กระดานสนทนาวัดท่าขนุน


กลับไป   กระดานสนทนาวัดท่าขนุน > ห้องธรรมะพระอาจารย์ > เก็บตกจากบ้านวิริยบารมี

Notices

เก็บตกจากบ้านวิริยบารมี เก็บข้อธรรมจากบ้านวิริยบารมีมาฝาก สำหรับผู้ที่ไม่มีโอกาสเดินทางไป

ตอบ
 
คำสั่งเพิ่มเติม
  #21  
เก่า 08-06-2015, 17:09
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,371
ได้ให้อนุโมทนา: 150,708
ได้รับอนุโมทนา 4,397,018 ครั้ง ใน 33,957 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : ที่มีการนำพุทธประวัติมาทำเป็นซีรีย์ ละคร ภาพยนตร์ ควรจะดูอย่างไรให้มีประโยชน์เจ้าคะ ?
ตอบ : ดูแบบที่เห็นว่า แม้แต่องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าก็เกิด แก่ เจ็บ ตายเหมือนกัน แล้วเราจะรอดไปได้อย่างไร ? พระองค์ท่านไปพระนิพพานพ้นทุกข์ไปแล้ว แต่เราตายแล้วเราอาจจะทุกข์อีกนับชาติไม่ถ้วน เราควรที่จะพอแล้วหรือยัง ?
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 08-06-2015 เมื่อ 18:38
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 229 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #22  
เก่า 08-06-2015, 17:39
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,371
ได้ให้อนุโมทนา: 150,708
ได้รับอนุโมทนา 4,397,018 ครั้ง ใน 33,957 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

พระอาจารย์เล่าว่า "วันก่อนสั่งแก้ไขระบบเสียงสะท้อนในศาลาใหญ่ บริษัทคิดค่าใช้จ่าย ๑,๘๙๐,๐๐๐ บาท เขายืนยันว่าทันวันที่ ๒๐ มิถุนายนนี้ ตอนนี้กำลังติดตั้งกันอุตลุด แล้วก็ทำหนังสือสวดมนต์เล่มใหม่ ปรากฏว่าโชคดี พระครูปลัดปิงติดต่อให้ เขาลดให้ ๑๐ เปอร์เซ็นต์ ราคายัง ๕ แสนกว่าบาทอยู่ แต่ได้ลดเยอะ แล้วก็จ่ายค่าหน้าต่างบานเลื่อนเรือนไทยชั้นบนทั้งหมด เผลอ ๒ วัน ช่างทำเสร็จแล้ว พวกนี้ แหม..ทำงานน่ารวยจริง ๆ อาตมาไม่อยู่ ๒ วัน พอกลับไปเขาทำเสร็จแล้วส่งใบเสร็จเก็บเงิน อะไรวะ..ทำเร็วขนาดนี้เลย ?

บรรดาช่างที่ทำงานจนอยู่มือก็มักจะวัยเลยเกษียณแล้วทั้งนั้น ช่างทำมณฑปประดิษฐานพระพุทธรูปทองคำเขามีแนวคิดว่า จะขอฝากผลงานไว้ในแผ่นดิน ถ้าลักษณะนี้เขาจะรับผิดชอบงานดี เพราะว่างานที่ทำชิ้นหนึ่งจะเรียกลูกค้าเพิ่มได้เอง แต่ก็ต้องเจอลูกค้าบวม ๆ อย่างอาตมา ประเภทไม่กลัวของแพงด้วย กำลังรอว่า ถ้างานนี้เสร็จแล้วจะเอาธรรมาสน์อีกสักหลังหนึ่ง เพราะว่าธรรมาสน์เก่าของรัชกาลที่ ๗ ถ้าเอาไปตั้งข้างในศาลา ๑๐๐ ปีหลวงปู่สาย จะน้ำหนักเอียงไปข้างเดียว ต้องทำอีกข้างหนึ่งเพื่อความสมดุล ต้องยอมเสียเงินอีกหลายล้าน เพื่อที่จะอวดธรรมาสน์ของในหลวงรัชกาลที่ ๗"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 08-06-2015 เมื่อ 18:42
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 233 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #23  
เก่า 08-06-2015, 17:43
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,371
ได้ให้อนุโมทนา: 150,708
ได้รับอนุโมทนา 4,397,018 ครั้ง ใน 33,957 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

พระอาจารย์เล่าว่า "วันก่อนไปงานฉลองพระอารามหลวง ๒๓๒ ปี วัดสระเกศ ไปถึงทั้งโยมทั้งพระก็แห่กันมากราบ ทำให้งงตัวเองอยู่เหมือนกันว่า ตกลงคนเขารู้จักอาตมาเยอะขนาดนี้เลยหรือ ? บรรดาพระที่รับนิมนต์ไป สารพัดท่านเจ้าคุณ แต่คนไม่รู้จัก มารู้จักพระอาจารย์เล็ก พระต่างจังหวัด บ้านนอกอีกต่างหาก"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 08-06-2015 เมื่อ 18:43
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 243 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #24  
เก่า 08-06-2015, 17:59
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,371
ได้ให้อนุโมทนา: 150,708
ได้รับอนุโมทนา 4,397,018 ครั้ง ใน 33,957 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : การมีชื่อเสียงกับการดำรงตำแหน่งชั้นสูง เป็นคนละอานิสงส์หรือเปล่าคะ ?
ตอบ : ต้องบอกว่าคนละอานิสงส์กัน การมีชื่อเสียงเพราะสร้างคุณความดีไว้แต่เดิม ส่วนดำรงตำแหน่งชั้นสูงเพราะอ่อนน้อมถ่อมตนเป็นปกติ เป็นผู้มีศีลเป็นปกติ

