กระดานสนทนาวัดท่าขนุน


กลับไป   กระดานสนทนาวัดท่าขนุน > ห้องธรรมะพระอาจารย์ > เก็บตกจากบ้านวิริยบารมี

Notices

เก็บตกจากบ้านวิริยบารมี เก็บข้อธรรมจากบ้านวิริยบารมีมาฝาก สำหรับผู้ที่ไม่มีโอกาสเดินทางไป

ตอบ
 
คำสั่งเพิ่มเติม
  #101  
เก่า 26-08-2013, 13:02
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,488
ได้ให้อนุโมทนา: 151,147
ได้รับอนุโมทนา 4,405,204 ครั้ง ใน 34,077 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

พระอาจารย์กล่าวว่า "สมัยที่เรียนนักธรรมเอกอยู่ เขาบอกว่าอุทกุกเขปสีมา หรือสีมาน้ำ ให้ห่างจากฝั่ง ๗ อัพภันดร ๑ อัพภันดรประมาณกำลังบุรุษปานกลางวักน้ำไปถึง อาตมาก็สงสัยว่ามีกำลังปานกลาง กำลังมาก กำลังน้อยอะไรของเขา มาตอนนี้เข้าใจแล้ว บางอย่างคนอื่นยกไหวแต่อาตมายกไม่ไหว เพราะกำลังคนต่างกัน"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 26-08-2013 เมื่อ 13:26
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 182 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #102  
เก่า 26-08-2013, 13:07
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,488
ได้ให้อนุโมทนา: 151,147
ได้รับอนุโมทนา 4,405,204 ครั้ง ใน 34,077 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

พระอาจารย์กล่าวว่า "การเทศน์ ๓ ธรรมาสน์ต้องรักษารูปแบบไว้ แต่เนื้อหาอยู่ที่เราจะใส่ การเทศน์ ๓ ธรรมาสน์มาจากการสังคายนาพระไตรปิฎก องค์ประธานก็คือพระมหากัสสปะจะเป็นผู้สอบถาม พระอุบาลีกับพระอานนท์จะเป็นผู้ตอบ แต่คราวนี้เขาไม่ได้กำหนดตายตัวว่า จะต้องตอบเรื่องวินัยเรื่องธรรมหรืออะไร กลายเป็นว่า ๓ ท่านจะมีท่านหนึ่งเป็นหลักคอยถาม ท่านที่เป็นหลักถ้าคนอื่นตอบไม่ตรงอย่างไรนี่ ต้องต้อนกลับไปให้ตอบตรงให้ได้

แต่ถ้าเทศน์ ๒ ธรรมาสน์จะเป็นพระสกรวาทีกับพระปรวาที คือท่านผู้ถามกับผู้ตอบ ๒ คน เขาจะสมมติว่าพระสกรวาทีพิจารณาธรรมอยู่ในป่า แล้วก็ติดขัด นึกถึงพระปรวาทีว่าท่านเป็นผู้ที่เจริญด้วยศีลสุตาธิคุณ กอปรไปด้วยปัญญาอันยิ่ง คงจะเข้าใจซึ่งปัญหาอันนี้ เราควรที่จะไปสอบถาม แล้วก็มีการสมมุติให้เดินทางไปสอบถาม บางที่คำถามก็งัดเอาคำถามที่โยมเขียนนั่นแหละมาถาม จะมีการขึ้นต้นลงท้ายที่เป็นรูปแบบตายตัวของเขา ส่วนคำตอบก็อยู่ที่ปัญญาของคนเทศน์"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 26-08-2013 เมื่อ 13:28
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 172 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #103  
เก่า 26-08-2013, 13:27
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,488
ได้ให้อนุโมทนา: 151,147
ได้รับอนุโมทนา 4,405,204 ครั้ง ใน 34,077 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : แล้วการเทศน์แจงละครับ ?
ตอบ : การเทศน์แจงเป็นเรื่องของการสังคายนาพระไตรปิฎกโดยตรงเลย เป็นการเทศน์เดี่ยว ใครถามปัญหาอะไรต้องตอบได้หมด จริง ๆ แล้วเขาเรียกเทศน์แจง ๕๐๐ รู้สึกว่าจะมีแต่หลวงปู่พระครูโวทานธรรมาจารย์ วัดดาวดึงสาวาส ที่จัดได้ เพราะลูกศิษย์นักเทศน์ของท่านเยอะ ถามกันคนละประโยคก็หมดวันแล้ว

ปกติแล้วจะใช้ในงานศพ ขึ้นต้นว่า ยันเตนะ ภะคะวะตา ชานะตา ปัสสะตา อะระหะตา สัมมาสัมพุทเธนะ ฯลฯ แปลเป็นไทยก็ถามตอบดี ๆ นี่แหละ

ปะฐะมัง ปาราชิกัง กัตถะ ปัญญัตตันติ ฯ ......ปฐมบัญญัติปาราชิกบัญญัติขึ้นที่ไหน ?
เวสาลิยัง ปัญญัตตันติ ฯ ......................... บัญญัติขึ้นที่เมืองเวสาลีครับ
กัง อารัพภาติ ฯ .....................................ด้วยปรารภเรื่องอะไร ?
สุทินนัง กะลันทะปุตตัง อารัพภาติ ฯ ..............ด้วยปรารภเรื่องพระสุทินนกลันทบุตรครับ

