กระดานสนทนาวัดท่าขนุน


กลับไป   กระดานสนทนาวัดท่าขนุน > ห้องธรรมะพระอาจารย์ > เก็บตกจากบ้านวิริยบารมี

Notices

เก็บตกจากบ้านวิริยบารมี เก็บข้อธรรมจากบ้านวิริยบารมีมาฝาก สำหรับผู้ที่ไม่มีโอกาสเดินทางไป

ตอบ
 
คำสั่งเพิ่มเติม
  #101  
เก่า 23-12-2011, 13:10
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,581
ได้ให้อนุโมทนา: 151,726
ได้รับอนุโมทนา 4,411,501 ครั้ง ใน 34,171 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

พระอาจารย์กล่าวว่า "หมอเขาสงสัยว่าอาตมามีชีวิตรอดมาได้อย่างไร? เพราะเป็นคนที่ใกล้เชื้อโรคอะไรก็รับหมด มีลักษณะของภูมิคุ้มกันบกพร่องแบบ hiv1 ต้องบอกว่าบุญรักษาและกรรมรักษา ถ้าตราบใดที่บุญกรรมยังส่งเสริมอยู่ อย่างไรเสียก็ไม่ตาย แบบเดียวกับพระรูปหนึ่งในพุทธกาลที่ท่านอดอยากตลอดชีวิต ได้กินอิ่มแค่ครั้งเดียวแล้วเข้านิพพานเลย นั่นกรรมรักษา ต้องชดใช้หนี้กรรมของตัวเอง

ท่านเกิดมาทั้งชีวิตไม่เคยได้กินอิ่มเลย ขนาดบวชเป็นพระแล้วก็ยังอด วันแรกท่านบิณฑบาตอยู่ข้างหลัง โยมใส่บาตรไปเรื่อย ๆ พอถึงท่านก็หมดพอดี พระอุปัชฌาย์เห็นดังนั้น วันต่อมาจึงให้เดินอยู่ข้างหน้า โยมคิดว่าเมื่อวานเราใส่จากข้างหน้ามา ข้างหลังจึงอด วันนี้จะใส่จากข้างหลังมาข้างหน้าบ้าง พอถึงท่านก็หมดอีก

พระอุปัชฌาย์จึงเปลี่ยนให้ท่านอยู่ตรงกลาง ส่วนโยมเห็นว่าวันก่อนใส่จากหัวมาท้าย แล้วใส่จากท้ายมาหัว คราวนี้แบ่งพวกเป็นคนละครึ่งใส่จากหัวท้ายมาตรงกลาง ปรากฏว่าพอถึงตรงกลางก็หมดพอดี ท้ายสุดพระอุปัชฌาย์จึงบอกให้ท่านไปอยู่เจริญกรรมฐาน เดี๋ยวจะบิณฑบาตมาเลี้ยงเอง เพราะกรรมหนักขนาดนี้เดี๋ยวจะพาท่านอื่นแย่ไปด้วย

พอพระอุปัชฌาย์เอาอาหารมาให้ ท่านฉันอิ่มเป็นครั้งแรกในชีวิต จิตใจมีความสบาย พิจารณาธรรมเห็นความทุกข์ที่ผ่านมา จิตใจหมดความอยากที่จะเกิดอีกก็เลยบรรลุมรรคผล เพราะฉะนั้น..ถ้าบุญยังรักษาหรือกรรมยังรักษา อย่างไรเสียก็ยังไม่ตาย"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 25-12-2011 เมื่อ 15:01
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 191 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #102  
เก่า 23-12-2011, 13:51
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,581
ได้ให้อนุโมทนา: 151,726
ได้รับอนุโมทนา 4,411,501 ครั้ง ใน 34,171 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

"มีนิยายฝรั่งเรื่องนาฬิกามรณะ เนื้อเรื่องกล่าวถึงชายหนุ่มคนหนึ่งมีอาชีพเป็นนักข่าว ไปเจอคนตายถือนาฬิกาอยู่ ซึ่งนาฬิกาเรือนนั้นเป็นนาฬิกาที่ประหลาดมาก บอกวันที่ เดือน ปี นาที วินาทีหมดทุกอย่าง แล้วเวลานั้นเป็นเวลาใกล้เคียงกับที่เขาพบศพ อีกไม่นานนักข่าวคนนี้ก็เจออีกศพหนึ่ง ในกรณีเดียวกัน

เขาสงสัยว่านาฬิกาเรือนนี้คงบอกเวลาตายของคนใช้ได้ จึงลองไปกดดู นาฬิกาเรือนนั้นบอกว่าตัวเขาเองอีก ๙๙ ปีถึงจะตาย เขาจึงเลิกเป็นนักข่าว หันไปสมัครเป็นสตันท์แมน เสี่ยงตายทุกอย่างที่ขวางหน้าจนมีชื่อเสียงโด่งดัง ขนาดกระโดดตัวเปล่าลงจากเครื่องบินก็ยังไม่ตาย เพราะตกลงไปในน้ำพอดี

ชื่อเสียงเงินทองไหลมาเทมา ผู้หญิงจึงแห่กันมาเพียบ วันนั้นเขาขับรถสปอร์ตเปิดประทุนควงสาวไป แฟนเก่าขว้างระเบิดใส่ เขามารู้ตัวอีกทีตอนนอนอยู่ที่โรงพยาบาล ร่างกายโดนผ้าพันเป็นมัมมี่ แขนขาไม่มีเพราะโดนระเบิดขาดหมด