มีศีลเป็นปกติพระบาลีท่านว่า กิตติสัทโท ชื่อเสียงจะโด่งดังขจรไปไกล อสัมมุฬโห แม้ตายก็ไม่หลง คำว่าหลงก็คือไปอบายภูมินั่นแหละ ถ้าขาดสติก็จะลงอบายภูมิ
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 08-06-2015 เมื่อ 18:43
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 235 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #25  
เก่า 09-06-2015, 12:46
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,371
ได้ให้อนุโมทนา: 150,708
ได้รับอนุโมทนา 4,397,018 ครั้ง ใน 33,957 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

พระอาจารย์กล่าวว่า “ความจริงตามตำราที่ศึกษามา มีอยู่ส่วนหนึ่งที่ให้สร้างตะกรุดชุด ๑๐๘ ดอก คราวนี้เขาให้ทำเป็นดอกเล็ก ๆ อาตมาได้ยินคำถามเกี่ยวกับการแขวนตะกรุดมหาสะท้อน ๑๐ ดอก ก็เลยคิดว่าถ้าเขาสามารถบูชาได้ครบ ๑๐๘ ดอกก็น่าจะลองทำตะกรุดชุดดู..!”
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 09-06-2015 เมื่อ 13:50
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 227 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #26  
เก่า 09-06-2015, 12:51
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,371
ได้ให้อนุโมทนา: 150,708
ได้รับอนุโมทนา 4,397,018 ครั้ง ใน 33,957 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

พระอาจารย์กล่าวว่า "เรื่องของวัตถุมงคล เจตนาอันดับแรก ก็คือ เป็นเครื่องระลึกถึงคุณพระรัตนตรัย ไม่ว่าจะเป็นคุณพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ก็ตาม ลำดับที่สอง ก็คือ สร้างศีลและการภาวนาให้เกิดแก่เรา เพราะว่าการที่เราจะใช้วัตถุมงคลให้ได้ผล ถ้าตัวเรายิ่งมีศีลบริสุทธิ์เท่าไร ก็จะได้รับผลมากขึ้นเท่านั้น และขณะเดียวกันก็มีคำภาวนาที่เป็นคำอาราธนาหรือการปลุกวัตถุมงคลทั้งหลายเหล่านั้น ซึ่งก็คือการภาวนา ส่วนผลอื่น ๆ ที่เกิดขึ้นส่วนใหญ่แล้วต้องเรียกว่าเป็นผลพลอยได้เท่านั้น แต่พวกเรามักจะลืมว่าเจตนาในการที่เราสร้างวัตถุมงคลขึ้นมานั้นคืออะไร แล้วก็ไปสนใจแต่ผลพลอยได้ซึ่งเป็นส่วนน้อยเท่านั้น ซึ่งนับว่าเป็นเรื่องที่น่าเสียดายมาก

การใช้วัตถุมงคลให้ได้ผลนั้น นอกจากศีลต้องบริสุทธิ์แล้ว อารมณ์ใจยังต้องทรงตัวตั้งมั่นด้วย ยิ่งมีความศรัทธาแน่นแฟ้น กำลังใจทรงตัวตั้งมั่นมากเท่าไร อานุภาพวัตถุมงคลก็จะเกิดขึ้นมากเท่านั้น แต่พวกเราทั้งหลายมักจะเกิดความลังเล ขณะเดียวกันก็ขี้สงสัย อาจจะมีการรื้อตะกรุดดูอย่างที่กล่าวมา ถ้าหากถึงขนาดรื้อดู เพื่อที่จะศึกษาและทำตามก็ไม่เป็นอะไร แต่ถ้าหากรื้อดูด้วยความลังเลสงสัยว่าใช่หรือไม่ใช่ ? จริงหรือปลอม ? ท้ายที่สุดต่อให้อานุภาพของวัตถุมงคลยังมีเหมือนเดิม แต่กำลังใจของเราอาจจะไม่เหมือนเดิม ก็เท่ากับว่าเราเองทำให้วัตถุมงคลนั้นเสื่อมเอง ก็คือใจเราไม่ได้เคารพนับถือแน่นแฟ้นเหมือนเดิมแล้ว