พูดง่าย ๆ ก็คือธรรมะของพระพุทธเจ้าง่ายสุด ๆ ท่านเล่นถามตอบกันทีละประโยคอย่างกับถามเด็กเลย คนสมัยนั้นฟังแล้วเข้าใจก็ได้มรรคได้ผลไปตาม ๆ กัน อย่างในอนัตตลักขณสูตร ท่านถามว่า

ตังกิง มัญญะถะ ภิกขะเว............................ดังนี้ ภิกษุทั้งหลาย
รูปัง นิจจัง วา อนิจจัง วาติ ..........................รูปนี้เที่ยงหรือไม่เที่ยง ?
อนิจจัง ภันเต .........................................ไม่เที่ยงขอรับ
ยัมปะนา นิจจัง ทุกขัง วา ตัง สุขัง วาติ...........ในเมื่อเป็นเช่นนั้น เป็นสุขหรือเป็นทุกข์เล่า ?
ทุกขัง ภันเต .........................................เป็นทุกข์ขอรับ
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 26-08-2013 เมื่อ 13:34
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 167 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #104  
เก่า 26-08-2013, 13:31
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,488
ได้ให้อนุโมทนา: 151,147
ได้รับอนุโมทนา 4,405,204 ครั้ง ใน 34,077 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถามเหมือนถามเด็กเลย เรียนบาลีรู้ไว้ก็ดีเหมือนกัน เพราะหลักธรรมแท้ ๆ แคะได้จากบาลี แต่ระยะหลังความหมายเริ่มเพี้ยนเยอะ คือการแปลขึ้นอยู่กับกำลังใจของคน ของบางอย่างต้องแปลจากสิ่งที่เราไม่เห็น เหมือนกับเวลาที่เขาอ่านพวกสัญญาบัตรตราตั้ง เราต้องอ่านสิ่งที่มองไม่เห็นด้วย เช่น มีลายเซ็นพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เป็นพระปรมาภิไธย ก็ต้องอ่านว่า “โดยพระปรมาภิไธย พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุยลเดช ปร.” ต้องอ่านสิ่งที่มองไม่เห็น อ่านให้เห็นให้ได้

เรื่องของหลักธรรมหนักกว่านั้น เพราะว่าคำพูดและตัวหนังสือหยาบเกินไป อธิบายหลักธรรมชัด ๆ ไม่ได้ ต้องอธิบายในสิ่งที่มองไม่เห็นแต่อยู่ตรงนั้นออกมาให้ได้

ต้องบอกว่าสัญญาและปัญญาทรามลงอย่างที่หลวงพ่อวัดท่าซุงท่านบอก สัญญาคือความจำ ปัญญาคือการรู้แจ้ง ปัจจุบันนี้บางทีก็เป็นจินตามยปัญญา คือคิดแล้วเข้าใจขึ้นมา แต่เนื่องจากว่ายังไม่ใช่ภาวนามยปัญญา ยังไม่ใช่การรู้แจ้งจริง ๆ ก็ยังมีการสูญหายไปได้ ถ้าเป็นเรื่องที่รู้แจ้งแล้วจะติดใจอยู่ตลอดไป ทรงอยู่ในใจอยู่ตลอดไป ถ้ามีใครสะกิดก็จะเข้าใจเลย รอคนสะกิดหน่อยเดียว หรือไม่ก็ประเภททำถึงเองก็จะเข้าใจชัดเจนแจ่มแจ้ง
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 26-08-2013 เมื่อ 13:36
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 166 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #105  
เก่า 26-08-2013, 13:38
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,488
ได้ให้อนุโมทนา: 151,147
ได้รับอนุโมทนา 4,405,204 ครั้ง ใน 34,077 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

มีโยมขนข้าวของมาถวายสังฆทาน พระอาจารย์จึงกล่าวว่า "ทำไมขนมาไม่หมดสักที แสดงว่ารวยได้เรื่อย ๆ มาเป็นระยะ ๆ แปลว่ารวยได้เรื่อย ๆ เหมือนน้ำไม่ขาดสาย ถ้าแบบนี้ต้องแบบของสมเด็จพระพุทธกัสสปะ เหมือนน้ำในแม่น้ำใหญ่ที่หลั่งไหลต่อเนื่องไม่ขาดสาย ส่วนทานของสมเด็จพระพุทธทีปังกรมาครืนเดียวเป็นคลื่นยักษ์เลย ซัดมาทีเดียวให้รวยสะใจไปเลย

พระพุทธเจ้าเหมือนกัน สร้างบารมีมาเหมือนกัน แต่ความคล่องตัวในแต่ละด้านไม่เหมือนกัน อย่างของสมเด็จพระพุทธทีปังกรกับสมเด็จพระพุทธกัสสปะ พระองค์ท่านเริ่มด้วยทานบารมี ฉะนั้น ๒ พระองค์นี้ในเรื่องลาภผลจะเด่นเป็นพิเศษ อย่างถ้าเริ่มด้วยปัญญาบารมีก็จะฉลาดมาก เลยกลายเป็นว่าสร้างบารมีมาเหมือน ๆ กัน แต่ตอนเริ่มต้นไม่ได้เริ่มจากบารมีเดียวกัน"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 26-08-2013 เมื่อ 13:43
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 187 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #106  
เก่า 26-08-2013, 13:41
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,488
ได้ให้อนุโมทนา: 151,147
ได้รับอนุโมทนา 4,405,204 ครั้ง ใน 34,077 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

