กระดานสนทนาวัดท่าขนุน


กลับไป   กระดานสนทนาวัดท่าขนุน > ห้องธรรมะพระอาจารย์ > เก็บตกจากบ้านเติมบุญ

Notices

เก็บตกจากบ้านเติมบุญ เก็บข้อธรรมจากบ้านเติมบุญมาฝาก สำหรับผู้ที่ไม่มีโอกาสเดินทางไป

ตอบ
 
คำสั่งเพิ่มเติม
  #141  
เก่า 26-11-2018, 17:43
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,507
ได้ให้อนุโมทนา: 151,364
ได้รับอนุโมทนา 4,405,827 ครั้ง ใน 34,096 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

มีโยมมากราบ "ลูกศิษย์หลวงปู่เฉลิมหรือ ? โมทนาด้วย นั่นแหละสายตรงหลวงปู่กลั่น วัดพระญาติเลย ท่านเป็นพระที่สมถะสุด ๆ ใครให้อะไรท่านไม่เอาทั้งนั้น ท่านเป็นพระครูสังฆรักษ์มากี่ปีก็ไม่รู้ จนกระทั่งเขายัดเยียดให้เป็นเจ้าคุณ

หลวงพ่อกลั่น วัดพระญาติ ท่านเป็นต้นตำรับวิชาชาตรี บางคนเรียกว่าวิชาหินเบา เอาหินทุ่มหัวนี่ไม่รู้สึก โหม่งเล่นเป็นลูกฟุตบอลเลย ถัดจากหลวงปู่กลั่นมาก็เป็นหลวงพ่ออั้น วัดพระญาติ หลวงพ่ออั้นแล้วก็มาเป็นหลวงพ่อเฉลิม แต่ไม่มีใครรู้ว่ามีรุ่นเดียวกับหลวงพ่อเฉลิมอีกรูปหนึ่ง เป็นถึงสมเด็จพระราชาคณะ ก็คือหลวงพ่อนิยม หรือหลวงพ่อสมเด็จพระมหาธีราจารย์ วัดชนะสงคราม

หลวงพ่อกลั่น วัดพระญาติ ถ้าเขาไม่หาเหรียญของท่านที่ติด ๑ ในเบญจภาคี ก็จะหาตะกรุดชาตรี หาปลาตะเพียน บางคนโชคดีได้สายคาดเอวไปก็หวงอย่าบอกใครเลย มารุ่นหลวงพ่ออั้นนี่เขาหาขุนแผนเคลือบ เพราะว่าขุนแผนหลวงพ่ออั้นนี่ใส่ผงพระขุนแผน กรุวัดใหญ่ชัยมงคลลงไปเยอะมาก"

__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 26-11-2018 เมื่อ 19:35
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 172 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #142  
เก่า 26-11-2018, 17:47
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,507
ได้ให้อนุโมทนา: 151,364
ได้รับอนุโมทนา 4,405,827 ครั้ง ใน 34,096 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

พูดถึงแผ่นยันต์เกราะเพชร "ให้เขาวนบูชาไปเถอะ เพราะว่าของอะไรที่ทำมา ซึ่งไม่รู้ว่าจะได้ทำใหม่อีกหรือเปล่า ? ก็ต้องตุนเอาไว้ก่อน โดยเฉพาะใครจะเอาไปหล่อพระต่อนี่สบายเลย

อาตมาเองถือสาที่สุดก็คือรูปพระพุทธ หรือรูปพระสงฆ์ หรือว่าเหรียญในหลวง ใครเอามาหล่อพระนี่เก็บหมดเลย เพราะทำอย่างนั้นคือการทำลายพระพุทธ ทำลายพระสงฆ์ ส่วนรูปในหลวงนี่คือการทำลายพระบรมสาทิสลักษณ์ โดนมาตรา ๑๑๒ แน่นอน ไม่ใช่ถึงเวลาเห็นหล่อพระทองเหลืองก็เอาเหรียญในหลวงไปหล่อกัน ทำอย่างนั้นจะพาเจ้าอาวาสท่านติดคุกไปด้วย"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 26-11-2018 เมื่อ 19:36
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 178 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #143  
เก่า 27-11-2018, 09:12
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,507
ได้ให้อนุโมทนา: 151,364
ได้รับอนุโมทนา 4,405,827 ครั้ง ใน 34,096 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

มีญาติโยมมาทำบังสุกุล "การทำบังสุกุลตาย บังสุกุลเป็นจริง ๆ ก็คือมรณานุสติ การนึกถึงความตาย ซึ่งเป็นกรรมฐานกองใหญ่ มีอานิสงส์สูงมาก บางคนบอกว่ามีกรรมเก่าอะไรตามมา ให้มาทำบังสุกุล

การทำบังสุกุลช่วยอะไรไม่ได้มาก แต่การระลึกถึงมรณานุสติช่วยได้มาก เพราะว่ามีอานิสงส์สูง ก็เลยทำให้ห่างจากกรรมออกไป กลายเป็นว่าทำแล้วดี ก็เลยทำกันใหญ่"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย เถรี : 27-11-2018 เมื่อ 12:48
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 174 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #144  
เก่า 27-11-2018, 09:14
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,507
ได้ให้อนุโมทนา: 151,364
ได้รับอนุโมทนา 4,405,827 ครั้ง ใน 34,096 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