ฉะนั้น..เรื่องทั้งหลายเหล่านี้จะว่าไปแล้วก็คือ พวกเรายังขาดศรัทธาที่มั่นคง ศาสนาทุกศาสนาเกิดขึ้นจากศรัทธา ถ้าศรัทธาไม่มั่นคง โอกาสที่จะก้าวเข้าไปสู่หลักธรรมชั้นสูงก็เป็นไปได้ยาก"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 09-06-2015 เมื่อ 13:52
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 228 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #27  
เก่า 09-06-2015, 13:03
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,371
ได้ให้อนุโมทนา: 150,708
ได้รับอนุโมทนา 4,397,018 ครั้ง ใน 33,957 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

พระอาจารย์กล่าวว่า "อาตมาสร้างพระกริ่งปลดหนี้ ๒ แผ่นดิน ก็คือตั้งใจเอากฐินปลดหนี้ไปให้ที่วัดมุนิวิหาร ที่เมืองภักตรปุระ (ปักตะปูร์) ประเทศเนปาล รับปากเขาไว้ตั้งแต่ปีที่แล้ว ถึงปีนี้โดนแผ่นดินไหวทลายราบไปเลย อาตมาจะนำเอาพระกริ่งรุ่นนี้เข้าพิธีวันที่ ๒๐ มิถุนายนนี้

ทำเป็นพระกริ่งเนื้อเงิน ลักษณะแบบพระพุทธรูปเนปาล ไว้มีโอกาสจะนำรูปลงหน้าเว็บวัดท่าขนุนให้ชม ท่านใดต้องการพกเงินไป ๕,๐๐๐ บาท ไปจองที่วัดท่าขนุน ต้องเรียกว่าบูชาเลยไม่ใช่จอง เพราะว่าอาตมารับปากว่าจะถวายปัจจัยร่วมซื้อที่สร้างวัดให้เขา ๒๐๐ ตารางวา ซึ่งคิดเป็นเงินสิบล้านเนปาล ถ้าคิดเป็นเงินไทยประมาณสี่ล้านบาท ถ้าปัจจัยเหลือจากสี่ล้านบาท ซึ่งคาดว่าต้องเกิน เพราะตั้งใจจะซื้อเป็นดอลลาร์ไปให้เขา สี่ล้านเป๊ะ ๆ คงไม่ลงตัวแน่ ก็คงจะเกินสักเล็กน้อย ส่วนที่เหลือก็จะเอาลงร่วมในการหล่อพระพุทธรูปทองคำต่อไป

พระกริ่งเนื้อเงิน สร้างแค่ ๒,๐๐๐ องค์ ใครมีความสามารถจะบูชาหมดทั้ง ๒,๐๐๐ องค์อาตมาก็ยินดี..! คาดว่าวันงานมีโยมหลายท่านไม่ได้หันหน้าไปทางพระ แต่หันหน้าไปเข้าแถวรอบูชากันเลย ซึ่งเป็นอย่างนั้นมาตลอด

วัดของเขาประสบเหตุการณ์ที่หนักหนาสาหัสกว่าที่คิด แม้ว่าตัววัดจะไม่มีอะไรชำรุดเสียหายจากแผ่นดินไหว เนื่องจากว่าเป็นอาคารสร้างแบบใหม่ แต่เมืองทั้งเมืองรอบข้างพังทลาย ชาวบ้านไปอาศัยวัดจนวัดไม่มีที่ให้นอน ต้องกางเต็นท์กันรอบ ๆ วัด ฉะนั้น..ปัญหาใหญ่ที่สุดก็คือเรื่องห้องส้วมกับน้ำกินน้ำใช้ เพราะว่าในเนปาล
หาน้ำยากมาก บ่อที่เขาขุดไว้แต่ละบ่อลึกอย่างน้อย ๗-๘ เมตร แล้วก็มีน้ำอยู่หน่อยเดียว ถึงเวลาต้องหย่อนถังผูกเชือกลงไปตัก ได้มานิดหน่อยก็เทใส่หม้อทองเหลืองไว้ แล้วก็นั่งรอตักต่อไป

ถึงได้เข้าใจที่ในพระไตรปิฎกกล่าวถึงนางภุมภทาสี ซึ่งมีหน้าที่ตักน้ำใส่หม้อเพื่อเอาไปให้กับเจ้านาย ก็คงอยู่ในลักษณะเดียวกัน เพราะเห็นเขาไปเข้าแถวรุมล้อมเพื่อรอตักน้ำกันทั้งวัน ทางบ้านเขาคนรวยจะให้ทานด้วยน้ำ จะมีลักษณะเหมือนอย่างกับเป็นอ่างน้ำสาธารณะ คนรวยซื้อน้ำแล้วไปเทใส่ คนจนก็ไปเปิดใช้เอา บ้านเรายังไม่ลำบากถึงขนาดนั้น ได้โปรดทราบว่าเราเกิดมาโชคดีมากแล้ว ลองคิดดูว่าในสภาพปกติของเขายังหาน้ำยากขนาดนั้น ถ้าเกิดอุบัติภัยขึ้นมา อย่างเช่นแผ่นดินไหว เครื่องอำนวยความสะดวกทั้งหมดพังทลายลง สูญหายไป สิ่งที่หายากอยู่แล้วจะยิ่งหายากขึ้นอีกกี่เท่าก็ไม่ทราบได้

