กระดานสนทนาวัดท่าขนุน


กลับไป   กระดานสนทนาวัดท่าขนุน > ห้องธรรมะพระอาจารย์ > เก็บตกจากบ้านวิริยบารมี

Notices

เก็บตกจากบ้านวิริยบารมี เก็บข้อธรรมจากบ้านวิริยบารมีมาฝาก สำหรับผู้ที่ไม่มีโอกาสเดินทางไป

ตอบ
 
คำสั่งเพิ่มเติม
  #61  
เก่า 09-10-2015, 16:36
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,488
ได้ให้อนุโมทนา: 151,147
ได้รับอนุโมทนา 4,405,327 ครั้ง ใน 34,077 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

พระอาจารย์กล่าวว่า "วันนี้อาตมาถูกหวย ไม่รู้ว่ารางวัลอะไร อยู่ ๆ คุณจารุก็เอาล็อตเตอรี่มาให้ บอกว่าถูกหวยแต่ไม่ได้ไปเบิก ก็เลยถวายล็อตเตอรี่ให้อาตมาไปขึ้นเงินเอง ป้าจี๋รับไปแทน แต่ว่าให้มากี่สตางค์อาตมาก็ไม่ได้ดูเหมือนกัน (ถูกเลขท้าย ๓ ตัวค่ะ) เคยมีคนถูกรางวัลที่ ๑ ควบเลขท้าย ๓ ตัว เพราะว่าเลขตรงกัน แต่เมื่อเอาไปขึ้นที่ร้านค้า เจ้าของร้านให้รางวัลเดียว ซึ่งความจริงต้องได้ ๒ รางวัล

สมัยเด็ก ๆ พี่ก้องเกียรติวิ่งจากโรงเรียนรวดเดียวถึงบ้านเลย ซื้อล็อตเตอรี่เอาไว้ ปรากฏว่าพอเขาประกาศผล จำได้ว่าตัวเองถูก อารามดีใจเกิดปีติขึ้นมาอีท่าไหนไม่รู้ วิ่งจากโรงเรียนรวดเดียวถึงบ้านเลย ปรากฏว่าพอไปดูแล้วไม่ถูก สลับกันเลขเดียว จำได้เพราะว่าตอนเขาประกาศรางวัลฟังดูตรงหมดทุกตัว คิดว่าใช่..เลยวิ่งกลับบ้าน อารามปีติจึงไม่เหนื่อย คาดว่าพอตรวจดูแล้วผิดนี่คงเหี่ยวไปเลย

สมัยอาตมาเด็ก ๆ ก็ไม่เข้าใจที่เขาเดินขายกัน “เรียงเบอร์ครับ เรียงเบอร์” คืออะไรวะ ? จะว่าเด็กก็ไม่เด็กมากหรอก เข้ากรุงเทพฯ มาใหม่ ๆ นี่เรียนจบ มศ. ๓ แล้ว แต่ไม่รู้หรอกว่าเรียงเบอร์คืออะไร มารู้ทีหลังว่าใบตรวจหวย ต้องบอกว่าทางโรงพิมพ์เขาฉลาด เปิดเสียงคนขานเลขพร้อมกับเรียงตัวเลขไปด้วย พอเขาประกาศเสร็จ ก็เรียงจบพิมพ์ได้เลย ต้องบอกว่าเก่งมาก ๆ เพราะเขาอ่านแค่ ๒ ครั้งเท่านั้น เพราะว่าอ่านซ้ำทางนี้ก็เรียงเสร็จพอดี

คนเรียงพิมพ์สมัยก่อนเก่งมาก เพราะไม่ใช่ระบบคอมพิวเตอร์ แต่เป็นตัวอักษรตะกั่ว ต้องจับมาเรียงแถว ๆ เขาถึงได้ใช้คำว่าเรียงพิมพ์ จัดเรียงเป็นบรรทัด ต้องจัดอะไรให้พอดี ไม่เหมือนกับสมัยนี้ คอมพิวเตอร์สั่งจัดหน้าได้หมด เพราะฉะนั้น..คนสมัยก่อนเก่ง ที่เก่งมากเลยก็คือต้องเรียงกลับด้าน พอถึงเวลาเขาพิมพ์จะได้ตรงพอดี"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 09-10-2015 เมื่อ 16:47
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 196 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #62  
เก่า 09-10-2015, 16:43
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,488
ได้ให้อนุโมทนา: 151,147
ได้รับอนุโมทนา 4,405,327 ครั้ง ใน 34,077 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

พระอาจารย์กล่าวว่า "มีคนบอกว่าประเทศไทยเราล้าหลังอาเซียนทั้งหมด ไม่น่าจะจริง เพราะตอนนี้เราเป็นผู้นำอาเซียนแล้ว ขนาดมาเลเซียยังเลียนแบบสีเหลืองสีแดงไปใช้เลย เพียงแต่อาตมาไม่ได้ติดตามข่าวว่าของเขาสีแดงฝ่ายไหน สีเหลืองฝ่ายไหน จะภูมิใจดีหรือเปล่าว่าเราเป็นผู้นำอาเซียนในสิ่งที่ไม่ได้เรื่องไม่ได้ราวสักเรื่อง ส่วนเรื่องดี ๆ กลับอวดชาวบ้านเขาไม่ได้ ไม่สามารถเป็นผู้นำเขา

ตอนบ้านเราเกิดวิกฤตเศรษฐกิจ ฝรั่งเรียกต้มยำกุ้งไครซิส คือวิกฤตการณ์ต้มยำกุ้ง แล้วก็ลามไปทั่วโลก ประเทศเราเป็นประเทศเล็ก ๆ ยังทำเอาหลายประเทศเอียงกะเท่เร่ล้มตามไป ต้องให้ IMF มาช่วยดูแล ซึ่งการดูแลของกองทุนการเงินระหว่างประเทศ ส่วนใหญ่แล้วอยู่ในลักษณะบีบบังคับให้ทำในสิ่งที่เขาคิดว่าดี ทำให้ประเทศชาติเราเสียหายเป็นแสน ๆ ล้านบาท ที่อาตมาพูดนี่ก็คือว่า หากประเทศใหญ่ ๆ อย่างสหรัฐอเมริกาเกิดวิกฤตการณ์ขึ้นมา จะมีผลกระทบขนาดไหน ? โดยเฉพาะยุโรปกับอเมริกาผูกขาติดกันโดยตรง แล้วเวลายักษ์ล้ม ประเทศเล็ก ๆ อย่างพวกเราจะพลอยแบนไปด้วยหรือเปล่า ?

