กระดานสนทนาวัดท่าขนุน


กลับไป   กระดานสนทนาวัดท่าขนุน > ห้องธรรมะพระอาจารย์ > เก็บตกจากบ้านวิริยบารมี

Notices

เก็บตกจากบ้านวิริยบารมี เก็บข้อธรรมจากบ้านวิริยบารมีมาฝาก สำหรับผู้ที่ไม่มีโอกาสเดินทางไป

ตอบ
 
คำสั่งเพิ่มเติม
  #101  
เก่า 05-03-2013, 20:00
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,508
ได้ให้อนุโมทนา: 151,366
ได้รับอนุโมทนา 4,405,936 ครั้ง ใน 34,096 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : เราจะรู้ได้อย่างไรว่าเราเข้าถึงไตรสรณคมน์แล้ว ?
ตอบ : ถ้ากำลังใจของเรายึดพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ ไม่เปลี่ยนแปลงเป็นอื่นก็ใช่ กำลังใจขึ้นลงอาจจะมีบ้าง แต่ไม่เปลี่ยนเป้าหมาย เพราะว่าการขึ้นลงนี่เป็นไปตามกำลังใจช่วงนั้น แต่ไม่เปลี่ยนเป้าหมาย อย่างไรชีวิตนี้ยึดพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์เป็นที่พึ่งแน่นอน

ถาม : จะทดสอบได้อย่างไรครับ ?
ตอบ : ถ้าจะทดสอบก็ต้องทดสอบแบบสุปปพุทธกุฏฐิ ที่พระอินทร์มาทดสอบกำลังใจ โดยให้พูดว่าพระพุทธไม่ใช่พระพุทธ พระธรรมไม่ใช่พระธรรม พระสงฆ์ไม่ใช่พระสงฆ์ เป็นตายแกก็ไม่ยอมพูด เพราะให้พูดอย่างนั้นก็แปลว่าไม่ใช่ยึดพระรัตนตรัยเป็นที่พึ่ง
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 06-03-2013 เมื่อ 03:47
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 218 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #102  
เก่า 05-03-2013, 20:01
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,508
ได้ให้อนุโมทนา: 151,366
ได้รับอนุโมทนา 4,405,936 ครั้ง ใน 34,096 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : เวลากลางวัน ใจสงบมองท้องฟ้าแล้วระยิบระยับเหมือนเคลื่อนไปเคลื่อนมา เป็นเพราะดวงจิตหรือเปล่าครับ ?
ตอบ : บางทีก็เป็นเรื่องของอานุภาพพลังงาน ถ้าชัด ๆ บางทีก็เห็นเป็นบวกเป็นลบเลย
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 06-03-2013 เมื่อ 03:47
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 215 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #103  
เก่า 05-03-2013, 20:11
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,508
ได้ให้อนุโมทนา: 151,366
ได้รับอนุโมทนา 4,405,936 ครั้ง ใน 34,096 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

พระอาจารย์กล่าวว่า "คำว่า "แก้ว" โบราณเขาหมายถึงของดีที่สุด เขาถึงเรียกว่าแก้ว อย่างประเภทลูกแก้ว เมียแก้ว ช้างแก้ว ม้าแก้ว ของดีที่สุดของประเภทนั้นทั้งนั้น ขึ้นชื่อว่าแก้วแล้วก็ถือว่าดีที่สุด ขนาดพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ยังเรียกแก้ว ๓ ดวง

เราเองพิจารณาถึงลูกแก้ว ให้นึกถึงพระรัตนตรัยไว้ก่อน หลวงปู่เจ้าคุณนรฯ ท่านออกแบบตราประจำองค์ของท่านเป็นเพชร ๓ ดวงก็คือพระรัตนตรัย"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 06-03-2013 เมื่อ 03:48
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 227 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #104  
เก่า 05-03-2013, 20:13
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,508
ได้ให้อนุโมทนา: 151,366
ได้รับอนุโมทนา 4,405,936 ครั้ง ใน 34,096 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : อย่างคนขายเนื้อที่ต้องฆ่าสัตว์ คนเหล่านั้นจะไปพระนิพพานไม่ได้จริงหรือเปล่า ?
ตอบ : ตอนที่ไปนิพพานเขาไม่ได้ฆ่านี่ ถ้าสามารถตัดกำลังใจช่วงนั้นได้ก็ไปได้ แบบเดียวกับตัมพทาฐิกโจร ไม่รู้ฟันหัวคนมาตั้งกี่ร้อยกี่พัน เฉพาะครั้งแรกก็จัดการพวกตัวเองไปตั้งหลายร้อยแล้ว