อาตมาเองก็แค่เตรียมการเตรียมปัจจัยเอาไว้ กะว่าจะซื้อเป็นเงินดอลลาร์สักแสนสองหมื่นดอลลาร์ เพื่อที่จะเอาไปร่วมซื้อที่ดินให้เขา แต่ไม่ทราบเหมือนกันว่าทางวัดจะได้ซื้อที่ดินเลยหรือเปล่า ถ้าต้องไปทำอย่างอื่นก่อนก็ไม่เป็นไร เพราะตั้งใจไว้แล้วว่าจะช่วยเขา คำแนะนำของอาตมาก็คือฝาก ๆ กันไปบูชาสักคนละ ๑๐-๒๐ องค์ จะได้ไม่ต้องไปเข้าแถวกันยาวยืด"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 09-06-2015 เมื่อ 13:57
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 222 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #28  
เก่า 09-06-2015, 13:06
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,371
ได้ให้อนุโมทนา: 150,708
ได้รับอนุโมทนา 4,397,018 ครั้ง ใน 33,957 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : ติดธรรมศาสตร์ ๒ คณะไม่ทราบว่าจะเลือกคณะอะไรดี ?
ตอบ : ตัดสินใจไม่ถูกก็หลับตาจิ้มเอา ได้เยอะไปก็อย่างนี้แหละ ไม่เหมือนกับเจนนี่ลูกสาวอาตมา ติด ๔ คณะทั้งจุฬาและธรรมศาสตร์ เขาฟันธงโชะเลย เอาคณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชีจุฬา (อินเตอร์) คนตัดสินใจเด็ดขาดแสดงว่ากำลังใจสูง
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 09-06-2015 เมื่อ 13:58
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 224 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #29  
เก่า 09-06-2015, 13:52
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,371
ได้ให้อนุโมทนา: 150,708
ได้รับอนุโมทนา 4,397,018 ครั้ง ใน 33,957 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

พระอาจารย์กล่าวว่า "ทุกวันนี้ที่อาตมาติดนิสัยเขียนบันทึกประจำวัน ก็เพราะหลวงพ่อวัดท่าซุงท่านแนะนำไว้ว่า เป็นการทบทวนอตีตังสญาณได้ นึกย้อนไปในอดีต เกิดเหตุอะไรขึ้นมาบ้าง ตั้งแต่เช้ามาเราทำอะไร เสร็จแล้วถ้าจะเอามากกว่านั้นก็คือ ก่อนตื่น ก่อนนอน ไล่ไปเรื่อยก็ข้ามไปถึงวันที่ ๒ ที่ ๓ ที่ ๔"

ถาม : แล้วถ้าตอนนอนเราไม่มีความจำนั้นไว้ ?
ตอบ : ก็จะข้ามไปตรงก่อนนอน แต่ถ้านอนแบบมีสติตอนนอนก็จะได้ด้วย
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 09-06-2015 เมื่อ 13:59
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 218 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #30  
เก่า 09-06-2015, 14:04
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,371
ได้ให้อนุโมทนา: 150,708
ได้รับอนุโมทนา 4,397,018 ครั้ง ใน 33,957 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default



พระอาจารย์กล่าวว่า "เห็นพระงาช้างที่ลงในกระทู้ของตัวเล็กไหม ? มีคนเขากลัวโดนปรับ ๓ ล้านบาท เขาเลยเอาไปทิ้งไว้ที่วัดท่าขนุน พระทุกรูปบอกว่าเป็นพระเรซิ่น อาตมาไปพลิกซ้ายพลิกขวา เห็นลายงา "เฮ้ย..ไม่ใช่เรซิ่น" ๓ องค์นี้คาดว่าจะแกะจากขนาย คืองาช้างตัวเมีย หรือไม่ก็งาช้างสีดอที่บางตัวมีงาเล็ก ๆ เพราะว่าด้านข้างไม่มีลาย ต้องพลิกตะแคงดู มองย้อนขึ้นถึงจะเห็นลายงา ช่างเขาแกะไม่พ้นผิวงา พอไม่พ้นผิวงาก็ไม่เห็นลาย ทีนี้พอตะแคงดูจากด้านพระบาทขึ้นไป "อ๋อ..ลายงาอยู่นี่เอง"

ที่เซียนที่สุดก็ต้องพระครูปลัดปิง ท่านเลือกจองวันพุธเลย อาตมาก็ว่าทำไมต้องวันพุธ ดูไปดูมา อ๋อ..พระท่านอุ้มบาตร น้ำหนักจึงมากกว่าองค์อื่น สงสารเจ้าของเขา น่าจะกลัวมากจนเกินเหตุ ก็เลยเอามาทิ้งไว้ที่วัด