หมอกำลังคุยอยู่กับตำรวจว่า "ในที่เกิดเหตุเจอนาฬิกาเรือนนี้ ผมลองกดดูแล้วแปลกมาก เพราะบอกแต่เวลาเที่ยงคืนของวันนี้" คนไข้คิดว่า "หมอต้องตายตอนเที่ยงคืนของวันนี้ แต่ผมสิต้องอยู่จนอายุ ๙๙ ปี..!" ไม่ตายแต่ก็ไม่สบาย เพราะไม่มีแขนไม่มีขา นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า อย่าดำเนินชีวิตโดยประมาท"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 23-12-2011 เมื่อ 14:51
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 186 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #103  
เก่า 24-12-2011, 11:23
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,581
ได้ให้อนุโมทนา: 151,726
ได้รับอนุโมทนา 4,411,501 ครั้ง ใน 34,171 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default



พระอาจารย์กล่าวว่า "ช่วงน้ำท่วมมีคนเขาปลื้มใจมากว่าเขาห่อรถได้สำเร็จ รถเขาน้ำไม่ท่วม พอเวลาน้ำท่วมรถก็ลอยตุ๊บป่อง พอเปิดรถออกมา ราขึ้นทั้งคันเลย..! เพราะว่าอบอยู่เป็นเดือน เหมือนกับที่เราเพาะเห็ดในโรงอบนั่นแหละ

พวกเห็ดราเป็นพืชที่กินซาก ถ้าไปทิ้งไว้นาน ๆ อะไรที่คิดว่ากินได้เป็นโดนกินหมด ยิ่งอากาศอบ ๆ ชื้น ๆ ยิ่งขึ้นดีเข้าไปใหญ่ ก่อนหน้านี้อาตมาอยู่ที่เกาะพระฤๅษี ไปพม่าเดือนหนึ่งกลับมารถยังขึ้นราเลย ไม่ได้ใช้แค่เดือนเดียว ขนาดไม่ได้แช่น้ำนะ กลับมาต้องจัดการล้างอัดฉีดกันยกใหญ่"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย วสันต์วิษุวัต : 24-12-2011 เมื่อ 18:05
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 172 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #104  
เก่า 24-12-2011, 11:36
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,581
ได้ให้อนุโมทนา: 151,726
ได้รับอนุโมทนา 4,411,501 ครั้ง ใน 34,171 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : น้ำจะมาอีกไหมคะ ?
ตอบ : โบราณว่าน้ำขึ้นให้รีบตัก ก็เตรียมขันไว้ตักน้ำสิจ๊ะ..! อย่าไปกังวลกับเรื่องที่ยังไม่เกิดขึ้น เราจะเครียดเสียเปล่า ๆ

อตีตัง นานวาคะเมยยะ นัปปฏิกังเข อนาคะตัง อย่าไปหวนคำนึงถึงเรื่องในอดีตที่ล่วงพ้นมาแล้ว และอย่าไปฟุ้งซ่านกับอนาคตที่ยังมาไม่ถึง ปัจจุปันนัญ จะ โยธัมมัง ตัตถะ ตัตถะ วิปัสสติ ต้องอยู่กับปัจจุบันธรรมเท่านั้นถึงจะรู้แจ้งเห็นจริง

ถาม : การกังวลกับเรื่องที่ยังมาไม่ถึง กับการที่เราไม่ประมาท ป้องกันเรื่องที่ยังมาไม่ถึง ดูเฉียดกันมากครับ อะไรทำให้เกิดความแตกต่างครับ ?
ตอบ : อยู่ที่ว่าเราหยุดคิดเป็นหรือไม่ ? ถ้าหยุดคิดเป็น ไม่ฟุ้งซ่าน ก็ถือว่าไม่ประมาท ถ้าหยุดคิดไม่เป็น ฟุ้งไปเรื่อยก็เครียดตาย ต่างกันตรงที่หยุดคิดเป็นหรือหยุดคิดไม่เป็นเท่านั้น

ถาม : แสดงว่าสติเป็นเรื่องที่สำคัญมากสิครับ
ตอบ : ไม่สำคัญเท่าไรหรอก แค่เป็นแก่นธรรมของพระพุทธศาสนาเท่านั้นเอง (หัวเราะ)
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 24-12-2011 เมื่อ 12:23
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 177 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #105  
เก่า 24-12-2011, 11:46
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,581
ได้ให้อนุโมทนา: 151,726
ได้รับอนุโมทนา 4,411,501 ครั้ง ใน 34,171 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : จะขยับบ้านตัวเองให้สูงกว่านี้อีก
ตอบ : สังเกตไหมว่า สมัยก่อนบ้านจะยกใต้ถุนสูง มีเรือขึ้นคานอยู่ใต้ถุนบ้าน พอใกล้หน้าน้ำก็จัดแจงยาเรือเอาลงไว้ พอน้ำมาก็เอาเรือลงผูกตรงหัวบันได ไม่เห็นเขาจะเดือดร้อนเลย แถมเขายังภาวนาให้น้ำมาด้วยนะ เพราะน้ำมาปลาก็มาด้วย

พอเริ่มเข้าฤดูหนาวปลาออจะมา คำว่า "ปลาออ" ก็คือฝูงปลาขึ้นพร้อม ๆ กัน โดยเฉพาะพวกปลาสร้อยมาครั้งหนึ่งเป็นหมื่นเป็นแสน เอาเข่งตักได้เลย เพราะปลาจะไปหาที่ผสมพันธุ์แล้วก็วางไข่ เวลาปลาออมาเสียงจุ๊บ ๆ จั๊บ ๆ ดังแซ่ไปหมด ถ้าปลาดุกออมาจะเสียงดังอ๊อด ๆ แอ๊ด ๆ ปลาร้องได้ พูดได้ บ่นได้เหมือนคน คนที่ไม่เคยได้ยินเสียงปลาก็ไม่คิดว่าจะร้องได้