พระอาจารย์อ่านข้อความจากหนังสือเล่มหนึ่ง "แค่นี้ก็ไปแล้ว เขาเขียนว่าพระปิณโฑลภารทวาชะเป็นผู้บันลือเสียงดังกังวานดุจราชสีห์ ความหมายผิดแล้ว จริง ๆ แล้วท่านเป็นผู้ที่กล้าประกาศว่า ใครอยากรู้ธรรมส่วนไหนให้มาถามเรา เหมือนสิงห์สั่งป่า ถึงเวลาก็คำรามลั่นประกาศให้สัตว์ทั้งหลายรู้ว่านี่คือถิ่นที่อยู่ของเรา ฉะนั้น..ถ้าหลักธรรมนี้เรารู้ เธอก็มาถามได้เลย..อะไรประมาณนั้น

การแปล..พอแปลไปความหมายจะเพี้ยนไปเรื่อย อย่างพระสุภูติเถระ เป็นเอตทัคคะทางเลิศด้วยอรณวิหารและทักขิไณยบุคคล ท่านเป็นเลิศ ๒ ด้าน อยู่ด้วยอรณวิหารคืออยู่ด้วยหลักธรรมที่ปราศจากโทษ ท่านเข้านิโรธสมาบัติเป็นปกติ ในเมื่อเข้านิโรธสมาบัติอย่างเดียวก็ย่อมเป็นทักขิไณยบุคคล คือบุคคลที่เขาสมควรที่จะทำบุญด้วย"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 26-08-2013 เมื่อ 13:45
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 179 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #107  
เก่า 26-08-2013, 14:26
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,488
ได้ให้อนุโมทนา: 151,147
ได้รับอนุโมทนา 4,405,204 ครั้ง ใน 34,077 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

พระอาจารย์กล่าวว่า "การวางผางประทีปครั้งนี้ ถ้าฝนตกตอนเก็บผางให้คว่ำถ้วยลงด้วยนะจ๊ะ คราวที่แล้วเขาเก็บถ้วยไปทั้งที่ยังหงายอยู่ กว่าจะทำความสะอาดได้ก็ลำบาก เพราะยังมีน้ำขังอยู่ การวางผางประทีปเราต้องแนะนำคนใหม่เขาด้วย หลายคนไม่เฉลียวใจ ทำไมคนอื่นวางได้เท่ากันแล้วของเราวางไม่เท่ากัน ลานธรรมมีแผ่นกระเบื้องปูอยู่ จะวางเว้นช่วงกี่แผ่นก็วางไปสิ จะได้พอดี ๆ กัน ข้างทางก็มีเหล็กที่ปิดท่อของเทศบาลเขาอยู่ แผ่นเหล็กแต่ละช่วงก็ห่างกันพอดี ก็วางไปสิ เขาวางเลื้อยเป็นงูได้ทั้ง ๆ ที่มีแนวให้ตรง ๆ ต้องบอกว่าปัญญาน้อยจริง ๆ..!

ชอบใจสมัยที่ยังอยู่วัดท่าซุง ลูกศิษย์หลวงพ่อวัดท่าซุงท่านไม่ต้องให้บอก ไม่ต้องขอให้ช่วย ถึงเวลาก็วิ่งช่วยทำเอง แล้วก็ทำได้ไม่พลาดด้วย ต้องบอกว่ารุ่นนั้นเป็นรุ่นหัวกะทิ รุ่นของเราเป็นหางนม ไม่ใช่หางกะทิ เวลาเขาทำเนยจะมีการล้างไปเรื่อย ๆ หางนมนี่แทบจะเป็นน้ำเปล่าแล้ว..!"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 26-08-2013 เมื่อ 15:12
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 185 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #108  
เก่า 26-08-2013, 14:27
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,488
ได้ให้อนุโมทนา: 151,147
ได้รับอนุโมทนา 4,405,204 ครั้ง ใน 34,077 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

พระอาจารย์กล่าวว่า "กินอาหารฝรั่งแล้วรู้สึกว่าเขากินเพื่ออยู่กันจริง ๆ เรื่องจะเอาให้อร่อยนี่ยาก เขาต้องการรสชาติอาหารแท้ ๆ แต่บ้านเราเอาเครื่องปรุงประดังลงไป ไปยุโรปมัคคุเทศก์ของเราเขาเตรียมพริก มะนาว น้ำพริกนรก และพวกเครื่องปรุงอื่น ๆ ไปบานเลย"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 26-08-2013 เมื่อ 15:13
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 181 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #109  
เก่า 26-08-2013, 14:29
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,488
ได้ให้อนุโมทนา: 151,147
ได้รับอนุโมทนา 4,405,204 ครั้ง ใน 34,077 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