ด้วยความที่ไม่มี ๓ ล้านให้ปรับ เขาก็เลยต้องเอามาทิ้งไว้ในวัด เอาไปไว้ที่ฐานสมเด็จองค์ปฐม ๘ ศอกบนยอดเขาโน่น พระท่านขึ้นไปเห็นก็ถ่ายรูปมาให้ดู ท่านดูไม่รู้เรื่อง อาตมาบอกว่า "คุณช่วยเอาลงมาให้ผมดูก็แล้วกัน" ไม่มีใครเชื่อว่าจะเป็นงา เพราะเขาเอาวางทิ้งไว้อย่างนั้น พระทุกรูปบอกว่าเป็นเรซิ่น ปลัดตั้มกับท่านเบสต์พนันกัน ปลัดตั้มบอกว่า “ถ้าหากว่าเป็นเรซิ่น คุณห้ามสึกนะ แต่ถ้าเป็นงาช้าง ผมจะไม่สึก” พออาตมาบอกว่างาแท้ พวกหันไปมอง
ปลัดตั้มกันเป็นตาเดียว “ไม่มีสิทธิ์สึกแล้วเอ็ง..!”

พอท่านเอาลงมา อันดับแรกอาตมาก็เอายาสีฟันพอกก่อน เสร็จแล้วก็เอาแปรงขัด งาก็คือฟัน เพราะฉะนั้น..ต้องอาศัยยาสีฟันช่วย พอเห็นว่าเป็นงาแท้ อาตมาก็เลยเอา ๓ องค์เล็กมาร่วมบุญสร้างพระทองคำให้กับเจ้าของเดิมเขา ส่วนองค์ใหญ่เก็บไว้เอง องค์ใหญ่นั่นกระทั่งฐานไม้ยังแกะเสียละเอียดยิบเลย คาดว่าองค์ใหญ่องค์เดียวน้ำหนักก็น่าจะเกิน ๓๐๐ กรัมแล้ว บวกองค์เล็กไปอีก เกินครึ่งกิโลกรัมแน่ ๆ เจ้าของเขากลัวก็เลยต้องเอาออกจากบ้าน

คนที่กลัวเขาก็กลัวจริง ๆ ถ้าเป็นอาตมาหรือ ? ถ้าเจ้าหน้าที่มาก็ "เอาหมายค้นมาก่อน" หมายค้นมีแล้วก็ "ขอดูบัตรด้วย" ดูกันทีละคน ถ้าไม่อย่างนั้นเขาก็ไม่มีสิทธิ์ค้นบ้านเรา เพราะเจ้าหน้าที่นี่ระเบียบบังคับเลยว่าต้องพกบัตรประจำตัว ถ้าไม่พกบัตรมาก็ขู่ได้แค่ชาวบ้านที่เขากลัวเท่านั้น"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 09-06-2015 เมื่อ 15:30
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 224 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #31  
เก่า 09-06-2015, 16:46
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,371
ได้ให้อนุโมทนา: 150,708
ได้รับอนุโมทนา 4,397,018 ครั้ง ใน 33,957 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

พระอาจารย์เล่าว่า "ตอนงานศพหลวงปู่มหาอำพันปี ๒๕๓๒ สมเด็จพระญาณสังวรฯ ตอนนั้นท่านยังไม่ได้เป็นสมเด็จพระสังฆราช ท่านก็ไปงาน คราวนี้ท่านเดินลากเท้าไปกับพื้น แล้วช่วงที่ตั้งศพเป็นชั้นสูงขึ้นมา อาตมาเห็นว่าไม่มีใครดูแลท่านเลยก็ปราดไปจับแขนท่าน “พระเดชพระคุณครับ ตรงนี้เป็นขั้นอยู่ขั้นหนึ่ง ต้องก้าวขึ้นนิดหนึ่งครับ ท่านก็บอกว่า “ขอบใจนะ” แล้วก็จับแขนอาตมาก้าวขึ้นไป พอส่งท่านเสร็จสรรพเรียบร้อยกราบท่านแล้วก็กลับที่นั่ง

มีเสียงพระท่านถามว่า “พระรูปนั้นมาจากวัดไหน ? ไม่เห็นกลัวสมเด็จฯ ท่านเลย” อาตมาไม่เห็นท่านเป็นสมเด็จฯ แต่เห็นท่านเป็นหลวงปู่หลวงตาที่ต้องอนุเคราะห์ เพราะว่าท่านก็คือคนแก่ แต่คนอื่นเห็นท่านเป็นสมเด็จฯ ก็กลัวกันหมด ไม่กล้าทำอะไรกันเลย จนทุกวันนี้อาตมาก็ยังติดนิสัย พอถึงเวลาเห็นพระแก่ก็ต้องช่วยไว้ก่อน อานิสงส์นี้พอถึงเวลาตัวเองแก่คงจะมีคนช่วยดูแลบ้าง

