กระดานสนทนาวัดท่าขนุน


กลับไป   กระดานสนทนาวัดท่าขนุน > ห้องธรรมะพระอาจารย์ > พระครูวิลาศกาญจนธรรม (หลวงพ่อเล็ก สุธมฺมปญฺโญ) > เทศน์ช่วงทำกรรมฐาน

Notices

ตอบ
 
คำสั่งเพิ่มเติม
  #1  
เก่า 20-01-2016, 19:58
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,495
ได้ให้อนุโมทนา: 151,165
ได้รับอนุโมทนา 4,405,507 ครั้ง ใน 34,084 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default เทศน์ช่วงทำกรรมฐาน วันศุกร์ที่ ๘ มกราคม ๒๕๕๙

ให้ทุกคนตั้งกายให้ตรง กำหนดสติคือความรู้สึกของเราอยู่ที่ลมหายใจเข้าออก หายใจเข้า...ให้ความรู้สึกทั้งหมดไหลตามลมหายใจเข้าไป หายใจออก...ให้ความรู้สึกทั้งหมดไหลตามลมหายใจออกมา จะใช้คำภาวนาอะไรก็ได้ที่เรามีความถนัดมาแต่เดิม

วันนี้เป็นการปฏิบัติธรรมวันแรกของปีใหม่ แต่ว่าล่วงเลยมาจนถึงวันศุกร์ที่ ๘ มกราคม พุทธศักราช ๒๕๕๙ เนื่องเพราะว่าอาทิตย์แรกติดงานสวดมนต์ข้ามปีและบวชเนกขัมมะปฏิบัติธรรมที่วัดท่าขนุน

ปีใหม่พวกเรามักจะถือว่าเป็นวาระพิเศษ ในที่นี้ก็อยากจะให้ทุกท่านใช้วาระพิเศษในการทบทวนดูว่า ตลอดระยะเวลา ๑ ปีที่ผ่านมา การปฏิบัติใน ศีล สมาธิ ปัญญา ของเรานั้น มีความก้าวหน้าหรือไม่ ? อย่างไร ? การทบทวนนั้นจัดอยู่ในวิมังสาของอิทธิบาทธรรม คือการไตร่ตรองทบทวนอยู่เสมอว่า เราทำอะไร ? เพื่ออะไร ? ปัจจุบันนี้เรายืนอยู่ในจุดไหน ? ยังตรงต่อเป้าหมายอยู่หรือไม่ ? เหลือระยะทางห่างไกลจากเป้าหมายสักเท่าใด ? จำต้องเร่งรัดเร่งรุดไปให้ถึงเป้าหมายในระยะเวลาที่จำกัดสักเท่าไร ? เป็นต้น

ซึ่งในปัจจุบันนี้ทฤษฎีของฝรั่งต่าง ๆ ก็ได้นำเข้าไปใช้ในระบบของการบริหารองค์กร บริหารบุคคล โดยใช้ว่าการสรุปและประเมินผล ซึ่งก็คือหลักวิมังสา ซึ่งองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ได้ตรัสให้พุทธบริษัททั้งหลาย สรุปและประเมินผลตนเองมาตั้ง ๒,๕๐๐ กว่าปีแล้ว และในส่วนขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้านั้น ก็ไม่ใช่ว่าปีหนึ่งมาประเมินครั้งหนึ่ง หรือครึ่งปีประเมินครั้งหนึ่ง ๓ เดือนประเมินครั้งหนึ่งเหมือนบริษัทห้างร้านในปัจจุบัน แต่ของพระองค์ท่านอย่างน้อย ๆ ต้องประเมินด้วยการทบทวนตนเองอยู่เสมอ ๆ ภายในรอบ ๑ วันกับ ๑ คืน อย่างน้อยก็ต้องประเมินตนเอง ๒ ครั้ง ก็คือก่อนนอนกับตื่น

ก่อนนอน คือ ทบทวนว่าวันนี้เรามีศีลสิกขาบทไหนขาดตกบกพร่อง หรือบริสุทธิ์บริบูรณ์อย่างไรบ้าง ? เราได้ละเมิดศีลด้วยตนเองหรือไม่ ? เรายุยงส่งเสริมให้ผู้อื่นละเมิดศีลหรือไม่ ? เรายินดีเมื่อเห็นผู้อื่นละเมิดศีลหรือไม่ ? ถ้าข้อไหนขาดตกบกพร่อง ให้ตั้งใจว่าตั้งแต่วินาทีนี้เป็นต้นไป เราจะรักษาประคับประคองรักษาศีลของเราให้บริสุทธิ์บริบูรณ์
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 21-01-2016 เมื่อ 03:47
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 59 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #2  
เก่า 22-01-2016, 12:13
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,495
ได้ให้อนุโมทนา: 151,165
ได้รับอนุโมทนา 4,405,507 ครั้ง ใน 34,084 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ลำดับต่อไป คือ ความเคารพในพระรัตนตรัยของเราเต็มเปี่ยมอยู่หรือไม่ ? เราได้ล่วงเกินพระรัตนตรัยด้วยกาย ด้วยวาจา หรือด้วยใจบ้างหรือไม่ ? ถ้าหากว่าสติของเราหยาบ บางทีก็ไม่รู้ตัวว่าสิ่งที่กระทำลงไปนั้น เป็นการปรามาสพระรัตนตรัย ซึ่งเป็นโทษใหญ่ถึงขนาดปิดมรรคผลเลยทีเดียว

