|
เก็บตกจากบ้านเติมบุญ เก็บข้อธรรมจากบ้านเติมบุญมาฝาก สำหรับผู้ที่ไม่มีโอกาสเดินทางไป |
![]() |
|
คำสั่งเพิ่มเติม |
#261
|
||||
|
||||
![]()
ทิดเฟิร์สเขาบอกว่า เคล็ดลับในการใช้เครื่องแปลภาษา คือ พูดให้สั้น ๆ อย่าพูดยาว ๆ แบบอาตมา ให้พูดเหมือนคนพูดไม่เป็น ก็มีปัญหาเหมือนกันนะ คนพูดเป็นแล้วให้พูดไม่เป็น ไม่รู้จะทำอย่างไร
อาตมาตรองดูแล้วน่าจะใช่ เพราะว่าเขาต้องการช่วยคนที่พูดไม่เป็น ส่วนคนพูดเป็นเขาก็ไม่คิดจะทำแอพฯ มาช่วยพอ ไปพูดประโยคยาว ๆ เครื่องเลยไม่แปลหรอก พอพูดขาด ๆ สั้น ๆ เขากลับแปลให้ได้
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : เมื่อวานนี้ เมื่อ 10:45 |
สมาชิก 68 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#262
|
||||
|
||||
![]()
สรุปว่า อาตมาไม่ได้ใช้ออกซิเจน สละให้คนที่เขาใกล้ตายไป แล้วก็มีสองคนที่ไปไม่ถึง คือ เต้อกับเหมียวสองตายาย ต้องบอกว่าสำนึกในสุขภาพของตัวเองเป็นอย่างดี ก็เลยห้อยท้ายที่กิโลเมตรที่ ๓ ไปไม่ถึงกิโลเมตรที่ ๑๒ กับเขาหรอก
แต่แถวนั้นก็คุ้มค่าเพราะว่าพวกสัตว์เยอะมาก โดยเฉพาะขาออกเจอแพะภูเขาเป็นร้อย ๆ ตัวเลย อาตมาเหลือบเห็นแค่ครึ่งตัว อุตส่าห์ย่องออกนอกทาง กะว่าจะไปถ่ายรูปใกล้ ๆ หน่อยโดยไม่บอกให้ใครรู้ ไม่อย่างนั้นบรรดาอาเฮียอาเจ้ก็เอะอะเอ็ดตะโร ปรากฏว่าพอเดินลับมุมก็หงายหลังผลึ่ง โอ้โห..มาเป็นร้อยเลย แต่อาตมาเห็นแค่ขาหลังตัวเดียว อุตส่าห์ย่องเงียบเข้าไป หวังว่าจะถ่ายรูปใกล้ ๆ ที่ไหนได้..มาเป็นร้อยเลย ไม่แยแสพวกเราด้วย จะทำอะไรก็ทำไป กูกินอย่างเดียว แถวนั้นไม่ว่าจะนก หนู กระรอก กระแต อะไรก็ตาม ไม่กลัวคนเลย เพราะอยู่ในอุทยานแห่งชาติ และคาดว่ากฎหมายเขาแรงมาก อย่างเก่งก็ไปเซลฟี่สัตว์ใกล้ ๆ เท่านั้นแหละ ไม่มีเรื่องอื่น อุทยานแห่งชาติย่าติง ภาษาอังกฤษ เขียนว่า Yading เราต้องพยายามอ่านให้ถูกด้วย
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : เมื่อวานนี้ เมื่อ 10:47 |
สมาชิก 66 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#263
|
||||
|
||||
![]()
บรรดาสถานที่ที่เราไป อย่างทะเลสาบ ภูเขา ส่วนใหญ่มีความสำคัญกับพระพุทธศาสนาวัชรยานของทิเบต เป็นสถานที่บำเพ็ญเพียรของพระโพธิสัตว์บ้าง ของคุรุต่าง ๆ บ้าง ต้องบอกว่าเขาไปรับพลังกัน ส่วนพวกเรานี่แทบจะไปไม่ถึง ไม่ต้องหวังไปรับพลังอะไรหรอก
แต่ส่วนหนึ่งที่ไปแล้วรู้สึกดีก็คือ แก่จนป่านนี้สามารถเดินตั้งแต่ต้นยันปลายได้โดยที่ไม่ต้องใช้ออกซิเจน แม้จะขี้โกงหน่อย ๆ ด้วยการมีองครักษ์ไปช่วยด้วยก็เถอะ ถ้าใครไปแถวซื่อกูเหนียง ย่าติง รื่อหวา หลี่ถัง เรียกท่านสุ่ยหลงให้ช่วยได้ เขาเป็นใหญ่อยู่แถวนั้น เป็นอินทกะของท้าววิรูปักษ์ เรียกว่าคุมพื้นที่มหึมาเลย อาตมาไปแล้วเพิ่งจะรู้ว่าที่นั่นคือเสฉวนตะวันตก มิน่าถึงเป็นอินทกะของท่านวิรูปักษ์ เพราะว่าท่านวิรูปักษ์ท่านดูแลทิศตะวันตกของโลกมนุษย์อยู่