บางคนเขาไม่ชอบดูแลคนแก่เพราะรำคาญ คนแก่ทำอะไรช้า เขาคงไม่ได้นึกว่าถึงเวลาตัวเองก็จะเป็นอย่างนั้น อย่างหลวงพ่อราชรัตนวิมล เจ้าคณะจังหวัดกาญจนบุรี เมื่อวานนี้อาตมาก็ประคองท่านไปถึงที่นั่ง ท่านอายุ ๗๙ ปีแล้ว และก็เป็นอัมพฤกษ์ซีกหนึ่ง เดินไม่ถนัด คนไปเห็นท่านช้าก็ไม่ไปยุ่งกับท่าน ส่วนอาตมากลัวว่าท่านจะล้ม ถึงเวลาก็ต้องให้ท่านเกาะแขนประคองไป"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 09-06-2015 เมื่อ 17:35
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 228 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #32  
เก่า 09-06-2015, 17:18
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,371
ได้ให้อนุโมทนา: 150,708
ได้รับอนุโมทนา 4,397,018 ครั้ง ใน 33,957 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : ถ้าเอาตะกรุดไปแขวนที่กางเกง ?
ตอบ : เอาเป็นว่าอย่าให้ต่ำกว่าเอวก็แล้วกัน ใช้คลิปเหน็บกับกระเป๋าเสื้อก็ได้ ผู้หญิงหลาย ๆ คนเหน็บกับยกทรงไปเลย
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 09-06-2015 เมื่อ 17:36
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 217 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #33  
เก่า 09-06-2015, 17:19
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,371
ได้ให้อนุโมทนา: 150,708
ได้รับอนุโมทนา 4,397,018 ครั้ง ใน 33,957 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : เทวดาหรือพรหมจะพิจารณาตัดอย่างไรคะ ?
ตอบ : พิจารณาตามปกตินี่แหละ เทวดาหรือพรหมมีขันธ์เป็นขันธ์ทิพย์ ความละเอียดของจิตมีมาก เห็นธรรมได้ชัดกว่า แต่ว่าสภาพจิตที่จะยอมรับในเรื่องของการตัดละก็ยากขึ้น เพราะในความเป็นทิพย์ ความสุขมีมากกว่า ก็มักจะติดสุขได้ง่าย
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 09-06-2015 เมื่อ 17:37
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 210 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #34  
เก่า 09-06-2015, 17:44
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,371
ได้ให้อนุโมทนา: 150,708
ได้รับอนุโมทนา 4,397,018 ครั้ง ใน 33,957 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : มีคนญี่ปุ่นเขาวาดการ์ตูน วาดพระพุทธเจ้าว่าเป็นเพื่อนกับพระเยซู ลางานจากสวรรค์ลงมา วาดพระพุทธเจ้าใส่เสื้อยืดกางเกงยีนส์ เขาบอกว่าถ้าเราทำการ์ตูนพุทธประวัติทั่วไป แลดูน่าเบื่อ จึงต้องแหวกแนวออกไป เป็นการปรามาสหรือเปล่าครับ ?
ตอบ : เต็ม ๆ..!

ถาม : แล้วคนที่เห็นด้วย ?
ตอบ : โมทนากับเขาด้วยก็ซวยไปด้วย..!
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 10-06-2015 เมื่อ 02:36
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 212 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #35  
เก่า 10-06-2015, 17:58
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,371
ได้ให้อนุโมทนา: 150,708
ได้รับอนุโมทนา 4,397,018 ครั้ง ใน 33,957 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

พระอาจารย์กล่าวว่า "วันที่ ๒๐-๒๑ มิถุนายนนี้ ใครไปวัดก็จะเห็นสมเด็จองค์ปฐมประธานในศาลา ๑๐๐ ปีหลวงปู่สาย ประดับเพชรเสร็จเรียบร้อย เหลืองอร่ามงามตา สิ่งที่ไม่อยากทำเลย แต่ต้องทำก็คือต้องสร้างห้องกระจก เพราะว่าเวลาเราสร้างห้องกระจกจะมีรอยต่อ แล้วก็จะไปบังองค์พระ ถ่ายรูปอย่างไรก็ไม่สวย แต่ไม่สร้างก็ไม่ได้ เพราะถ้าฝุ่นเกาะก็เรียบร้อย เดี๋ยวปัดฝุ่นไปปัดฝุ่นมาทองก็ลอกหมด สร้างห้องกระจกมาก็มีภาระให้คนทำความสะอาดอีก ปีนขึ้นปีนลง ความสูง ๘ เมตรนี่ตกลงมามีสิทธิ์เดี้ยงเลย

การยกพระเข้าที่ตอนแรกใช้แผ่นอะลูมิเนียมแบบที่เขาปูสนามบินรองรับ แล้วค่อย ๆ ไป ค่อย ๆ ไป กว่าจะเอาฐานขึ้นได้ก็เพลพอดี เพราะว่าฐานอย่างเดียวหนัก ๓ ตัน คราวนี้พอพระไปฉันเพล ที่เหลือคนงานเขาทำกันเองก็มักง่าย เขาบอกว่าองค์พระเบากว่าตั้งเยอะ เข็นไปเลย เข็นไปก็กระเบื้องแตกเปรี๊ยะ ๆ ไป น่าจะถึง ๒๐ แผ่น ไอ้พวกมักง่าย..! ประเภทโง่แล้วขยันนี่ ถ้าเป็นสมัยก่อนโดนประหารทิ้งหมด..!