มีโยมเอาพานมาขอขมาพระอาจารย์ "โมทนา อโหสิกรรมให้ทั้งหมดเลย ญาติโยมไปช่วยงานทางวัด กลัวว่ามีอะไรจะล่วงเกินพระก็มาขอขมา จะว่าไปแล้วก็เป็นการกระทำที่ดี อาตมาเองต่างหากไม่รู้ว่าจะติดหนี้โยมเท่าไร คนโน้นก็มาช่วย คนนี้ก็มาช่วย"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 27-11-2018 เมื่อ 10:07
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 176 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #145  
เก่า 27-11-2018, 09:31
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,507
ได้ให้อนุโมทนา: 151,364
ได้รับอนุโมทนา 4,405,827 ครั้ง ใน 34,096 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

"เมื่อวันตักบาตรเทโวฯ คนมาช่วยงานเป็นร้อยเลย ปกติก็ประมาณพระรูปหนึ่งต่อโยมคนสองคน ก็คือแถวชั้นในจะให้เป็นผู้ชาย เพื่อที่จะได้รับของจากบาตรพระ แถวชั้นนอกเป็นผู้หญิงก็ได้

แต่คราวนี้ญาติโยมผู้หญิงบางคนไม่เข้าใจ อยากจะช่วยใกล้ชิด ลืมไปว่าสังคมของเรายังไม่ยอมรับ ในขณะเดียวกันศีลพระก็มี สมัยนี้ก็มีการถ่ายคลิปถ่ายรูปอะไรกันทุกวินาที เวลาโยมผู้หญิงอยู่ใกล้ ถ่ายรูปมาบางทีก็ดูไม่ดี โดยเฉพาะการถ่ายวีดีโอหรือว่าถ่ายคลิป ถ้าคนดูมีใจเป็นอกุศล ก็พร้อมที่จะตำหนิอยู่แล้ว ถึงเวลาเห็นภาพไม่งามก็จะด่า จะเกิดโทษกับเขาเปล่า ๆ

ฉะนั้น...พวกเราก็ต้องระวังเอง ถึงเวลาถ้าญาติโยมไปแล้ว เขาบอกว่าให้อยู่ห่าง ๆ หน่อย ก็โปรดทราบว่าไม่ได้รังเกียจผู้หญิง เพียงแต่ว่าต้องระมัดระวัง ช่วยกันรักษาพระพุทธศาสนาของเราหน่อย"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 27-11-2018 เมื่อ 10:08
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 174 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #146  
เก่า 27-11-2018, 09:33
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,507
ได้ให้อนุโมทนา: 151,364
ได้รับอนุโมทนา 4,405,827 ครั้ง ใน 34,096 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

"ญาติโยมส่วนใหญ่พอไปช่วยงานวัดก็ "อยากอยู่ใกล้ ๆ หลวงพ่อ" อาตมาเองไม่เคยคิดอย่างนั้น อาตมาเองให้ทำหน้าที่อะไรทำหมด แต่ด้วยความที่ว่าสั่งเป็นเสร็จ เสร็จแล้วดีด้วย บรรดาผู้ใหญ่ท่านพิจารณาแล้ว ก็เลยเอาไปรับใช้อยู่ใกล้ ๆ หลวงพ่อวัดท่าซุง โดยเฉพาะบางคนหวังดีแต่ประสงค์ร้าย ก็คือเวลาไปรับใช้หลวงพ่อท่าน ถ้าพลาดนี่โดนด่าจมดินเลย เขาก็เลยเอาอาตมาไปอยู่ตรงนั้น เผื่อว่าจะหัวขาดบ้าง..!

บังเอิญอาตมาเป็นคนหน้าด้านหน้าทน โดนเท่าไรก็เฉย ๆ โดนแล้วก็แก้ไข ในเมื่อเรารู้จักแก้ไข สิ่งที่ผิดพลาดก็น้อยลงไปเรื่อย ๆ ท้ายสุดก็ทำได้อย่างที่หลวงพ่อท่านต้องการ ก็เลยกลายเป็นว่า เมื่อถึงเวลาท่านก็เรียกใช้ คนอื่นก็เห็นว่าเป็นเด็กเส้น ความจริงไม่ใช่ ไม่ว่าใครก็ตาม ถ้าหากว่าเรียกใช้แล้วเขาทำงานให้ได้ดั่งใจ ท่านก็จะใช้แต่คนนั้นแหละ"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 27-11-2018 เมื่อ 10:10
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 177 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #147  
เก่า 27-11-2018, 18:54
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,507
ได้ให้อนุโมทนา: 151,364
ได้รับอนุโมทนา 4,405,827 ครั้ง ใน 34,096 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