พระอาจารย์กล่าวว่า "งานวันแม่ ๑๒ สิงหาคม อาตมาไม่ได้นิมนต์หลวงตาวัชรชัย ไม่ได้นิมนต์หลวงตาชลอ ไม่ได้นิมนต์หลวงพ่อวิรัช เพราะนิมนต์ไปเมื่อวันที่ ๒๑ มิ.ย.ที่ผ่านมา เนื่องจากว่าช่วงนั้นทุกท่านต้องจัดงานที่วัด ในเมื่อท่านไปไม่ได้ก็ต้องนิมนต์ไปงานอื่นแทน

หลวงตาท่านบอกว่า “เดี๋ยวปีหน้าขอข้าอีกปีว่ะ แล้วหลังจากนั้นพี่น้องคนไหนพร้อมก็เตรียมงานได้เลย จะได้แห่กันไปวัดอื่นบ้าง” สรุปว่างานฉลองสมเด็จองค์ปฐม ๒๑ ศอก หลวงตาวัชรชัยไปถึงคนแรกเลย เพิ่งจะ ๖ โมงกว่า ยังไม่ทันจะ ๗ โมงไปถึงแล้ว

ส่วนหลวงตาชลอไปกับพระทั้งวัด พร้อมด้วยลอดช่องหน้าวัดเจษฯ อีก ๘๐ กิโลฯ อย่าคิดว่าเยอะนะ ถ้าคนยังไม่กินก็เห็นว่าเยอะ ซดเข้าไปสักถ้วยมักจะขอถ้วยที่ ๒ ลอดช่องหน้าวัดเจษฯ เขายังทำแบบโบราณอยู่ ประเภทใส่น้ำใบเตย อบเทียน ของโบราณ ๆ เขาทำประณีตมาก"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 26-08-2013 เมื่อ 15:15
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 185 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #110  
เก่า 26-08-2013, 14:32
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,488
ได้ให้อนุโมทนา: 151,147
ได้รับอนุโมทนา 4,405,204 ครั้ง ใน 34,077 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

พระอาจารย์กล่าวว่า "ระยะนี้มีแต่คนมาขอความช่วยเหลือ เขาบอกว่าอาจารย์เล็กรวย ความจริงอาตมาก็มีคล้าย ๆ เขานั่นแหละ แต่ว่าของอาตมาเวลาเขาขอแล้วอาตมาให้ คนอื่นขอแล้วไม่ได้ เมื่อวานมาก็แวะไปร่วมเป็นเจ้าภาพสร้างโรงเรียนการกุศลวัดไตรรัตนารามไปสามแสนบาท ท่านเจ้าคุณอาจารย์พระศรีสุทธิวงศ์ วัดอรุณราชวรารามท่านขอให้ช่วย สรุปว่าบางทีอาตมานั่งรับสังฆทานทั้งเดือนให้เขารายเดียวก็หมดแล้ว"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 26-08-2013 เมื่อ 15:17
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 190 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #111  
เก่า 26-08-2013, 14:36
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,488
ได้ให้อนุโมทนา: 151,147
ได้รับอนุโมทนา 4,405,204 ครั้ง ใน 34,077 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : ลูกสาวนั่งสมาธิแล้วมักจะง่วง ?
ตอบ : เขาเรียกถีนมิทธะ เป็นเรื่องปกติจ้ะ พยายามสู้หน่อย ตั้งสติไว้นิดหนึ่ง ถ้าแก้ไม่หายก็ให้ลูกเขาไปเดินจงกรมแทน แต่อย่าทิ้งการภาวนา บางคนถึงขนาดเดินแล้วยังหลับได้ นั่นเป็นกิเลสหยาบที่พยายามมาขวางเราไม่ให้ทำความดี

ถาม : รู้สึกว่าคล้าย ๆ จะหลุดไปแบบเต็มกำลัง ?
ตอบ : ถ้าเต็มกำลังต้องปล่อยเลย หงายตึงไปได้เลย อย่ามัวแต่กลัวแล้วไปรั้งไว้ ปล่อยให้ล้มไปเลยจ้ะ เราเข้าสมาธิอยู่อำนาจของฌานป้องกันได้ ล้มแค่นั้นไม่เป็นอะไรหรอก อาตมาตกจากหลังคาลงมายังเฉย ๆ เลย ถ้ามีความคล่องตัวแล้วจะก้าวข้ามไปเลย แต่ของเรามัวแต่กลัว อายเขาก็จะดิ้นอยู่นั่นแหละ ต้องยอมหน้าด้าน ทนให้อาละวาดเต็มที่ไปสักทีหนึ่ง ตึงตังโครมครามให้เขาเห็นไป ๓ บ้าน ๘ บ้านเลย พอก้าวข้ามไปได้ต่อไปจิตเรียบก็จะไม่ดิ้นอีก

ความจริงก็ไม่มีอะไรหรอก ที่ดิ้น ๆ ก็คือกายในจะออก แต่เจ้าตัวดันไปกลัวก็เลยรั้งเอาไว้ ยิ่งรั้งก็ยิ่งดิ้น อย่างกับเด็กดื้อ ถ้าตัดใจว่าเป็นอย่างไรก็ช่างมัน ตายเป็นตาย เราไปพระนิพพานดีกว่า เดี๋ยวก็ไปแล้ว แต่ที่พูดว่าตัดใจ ๆ นั้น ตอนพูดยังพูดได้ ตอนเจอเข้าจริง ๆ ตัดใจไม่ได้..เพราะกลัว
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 26-08-2013 เมื่อ 15:20
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 180 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #112  
เก่า 26-08-2013, 14:39
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,488
ได้ให้อนุโมทนา: 151,147
ได้รับอนุโมทนา 4,405,204 ครั้ง ใน 34,077 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