สถานการณ์ประเทศชาติไม่ค่อยจะดี ช่วยกันสวดมนต์ภาวนาให้มาก ๆ เข้าไว้ โดยเฉพาะภาวนาคาถาเงินล้านให้เป็นปกติ อย่างน้อยจะได้ช่วยผ่อนหนักเป็นเบา เรื่องเบาจะได้หาย ถ้าหากว่าเรื่องดีจะได้ดียิ่ง ๆ ขึ้นไป"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 09-10-2015 เมื่อ 16:49
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 209 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #63  
เก่า 09-10-2015, 16:52
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,488
ได้ให้อนุโมทนา: 151,147
ได้รับอนุโมทนา 4,405,327 ครั้ง ใน 34,077 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default



พระอาจารย์กล่าวว่า "เสื้อกระโถนข้างธรรมาสน์รุ่นนี้ อาตมาเลือกสีเอง หมอดูเขาบอกว่าสีนี้ถูกโฉลกกับวันเกิดอาตมา ลองดูว่าใส่กันเยอะ ๆ แล้วจะช่วยอะไรได้บ้าง

อาตมาไม่เชื่อเรื่องแบบนี้ เชื่อบุญเก่า กรรมเก่าที่เราทำมา ถ้าเราทำบุญเอาไว้ดี เรื่องดี ๆ ก็จะเกิดขึ้นในชีวิตของเราเอง ตำราพรหมชาติท่านดูเอาไว้ค่อนข้างจะแม่นยำ ท่านว่า
สิทธิการิยะ หญิงชายใดเกิดวันอาทิตย์ จิตนั้นพลันมักง่าย ทำบุญแก่ใครเหมือนไฟตกน้ำ สร้างบุญคุณไปเถอะ คนเขาไม่เห็นความดีหรอก
เจรจาเลิศล้ำ ไม่มีความผิด จะได้ดีเพราะคำพูด
น้ำใจซื่อตรง คงสัตย์ต่อมิตร รักง่ายใจจิต ไม่คิดเสียดาย เป็นคนรักเพื่อนฝูงมีน้ำใจซื่อสัตย์
ถ้อยความมาต้อง ถึงสองสามราย ร้ายแล้วกลับกลายคืนดีภายหลัง จะเกิดคดีความ เกิดเรื่องเกิดราวอย่างน้อย ๒-๓ ครั้งในชีวิต แต่ว่าจะเปลี่ยนจากร้ายเป็นดีทุกที
เมื่อน้อยไร้ทรัพย์ เมื่อโตกลับมั่งคั่งสมบูรณ์ แสดงว่าโตขึ้นแล้วถึงจะรวย เด็ก ๆ จะยากจน

แต่ถ้านับพื้นฐานดวงแล้ว คนเกิดวันอาทิตย์ที่อยู่ไม่ถึง ๘๐ ปีไม่รวยหรอก เพราะดาวศุกร์ที่เป็นดาวเงินมาทีหลังสุด ต้องเป็นอาทิตย์ จันทร์ อังคาร พุธ พฤหัส เสาร์ ราหู แล้วถึงจะศุกร์ ดาวศุกร์ที่เป็นดาวเงินมาช้าที่สุด คนที่เกิดมาแล้วรวยง่ายที่สุดคือวันศุกร์ เกิดมาดาวเงินก็เข้าเลย"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 09-10-2015 เมื่อ 19:43
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 205 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #64  
เก่า 09-10-2015, 16:55
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,488
ได้ให้อนุโมทนา: 151,147
ได้รับอนุโมทนา 4,405,327 ครั้ง ใน 34,077 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

"เรื่องของโหราศาสตร์อย่าเชื่อถือมากนัก ในขณะเดียวกันก็อย่าลบหลู่ เพราะว่าทางพราหมณ์เขาเก็บสถิติต่อเนื่องมาเป็นพัน ๆ ปี ว่าคนที่เกิดในวันเดือนปีอย่างนี้ ๆ ถึงเวลาถึงวาระอายุเท่านั้นเท่านี้ จะมีเรื่องอย่างนี้ ๆ ขึ้น ซึ่งก็คือเรื่องของบุญของกรรมที่เคยทำไว้ส่งผลนั่นแหละ คนที่เกิดมาใกล้เคียงกัน ก็ทำบุญทำบาปมาใกล้เคียงกัน เรื่องราวที่เกิดขึ้นจึงคล้าย ๆ กัน

ในเมื่อสถิติที่เขาเก็บต่อเนื่องมาเป็นพัน ๆ ปี สรุปลงมาเป็นศาสตร์ก็คือโหราศาสตร์แล้ว ก็เป็นเรื่องที่พอจะเชื่อถือได้ แต่ว่าเต็มที่ก็ได้สัก ๖๐ เปอร์เซ็นต์ ถ้าใช้ทิพจักขุญาณ มีความสามารถจริง ๆ ก็จะได้ถึง ๘๐ เปอร์เซ็นต์ ถ้าถามว่าขนาดทิพจักขุญาณทำไมไม่ถึง ๑๐๐ เปอร์เซ็นต์ ? ก็เพราะว่ามี ๒๐ เปอร์เซ็นต์ที่กำลังใจเกินมนุษย์มนาทั่วไป เรื่องของคำทำนายทายทักไม่มีประโยชน์ เพราะว่าท่านทั้งหลายเหล่านี้บ้า ๆ บอ ๆ กำลังใจเกินมนุษย์มนา ต่อให้ใครบอกว่าไม่ดีก็จะเอาให้ดีให้ได้

ส่วนใหญ่ท่านทั้งหลายเหล่านี้มาสายพุทธภูมิ ปรารถนาจะบรรลุเป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์ใดพระองค์หนึ่งในอนาคต กำลังใจจะมากล้นเกินคนปกติ วิชาโหราศาสตร์จึงใช้กับท่านเหล่านี้ไม่ได้"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 09-10-2015 เมื่อ 19:45
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 208 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #65  
เก่า 09-10-2015, 18:38
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,488
ได้ให้อนุโมทนา: 151,147
ได้รับอนุโมทนา 4,405,327 ครั้ง ใน 34,077 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