มีโยมเอาผ้าไตรขนาด ๑.๙๐ เมตรมาถวาย "ถ้าญาติโยมเอาผ้าไตรมาถวายวัดท่าขนุน ให้จำแม่น ๆ เป็นผ้าไตรมัสลินสีพระราชนิยม หรือที่เรียกว่าสีกรักทอง ขนาดความยาวเมตรเก้าสิบ จะสองเมตรก็ได้ มีพระหลายรูปสูงกว่าอาตมา

หลายท่านเอาสีเหลืองส้มมา ขอบอกว่าเหลืองส้มใช้อยู่สมัยอยู่วัดท่าซุง พอไปอยู่วัดท่าขนุนทั้งอำเภอเขาใช้แต่สีกรัก จะมีวัดพุทโธของหลวงพ่ออุทัยท่านจะใช้สีกรักแดง แบบที่เขาเรียกว่าสีครูบาทางเหนือ แล้วก็มีสายวัดป่าอยู่ไม่กี่วัดที่ใช้สีกรักแบบที่เขาเรียกว่าสีวัดป่า ซึ่งส่วนใหญ่เป็นการย้อมเอง สีไม่ได้ห่างจากกรักทองมาก

สีกรักทองก็ความจริงก็คือสีที่สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายกองค์ที่ ๑๙ ท่านค้นคว้าถวายในหลวงรัชกาลที่ ๙ จนเป็นพอพระราชหฤทัยจนทรงตรัสบอกว่า "เอาสีนี้" เขาก็เลยเรียกกันว่าสีพระราชนิยม"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 27-11-2018 เมื่อ 20:36
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 165 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #148  
เก่า 27-11-2018, 18:56
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,507
ได้ให้อนุโมทนา: 151,364
ได้รับอนุโมทนา 4,405,827 ครั้ง ใน 34,096 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

"ในกรุงเทพฯ ส่วนใหญ่เปลี่ยนใช้สีพระราชนิยมแทบทั้งนั้นแล้ว ไม่ว่าจะเป็นธรรมยุตหรือมหานิกาย แต่ด้วยความเคยชิน ทางต่างจังหวัดก็ยังรักษาสภาพของวัดป่าอยู่ เพราะว่าอยู่กับป่า อยู่กับเขา อยู่กับดิน ถึงเวลาถ้าใช้สีเข้ม ๆ หน่อยก็จะเปื้อนยาก จึงมีการย้อมกัน จะย้อมในวันโกน ถึงเวลา ๑๕ วันก็ย้อมผ้าทีหนึ่ง บางรูปก็เดือนหนึ่งย้อมผ้าทีหนึ่ง

อาตมาเองใหม่ ๆ ย้อมผ้าไม่เป็น มารู้ทีหลังว่าจะย้อมผ้า ต้องแช่ผ้าให้เปียกจนทั่วก่อน ไม่ใช่หย่อนผ้าแห้ง ๆ ลงไป ถ้าหย่อนผ้าแห้ง ๆ ลงไปสีจะซึมไม่ทั่ว ขึ้นมาก็กระดำกระด่าง กว่าจะย้อมเป็นก็เจอไปหลายยก ถึงเวลาต้องเอาผ้าชุบน้ำก่อน แล้วค่อยหย่อนลงหม้อต้มกรักไป

โดยเฉพาะการต้มสีกรักนั้น สมัยก่อนเขาใช้หม้อ หม้อต้มกรัก หม้อใบใหญ่ เขาเรียกว่าหม้อตีนช้าง สมัยนี้บางคนใช้กระทะเลยก็มี ก็คือต้องใช้น้ำอุ่นค่อนข้างร้อน ถึงเวลาชุบผ้า เสร็จแล้วค่อยใส่สีลงไป ปัจจุบันนี้ง่าย เพราะเขาจะมีสีสำเร็จรูปมาเป็นซอง แล้วจะระบุเลยว่าซองหนึ่งใส่น้ำกี่ลิตร ก็จะออกมาพอดี สมัยพวกอาตมาหัดกันนี้ประเภทมั่วกันเอา ได้สีเข้มหน่อยบ้าง อ่อนหน่อยบ้าง แล้วแต่ดวง"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 27-11-2018 เมื่อ 20:39
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 157 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #149  
เก่า 27-11-2018, 18:59
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,507
ได้ให้อนุโมทนา: 151,364
ได้รับอนุโมทนา 4,405,827 ครั้ง ใน 34,096 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

"สมัยอาตมาวิ่งรับใช้หลวงปู่ฝั้นอยู่ ท่านก็จะเคี่ยวแก่นขนุนเก็บไว้เป็นก้อน พอถึงเวลาก็ไปผ่าออกมาแล้วก็เอาไปต้ม พอต้มเสร็จก็เอาจีวรท่านไปย้อม เมื่อบิดแห้งก็เอาไปผึ่ง ไม่ใช่ตากแดด ขอยืนยันว่าจีวรอย่าตากแดด ส่วนใหญ่ให้อยู่ในร่ม เพราะว่าตากแดดแล้วสีจะซีดเร็วมาก บางทีอาตมาจะสงสัยว่า เอ...ไม่ถูกแดดจะได้หรือ ? ถ้าถูกแดดมาก ๆ ก็แย่เหมือนกัน สีจะซีดเร็วมาก