สมัยเด็ก ๆ ผู้ใหญ่เขาเตือนนักเตือนหนาว่า ถ้าจะตักปลาออให้ตักหน้า ๆ อย่าไปตักท้าย ๆ เพราะข้างท้ายงูมักจะตามมากินปลา โดยเฉพาะงูเห่า เวลาปลาดุกมาจะม้วนเป็นก้อน ๆ แน่นไปทั้งแม่น้ำ รุ่นใหม่ ๆ ไม่รู้หรอก เพราะไม่เคยเห็นปลาเยอะอย่างนั้น

อาตมาตอนเด็ก ๆ สมัย ๓-๔ ขวบไปบ้านป้าที่ริมแม่น้ำสวนแตง ด้วยความซนเอาแหของลุงไปหว่าน หว่านลงไปต้องทิ้งแหเพราะดึงไม่ขึ้น ลองคิดดูสิว่าปลาเยอะขนาดไหน โบราณว่าในน้ำมีปลาในนามีข้าวเป็นเรื่องจริง เพราะคนยังน้อยอยู่
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 24-12-2011 เมื่อ 12:26
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 178 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #106  
เก่า 24-12-2011, 12:02
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,581
ได้ให้อนุโมทนา: 151,726
ได้รับอนุโมทนา 4,411,501 ครั้ง ใน 34,171 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : ตอนไปแจกของช่วยผู้ประสบภัยแถวสายไหม บางบัวทอง เจอปลาตัวเท่าแขน เขาจับกินกันสบายเลย
ตอบ : ที่ไหนมีน้ำที่นั่นก็มีปลา มีคนเขาไปท้าหลวงปู่จง วัดหน้าต่างนอก "หลวงปู่ยืนยันไหม ว่าที่ไหนมีน้ำที่นั่นมีปลา" หลวงปู่จงบอกว่า "ยืนยัน" เขาก็ไปปีนต้นมะพร้าวเก็บลูกมะพร้าวมา "หลวงปู่ในมะพร้าวมีน้ำ แต่ไม่เห็นมีปลาเลย" หลวงปู่บอกว่า "มึงผ่าออกมาสิ" พอผ่าออกมามีปลาซิว ๒ ตัว..! เล่นกับใครไม่เล่น เล่นกับพระระดับหลวงปู่ หาเรื่องชัด ๆ (หัวเราะ) ไม่รู้หลวงปู่แอบหยอดปลาลงไปตอนไหน

รู้สึกว่าบรรดาเกจิอาจารย์ทางสายอยุธยาจะชำนาญวิชาทางนี้ อย่างหลวงพ่อนอ วัดกลางท่าเรือ ลูกศิษย์จะไปช้อนปลากัด "เฮ้ย..มึงเอ้ย..อย่าไปช้อนปลากัดเลย เดี๋ยวงูกัดตายห่..มึงอยากได้ปลากัดมาเอาที่กูนี่" "ไหนล่ะหลวงตา ?"

หลวงพ่อนอบอกว่า "ในอ่างล้างตีน" พอเขาไปดูมีปลากัดอยู่ก็ตักไป เอาไปแข่งกัดที่ไหนก็ชนะ จึงเก็บปลาใส่ขวดไว้ พอรุ่งเช้าปรากฏว่ามีแต่ใบไม้ลอยน้ำ..! หลวงปู่ท่านไม่ต้องการให้ไปทรมานสัตว์และขณะเดียวกันตามกอสวะรก ๆ สมัยก่อนงูเงี้ยวเขี้ยวขอเยอะ แสดงว่าวิชาพวกนี้ระบาดอยู่แถว ๆ อยุธยา ที่อื่นไม่ค่อยมี

อย่างหลวงปู่ปานก็ตกเบ็ดกลางอากาศใช่ไหม ? มีทั้งปลาเค้า ปลาช่อนตัวโต ๆ เด็กรุ่นหลัง ๆ เคยเห็นปลาเค้าไหม ? เหมือนปลาเนื้ออ่อนแต่ใหญ่กว่ามาก อาตมาเคยเห็นขนาดยาวสักเมตรครึ่งได้..!
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 25-12-2011 เมื่อ 19:26
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 184 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #107  
เก่า 24-12-2011, 12:23
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,581
ได้ให้อนุโมทนา: 151,726
ได้รับอนุโมทนา 4,411,501 ครั้ง ใน 34,171 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

คาดว่าทุกคนที่ได้กสิณ ๑๐ สามารถทำได้ทุกคน เพียงแต่ว่าเคล็ดลับของการทำนั้น พระเกจิอาจารย์ทางอยุธยาคล่องตัวกว่า อาจจะเป็นเพราะอยุธยาเป็นเมืองน้ำ ไปไหนก็ต้องแจวเรือไป พอไม่มีอะไรเล่นก็เล่นกับน้ำ เล่นกับปลา