พระสารีบุตรบอกว่า “เป็นการทำด้วยความต้องการของเธอเอง หรือทำตามที่พระราชาสั่ง ?” ตัมพทาฐิกโจรก็บอกว่า ทำตามพระราชาสั่งเพราะว่าตัวเองเป็นเพชฌฆาต รับเงินเดือนหลวง พระสารีบุตรก็เลยถามว่า “ถ้าอย่างนั้นบาปจะตกอยู่กับใคร ?” ท่านคิดไม่ทัน ก็คิดว่าบาปเป็นของพระราชา เราไม่บาป พอกำลังใจคลายออก ตั้งใจฟังธรรมกลายเป็นพระโสดาบันเลย ตอนที่เขาฆ่าก็คือฆ่า แต่หลังจากนั้นไม่ได้ฆ่าทั้งวัน


ถาม : ต้องเป็นโอกาสที่ได้รับธรรมช่วงนั้น ?
ตอบ : ต้องมีบุญเก่ามาสนับสนุน ถ้าไม่มีบุญเก่ามาสนับสนุนก็ไปไม่รอดหรอก
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 06-03-2013 เมื่อ 03:49
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 211 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #105  
เก่า 05-03-2013, 20:19
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,508
ได้ให้อนุโมทนา: 151,366
ได้รับอนุโมทนา 4,405,936 ครั้ง ใน 34,096 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : กรณีพวกนักการเมืองในปัจจุบัน เป็นลักษณะที่พูดไม่หมด จะเข้าข่ายการโกหกไหมครับ ?
ตอบ : ได้...ตัวเขารู้อยู่แล้วว่าเขาพูดไม่หมด แล้วเขาหวังประโยชน์กับตัวเอง การโกหกที่ชัดที่สุดก็คือหลอกคนอื่นแล้วเอาประโยชน์เข้าตัว อย่างโฆษณาในปัจจุบันนี้แหละ เขาไม่ได้หลอก แต่เขาบอกเราไม่หมด เขาบอกแค่ในสิ่งที่เขาอยากให้เรารู้ เขาไม่ได้บอกในสิ่งที่เราอยากจะรู้
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 06-03-2013 เมื่อ 03:50
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 214 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #106  
เก่า 06-03-2013, 10:22
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,508
ได้ให้อนุโมทนา: 151,366
ได้รับอนุโมทนา 4,405,936 ครั้ง ใน 34,096 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : ทำไมสมเด็จพระจอมเกล้า ฯ ถึงสร้างพระไพรีพินาศ ?
ตอบ : ไม่ได้สร้าง แต่พระองค์ท่านได้มา พอได้มาแล้วพวกที่ทำตัวเป็นศัตรู ก็มีอันเป็นไปทีละคนสองคน พระองค์ท่านจึงพระราชทานพระนามว่าพระไพรีพินาศ