ครูบาอาจารย์ท่านบิณฑบาตกลับมา บางทีท่านเดินมา ก็เปียกเหงื่อบ้างอะไรบ้าง ก็เอาจีวรผึ่งไว้ในร่ม พอท่านพักผ่อนอิริยาบถ เข้าห้องน้ำเสร็จ ถึงเวลาก่อนที่จะขึ้นที่ฉันก็ถวายจีวรที่ผึ่งไว้คืนให้ท่านครอง ท่านครองผ้าเสร็จก็นั่งลงประจำที่ พวกเราก็ประเคนอาหาร ท่านก็จะหยิบตักเอาเฉพาะส่วนที่ต้องการ แล้วก็ส่งต่อกันไปเรื่อย ๆ

ระยะหลังนี่เห็นหลายวัดมีพัฒนา สมัยก่อนที่อาตมาเป็นเด็กวัด วิ่งรับใช้หลวงปู่หลวงพ่อสายวัดป่า จะเป็นการส่งอาหารมือต่อมือ สมัยนี้เขามีล้อเข็นเล็ก ๆ เหมือนถาดติดล้อ ถึงเวลาก็ใส่ถาด ได้สัก ๓ จาน ๔ จาน ก็ผลักส่งกันไปเรื่อยจนกว่าจะถึงท้ายแถว ถือว่าเป็นการเอื้อเฟื้อพระอย่างหนึ่ง เพราะว่าไม่ต้องยกด้วยตัวเอง "
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 27-11-2018 เมื่อ 20:41
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 161 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #150  
เก่า 27-11-2018, 19:03
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,507
ได้ให้อนุโมทนา: 151,364
ได้รับอนุโมทนา 4,405,827 ครั้ง ใน 34,096 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

"แต่ว่าใครไปถวายอาหารพระสายวัดป่า โปรดอย่าทำอาหารน้ำ ๆ ไป ท่านจะลำบากมาก เอาอาหารแห้ง ๆ หน่อย แล้วก็ถวายน้ำฉันไว้ต่างหากสักแก้วหนึ่ง ถ้าถวายอาหารเป็นน้ำไปนี่พระท่านจะลำบาก ไม่รู้ว่าจะฉันอย่างไร เพราะว่าส่วนใหญ่ท่านจะตักใส่บาตร หรือหยิบใส่บาตรอย่างละนิดอย่างละหน่อย พอไปเจออาหารน้ำ ๆ เข้าจะยกบาตรซดก็ไม่ได้ ฉะนั้น...เอาแห้ง ๆ หน่อย แล้วก็ถวายน้ำต่างหาก

พวกเราไม่ได้อยู่กับพระธรรมยุตมาแบบอาตมา เลยทำอะไรไม่ค่อยจะถูก พระธรรมยุตนี่ทุกอย่างต้องถวายใหม่หมด อย่าไปคิดว่าของนี่ประเคนแล้วอยู่ได้ ๗ วัน ของทุกอย่างต้องประเคนให้เห็นตรงหน้า อาตมาถามว่าทำไมต้องประเคนใหม่ ในเมื่อเป็นสัตตาหกาลิกอยู่ได้ ๗ วัน ? ท่านบอกว่า "กันสงสัย"

ตอนนั้นอาตมาก็ไม่เข้าใจ พอบวชพระแล้วไปศึกษาศีลของพระ ถึงรู้ว่าพระเรามีต้องอาบัติคือศีลขาดเพราะสงสัยแล้วขืนทำก็มี ฉะนั้น...เพื่อกันสงสัย ท่านให้ประเคนใหม่หมดทุกครั้งเลย ไม่ใช่พอถึงเวลาแล้วก็ เอ...อันนี้ประเคนแล้วหรือยัง น่าจะประเคนแล้วนะ ว่าแล้วก็ฉันเลย ถ้าอย่างนั้นก็เรียบร้อย โดนอาบัติทุกราย"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 27-11-2018 เมื่อ 20:43
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 158 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #151  
เก่า 27-11-2018, 19:05
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,507
ได้ให้อนุโมทนา: 151,364
ได้รับอนุโมทนา 4,405,827 ครั้ง ใน 34,096 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

"ถึงเวลาพวกผลไม้นี่ต้องทำให้เป็นกัปปิยะ ก็คือมีการแกะเปลือก ปอกเปลือก ผ่า หั่น หรือตัดเป็นชิ้นเป็นท่อนเสียก่อน บางทีท่านก็จะถามเป็นภาษาบาลีว่า กัปปิยัง กะโรหิ แปลว่า ทำเป็นของสมควรแล้วหรือยัง ? เราก็ต้องตอบว่า กัปปิยัง ภันเต สมควรแล้วขอรับ