หลวงพ่อกบ วัดเขาสาริกา คนเห็นว่าท่านเป็นหลวงตาแก่ ๆ ผ้าผ่อนไม่นุ่ง นุ่งสบงอย่างเดียว เอาแต่นั่งตีฆ้องสวดมนต์ กุฏิท่านอยู่กลางนา กลางคืนฝนตกชาวบ้านก็ออกตีกบกัน พอหนาวขึ้นมาก็มาผิงไฟใต้กุฏิ หลวงพ่อกบก็ถามว่า "ได้กบหรือยัง ?" "ยังไม่ได้เลยครับ" หลวงพ่อกบบอกว่า "ทุด..พวกมึงหากบไม่เป็น มา..เดี๋ยวกูตีให้เอง"

ท่านคว้าไม้และคบไต้ไป เสียงตีป้าบ ๆ พักเดียวได้กบมาเป็นตะข้อง "พวกมึงเอาไปแบ่งกัน" ชาวบ้านเอาไปต้มไปแกง พอกินเสร็จเหลือก็เทใส่กะละมังครอบไว้ รุ่งเช้ามาเปิดดูมีแต่ใบสะแกทั้งนั้น..! เขาจึงเรียกท่านว่าหลวงพ่อกบ ชื่อจริงชื่ออะไรไม่รู้ แต่เรียกท่านว่าหลวงพ่อกบ

ท่านเป็นพระที่ยิ่งกว่าเป็นพระ ที่ท่านต้องทำตัวอย่างนั้นเพราะว่าท่านมีเวรมีกรรมผูกพันกับสถานที่ตรงนั้น คราวนี้ทางการเขาตัดสินว่าเป็นวัดร้าง จึงให้ท่านย้ายไปจำพรรษาที่อื่น แต่ท่านไม่ยอมไปเพราะยังไม่หมดวาระกรรม เมื่อท่านไม่ยอมไป ท่านก็ถอดจีวรให้เขาไป บอกว่าฉันสึกก็แล้วกัน ท่านก็อยู่ของท่านไปเรื่อย บางทีท่านก็นุ่งกางเกงตัวเดียว

ความจริงท่านก็คือพระดี ๆ นี่แหละ ท่านอยากจะอยู่ตรงนั้น ไม่อยากไปที่อื่น ก็ต้องทำให้เขาคิดว่าตัวเองไม่ใช่พระ จะได้ไม่มายุ่งด้วย วันดีคืนดีก็ไปนอนอยู่กลางทุ่ง ชักจีวรคลุมโปงอยู่ ๗ วันก็ลุกขึ้นมากลับวัด ต้องบอกว่าเด็กเลี้ยงควายแถวนั้นโชคดี เจอหลวงตาเดินเปะปะมา มีข้าวมีน้ำก็ถวายหลวงตา ดวงเฮงจริง ๆ
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 25-12-2011 เมื่อ 19:28
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 188 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #108  
เก่า 24-12-2011, 12:31
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,581
ได้ให้อนุโมทนา: 151,726
ได้รับอนุโมทนา 4,411,501 ครั้ง ใน 34,171 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : นอน ๗ วัน ลักษณะเหมือนท่านเข้านิโรธสมาบัติเลยนะคะ
ตอบ : ไม่ใช่เหมือน ตั้งใจเข้าเลย..!

ถาม : ท่านมรณภาพไปหรือยังคะ ?
ตอบ : มรณภาพไปนานแล้ว รุ่นเราเกิดไม่ทัน วัดเขาสาริกาอยู่ทางด้านปราจีนบุรี

ถาม : พระแบบนี้ถ้าเราศรัทธาอยากจะเจอท่าน
ตอบ : อยากจะเจอสมัยนี้ก็ยังพอมี แต่ต้องเข้าป่าลึกหน่อย

ถาม : ถ้าจุดธูปนิมนต์ออกมาท่านจะมาไหมคะ ?
ตอบ : ระวัง..อาตมาแช่งไว้เลยว่า ถ้าใครจุดธูปเรียกตู จะต้องมาหาเอง..! ต้องเจอแบบนี้ ให้เดินป่าตายชักไปเลย ตอนนั้นอาตมากำลังธุดงค์อยู่ ดันมาจุดธูปเรียก ต้องออกมาจากป่าก็ฉุนขาด แช่งไว้ตั้งแต่ตอนนั้นเลย..ใครจุดธูปเรียกต้องมาหาเอง..!

เมื่อเช้าก็ต้องแหกขี้ตาลงมาตั้งแต่ ๗ โมงกว่า เพราะว่าเขามาแล้วดันอธิษฐานขอให้อาตมาลงมา เวลาพักผ่อนแท้ ๆ ไม่ดูตาม้าตาเรือเลย
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 24-12-2011 เมื่อ 15:17
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 182 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #109  
เก่า 24-12-2011, 12:39
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,581
ได้ให้อนุโมทนา: 151,726
ได้รับอนุโมทนา 4,411,501 ครั้ง ใน 34,171 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : งดเสพกามมีดีอย่างไร ? ถ้างดไปก็มีแต่ความอยาก บางอารมณ์ก็พิจารณาบ้าง
ตอบ : แสดงว่ากำลังใจห่วยแตกมาก กำลังการปฏิบัติของเรา ถ้าสะสมไม่พอก็ตัดกิเลสไม่ได้ คราวนี้กำลังที่สะสมไว้มักจะรั่วไปเรื่อย รั่วออกทางตา..ตาเห็นรูปสวย ๆ ก็ถูกใจ หูได้ยินเสียงเพราะ ๆ ก็ถูกใจ จมูกได้กลิ่นที่ชอบใจก็รั่วไปแล้ว ลิ้นได้สัมผัสรสที่ชอบใจก็รั่วไปแล้ว กายได้สัมผัสที่ชอบใจก็รั่วไปแล้ว

คราวนี้การเสพกามนั้นรั่วทุกด้านเลย ก็แปลว่าเป็นตัวรั่วไหลที่ใหญ่ที่สุด ทำให้คุณสะสมกำลังไม่พอตัดกิเลสสักที

ถาม : ถ้ากดไว้เรื่อย ๆ จะไปฉุดคร่าคนอื่นเขาไหมครับ ?
ตอบ : ก็ขึ้นอยู่กับสติสัมปชัญญะของเอ็งนั่นแหละ..!