องค์พระน่าจะเกินตัน เขาเห็นว่าเบากว่าฐาน แต่ลืมไปว่าฐานไปบนแผ่นอะลูมิเนียม เฉลี่ยน้ำหนักได้ เหล็กฉากที่หนาประมาณ ๒ หุนครึ่ง ที่เขาทำเป็นรถเข็น โดนกดเสียแอ่นไปเลย แล้วคิดดูว่าพื้นจะรับได้อย่างไร ? แทนที่จะรู้สึกว่าตัวเองทำผิด กลับบอกว่า “ไอ้คนปูกระเบื้องมันปูไม่ดี” คงต้องเสียเวลาให้ช่างเขาซ่อมอีกสัก ๒ วัน ข้างล่างคงซ่อมได้ แต่ข้างบนตรงฐานพระคงซ่อมไม่ได้ เพราะว่าฐานพระท่านหนักตั้ง ๓ ตัน ยกกันไม่ไหว

ราคายังไม่รวมค่าปิดทองประดับเพชรหมดไป ๕ ล้านบาทแล้ว ตอนนี้ศาลา ๑๐๐ ปีหลวงปู่สาย
ยอดค่าใช้จ่ายจะ ๗๐ ล้านบาทแล้ว ช่วงนี้กำลังรอชั้นบนที่เขากรุฝ้าอยู่ เป็นฝ้าไม้ซึ่งจะแพงมาก ยังไม่รู้ว่าเสร็จงานแล้วจะเบิกอีกกี่ล้าน แล้วก็จะตามมาด้วยค่าวัสดุซับเสียงอีก ๙ แสนกว่าบาท"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 10-06-2015 เมื่อ 20:04
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 211 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #36  
เก่า 10-06-2015, 18:02
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,371
ได้ให้อนุโมทนา: 150,708
ได้รับอนุโมทนา 4,397,018 ครั้ง ใน 33,957 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

พระอาจารย์กล่าวว่า "พระครูปลัดสุวัฒนสิทธิคุณ (พระครูปลัดปิง) เป็นเจ้าภาพผ้าไตรไทยธรรมวันที่ ๒๐ มิถุนายนนี้ ๖๐ ชุด ไม่แพงหรอก ชุดละ ๑,๐๕๐ บาทเท่านั้นเอง..! ว่าที่เจ้าคุณท่านสร้างบุญใหญ่ เดี๋ยวพอขึ้นเป็นผู้ช่วยเจ้าอาวาสเมื่อไรก็เป็นเจ้าคุณได้เลย ตอนนี้ที่ยังเป็นไม่ได้เพราะว่างานยังไม่ครบ ๖ ด้าน

ผลงานคณะสงฆ์ต้องมีด้านการปกครอง การศึกษา การเผยแผ่ การสาธารณูปการ การสาธารณสงเคราะห์ และการศึกษาสงเคราะห์ คราวนี้ถ้าไม่ได้เป็นเจ้าอาวาสหรือผู้ช่วยเจ้าอาวาส งานด้านการปกครองจะไม่มี ก็เลยจำเป็นต้องมีตำแหน่งก่อน"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 10-06-2015 เมื่อ 20:05
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 210 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #37  
เก่า 10-06-2015, 18:07
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,371
ได้ให้อนุโมทนา: 150,708
ได้รับอนุโมทนา 4,397,018 ครั้ง ใน 33,957 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

พระอาจารย์กล่าวสอนว่า "พวกเราพออยู่ใกล้พระกิเลสหงอยไปหน่อย ก็รู้สึกว่าสบายดี แต่ไม่รู้ว่าสาเหตุเกิดจากอะไร ต้องดูว่าเราทำอะไร คิดอะไร พูดอะไร อยู่ในสิ่งแวดล้อมแบบไหน ถ้าคิดแบบนั้น พูดแบบนั้น ทำแบบนั้น อยู่ในสิ่งแวดล้อมแบบนั้น โอกาสที่จะชนะกิเลสก็มี

ส่วนใหญ่ของพวกเรานั้นมักจะปล่อยตามเวรตามกรรม ได้มาก็คว้าไว้ ไม่ได้มาก็หาไม่เป็น เหมือนกับอยู่ในร่มเย็นสบาย พอร่มหายไปก็ร้อนอีก สร้างร่มของตัวเองขึ้นมาสิ เอาอันใหญ่ ๆ ไปเลย"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 10-06-2015 เมื่อ 20:07
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 203 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #38  
เก่า 10-06-2015, 18:08
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,371
ได้ให้อนุโมทนา: 150,708
ได้รับอนุโมทนา 4,397,018 ครั้ง ใน 33,957 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default


พระอาจารย์กล่าวว่า "อาตมาแกล้งขู่ไว้ว่า ตะกรุดมหาสะท้อนรุ่น ๕ นี้ ถ้าไม่มีสติ๊กเกอร์ก็เป็นของปลอม พวกเอาไปเลี่ยมยังอุตส่าห์เอาสติ๊กเกอร์ใส่เข้าไปด้วย..!"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 10-06-2015 เมื่อ 20:08
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 206 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #39  
เก่า 10-06-2015, 18:14
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,371
ได้ให้อนุโมทนา: 150,708
ได้รับอนุโมทนา 4,397,018 ครั้ง ใน 33,957 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

