไข้เจ็บก็ไม่ค่อยจะเกรงใจ เนื่องเพราะว่าวันนี้กระผม/อาตมภาพนั้นต้องบอกว่า "ดวงแตกมาก ๆ" หรือไม่ก็ต้องบอกว่า "ดวงดีมาก ๆ" เพราะว่าสถานที่นั่งประเมินตรงมุมนั้น เขาเปิดเครื่องปรับอากาศส่องตรงมาหาคณะกรรมการพอดี แล้วกระผม/อาตมภาพก็นั่งอยู่เป็นคนแรกต่อจากเครื่องปรับอากาศเลย หลังจากที่ทนร้อนมา ๒ วัน วันนี้มาเจออากาศเย็นจัดเข้าไปเต็ม ๆ ดูท่าว่ามาลาเรียเพื่อนรักทำท่าว่าจะมาเยี่ยมเยือนอีกแล้ว..!
ไม่ทราบเหมือนกันว่ากระผม/อาตมภาพจะไข้จับหงิกไปตอนไหน ? จึงได้อาศัยช่วงเวลาที่รถติดแน่นไปหมดนี้ ได้ทำการบันทึกเสียงธรรมจากวัดท่าขนุนเอาไว้ก่อน ไม่เช่นนั้นแล้วถ้าหากว่าอาการไข้กำเริบขึ้นมา อาจจะขาดสติ พูดภาษาคนไม่รู้เรื่องขึ้นมาก็เป็นได้..! อย่างเมื่อวานนี้ก็ต้องพยายามตั้งสติกันสุด ๆ กว่าที่จะบันทึกเสียงได้จบ เพียงแต่ว่าวันนี้อาการไข้ทำท่าเหมือนอย่างกับว่าจะจับแต่ก็ยังเกรงใจ ประมาณว่าบันทึกเสียงจบเมื่อไรได้เจอกัน..!
สำหรับวันนี้ก็ขอเรียนถวายพระภิกษุสามเณรของเรา และบอกกล่าวแก่ญาติโยมแต่เพียงเท่านี้
พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร.
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน
วันศุกร์ที่ ๑๖ สิงหาคม พุทธศักราช ๒๕๖๗
(ถอดจากเสียงเป็นอักษร โดย เผือกน้อย)
vBulletin® v3.8.11, Copyright ©2000-2025, vBulletin Solutions Inc.