วัดท่าขนุนกำลังจะออกพระไพรีพินาศ ปีนี้ครบ ๑๐๐ ปีสมเด็จพระสังฆราช ท่านมีชาติภูมิเป็นคนกาญจนบุรี วัดต่าง ๆ ของกาญจนบุรีจึงมีโครงการเฉลิมพระเกียรติถวายสมเด็จพระสังฆราช วัดท่าขนุนก็ร่วมสร้างสมเด็จองค์ปฐม ๒๑ ศอก ถวายเป็นพระราชกุศลด้วย และได้ขออนุญาตสร้างพระไพรีพินาศ ตอนนี้กำลังให้เขาเอาพระไปถอดแบบอยู่ ทำองค์เล็ก ๆ จะได้แขวนคอได้ ถ้าไพรีไม่พินาศ เราก็พินาศไปเอง หมดเรื่องหมดราว จะได้ไม่ต้องไปยุ่งกับใคร
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 06-03-2013 เมื่อ 17:58
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 220 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #107  
เก่า 06-03-2013, 10:25
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,508
ได้ให้อนุโมทนา: 151,366
ได้รับอนุโมทนา 4,405,936 ครั้ง ใน 34,096 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : รู้สึกว่าเราไม่ค่อยสบายใจ เราควรทำอย่างไร ?
ตอบ : ถ้าไม่มีใจเราก็จะได้สบาย แต่ถ้ามีใจเราก็ไม่สบาย..! ถ้ากรรมเข้ามา วิธีบรรเทาก็คือสร้าง ทาน ศีล ภาวนาเอาไว้ โดยเฉพาะเรื่องของภาวนา จะตัดกรรมใหญ่ได้ดีมาก ๆ แล้วการภาวนาจะทำให้จิตใจเราผ่องใสขึ้นด้วย นี่แสดงว่าเราทิ้งการภาวนาแล้วไปนั่งฟุ้งซ่านแทน
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 06-03-2013 เมื่อ 17:59
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 215 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #108  
เก่า 06-03-2013, 10:27
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,508
ได้ให้อนุโมทนา: 151,366
ได้รับอนุโมทนา 4,405,936 ครั้ง ใน 34,096 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : คนที่มีความคิดเป็นมิจฉาทิฐิ ต้องทำอย่างไร ?
ตอบ : มิจฉาทิฐิคือเห็นผิดจากที่พระพุทธเจ้าสอน พระพุทธเจ้าบอกว่าโลกนี้มีทุกข์ เขาก็บอกว่าสุข ท่านบอกว่าร่างกายไม่ใช่เรา ไม่ใช่ของเรา เขาก็ยึดว่าใช่ เรียกว่าเป็นมิจฉาทิฐิ พูดง่าย ๆ คือเห็นตรงกันข้ามกับพระพุทธเจ้า

ถาม : อย่างนี้ต้องขอขมาพระพุทธเจ้าทุกวันไหมคะ ?
ตอบ : ควรจะขอขมาทุกวัน เพราะว่าถึงเราจะไม่ได้ทำผิดด้านนี้ เราก็อาจจะทำผิดด้านอื่น
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 06-03-2013 เมื่อ 17:59
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 213 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #109  
เก่า 06-03-2013, 10:39
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,508
ได้ให้อนุโมทนา: 151,366
ได้รับอนุโมทนา 4,405,936 ครั้ง ใน 34,096 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : ตกลงคนที่เป็นมิจฉาทิฐิ เราจะคุยทำอย่างไร ?
ตอบ : ให้เขาไปเริ่มต้นให้ถูกใหม่ ประเภทเริ่มต้นผิด เดินคนละทางแล้วจะไปคุยอะไรกัน หันหลังให้กันแล้วต่างคนต่างไป ก็ไกลออกไปเรื่อย ๆ

ถาม : เมตตาให้ท่านจัดการ ?
ตอบ : ไม่ใช่หน้าที่ของอาตมา พระไม่ได้มีหน้าที่ไปดึงใครให้พ้นนรก ถ้าเขาอยากลงก็ปล่อยให้เขาลงไป ถ้าอยากขึ้นมาก็ตะกายเอาเอง..!
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 06-03-2013 เมื่อ 18:00
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 212 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #110  
เก่า 06-03-2013, 10:43
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,508
ได้ให้อนุโมทนา: 151,366
ได้รับอนุโมทนา 4,405,936 ครั้ง ใน 34,096 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : รู้สึกว่าตัวเองมีร่างกายที่หนัก ?
ตอบ : รู้สึกได้ถูกต้องเลย

ถาม : แล้วหนูรู้สึกทุกข์ค่ะ ตื่นเช้าขึ้นมาต้องแปรงฟัน ล้างหน้า ทำความสะอาดร่างกาย เหนื่อยที่ต้องดูแล
ตอบ : บอกไปเลยว่า ฉันจะดูแลแกชาตินี้ชาติเดียว ตายเมื่อไร ลาก่อน ฉันไม่เอาอีกแล้ว

ถาม : หนูก็ออกจากงานมา มานั่งกินนอนกินเฉย ๆ
ตอบ : แล้วหายเหนื่อยไหมเล่า ?

