กระดานสนทนาวัดท่าขนุน


กลับไป   กระดานสนทนาวัดท่าขนุน > ห้องธรรมะ เรื่องราวในอดีต และสรรพวิชา > เรื่องธรรมะ และการปฏิบัติ > ฝากคำถามถึงหลวงพ่อ

Notices

ฝากคำถามถึงหลวงพ่อ คุณสามารถตั้งคำถาม และทีมงานจะรวบรวม และคัดกรองเพื่อนำไปถามหลวงพ่อในตอนเย็นวันอาทิตย์ที่หลวงพ่อมารับสังฆทาน

กระทู้ถูกปิด
 
คำสั่งเพิ่มเติม
  #1  
เก่า 07-02-2018, 00:51
นักเดินทางสังสารวัฏ นักเดินทางสังสารวัฏ is offline
สมาชิก - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Mar 2016
ข้อความ: 77
ได้ให้อนุโมทนา: 139
ได้รับอนุโมทนา 2,965 ครั้ง ใน 205 โพสต์
นักเดินทางสังสารวัฏ is on a distinguished road
Default บุคคลที่ไม่กลัวตาย

๑. ๑ ในอานิสงส์ของมรณานุสติคือจะเป็นคนไม่กลัวความตาย แต่ผมสงสัยที่พระพุทธเจ้าท่านบอกคนไม่กลัวตายมี ๒ ประเภทพระอรหันต์กับพระเจ้าจักรพรรดิ หลวงพ่อช่วยอธิบายให้ผมหายสงสัยทีครับ

๒. ผมสงสัยว่ามัชฌิมาปฏิปทาหรือทางสายกลาง สามารถลดลงหรือเพิ่มขึ้นได้ไหม เพราะที่ผมถามหลวงพ่อไปว่าฆราวาสอย่างผมจะทรงฌาน จากอานาปานสติใช้เวลานานแค่ไหน หลวงพ่อตอบว่า ๓ วัน แต่ผมลองนั่งสมาธิดูไม่เกิน ๒๐ นาทีรู้สึกไม่ไหว เริ่มจะเครียดเลยเลิก แต่สมัยผมอายุ ๑๕ ได้เข้าฌาน และทรงฌานได้เกือบ ๑ เดือนผมทำสมาธิได้เป็นชั่วโมงไม่รู้สึกเมื่อย และนอนน้อยมากแต่ไม่รู้สึกเหนื่อยอะไรเวลาตื่นมา และคิดว่าตัวเองบรรลุแน่นอนเพราะอารมณ์ราคะ ไม่เกิด แต่พอฌานเสื่อมผมเลยศึกษาพุทธศาสนา เลยทราบว่าเป็นอุปกิเลสตัว นิกันติ กับปัคคาหะ หรือจริง ๆ เป็นเพราะผมได้ฌานโลกีย์กำลังเลยขึ้น ๆ ลง ๆ

