กระดานสนทนาวัดท่าขนุน


กลับไป   กระดานสนทนาวัดท่าขนุน > ห้องธรรมะพระอาจารย์ > เก็บตกจากบ้านวิริยบารมี

Notices

เก็บตกจากบ้านวิริยบารมี เก็บข้อธรรมจากบ้านวิริยบารมีมาฝาก สำหรับผู้ที่ไม่มีโอกาสเดินทางไป

ตอบ
 
คำสั่งเพิ่มเติม
  #141  
เก่า 21-03-2016, 14:06
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,371
ได้ให้อนุโมทนา: 150,708
ได้รับอนุโมทนา 4,397,151 ครั้ง ใน 33,960 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : ฤทธิ์กับอภิญญา คือสิ่งเดียวกัน หรือต่างกัน ?
ตอบ : อภิญญาเป็นความสามารถพิเศษที่เกิดจากการที่เราฝึกกรรมฐานในหมวดของกสิณ ๑๐ ถ้าเราฝึกกรรมฐานหมวดอื่นก็จะไม่ได้อภิญญา

แต่ถามว่าฝึกกรรมฐานกองอื่นแล้วมีฤทธิ์ไหม ? มีเหมือนกันแต่เป็นฤทธิ์ด้านอื่น เรื่องของอภิญญาสามารถสำแดงฤทธิ์ที่เกินมนุษย์ได้อย่างชัดเจน แต่ฤทธิ์ในหมวดอื่น เช่น ฤทธิ์เกิดจากฌานสมาบัติ หรือฤทธิ์เกิดจากแรงอธิษฐานหรือฤทธิ์เกิดจากบุญที่สั่งสมมา สิ่งทั้งหลายเหล่านั้นเราไม่สามารถแสดงให้ผู้อื่นเห็นชัดได้เหมือนกับอภิญญา
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 21-03-2016 เมื่อ 16:39
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 182 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #142  
เก่า 21-03-2016, 14:08
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,371
ได้ให้อนุโมทนา: 150,708
ได้รับอนุโมทนา 4,397,151 ครั้ง ใน 33,960 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : เข้าใจมาตลอดว่า คนเราถ้าตายไปก็ถูกตัดสิน กรรมไม่ดีก็ลงนรก กรรมดีก็ขึ้นสวรรค์ แต่คนที่ตายก่อนหมดอายุขัย ทำไมจึงไม่ไปตามภพภูมิ ผมไม่เข้าใจครับ ?
ตอบ : ถ้าคุณเรียนไม่จบ คุณมีสิทธิ์จบจากโรงเรียนนั้นไหม ? ในเมื่อไม่หมดอายุขัย ไปภพภูมิอื่นไม่ได้ ก็ต้องเร่ร่อนไปก่อน

ความจริงเรื่องของภพภูมิ ไม่ต้องรอคนอื่นตัดสิน เราทำดีก็เสวยผลความดีของเรา เราทำชั่วก็ไปเสวยผลความชั่วของเรา พวกที่ต้องไปรอตัดสิน ต้องบอกว่าดีก็ดีไม่ทั่ว ชั่วก็ชั่วไม่หมด ครึ่ง ๆ กลาง ๆ สะเทินน้ำสะเทินบกเหมือนกบเหมือนเขียด ก็เลยต้องไปให้พระยายมราชตัดสินว่าจะอยู่บนบกหรืออยู่ในน้ำ ถ้านึกถึงความดีได้ก็ไปอยู่บนบก นึกถึงความดีไม่ได้ก็ลงไปอยู่ในน้ำ

เรื่องของความดี ถ้าขึ้นตรงหรือลงตรงก็จบเลย แต่ส่วนใหญ่แล้วที่ต้องรอตัดสินก็เพราะว่ามีดีมีชั่วปะปนกันมั่วไปหมด บางคนก็อุตส่าห์ชั่วมาตลอดชีวิต แต่ตอนท้ายดันไปเกาะความดีได้ บางคนดีมาตลอดชีวิต ตอนท้ายดันไปคิดถึงความชั่วหน่อยหนึ่ง ประเภทนี้ต้องบอกว่าอุปฆาตกรรมมาตัดรอน

เรื่องของกรรมมีอยู่ทั้งหมด ๓ หมวด ๑๒ ประเภท ค่อย ๆ ไปศึกษาดู จะเห็นถึงความพิลึกพิลั่นพิสดารของกรรมว่าเป็นอย่างไร
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 21-03-2016 เมื่อ 16:40
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 176 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #143  
เก่า 21-03-2016, 14:26
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,371
ได้ให้อนุโมทนา: 150,708
ได้รับอนุโมทนา 4,397,151 ครั้ง ใน 33,960 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : คนที่นับถือผีมีไหมครับ ?
ตอบ : มีเยอะแยะไป สารพัดศาสนา นับถือผีบ้าง นับถือธรรมชาติบ้าง ถือผีพวกเรารู้ใช่ไหมว่าคืออะไร นับถือธรรมชาติอย่างเช่น ดิน น้ำ ลม ไฟ ก็จะมีแม่ธรณี แม่คงคา แม่พระเพลิง แม่พระพาย เขาจะถือพวกนี้มาก่อน จนกระทั่งมาระยะหลัง ๆ สร้างเป็นเทพเจ้าขึ้นมา มีเทวดาอย่างโน้นอย่างนี้ ไป ๆ มา ๆ พอศาสนาพุทธเกิด ก็นับถือพระ อย่างของบ้านเรานับถือผีมานาน เล่นไสยศาสตร์กันมานาน พอถึงเวลาแล้วก็เลยปน ๆ กันอยู่ระหว่างพุทธ พราหมณ์ ผี
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 21-03-2016 เมื่อ 16:41
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 178 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #144  
เก่า 21-03-2016, 14:31
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,371
ได้ให้อนุโมทนา: 150,708
ได้รับอนุโมทนา 4,397,151 ครั้ง ใน 33,960 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