ถาม : อุตส่าห์นั่งกินนอนกิน ก็ยังปวดหัว เวียนหัว
ตอบ : กลับไปทำงานใหม่

ถาม : กลับไปทำงานก็ทุกข์อีกนะคะ
ตอบ : แล้วนอนอยู่เราทุกข์ไหมเล่า ?

ถาม : ทุกข์ค่ะ
ตอบ : โง่ตายชักอีกคนแล้ว ตราบใดที่เรายังมีร่างกายนี้อยู่เราต้องบริหารร่างกาย เราต้องบริหารหมู่คณะ เราทำหน้าที่ของเราให้ดีที่สุด แต่ให้ตั้งใจไว้ว่าถ้าร่างกายนี้ตายเมื่อไร เราไม่ขอคบมันอีกแล้ว

ไปสมัครงานใหม่...ทุกข์เขามีเอาไว้ให้เห็น ไม่ได้มีไว้ให้แบก เมื่อเห็นทุกข์ก็วางลง แล้วก้าวข้ามไป การที่เราจะก้าวข้ามความทุกข์ไปได้ จะต้องเห็นความเป็นจริง คือเห็นให้ชัดว่าร่างกายนี้ไม่มีอะไรเป็นเราเป็นของเรา ตราบใดที่อยู่กับร่างกายเราก็แต่ความทุกข์ เพราะฉะนั้น..เราไม่ปรารถนาในร่างกายนี้อีกแล้ว ตายเมื่อไรก็จบกันแค่นี้..!
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 06-03-2013 เมื่อ 18:02
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 210 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #111  
เก่า 06-03-2013, 10:50
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,508
ได้ให้อนุโมทนา: 151,366
ได้รับอนุโมทนา 4,405,936 ครั้ง ใน 34,096 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : เงินเดือนล่าสุดประมาณแปดหมื่นบาทค่ะ แต่หนูก็ออกมา
ตอบ : จะเยอะหรือจะน้อยก็ตาม ก็ให้ได้ทำไว้ก่อน เกิดมาชาติหนึ่งต้องทำประโยชน์ให้มากที่สุดเท่าที่จะมากได้ ถึงเวลาก็จากไปอย่างสง่างามที่สุด อยู่คนเขาก็เกรงใจ ไปคนเขาก็คิดถึง แต่ตัวเราไม่เอาแล้ว เอาเป็นว่าถ้าได้เกินหมื่นห้า ที่เหลือเอามาแบ่งให้อาตมา..!

ถาม : หนูเกรงว่าถ้าเงินเดือนเยอะ กิเลสจะเยอะตามค่ะ
ตอบ : ก็อย่าให้เยอะสิ แบ่งให้อาตมา ไม่มีเงินแล้วกิเลสจะงอกได้อย่างไร ก็ได้แต่นั่งมอง ตรงนี้พูดเล่นนะ อย่างคุณเขาเรียกว่าเสือกไปคิดให้ทุกข์ เลิกคิดก็เลิกทุกข์
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 06-03-2013 เมื่อ 18:03
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 210 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #112  
เก่า 06-03-2013, 10:58
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,508
ได้ให้อนุโมทนา: 151,366
ได้รับอนุโมทนา 4,405,936 ครั้ง ใน 34,096 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

พระอาจารย์กล่าวว่า "ตราบใดที่คนเรายังเวียนว่ายตายเกิดอยู่ ความเห็นผิด คิดผิด พูดผิด ทำผิด ยังมีอยู่เสมอ เรื่องทั้งหลายเหล่านี้แปลกตรงที่ว่า ถ้าเขาคิดเองไม่ได้ คนอื่นบอกเขาก็ไม่ฟัง ก็เลยอยู่ในลักษณะที่ว่า ต้องปล่อยให้เขาคิดได้ไปเอง