๓. จากข้อก่อนหน้านี้ที่ผมเข้าฌานได้ตอนอายุ ๑๕ เลยทราบว่าผมน่าจะปรารถนาพระโพธิญาณมาก่อน และผมได้อ่านหนังสืออภิญญาของที่หลวงพ่อวัดท่าซุงท่านเขียนไว้ประมาณว่า ที่ท่านสอนเรื่องอภิญญาเพราะปูพื้นฐานพวกพุทธภูมิที่จะลงมาเกิดและพวกพุทธภูมิก็จะช่วยเหลือพุทธศาสนา และพวกพุทธภูมิก็ลาพุทธภูมิเป็นช่วง ๆ และครูที่จะฝึกอภิญญาก็ต้องคล่องอภิญญา เหมือนกัน ณ ปัจจุบันผมก็อายุ ๒๑ มีแฟน และฌานสมาบัติก็เสื่อมหมดแล้ว แต่ผมลองมองหาตัวเลือกในชาตินี้มีอะไรบ้าง และถ้าตายแล้วไปไหนดี
ตัวเลือกแรกคือ ขี้เกียจทำสมาธิ แต่ทำทุกวันแต่ไม่ได้ใช้เวลาเยอะ แต่ก็พอใจในการรักษาศีล และการให้ทาน ถ้าตายตอนนี้ก็ไปเกิดเป็นเทวดา และอีกตัวเลือกคือตั้งใจจะทรงฌานสมาบัติ และอภิญญาจะได้ทำงานด้านพุทธภูมิได้เต็มที่แบบหลวงปู่ปาน หลวงพ่อวัดท่าซุง หรือแบบหลวงพ่อเล็ก ถ้าตายตอนนี้ก็ได้เป็นพรหม และที่สำคัญรู้สึกภูมิใจที่ได้ตอบแทนพระคุณ ของพระรัตนตรัยที่ได้ให้อริยทรัพย์ แต่ผมลองเอาตัวเองเปรียบเทียบกับสุภมานพที่เป็นลูกของโตไทยพราหมณ์ และสุภมานพจะได้เกิดเป็นพระพุทธเจ้าในกัปหน้า และท่านสุภมานพเกิดทันพระพุทธเจ้า และพระอรหันต์อีกหลายพระองค์ ท่านสุภมานพก็ให้ทาน รักษาศีล ไม่เห็นท่านบวชและทรงฌานสมาบัติ เหมือนพระศรีอาริยเมตไตรยที่เกิดเป็นพระอชิตะสมัยนั้นเลย จากที่ผมเล่ามา ในฐานะหลวงพ่อเคยเป็นพระโพธิสัตว์บำเพ็ญบารมีมาหลายอสงไขย ผมสงสัยตัวผมเองก็อยากจะทรงฌานเหมือนเดิม เพราะพระโพธิสัตว์ท่านชอบทรงฌานเป็นปกติ ผมก็ชอบทรงฌานเพราะทำให้จิตใจเบา สดชื่น และว่องไว แต่ตอนนี้ฌานเสื่อมและทรงยากมาก เนื่องจากมีแฟนเป็นสาวฝรั่งสวยมาก นิสัยดี ทำให้นิวรณ์กวนใจผมตลอดเมื่อเห็นหน้าแฟน หรือได้ยินเสียงของแฟน อยากถามหลวงพ่อครับว่า ถ้าผมเลือกตัวเลือกแรก ที่ทำสมาธิบ้างเล็กน้อย และรักษาศีล ให้ทาน และเผยแพร่พระธรรมผ่านทาง Facebook ผมยังอยู่ในขอบเขตพระโพธิสัตว์หรือเปล่าครับ เพราะผมรู้สึกว่าเราควรจะเลิกขี้เกียจแล้วสละทุกอย่างที่เราถือว่าเป็นอัตตา เช่นเงินทอง ร่างกาย เพื่อพระโพธิญาณ เพื่อความสุขของคนอื่นมากกว่า

๓.๑ ผมขอถามหลวงพ่อเกี่ยวกับ ๑ ในอจินไตย ข้อฌานวิสัย ตอนที่ผมทรงฌานใหม่ ๆ อารมณ์ตอนนั้นแน่วแน่กล้าหาญ สดชื่น ว่องไว และมีกำลังมาก แต่สงสัยว่าความสามารถของผู้ทรงฌาน จะเอาไปใช้อย่างไรให้เกิดประโยชน์กับตนเองและสังคมมากสุดครับ เพราะปกติผมจะเอากำลังสมาธิทำให้จิตสงบ พอสงบแล้วจะใช้ปัญญามาแก้ปัญหา และหาเหตุหาผลต่าง ๆ ได้ง่ายขึ้น

๓.๒ การจะเข้าฌานต้องมีเอกัคคตารมณ์ คืออารมณ์เป็นหนึ่งจดจ่อกับสิ่งที่ทำเช่นกำหนดรู้ลมหายใจอย่างเดียว แต่ผมสงสัยว่าการที่เราจดจ่อการสวดมนต์อย่างเดียว หรือถ้ามีอาชีพเป็นมือปืนหรือนักธนูจะยิงเป้าหมายให้แม่น ก็คือเอกัคคตารมณ์ ใช่หรือเปล่าครับ

๓.๓ ตอนที่สมาธิผมอยู่อุปจารสมาธิบางครั้งจะได้ยินเสียงดนตรี และเสียงคนคุยภาษาอะไรไม่รู้ แต่ผมอยากจะเข้าใจว่าเขาพูดภาษาอะไรกันควรทำอย่างไรดีครับ แล้วการที่จะคุยกับพระที่ท่านอยู่บนพระนิพพาน พรหม และเทวดา คุยอย่างไรหรือครับ และใช้ภาษาอะไรคุยหรือครับ