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : เมื่อวานนี้ เมื่อ 10:49 |
สมาชิก 62 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#264
|
||||
|
||||
![]()
คณะที่ไปของเราจริง ๆ มีแค่ ๑๓ คน แต่ทีนี้หัวหน้าทัวร์กับช่างภาพไปด้วยก็เลยเป็น ๑๕ คน คณะที่ไปก็มีคุณชวง ซึ่งส่วนใหญ่ทั้งคณะเรียก "หม่าม้า" เป็นคุณแม่ประจำคณะ ต้องการอะไรให้บอก คุณแม่บริการได้ทุกอย่าง
มีน้องเล็ก มีน้องตุ๊กตา ต้องบอกว่าตุ๊กตายอดเยี่ยมมาก ถึงเวลาก็ทิ้ง "ป๊า" ไปเที่ยวคนเดียว บอกว่า "ป๊า" มีหน้าที่จ่ายเงิน มีลูกปุ๊กหรือที่เขาเรียกว่าเจ๊นี้ มีป้ามอยที่ดูแลบ้านเติมบุญอีกคนหนึ่ง มีเหมียวกับเต้อสองตายาย มีแจ๊กกับโอสองตายาย มีทิดดอย ทิดเฟิร์ส มีน้องโบว์ มีอาตมา มีคุณตั้ว เขาเป็นเจ้าของบริษัททัวร์ ซึ่งทั้ง ๆ ที่ออกสองทริปติด ๆ กัน แต่เขาเลือกมากับคณะของเรา เขาคิดว่าไปกับเราแล้วจะปลอดภัยกว่ากระมัง ? สรุปว่าคณะของเราไม่มีใครสมองบวมให้ส่งกลับ ส่วนคุณบีเป็นตากล้อง ไปช่วยถ่ายรูป แต่พวกเราสละการถ่ายรูปดาวตอนกลางคืนกับถ่ายรูปแสงตอนเช้า ไม่มีใครไปหรอก หิมะลงหนาวจะตายชัก คุณมีอารมณ์ คุณไปถ่ายเองเถอะ อากาศลบห้าองศาหิมะตกให้ไปนอนถ่ายดาว เช้า ๆ ขึ้นมาลบสี่องศา ลบห้าองศา จะให้ไปถ่ายพระอาทิตย์ขึ้น นอนดีกว่าว่ะ..!
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : เมื่อวานนี้ เมื่อ 10:52 |
สมาชิก 63 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#265
|
||||
|
||||
![]()
ถาม : (ไม่ชัด) ?
ตอบ : มีอยู่ ๒ อย่างด้วยกัน อย่างที่หนึ่งคือพอเราตั้งใจแล้ว อายตนะก็คือตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจของเราโดนควบคุมด้วยอำนาจของฌาน ไม่รับรู้อาการอื่นภายนอก ก็มองไม่เห็นไปชั่วคราว ส่วนอีกอย่างหนึ่งก็คงจะอยู่ในจังหวะที่ใครสักคนอยากจะแกล้งเรา ก็เอามือปิดไว้เท่านั้นก็หมดเรื่องแล้ว ...(หัวเราะ)... แต่ว่าน่าจะเป็นอย่างแรกมากกว่า ก็คือพอสมาธิเราทรงตัว เราสนใจข้างใน ไม่ได้สนใจข้างนอก ข้างนอกเลยหายไป
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : เมื่อวานนี้ เมื่อ 10:52 |
สมาชิก 57 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#266
|
||||
|
||||
![]()
พระอาจารย์เปิดภาพหลวงพ่อวัดท่าซุงให้ดู “ภาพนี้ถ่ายวันที่ ๖ ธันวาคม พุทธศักราช ๒๕๒๗ ที่วัดเทพธิดาราม หลวงพ่อวัดท่าซุงท่านไปรับพัดพระสุธรรมยานเถรวันที่ ๕ พอวันที่ ๖ หลวงปู่สมเด็จฯ วัดสามพระยาท่านเป็นเจ้าภาพจัดฉลองให้ที่วัดเทพธิดาราม จะเห็นว่าหลวงพ่อท่านห่มสีกรัก เข้าวังต้องเป็นสีนี้เท่านั้น
ส่วนใหญ่หลวงพ่อวัดท่าซุงท่านไม่ค่อยยุ่งเกี่ยวกับพระสายปกครอง แต่เจ้านายก็เมตตาตลอด เพราะเห็นว่าบริวารเยอะ มีกำลังใหญ่ ถ้าทำงานอะไรนี่ เฮกันตูมเดียวก็จบแล้ว ท่านก็พยายามที่จะต่อสายเชื่อมความสัมพันธ์เอาไว้ หลวงพ่อท่านก็อนุโลมตามที่ว่าง ถ้าไม่ว่างก็ไม่ไป"