แบบเดียวกับคนกินเหล้า ถ้าเราบอกว่าไม่ดี เขาก็จะหาเหตุผลมาเอาให้ดีให้ได้ ฉะนั้น..ไม่ต้องเสียเวลาไปบอก เหนื่อยเปล่า ปล่อยให้คิดได้เอง ถึงหลายชาติหน่อย
ถ้าปัญญามากขึ้นเดี๋ยวก็คิดได้เอง "
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 06-03-2013 เมื่อ 18:04
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 206 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #113  
เก่า 06-03-2013, 11:00
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,508
ได้ให้อนุโมทนา: 151,366
ได้รับอนุโมทนา 4,405,936 ครั้ง ใน 34,096 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : ต้องทำบุญอะไรคะ ถึงจะได้เจอนักการเมืองที่เราสนิทและพูดคุยกับเขาได้ ?
ตอบ : นักการเมืองคุยกับเราได้ทุกคน แต่ลับหลังเราแล้วเขาจะจำเราได้หรือเปล่า นั่นเป็นอีกเรื่องหนึ่ง

ถาม : ลักษณะแบบสนิท เราช่วยเขาได้ เขาช่วยเราได้ ?
ตอบ : เราก็ต้องทำประโยชน์ให้เขาได้ และประโยชน์ที่จะทำให้เขา เราก็จะเดือดร้อนทุกที คบคนแล้วอย่าไปหวังประโยชน์ ถ้าคบคนแล้วหวังประโยชน์จะลำบาก...เหนื่อย...
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 06-03-2013 เมื่อ 18:05
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 207 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #114  
เก่า 06-03-2013, 11:11
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,508
ได้ให้อนุโมทนา: 151,366
ได้รับอนุโมทนา 4,405,936 ครั้ง ใน 34,096 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

พระอาจารย์กล่าวว่า "การดำรงชีวิตอยู่ในโลก ต้องเจอแต่สิ่งที่ไม่ชอบใจทั้งนั้น ในเมื่อเป็นอย่างนั้น พระพุทธเจ้าถึงมองเห็นว่าโลกนี้เป็นทุกข์ เป็นภัย แต่บุคคลทั่วไปที่ปัญญาไม่ถึง จะมองไม่เห็นตรงจุดนี้

อย่างที่พูดไว้เมื่อวานนี้ว่า เขาตั้งทฤษฎีเก่า ๆ ขึ้นมา แล้วก็จำจนฝังหัวไปแล้วว่า บุคคลที่จะหลุดพ้นได้ต้องทรมานตนเท่านั้น หรือไม่ก็จะต้องเสพสุขให้ล้นเกินจนเบื่อไปเลย แล้วเรื่องทั้งหลายเหล่านี้จนกระทั่งปัจจุบันก็ยังเป็นอย่างนั้นอยู่ ถ้าเราไปที่เมืองฤๅษีเกษของอินเดีย จะเห็นว่า บรรดาพวกนักบวชต่าง ๆ ก็ยังทรมานตนเป็นปกติ

บางคนประเภทเหยียดแขนขึ้นฟ้าข้างเดียว จนกระทั่งติดกันเป็นแท่ง ลดไม่ลงเลย เพราะระยะเวลาเป็นสิบ ๆ ปี ทำอยู่อย่างนั้น ทาตัวด้วยขี้เถ้า ไม่อาบน้ำตลอดระยะเวลาที่บวชมา ยี่สิบ - สามสิบปี หัวเป็นสังกะตัง ใช้หวีไม่ได้เลย แต่เขาเชื่อว่านั่นจะทำให้หลุดพ้น เพราะว่าสภาพจิตจะได้ไม่ยึดหน่วงอยู่กับร่างกาย

แต่กลายเป็นว่ายิ่งยึดหนักขึ้นไปอีก ที่ยิ่งยึดหนักขึ้นเพราะเขาไปเน้นเรื่องร่างกาย เขาไม่ได้เน้นว่าอยู่ที่จิตใจ สภาพโดยแท้จริงแล้วร่างกายของคนและสัตว์อยู่ในลักษณะ 'ใจเป็นนาย กายเป็นบ่าว' พระพุทธเจ้าเห็นความจริงตรงนี้ถึงได้ตรัสว่า

มโนปุพฺพงฺคมา ธมฺมา มโนเสฏฺฐา มโนมยา ธรรมทั้งหลายมีใจเป็นหัวหน้า มีใจสูงสุด สำเร็จได้ด้วยใจ"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 06-03-2013 เมื่อ 18:07
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 211 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #115  
เก่า 06-03-2013, 11:21
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,508
ได้ให้อนุโมทนา: 151,366
ได้รับอนุโมทนา 4,405,936 ครั้ง ใน 34,096 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

