กระดานสนทนาวัดท่าขนุน


กลับไป   กระดานสนทนาวัดท่าขนุน > ห้องธรรมะพระอาจารย์ > พระครูวิลาศกาญจนธรรม (หลวงพ่อเล็ก สุธมฺมปญฺโญ) > เทศน์ช่วงทำกรรมฐาน

Notices

กระทู้ถูกปิด
 
คำสั่งเพิ่มเติม
  #1  
เก่า 04-05-2011, 22:08
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,447
ได้ให้อนุโมทนา: 151,085
ได้รับอนุโมทนา 4,399,755 ครั้ง ใน 34,034 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default เทศน์ช่วงทำกรรมฐาน วันเสาร์ที่ ๓๐ เมษายน ๒๕๕๔

ทุกคนขยับนั่งในท่าสบายของตัว หายใจเข้าออกยาว ๆ สักสองสามครั้ง ระบายลมหยาบออกให้หมดก่อน แล้วหลังจากนั้นก็ปล่อยให้หายใจปกติตามที่ร่างกายต้องการ เพียงแต่กำหนดความรู้สึกตามเข้าไปด้วย

เมื่อหายใจเข้า ความรู้สึกทั้งหมดไหลตามลมหายใจเข้าไป หายใจออก กำหนดความรู้สึกทั้งหมดไหลตามลมหายใจออกมา จะกำหนดภาพพระหรือคำภาวนาอย่างไรก็ได้ตามที่เราชอบใจ

วันนี้เป็นวันเสาร์ที่ ๓๐ เมษายน พุทธศักราช ๒๕๕๔ เป็นการปฏิบัติธรรมวันที่สองในเดือนพฤษภาคมนี้ เมื่อครู่นี้ที่ได้กล่าวก่อนปฏิบัติกรรมฐานว่า ในเรื่องของการปฏิบัตินั้น ส่วนใหญ่แล้วพวกเราใจร้อนใจเร็ว ทำให้ไม่ประสบความสำเร็จตามที่ควร ตรงนี้เป็นจุดอ่อนใหญ่สำหรับนักปฏิบัติรุ่นใหม่ทั้งหมด

ทำแล้วจะให้ได้ผลเลย เป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้ เหมือนกับคนที่หัดเขียนหนังสือ หรือหัดพิมพ์ดีดใหม่ ๆ เมื่อเราเคาะเป็นตัวหนังสือขึ้นมายังไม่สามารถจะอ่านได้ หรือเขียนเป็นตัวหนังสือขึ้นมายังไม่สามารถจะอ่านได้ เราก็ต้องซ้อมเขียนอักขระ ซ้อมเขียนสระ ซ้อมเขียนวรรณยุกต์ จนมีความคล่องตัว จำได้แม่นแล้วจึงหัดผสมคำ จึงจะเกิดความหมายขึ้นมาทีละเล็กทีละน้อย

จนกระทั่งเมื่อมีความคล่องตัวมาก ๆ ก็สามารถที่จะเขียนประโยคยาว ๆ ได้ภายในระยะเวลาอันสั้น หลักการปฏิบัติก็เป็นไปในแนวเดียวกัน คือเราจะใจร้อนไม่ได้ ต้องมีความอดทน มีความพากเพียรพยายาม ซึ่งเด็กรุ่นใหม่จะขาดสองสิ่งนี้เป็นอย่างมาก คือ ขาดในขันติบารมีและวิริยบารมี อะไรที่ได้ช้าก็มักจะเลิกทำไปเลย เพราะไม่มีความอดทน ไม่มีความพากเพียรเพียงพอ
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย เถรี : 07-05-2011 เมื่อ 09:06
สมาชิก 69 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #2  
เก่า 05-05-2011, 22:06
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,447
ได้ให้อนุโมทนา: 151,085
ได้รับอนุโมทนา 4,399,755 ครั้ง ใน 34,034 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

เราต้องนึกว่า ถ้าเป็นน้ำหยดทีละหยด แรก ๆ ก็ยังไม่เห็นอะไรเพราะภาชนะใหญ่มาก อย่างเช่นกะละมัง หรือเป็นตุ่มน้ำ แต่พอให้น้ำหยดไปเรื่อย ๆ ก็จะเริ่มมีน้ำให้เห็น แล้วถ้าได้ขึ้นมาสักส่วนหนึ่ง ก็จะเห็นว่าที่แท้จริงสิ่งที่เราสะสมมานั้น มีมากเพียงพอแก่การใช้งานทีเดียว