พระอาจารย์เล่าว่า "ตอนไปสอบพระอุปัชฌาย์ เขามีคำถามเกี่ยวกับการคิดอายุ ถ้าหากคิดอายุออกมา ๑๙ ปี ๖ เดือนบวชได้ไหม ? บวชได้...เพราะว่าเขาให้บวกอายุในท้องได้ ๖ เดือน ถามว่าทำไมไม่ให้บวก ๙ เดือน ? เขาให้เหตุผลว่ามีคนที่คลอด ๗ เดือน ถ้าบวก ๙ เดือนเดี๋ยวอายุขาด บวชไปแล้วไม่เป็นพระ"

ถาม : ถ้าเกิดมา ๗ ปี ?
ตอบ : คณะสงฆ์ไทยบวกให้ ๖ เดือน ถ้า ๗ ปี อย่างพระสีวลี ก็บวชเณรเลย

ถ้าเอาอายุบวชแน่นอน ต้องบรรดาลูกท่านหลานเธอของฮ่องเต้สมัยก่อน เพราะคืนไหนนอนกับนางสนมคนไหน ขันทีต้องจดไว้หมด รู้ชัด ๆ เลยว่าเกิดวันไหน คนจีนนับจะมากกว่าไทยหนึ่งปีเสมอ อย่างอาตมาปีนี้ ๕๘ ปี แต่ถ้านับไทยก็เพิ่งจะ ๕๗ ปี
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 21-03-2016 เมื่อ 16:57
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 178 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #145  
เก่า 21-03-2016, 14:35
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,371
ได้ให้อนุโมทนา: 150,708
ได้รับอนุโมทนา 4,397,151 ครั้ง ใน 33,960 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : รู้สึกว่าเฉย ว่าง ?
ตอบ : แล้วสามารถเฉยได้ทุกครั้งไหม ? เอาเป็นว่าถ้ากำลังเราสูงกว่าก็จะเฉยได้ กิเลสทำอะไรไม่ได้ แต่ถ้ากำลังตกเมื่อไร ก็โดนกิเลสตีหงายท้องเหมือนเดิม ต้องระมัดระวังให้ดี

ถ้าช่างสังเกต ตอนที่เราปฏิบัติธรรมเสร็จใหม่ ๆ กำลังใจจะทรงตัวมาก แต่พอกระทบทางตา ทางหู ทางจมูก ทางลิ้น ทางกาย ทางใจ ไปเรื่อยกำลังเราจะตก จะรู้สึกว่าค่อย ๆ ขุ่นขึ้นมาเรื่อย ๆ แล้วก็ไปหงุดหงิดโกรธง่ายตอนกำลังหมด ถ้ารู้จักสังเกต ต่อไปจะพัฒนาตัวเองได้ง่ายขึ้น ถ้าไม่รู้จักสังเกตก็พัฒนายาก เพราะไม่รู้สาเหตุว่าเกิดจากอะไร
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 21-03-2016 เมื่อ 16:43
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 177 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #146  
เก่า 21-03-2016, 14:41
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,371
ได้ให้อนุโมทนา: 150,708
ได้รับอนุโมทนา 4,397,151 ครั้ง ใน 33,960 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

พระอาจารย์เล่าว่า "หลายวันก่อนไฟป่าลามเข้าวัด จะบอกว่าไฟป่าก็ไม่ใช่...เพราะมีคนเผา พระเลยไปช่วยกันดับ คราวนี้ไฟลามขึ้นกอไผ่ด้านบน พระอื่นเข้าไม่ถึงเพราะเปลวไฟแรง อาตมาเลยต้องเข้าไปเอง เอาไม้ยาว ๆ ตีให้ร่วงลงมาจะได้ดับ ก็เลยพลอยร่วงใส่ตัว ได้มาหลายแผล

