กระดานสนทนาวัดท่าขนุน


กลับไป   กระดานสนทนาวัดท่าขนุน > ห้องธรรมะ เรื่องราวในอดีต และสรรพวิชา > เรื่องธรรมะ และการปฏิบัติ > ฝากคำถามถึงหลวงพ่อ

Notices

ฝากคำถามถึงหลวงพ่อ คุณสามารถตั้งคำถาม และทีมงานจะรวบรวม และคัดกรองเพื่อนำไปถามหลวงพ่อในตอนเย็นวันอาทิตย์ที่หลวงพ่อมารับสังฆทาน

ตอบ
 
คำสั่งเพิ่มเติม
  #1  
เก่า 10-05-2020, 16:49
สวนกุหลาบ สวนกุหลาบ is offline
สมาชิก - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Mar 2015
ข้อความ: 39
ได้ให้อนุโมทนา: 6
ได้รับอนุโมทนา 4,765 ครั้ง ใน 191 โพสต์
สวนกุหลาบ is on a distinguished road
Default การให้ผลของทานบารมีกับการพัฒนาด้านจิตใจ

บุคคลบางคนเกิดมาเพียบพร้อมไปด้วยมนุษย์สมบัติในทุก ๆ ด้านบริบูรณ์ไปด้วยทรัพย์สมบัติ รูปสมบัติ สติปัญญา บริวารมากมาย ชาติตระกูลสูงส่ง แต่ก็ “ชั่วร้ายเลวทราม” เบียดเบียน เอารัดเอาเปรียบ ทำร้ายและเข่นฆ่าชีวิตผู้อื่นเป็นอาจิณมาโดยตลอดชีวิตของบุคคลผู้นั้น (อดีตถึงปัจจุบันมีบุคคลประเภทนี้ให้เห็นอยู่มาก)

ที่สงสัยคือ...บุคคลใดจะเกิดมาบริบูรณ์ไปด้วยมนุษย์สมบัติได้ย่อมต้องเคยสร้างบุญมาในกาลก่อนยิ่งเกิดมาเพียบพร้อมมากย่อมต้องเคยสร้างบุญมามาก แล้วเหตุใดผู้ที่สร้างบุญมามากเช่นนี้ในด้านสภาพจิตใจกลับเลวทรามต่ำช้าไม่มีศีลมีธรรมอยู่เลยแม้แต่น้อย ?

หรือว่าการสร้างทานบารมีอันเป็นเหตุแห่งความบริบูรณ์ในมนุษย์สมบัติเป็นคนล่ะเรื่องกับการพัฒนาในด้านของจิต ? กล่าวคือคนชั่วที่ไม่เคยฝึกจิตให้อยู่ในศีลธรรม ไม่เคยรักษาศีล ไม่มีความละอายชั่วกลัวบาป ทำชั่วได้ทุกอย่างเพื่อให้ได้มาซึ่งสิ่งที่ตนต้องการ หากแต่คนคนนั้นรู้จักหมั่นให้ทานอันมีอานิสงส์ใหญ่ในเขตพระพุทธศาสนา เช่น สังฆทาน วิหารทาน ธรรมทาน สร้างพระ เจ้าภาพบวชพระ ฯลฯ เป็นต้น ก่อนตายจิตมั่นคงในบุญคือทานบารมีที่ทำ ผลแห่งทานก็ส่งผลให้เกิดมาใหม่บริบูรณ์ไปด้วยมนุษย์สมบัติตามเหตุแห่งบุญที่เคยสร้างมา แต่ด้วยความที่ไม่เคยสนใจที่จะพัฒนาในด้านจิตใจของตนเลยจากที่ชาติก่อนเลวยังไงเกิดมาใหม่จิตใจก็เลวดังเดิม กลายเป็น “คนชั่วแต่ชีวิตดีและสุขสบาย”

ในขณะที่บางคนมีศีล ๕ และกรรมบท ๑๐ ครบถ้วน ไม่ได้เบียดเบียนใครเลย ประกอบสัมมาอาชีพ มีใจทรงพรหมวิหาร ๔ เป็นปกติ แต่กลับมีความอัตคัดในชีวิตความเป็นอยู่ ยากจน ขาดแคลนในมนุษย์สมบัติทุกอย่าง ถ้าเป็นไปตามเหตุแห่งบุญกรรมแสดงว่าคนประเภทนี้มุ่งเน้นแต่ในด้านรักษาศีล ฝึกจิตให้ทรงไว้ซึ่งคุณความดี ปฏิบัติภาวนา แต่...ไม่ได้สร้างทานบารมีมาในกาลก่อน เมื่อเกิดใหม่เลยมีสภาพจิตที่ดีแต่ไม่มีความสมบูรณ์ในมนุษย์สมบัติ กลายเป็น “คนดีแต่มีชีวิตที่ลำบาก”

ความเข้าใจเช่นนี้ถูกต้องหรือไม่ หากไม่ถูกแล้วสิ่งที่ถูกต้องแท้จริงเป็นอย่างไร
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 24 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ สวนกุหลาบ ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #2  
เก่า 10-05-2020, 17:26
สุธรรม's Avatar
สุธรรม สุธรรม is offline
ผู้ตรวจการณ์เว็บวัดท่าขนุน - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jun 2009
ข้อความ: 4,767
ได้ให้อนุโมทนา: 268,853
ได้รับอนุโมทนา 838,081 ครั้ง ใน 12,779 โพสต์
สุธรรม is on a distinguished road
Default