พระอาจารย์กล่าวว่า "รูปหลวงพ่อวัดท่าซุงรูปนี้เกิดจากหลวงพี่อาจินต์ อาตมาก็ทำรูปลักษณะนี้แหละ เป็นกล่องไฟเล็ก ๆ โตประมาณกระเป๋าเอกสาร พอช่างมาส่ง หลวงพี่อาจินต์ก็บอกว่า "เฮ้ยเล็ก...สวยจังว่ะ ขอพี่เถอะ" อาตมาก็ "อ้าว...ไหงเป็นอย่างนั้นล่ะ ?" "เออน่ะ...แกเอาของพี่ไป" แล้วท่านเอารูปที่ม้วนอยู่ส่งมาให้ ด้วยความซื่ออาตมาก็ไม่รู้ว่าท่านม้วนทางด้านกว้าง เห็นว่าใหญ่กว่าของเราไม่เท่าไร ก็ส่งให้ช่างเขาไปทำให้ใหม่

สรุปว่าช่างต้องเอารถกระบะขนรูปนี้มาให้ อาตมาเห็นก็ตกใจ เพราะว่าบรรทุกมารูปเดียวล้นคันเลย ถามทำไมใหญ่อย่างนี้ ? ช่างเขาบอกว่าก็ใหญ่เท่านี้แหละครับ ยังโชคดีที่อาตมาภาวนาคาถาเงินล้านขึ้นตั้งแต่แรก ก็เลยมีเงินจ่าย คิดดูว่าปลายปี ๒๕๓๕ ต้นปี ๒๕๓๖ รูปนี้ราคา ๓๐,๐๐๐ บาท ปัจจุบันนี้ ๕๐,๐๐๐ บาท ทำได้หรือเปล่าก็ไม่รู้

นาน ๆ จะเปิดไฟเสียทีหนึ่ง ชมกันให้ชื่นใจ เพราะว่าข้างในมีหลอดสั้นตั้ง ๘ หลอด ขืนเปิดทุกวันจ่ายค่าไฟตายเลย"
รูป
ชนิดของไฟล์: jpg 4788.jpg (92.6 KB, 335 views)
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 09-10-2015 เมื่อ 19:48
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 209 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #66  
เก่า 09-10-2015, 18:59
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,488
ได้ให้อนุโมทนา: 151,147
ได้รับอนุโมทนา 4,405,327 ครั้ง ใน 34,077 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

พระอาจารย์กล่าวกับโยมว่า "ให้ลูกกินนมเยอะ ๆ แม่จะได้ผอมลง ส่วนใหญ่ที่ท้องแล้วอ้วนเพราะไม่ให้ลูกกินนม เขาอ้วนเพราะว่าเตรียมให้ลูกกิน พูดง่าย ๆ คือธรรมชาติให้ร่างกายสะสมไว้เผื่อเด็ก แต่ปรากฏว่าคนเป็นแม่กลับไม่ให้ลูกกินนม ไปกินนมกระป๋องนี่บรรลัยเลย เด็กคลอดใหม่ ๆ มาอย่าให้กินนมกระป๋องเด็ดขาด เพราะถ้ากินนมกระป๋องแล้ว น้อยคนจะยอมกินนมแม่ เพราะนมกระป๋องหวานกว่า เด็กติดรสหวานไปแล้ว"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 09-10-2015 เมื่อ 19:49
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 210 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #67  
เก่า 09-10-2015, 20:40
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,488
ได้ให้อนุโมทนา: 151,147
ได้รับอนุโมทนา 4,405,327 ครั้ง ใน 34,077 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

พระอาจารย์กล่าวถึงวัตถุมงคลต่อไปที่จะสร้างว่า "บาตรน้ำมนต์ฉลองอายุ ๕ รอบที่จะสร้าง เอาขนาดปากบาตร ๖ นิ้ว จะได้ใหญ่สะใจหน่อย ทำสัก ๖๐ ใบเท่าอายุก็พอ ให้แย่งจนเหยียบกันตายไปเลย ครอบน้ำมนต์วัดอื่นเขาทำเล็ก ๆ ของเราจะไปขี้เหนียวทำไม ? ทำใบใหญ่ ๆ ไปเลย ใครอยากได้ก็เก็บเงินไว้ ราคาน่าจะเป็นแสนเพราะนวโลหะมีทองคำผสมเยอะ แล้วของมีน้อย ถึงเวลาแย่งกันจองให้หัวทิ่มอยู่ตรงนั้นแหละ"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 10-10-2015 เมื่อ 02:06
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 211 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #68  
เก่า 09-10-2015, 20:45
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,488
ได้ให้อนุโมทนา: 151,147
ได้รับอนุโมทนา 4,405,327 ครั้ง ใน 34,077 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

พระอาจารย์กล่าวว่า "สรุปว่าปีนี้คุณเต้ยรับเป็นเจ้าภาพผ้ากฐินปลดหนี้ที่เนปาลกัน ใครจะร่วมบุญด้วยไปทำที่คุณเต้ย อาตมาจะได้ไม่ต้องเอาผ้าไปเอง ถ้าหากว่าลืมก็จะจับพวกเราที่ไปด้วยนั่นแหละ สละผ้าคนละชิ้นแล้วเย็บกันตรงนั้นเลย...!

งานนี้คุณนวลจันทร์ เพียรธรรม เจ้าของเอ็นซี ทัวร์ ไปสำรวจพื้นที่มาแล้ว แจ้งให้ทราบว่าเขาบูรณะจวนจะสมบูรณ์แล้วสำหรับสิ่งที่พัง ๆ ไปตอนแผ่นดินไหว ก็แปลว่าถ้าไปก็มีให้ดู"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 10-10-2015 เมื่อ 02:08
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 214 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #69  
เก่า 09-10-2015, 20:47
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,488
ได้ให้อนุโมทนา: 151,147
ได้รับอนุโมทนา 4,405,327 ครั้ง ใน 34,077 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

พระอาจารย์กล่าวว่า "งานวัดท่าขนุนเดือนนี้ก็มีเป่ายันต์เกราะเพชรวันที่ ๑๗ ตุลาคม บวงสรวงตอน ๐๗.๓๐ น. เป่ายันต์รอบแรก ๑๐.๐๐ น. รอบบ่าย ๑๓.๐๐ น. คาดว่ารอบบ่ายคงแทบไม่มีใครเหลือ แต่ก็ต้องทำเพราะว่าท่านที่ไม่ได้มา เขารอรับกันตามเวลาอยู่ทางบ้าน

วันที่ ๒๘ ตุลาคม มีกฐินกับตักบาตรเทโวฯ ตักบาตรเทโวฯ ช่วงเช้า ทอดกฐินตอนบ่ายโมง อาตมาจะเข้ากรรมฐานก่อนกฐิน ๓ วัน ก็คงจะเป็นวัน ๑๓ –๑๕ ค่ำ ออกมารับบาตรเทโวฯ พอดี จะเดินไหวหรือเปล่าก็ไม่รู้ ? ไม่เป็นไรหรอก...พระท่านสั่งก็ทำไป ถ้าตกเขาตายก็จบ ...(หัวเราะ)...