โดยเฉพาะในการปฏิบัตินั้น กำลังของเราแต่ละวันไม่เท่ากัน ขึ้นอยู่กับสภาพร่างกายและสมาธิจิตใจในช่วงนั้น ถ้าร่างกายเหนื่อยมาก หิวมาก หรือเจ็บไข้ได้ป่วย สมาธิก็มักจะไม่ทรงตัว การปฏิบัติก็จะไม่ได้อย่างใจต้องการ แต่ขอให้ทำไปเถอะ แล้วเข้าใจด้วยว่าจะมากจะน้อยเราก็ได้

เมื่อวานนี้สมาธิอาจจะดีมาก เปรียบเหมือนการทำงานก็คงจะหาเงินได้สักห้าร้อยหรือพันหนึ่ง แต่วันนี้สมาธิแย่ เปรียบไปแล้วคงได้สักห้าบาทสิบบาท แต่ขอให้รู้ว่าเราได้ ถ้าสมมติว่าเมื่อวานได้ห้าร้อย วันนี้ได้แค่สิบบาท รวมแล้วก็เป็นห้าร้อยกับสิบบาทไม่ได้หายไปไหน

เมื่อเป็นเช่นนั้น จึงต้องให้ทุกคนทำใจให้เย็นลงนิดหนึ่ง ตามดูตามรู้ลมหายใจเข้าออกของเราไปเรื่อย ขอให้กำหนดภาวนา และพิจารณาตามที่ศึกษาร่ำเรียนมา โดยตั้งความคิดว่าเรามีหน้าที่ภาวนาเท่านั้น ส่วนผลของการภาวนาจะเกิดหรือไม่เกิดก็ช่างเถอะ

ถ้าสามารถวางกำลังใจอย่างนี้ได้ ผลก็จะเกิดได้ง่าย เกิดได้เร็ว เพราะว่าสมาธิที่จะทรงตัวในระดับอัปปนาสมาธิ คือตั้งแต่ปฐมฌานขึ้นไปนั้น จะต้องมีตัวอุเบกขาอยู่ในอารมณ์ฌานทุกระดับ ตัวอุเบกขานั่นแหละคือตัวที่เราวางกำลังใจว่า เรามีหน้าที่ทำ ส่วนจะได้หรือไม่ได้ช่างเถอะ ถ้าไม่มีตัวอุเบกขากำลังใจก็จะไม่ทรงตัวเป็นฌาน
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 06-05-2011 เมื่อ 02:56
สมาชิก 66 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #3  
เก่า 07-05-2011, 01:00
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,447
ได้ให้อนุโมทนา: 151,085
ได้รับอนุโมทนา 4,399,755 ครั้ง ใน 34,034 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

เมื่อเราทราบดังนี้ ก็ต้องวางกำลังใจในลักษณะเป็นคนใจเย็น ค่อย ๆ ทำ ค่อย ๆ สั่งสมไปเรื่อย ทีละเล็กทีละน้อย ลักษณะเดียวกับคนทิเบต คนทิเบตท่องคาถาคำหนึ่ง เขาก็มั่นใจว่าเขาก้าวเข้าไปใกล้พระนิพพานก้าวหนึ่ง หมุนกงล้อมนต์รอบหนึ่งเขาก็เข้าใกล้พระนิพพานไปก้าวหนึ่ง นับลูกประคำเม็ดหนึ่ง เขาก็เข้าใกล้พระนิพพานไปก้าวหนึ่ง กราบพระครั้งหนึ่ง เขาก็เข้าใกล้พระนิพพานไปก้าวหนึ่ง นั่นคือลักษณะของบุคคลที่พากเพียรและอดทน

ค่อย ๆ ทำไป ถ้าเรามองไปยังเป้าหมายเบื้องหน้า จุดหมายปลายทางอาจจะไกลจนเราท้อถอยเสียก่อน ก็ให้เรามองย้อนหลังไปว่า ขณะที่เราให้ทาน รักษาศีล เจริญภาวนามาจนถึงปัจจุบันนี้แล้ว บุคคลที่ภาวนาไม่ได้ยังมีอีกมากตั้งเท่าไร ? บุคคลที่รักษาศีลไม่ได้มีมากอีกเท่าไร ? บุคคลที่ไม่สามารถให้ทั้งทาน รักษาทั้งศีล และเจริญภาวนามีมากตั้งเท่าไร ?