พระอาจารย์กล่าวว่า "ธรรมเนียมคนจีนที่เขาป้อนข้าวศพก่อนใส่โลง อาตมาก็มานั่งคิดว่า พวกที่มาป้อนตอนนี้มีประโยชน์อะไร ? คนตายก็ไม่ได้กินอยู่แล้ว ยิ่งประเทศไทยเราก็มีการเอาข้าวปลาอาหารไปวางไว้หน้าโลง แล้วเคาะโลงก๊อก ๆ เรียกแม่กินข้าว หรือไม่ก็เรียกพ่อกินข้าว ถ้าเป็นอาตมาเดี๋ยวก็มีเสียง “เออ..กูยังไม่หิว”

มีอะไรทำให้ท่านชื่นใจตั้งแต่ตอนเป็น ๆ นี่แหละ แม้ว่าบางอย่างอยู่ในลักษณะของความเห็นไม่ตรงกันก็เถอะ เราต้องเข้าใจว่าขณะที่คนหนึ่งเป็นวัยรุ่น ฮอร์โมนกำลังเกิน คนเป็นพ่อเป็นแม่ก็วัยทอง ฮอร์โมนขาดพอดี ไปกันได้ก็เก่งมากแล้ว"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 26-08-2013 เมื่อ 23:41
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 183 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #113  
เก่า 27-08-2013, 20:10
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,488
ได้ให้อนุโมทนา: 151,147
ได้รับอนุโมทนา 4,405,204 ครั้ง ใน 34,077 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : ตอนไปปฏิบัติที่วัดได้ผลดี แต่มาทำที่บ้านแล้วไม่ได้อย่างนั้น ?
ตอบ : ธรรมดา..เพราะกระแสคนละอย่างกัน ในสิ่งแวดล้อมหนึ่งย่อมต่างกับอีกสิ่งแวดล้อมหนึ่ง พระพุทธเจ้าถึงได้บอกว่า การปฏิบัติต้องมีสถานที่สัปปายะด้วย ก็คือสถานที่ ๆ เหมาะสม จนกว่ากำลังใจเราจะทรงตัวมั่นคงจริง ๆ ถึงจะอยู่ที่ไหนก็ได้

แรก ๆ ก็หาที่ ๆ สงบ เหมาะสมกับเราหน่อยแล้วก็ทำ อยู่ที่วัดมีเสียงสวดมนต์ แหม..น่านั่งสมาธิ อยู่บ้านมีแต่เสียงด่า จะไปชวนนั่งสมาธิอย่างไร ?
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 28-08-2013 เมื่อ 02:49
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 161 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #114  
เก่า 27-08-2013, 20:20
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,488
ได้ให้อนุโมทนา: 151,147
ได้รับอนุโมทนา 4,405,204 ครั้ง ใน 34,077 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

พระอาจารย์กล่าวว่า "มีแต่คนบอกว่าหลวงพ่อวัดท่ามะขามทำบุญมาดี เลยได้อาจารย์เล็กเป็นลูกศิษย์ ความจริงไม่ใช่หรอก ต้องบอกว่าท่านทำบุญมาดีด้วยตัวท่านเอง เพราะว่าระยะหลังสุขภาพท่านก็ไม่ดี ผ่าตัดบายพาสเส้นเลือดหัวใจตั้ง ๓ เส้น อายุท่านก็มากกว่าอดีตเจ้าคณะจังหวัดปีหนึ่ง ใคร ๆ ก็ว่าตายก่อนแน่ ไม่มีทางได้เป็นเจ้าคณะจังหวัดหรอก ปรากฏว่าหลวงพ่อพระธรรมคุณาภรณ์ไปอินเดีย ล้มตึงมรณภาพ ท่านก็มาเลื่่อนเป็นเจ้าคณะจังหวัดจนได้ เป็นจนกระทั่งเกษียณ อยู่มาจนกระทั่ง ๘๔ ปี ทั้ง ๆ ที่ผ่าตัดเส้นเลือดหัวใจไป ๓ เส้นแล้ว

ถึงเวลาเจ้านายอยากให้เลื่อนเป็นพระเทพเมธากรก็สั่งมา ลูกน้องทำประวัติกันแทบตายเพราะไม่ได้เตรียมเอาไว้เลย ไม่นึกว่าเขาจะให้ ท่านก็ได้ของท่านจนได้ แล้วได้แบบอัศจรรย์ คือในหลวงพระราชทาน
ทั้ง ๆ ที่ในหลวงให้สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ ไปพระราชทานแทน แต่สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ ไปรออยู่ในโบสถ์วัดพระแก้ว ที่พระราชทานจริง ๆ ต้องเป็นพระที่นั่งอมรินทรวินิจฉัย ในหลวงท่านมา เจ้าพนักงานขานชื่อ ก็ทรงพระราชทานไปเรื่อยไปถึงท่านรับเป็นรูปสุดท้าย สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ เสด็จมาถึงพอดี ในหลวงก็หยุดให้สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชพระราชทานต่อ ตกลงว่าท่านรับจากพระหัตถ์ในหลวงเป็นรูปสุดท้าย อย่างนี้ไม่ใช่บุญของอาตมาหรอก เป็นบุญของท่านเองแท้ ๆ