พระอาจารย์กล่าวว่า "อาตมามีตุ๊กตาอินเดีย เป็นตุ๊กตาดินเผา ๓๐ กว่าตัว เดี๋ยวค่อยเอาให้ตัวเล็กไปลงเว็บ หลวงปู่มหาอำพันท่านซื้อมาฝากลูกศิษย์ตั้งแต่ปี ๒๕๒๑ ไปอินเดียกับหลวงพ่อวัดท่าซุง ๓๐ กว่าปีแล้ว หลวงปู่ท่านไปไหนไม่เคยลืมลูกศิษย์เลย ลูกศิษย์คนไหนเคยอุปัฏฐากรับใช้ใกล้ชิด ถึงเวลาท่านก็อุตส่าห์หาของฝากมาให้ เป็นตุ๊กตาอินเดียผู้หญิงผู้ชาย แต่งตัวแบบเผ่าต่าง ๆ"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 10-06-2015 เมื่อ 20:08
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 201 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #40  
เก่า 10-06-2015, 18:19
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,371
ได้ให้อนุโมทนา: 150,708
ได้รับอนุโมทนา 4,397,018 ครั้ง ใน 33,957 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

พระอาจารย์กล่าวว่า "โยมถามว่าต้นบัญญัติที่พระพุทธเจ้าห้ามรับเงินรับทอง เกิดจากอะไร ? เกิดจากพระอุปนันทศากยบุตร ท่านมีโยมอุปัฏฐากที่ท่านต้องไปรับบาตรทุกวัน วันนั้นไปถึง โยมบอกว่าไม่มีอาหาร เพราะเมื่อวานเตรียมเนื้อเอาไว้ทำอาหารใส่บาตรตอนเช้า ปรากฏว่าลูกร้องจะกิน จะเป็นจะตายขึ้นมา ก็เลยต้องให้ลูกกินไปก่อน ถ้าพระคุณเจ้าไม่รังเกียจก็ให้รับกหาปณะนี้ไปแทน แล้วเอาเงินถวายแทน

เมื่อพระอุปนันทศากยบุตรรับเอาเงินนั้นมา บาลีท่านว่ามนุษย์ทั้งหลายติเตียนเป็นอันมาก แปลว่าชาวบ้านรู้ดีกว่าพระ บอกว่าพระต้องเสียภาษี เอ๊ย..ไม่ใช่ คนละเรื่องกัน ชาวบ้านก็ช่วยกันติ ช่วยกันโพนทะนาจนเรื่องไปถึงพระพุทธเจ้า สอบถามแล้วว่าเป็นเรื่องจริง พระองค์ท่านก็ตำหนิว่า ”ดูกร..โมฆบุรุษ สิ่งที่เธอทำนั้นไม่ได้ช่วยให้กิเลสลดลงเลย มีแต่ช่วยให้อาสวะนั้นเจริญขึ้น” ท่านก็ว่าของท่านไป แล้วก็บัญญัติห้ามภิกษุรับเงินหรือทองที่ผู้มีจิตศรัทธาถวาย

พระอุปนันทศากยบุตรถือว่าเป็นตระกูลใกล้ชิดพระพุทธเจ้าเหมือนกัน เป็นต้นบัญญัติสิกขาบทหลายต่อหลายข้อ แล้วก็มีภิกษุฉัพพัคคีย์ ก็คือพวกหก มีพระปัณฑุกะและพระโลหิตกะ เป็นต้น แล้วก็ยังมีประเภทสุดยอดเลย ก็คือพระโลลุทายี ท่านโลลุทายีนี่ต้องบอกว่า สังฆาทิเสส ๑๓ ข้อ ท่านโลลุทายีเหมาคนเดียวเกือบหมด ประเภทโดนแล้วขาดความเป็นพระแทบทั้งนั้น"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 10-06-2015 เมื่อ 20:10
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 195 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
ตอบ


ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 1 คน ( เป็นสมาชิก 0 คน และ บุคคลทั่วไป 1 คน )
 
คำสั่งเพิ่มเติม

กฎการส่งข้อความ
You may not post new threads
You may not post replies
You may not post attachments
You may not edit your posts

BB code is ใช้ได้
Smilies are ใช้ได้
[IMG] code is ใช้ได้
HTML code is งดใช้

Forum Jump


เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 01:15



ค้นหาในเว็บวัดท่าขนุน

เว็บวัดท่าขนุน Powered by vBulletin
Copyright © 2000-2010 Jelsoft Enterprises Limited.
ความคิดเห็นส่วนตัวทุก ๆ ข้อความในเว็บบอร์ดนี้ สงวนสิทธิ์เฉพาะเจ้าของข้อความ ไม่อนุญาตให้คัดลอกออกไปเผยแพร่ นอกจากจะได้รับคำอนุญาตจากเจ้าของข้อความอย่างชัดเจนดีแล้ว