กระดานสนทนาวัดท่าขนุน


กลับไป   กระดานสนทนาวัดท่าขนุน > ห้องธรรมะ เรื่องราวในอดีต และสรรพวิชา > เรื่องธรรมะ และการปฏิบัติ > ฝากคำถามถึงหลวงพ่อ

Notices

ฝากคำถามถึงหลวงพ่อ คุณสามารถตั้งคำถาม และทีมงานจะรวบรวม และคัดกรองเพื่อนำไปถามหลวงพ่อในตอนเย็นวันอาทิตย์ที่หลวงพ่อมารับสังฆทาน

ตอบ
 
คำสั่งเพิ่มเติม
  #1  
เก่า 01-08-2023, 03:28
นักเดินทางสังสารวัฏ นักเดินทางสังสารวัฏ is offline
สมาชิก - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Mar 2016
ข้อความ: 77
ได้ให้อนุโมทนา: 139
ได้รับอนุโมทนา 2,965 ครั้ง ใน 205 โพสต์
นักเดินทางสังสารวัฏ is on a distinguished road
Default การทำให้จิตเป็นเป็นหนึ่งเดียวกับธรรมชาติ

๑.ผมศึกษาศาสนาพุทธ และศาสนาอื่น ๆ และผมเคยดูการ์ตูนญี่ปุ่นที่จะมีพวกพระเอกที่ฝึกวิชาต่อสู้และฝึกจิตใจ หลักสำคัญของการฝึกวิชาเหล่านี้ คือการทำให้จิตเป็นหนึ่งเดียวกับธรรมชาติ คือ พลังเต๋า ในลักษณะจิตกลมกลืนเป็นธรรมชาติ พอพระเอกฝึกสำเร็จก็เป็นยอดมนุษย์แข็งแรงมาก และมีพลังวิเศษแบบอภิญญา และในศาสนาพุทธในสังโยชน์ตัวท้าย ๆ อย่างมานะ ที่คิดว่า เราดีกว่าเขา เราเลวกว่าเขา และเราเสมอเขา พูดง่าย ๆ คิดแบบไหนก็ตามก็ไม่มีทางรอด จากมานะในสังโยน์แน่ ๆ

และจิตพระอรหันต์ที่เข้าถึงอรหัตผลท่านตัด มานะและสังโยชน์ได้หมด เลยอยากถามหลวงพ่อว่า ในศาสนาพุทธอย่างการทำให้จิตเข้าถึงอรหัตผล ตัดสังโยชน์ได้หมด ตัวจิตไม่ได้ไปคิดหรือยึดว่า เราดีกว่าเขา เราเลวกว่าเขา และเราเสมอเขา และจิตยอมรับว่าทุกอย่างมันมีสภาวะของตัวมันเอง มีความ unique เลยไม่ได้ยึดถืออะไรทั้งนั้น อันนี้ไปตรงหรือคล้าย ๆ พุทธวจนในมหาสติประมาณว่า เธอย่อมไม่ติดอยู่ด้วย ย่อมไม่ยึดถืออะไร ๆ ในโลกด้วย สรุปแบบง่ายนะครับว่า ทุกสรรพสิ่งมีสภาวะของตัวมันเอง แล้วเราจะเอาอะไรมายึดว่า เราดีกว่าเขา เราเลวกว่า และเราเสมอเขา พอคิดได้ดังนี้จิตเลยสามารถกลมกลืนไปกับธรรมชาติได้

คำถามคือ จากที่ผมเล่ามานี่เป็นวิธีที่ทำให้จิตเป็นหนึ่งเดียวกับธรรมชาติ โดยอาศัยตัวปัญญาจากการวิปัสสนา ในศาสนาพุทธหรือเปล่าครับ ขอให้หลวงพ่อช่วยอธิบายทีครับเนื่องจากหลวงพ่อเสกของอะไรต่าง ๆ มีอานุภาพมาก นอกเหนือจากการของบารมีพระช่วย ผมคิดว่าน่าจะเกิดจากการทำให้จิตรวมเป็นหนึ่งเดียวกับธรรมชาติและเอาพลังธรรมชาติมาใช้