ต้องเริ่มเข้ากรรมฐานวันที่ ๒๕ ไปออกเช้ามืดวันที่ ๒๘ ที่อื่นเขาทำบุญถวายทานกับพระออกกรรมฐาน ของเราถวายกฐินกับพระออกกรรมฐาน จะเก็งกำไรเยอะไปหรือเปล่า ? กลัวอย่างเดียวว่าจะไปเป็นลม
ขายหน้าเขาตอนเดินรับบาตร ถ้ารับกฐินไม่กลัวหรอกเพราะนั่งอยู่กับที่ ตอนรับบาตรเดิน ๆ แล้วล้มตึงไปนี่ขายหน้าชาวบ้านเขา"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 10-10-2015 เมื่อ 02:10
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 216 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #70  
เก่า 10-10-2015, 14:15
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,488
ได้ให้อนุโมทนา: 151,147
ได้รับอนุโมทนา 4,405,327 ครั้ง ใน 34,077 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

พระอาจารย์กล่าวว่า "ฉบับหน้าจะมี "อีหรอบเดียวกัน" ลงในกระโถนข้างธรรมาสน์ จนป่านนี้แล้วหลายคนยังไม่รู้เลยว่าอีหรอบคืออะไร ? ก็คือยุโรปนั่นแหละ แต่รุ่นปู่ย่าตาทวดเราสมัยรัชกาลที่ ๕ รัชกาลที่ ๖ อ่านว่าอีหรอบ สมัยก่อนเขาออกเสียงไม่เหมือนเรา อย่างโทรเลข เทเลกราฟ เขาเรียก ตะแล็บแก๊บ สถานี สเตชั่น เขาเรียก กะเตชั่น แล้วสมัยนี้เขาเป็นอียู รวมกันเป็นประชาคมยุโรป ก็เลยเป็นอีหรอบเดียวกัน"

ถาม : อ่านอีหรอบเดียวกันไม่ทันใจเลย ?
ตอบ : คนเขียนก็เขียนปางตาย หนักแรงมาก เพราะต้องนึกภาพย้อนหลังไปว่าตอนนั้นมีอะไรเกิดขึ้น หลายคนบอกว่าใส่รายละเอียดได้เหมือนกับไปเห็นด้วยตนเองเลย ถ้าหากคุณเขียนอย่างผม คุณก็เห็นด้วยตัวเองเหมือนกันแหละ เรื่องพวกนี้หลวงพ่อวัดท่าซุงท่านสอนเอาไว้ บอกว่าเป็นการซักซ้อมอตีตังสญาณ ซักซ้อมทิพจักขุญาณ ให้หมั่นทำเอาไว้ จะได้แจ่มใสชัดเจน ก็ไม่เห็นลูกศิษย์ท่านจะทำสักกี่คนเลย

ไปนึกถึงปลัดน้อย (พระอภิชัย สุธมฺมธมฺโม) คือนายอภิชัย นุตาลัย ในปัจจุบันนี้ มาถึงก็ "เฮ้ยเล็ก...ยืมหนังสือเล่มนี้หน่อย" "มึงยืมไปแล้วกูจำได้" "นั่นแหละกูจะอ่านอีก" "แล้วอ่านไปทำไม ?" "กูลืมไปแล้ว กูอ่านแล้วไม่ได้จำ กูอ่านเมื่อไรก็สนุกเมื่อนั้น มึงอ่านแล้วจำได้ ไม่สนุกหรอก"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 10-10-2015 เมื่อ 20:35
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 196 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #71  
เก่า 10-10-2015, 14:20
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,488
ได้ให้อนุโมทนา: 151,147
ได้รับอนุโมทนา 4,405,327 ครั้ง ใน 34,077 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : หนูอ่านเพชรพระอุมาสามรอบแล้วค่ะ ?
ตอบ : สมัยอาตมาทำงานที่โรงงานไทยญี่ปุ่นเมตัลอุตสาหกรรม พอหลังอาหารกลางวัน มีหน้าที่เล่าเพชรพระอุมาให้เพื่อนฟัง โอ้โห...ล้อมวงกันดีแท้ ถ้าเก็บเงินนี่รวยเลย คนงาน ๗๐-๘๐ คนนั่งฟัง อาตมาก็เล่าให้เขาฟังเหมือนกับอ่านหนังสือ เขาถามจำได้ขนาดนี้เลยหรือ ? ก็จำได้นี่หว่าจะให้ทำอย่างไรเล่า ?