โทรศัพท์ไปบอกทางเทศบาลให้เอารถดับเพลิงมาช่วยดับหน่อย เขามาฉีดให้เสร็จสรรพเรียบร้อยแล้วถามว่า "ทำไมหลวงพ่อไม่ปล่อยให้ไหม้ ๆ ไปให้หมด ? จะได้ไม่ไหม้อีก" เข้าท่าเหมือนกันนะ ไหม้หมดเกลี้ยงไปแล้วก็ไม่มีอะไรให้ไหม้...ใช่ไหม ? เลยบอกเขาว่าการที่ไฟไหม้ ไม่ใช่แค่ต้นไม้ตาย สัตว์ตายก็เป็นเรื่องใหญ่ แต่เรื่องใหญ่จริง ๆ คือไหม้จนหน้าดินกลายเป็นอิฐ ถ้าไหม้จนหน้าดินกลายเป็นอิฐ ฝนตกลงมาเท่าไร ดินจะรับน้ำไม่ได้ จะเกิดอุทกภัยได้ง่ายที่สุด

คนส่วนใหญ่ก็คิดว่าแค่ไหม้ ๆ เดี๋ยวต้นไม้ก็ขึ้นใหม่ สัตว์ก็หนีเองได้ แสดงว่าไม่เคยเห็นเต่าโดนไฟไหม้ ต่างจังหวัดเวลาชาวบ้านจะกินเต่า เขาจะเข้าไปเผาป่า แล้วถือกระสอบไปเดินรอที่ริมห้วย เพราะอย่างไรเต่าก็ต้องหนีลงไปทางห้วย ก็เป็นอันว่าโทษ ๒ ชั้น ๓ ชั้น เผาป่าด้วย ฆ่าสัตว์ด้วย แต่ส่วนใหญ่พอตัวเองลงไปโดนเผาข้างล่างก็แก้ตัวไม่ทันแล้ว..!"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 21-03-2016 เมื่อ 16:44
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 185 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #147  
เก่า 21-03-2016, 14:46
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,371
ได้ให้อนุโมทนา: 150,708
ได้รับอนุโมทนา 4,397,151 ครั้ง ใน 33,960 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

พระอาจารย์กล่าวว่า "คำว่า นะ ภาษาบาลีแปลว่า ไม่ คำว่า โน ก็เช่นเดียวกัน ดังนั้น...ภาษาอังกฤษที่บอกว่า No ก็เอาจากภาษาบาลีไป

เช่น อุปะสัมปันเนนะ ภิกขุนา เมถุโน ธัมโม นะ ปะฏิเสวิตัพโพ อุปสัมบันก็คือพระภิกษุ ห้ามเสพเมถุนก็คือห้ามมีเมีย นะ ปฏิเสวิตัพโพ ห้ามส้องเสพเกี่ยวข้องด้วย ถ้าเกิดคำว่า นะ หายไป ก็แปลว่าสั่งให้ลูกศิษย์ไปมีเมียได้..!"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 21-03-2016 เมื่อ 16:46
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 182 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #148  
เก่า 21-03-2016, 14:48
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,371
ได้ให้อนุโมทนา: 150,708
ได้รับอนุโมทนา 4,397,151 ครั้ง ใน 33,960 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

"เมื่ออาทิตย์ก่อนอาตมาทำการซักซ้อมคู่สวดที่วัดท่าขนุน ให้สวดใหม่แบบ "อุกาสะฯ" ปรากฏว่าแต่ละคนติดของเก่าก็มี ติดความเคยชินตัวเองที่แก้ไม่ตกก็มี ก็เลยบอกให้ไปซ้อมใหม่ ถ้ากลับจากที่นี่ไปแล้วจะกลับไปซ้อมอีก เอาจนกว่าที่จะแก้ได้

เรื่องของการสวดมนต์นั้น ญาติโยมอย่าพยายามให้เกิดความเคยชินในทางที่ผิด อย่างเช่น นะโม ตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมาสัมพุทธัสสะ ‘อะระหะโต’ ไม่ใช่ ‘อาระหะโต’ พวกเราจะเคยชินเป็น ‘อาระหะโต’ กันหมด

ผู้เข้าสอบพระอุปัชฌาย์รูปหนึ่ง ขึ้นนะโมฯ อยู่ ๑๖ รอบ โดนปรับตกไปเลย เพราะว่าท่านขึ้นนะโมฯ แล้วลงว่า ‘สัมมาสัมพุทตัสสะ’ ทุกครั้ง แก้ไม่หาย ให้แก้ตัวแล้วแก้ตัวอีกก็เหมือนเดิม

ส่วนท่านชาย เจ้าพ่อเกาะพระฤๅษีก็ตกเหมือนกัน เดี๋ยวกลับไปแล้วจะให้ไปซ่อมใหม่ เพราะออกเสียงว่า ‘สัม-มา-สัม-พุด-ถัด-สะ’ ตัว ‘ธ’ ต้องออกเสียงว่า ‘สัม-มา-สัม-พุด-ทัด-สะ’
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 21-03-2016 เมื่อ 16:48
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 185 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #149  
เก่า 21-03-2016, 14:53
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,371
ได้ให้อนุโมทนา: 150,708
ได้รับอนุโมทนา 4,397,151 ครั้ง ใน 33,960 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