๒. ผมสงสัยการที่เราฝึกสมาธิ แล้วสติดีขึ้น พอสติดีขึ้น แล้วเราจะรู้ตัวว่าตอนนี้เราคิดดี คิดชั่ว เช่นคนมาทำให้เราโกรธ ใจก็คิดอาฆาต อยากจะสวนคืน แต่พอสติรู้ตัวก็ยับยั้งและให้อภัยลงได้ จากที่ผมเล่ามา ขณะที่เราคิดอาฆาตตอนนั้นเป็น อกุศลมโนกรรม แต่สติรู้ตัวก็หยุดคิดและให้อภัยได้ทันทีก็เป็น กุศลมโนกรรม เลยอยากถามหลวงพ่อว่า อย่างในกรณีที่สติสัมปชัญญะดีขึ้นรู้ทันความคิดในขณะที่คิดชั่ว สามารถจัดเป็น อกุศลมโนกรรม ได้หรือไม่ครับ? และสงสัยว่าวิบากกรรมที่เกิดจากคิดชั่วขณะจิตแค่เสี้ยววินาทีแบบนี้จะเป็นอย่างไรหรือครับ? และขอคำแนะนำจากหลวงพ่อเพิ่มเติมครับ

๓.หลวงพ่อเคยเตือนประมาณว่า พระอภิธรรมเป็นสิ่งที่ยากมาก เพราะพระพุทธเจ้าท่านสอนพรหมเทวดา และผมเห็นด้วยกับหลวงพ่อ แต่มีหลายคนแนะนำว่า ควรอ่านและเข้าใจปัจจัย ๒๔ ซึ่งเป็นหนึ่งในอภิธรรม เพื่อจะได้เข้าใจธรรมชาติมากขึ้น และเพื่อจิตจะได้ยอมรับจริง ๆ ว่าทุกอย่างคืออนัตตา เลยอยากถามหลวงพ่อในฐานะหลวงพ่อได้ทั้งฌานสมาบัติ และเป็นพระสายปริยัติด้วย เลยอยากถามว่า ถ้าอยากเข้าใจปัจจัย ๒๔ ตามความเป็นจริง ไม่ใช่อ่านแล้วเป็นสัญญา แต่ต้องเข้าใจเนื้อหาด้วย ควรทำไงดีครับ

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย นักเดินทางสังสารวัฏ : 19-08-2023 เมื่อ 22:52
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 12 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ นักเดินทางสังสารวัฏ ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #2  
เก่า 04-09-2023, 03:41
สุธรรม's Avatar
สุธรรม สุธรรม  ที่ออนไลน์ขณะนี้
ผู้ตรวจการณ์เว็บวัดท่าขนุน - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jun 2009
ข้อความ: 4,771
ได้ให้อนุโมทนา: 269,229
ได้รับอนุโมทนา 838,163 ครั้ง ใน 12,782 โพสต์
สุธรรม is on a distinguished road
Default

ถาม : ผมศึกษาศาสนาพุทธ และศาสนาอื่น ๆ และผมเคยดูการ์ตูนญี่ปุ่นที่จะมีพวกพระเอกที่ฝึกวิชาต่อสู้และฝึกจิตใจ หลักสำคัญของการฝึกวิชาเหล่านี้ คือการทำให้จิตเป็นหนึ่งเดียวกับธรรมชาติ คือ พลังเต๋า ในลักษณะจิตกลมกลืนเป็นธรรมชาติ พอพระเอกฝึกสำเร็จก็เป็นยอดมนุษย์แข็งแรงมาก และมีพลังวิเศษแบบอภิญญา และในศาสนาพุทธในสังโยชน์ตัวท้าย ๆ อย่างมานะ ที่คิดว่า เราดีกว่าเขา เราเลวกว่าเขา และเราเสมอเขา พูดง่าย ๆ คิดแบบไหนก็ตามก็ไม่มีทางรอด จากมานะในสังโยน์แน่ ๆ

และจิตพระอรหันต์ที่เข้าถึงอรหัตผลท่านตัด มานะและสังโยชน์ได้หมด เลยอยากถามหลวงพ่อว่า ในศาสนาพุทธอย่างการทำให้จิตเข้าถึงอรหัตผล ตัดสังโยชน์ได้หมด ตัวจิตไม่ได้ไปคิดหรือยึดว่า เราดีกว่าเขา เราเลวกว่าเขา และเราเสมอเขา และจิตยอมรับว่าทุกอย่างมันมีสภาวะของตัวมันเอง มีความ unique เลยไม่ได้ยึดถืออะไรทั้งนั้น อันนี้ไปตรงหรือคล้าย ๆ พุทธวจนในมหาสติประมาณว่า เธอย่อมไม่ติดอยู่ด้วย ย่อมไม่ยึดถืออะไร ๆ ในโลกด้วย สรุปแบบง่ายนะครับว่า ทุกสรรพสิ่งมีสภาวะของตัวมันเอง แล้วเราจะเอาอะไรมายึดว่า เราดีกว่าเขา เราเลวกว่า และเราเสมอเขา พอคิดได้ดังนี้จิตเลยสามารถกลมกลืนไปกับธรรมชาติได้