๓.๔ ตอนที่ทรงฌาน แล้วญาณเกิดขึ้นผมอยากถามว่าเจโตปริยญาณ คือความสามารถที่จะรู้อารมณ์ใจของคนและสัตว์ คือเรารู้ในลักษณะความรู้สึกบอกกับเราว่าเขาคิดแบบนี้ใช่หรือเปล่าครับ หรือว่ารู้แบบได้ยินเสียงชัด ๆ เป็นแบบไหนกันแน่ครับ แล้วครั้งแรกที่ผมเข้าฌาน ๑ ครั้งแรกที่วัด และมีแมววัดมาเดินอยู่แถว ๆ ผมและคนที่นั่งสมาธิกันอีกมาก ผมพูดในใจตัวเองว่า ให้แมวมาใกล้ ๆ ผม แล้วแมวก็เดินมาใกล้ ๆ แล้วซบตักผม อยากทราบว่าการคุยกับสัตว์ เขาคุยกันในใจแบบนี้ใช่หรือเปล่าครับ หรือว่าจริง ๆ แมวแค่มาซบเพราะอยากซบไม่ใช่เพราะผมสื่อสารกับแมวรู้เรื่อง

๓.๕ อภิญญา ๖ อันสุดท้ายคืออาสวักขยญาณ คือความสามารถในการตัดกิเลส อยากทราบว่าพระโพธิสัตว์ที่ทรงฌานเก่ง ๆ พอทรงฌานได้แล้ว ญาณจะเกิดขึ้นมาเอง พระโพธิสัตว์จะมีญาณที่สามารถรู้วิธีทำอย่างไรไม่ให้กิเลสในสังโยชน์เกิดหรือเปล่าครับ โดยเฉพาะสังโยชน์เบื้องสูงและพวกอนุสัยกิเลส

๔. จากข้อก่อนหน้านี้ และผมไปอ่านเจอคำทำนายของพระโมคคัลลีบุตรติสสะ เมื่อพระพุทธศาสนาถึงกึ่ง ๕,๐๐๐ ปี
นับแต่พุทธปรินิพพานมา พระพุทธศาสนาจะกลับเจริญรุ่งเรืองถึงขีดสูงสุดคล้ายสมัยพุทธกาล เพราะพระมหาเถระโพธิสัตว์ผู้มีบุญและเชี่ยวชาญอภิิญญาจะมาช่วย ผมลองมาคิดดูว่าลูกศิษย์ของหลวงพ่อวัดท่าซุง และหลวงพ่อเล็ก จะมีประเภทที่ปรารถนาพุทธภูมิเหมือนกัน และท่านเหล่านี้น่าจะทรงฌาน และอภิญญา นอกเหนือจากนี้บุคคลที่ปรารถนาพุทธภูมิและเป็นหนุ่มแบบผม น่าจะลงมาเกิดเวลาใกล้เคียงกับผมเยอะ และดีไม่ดีอาจจะทรงฌาน และทรงอภิญญาแซงหน้าผมไปแล้ว ตามที่ผมเข้าใจ พระโพธิสัตว์ท่านไม่แย่งที่จะทำหน้าที่พระมหาเถระโพธิสัตว์ ที่พระโมคคัลลีบุตรติสสะทำนายหรือครับ เพราะผมคิดว่าถ้าผมทรงฌานและทรงอภิญญาสมาบัติได้เมื่อไหร่ เราจะทำหน้าที่นี้เองเพื่ออานิสงส์บุญใหญ่ขนาดนี้และหายากยิ่งกว่าถูกหวยอีกเราต้องเอามาให้ได้ และผมมั่นใจว่าพระโพธิสัตว์ท่านอื่นก็คิดเหมือนกัน

๕. เวลาผมคิดจะเจริญวิปัสสนา ผมก็คิดเห็นโทษของอายตนะภายในคือ ตา หู จมูก ลิ้น กาย ซึ่งเป็นปัจจัยให้เกิดกิเลสเกิดขึ้นในจิต ถ้าผมไม่มี ตา หู จมูก ลิ้น และ กาย คงจะดีเพราะกิเลสจะเกิดไม่ได้ ยกตัวอย่างถ้าผมไม่มีตา ผมก็ไม่สามารถเห็นรูปสาว ๆ สวย ๆ ได้ แปลว่าผมก็ไม่สามารถเก็บรูปผู้หญิงไปคิดหรือจินตนาการให้เกิดกิเลสได้เพราะไม่มีตาเห็นรูป แต่ผมอ่านไปเจอว่าอรูปพรหม ที่ท่านไม่มีรูปขันธ์เพราะท่านเห็นโทษในอายตนะ ผมเลยคิดว่าตัวเองน่าจะคิดผิด เลยสงสัยว่าผมคิดถูกตามที่พระพุทธเจ้าสอนหรือเปล่าครับ ถ้าไม่ใช่หลวงพ่อช่วยอธิบายให้ถูกตามที่พระพุทธเจ้าสอนทีครับ