พระอาจารย์กล่าวว่า "เมื่อเช้าบอกว่าเอาเหรียญของขวัญปีใหม่เข้าพิธี ๔,๐๐๐ องค์ ความจริงเป็น ๔,๐๐๒ องค์ มีเหรียญของคุณลูกเจนนี่อยู่ในย่ามอีก ๒ เหรียญ คุณลูกเขาฝากเงินมาทำบุญตั้งแต่งานสวดพระคาถาเงินล้าน ไม่ได้มารับสักที จึงติดย่ามหลวงพ่อไปเรื่อย ๆ"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 21-03-2016 เมื่อ 16:49
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 190 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #150  
เก่า 22-03-2016, 14:36
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,371
ได้ให้อนุโมทนา: 150,708
ได้รับอนุโมทนา 4,397,151 ครั้ง ใน 33,960 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : การที่คนเขียนเรื่องราวให้เขาแช่งชัก จะเป็นกรรมไหมคะ ?
ตอบ : ถ้าเขียนให้เขาแช่งชักหักกระดูกก็เป็นกรรม ถ้าหากว่าเขียนให้เขาสรรเสริญก็เป็นบุญ
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 22-03-2016 เมื่อ 17:23
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 174 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #151  
เก่า 22-03-2016, 14:58
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,371
ได้ให้อนุโมทนา: 150,708
ได้รับอนุโมทนา 4,397,151 ครั้ง ใน 33,960 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

พระอาจารย์กล่าวว่า "บ้านเราที่บอกว่าจะเปิดเทอมตามอาเซียน น่าจะได้เฉพาะระดับอุดมศึกษา แต่ก็ไม่ได้เหมาะกับบ้านเรา เพราะบ้านเราร้อนมาก ถ้าอากาศร้อนแล้วไปเรียนหนังสือโดยที่ห้องเรียนไม่มีเครื่องปรับอากาศก็จบกัน

อาตมาจำได้ว่าเรียนหนังสือตั้งแต่ชั้น ป.๑ จนถึง มศ. ๓ ไม่มีแม้แต่พัดลม เพราะสมัยโน้นเด็ก ๆ อึดมาก นั่งเรียนกันเหงื่อไหลไคลย้อยก็เอา ถึงเวลากลับบ้านคอเสื้อเป็นคราบเลย สมัยนี้โรงเรียนหลัก ๆ ส่วนใหญ่ติดเครื่องปรับอากาศให้ ปรากฏว่าเด็กกลับไม่สนใจการเรียน น่าเสียดายมาก

ที่อาตมาสอนเป็นมหาวิทยาลัยสงฆ์ ปรากฏว่าในมหาวิทยาลัยสงฆ์ พระ เณร ตลอดจนฆราวาส ทุ่มเทให้กับการเรียนมากเป็นพิเศษ ถ้ามหาวิทยาลัยข้างนอกเราอาจเห็นเด็กเรียนบ้าง โดดเรียนบ้าง ถึงอยู่ในห้องเรียนก็อาจจะนั่งคุยบ้าง กินขนมหลังห้องบ้าง นั่งแต่งหน้าบ้าง แต่ของมหาวิทยาลัยสงฆ์ไม่มี เหตุที่ไม่มีเพราะว่าพระเณรส่วนใหญ่ที่มาเรียนมีโอกาสเรียนน้อยมาก จึงอยากเรียน พยายามไขว่คว้าหาโอกาสที่จะได้เรียน

เมื่อมาบวชแล้วหลวงพ่อครูบาอาจารย์ส่งเรียน ก็ทุ่มกันเต็มที่เลย เมื่อเป็นเช่นนั้นก็เลยทำให้ต่างจากเด็กข้างนอกทั่วไป เด็กข้างนอกทั่วไปส่วนใหญ่พ่อแม่ตั้งใจส่งเรียน อดตาหลับขับตานอน ยิ่งเวลาสอบบางทีพ่อแม่เหนื่อยหนักกว่าลูกอีก เพราะต้องคอยลุ้น ส่งข้าว ส่งน้ำให้ลูก อ่านหนังสือ ซ้อมทำแบบฝึกหัด แต่ก็น้อยมากที่เป็นอย่างนั้น

ส่วนใหญ่แล้วก็นั่งเล่นเกม แชทไลน์ ออกไปแว้นกับเพื่อน คนที่มีโอกาสและพ่อแม่ทุ่มเทให้กลับไม่สนใจเรียน ส่วนคนไม่มีโอกาสก็ไขว่คว้าหาทางเรียนให้ได้ เมื่อได้โอกาสเข้ามาเรียนจึงทุ่มเทอย่างชนิดที่เรียกว่าเหลือเชื่อ...!"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 22-03-2016 เมื่อ 17:25
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 172 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #152  
เก่า 22-03-2016, 15:00
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,371
ได้ให้อนุโมทนา: 150,708
ได้รับอนุโมทนา 4,397,151 ครั้ง ใน 33,960 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

"วิทยาลัยสงฆ์พุทธปัญญาศรีทวารวดี ที่อาตมาสอนอยู่ที่วัดไร่ขิง ปีนี้มีลูกศิษย์จากจังหวัดตากมา ๔ รูป จากจังหวัดอุตรดิตถ์ ๕ รูป มาเรียนปริญญาโท ก่อนหน้านี้อาตมาเป็นนักศึกษา มจร. ที่มาเรียนไกลที่สุด คือเดินทางประมาณ ๓๐๐ กิโลเมตร ตอนนี้แพ้เขาราบเลย