ท่านมีนิสัยว่าจะไปไหนต้องสวดมนต์ไหว้พระก่อน ถ้าจะออกกิจนิมนต์กันตี ๔ - ๕ ท่านก็ต้องลุกมาสวดมนต์ตั้งแต่ตี ๓ สวดมนต์ไม่เสร็จไม่ไป หลวงพ่อวัดท่าซุงท่านบอกกับหลวงพ่อวัดท่ามะขามไว้เลยว่า ไปงานวัดท่าซุงได้ทุกงาน ไม่ต้องรอฎีกา ท่านก็ไปคู่กับหลวงพ่อวัดเขื่อนฯ ต้องบอกว่าความดีที่ท่านทำส่งผลให้ ท่านบอกว่าในชีวิตก็ไม่ได้คิดว่าจะขึ้นมาจนถึงระดับนี้"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 28-08-2013 เมื่อ 02:53
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 175 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #115  
เก่า 27-08-2013, 20:22
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,488
ได้ให้อนุโมทนา: 151,147
ได้รับอนุโมทนา 4,405,204 ครั้ง ใน 34,077 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

พระอาจารย์กล่าวว่า "อะไรที่ครูบาอาจารย์พูดนั้นพอดีอยู่แล้ว อย่าพยายามอวดฉลาดไปขยายความให้มากขึ้น"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 28-08-2013 เมื่อ 02:58
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 174 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #116  
เก่า 27-08-2013, 20:24
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,488
ได้ให้อนุโมทนา: 151,147
ได้รับอนุโมทนา 4,405,204 ครั้ง ใน 34,077 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

พระอาจารย์กล่าวว่า "ส่วนใหญ่แล้วพวกเราระยะหลังบารมีบกพร่องมาก โดยเฉพาะเรื่องของสัจจะ ความจริงจังจริงใจในการปฏิบัติมีน้อย ไปดูรุ่นพ่อแม่ ปู่ย่าตาทวด แม้แต่กระทั่งเป็นเสือเป็นสาง เป็นโจรก็ประเภทหนังเหนียว มีฤทธิ์มีปาฏิหาริย์กัน เพราะว่าเขาทำกันจริง ๆ จัง ๆ พอมารุ่นเราสัจจะบารมีไม่มั่นคง ขันติบารมี (ความอดทน) ไม่เพียงพอ วิริยบารมี (ความเพียร) ไม่ถึง เจ๊งเลย

ถ้าใครคิดว่าจะปฏิบัติให้ก้าวหน้าก็เร่ง ๓ ตัวนี้ให้เยอะ ๆ วิริยบารมีถ้าเร่งขึ้นมาก็ต้องมีขันติบารมีหนุนเสริม ต้องมีสัจจะบารมี ต้องมีอธิษฐานปักใจแน่วแน่ต่อเป้าหมาย ไม่ได้ไม่เลิก"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 28-08-2013 เมื่อ 02:55
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 172 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #117  
เก่า 27-08-2013, 20:28
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,488
ได้ให้อนุโมทนา: 151,147
ได้รับอนุโมทนา 4,405,204 ครั้ง ใน 34,077 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

พระอาจารย์กล่าวว่า "บาลีเขาบอกว่าเด็กมีเสียงร้องไห้เป็นกำลัง สตรีมีน้ำตาเป็นกำลัง สมณชีพราหมณ์มีศีลเป็นกำลัง คราวนี้เมื่อเป็นอย่างนั้นก็ต้องดูว่าเรามั่นคงเข้มแข็งพอไหม ? ถ้าไม่หวั่นไหวก็ไม่มีปัญหา ถ้ายังหวั่นไหวอยู่นี่เสร็จเขาแน่

ท่านบอกว่า พะลังจันโท พะลังสุริโย พะลังสมณะพราหมณา พะลังเวลาสมุทัสสะ พลาติพะละมิตถิโย ไม่ว่าจะกำลังของพระจันทร์ พระอาทิตย์ กำลังของมหาสมุทร หรือว่ากำลังของสมณชีพราหมณ์ก็ตาม ถ้านับแล้วสตรีมีกำลังมากที่สุด

พระพุทธเจ้าตรัสอะไรไม่ผิดหรอก ๓๘ พรรษายังสึกไปแล้ว เวลาท่านยังเป็นพระอยู่ อาตมาไปสนทนาธรรมด้วย ท่านพูดภาษาไทยไม่ชัดก็น่ารักดี ตอนที่มาออกคลิปพูดภาษาไทยไม่ชัดนี่มีแต่คนด่า ท่านบอกว่าคงจะเป็นเนื้อคู่กันมาแต่ปางก่อน พอเห็นก็รักเลย ต้องบอกว่าพระบวชมาระดับนั้น ฝึกปฏิบัติมาระดับนั้น กำลังยังก้าวล่วงไม่ได้ ถึงเวลาไปชนเข้าก็เสร็จ ฉะนั้น..เราจะประมาทไม่ได้เลย