สายวัดป่า ลูกศิษย์วัดเขาเรียก กัปปิยการก คือผู้กระทำให้เป็นของที่สมควร ที่บ้านเราเรียกลูกศิษย์วัดนั่นแหละ ก็คือช่วยจัดการของที่ไม่สมควรต่อพระธรรมวินัยให้สมควร อาตมาเองไปอยู่พม่าใหม่ ๆ ไปพักอยู่กับท่านอาจารย์ใหญ่ธัมมะเสนะ ไม่รู้ว่าคำว่าลูกศิษย์วัดพม่าเรียกว่าอะไร พอดีได้ยินท่านตะโกน กัปปิยะ แล้วลูกศิษย์วิ่งมา อ๋อ...เล่นบาลีเลย ฉะนั้น..คำว่าลูกศิษย์วัดภาษาพม่าก็คือกัปปิยะ ก็มาจากคำว่ากัปปิยการก เขาไม่ได้ใส่สระอะ ไปใหม่ ๆ ก็ต้องไปศึกษาภาษาเขาด้วย"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 27-11-2018 เมื่อ 20:45
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 157 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #152  
เก่า 27-11-2018, 19:06
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,507
ได้ให้อนุโมทนา: 151,364
ได้รับอนุโมทนา 4,405,827 ครั้ง ใน 34,096 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

"อย่างพม่าเขาเรียกพระว่า โภงยี ถ้าหากว่าเรียกพระอาจารย์ว่า สะยาดอ หลวงพ่อใหญ่ก็ สะยาดอจี ค่อย ๆ หัดไปทีละคำ"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 27-11-2018 เมื่อ 20:45
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 155 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #153  
เก่า 27-11-2018, 19:27
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,507
ได้ให้อนุโมทนา: 151,364
ได้รับอนุโมทนา 4,405,827 ครั้ง ใน 34,096 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

พูดถึงขุนช้างของหลวงพ่อสงวน "หลวงพ่อสงวน วัดไผ่พันมือ ท่านทำอะไรเป็นเมตตามหานิยมสุด ๆ เหมาะในเรื่องเจรจาค้าขายมาก

วัตถุมงคลของหลวงพ่อสงวน วัดไผ่พันมือ จะเป็นอะไรก็ได้ เป็นพระก็ได้ เป็นลูกอมก็ได้ เป็นขุนช้างก็ได้ พกไปเถอะ ท่านประเภทท้าเลย แต่ลูกศิษย์ที่มีอยู่ก็หวงอย่าบอกใคร อาตมาเคยเอาออกกระทู้คนมีเงินไปหลายชิ้นเหมือนกัน ส่วนใหญ่เป็นลูกอม ทีนี้ขุนช้างมีอยู่องค์เดียว ยังไม่กล้าออก กลัวว่าจะหาคืนไม่ได้ ของบางอย่างออกไปแล้วกว่าจะได้นี่หลายปี เดี๋ยวเอาไว้รอหลังกฐินปลดหนี้ แล้วก็จะเปิดกระทู้คนมีเงินฯ ใหม่

ส่วนใหญ่แล้ววัตถุมงคลที่อาตมาเอามาลง ถ้าหากว่าเป็นพระ ส่วนมากก็จะเป็นพระที่ท่านสร้างตามกรรมวิธีเก่า ก็คือใช้วิธีลบผงเพื่อสร้างพระ ผงสมัยก่อนกว่าจะได้แต่ละอย่าง ไม่ว่าจะเป็นอิทธิเจ ตรีนิสิงเห มหาราช หรือพุทธคุณอะไรก็แล้วแต่ ต้องไปนั่งลบกันเป็นเดือนเป็นปีกว่าจะพอใช้งาน

บรรดาเครื่องรางของขลัง ครูบาอาจารย์ท่านตั้งใจทำมาก ๆ บางราย อย่างหลวงพ่อทบ วัดชนแดน ทำตะกรุดแต่ละดอกนี่บรรจงแล้วบรรจงอีก ท่านจะรีดเก็บหัวตะกรุดทุกดอกเรียบร้อยมาก"


__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 27-11-2018 เมื่อ 20:47
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 159 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #154  
เก่า 27-11-2018, 19:30
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,507
ได้ให้อนุโมทนา: 151,364
ได้รับอนุโมทนา 4,405,827 ครั้ง ใน 34,096 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

"ตะกรุดของหลวงพ่อทองมา วัดสว่างท่าสี บางทีเขาเรียกว่าตะกรุดถ่านไฟฉายเลย ม้วนแล้วใหญ่ขนาดถ่านไฟฉายสามท่อน มีเท่าไรท่านใส่แค่หมด หรือไม่ก็หลวงพ่อเชื้อ วัดใหม่บำเพ็ญบุญ หลวงพ่อโม วัดจันทนาราม ตะกรุดดอกยาว ๘ นิ้ว ถามหลวงพ่อทำไมต้องใหญ่ขนาดนี้ ? ท่านบอกว่ามีเท่าไรข้าใส่แค่หมด เรียนรู้อะไรมาท่านเทให้ลูกศิษย์หมด