ถาม : ถ้าเราไม่เคยเห็นหน้าหลวงพ่อวัดท่าซุง เราจะทำเป็นคุยกับท่านแทนได้ไหม เช่น หลวงพ่อกินข้าวด้วยกัน อาบน้ำด้วยกัน เดินด้วยกัน จะเป็นการปรามาสไหมครับ ?
ตอบ : ขึ้นอยู่ว่าเรานึกถึงท่านด้วยความเคารพหรือเปล่า ? ถ้านึกถึงท่านด้วยความเคารพก็ไม่เป็นการปรามาส แต่บางอย่างก็ไม่สมควร เราจะกินข้าวเราก็ตั้งใจถวายท่านก่อน หลังจากนั้นเราค่อยลามากิน ถ้าจะอาบน้ำก็นึกให้ท่านเสกน้ำมนต์ให้เรา ไม่ใช่ประเภทถึงเวลาเรียกมากินข้าว ทำอย่างกับเรียกกุมารทอง..!
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 24-12-2011 เมื่อ 15:16
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 185 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #110  
เก่า 24-12-2011, 12:45
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,581
ได้ให้อนุโมทนา: 151,726
ได้รับอนุโมทนา 4,411,501 ครั้ง ใน 34,171 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : มีคนป่วยที่ใกล้จะตายตอนนี้ ถ้าจะต่ออายุให้เขา ๑๕ วันจะได้ไหมครับ ?
ตอบ : จะไปต่อให้ทรมานทำไมวะ ? ถ้าเอ็งใกล้ตาย มีคนต่อให้ทรมานไปเรื่อย เอ็งจะเอาหรือเปล่า..?

ถาม : หลานเขาอยากต่อให้ป้าครับ
ตอบ : ไปบอกหลานเขาให้ตายแทนดู..!
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 24-12-2011 เมื่อ 15:18
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 186 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #111  
เก่า 25-12-2011, 08:51
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,581
ได้ให้อนุโมทนา: 151,726
ได้รับอนุโมทนา 4,411,501 ครั้ง ใน 34,171 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : ผมจัดวางท่านแม่ทั้ง ๓ ไว้สูงกว่ารูปท้าวมหาราช ถูกไหมครับ ?
ตอบ : ให้เอาไว้ระดับเดียวกัน เพราะว่าคนที่ไม่รู้เขาจะตำหนิเอาได้ จะเกิดโทษกับเขาเสียเปล่า ๆ เอาไว้ระดับเดียวกัน แยกไปคนละข้างเลยก็ได้
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 25-12-2011 เมื่อ 13:30
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 175 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #112  
เก่า 25-12-2011, 10:22
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,581
ได้ให้อนุโมทนา: 151,726
ได้รับอนุโมทนา 4,411,501 ครั้ง ใน 34,171 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : อยากจะรู้ว่าตอนที่ตัดสินใจเกิด อกุศลกรรมเข้าได้ในขณะนั้นหรือเปล่าคะ ?
ตอบ : อกุศลกรรมไม่ได้เข้าตอนที่เราตัดสินใจเกิด แต่อกุศลกรรมติดตัวเราข้ามชาติข้ามภพมาส่งผลให้ เพราะว่าแต่ละคนเกิดมานับชาติไม่ถ้วน ความดีก็ทำมามาก ความชั่วก็ทำมามาก คราวนี้อกุศลกรรมคือความชั่วที่เราทำไว้ไม่ได้ไปไหน ถ้ายังชดใช้กันไม่ครบเขาก็ตามอยู่ เกิดมาเมื่อไรเขาก็เริ่มสนองไปเรื่อย เพราะฉะนั้น..เขาอยู่ของเขาเป็นปกติอยู่แล้ว เขาไม่ได้รอหรอก เขาเกาะอยู่เลย..!

ถ้าตั้งใจขอเหล่าเทวดานางฟ้าข้างบนท่านดูจริง ๆ จะเห็นเงาดำซ้อนกายท่านอยู่ นั่นคืออกุศลกรรมที่ท่านทำไว้ ถ้าพ้นจากความเป็นเทวดานางฟ้าเมื่อไร อกุศลกรรมเหล่านี้ก็จะเริ่มสนอง อยู่ข้างบนความดีสูงกว่า ความดีจะให้ผลไปเรื่อย แต่ความชั่วไม่ได้ไปไหน ความชั่วยังรออยู่ ลงต่ำเมื่อไรก็ได้โอกาสเริ่มให้ผล

ถาม : ถ้าเรารู้ว่าเป็นกรรม เราก็ไม่ควรจะฝืน ปล่อยให้เป็นไปหรือเปล่าคะ ?
ตอบ : รู้ว่าเป็นกรรม ถ้าพอดิ้นรนแก้ไขได้ ก็ดิ้นรนแก้ไขให้สุดความสามารถไปก่อน ถ้าดิ้นรนจนกระทั่งหมดกำลังกาย หมดกำลังใจ หมดกำลังสติปัญญา หมดกำลังคน หมดกำลังทรัพย์แล้วยังแก้ไขไม่ได้ เราค่อยเชื่อว่าเป็นกฎของกรรม ไม่ใช่อะไรนิด อะไรหน่อยก็กฎของกรรม ถ้าอย่างนั้นก็โง่เกินไป