เนื่องเพราะกติกาของการเป็นพระอริยเจ้าข้อแรกเลยก็คือ ต้องเคารพพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์จากใจจริง ไม่ล่วงเกินด้วยกาย ด้วยวาจา ด้วยใจ ทั้งต่อหน้าและลับหลัง ถ้าหากว่าเรามีข้อผิดพลาด หรือถึงไม่มีแต่คาดว่าจะมี ก็ให้รีบกราบขอขมาพระรัตนตรัยเสีย อย่าปล่อยให้ข้ามคืนข้ามวัน เพราะถ้าเรามีอันเป็นไป กรรมตรงนี้จะมาตัดรอน ทำให้เราเข้าถึงความเป็นพระอริยเจ้าไม่ได้

ข้อต่อไป ก็คือ มาทบทวนว่าเราได้ระลึกถึงความตายเป็นปกติหรือไม่ ? ความตายมีกับมนุษย์และสัตว์ทุกรูปทุกนาม เกิดมาเท่าไรก็ตายหมดเท่านั้น แต่การที่เราเห็นคนและสัตว์เกิดมากกว่าตาย เพราะไม่ว่าจะคนก็ดี สัตว์ก็ดี เมื่อเกิดมาแล้วยังต้องดำรงชีวิตอยู่หลายปี

การเกิดของคนและสัตว์ใช้ระยะเวลาไม่นาน อย่างเก่งก็ ๙ เดือน ๑๐ เดือน หรือสัตว์ใหญ่ ๆ อย่างช้างก็ปีครึ่ง ๒ ปี เป็นต้น แต่ว่าเกิดมาก็เปลี่ยนแปลงแปรปรวนไปในท่ามกลาง และสลายไปในที่สุด ก็คือเข้าถึงความตายทั้งหมด แม้ว่าจะเกิดเร็วตายช้า จนดูเหมือนกับว่าเกิดมากกว่าตาย แต่ความจริงแล้ว ทุกชีวิตก้าวไปสู่ความตายเป็นปกติ องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าตรัสว่า สัตว์โลกทั้งหลาย เกิดมาเท่าไร ตายหมดเท่านั้น ดังนั้น...เราจึงไม่ควรที่จะประมาท ให้เร่งรัดการปฏิบัติธรรมของเราให้มากเข้าไว้
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 22-01-2016 เมื่อ 17:40
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 51 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #3  
เก่า 22-01-2016, 12:16
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,495
ได้ให้อนุโมทนา: 151,165
ได้รับอนุโมทนา 4,405,507 ครั้ง ใน 34,084 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

การทบทวนทั้ง ๓ หัวข้อที่ว่ามานี้ จำเป็นต้องมีอยู่อย่างน้อยวันละ ๒ รอบ ก็คือก่อนนอน ถ้าหากว่ามีข้อไหนบกพร่อง ให้ตั้งใจไว้ใหม่ว่า เราจะกระทำให้บริสุทธิ์บริบูรณ์ และตื่นนอน ต้องประคับประคองรักษาอารมณ์นี้เอาไว้ให้ดีให้ได้ ตั้งใจว่าถ้าวันนี้เราหมดอายุขัยตายลงไปก็ดี หรือเกิดอุบัติเหตุอันตรายใด ๆ ถึงแก่ชีวิตก็ตาม เราขอไปอยู่กับองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าบนพระนิพพานแห่งเดียวเท่านั้น

เมื่อตั้งอารมณ์นี้ได้แล้ว ก็ให้ภาวนาต่อไปจนกระทั่งอารมณ์ใจทรงตัวตั้งมั่นตามที่เราต้องการ ถ้าหากท่านทั้งหลายทำอย่างนี้ ทั้งก่อนนอนและตื่นนอนได้ทุกวัน อาตมาขอยืนยันว่าชีวิตนี้ ถ้าท่านตายลง สามารถไปพระนิพพานได้แน่นอน

ลำดับต่อไปให้ทุกท่านตั้งใจภาวนาและพิจารณาตามอัธยาศัย จนกว่าจะได้รับสัญญาณบอกว่าหมดเวลา


พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร.
เทศน์ช่วงทำกรรมฐาน ณ บ้านวิริยบารมี
วันศุกร์ที่ ๘ มกราคม ๒๕๕๙

(ถอดจากเสียงเป็นอักษรโดยทาริกา)
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 22-01-2016 เมื่อ 17:42
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 54 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
ตอบ


ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 1 คน ( เป็นสมาชิก 0 คน และ บุคคลทั่วไป 1 คน )
 

กฎการส่งข้อความ
You may not post new threads
You may not post replies
You may not post attachments
You may not edit your posts

BB code is ใช้ได้
Smilies are ใช้ได้
[IMG] code is ใช้ได้
HTML code is งดใช้

Forum Jump


เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 15:11



ค้นหาในเว็บวัดท่าขนุน

เว็บวัดท่าขนุน Powered by vBulletin
Copyright © 2000-2010 Jelsoft Enterprises Limited.
ความคิดเห็นส่วนตัวทุก ๆ ข้อความในเว็บบอร์ดนี้ สงวนสิทธิ์เฉพาะเจ้าของข้อความ ไม่อนุญาตให้คัดลอกออกไปเผยแพร่ นอกจากจะได้รับคำอนุญาตจากเจ้าของข้อความอย่างชัดเจนดีแล้ว