พระอาจารย์กล่าวว่า "ตอนนี้ที่วัดก็รื้อศาลาหลังเก่าไปแล้ว ข้าวของเยอะจนไม่รู้จะเอาไปไว้ที่ไหน บอกกับแม่ชีว่า อะไรที่คนอื่นเขาต้องการ วัดอื่นเขาต้องการก็ให้เขาไป เดี๋ยวของเราค่อยหามาใหม่

วันนี้ญาติโยมส่วนใหญ่ไปงานพระราชทานเพลิงศพหลวงปู่ครูบาอ่อนที่พะเยา อีกส่วนหนึ่งก็ไปพระธาตุดอยตุง เวลาคนน้อยรู้สึกว่าสบายดี คนมาก ๆ แล้วเหมือนกับรถไฟ หัวรถจักรพอโดนเกี่ยวพ่วงมาก ๆ เข้า ลากไม่ค่อยจะไหว..เหนื่อย คนน้อย ๆ ค่อยรู้สึกรื่นเริงบันเทิงใจหน่อย ไม่ต้องลากใคร ไม่ต้องแบกใคร ความจริงไม่ได้ลากไม่ได้แบกอะไรหรอก เขากระโดดมาเกาะเอง"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 06-03-2013 เมื่อ 18:08
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 219 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #116  
เก่า 07-03-2013, 20:19
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,508
ได้ให้อนุโมทนา: 151,366
ได้รับอนุโมทนา 4,405,936 ครั้ง ใน 34,096 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : ท่านไม่ไปดอยตุงบ้างหรือคะ ?
ตอบ : จะไปทำไม ?

ถาม : ไปเที่ยว
ตอบ : ไม่มีอารมณ์..อาตมาไปจนเบื่อตั้งแต่ตอนเป็นฆราวาสแล้ว

ถาม : ถ้าหนูอยากไป แต่ไม่มีเวลาไปล่ะคะ ?
ตอบ : เอาใจไป..กายไม่ได้ไปก็ช่างมัน

การระลึกถึงเป็นเรื่องที่สำคัญที่สุด โดยเฉพาะพระบรมธาตุดอยตุง บรรจุพระบรมสารีริกธาตุองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าไว้ ถ้าเราไปกราบไปไหว้จนถึงที่ แปลว่าไปลักษณะเป็นแหล่งท่องเที่ยวเฉย ๆ ไม่ได้ระลึกถึงคุณความดีของพระพุทธเจ้า อย่างนั้นอยู่ที่บ้านนึกถึงยังจะดีกว่า


ความทุกข์เกิดขึ้นตั้งแต่อยาก แม้แต่อยากพ้นทุกข์ก็เป็นความทุกข์ ถ้าเราอยากไปที่ไหนก็แปลว่าเราเริ่มทุกข์แล้ว ดังนั้น..ก็ปล่อยให้เป็นภาวะเฉพาะหน้า ถ้าได้ไปก็ไป ถ้าไม่ได้ไปก็ไม่เป็นไร ต้องวางกำลังใจให้เป็น
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 08-03-2013 เมื่อ 03:25
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 216 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #117  
เก่า 07-03-2013, 20:20
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,508
ได้ให้อนุโมทนา: 151,366
ได้รับอนุโมทนา 4,405,936 ครั้ง ใน 34,096 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : ยิ่งทำงานก็ยิ่งทุกข์ค่ะ
ตอบ : ก็บอกแล้วว่าไม่ทำแล้วทุกข์ไหมเล่า? ก็ยังต้องกิน ยังต้องดื่ม ยังต้องป่วย ยังต้องร้อน ยังต้องหนาวอยู่ดี
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 08-03-2013 เมื่อ 03:25
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 208 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #118  
เก่า 10-03-2013, 20:12
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,508
ได้ให้อนุโมทนา: 151,366
ได้รับอนุโมทนา 4,405,936 ครั้ง ใน 34,096 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : ภาวนาไปด้วย และอ่านหนังสือไปด้วย ?
ตอบ : ค่อย ๆ ซ้อมไป แรก ๆ ยังทำไม่ได้หรอก เพราะว่าถ้ากำลังใจหนักไปข้างใดข้างหนึ่ง ก็จะไม่รับรู้อีกข้างหนึ่ง แต่ถ้าซักซ้อมบ่อย ๆ เดี๋ยวก็สามารถแบ่งความรู้สึกให้เท่ากันได้ สามารถที่จะอ่านหนังสือไปด้วย ภาวนาไปด้วย