๖.ผมอ่านหนังสือ พรสวรรค์ บนเวปวัดท่าซุงหนังสือเรื่องนี้จะมีคำสอนของพระพุทธเจ้าในอดีตจนไปถึงพระโพธิสัตว์ และคนที่ทำหนังสือนี้ขึ้นมาคือคณะพรสวรรค์ อยากทราบว่าหลวงพ่อพอจะรู้จักคณะพรสวรรค์หรือเปล่าครับ ถ้าหลวงพ่อรู้ช่วยเล่าประวัติคณะพรสวรรค์เป็นความรู้ทีครับ
๖.๑ ในหนังสือพรสวรรค์ มีคำสอนของท่านทรงปราบมาร ซึ่งในหนังสือบอกว่าเป็นผู้ที่สนับสนุนการบำเพ็ญบารมีของพระพุทธเจ้าทุกพระองค์ และท่านจะรอตรัสรู้เป็นพระพุทธเจ้าองค์สุดท้าย อยากทราบว่าหลวงพ่อเคยเจอท่านทรงปราบมารหรือเปล่าครับ

๗.การที่ผมมโนภาพหรือนึกว่าเรากำลังกราบสมเด็จองค์ปฐม ปางพระนิพพาน อยากทราบว่าเป็นมโนมยิทธิหรือเปล่าครับหรือเป็นแค่จินตนาการเฉย ๆ

๘.ผมอ่านมาว่าในยุคพระศรีอริยเมตไตรยจะมีต้นกัลปพฤกษ์ ต้นไม้ชนิดนี้อยากได้อะไรไปขอต้นไม้นี้ได้ อยากทราบว่าในยุคนั้นถ้าอยากจะจะทำทานก็เป็นการยากใช่หรือเปล่าครับ

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 03-08-2018 เมื่อ 02:02
สมาชิก 20 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ นักเดินทางสังสารวัฏ ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #2  
เก่า 02-08-2018, 23:12
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,367
ได้ให้อนุโมทนา: 150,682
ได้รับอนุโมทนา 4,396,955 ครั้ง ใน 33,956 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : ๑ ในอานิสงส์ของมรณานุสติคือจะเป็นคนไม่กลัวความตาย แต่ผมสงสัยที่พระพุทธเจ้าท่านบอกคนไม่กลัวตายมี ๒ ประเภท พระอรหันต์กับพระเจ้าจักรพรรดิ หลวงพ่อช่วยอธิบายให้ผมหายสงสัยทีครับ ?
ตอบ : ทำไมต้องหายสงสัย ? พระอรหันต์ท่านไม่อยากอยู่บนโลกนี้อยู่แล้ว ท่านจะกลัวตายทำไม ? ส่วนพระเจ้าจักรพรรดิทั้งโลกเป็นของท่านอยู่แล้ว ไม่มีศัตรู แล้วท่านต้องไปกลัวใคร ?

ถาม : คนที่เจริญมรณานุสติจะเป็นคนที่ไม่กลัวความตายใช่ไหมครับ ?
ตอบ : เป็นไปไม่ได้สำหรับคนทั่วไป ยกเว้นว่าจะเจริญมรณานุสติจนถึงที่สุด คือ เป็นพระอรหันต์ไปเลย ถึงจะไม่กลัวตาย
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
สมาชิก 17 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #3  
เก่า 02-08-2018, 23:12
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,367
ได้ให้อนุโมทนา: 150,682
ได้รับอนุโมทนา 4,396,955 ครั้ง ใน 33,956 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : ผมอ่านหนังสือพรสวรรค์บนเว็บวัดท่าซุง หนังสือเรื่องนี้จะมีคำสอนของพระพุทธเจ้าในอดีต ไปจนถึงพระโพธิสัตว์ และคนที่ทำหนังสือนี้ขึ้นมาคือคณะพรสวรรค์ อยากทราบว่าหลวงพ่อพอจะรู้จักคณะพรสวรรค์หรือเปล่าครับ ? ถ้าหลวงพ่อรู้ช่วยเล่าประวัติคณะพรสวรรค์เป็นความรู้ทีครับ ?
ตอบ : คณะพรสวรรค์คือคณะที่เริ่มต้นขึ้นมาจากการเล่นผีถ้วยแก้ว แต่เนื่องจากส่วนใหญ่เป็นนักปฏิบัติระดับสูงทั้งนั้น ผู้ที่มาสงเคราะห์ส่วนใหญ่ก็เลยกลายเป็นพรหม เทวดา หรือพระไปเลย ทางคณะจึงเก็บคำสอนที่ได้จากการเล่นผีถ้วยแก้ว เอามาบันทึกไว้ให้พวกเราได้อ่านกัน