ถามว่านักศึกษาจากตาก ทำไมไม่ลงวิทยาลัยสงฆ์นครสวรรค์ ? จากอุตรดิตถ์คุณเข้าวิทยาลัยสงฆ์พระพุทธชินราชที่พิษณุโลกก็จบแล้ว เขาบอกว่าปริญญาโทของที่นั่นไม่มีสาขาการจัดการเชิงพุทธ ที่ใกล้ที่สุดเป็นวัดไร่ขิง ปีนี้อาตมาก็เลยมีลูกศิษย์เป็นเจ้าคณะอำเภอ รองเจ้าคณะอำเภอ กับเจ้าคณะตำบล จากจังหวัดตากและอุตรดิตถ์มารวม ๙ รูปด้วยกัน นั่งคุยกันแล้วก็เห็นใจในความเพียรของท่าน ท่านตั้งใจว่าจะเปิดห้องเรียนทางด้านจังหวัดของตัวเอง แต่คราวนี้ว่าท่านจบปริญญาโทมาจากมหาวิทยาลัยข้างนอก ซึ่งไม่ใช่สาขาที่จะมาเป็นอาจารย์เองได้ ก็เลยต้องมาเรียนสาขาการจัดการเชิงพุทธเพื่อให้ตรงกับหลักสูตร เพื่อที่ตัวเองจะได้เป็นอาจารย์ประจำหลักสูตรได้เอง

ลองคิดดูว่าท่านต้องวิ่งจากจังหวัดตากมาวัดไร่ขิง มานอนค้างที่วัด ๓ คืน เรียนเสร็จแล้วก็วิ่งกลับไป ตอนที่อาตมาบอกว่าเดินทางมา ๓๐๐ กิโลเมตรเพื่อเรียน ครูบาอาจารย์เขาตกใจกันทุกคน แล้วเรียนแบบไม่เคยขาด ปรากฏว่าตอนนี้โดนทำลายสถิติไปเรียบร้อยแล้ว เด็ก ๆ ข้างนอกมีความพยายามแบบนี้บ้างไหม ?"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 22-03-2016 เมื่อ 17:27
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 172 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #153  
เก่า 22-03-2016, 15:04
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,371
ได้ให้อนุโมทนา: 150,708
ได้รับอนุโมทนา 4,397,151 ครั้ง ใน 33,960 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

"วิธีที่โยมจะทำให้ลูกรักเรียนได้ อาตมาอยากยกตัวอย่างคุณติ๊ก (ถาวภักดิ์ ตียาภรณ์) ลูกสาวคุณติ๊กเรียนมหาวิทยาลัยอยู่สองคน ลูกชายเรียนมัธยมปลาย

เด็กสามคนนี้ วัน ๆ ก็หน้าทิ่มอยู่กับหนังสือ ไม่ไปไหนเลย พ่อเขาสอนให้รักการอ่าน รักการเรียนมาตั้งแต่เด็ก ทำให้เด็กชอบอ่านหนังสือมาก ถ้าโยมสังเกตที่นี่จะมีนาทามลูกของคุณวรวรรณา หนังสือเล่มหนาอย่างนี้ หนูนาทามนั่งอ่านทั้งวัน ถ้าสามารถสอนลูกอย่างนี้ได้ เด็กจะเรียนดีทุกคน เพราะจิตใจเขาจดจ่อมุ่งมั่นอยู่ในลักษณะกระหายความรู้

อาจารย์ฐะปะนีย์ นาครทรรพ ท่านว่า เรียนเก่งเรียนอย่างไร เรียนด้วยใจหิววิชา อยากรู้ดูตำรา ยิ่งค้นคว้ายิ่งพาเพลิน ยิ่งเรียนยิ่งสนุก ผลักความทุกข์พ้นทางเดิน ไม่หิวไม่อิ่มเกิน ไม่ห่างเหินไม่โหมเอย" ใครทำแบบนี้ได้จะเรียนเก่งทุกคน
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 22-03-2016 เมื่อ 17:28
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 178 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #154  
เก่า 22-03-2016, 21:57
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,371
ได้ให้อนุโมทนา: 150,708
ได้รับอนุโมทนา 4,397,151 ครั้ง ใน 33,960 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

"อีกคนที่อยากยกตัวอย่างคือลูกสาวของอาตมาเอง ลูกอ้อย ตอนเด็ก ๆ เรียนไม่เก่ง แต่พอมาระดับประถมปลาย มัธยมต้น มัธยมปลาย ลูกอ้อยแซงเพื่อนรูดเลย พอเข้ามหาวิทยาลัย จบมาเรียนปริญญาโทคนแรก เหตุที่เป็นอย่างนั้นเพราะช่วงวัยรุ่นโดยปกติแล้วเด็กจะไปสนใจเพศตรงข้าม แต่อ้อยหน้าทิ่มอยู่กับหนังสือ เป็นคนที่รับมรดกหนังสือของอาตมาไปเยอะที่สุด ขนไปทีเป็นคันรถ อาตมาอ่านอะไรเขาก็อ่านด้วย