อย่างเรื่องชอลิ้วเฮียงที่มี "สามีคันชั่ง ภรรยาลูกตุ้ม" ชั่งจีนเขาจะมีลูกตุ้มอยู่ ผัวแกผอมเป็นตะเกียบ เมียอ้วนเป็นกระพ้อม เขาก็เลยได้ฉายาสามีคันชั่ง ภรรยาลูกตุ้ม ผัวบอกเมียว่าผู้ชายอายุตั้งแต่ ๘ ขวบถึง ๘๐ ก็ไว้ใจไม่ได้ เมียเขาจับตัวพระเอกได้ โดนพระเอกหลอกไปเรื่อย ท้ายสุดใจอ่อนยอมให้กินเหล้า ปรากฏว่าพระเอกหลอกกินเฉย ๆ แล้วพ่นออกมาคลายจุดตัวเอง เพราะฉะนั้น..ผู้ชายอายุ ๘ ขวบถึง ๘๐ นี่ไว้ใจไม่ได้ทั้งนั้น"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 28-08-2013 เมื่อ 02:57
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 159 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #118  
เก่า 28-08-2013, 08:28
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,488
ได้ให้อนุโมทนา: 151,147
ได้รับอนุโมทนา 4,405,204 ครั้ง ใน 34,077 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

พระอาจารย์กล่าวว่า "อาตมามีนิสัยไม่ชอบรบกวนคนรวย ถ้ารบกวนคนรวยคงกลายเป็นเณรคำไปตั้งแต่แรกแล้ว เรื่องของโลกธรรมเข้ามา ผู้ที่ไม่หวั่นไหวได้กำลังใจต้องหนักแน่นกว่าหินผาเสียอีก

พระพุทธเจ้าท่านตรัสว่า “ภูเขาศิลาล้วน เป็นแท่งทึบ ย่อมไม่หวั่นไหวเพราะสายลมฉันใด บัณฑิตที่ฝึกตนดีแล้ว ย่อมไม่หวั่นไหวต่อโลกธรรมฉันนั้น” คราวนี้เราจะไปรู้ได้อย่างไรว่าตนเองฝึกตนดีแล้วหรือเปล่า ฉะนั้น..จึงประมาทไม่ได้ ต้องคอยระวังไว้ตลอดเวลา

โยมจะถวายรถราคาแพง ๆ อาตมาก็ต่อรองจนราคาถูก แถมมีกติกาด้วยนะ ต้องเอาไปซ่อมให้ด้วย เอาไปต่อทะเบียนให้ด้วย ยังดีที่ไม่ให้ขับให้ด้วย"


ถาม : นักบวชใช้กระเป๋าแบรนด์แนมแพง ๆ ผิดไหมคะ ?
ตอบ : ไม่ผิดหรอก แต่ไม่เหมาะสม อาตมาไปเดินดูในร้านหลุยส์ วิตตองมาแล้ว ไม่เห็นมีถูกตาสักใบ เขาใช้ไปได้อย่างไรกัน ดูลักษณะอย่างไรก็ไม่ใช่ของที่พระใช้ได้ ท้ายสุดก็เลยไปซื้อยี่ห้อ "คีบลิง" เพราะว่าเป็นสี่เหลี่ยมสีน้ำตาลซึ่งพระใช้ได้ ถึงขนาดนั้นยังเจอไปตั้ง ๖๗ ยูโร

เข้าไปซื้อของเพื่อให้รู้ว่าเราพูดได้ เราต่อรองได้ ทดสอบตัวเองแค่นั้นแหละ อยากจะลองจ่ายเงินบ้าง แต่ก็อย่างว่านั่นแหละ ไปยุโรปทั้งทำบุญ ทั้งไล่แจกพวกเจ้ากรรมนายเวร ทั้งซื้อของ ตอนไปมี ๒,๑๗๘ ยูโร ขากลับเหลือ ๒,๔๐๐ กว่ายูโร มาอย่างไรก็ไม่รู้ รู้อย่างนี้ใช้ให้เยอะกว่านั้นก็ดี

ถึงเวลาพวกองค์กรการกุศลก็ดี พวกแหกตาหากินก็ดี มาถึงก็ให้เซ็นชื่อบริจาคเท่านั้นเท่านี้ อาตมาเซ็นกระจาย คุณโอ๋ มัคคุเทศก์เขาก็บอก “หลวงพ่ออย่าไปเซ็นครับ เขาหากิน” อาตมาบอกว่า “ตั้งใจให้เขา” ติดหนี้เขามาก่อน กลัวอยู่อย่างเดียวแหละ กลัวโดนล้วงกระเป๋า ถ้ามัวแต่เผลอเซ็น ไม่ระวังกระเป๋าก็เสร็จ
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 28-08-2013 เมื่อ 10:08
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 149 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #119  
เก่า 28-08-2013, 08:31
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,488
ได้ให้อนุโมทนา: 151,147
ได้รับอนุโมทนา 4,405,204 ครั้ง ใน 34,077 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : พระมีเครื่องบินเจ็ตส่วนตัวได้ไหม ?
ตอบ : ถามว่ามีได้ไหม ? ตอบว่าได้ แต่สมควรกับฐานะไหม ? พระพุทธเจ้าจัดฐานะของพระไว้เท่ากับขอทาน ต้องไปขอเขากิน คนอื่นเขาช่วยสงเคราะห์ให้ ถ้าขอทานขี่เครื่องบินเจ็ตแล้วไปขอใครเขาจะให้ ?