สมัยก่อนพี่สุรกานต์ พี่ชายของอาตมาไปเฝ้าหลวงพ่อเชื้อเป็นเดือน ๆ รอมีดหมอของหลวงพ่อเชื้อ เพราะว่าหลวงพ่อเชื้อก็ศึกษาวิธีทำมีดหมอมาตามสายหลวงพ่อเดิม วัดหนองโพ เป็นศิษย์พี่ศิษย์น้องกับหลวงพ่อกวย วัดโฆสิตาราม พอถึงเวลาคนแห่ไปหาหลวงพ่อกวย หลวงพ่อกวยบอกว่า "โน่น...ไปหาหลวงพ่อเชื้อโน่น" พอถึงเวลาไปหาหลวงพ่อเชื้อ "โน่น..ไปหาท่านกวย" ตกลงจะให้หาใคร ต่างคนต่างโยนลูกกันไปโยนลูกกันมา แต่ว่าช่วงนั้นพอหลวงพ่อวัดท่าซุงดังขึ้นมานี่ ท่านดังกลบท่านอื่นเกลี้ยงเลย"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 27-11-2018 เมื่อ 20:49
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 152 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #155  
เก่า 27-11-2018, 19:34
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,507
ได้ให้อนุโมทนา: 151,364
ได้รับอนุโมทนา 4,405,827 ครั้ง ใน 34,096 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

"ฉะนั้น...ระยะแรก ๆ ที่พวกเราไม่เคยได้ยินชื่อเสียงหลวงพ่อกวยก็ไม่แปลก เพราะว่าชื่อเสียงหลวงพ่อวัดท่าซุงท่านดังกลบเขาหมด หลวงพ่อกวย หลวงพ่อเชื้อก็อยู่ใกล้ ๆ ถึงเวลาอาตมาวิ่งไปหาหลวงปู่บุดดา ผ่านวัดหลวงพ่อกวยก็แวะ ถึงเวลาขนวัตถุมงคลกลับมา ทหารตำรวจที่เฝ้าวัดไถเกลี้ยง บูชามาเป็นลัง ไม่เหลือหรอก เขาบอกว่ามีของหลวงพ่อแล้ว ยังไม่มีของหลวงพ่อกวย มีของหลวงพ่อแล้ว ยังไม่มีของหลวงปู่ เอาหมด...! เพราะว่าส่วนใหญ่อาตมาเอามาก็แจกฟรี

สมัยนั้นหลวงพ่อกวยท่านทำวัตถุมงคลราคาไม่แพง ทั้ง ๆ ที่ท่านนั่งเขียน นั่งจาร นั่งถักอยู่ทั้งวัน เอาไปบูชา ๒๐ บาท ท่านบอกว่าอยากให้ลูกศิษย์มีไว้ใช้ มาระยะหลังพอสิ้นท่านแล้ว องค์หนึ่งเป็นหมื่นเป็นแสนก็มี วันก่อนเห็นเขาปล่อยเหรียญกลมด้านหลังยันต์มงกุฎพระพุทธเจ้า ๑,๐๐๕,๐๐๐ บาท แล้วจะห้อย ๕,๐๐๐ บาทไว้ทำไม ?"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 27-11-2018 เมื่อ 20:50
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 152 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #156  
เก่า 27-11-2018, 19:36
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,507
ได้ให้อนุโมทนา: 151,364
ได้รับอนุโมทนา 4,405,827 ครั้ง ใน 34,096 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

"สำหรับลูกศิษย์สายตรงที่อยากได้มาก ๆ เขายอมสู้ราคา เหรียญของเขาสวยกริบเลย ประเภทต้องเรียกว่าไม่ได้ใช้งาน คนเอาไปเก็บไว้ แบบเดียวกับที่อาตมาไปได้สายคาดเอวหลวงปู่ยิ้มมาหนึ่งเส้น อย่างกับเพิ่งทำใหม่ ๆ เลย ก็ยังสงสัยว่าทำไมใหม่ได้ขนาดนี้

ลองถามครูบาอาจารย์ ถึงเวลาท่านยืนยันว่าของหลวงปู่ยิ้ม วัดหนองบัว ใหม่ขนาดนี้เลยหรืออาจารย์ ? ท่านบอกว่า รู้ไหมว่าบางคนพอได้ไปแล้วเขาใส่ถุงแดงบูชาไว้แต่บนหิ้ง ไม่ได้เอาไปใช้เลย ไม่ได้ใช้งาน บูชาติดบ้านไว้บนหิ้งเฉย ๆ ถึง
ได้ใหม่ขนาดนี้เหมือนกัน ถือว่าโชคดี ผ่านมา ๓ ชั่วคนแล้วไม่เคยเอาออกจากถุง