ถาม : ในหนังสือพรสวรรค์ มีคำสอนของท่านทรงปราบมาร ซึ่งในหนังสือบอกว่าเป็นผู้ที่สนับสนุนการบำเพ็ญบารมีของพระพุทธเจ้าทุกพระองค์ และท่านจะรอตรัสรู้เป็นพระพุทธเจ้าองค์สุดท้าย อยากทราบว่าหลวงพ่อเคยเจอท่านทรงปราบมารหรือเปล่าครับ ?
ตอบ : ยังไม่เคยเจอ เพราะว่ากลัวจะโดนท่านปราบ..!
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
สมาชิก 17 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #4  
เก่า 02-08-2018, 23:13
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,367
ได้ให้อนุโมทนา: 150,682
ได้รับอนุโมทนา 4,396,955 ครั้ง ใน 33,956 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : การที่ผมมโนภาพหรือนึกว่าเรากำลังกราบสมเด็จองค์ปฐม ปางพระนิพพาน อยากทราบว่าเป็นมโนมยิทธิหรือเปล่าครับ หรือเป็นแค่จินตนาการเฉย ๆ ?
ตอบ : ถ้าสามารถเห็นได้ชัดเจนก็เป็นทิพจักขุญาณ ถ้าไปอยู่ที่นั่นเลยก็เป็นมโนมยิทธิ ให้พิจารณาเอาเองเลยว่าเป็นประเภทไหน ถ้าไม่ได้ทั้งสองอย่างก็เหลืออยู่อย่างเดียว คือจินตนาการไปเอง
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
สมาชิก 18 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #5  
เก่า 02-08-2018, 23:13
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,367
ได้ให้อนุโมทนา: 150,682
ได้รับอนุโมทนา 4,396,955 ครั้ง ใน 33,956 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : การจะเข้าฌานต้องมีเอกัคตารมณ์ คืออารมณ์เป็นหนึ่งจดจ่อกับสิ่งที่ทำ เช่น กำหนดรู้ลมหายใจอย่างเดียว แต่ผมสงสัยว่าการที่เราจดจ่อการสวดมนต์อย่างเดียว หรือถ้ามีอาชีพเป็นมือปืนหรือนักธนู จะยิงเป้าหมายให้แม่น ก็คือเอกัคตารมณ์ ใช่หรือเปล่าครับ ?
ตอบ : ถ้าสามารถทำได้ ทุกอย่างทุกอาชีพก็ล้วนแล้วแต่เป็นเอกัคตารมณ์ ถ้าทำไม่ได้ก็ไม่ใช่
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
สมาชิก 18 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
กระทู้ถูกปิด


ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 1 คน ( เป็นสมาชิก 0 คน และ บุคคลทั่วไป 1 คน )
 
คำสั่งเพิ่มเติม

กฎการส่งข้อความ
You may not post new threads
You may not post replies
You may not post attachments
You may not edit your posts

BB code is ใช้ได้
Smilies are ใช้ได้
[IMG] code is ใช้ได้
HTML code is งดใช้

Forum Jump


เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 15:25



ค้นหาในเว็บวัดท่าขนุน

เว็บวัดท่าขนุน Powered by vBulletin
Copyright © 2000-2010 Jelsoft Enterprises Limited.
ความคิดเห็นส่วนตัวทุก ๆ ข้อความในเว็บบอร์ดนี้ สงวนสิทธิ์เฉพาะเจ้าของข้อความ ไม่อนุญาตให้คัดลอกออกไปเผยแพร่ นอกจากจะได้รับคำอนุญาตจากเจ้าของข้อความอย่างชัดเจนดีแล้ว