ถาม : แล้วโยมเขาถวายให้ละคะ ?
ตอบ : ได้...แต่สมควรไหม ? ถ้าไม่สมควรก็ปฏิเสธได้นี่ มีโยมเขาจะถวายรถเล็กซัส อาตมาขอเปลี่ยนเป็นฟอร์จูนเนอร์ ราคาถูกกว่ากันตั้งหลายเท่า
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 28-08-2013 เมื่อ 10:09
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 152 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #120  
เก่า 28-08-2013, 08:36
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,488
ได้ให้อนุโมทนา: 151,147
ได้รับอนุโมทนา 4,405,204 ครั้ง ใน 34,077 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

พระอาจารย์กล่าวว่า "ส่วนใหญ่แล้วถ้าตรงกับวันอาสาฬหบูชา มาฆบูชา วิสาขบูชา ออกพรรษา เขาทำบุญกัน พระยายมท่านจะปล่อยผีมาให้โมทนาบุญ ได้บุญแล้วจะได้ไปให้พ้น ไม่ต้องเสียเวลาให้ท่านตัดสิน เป็นวิธีลดงานประเภทหนึ่ง มีปีละ ๓ ครั้ง ครั้งละ ๓ วันเท่านั้น

พวกผีก็ตระเวนหา ญาติของตัวเองอยู่ที่ไหน ถ้าวัดไหนประเภท “เป็นญาติก็ดี มิใช่ญาติก็ดี” พวกเขาจะล้อมวัดเลย ถ้าวัดไหนให้ “อิทังเม ญาตินัง โหนตุ” ก็ยืนน้ำตาเล็ดไป เพราะถ้าไม่ใช่ญาติก็ไม่ได้ อิทังเม ญาตินัง โหตุ ขอผลทานนี้จงสำเร็จแก่ญาติของข้าพเจ้าทั้งหลาย สุขิตา โหตุ ญาตโย ขอความสุขพึงถึงแก่ญาติของข้าพเจ้าทั้งหลาย

บางคนก็ใช้ ญาตัง เย ปัตติทานัม เม อนุโมทันตุ เต สะยัง ทานอันข้าพเจ้ากระทำไว้ดีแล้ว ขอญาติทั้งหลายจงอนุโมทนาด้วยเทอญ คนไม่ใช่ญาติก็อดไป

ฉะนั้น..ใช้ภาษาไทยง่าย ๆ “ผลบุญที่เราทำแล้วตั้งแต่ต้นจนบัดนี้ รวมทั้งผลบุญที่ข้าพเจ้าได้ทำในครั้งนี้ ขออุทิศให้แก่ผู้ที่ล่วงลับไปแล้ว จะใช่ญาติก็ดี ไม่ใช่ญาติก็ดี เสวยสุขอยู่ก็ดี เสวยทุกข์อยู่ก็ดี ขอให้เธอทั้งหลายจงโมทนา เราจะได้รับประโยชน์ความสุขเท่าใด ขอให้เธอทั้งหลายจงได้รับด้วย” แค่นั้นแหละ ภาษาไทยชัดดี มัวแต่ไป "อิมินา ปุญญะกัมเมนะ" ก็เจ๊งพอดี

ให้กำลังใจเราตั้งตรงเลย ถ้าปากพูดเรื่อยเปื่อยพวกกำลังน้อยจะรับไม่ได้ เราต้องตั้งใจโยนให้ถึงด้วย ประเภทเหวี่ยงส่งเดชเป็นโปรยทานก่อนเข้าโบสถ์ อาตมาบอกพวกนาคโปรยทานหลายทีแล้ว อย่าไปโปรย ขว้างใส่หน้าไปเลย..!"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 10-10-2013 เมื่อ 18:51
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 149 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
ตอบ


ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 1 คน ( เป็นสมาชิก 0 คน และ บุคคลทั่วไป 1 คน )
 

กฎการส่งข้อความ
You may not post new threads
You may not post replies
You may not post attachments
You may not edit your posts

BB code is ใช้ได้
Smilies are ใช้ได้
[IMG] code is ใช้ได้
HTML code is งดใช้

Forum Jump


เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 06:08



ค้นหาในเว็บวัดท่าขนุน

เว็บวัดท่าขนุน Powered by vBulletin
Copyright © 2000-2010 Jelsoft Enterprises Limited.
ความคิดเห็นส่วนตัวทุก ๆ ข้อความในเว็บบอร์ดนี้ สงวนสิทธิ์เฉพาะเจ้าของข้อความ ไม่อนุญาตให้คัดลอกออกไปเผยแพร่ นอกจากจะได้รับคำอนุญาตจากเจ้าของข้อความอย่างชัดเจนดีแล้ว