ขอยืนยันว่าไม่ใช่เรื่องเหลือบ่ากว่าแรง ทำได้ทุกคน หาเรื่องที่เราชอบแล้วก็อ่าน เพราะถ้าเราเผลอก็จะไหลตามเนื้อเรื่อง จึงต้องรีบดึงกลับ มีของไว้สำหรับทดสอบแบบนี้เห็นความก้าวหน้าชัดเจน

ภาวนาให้ทรงตัวก่อนแล้วค่อยไปอ่าน ทำไป ๆ พอใจไม่ปรุงไม่แต่งแล้วก็หมดสนุก


ถาม : (ไม่ได้ยิน)
ตอบ : ตอนอ่านเราไปจินตนาการตาม พอเราไปจินตนาการตามตัวความรู้สึกทั้งหมดก็ไปปรุงแต่ง เราก็ไหลตามเนื้อเรื่องไป ไม่มีตัวยั้ง แต่ดูหนังภาพเขากำหนดขึ้นมาแทน เราไม่ต้องจินตนาการมาก สักแต่ว่าเห็น จะทำได้ง่ายกว่า
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 11-03-2013 เมื่อ 02:52
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 170 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #119  
เก่า 10-03-2013, 20:21
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,508
ได้ให้อนุโมทนา: 151,366
ได้รับอนุโมทนา 4,405,936 ครั้ง ใน 34,096 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : ......เคลื่อนไปและก็แก่ เห็นชัดแบบนั้น ใช่ที่เขาบอกว่า... ?
ตอบ : ใช่..แต่เป็นแค่เบื้องต้นเท่านั้น ถ้าจะเอาให้มั่นคงกว่านั้นก็ทรงสมาธิให้เป็นฌานไปเลย ถ้าทรงฌานได้จะอยู่กับปัจจุบันได้แน่นอน แต่ก็ยังแน่นอนแค่สมาธิที่ทรงตัวเท่านั้น ต้องประเภทปัญญาเห็นจริงว่าทุกสิ่งทุกอย่างเกิดดับอยู่ทุกขณะ ถ้าแยกอย่างนั้นออกได้ จิตกับกายจะเป็นคนละส่วนกัน ในส่วนของกายก็คือเป็นธรรมชาติ เป็นธรรมดา เป็นสมมติไปอย่างนั้น ในส่วนของจิตก็อยู่กับส่วนที่เป็นธรรม เป็นผู้รู้เฉย ๆ มีหน้าที่เสพเสวยสิ่งต่าง ๆ ด้วยสติและปัญญาที่ประกอบด้วยความระมัดระวังอย่างสูง เรื่องพวกนี้ต้องค่อย ๆ ทำไป พอท้ายสุดก็สักแต่ว่าอยู่ สักแต่ว่ารู้ สักแต่ว่าเห็น

ถาม : เอาเรื่องการพิจารณามาประกอบหรือครับ ?
ตอบ : จำเป็นเลย เพราะถ้าปัญญาไม่ถึง ใจจะไม่ยอมรับ

ถาม : สิ่งที่ผ่านไปแม้ไม่นานก็คืออดีต ?
ตอบ : ใช่...ขยับไปเรื่อย วินาทีนี้ผ่านไปก็กลายเป็นอดีตไปอีกแล้ว