อาตมาเป็นคนอ่านหนังสือทุกแนว ลูกอ้อยก็อ่านอย่างนั้นด้วย เขาบอกว่าอ่านหนังสือตามหลังหลวงพ่อสบายดี เพราะตรงไหนผิดหลวงพ่อแก้ให้หมดแล้ว อาตมาทนเห็นของผิดไม่ได้ ฉะนั้น...หนังสือตรงไหนผิด จึงแก้ไปเรื่อย มีตัวหนังสือน้ำเงินบ้างแดงบ้าง เต็มไปทั้งเล่ม

ทำอย่างไรถึงจะให้เด็กของเรา โดยเฉพาะช่วงวัยรุ่น ทุ่มเทกับการเรียน แรงขับทางเพศเป็นพลังธรรมชาติที่เราต่อต้านและฝืนได้ยาก ก็ไม่ต้องไปฝืน แต่เปลี่ยนความสนใจเขาไป ให้เขาไปเล่นกีฬาก็ได้ ไปสนใจการเรียนก็ได้ ในเมื่อมีที่ให้ไปได้ ก็จะไม่ไปสนใจใส่ใจกับเพศตรงข้าม แต่จะไปใส่ใจกับการเรียนแทน"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 23-03-2016 เมื่อ 02:46
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 168 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #155  
เก่า 22-03-2016, 21:59
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,371
ได้ให้อนุโมทนา: 150,708
ได้รับอนุโมทนา 4,397,151 ครั้ง ใน 33,960 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

"อาตมาสังเกตว่า ตัวเองจบชั้น ป.๔ อายุ ๑๒ ปี ไปเรียน ป.๕ ป.๖ ป.๗ ยังตัวแคระแกร็นแค่นี้ แต่เพื่อน ๆ ที่จบ ป.๔ แล้วออกไปไม่เรียนต่อ โตพรึ่บขึ้นมาเป็นหนุ่มเป็นสาวหมดเลย คล้าย ๆ กับว่าพอเราทุ่มเทใช้สมองไปกับการเรียน พัฒนาการทางเพศก็น้อยลง แต่บรรดาเพื่อน ๆ ที่ไม่ได้เรียน โตเป็นหนุ่มเป็นสาวกันหมด พออาตมาขึ้นมัธยม พวกที่ไม่ได้เรียนหนังสือเขาก็แต่งงานกันหมดแล้ว แต่ของอาตมาอยู่ชั้นมัธยมยังไม่รู้เรื่องอะไรเลย เพราะมัวแต่สนใจการเรียนอยู่

ก็แปลว่าร่างกายของเราปรับตัวเองได้ ถ้าคุณสนใจการเรียน ทุ่มเทพลังงานไปด้านนั้น ก็โตเป็นหนุ่มเป็นสาวช้า แต่ถ้าไม่สนใจการเรียน ไม่ได้ใช้สมองทุ่มเทกับการเรียน ก็โตเป็นหนุ่มเป็นสาวเร็ว คราวนี้พอเป็นหนุ่มเป็นสาวเร็ว แรงขับทางเพศก็แรง เพราะเป็นพลังในการสร้างโลก ถ้ากำลังใจไม่ดีพอ ไม่มุ่งมั่น สมาธิไม่ดีพอ เอาไม่อยู่สักราย ทำให้แทนที่จะสนใจการเรียน ก็ไปสนใจเพศตรงข้ามแทน แล้วก็จะก่อให้เกิดปัญหาท้องในวัยเรียน เสียอนาคต ไม่ได้เรียนต่อ

จึงสำคัญตรงพ่อแม่ ว่าทำอย่างไรให้ลูกรักการอ่าน รักการเรียน ยิ่งสมัยนี้มีสถานที่อย่าง ทีเค ปาร์ค สมัยอาตมามีที่ไหน มีแต่ท้องนาป่าเขา ต้องไปศึกษาเรียนรู้เอาเอง สมัยนี้มี ทีเค ปาร์ค มีพี่เลี้ยง มีอาจารย์คอยแนะนำคอยสั่งสอนให้ วันเสาร์วันอาทิตย์พาลูกพาหลานไปทิ้งไว้ได้เลย แทนที่จะปล่อยให้หัวทิ่มหัวตำอยู่กับไลน์อยู่กับเกม ไปที่โน่นยังได้เพื่อน ได้พัฒนาตัวเอง ได้เรียนรู้สิ่งใหม่ ๆ เขาสอนให้ทำโน่นทำนี่ บางคนสามารถพัฒนากลายเป็นวิชาชีพด้วยซ้ำไป"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 23-03-2016 เมื่อ 02:50
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 160 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #156  
เก่า 22-03-2016, 22:00
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,371
ได้ให้อนุโมทนา: 150,708
ได้รับอนุโมทนา 4,397,151 ครั้ง ใน 33,960 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