บางทีได้เชือกคาดเอวหลวงพ่อกวยมาเป็น ๓ ท่อน ๔ ท่อน อื้อหือ...ไอ้นี่ใช้ซะขนาดนี้ ไม่ต้องห่วงหรอก ลูกศิษย์เขาไม่ว่า ลูกศิษย์สายตรงนี่ถึงเวลาขาดเป็นท่อนเขาก็เลี่ยมใช้ทีละท่อนเลย แบ่งกันใช้ เชือกคาดเอวบางเส้น ในหัวเชือกท่านก็ใส่วัตถุมงคลเอาไว้ด้วย บางทีก็เป็นเหรียญสตางค์รู บางทีก็เป็นพระปิดตา บางทีก็กลม ๆ เหมือนกับลูกอม ไม่รู้ว่า
ท่านถักอะไรซ้อนไว้ พอเชือกขาดลูกศิษย์ก็แย่งกันแต่หัวเชือก ตัวเชือกนี่ไม่ค่อยจะเอา จะทะเลาะกันตาย"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 27-11-2018 เมื่อ 20:52
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 152 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #157  
เก่า 27-11-2018, 19:39
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,507
ได้ให้อนุโมทนา: 151,364
ได้รับอนุโมทนา 4,405,827 ครั้ง ใน 34,096 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

"ที่อาตมาสนใจพวกเครื่องรางเพราะว่าทำยาก เคล็ดลับมีมาก เนื่องจากว่าสายหลวงพ่อวัดท่าซุง เรื่องของการสร้างพระ เราสามารถขอบารมีพระพุทธเจ้าได้ สิ่งที่คนอื่นเขาเห็นว่ายาก ของเราเห็นว่าง่าย ส่วนอันที่คนอื่นเขาเห็นว่าง่าย อย่างเช่นจารตะกรุด ม้วนตะกรุด สายเราจะเห็นว่ายาก

อาตมากำลังรอเวลาเหมาะ ๆ ที่จะทำตะกรุดคู่ชีวิต ตะกรุดคู่ชีวิตนี่ต้นตำรับเลยคือหลวงพ่อเงิน วัดบางคลาน หลวงพ่อเงินท่านศึกษามาจากหลวงพ่อโพธิ์ วัดวังหมาเน่า วังหมาเน่านี่เป็นเสียงเรียกตามชาวบ้านเขา เพราะว่าตรงที่ท่านอาศัยปักกลดจำวัดอยู่ ตอนหลังสร้างเป็นวัด เป็นคุ้งน้ำพอดี พอถึงเวลาพวกสัตว์ตายก็ลอยมาติดอยู่ตรงนั้น เจอหมาตายลอยมาบ่อย ๆ เขาก็เลยเรียกว่าวังหมาเน่า"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 27-11-2018 เมื่อ 20:53
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 155 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #158  
เก่า 27-11-2018, 19:41
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,507
ได้ให้อนุโมทนา: 151,364
ได้รับอนุโมทนา 4,405,827 ครั้ง ใน 34,096 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

"ลูกศิษย์ของหลวงพ่อเงิน วัดบางคลาน ที่โด่งดังรักษาชื่อเสียงเกียรติคุณพระอาจารย์ไว้มีมาก ไม่ว่าจะเป็นหลวงปู่ภู วัดท่าฬ่อ หลวงพ่อพิธ วัดฆะมัง หลวงพ่อเตียง วัดเขารูปช้าง ในเมื่อลูกศิษย์ดัง อาจารย์ก็เด่น สายนี้ท่านทำตะกรุดเรียกตะกรุดคู่ชีวิต แต่อาตมากลับศึกษามาจากทางด้านสายหลวงปู่ปาน ถามว่าหลวงปู่ปานเอามาจากไหน ? หลวงปู่ปานเอามาจากหลวงปู่แช่ม วัดฉลอง

แต่คราวนี้ที่ยังรีรอลังเลอยู่ เพราะว่าตะกรุดคู่ชีวิตมาสายเหนียวโดยตรง มหาอุตม์คงกระพัน ซึ่งหลวงพ่อวัดท่าซุงท่านสั่งห้ามไว้ ถามว่าทำไมสั่งห้าม ? ท่านบอกว่าสายของเราส่วนใหญ่มาสายพุทธภูมิ กำลังใจเกินชาวบ้าน ถ้าได้ของเหนียวยิงไม่ออกเมื่อไรเดี๋ยวจะไปรังแกชาวบ้าน อาตมาก็เลยลังเล ถึงเวลาก็แอบทำโน่นนิดนี่หน่อย ส่วนใหญ่พวกเราตอนนี้ก็เอาเรื่องของลาภเรื่องของเมตตาไว้ก่อน กำลังจ้องรออยู่ว่าเมื่อไรท่านจะอนุญาตให้ทำเสียที"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 27-11-2018 เมื่อ 20:54
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 160 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #159  
เก่า 27-11-2018, 19:47
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,507
ได้ให้อนุโมทนา: 151,364
ได้รับอนุโมทนา 4,405,827 ครั้ง ใน 34,096 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

"บรรดาพระที่วัดท่านเห็นอาตมาทีไร ท่านหัวเราะกันทุกที เพราะว่าหลวงพ่อท่านไม่ให้กันมือกับเท้า ท่านบอกว่าต้องมีจุดอ่อนไว้บ้าง ถ้าไม่มีจุดอ่อนเดี๋ยวไปเป็นโจรกันหมด นี่ท่านว่าอาตมาตั้งแต่เป็นฆราวาส ฉะนั้น..ทุกอย่างเวลาโดนก็จะโดนที่มือโดนที่เท้า นอกข้อมากันไม่ได้