ถ้ามองลักษณะอย่างนี้เราจะเกิดกำลัง เหมือนกับว่าตอนนี้เราอาจจะขี่ม้าอยู่ แล้วเราก็ไปอิจฉาว่า คนนั้นมีรถเก๋งขี่ คนนั้นยิ่งหนักใหญ่มีเครื่องบินส่วนตัว ถ้ามองอย่างนี้เราจะหมดกำลังใจ แต่ถ้าเรามองไปข้างหลังว่าเรามีม้าขี่ คนที่ใช้พาหนะแย่กว่าเราอย่างเช่น ขี่ลาก็มี เดินเท้าเปล่าก็มี และที่แย่ที่สุดก็คือ ยังไม่ได้ลงมือเดินเลยก็มี

ถ้าเป็นอย่างนั้นเราจะเกิดกำลังใจว่า อย่างน้อย ๆ การกระทำของเราก็ยังมีผลงานอยู่ ให้พากเพียร ให้อดทน ขอให้รู้ว่าในปัจจุบันนี้ บารมีทั้งสิบนั้นเราขาดขันติบารมี คือความอดทน เราขาดวิริยบารมี คือความพากเพียร และขาดปัญญาบารมี คือการพิจารณาให้รู้แจ้งเห็นจริง ทั้งสามสิ่งนี้เป็นสิ่งที่เราต้องเพียรพยายามประกอบให้มาก ใช้ความอดทนให้มาก เพื่อที่จะได้ประสบความสำเร็จตามที่เรามุ่งหวัง
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย เถรี : 07-05-2011 เมื่อ 09:08
สมาชิก 59 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #4  
เก่า 08-05-2011, 17:29
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,447
ได้ให้อนุโมทนา: 151,085
ได้รับอนุโมทนา 4,399,755 ครั้ง ใน 34,034 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

บุคคลถ้าไม่มีความอดทน ไม่มีความพากเพียร ไม่มีปัญญาเสียแล้ว ก็จะประสบความสำเร็จในชีวิตได้ยาก ไม่ว่าจะเป็นทางโลกหรือทางธรรม อย่าลืมว่าพระพุทธเจ้าจะแสดงธรรมในหมวดไหนก็ตาม พระองค์จะแทรกปัญญาเอาไว้เสมอ ขณะเดียวกัน แม้แต่โอวาทปาฏิโมกข์ของพระองค์ ก็เริ่มต้นด้วย ขันตี ปรมัง ตะโป ตีติกขา คือให้มีขันติ ความอดทนอดกลั้นเป็นอันดับแรก

ขณะเดียวกัน พระองค์ก็ตรัสว่า วิริเยนะ ทุกขะมัจเจติ บุคคลจะล่วงทุกข์ได้เพราะความเพียร เมื่อเรารู้แล้วว่าเรามีจุดอ่อนตรงไหนก็พยายามแก้ไข เอาใจจดจ่ออยู่กับปัจจุบันธรรมเบื้องหน้า คือ ลมหายใจเข้าออกของเรา

หายใจเข้ากำหนดรู้ตามไป หายใจออกกำหนดรู้ตามออกมา หายใจเข้าพร้อมกับคำภาวนาที่เราชอบ ที่เราถนัด หายใจออกพร้อมกับคำภาวาที่เราชอบ ที่เราถนัด ทำความรู้สึกให้เหมือนกับคนทิเบตที่ว่า หายใจเข้าครั้งหนึ่งเราก็ใกล้พระนิพพานไปก้าวหนึ่ง หายใจออกครั้งหนึ่งเราก็ใกล้พระนิพพานไปก้าวหนึ่ง

ถ้าชีวิตินทรีย์นี้จะดับสิ้นลงไป ด้วยเพราะถึงอายุขัยก็ดี หรือว่าเกิดอุบัติเหตุอันตรายใด ๆ ก็ดี เราขอไปอยู่ที่พระนิพพานแห่งเดียว ให้ตั้งกำลังใจไว้อย่างนี้ แล้วภาวนาหรือพิจารณาไปตามอัธยาศัย จนกว่าจะได้รับสัญญาณบอกว่าหมดเวลา

พระครูธรรมธรเล็ก สุธมฺมปญฺโญ
เทศน์ช่วงทำกรรมฐาน ณ บ้านวิริยบารมี
วันเสาร์ที่ ๓๐ เมษายน ๒๕๕๔
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 26-05-2011 เมื่อ 19:54
สมาชิก 53 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
กระทู้ถูกปิด


ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 1 คน ( เป็นสมาชิก 0 คน และ บุคคลทั่วไป 1 คน )
 
คำสั่งเพิ่มเติม

กฎการส่งข้อความ
You may not post new threads
You may not post replies
You may not post attachments
You may not edit your posts

BB code is ใช้ได้
Smilies are ใช้ได้
[IMG] code is ใช้ได้
HTML code is งดใช้

Forum Jump


เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 00:51



ค้นหาในเว็บวัดท่าขนุน

เว็บวัดท่าขนุน Powered by vBulletin
Copyright © 2000-2010 Jelsoft Enterprises Limited.
ความคิดเห็นส่วนตัวทุก ๆ ข้อความในเว็บบอร์ดนี้ สงวนสิทธิ์เฉพาะเจ้าของข้อความ ไม่อนุญาตให้คัดลอกออกไปเผยแพร่ นอกจากจะได้รับคำอนุญาตจากเจ้าของข้อความอย่างชัดเจนดีแล้ว