"ปัจจุบันนี้สถานศึกษาแต่ละแห่ง จะมีวิสัยทัศน์ พันธกิจ ตลอดจนกระทั่งปณิธานของแต่ละที่ ส่วนใหญ่แล้วมักจะเป็นคำพูดหรู ๆ เท่านั้น แต่ทำยาก เหตุที่ทำยากเพราะเด็กไม่สนใจเรียน ไปสนใจเพศตรงข้ามแทน

เนื่องจากว่าสมัยนี้การเข้าถึงสื่อต่าง ๆ ง่ายขึ้น ทำให้เด็กเรียนรู้เรื่องทั้งหลายเหล่านี้ได้ง่าย ไม่เหมือนรุ่นสมัยอาตมา ๑๒-๑๓ ปี ยังแก้ผ้าโดดน้ำอยู่เลย ไม่รู้ว่าผู้หญิงผู้ชายต่างกันตรงไหน โมโหขึ้นมาก็วางมวยกันปากแตกตาเขียวทั้งผู้หญิงผู้ชาย"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 23-03-2016 เมื่อ 02:50
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 166 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #157  
เก่า 22-03-2016, 22:01
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,371
ได้ให้อนุโมทนา: 150,708
ได้รับอนุโมทนา 4,397,151 ครั้ง ใน 33,960 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : ถวายทองคำ สร้างพระทองคำครับ พระทองคำที่จะสร้างนี้มีอานุภาพด้านไหนครับ ?
ตอบ : ตามที่ท่านบอกไว้ว่า ถ้าสร้างเสร็จประเทศชาติจะดีขึ้น ก็แปลว่าพวกเราต้องรอถึงปี ๖๒ เราจึงจะดีขึ้น ท่านบอกให้อาตมาเตรียมตัวมาเป็น ๑๐ ปีแล้ว
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย เถรี : 23-03-2016 เมื่อ 19:14
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 181 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #158  
เก่า 23-03-2016, 11:07
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,371
ได้ให้อนุโมทนา: 150,708
ได้รับอนุโมทนา 4,397,151 ครั้ง ใน 33,960 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

พระอาจารย์กล่าวว่า "ปีนี้ทางวัดเริ่มบวชสามเณรภาคฤดูร้อนอย่างเป็นทางการ ปรากฏว่าความโหดของวัดท่าขนุนเป็นที่เลื่องลือ ปีนี้จึงมีเด็กสมัครมาแค่ ๘ คน จากที่เดิมอาจารย์เขาบังคับมาเป็นร้อย ๆ คน ปีนี้ให้สมัครเอง เนื่องจากอาตมาตั้งใจว่าพอบวชครบ ๑๐ วัน วันสึกจะให้ทุนการศึกษาทุกคน ต่อให้สมัครมาเป็นร้อย ก็จะให้ทั้งร้อย ปรากฏว่าแต่ละคนแหยงสายไฟฟ้า โดนตีจนกระทั่งเป็นที่เลื่องลือ

น่าเสียดายที่พ่อแม่ของเขาต่อยอดไม่ได้ เพราะเวลาออกจากวัดไปนี่เรียบกริบเลย เป็นระเบียบเรียบร้อยทุกอย่าง พูดอะไรรู้ฟังหมด ทำงานทำการได้ทุกอย่าง กวาดบ้าน ถูบ้าน ล้างจาน กลับบ้านไปไม่กี่วันเหมือนเดิมอีกแล้ว เพราะว่าพ่อแม่มักจะไปบริการลูก ไปทำงานแทน ไม่ใช้ลูก ในเมื่อไม่ใช้ลูก ลูกก็สบาย ท้ายสุดก็เป็นเหมือนเดิม วัดฝึกออกไปดีขนาดไหน กลับไปไม่นานก็เป็นเหมือนเดิม แต่คาดว่าปีนี้ถ้าพวกที่บวชได้รับทุนการศึกษาไป ปีหน้าคงมีคนยอมเสี่ยง ถึงเจ็บตัวหน่อยแลกกับ ๒,๐๐๐ – ๓,๐๐๐ บาทก็ยอม"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 23-03-2016 เมื่อ 11:15
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 160 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #159  
เก่า 23-03-2016, 11:10
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,371
ได้ให้อนุโมทนา: 150,708
ได้รับอนุโมทนา 4,397,151 ครั้ง ใน 33,960 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

"ส่วนใหญ่พ่อแม่ทำใจไม่ได้ที่จะตีลูก อาตมาตีเด็ก พ่อแม่บางคนนั่งร้องไห้เลย แต่ก็ยังอุตส่าห์บอกว่าดีที่หลวงพ่อตี เพราะผมเองไม่กล้าตี วันก่อนบวชเณร ๑๗๐ กว่ารูป เณรต่อยกัน อาตมาเลยตีต่อหน้าพ่อแม่เลย ถามว่ารับได้ไหม? เขาบอกว่าถ้าตัดสินยุติธรรมแบบนี้รับได้ครับ เด็กหาเรื่องทะเลาะ...ต่อยกัน อาตมาฟาดทั้งสองฝ่าย