เพราะว่าอ่านเพชรพระอุมาเป็นตอน ๆ ในจักรวาลรายสัปดาห์ อ่านเป็นเล่มเล็ก ๆ ขนาดใส่กระเป๋าเสื้อได้ เล่มละ ๖ สลึง ๒ บาท แล้วก็มาอ่านปกแข็งรวมเล่ม ๑๘ เล่ม ปกแข็งรวมเล่ม ๒๒ เล่ม ปกแข็งรวมเล่ม ๒๔ เล่ม อ่านทุกชุด ตอนช่วงนั้นปกแข็งรวมเล่มราคาหน้าปก ๓๕ บาท แล้วลดครึ่งราคาเหลือ ๑๗.๕๐ บาท ต้องเก็บเงินได้ค่าแรงวันละ ๒๕ บาท ถึงเวลาค่าแรงออกอาทิตย์หนึ่งก็ซื้อเล่มหนึ่ง บอกเจ้าของร้านไว้เลยว่า เล่มต่อไปห้ามขายให้ใครนะ อาทิตย์ต่อไปจะมาซื้อ เขาเห็นว่าติดตามจริงก็เลยเก็บไว้ให้ เพราะปกติถ้าเล่มไหนโดนดึงออกจากชุด คนซื้อยกชุดก็ไม่ซื้ออยู่แล้ว อ่านมากขนาดนั้นจะไม่ให้จำได้ทุกตัวอักษรได้อย่างไร
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 10-10-2015 เมื่อ 20:37
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 200 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #72  
เก่า 10-10-2015, 19:14
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,488
ได้ให้อนุโมทนา: 151,147
ได้รับอนุโมทนา 4,405,327 ครั้ง ใน 34,077 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : วัดอยู่ทองผาภูมิหรือครับ ?
ตอบ : อยู่อำเภอทองผาภูมิ จังหวัดกาญจนบุรี ไกลหน่อย วิ่งมาที่นี่อย่างเร็ว ๆ ก็ ๓ ชั่วโมงครึ่ง อย่างช้าก็ ๔ ชั่วโมงกว่า ประมาณ ๒๘๐ กิโลเมตร

สมัยก่อนธุดงค์ไปที่นั่นก็ชอบใจพื้นที่ แล้วไปศึกษาความรู้จากหลวงพ่ออุตตมะบ้าง หลวงปู่สายบ้าง หลวงพ่อลำใยบ้าง ท่านก็เมตตาสอนให้ ใครจะนึกว่าไป ๆ มา ๆ จะได้เป็นเจ้าอาวาสวัดหลวงปู่สาย หลวงปู่สายมรณภาพปีเดียวกับหลวงพ่อวัดท่าซุงเลย และก่อนเดือนครึ่งด้วย ท่านมรณภาพ ๑๔ กันยายน ช่วง ๑๐๐ วันของท่านอาตมาก็วิ่งไปวิ่งมาอยู่ ๒ วัด สวดพระอภิธรรมถวายหลวงพ่อวัดท่าซุงเสร็จตอน ๒ ทุ่มครึ่ง ก็วิ่งจากวัดท่าซุงมาวัดท่าขนุน ทำบุญเช้าวัดท่าขนุนเสร็จก็วิ่งกลับวัดท่าซุง คนจะไม่รู้เพราะว่าวิ่งตอนกลางคืน พอเจ้าอาวาสผ่านไป ๒ รูป ลูกศิษย์ที่ทันบวชกับหลวงปู่สายไม่มีเหลือแล้ว พอถามไปถามมา เออ...อาจารย์เล็กยังอยู่ เคยเรียนวิชากับหลวงปู่ เขาก็เลยมานิมนต์ไปเป็นเจ้าอาวาส


ถาม : ที่วัดเป่ายันต์เกราะเพชรด้วยหรือครับ ?
ตอบ : ก็ไม่นึกว่าจะได้ทำ เพราะตอนที่ครอบครูเป่ายันต์เกราะเพชรมีตั้ง ๙ รูป แล้วอาตมาอาวุโสเกือบน้อยที่สุด ตอนครอบครูเพิ่งจะ ๗ พรรษา มีรุ่นน้องอีกรูปหนึ่ง ๒ พรรษาเอง ปรากฏว่ารุ่นน้อง ๒ พรรษาสึกไปแล้ว รุ่นพี่ก็สึกไปหลายคน ที่อยู่ส่วนใหญ่ออกมาข้างนอกหมด อย่างหลวงพี่วิรัชออกมา อาตมาออกมา หลวงตาวัชรชัยออกมา ก็ ๓ รูปแล้ว ท่านน้อยก็สึก ท่านชาติชายก็สึก ไม่รู้เหมือนกันว่าที่เหลือมีใครบ้าง ?

ถาม : หลวงพี่วัชรชัย ?
ตอบ : ท่านออกมาแล้ว ออกมาหลังอาตมาปีเดียว ท่านไปอยู่สระบุรีจนกระทั่งเป็นเจ้าคณะอำเภอ เพิ่งจะลาออกจากตำแหน่งเจ้าคณะอำเภอ อาตมาก็ลาออกจากเจ้าคณะตำบลมาทีหนึ่ง นี่โดนจับยัดให้เป็นใหม่อีกแล้ว

หลวงตาท่านลาออกจากตำแหน่งเจ้าคณะตำบลเขาวง เจ้าคณะจังหวัดเซ็นให้ทันทีเลย นึกว่าใจดีปล่อยให้พัก ที่ไหนได้..ตั้งให้เป็นรองเจ้าคณะอำเภอต่อ ท้ายสุดก็ขึ้นเป็นเจ้าคณะอำเภอ

กลายเป็นว่าที่เหลืออยู่ในวัดแทบจะไม่มีตัวแล้ว อาตมาก็อาวุโสน้อยมาก แต่ทำไมท่านสั่งให้เป่ายันต์ฯ ? มาตอนนี้เลิกสงสัยแล้ว หลังจากที่เคยคุย ๆ กับบรรดาพี่ ๆ เขาบอกว่า คนที่หลวงพ่อจะใช้งานต้องติดต่อกับท่านได้ พวกที่ไม่ค่อยมั่นใจตัวเองท่านก็เลิกใช้
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 10-10-2015 เมื่อ 20:41
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 209 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #73  
เก่า 10-10-2015, 20:22
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,488
ได้ให้อนุโมทนา: 151,147
ได้รับอนุโมทนา 4,405,327 ครั้ง ใน 34,077 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

พระอาจารย์กล่าวว่า "เด็กรุ่นใหม่รู้หรือไม่ว่าสารทไทยตรงกับสิ้นเดือน ๑๐ ? โบราณเขาว่า "ตรุษ ๔ สงกรานต์ ๕ สารท ๑๐" ก็คือวันตรุษไทยจะตรงกับสิ้นเดือน ๔ สงกรานต์ตรงกับกลางเดือน ๕ สารทไทยตรงกับสิ้นเดือน ๑๐ คราวนี้คนฟังไปตีความเพี้ยน ไปตีความว่าวันตรุษไทยให้ทำบุญ ๔ วัน สงกรานต์ให้ทำบุญ ๕ วัน สารทไทยทำบุญ ๑๐ วัน