ถาม : บุคคลบางคนเกิดมาเพียบพร้อมไปด้วยมนุษย์สมบัติในทุก ๆ ด้านบริบูรณ์ไปด้วยทรัพย์สมบัติ รูปสมบัติ สติปัญญา บริวารมากมาย ชาติตระกูลสูงส่ง แต่ก็ “ชั่วร้ายเลวทราม” เบียดเบียน เอารัดเอาเปรียบ ทำร้ายและเข่นฆ่าชีวิตผู้อื่นเป็นอาจิณมาโดยตลอดชีวิตของบุคคลผู้นั้น (อดีตถึงปัจจุบันมีบุคคลประเภทนี้ให้เห็นอยู่มาก)

ที่สงสัยคือ...บุคคลใดจะเกิดมาบริบูรณ์ไปด้วยมนุษย์สมบัติได้ย่อมต้องเคยสร้างบุญมาในกาลก่อนยิ่งเกิดมาเพียบพร้อมมากย่อมต้องเคยสร้างบุญมามาก แล้วเหตุใดผู้ที่สร้างบุญมามากเช่นนี้ในด้านสภาพจิตใจกลับเลวทรามต่ำช้าไม่มีศีลมีธรรมอยู่เลยแม้แต่น้อย ?

หรือว่าการสร้างทานบารมีอันเป็นเหตุแห่งความบริบูรณ์ในมนุษย์สมบัติเป็นคนล่ะเรื่องกับการพัฒนาในด้านของจิต ? กล่าวคือคนชั่วที่ไม่เคยฝึกจิตให้อยู่ในศีลธรรม ไม่เคยรักษาศีล ไม่มีความละอายชั่วกลัวบาป ทำชั่วได้ทุกอย่างเพื่อให้ได้มาซึ่งสิ่งที่ตนต้องการ หากแต่คนคนนั้นรู้จักหมั่นให้ทานอันมีอานิสงส์ใหญ่ในเขตพระพุทธศาสนา เช่น สังฆทาน วิหารทาน ธรรมทาน สร้างพระ เจ้าภาพบวชพระ ฯลฯ เป็นต้น ก่อนตายจิตมั่นคงในบุญคือทานบารมีที่ทำ ผลแห่งทานก็ส่งผลให้เกิดมาใหม่บริบูรณ์ไปด้วยมนุษย์สมบัติตามเหตุแห่งบุญที่เคยสร้างมา แต่ด้วยความที่ไม่เคยสนใจที่จะพัฒนาในด้านจิตใจของตนเลยจากที่ชาติก่อนเลวยังไงเกิดมาใหม่จิตใจก็เลวดังเดิม กลายเป็น “คนชั่วแต่ชีวิตดีและสุขสบาย”

ในขณะที่บางคนมีศีล ๕ และกรรมบท ๑๐ ครบถ้วน ไม่ได้เบียดเบียนใครเลย ประกอบสัมมาอาชีพ มีใจทรงพรหมวิหาร ๔ เป็นปกติ แต่กลับมีความอัตคัดในชีวิตความเป็นอยู่ ยากจน ขาดแคลนในมนุษย์สมบัติทุกอย่าง ถ้าเป็นไปตามเหตุแห่งบุญกรรมแสดงว่าคนประเภทนี้มุ่งเน้นแต่ในด้านรักษาศีล ฝึกจิตให้ทรงไว้ซึ่งคุณความดี ปฏิบัติภาวนา แต่...ไม่ได้สร้างทานบารมีมาในกาลก่อน เมื่อเกิดใหม่เลยมีสภาพจิตที่ดีแต่ไม่มีความสมบูรณ์ในมนุษย์สมบัติ กลายเป็น “คนดีแต่มีชีวิตที่ลำบาก”

ความเข้าใจเช่นนี้ถูกต้องหรือไม่ หากไม่ถูกแล้วสิ่งที่ถูกต้องแท้จริงเป็นอย่างไร ?

ตอบ : ในเทวภูมิยังมีมารและอสูร นับประสาอะไรกับมนุสสภูมิ บุคคลที่มีโอกาสทำทาน ไม่ใช่ว่าจะต้องมีจิตใจดี พร้อมในการสละออกทั้งหมด มีทั้งทำทานเอาหน้า ทำทานแบบตกกระไดพลอยโจน ทำทานเพราะถูกพ่อแม่บังคับ ฯลฯ แต่บังเอิญได้เนื้อนาดี ผลรับย่อมอุดมสมบูรณ์ แต่สภาพจิตใจยังไม่ได้รับการพัฒนาตามไปด้วย เนื่องจากจิตใจนั้น ต้องขัดเกลาด้วยศีลและภาวนา ถึงจะปรากฏผลอย่างชัดเจน
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 50 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ สุธรรม ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
ตอบ


ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 1 คน ( เป็นสมาชิก 0 คน และ บุคคลทั่วไป 1 คน )
 

กฎการส่งข้อความ
You may not post new threads
You may not post replies
You may not post attachments
You may not edit your posts

BB code is ใช้ได้
Smilies are ใช้ได้
[IMG] code is ใช้ได้
HTML code is งดใช้

Forum Jump


เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 20:52



ค้นหาในเว็บวัดท่าขนุน

เว็บวัดท่าขนุน Powered by vBulletin
Copyright © 2000-2010 Jelsoft Enterprises Limited.
ความคิดเห็นส่วนตัวทุก ๆ ข้อความในเว็บบอร์ดนี้ สงวนสิทธิ์เฉพาะเจ้าของข้อความ ไม่อนุญาตให้คัดลอกออกไปเผยแพร่ นอกจากจะได้รับคำอนุญาตจากเจ้าของข้อความอย่างชัดเจนดีแล้ว