อาตมาเคยโดนไอ้ใหม่ หมาที่วัดท่าซุงกัด ๒๐ กว่าเขี้ยว กัดเข้าแต่ตรงฝ่ามือ ด้านบนขึ้นมามีแต่รอยขูด ๆ นูน ๆ อยู่เฉย ๆ เออหนอ...หลวงพ่อท่านก็ช่างแกล้ง ท่านบอกถ้าไม่มีจุดอ่อนไว้บ้างเดี๋ยวจะไปรังแกชาวบ้าน นอกข้อมือข้อเท้าท่านไม่กันให้ ฉะนั้น ถ้าหากว่าอาตมาทำตะกรุดคู่ชีวิตก็คงต้องรอท่านอนุญาตก่อน

ถ้าใครได้สมุดบันทึกที่อาตมาเขียนเป็นลายมืออยู่ก็จะเห็น เพราะว่าอะไรศึกษาแล้วอยู่ในนั้นหมด แต่หลังจากที่พอสิ้นหลวงพ่อแล้ว บรรดาพี่ ๆ ที่ไม่ยอมเรียนอะไรกัน ท่านก็มาขอสมุดบันทึกไป ไล่บันทึกกันต่อ คนแรกเลยก็คือหลวงพี่ชัยวัฒน์ขอไป หลังจากนั้นก็ลอกต่อกันไปเรื่อย ๆ จนกระทั่งอาตมาออกจากวัดมา ยังไม่รู้เลยว่าสมุดเล่มจริงอยู่กับใคร ท้ายสุดตัวเองก็ได้แค่ที่ถ่ายเอกสารไว้ชุดหนึ่ง เออ...ดีเหมือนกัน ตัวเจ้าของสมุด เจ้าของลายมือไม่ได้ของจริง"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 27-11-2018 เมื่อ 20:56
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 151 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #160  
เก่า 27-11-2018, 19:49
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,507
ได้ให้อนุโมทนา: 151,364
ได้รับอนุโมทนา 4,405,827 ครั้ง ใน 34,096 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

"สมัยนั้นเวลาออกกิจนิมนต์ส่วนใหญ่อาตมาจะห้อยท้าย เพราะว่าเป็นน้องใหม่ บรรดาพี่ ๆ วัดท่าซุงเขานิยมการภาวนากัน ก็เลยไม่ค่อยสวดมนต์ ส่วนอาตมาไปเป็นนาคอยู่วัด ๓๗ วัน สวดมนต์ได้หมดทั้งเล่มแล้ว ถึงเวลาเขาเห็นสวดมนต์ได้ก็เอาออกกิจนิมนต์แทน

ถึงเวลาเจิมรถ เจิมบ้าน ทำโน่นทำนี่ สมัยก่อนส่วนใหญ่ก็จะเป็นหลวงพี่โอท่านจะนำหัวแถว เขาจะเจาะจงมา หลวงพี่โอ หลวงพี่นันต์ หลวงพี่ทีป ประเภทเจาะจงมา ที่เหลือก็แล้วแต่จะจัดใครไป ถึงเวลา เอ้า...ท่านเล็กทำให้เขาหน่อย โดนเข้าบ่อย ๆ ก็เหนื่อย...บ่น "ทำไมพี่ไม่ทำบ้าง ?" "ไม่ได้เรียนไว้ว่ะ" ถามว่า "แล้วอยู่มา ๒๐ - ๓๐ ปี ไม่เรียนบ้างเลยหรือ ?" "เป็นแล้วมันเหนื่อย" โอ้โห...พี่ท่านตอบชัดมากเลย เป็นแล้วมันเหนื่อย พอสิ้นหลวงพ่อ คราวนี้ไม่เป็นนะสิ ต้องแย่งตำรากันใหญ่"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 27-11-2018 เมื่อ 20:57
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 149 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
ตอบ


ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 1 คน ( เป็นสมาชิก 0 คน และ บุคคลทั่วไป 1 คน )
 

กฎการส่งข้อความ
You may not post new threads
You may not post replies
You may not post attachments
You may not edit your posts

BB code is ใช้ได้
Smilies are ใช้ได้
[IMG] code is ใช้ได้
HTML code is งดใช้

Forum Jump


เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 04:53



ค้นหาในเว็บวัดท่าขนุน

เว็บวัดท่าขนุน Powered by vBulletin
Copyright © 2000-2010 Jelsoft Enterprises Limited.
ความคิดเห็นส่วนตัวทุก ๆ ข้อความในเว็บบอร์ดนี้ สงวนสิทธิ์เฉพาะเจ้าของข้อความ ไม่อนุญาตให้คัดลอกออกไปเผยแพร่ นอกจากจะได้รับคำอนุญาตจากเจ้าของข้อความอย่างชัดเจนดีแล้ว