หลวงพ่อวัดท่าซุงบอกว่า "โคตรแม่มึงทำไปคนเดียวเถอะ กูไม่ทำกับมึงหรอก ทำบุญตั้ง ๑๐ วัน พระไม่ต้องทำอะไรกันพอดี" คนที่ตีความผิดคืออดีตมัคคนายกวัดท่าซุง อาจารย์สง่า สาโรจน์ อะไรที่ยืดเยื้อเยิ่นเย้อ เสียเวลาทำมาหากินชาวบ้านเขา จะทำบุญตั้ง ๑๐ วัน ก็ทำไปคนเดียวเถอะ การทำบุญนะดี แต่ถ้าทำลักษณะนั้นเดือดร้อนชาวบ้านเขา

สารทไทยตรงกับสิ้นเดือน ๑๐ สิ่งที่เป็นสัญลักษณ์ของสารทไทยก็คือกระยาสารท ที่ดังมาก ๆ ไม่แน่ใจว่าเป็นกำแพงเพชรหรือเปล่า ? เพราะว่าต้องคู่กับกล้วยไข่ กระยาสารทมักจะหวานมาก กินคู่กับกล้วยไข่จะตัดรสหวานได้ ส่วนตรุษไทยนั้นจะเป็นข้าวเหนียวแดง ถ้าสงกรานต์จะเป็นกาละแม เดี๋ยวนี้พวกขนมประจำสารทพวกเราจำกันไม่ได้แล้ว ที่อาตมาจำแม่นเพราะตอนเด็ก ๆ ต้องรอ ถ้าไม่มีตรุษ ไม่มีสารท ก็ไม่มีขนมกิน บ้านที่ฐานะไม่ดี ปีหนึ่งทำขนม ๒-๓ ครั้งก็ถือว่ามากแล้ว กว่าจะได้กินอีกทีก็โน่น หน้าลงแขกเกี่ยวข้าว ทำขนมเลี้ยงแขก ส่วนใหญ่ก็เป็นลอดช่องน้ำกะทิ ก็กินกันได้กินกันดีเหมือนกัน เพราะไม่มีอะไรจะกิน

ลงแขกเกี่ยวข้าวเป็นประเพณีที่ดีงาม แสดงออกถึงความสามัคคีของชาวบ้าน ไม่ว่าจะหมู่บ้านเดียวกัน หรือหมู่บ้านอื่น สมัยก่อนเขาใช้คำว่า "เอาแรงกัน" เวลาบ้านเขาเกี่ยวข้าวเราก็ไปช่วย ถึงเวลาเวลาบ้านเราเกี่ยวข้าวบ้านเขาก็มาช่วยคืน ถึงได้เรียกว่า "ลงแขก" คือเรียกแขกช่วยกันลงนาเกี่ยวข้าว มะรุมมะตุ้มพักเดียวก็เสร็จ แต่ความหมายของคำว่าลงแขกสมัยหลัง กลายเป็นรุมข่มขืนผู้หญิงไป อะไรที่เก่า ๆ หลัง ๆ ก็กลายเป็นเพี้ยนไป โบราณถึงบอกว่า ของกินถ้าไม่ได้กินก็เน่า เรื่องเล่าถ้าไม่ได้เล่าก็ลืม"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 10-10-2015 เมื่อ 20:44
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 195 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #74  
เก่า 10-10-2015, 20:26
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,488
ได้ให้อนุโมทนา: 151,147
ได้รับอนุโมทนา 4,405,327 ครั้ง ใน 34,077 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

พระอาจารย์กล่าวว่า "โดยปกติถ้าเป็นเดือนตุลาคมก่อนหน้านี้ ลมหนาวจะเริ่มมาแล้ว โบราณเขาเรียกว่าลมข้าวเบา ก็คือ ถ้าลมเย็นพัดมาข้าวจะเริ่มสุก ข้าวเบาคือข้าวที่มีอายุน้อย โตเร็ว สุกง่ายกว่า กระทบลมหนาวที่ยังไม่หนาวจริงก็เริ่มสุกแล้ว

สมัยเด็ก ๆ ชาวกรุงเทพฯ พอถึงเดือนตุลาคมก็ไปสักการะพระบรมรูปทรงม้าของในหลวงรัชกาลที่ ๕ ต้องใส่เสื้อกันหนาวไป งานพระบรมรูปฯ จึงเป็นงานอวดเสื้อกันหนาวของปี"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 10-10-2015 เมื่อ 20:45
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 200 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #75  
เก่า 12-10-2015, 12:14
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,488
ได้ให้อนุโมทนา: 151,147
ได้รับอนุโมทนา 4,405,327 ครั้ง ใน 34,077 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : หลวงพ่อถาวร วัดปทุมวนาราม ท่านเส้นโลหิตในสมองแตกนอนอยู่โรงพยาบาลครับ ?
ตอบ : ไม่เห็นมีข่าวบ้างเลย ตอนปี ๒๕๓๒ ท่านยังเป็นพระมหาถาวร จิตฺตถาวโร ท่านไปกราบหลวงพ่อวัดท่าซุงในงานพระราชทานเพลิงศพหลวงปู่มหาอำพัน พอท่านกราบลงหลวงพ่อวัดท่าซุงก็บอกว่า “มาถูกทางแล้ว ไปตามทางนั้นแหละ” รู้สึกว่าท่านดีใจมาก ท่านกราบแล้วก็ไปนั่งข้างหลังเลย ท่านคงตั้งใจมาจากวัดเลยเพื่อที่จะมาถาม พอกราบลงหลวงพ่อวัดท่าซุงท่านก็บอกเลยว่ามาถูกทางแล้ว พอหลวงพ่อวัดท่าซุงมรณภาพ ท่านเป็นพระเถระรูปแรก ๆ ที่ไปคารวะศพ

พออาตมาเจอหน้าท่าน รื้อฟื้นความหลังท่านก็จำได้ทันที แต่ก็อย่างว่า..อาตมาเดินคู่กับท่านแล้วน่าเกลียด เพราะท่านสูงไม่ถึงไหล่ ถ้าท่านนั่งอยู่จะรู้สึกว่าองค์ท่านใหญ่ แต่พอยืนแล้วเหลือนิดเดียว