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : เมื่อวานนี้ เมื่อ 11:20 |
สมาชิก 59 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#267
|
||||
|
||||
![]()
"พอมาถึงรุ่นลูก บรรดาลูก ๆ ที่ออกไปอยู่ที่อื่น บรรดาเจ้าคณะปกครองท่านเห็นความสามารถก็มักจะเรียกใช้ หลวงตาวัชรชัยเป็นเจ้าคณะอำเภอพระพุทธบาท จังหวัดสระบุรี จนกระทั่งต้องลาออก สู้งานไม่ไหวเพราะว่าแก่แล้ว อาตมาเองตอนนี้เป็นรองเจ้าคณะอำเภอทองผาภูมิ มีที่น่าอิจฉาอีก ๒ ท่านก็คือ หลวงตาชลอ วัดศาลพันท้ายนรสิงห์ กับหลวงพ่อวิรัช วัดธรรมยาน
หลวงตาชลอเนื่องจากว่าอยู่สมุทรสาคร จังหวัดสมุทรสาครทั้งจังหวัดมีแค่ ๓ อำเภอ เล็กนิดเดียว บุคลากรเพียบเลย ก็เลยไม่ถึงคิวที่ท่านจะเหนื่อย คุณเป็นเจ้าอาวาสทำงานของคุณไป ส่วนหลวงพ่อวิรัช เจ้าคณะจังหวัดบอกให้ไปเรียน ป.บส. จะได้ให้ตำแหน่งโน้นตำแหน่งนี้ หลวงพ่อวิรัชบอกว่า “ผมแก่แล้ว หัวไม่ไป ไม่เรียนหรอก” จะปฏิเสธว่าไม่เอาตำแหน่งก็กลัวเจ้านายจะน้อยใจ เอาเถอะพี่..พี่รอดตัวไปได้ แต่ไม่รู้จะอีกนานเท่าไร ขนาดหลวงตาวัชรชัยนี่เจ้าคณะจังหวัดสระบุรีเจอหน้าอาตมายังบ่นเลย ท่านบอก “พี่คุณไม่ค่อยมีจริตนิสัยมาทางด้านการปกครอง” ก็คือพวกเราส่วนใหญ่มาสายปฏิบัติ แล้วมักจะอยากอยู่กับความสงบมากกว่า เพราะฉะนั้น..ท่านเป็นท่านก็ลาออก อาตมาเป็นก็ลาออก ลาออกเพราะรู้ว่ามีคนอื่นเขาอยากจะเป็น"
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : เมื่อวานนี้ เมื่อ 11:22 |
สมาชิก 59 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#268
|
||||
|
||||
![]()
"ตอนนั้นอาตมาลาออกจากเจ้าคณะตำบลชะแล เขต ๒ พอถึงเวลาก็ไม่เป็น หาข้ออ้างไปเรียนหนังสือ ตำแหน่งรออยู่ก็แกล้งเรียนถ่วงไปเรื่อยจนจบปริญญาเอก เลยซวยหนักเข้าไปอีก พอจบปุ๊บตำแหน่งว่าง ๓ ตำแหน่งพอดี..! ถ้าว่างตำแหน่งเดียวยังโบ้ยไปให้คนอื่นได้ ดันว่างทีเดียว ๓ ตำแหน่ง ไม่รู้ว่าจะปฏิเสธอย่างไร ก็ต้องรับตำแหน่งใหม่ พอรับใหม่เป็นเจ้าคณะตำบลท่าขนุน เขต ๒ ได้ไม่นาน ก็เป็นรองเจ้าคณะอำเภอ ยังไม่รู้เหมือนกันว่าถ้าหากว่ามีอะไรฉุกเฉินขึ้นมาจะต้องเป็นมากกว่านี้หรือเปล่า ?”
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : เมื่อวานนี้ เมื่อ 11:23 |
สมาชิก 57 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#269
|
||||
|
||||
![]()
เล่าเรื่องไปเมืองจีนต่อ "วันอังคารที่ ๒๒ ตุลาคม ๒๕๖๒ อากาศเหมือนเดิมคือติดลบ ๔ องศาเซลเซียส ปรากฏว่าโรงแรมโม่ฝานเป็นโรงแรมเดียวที่อาหารเช้าเป็นข้าวต้มกับหมั่นโถว และไม่ได้มีแต่ผัดผัก มีไส้กรอกสไลด์ให้ได้ด้วย พวกเราเจอแต่ข้าวต้มกับผัดผักมาหลายวัน ก็เลยคีบไส้กรอกกันกระจาย..!