มีคนเขาสงสัยว่าเวลาอาตมาพูด ทำไมพระ เณร หรือแม่ชี ฟัง ในขณะที่คนอื่นว่าแล้วเขาไม่ฟัง ญาติโยมสงสัยบ้างไหม ? ที่เขาฟังเป็นเพราะว่ากำลังของอาตมาสูงกว่า คำว่า "กำลังสูงกว่า" ตรงนี้คือกำลังสมาธิสูงกว่า ในเมื่อกำลังสมาธิสูงกว่า การแสดงออกทาง กาย วาจา ใจ จะเหนือกว่า เหมือนแม่เหล็กดูดเศษเหล็ก เศษเหล็กไม่ได้อยากวิ่งเข้าหาแม่เหล็กหรอก แต่ทานแรงแม่เหล็กไม่ได้ ก็โดนดึงเข้ามาเอง

ฉะนั้น...ถ้าญาติโยมอยากจะพูดแล้วให้ลูก ๆ ฟัง หรือเป็นครูบาอาจารย์อยากพูดให้เด็กยอมฟัง ต้องทำสมาธิให้มากเข้าไว้ ถ้าสมาธิดีกว่า อาตมายืนยันว่าพูดอะไรลูกก็ฟัง เพราะข่มกันอยู่"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 23-03-2016 เมื่อ 11:16
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 164 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #160  
เก่า 23-03-2016, 11:12
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,371
ได้ให้อนุโมทนา: 150,708
ได้รับอนุโมทนา 4,397,151 ครั้ง ใน 33,960 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

"ลูกศิษย์เก่าแก่ของพระเดชพระคุณหลวงพ่อวัดท่าซุงท่านหนึ่ง คือ พี่ขวัญ (เยาวลักษณ์ มิตรศรัทธา) สนิทสนมคุ้นเคยกัน เขาก็นิมนต์ไปเจริญพระพุทธมนต์ไปฉันเพลที่บ้าน ก็มีหลวงตาวัชรชัยไป มีพระรูปอื่นไป รวม ๙ รูปด้วยกัน ปรากฏว่าการ์ตูน ลูกสาวพี่ขวัญ ตอนนั้นยังเด็กอยู่ ด้วยความที่ใกล้ชิดสนิทสนมเห็นพระเป็นปกติ การ์ตูนเห็นก็ลืมตัว วิ่งมายื้อจีวรอาตมา จะตะกายขึ้นตัก พี่ขวัญเห็นก็ดุลูกเสียงดังเลยว่า "ต่อไปอย่าทำอย่างนั้นอีก หลวงน้าเป็นพระ เราเป็นผู้หญิง จะทำอย่างนั้นไม่ได้"

ปรากฏว่านอกจากลูกเงียบฉี่แล้ว พระเกือบทั้งหมดยังเงียบฉี่ไปด้วย จนอาตมาเห็นว่าบรรยากาศจะเคร่งเครียดเกินไป เลยต้องเปลี่ยนเรื่องไปเป็นเรื่องอื่นแทน นั่นแสดงว่ากำลังใจของพี่ขวัญสูงกว่าพระอีก ขนาดพระยังเงียบไปด้วยเลย ทั้ง ๆ ที่ดุลูกนะ พระอ้าปากไม่ขึ้นไปด้วย ในเรื่องอย่างนี้เห็นผลมาแล้ว

ฉะนั้น...ญาติโยมที่เป็นเจ้านายก็ดี เป็นครูบาอาจารย์หรือเป็นพ่อแม่เลี้ยงเด็กเลี้ยงลูก ต้องทำสมาธิเข้าไว้ ถ้าสมาธิของเราสูงกว่า กำลังจะสูงกว่า กาย วาจา ใจ เหมือนมีอำนาจมากกว่า ถึงเวลาก็ดึงดูดคนรอบข้างให้คล้อยตามมาเอง จะว่าไปแล้วก็เป็นเรื่องของหญ้าปากคอก แต่พวกเรามักจะไม่ได้นึกถึงกัน"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 23-03-2016 เมื่อ 11:20
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 165 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
ตอบ


ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 1 คน ( เป็นสมาชิก 0 คน และ บุคคลทั่วไป 1 คน )
 
คำสั่งเพิ่มเติม

กฎการส่งข้อความ
You may not post new threads
You may not post replies
You may not post attachments
You may not edit your posts

BB code is ใช้ได้
Smilies are ใช้ได้
[IMG] code is ใช้ได้
HTML code is งดใช้

Forum Jump


เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 21:09



ค้นหาในเว็บวัดท่าขนุน

เว็บวัดท่าขนุน Powered by vBulletin
Copyright © 2000-2010 Jelsoft Enterprises Limited.
ความคิดเห็นส่วนตัวทุก ๆ ข้อความในเว็บบอร์ดนี้ สงวนสิทธิ์เฉพาะเจ้าของข้อความ ไม่อนุญาตให้คัดลอกออกไปเผยแพร่ นอกจากจะได้รับคำอนุญาตจากเจ้าของข้อความอย่างชัดเจนดีแล้ว