ตอนนี้ท่านเส้นโลหิตในสมองแตก นอนไม่ได้สติอยู่ที่โรงพยาบาลตำรวจมาเป็นเดือนแล้ว ข่าวคราวก็ไม่ออกเลย ท่านไปสร้างวัดถวายในหลวงอยู่ที่สระบุรี ถ้าจำไม่ผิดน่าจะชื่อวัดมงคลชัยพัฒนา
อยู่ที่ ต.ห้วยบง อ.เฉลิมพระเกียรติ จ.สระบุรี เคยแวะเยี่ยมท่านที่โน่นครั้งหนึ่ง ครูบาอาจารย์ก็เจ็บไข้ได้ป่วยล่วงลับกันไปเรื่อย ๆ ที่เหลืออยู่ก็โตไม่ทันใช้ โดยเฉพาะทางกาญจนบุรี
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 12-10-2015 เมื่อ 17:58
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 190 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #76  
เก่า 12-10-2015, 12:19
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,488
ได้ให้อนุโมทนา: 151,147
ได้รับอนุโมทนา 4,405,327 ครั้ง ใน 34,077 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ที่กาญจนบุรีเดี๋ยวนี้พระเกจิอาจารย์เด่น ๆ แทบจะไม่มีเลย พอสิ้นหลวงพ่อลำใย หลวงพ่ออุตตมะแล้วก็เงียบสนิท ที่ดังขึ้นมาก็ดังเฉพาะพื้นที่อย่างหลวงปู่ทองศุข วัดท่าตะคร้อก็เพิ่งมรณภาพไป พระอาจารย์วัชระ วัดถ้ำแฝดก็โดนอธิกรณ์จนต้องลาออกจากตำแหน่งเจ้าอาวาสไป พระอาจารย์วัชระนั่นอบรมเจ้าอาวาสรุ่นเดียวกับอาตมา

เรื่องของผู้หญิง ถ้าพระเราไม่รู้จักระมัดระวังจะเสียหายง่ายมาก เพราะคนมักจะจ้องจับผิดอยู่แล้ว ท่านเองไปเที่ยวต่างประเทศ ที่เขาถ่ายรูป คนถ่ายอ้างว่าเดินจับมือกันไป แต่จากรูปที่ออกมาเป็นรูปที่ถ่ายทางผู้หญิงซึ่งบังองค์ท่านอยู่ เห็นแต่ศีรษะ แล้วจะรู้หรือว่าจริงอย่างนั้นหรือเปล่า ? แต่ท่านก็ดี..พอมีเรื่องขึ้นมา เจ้าคณะอำเภอบอกให้ลาออกเสียก่อน พอเรื่องซาแล้วค่อยว่ากันเรื่องตำแหน่งใหม่ ท่านก็ลาออก ไม่อย่างนั้นวัน ๆ คนก็แห่ไปหาท่านเยอะแยะ เพราะว่าท่านสาวน้ำตาเทียนดูโชคชะตาให้

รู้สึกว่าถ้าเป็นพระหมอดูนี่คนจะขึ้นเยอะ เพราะต้องการที่พึ่ง อาตมาเลิกดูหมอได้นี่โล่งใจไปเลย ตอนนี้วัดใกล้ ๆ กันก็คือวัดอู่ล่อง แต่เดิมก็คือสำนักสงฆ์โชคผาสุกิจ ต้องบอกว่าเป็นคู่เขยกัน ท่านเป็นเจ้าคณะตำบลท่าขนุนเขต ๑ อาตมาเป็นเจ้าคณะตำบลท่าขนุนเขต ๒ ตำบลอื่นอิจฉาเพราะว่าในอำเภอทองผาภูมิแล้ว ๒ รูปนี้มีโยมไปหามากที่สุด ทางด้านโน้นเขาจะดูหมอ พอดูแล้วท่านจะให้โยมมาแก้บนที่วัดท่าขนุน น่าฆ่าให้ตาย...!

ที่มาแก้บนวัดท่าขนุนก็คือต้องมาจุดเทียนบูชาพระที่วัดท่าขนุน แล้วน่าจะประมาณเทียนเท่าอายุ เขาก็จะปักเต็มถาดแล้วจุดไปวางไว้บนพรมในโบสถ์ อาตมาเห็นแล้วร้องจ๊ากเลย บอกพระที่วัดว่าคุณอย่าไปคิดว่าอยู่บนถาดแล้วจะไม่ไหม้นะ เพราะพรมส่วนใหญ่สมัยนี้เป็นพวกใยสังเคราะห์ โดนความร้อนหน่อยก็ไหม้เหมือนกัน ท่านก็ประหลาดคนดีเหมือนกัน ดูหมอที่วัดแต่ให้เขามาแก้บนที่วัดท่าขนุน
แต่ละวันทางเราก็เก็บเศษเทียนไปเถอะ
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 12-10-2015 เมื่อ 15:05
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 191 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #77  
เก่า 12-10-2015, 14:48
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,488
ได้ให้อนุโมทนา: 151,147
ได้รับอนุโมทนา 4,405,327 ครั้ง ใน 34,077 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

พระอาจารย์กล่าวกับพระที่จะไปเป็นอาจารย์สอนพระนิสิตว่า "ถ้าไปเป็นอาจารย์สอนก็ให้ใช้หลักแบบผม เรื่องวิชาการใครก็ยัดให้เขาได้ แต่เรื่องของคุณธรรมเราจะทิ้งไม่ได้เลย คุณจะสังเกตว่าทำไมถึงเวลาแล้วเขาเรียกร้องให้ผมไปเป็นพระวิปัสสนาจารย์ ก็เพราะว่าเวลาผมสอนในชั่วโมง ผมจะไม่ลืมตบท้ายเกี่ยวกับเรื่องของความเป็นพระหรือพระธรรมวินัย จะเตือนสติพวกเขาไว้บ่อย ๆ เพราะว่าบางคนพอเรียนแล้วก็เหลิง เตลิดเปิดเปิงตามเพื่อนตามฝูง หรือไม่ก็ที่วัดตัวเองครูบาอาจารย์ไม่ได้อบรมเลย