ถาม : ปัจจุบันก็ไม่เที่ยงใช่ไหมครับ.......... ?
ตอบ : การที่เราทำนั้นดีอยู่อย่างก็คือ จิตไม่ปรุงแต่งในเรื่องของรัก โลภ โกรธ หลง เมื่อจิตปรุงแต่งในรัก โลภ โกรธ หลงไม่ได้ ตัวกรรมก็ไม่เกิด ในเมื่อตัวกรรมใหม่ไม่เกิด กรรมเก่าที่ส่งมา เดี๋ยวก็หมด ในเมื่อกรรมเก่าหมด กรรมใหม่ไม่เกิด แรงที่จะดึงให้เราอยู่กับโลกก็ไม่มี เราก็สามารถหาทางหลุดพ้นไปได้

ถาม : พอเรารู้สึกว่าว่าง...?
ตอบ : ก็บอกแล้วว่า เรามีหน้าที่ดูไว้เฉย ๆ รู้ไว้เฉย ๆ

ถาม : พอเรารู้สึกว่าว่าง สักพักก็ตามไม่ทัน ?
ตอบ : เริ่มต้นใหม่ ของอย่างนี้ต้องพยายามครั้งแล้วครั้งเล่า แรก ๆ ก็เหมือนกับหัดเด็กตั้งไข่ หกล้มหกลุกไปเรื่อย จึงจะต้องพยายาม เดี๋ยวก็ยืนได้ เดินได้เอง

ถาม : (ไม่ได้ยิน)
ตอบ : ถ้าสมาธิไม่มี โอกาสที่สิ่งที่เราทำจะทรงตัวมันยากสุด ๆ ต้องบอกว่าแทบไม่มีโอกาสเลย ไปซ้อมเข้า พอรู้ว่าทางไหนที่ดีกับเราก็รีบทำ

ถาม : (ไม่ได้ยิน)
ตอบ : พยายามอยู่กับปัจจุบันเรื่อย ๆ เพราะว่าไปอดีตก็ฟุ้งซ่าน ไปอนาคตก็ฟุ้งซ่าน อดีตผ่านมาแล้วแก้ไขอะไรไม่ได้ อนาคตยังมาไม่ถึง หาความจริงไม่ได้เหมือนกัน จะทำให้ได้ต้องตอนนี้..เดี๋ยวนี้..ปัจจุบันนี้
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 11-03-2013 เมื่อ 02:47
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 168 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #120  
เก่า 10-03-2013, 20:24
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,508
ได้ให้อนุโมทนา: 151,366
ได้รับอนุโมทนา 4,405,936 ครั้ง ใน 34,096 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : ความว่าง ?
ตอบ : สมาธิที่ทรงตัวทำให้รัก โลภ โกรธ หลงถอยไปชั่วคราวก็ว่างได้ อากาสกสิณก็ว่างได้ อรูปฌานก็ว่างได้ ตัวว่างที่ว่างจริง ๆ คือการปล่อยวางจากรัก โลภ โกรธ หลง ทั้งปวง ถ้าหากเข้าถึงตรงนั้นจะเหลือแต่ธรรมะแท้ ๆ ล้วน ๆ บางทีแม้กระทั่งสภาพจิตที่เป็นผู้รู้เรายังไม่เอาเลย สักแต่ว่ารู้อยู่เฉพาะหน้า ก็เลยไม่มีอะไรที่จะปรุงแต่ง ถ้าอย่างนั้นจะว่างจริง ๆ ต้องดูว่าของเรานั้นว่างแบบไหน
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 11-03-2013 เมื่อ 02:47
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 163 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
ตอบ


ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 1 คน ( เป็นสมาชิก 0 คน และ บุคคลทั่วไป 1 คน )
 

กฎการส่งข้อความ
You may not post new threads
You may not post replies
You may not post attachments
You may not edit your posts

BB code is ใช้ได้
Smilies are ใช้ได้
[IMG] code is ใช้ได้
HTML code is งดใช้

Forum Jump


เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 23:37



ค้นหาในเว็บวัดท่าขนุน

เว็บวัดท่าขนุน Powered by vBulletin
Copyright © 2000-2010 Jelsoft Enterprises Limited.
ความคิดเห็นส่วนตัวทุก ๆ ข้อความในเว็บบอร์ดนี้ สงวนสิทธิ์เฉพาะเจ้าของข้อความ ไม่อนุญาตให้คัดลอกออกไปเผยแพร่ นอกจากจะได้รับคำอนุญาตจากเจ้าของข้อความอย่างชัดเจนดีแล้ว