คำถามคือ จากที่ผมเล่ามานี่เป็นวิธีที่ทำให้จิตเป็นหนึ่งเดียวกับธรรมชาติ โดยอาศัยตัวปัญญาจากการวิปัสสนา ในศาสนาพุทธหรือเปล่าครับ ขอให้หลวงพ่อช่วยอธิบายทีครับเนื่องจากหลวงพ่อเสกของอะไรต่าง ๆ มีอานุภาพมาก นอกเหนือจากการของบารมีพระช่วย ผมคิดว่าน่าจะเกิดจากการทำให้จิตรวมเป็นหนึ่งเดียวกับธรรมชาติและเอาพลังธรรมชาติมาใช้
ตอบ : ถ้ายังฟุ้งซ่านแบบนี้ ก็ยังห่างจากธรรมชาติอีกมาก..!

ถาม : ผมสงสัยการที่เราฝึกสมาธิ แล้วสติดีขึ้น พอสติดีขึ้น แล้วเราจะรู้ตัวว่าตอนนี้เราคิดดี คิดชั่ว เช่นคนมาทำให้เราโกรธ ใจก็คิดอาฆาต อยากจะสวนคืน แต่พอสติรู้ตัวก็ยับยั้งและให้อภัยลงได้ จากที่ผมเล่ามา ขณะที่เราคิดอาฆาตตอนนั้นเป็น อกุศลมโนกรรม แต่สติรู้ตัวก็หยุดคิดและให้อภัยได้ทันทีก็เป็น กุศลมโนกรรม เลยอยากถามหลวงพ่อว่า อย่างในกรณีที่สติสัมปชัญญะดีขึ้นรู้ทันความคิดในขณะที่คิดชั่ว สามารถจัดเป็น อกุศลมโนกรรม ได้หรือไม่ครับ? และสงสัยว่าวิบากกรรมที่เกิดจากคิดชั่วขณะจิตแค่เสี้ยววินาทีแบบนี้จะเป็นอย่างไรหรือครับ? และขอคำแนะนำจากหลวงพ่อเพิ่มเติมครับ ?
ตอบ : ให้ไปนั่งภาวนาแบบจริง ๆ จัง ๆ ไม่ใช่คอยแต่คิดฟุ้งซ่าน..!

ถาม : หลวงพ่อเคยเตือนประมาณว่า พระอภิธรรมเป็นสิ่งที่ยากมาก เพราะพระพุทธเจ้าท่านสอนพรหมเทวดา และผมเห็นด้วยกับหลวงพ่อ แต่มีหลายคนแนะนำว่า ควรอ่านและเข้าใจปัจจัย ๒๔ ซึ่งเป็นหนึ่งในอภิธรรม เพื่อจะได้เข้าใจธรรมชาติมากขึ้น และเพื่อจิตจะได้ยอมรับจริง ๆ ว่าทุกอย่างคืออนัตตา เลยอยากถามหลวงพ่อในฐานะหลวงพ่อได้ทั้งฌานสมาบัติ และเป็นพระสายปริยัติด้วย เลยอยากถามว่า ถ้าอยากเข้าใจปัจจัย ๒๔ ตามความเป็นจริง ไม่ใช่อ่านแล้วเป็นสัญญา แต่ต้องเข้าใจเนื้อหาด้วย ควรทำอย่างไรดีครับ ?
ตอบ : เข้าถึงความเป็นพระอนาคามี แล้วจะรู้ได้อย่างชัดเจน
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 28 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ สุธรรม ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
ตอบ


ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 1 คน ( เป็นสมาชิก 0 คน และ บุคคลทั่วไป 1 คน )
 

กฎการส่งข้อความ
You may not post new threads
You may not post replies
You may not post attachments
You may not edit your posts

BB code is ใช้ได้
Smilies are ใช้ได้
[IMG] code is ใช้ได้
HTML code is งดใช้

Forum Jump


เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 03:17



ค้นหาในเว็บวัดท่าขนุน

เว็บวัดท่าขนุน Powered by vBulletin
Copyright © 2000-2010 Jelsoft Enterprises Limited.
ความคิดเห็นส่วนตัวทุก ๆ ข้อความในเว็บบอร์ดนี้ สงวนสิทธิ์เฉพาะเจ้าของข้อความ ไม่อนุญาตให้คัดลอกออกไปเผยแพร่ นอกจากจะได้รับคำอนุญาตจากเจ้าของข้อความอย่างชัดเจนดีแล้ว