ในเมื่อไม่ได้อบรมเลย พอถึงเวลาผมบอกว่าอะไรถูกอะไรควร อะไรไม่ถูกไม่ควร จะต้องปฏิบัติอย่างไร เขาเองได้ประโยชน์กันเยอะ ถึงเวลาก็ไม่อยากได้พระอาจารย์ท่านอื่น ถึงได้บอกว่าเวลาผมไปนี่ เรื่องสอนผมไม่ได้ใส่ใจเท่าไรหรอก เพราะว่าวิชาการต่อให้ผมไม่สอนเขาก็ค้นคว้ากันเองได้ สำคัญที่สุดก็คือเน้นย้ำเรื่องความเป็นพระของเรา แต่ว่าถ้าไปเน้นมากก็กลายเป็นว่ายัดเยียดให้เขาจนเกินไป ทำอย่างไรที่จะพอเหมาะพอดีจึงจะสมควร"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 12-10-2015 เมื่อ 15:09
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 183 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #78  
เก่า 12-10-2015, 15:23
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,488
ได้ให้อนุโมทนา: 151,147
ได้รับอนุโมทนา 4,405,327 ครั้ง ใน 34,077 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : ผมอ่านในธรรมบท สำรับกับข้าวที่จัดไว้ถวายพระแล้วมีแมวแอบคาบไปกิน จะมีโทษแบบกากเปรตไหมครับ ?
ตอบ : ก็เป็นวิฬารเปรต เขามีกากเปรตอันนี้ก็ต้องเป็นวิฬารเปรต ดูท่าจะหนักกว่ากากเปรตนะ กากเปรตเขายังไม่ถวายพระ แต่กรณีนี้ถวายแล้ว แต่ก็อย่างว่าแหละ..เรื่องของสัตว์โทษไม่หนักเท่าคน ถ้าเป็นคนก็ลงอเวจีมหานรกเลย สัตว์ไปแค่เปรต ถ้าเมตตาก็ช่วยกันให้เขาหน่อย เอาฝาชีอะไรมาครอบไว้

สัตว์เขาถือว่าสิ่งที่เขาเจอเป็นของเขา ซึ่งหลักการเป็นคนละเรื่องกับคนเรา ในเมื่อเขาเจอเขาเป็นเจ้าของเขาก็จัดการสิ กลายเป็นว่าไปกินของสงฆ์เข้า
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 12-10-2015 เมื่อ 16:24
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 178 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #79  
เก่า 12-10-2015, 15:25
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,488
ได้ให้อนุโมทนา: 151,147
ได้รับอนุโมทนา 4,405,327 ครั้ง ใน 34,077 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

พระอาจารย์กล่าวว่า "วันก่อนกำลังฉันอยู่ โยมที่ดูแลเรื่องอาหารก็ยกพรวดออกไป อะไรวะ ? ถึงจะเป็นส่วนเกิน อาตมาไม่ได้ฉันก็เถอะ แต่พระยังฉันไม่เสร็จก็ไม่ใช่ของเหลือนะ ไม่ใช่ไปตีความว่า ไหน ๆ พระก็ไม่ได้ฉันแล้วจึงยกออกไปก่อน แบบนั้นก็หาเรื่องซวย ต้องฉันเสร็จแล้วจึงถือว่าเป็นวิทาสาโท คือเป็นของเหลือ แต่ถ้าฉันไม่เสร็จ เห็นว่าอย่างไรพระก็เอื้อมไม่ถึงแล้วยกออกเลย คนกินต่อก็ซวยไป

ทำอะไรไม่ค่อยจะถาม ตัดสินใจเอาเองโดยพลการ ตัดสินใจทีไรโดนทุกทีแหละ..!"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 12-10-2015 เมื่อ 16:25
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 190 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #80  
เก่า 12-10-2015, 18:34
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,488
ได้ให้อนุโมทนา: 151,147
ได้รับอนุโมทนา 4,405,327 ครั้ง ใน 34,077 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : พระที่โดนอาบัติสังฆาทิเสสมาแล้วมาบอกเรา จะถือว่ายังปกปิดอยู่ไหมครับ ?
ตอบ : เขาบอกเรา เราก็รายงานต่อสิครับ จริง ๆ แล้วมาบอกเราไม่ได้ ต้องบอกท่านที่รับผิดชอบคือพระอุปัชฌาย์อาจารย์ ถ้าท่านไม่ใช่เจ้าอาวาสก็ต้องรายงานเจ้าอาวาส

ถาม : ถ้าโดนอาบัติสังฆาทิเสสแล้วระหว่างที่อยู่ปริวาสไปโดนซ้ำอีก ?
ตอบ : ปุนัปปุนัง เริ่มต้นนับใหม่

ถาม : บวชรอบหลังจะเป็นพระหรือครับ ?
ตอบ : ยังไม่ทันที่จะเก็บของเก่าเสร็จเลยก็ไปผิดซ้ำแล้ว เขาเรียกว่าปุนัปปุนัง คือโดนแล้วโดนอีก ซ้ำแล้วซ้ำอีกไม่รู้จักเข็ด ท่านก็ปรับหนักกว่าเดิมอีก ถ้าสึกไปแล้วบวชใหม่ก็ราคาดีกว่าเณรหน่อยเดียว บวชแล้วต้องรีบไปเข้าปริวาส ครบตามโทษที่ได้รับแล้ว คณะสงฆ์จะสวดอัพภานคืนความเป็นพระให้

ถาม : แล้วถ้านับใหม่ ก็คือ เอาโทษเก่ากับโทษใหม่รวมกันใช่ไหมครับ ?
ตอบ : ของเก่าเท่าไรบวกกับของใหม่อีก ๖ วัน ๖ คืน
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย เถรี : 13-10-2015 เมื่อ 10:42
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 169 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
ตอบ


ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 1 คน ( เป็นสมาชิก 0 คน และ บุคคลทั่วไป 1 คน )
 

กฎการส่งข้อความ
You may not post new threads
You may not post replies
You may not post attachments
You may not edit your posts

BB code is ใช้ได้
Smilies are ใช้ได้
[IMG] code is ใช้ได้
HTML code is งดใช้

Forum Jump


เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 13:07



ค้นหาในเว็บวัดท่าขนุน

เว็บวัดท่าขนุน Powered by vBulletin
Copyright © 2000-2010 Jelsoft Enterprises Limited.
ความคิดเห็นส่วนตัวทุก ๆ ข้อความในเว็บบอร์ดนี้ สงวนสิทธิ์เฉพาะเจ้าของข้อความ ไม่อนุญาตให้คัดลอกออกไปเผยแพร่ นอกจากจะได้รับคำอนุญาตจากเจ้าของข้อความอย่างชัดเจนดีแล้ว