เคยไปอียิปต์ไหม ? รถไปเสียอยู่กลางทะเลทราย โชเฟอร์นั่งกระดิกเท้าเฉยอยู่ ถามว่าทำไมถึงไม่ซ่อมรถ เขาบอกว่า แล้วแต่ความประสงค์ของพระผู้เป็นเจ้า อยากจะบอกกับเขาว่า "ถ้าอย่างนั้นมึงตายห่..อยู่นั่นแหละ กูไม่อยู่กับมึงหรอก" นั่นโง่เกินไป ปัญญามีแต่ไม่ได้ใช้ รถเสียก็ซ่อมสิ..ไม่ใช่แล้วแต่ความประสงค์ของพระผู้เป็นเจ้า
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย วสันต์วิษุวัต : 18-07-2019 เมื่อ 16:02
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 161 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #113  
เก่า 25-12-2011, 10:25
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,581
ได้ให้อนุโมทนา: 151,726
ได้รับอนุโมทนา 4,411,501 ครั้ง ใน 34,171 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : ถ้าเป็นกรรมที่เกี่ยวกับคนที่เราอยู่ด้วย ?
ตอบ : เหมือนกัน แก้ไขได้ก็แก้ไข แก้ไขไม่ได้จริง ๆ เราค่อยปล่อยวาง

ถาม : ปล่อยวาง ไม่ได้หมายความว่าเรายอมเขาอย่างเดียวใช่ไหมคะ ?
ตอบ : ปล่อยวาง...รอเวลา มีความสามารถพอเมื่อไรเราค่อยมาแก้ไขใหม่ ไม่ใช่ปล่อยทิ้งไปเฉย ๆ ถ้าสมมติว่าเราเป็นหมอ ถ้าความรู้เราตอนนี้ไม่พอที่จะผ่าตัด เราก็ไปศึกษาเพิ่มเติมก่อน ความรู้พอเมื่อไรค่อยย้อนกลับมาผ่าตัดใหม่
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 25-12-2011 เมื่อ 13:34
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 160 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #114  
เก่า 25-12-2011, 10:32
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,581
ได้ให้อนุโมทนา: 151,726
ได้รับอนุโมทนา 4,411,501 ครั้ง ใน 34,171 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : กรณีที่คนไปมโนยิทธิเต็มกำลังได้แล้ว สมควรจะไปแบบครึ่งกำลังเป็นใช่ไหมคะ ?
ตอบ : ไปเต็มกำลังได้ก็ไปแบบเต็มกำลังสิจ๊ะ

ถาม : ก็คือได้เต็มกำลังแล้วก็ทำอย่างนั้นให้คล่องไปเลย ไม่ต้องครึ่งกำลังอย่างนั้นหรือคะ ?
ตอบ : ถูกต้องแล้วครับ..!
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 25-12-2011 เมื่อ 13:35
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 166 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #115  
เก่า 25-12-2011, 11:08
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,581
ได้ให้อนุโมทนา: 151,726
ได้รับอนุโมทนา 4,411,501 ครั้ง ใน 34,171 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : อย่างที่บอกว่าควรปฏิบัติให้ต่อเนื่อง การที่เราภาวนาคาถาเงินล้านต่อเนื่องไปทั้งวัน ถือว่าใช้ได้ไหมคะ ?
ตอบ : ใช้ได้..จะทำอย่างไรก็ได้ ให้ใจอยู่กับการภาวนา เราจะภาวนาอะไรอยู่ที่เราชอบ

ถาม : จำเป็นไหมคะ..ที่แต่ละวันจะต้องปลีกเวลาออกมานั่งสมาธิเป็นกิจจะลักษณะ ?
ตอบ : สมควรอย่างยิ่งจ้ะ อย่างน้อยก็ช่วงเช้ากับช่วงเย็น เพื่อให้กำลังใจของเราทรงตัวจริง ๆ

ถาม : อย่างเวลาที่เราปล่อยสัตว์ปล่อยปลา ปล่อยวันไหนก็ได้ ไม่จำเป็นต้องเป็นวันนั้นวันนี้ใช่ไหมคะ ?
ตอบ : จ้ะ..ปล่อยเร็วเท่าไรก็ดีเท่านั้น
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 25-12-2011 เมื่อ 13:36
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 165 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #116  
เก่า 25-12-2011, 11:37
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,581
ได้ให้อนุโมทนา: 151,726
ได้รับอนุโมทนา 4,411,501 ครั้ง ใน 34,171 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : หมอเขาบอกอธิบายว่า ยาส่งผลต่อระบบประสาท ส่งผลต่อสมอง ถ้าหยุดยาจะมีผลทำให้พฤติกรรมเปลี่ยนไป มีพฤติกรรมก้าวร้าวขึ้น
ตอบ : ขึ้นอยู่กับว่าเรามีสติสัมปชัญญะพอไหม ? ถ้ามีสติสัมปชัญญะพอก็ไม่เปลี่ยนพฤติกรรม ถ้ามีไม่พอก็อาจจะเปลี่ยน เพราะว่าฤทธิ์ยาที่กดอยู่คลายลง ที่หมอว่ามานั้นเขาว่าตามหลักวิชาการ แต่ในความเป็นจริงอยู่ที่ตัวคน