กินเสร็จก็ไปสำรวจวัตถุโบราณของเขา มีของเก่า ๆ โชว์แขกไว้เยอะ มีของอย่างหนึ่งที่อาตมาดูไม่ออก ลักษณะเหมือนหัวไม้หรือรากไม้ ไม่รู้ว่าเป็นสมุนไพรสำคัญอะไรหรือเปล่า ? เพราะว่าเห็นมีโชว์อยู่หลายที่ ลองเอาให้น้องกิฟท์อ่านแล้ว น้องกิฟท์บอกว่าความรู้ภาษาจีนน้อยไปหน่อย อ่านไม่ออกว่าเขียนว่าอะไร น่าจะเป็นชื่อเฉพาะภาษาทิเบตแล้วเขียนเป็นภาษาจีน ก็เลยอ่านไม่ออก ที่แน่ ๆ ก็คือระเบียงของโรงแรมโผล่ไปด้านหลัง จะเห็นยอดพีระมิดของภูเขาหยางเหม่ยหยง พวกที่ไปก่อนเรา ๕ วันไม่ได้เห็นอะไรเลย เพราะว่าเมฆหมอกปิดหมด แถมโดนหิมะถล่ม พวกเรามีอะไรเขาก็เปิดให้ดูหมด ข้าวของบางชิ้นของทางโรงแรมเห็นแล้วอยากซื้อ แต่เอ่ยปากไม่ออก เพราะรู้ว่าเป็นของสะสมของเขา กินข้าวเช้าเสร็จไปเข้าห้องน้ำก่อน เพราะว่าห้องน้ำรวมของประเทศจีนน่าเกลียดน่ากลัวไปหน่อย..!"
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : เมื่อวานนี้ เมื่อ 11:24 |
สมาชิก 56 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#270
|
||||
|
||||
![]()
"เข้าห้องน้ำเสร็จลงมาคืนกุญแจ แต่ฝากกระเป๋าไว้ก่อน เพราะว่าวันนี้ยังต้องเดินอีกวันหนึ่ง ออกไปถ่ายรูปหมู่หน้าโรงแรม แล้วก็เดินไปรอขึ้นรถ กลับเข้าไปที่อุทยานย่าติง ทุกคนมีประสบการณ์จากเมื่อวานแล้วว่า ของที่แบกไปอะไรมีประโยชน์อะไรไม่มีประโยชน์ วันนี้ทุกคนก็เลยลงความเห็นว่าแซนวิชดีที่สุด เพราะว่าเบา กินง่าย เดินไปกินไปก็ยังได้ ...(หัวเราะ)...
ข้าวกล่องจีนมีที่อุ่นอยู่ด้านล่าง ด้วยความที่อากาศหนาวจัด เวลาอุ่นจนกระทั่งเชื้อเพลิงหมดแล้ว ข้าวยังร้อนแค่ครึ่งกล่อง สรุปก็คือมีคนกินข้าวแช่แข็งด้วย ทุกคนก็เลยเปลี่ยนใจว่าแซนวิชดีกว่า แล้วก็มีเสียงว่า “หม่าม้า...ทำแซนวิชให้ด้วย” ลำบากคุณแม่ประจำคณะอีก ตอนแรกแนะนำแซนวิชไม่มีใครอยากได้ อยากได้ข้าวกล่องกัน เจอข้าวกล่องเข้าไป แบกไม่ไหว อุ่นไม่ร้อน สรุปว่าแซนวิชดีกว่า..! ความจริงโปรแกรมของวันที่ ๒๒ คือโปรแกรมของวันที่ ๒๑ เขาจะให้เราเดินระยะใกล้ ๆ เป็นการวอร์มร่างกายก่อน พอรุ่งขึ้นถึงไปเดินไกล แต่ปรากฏว่าหัวหน้าทัวร์คิดถูก คุณตั้วบอกว่าให้เดินไกลไปเลย ร่างกายยังสดอยู่ ทีเดียวจบ หลังจากนั้นถ้าหากว่าไม่ไหว ก็เหลือระยะทางใกล้ ๆ แล้วจะได้ไม่ท้อกัน"
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : เมื่อวานนี้ เมื่อ 11:26 |
สมาชิก 56 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
![]() |
ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 6 คน ( เป็นสมาชิก 1 คน และ บุคคลทั่วไป 5 คน ) | |
อมลณัฐ |
คำสั่งเพิ่มเติม | |
|
|