ถ้าคน ๆ นั้นมีสติมีสมาธิมั่นคงพอ สิ่งต่าง ๆ ก็ไม่เปลี่ยน เขารู้อยู่ว่าเกิดความเปลี่ยนแปลงข้างใน แต่ความมั่นคงของจิตใจมีมากกว่า ก็เลยควบคุมกายไม่ให้เปลี่ยนไปด้วย

ถาม : หนูสงสัยว่า หมอเขาวิจัยว่าการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมเป็นเรื่องของสมอง เขาเข้าไม่ถึงจิตใจ เป็นเพราะวิชาการเหล่านี้มาจากทางตะวันตกหรือเปล่าคะ ?
ตอบ : มาจากตะวันตก ๑๐๐ % ไม่อย่างนั้นก็อาจจะต้องมานั่งเสกนั่งเป่าให้หายแทน..!

ถาม : หนูกำลังคิดว่าธรรมนิยามครอบคลุมทั้งหมด เพราะว่าทุกอย่างต้องอยู่ภายใต้กฎของไตรลักษณ์ เพราะฉะนั้น..สิ่งที่เป็นปัจจุบัน คือสิ่งที่เราทำได้ แล้วทาง dna ทางจิตใจ และกรรมบางส่วน เป็นของปัจจุบันที่เราสามารถทำและแก้ไขได้
ตอบ : ได้...แต่ว่านั่นเป็นส่วนของอดีตเหตุที่ส่งให้เป็นปัจจุบันผล ถ้าเราแก้ไขปัจจุบันเหตุได้ อนาคตผลก็จะเปลี่ยนไป

ถาม : แล้วอุตุนิยามอยู่ตรงไหนหรือคะ ?
ตอบ : อุตุนิยามอยู่ในส่วนของ dna นั่นแหละ ที่กำหนดว่าในพื้นที่เช่นนั้น อย่างในที่หนาว สัตว์จะต้องขนยาว คนจะต้องผิวขาว เป็นต้น ถ้าในที่ร้อนสัตว์จะต้องขนสั้น คนจะผิวดำ โดนประทับอยู่ใน dna เรียบร้อยแล้วจ้ะ เป็น ๑ ในนิยาม ๕ ของพระพุทธเจ้าว่าคนเราต่างกันเพราะอะไร

ถาม : แล้วพีชนิยามล่ะครับ ?
ตอบ : พีชนิยามก็คือ dna แท้ ๆ เลย เพราะเป็นพืชพันธุ์ที่สืบต่อกันตามชาติตระกูลมา
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 25-12-2011 เมื่อ 14:35
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 153 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #117  
เก่า 25-12-2011, 11:49
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,581
ได้ให้อนุโมทนา: 151,726
ได้รับอนุโมทนา 4,411,501 ครั้ง ใน 34,171 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : ช่วงนี้รู้สึกว่าวิบากกรรมมาตลอดเลยค่ะ มีวิธีทำให้เบาบางลงไหมคะ ?
ตอบ : ศีล สมาธิ ปัญญา เร่งให้หนักเข้าไว้ เพราะว่า ๓ อย่างนี้จะมีอานิสงส์ใหญ่มาก บรรเทากรรมได้ ถึงหนีไม่พ้นแต่ก็ผ่อนหนักเป็นเบาได้ โดยเฉพาะกำลังของสมาธิ

ถาม : ที่ผ่านมานั่งสมาธิ แต่ก็ยังไม่ค่อยดีเท่าไร
ตอบ : ก็พยายามทำให้ดีขึ้นสิจ๊ะ


ถาม : คราวนี้ถ้าเรารู้ว่าใครเป็นเจ้ากรรมนายเวร เราควรจะเลี่ยงหรือว่าทำอย่างไรดีคะ ?
ตอบ : ขอขมาเขาเสีย

ถาม : บางทีขอแล้วก็ไม่หาย ต้องขอบ่อย ๆ หรืออย่างไรคะ ?
ตอบ : ตัวเป็น ๆ หรือเปล่า ?

ถาม : ตัวเป็น ๆ ค่ะ
ตอบ : ถ้าตัวเป็น ๆ เขายอมอโหสิกรรมให้ก็จบแล้ว แสดงว่าที่ไม่หายนั้นเป็นกรรมเนื่องด้วยคนอื่น ไม่ใช่คนเดิม

ถาม : ครั้งเดียวก็จบได้หรือคะ ?
ตอบ : จบแค่ตรงนั้น ยกเว้นว่าเราไปทำเพิ่ม ถ้าทำใหม่ก็ต้องขอขมาใหม่
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 25-12-2011 เมื่อ 13:40
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 157 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #118  
เก่า 25-12-2011, 11:59
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,581
ได้ให้อนุโมทนา: 151,726
ได้รับอนุโมทนา 4,411,501 ครั้ง ใน 34,171 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : ถ้าเราเห็นแสงระยิบระยับขึ้นมา ไม่ว่าจะเป็นตาเนื้อหรือตาใน ให้ปล่อยไปหรือเปล่าครับ ?
ตอบ : ถ้าหากว่าเป็นการปฏิบัติก็แสดงว่าเริ่มเข้าสู่อุปจารสมาธิ การเห็นนั่นเห็นนี่ก็จะเป็นเรื่องปกติ ถ้าไม่ใช่ในส่วนที่เราปฏิบัติอยู่ ก็ไม่ต้องไปใส่ใจ ถ้าเป็นส่วนที่เราปฏิบัติอยู่ก็จับเป็นนิมิตต่อไปได้

ถาม : แล้วอาการตัวสั่น แม้กระทั่งตอนที่แผ่เมตตา ?
ตอบ : นั่นแหละ..ตัวปีติชัด ๆ เลย ปีติอยู่ในระหว่างอุปจารสมาธิ ถ้าหากว่าสูงไปกว่านั้นก็จะเริ่มเป็นสุข แล้วก็เข้าสู่อารมณ์ฌาน ปล่อยอาการสั่นให้เต็มที่ไปเลย ถ้าหากว่าเป็นเต็มที่แล้วอาการนั้นก็จะเลิก ถ้าหากว่าเราไปห้ามหรือไปฝืนเอาไว้ ถึงเวลาก็จะเป็นอย่างนั้นอยู่เรื่อย ๆ

ถาม : อาการที่เราเดิน ๆ อยู่ แล้วเหมือนกับมีอะไรมาผ่านตัวเราละครับ บางทีเดินห้างอยู่ บางทีนั่งอยู่บนรถก็รู้สึก ?
ตอบ : พอทำไปถึงระดับหนึ่งแล้ว เราสามารถที่จะสัมผัสพลังงานบางสิ่งบางอย่างที่คนทั่วไปเขาสัมผัสไม่ได้

ถาม : แล้วสิ่งนั้นดีหรือไม่ดีครับ ?
ตอบ : ก็ขึ้นอยู่กับว่าส่งผลที่ดีให้เราหรือเปล่า ? แต่เราไม่ต้องไปใส่ใจหรอก ปล่อยเขาไปตามปกติของเขาดีกว่า
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 25-12-2011 เมื่อ 13:42
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 152 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #119  
เก่า 25-12-2011, 12:24
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,581
ได้ให้อนุโมทนา: 151,726
ได้รับอนุโมทนา 4,411,501 ครั้ง ใน 34,171 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

พระอาจารย์กล่าวว่า "เคยได้ยินคำทำนายของเด็กชายปลาบู่ไหม ? ตอนนี้คงไม่ใช่เด็กชายเพราะผ่านมาหลายปีแล้ว แต่ละอย่างที่เขาว่ามาถูกทั้งนั้นเลย คนก็เลยกลัวกันว่าเหตุการณ์ปีหน้าจะถูกด้วยไหม ?

อะไรที่รู้เป็นสาธารณะแล้วมักจะเคลื่อน เพราะว่าวาระบุญวาระกรรมของแต่ละคนไม่เหมือนกัน ถ้าสมมติว่าจำเป็นต้องรับกรรม แต่พอรู้แล้วรีบแก้ไข วาระก็จะเปลี่ยนไป

ปีหน้ามีเสาร์ห้า ๓ ครั้งนี่น่าสยอง..! เพราะการบวงสรวงจัดงานเป่ายันต์เกราะเพชรแต่ละครั้ง หมายถึงการที่ต้องเปลี่ยนแปลงชะตาของคนส่วนใหญ่

เรื่องของพรหมเทวดา ตลอดจนกระทั่งพระ ถ้าหากว่าเราไม่ได้ขอให้ท่านช่วย ท่านยอมรับกฎของกรรมมากกว่าเรา ท่านก็จะปล่อยวาง คราวนี้การจัดงานบวงสรวงเป่ายันต์เกราะเพชรหรือไหว้ครูประจำปี ถึงเวลาเราขอให้ท่านช่วย ถือว่าขอกันอย่างเป็นทางการ ถ้าเป็นไปได้ท่านก็จะช่วยผ่อนหนักเป็นเบาให้"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 25-12-2011 เมื่อ 15:02
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 156 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #120  
เก่า 25-12-2011, 12:30
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,581
ได้ให้อนุโมทนา: 151,726
ได้รับอนุโมทนา 4,411,501 ครั้ง ใน 34,171 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : คนที่เขาปรารถนาพุทธภูมิ เขาจะทรงอารมณ์พระโสดาบันไปด้วยหรือเปล่าครับ ?
ตอบ : ต้องศึกษายันอรหันต์เลยจ้ะ ไม่อย่างนั้นรู้ไม่ครบแล้วจะไปสอนใครเขาได้ เพียงแต่ว่ากำลังใจขั้นสุดท้ายไม่ได้ตัด เพราะว่ายังมีงานที่ต้องเป็นห่วงอยู่
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย เถรี : 25-12-2011 เมื่อ 14:11
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 153 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
ตอบ


ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 1 คน ( เป็นสมาชิก 0 คน และ บุคคลทั่วไป 1 คน )
 

กฎการส่งข้อความ
You may not post new threads
You may not post replies
You may not post attachments
You may not edit your posts

BB code is ใช้ได้
Smilies are ใช้ได้
[IMG] code is ใช้ได้
HTML code is งดใช้

Forum Jump


เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 11:11



ค้นหาในเว็บวัดท่าขนุน

เว็บวัดท่าขนุน Powered by vBulletin
Copyright © 2000-2010 Jelsoft Enterprises Limited.
ความคิดเห็นส่วนตัวทุก ๆ ข้อความในเว็บบอร์ดนี้ สงวนสิทธิ์เฉพาะเจ้าของข้อความ ไม่อนุญาตให้คัดลอกออกไปเผยแพร่ นอกจากจะได้รับคำอนุญาตจากเจ้าของข้อความอย่างชัดเจนดีแล้ว