กระดานสนทนาวัดท่าขนุน


กลับไป   กระดานสนทนาวัดท่าขนุน > ห้องธรรมะพระอาจารย์ > เก็บตกจากบ้านวิริยบารมี

Notices

เก็บตกจากบ้านวิริยบารมี เก็บข้อธรรมจากบ้านวิริยบารมีมาฝาก สำหรับผู้ที่ไม่มีโอกาสเดินทางไป

ตอบ
 
คำสั่งเพิ่มเติม
  #141  
เก่า 28-12-2015, 19:12
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,425
ได้ให้อนุโมทนา: 150,983
ได้รับอนุโมทนา 4,398,984 ครั้ง ใน 34,014 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : (ไม่ชัด)
ตอบ : ผมถึงได้บอกว่าในสายนี้พอมาถึงญาณ ๑๖ แล้ว ผมเป็นห่วงมากเลย เพราะว่าส่วนใหญ่เท่าที่ผมไปเจอมาก็คือ เขามาส่งอารมณ์ สะกิดตรงโน้นนิด ตรงนี้หน่อย เขาก็เหมาว่าใช่แล้ว ถ้าหากว่าเป็นแบบของผม แค่สังขารุเปกขาญาณนี่จบแล้วนะ ไม่ต้องมีต่อ สังขารุเปกขาญาณ ปล่อยวางในสังขาร สภาพจิตไม่ปรุงแต่ง รัก โลภ โกรธ หลง เกิดไม่ได้ ทุกอย่างก็ดับหมดแล้ว

สมมติเราเห็นถ้วยใบหนึ่ง เราสักแต่เห็นว่าเป็นรูปเป็นนาม นั่นก็คือถ้วย แต่ถ้าเราไปคิดต่อว่า “ถ้วยนี้ใส่น้ำได้ ถ้าได้น้ำแช่เย็นสักนิดหนึ่งก็ดี” นี่เริ่มโลภแล้ว “วันก่อนเราแช่น้ำไว้ ไอ้ห่..นั่นกินหมดแล้วก็ไม่เติมให้ด้วย” นี่โกรธแล้ว “เอ๊ะ...เราเคยไปกินกับสาว เขาสั่งน้ำส้มนี่หว่า ?” นี่ราคะมาอีกแล้ว

เห็นไหมครับว่าถ้วยใบเดียว รัก โลภ โกรธ หลง มาครบเลย ทำอย่างไรที่เราจะหยุดปรุงแต่งได้ สักแต่ว่าเห็น ถ้าเสียงก็สักแต่ว่าได้ยิน กลิ่นก็สักแต่ว่าได้กลิ่น ลิ้นก็สักแต่ว่าได้รส กายก็สักแต่ว่าสัมผัส ถ้าถึงสังขารุเปกขาญาณจริง ๆ สำหรับผมถือว่าจบแล้ว ไม่ต้องไปต่อ เพียงแต่ว่าเข้าถึงแค่ไหน เพราะว่าถ้าจิตไม่ปรุงแต่ง จิตสังขารไม่ปรุงแต่ง ทุกอย่างก็หยุดหมด ดับหมด เขาถึงใช้คำว่าสังขารุเปกขาญาณ ปล่อยวางการปรุงแต่ง อุเบกขาก็คือปล่อยวาง

คุณไปอ่านในมหาสติปัฏฐานสูตรสิ ทุกบรรพจบกิจได้หมดเลย เพราะท่านปิดท้ายว่า นะ จะ กิญจิ โลเก อุปาทิยติ เธอจงอย่ายึดมั่นถือมั่นอะไร ๆ ในโลกนี้ เป็นกำลังใจของพระอริยเจ้าขั้นสูงสุดเลย ฉะนั้น...ไม่ต้องทำครบทุกบรรพหรอกครับ
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 28-12-2015 เมื่อ 19:53
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 158 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #142  
เก่า 28-12-2015, 19:17
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,425
ได้ให้อนุโมทนา: 150,983
ได้รับอนุโมทนา 4,398,984 ครั้ง ใน 34,014 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

กายในกายบรรพแรกคืออะไรครับ ? อานาปานบรรพ แต่ขอโทษ...สายพองยุบไม่ให้เอาลมหายใจครับ ก้าวแรกไม่ไปแล้วก้าวต่อไปจะได้อย่างไร ?

การที่เราภาวนาไป พอเวลาสภาพจิตเริ่มทรงสมาธิ ก็จะเกิดอาการอย่างที่พวกคุณเป็น ก็คือพอสติตามไม่ทันก็จะตัดขาด คราวนี้ของท่านพอไม่มีลมหายใจ ท่านก็เลยคิดว่าใช้งานไม่ได้ เพราะท่านไม่สามารถจะไปต่อได้ โดยที่ไม่รู้ว่าถ้าเรากำหนดรู้ถึงความไม่มีลมหายใจ จิตจะดิ่งลึกเป็นสมาธิไปเรื่อย ๆ ท่านก็ย้อนกลับมาใหม่ว่าทำอย่างไรถึงจะไปต่อได้ ท่านก็กลับมาจับพองยุบแทน เหมือนกับคนขึ้นบันไดไปแล้วถอยกลับมานับหนึ่งใหม่ตลอด

เพราะฉะนั้น...ใครปฏิบัติสายนี้แล้วจะทุกข์ทรมานมาก เพราะว่ากำลังในการกดกิเลสไม่มี แล้วก็ให้เราไปพิจารณาว่ากิเลสตอนนี้ตีเราอย่างไร เหมือนอย่างกับให้ถอดเกราะปลดอาวุธแล้วขึ้นไปต่อยกับไมค์ ไทสัน ตายอย่างเดียวครับ

อาจารย์ท่านอธิบายกับผมว่า เรากำหนดด้วยขณิกสมาธิทีละน้อย ๆ เหมือนสะสมงาทีละเมล็ด พอนานไปก็สามารถคั้นเอาน้ำมันมาใช้ได้ ผมก็แปลกใจ ในเมื่อสมาธิผมเยอะกว่านั้น ผมมีงาเป็นเกวียนแล้วทำไมถึงต้องไปเก็บทีละเม็ดด้วย ? ผมถึงได้บอกว่าในเมื่อพละ ๕ ต้องเสมอกัน ทำไมเราถึงไม่ดึงตัวอื่นขึ้นมาให้สูง แต่ดันไปลดสมาธิพละลง เพราะทันทีที่ลดสมาธิลง สภาพจิตของเราจะวุ่นวายมาก ปัญญาจะไม่เกิด เพราะโดนกิเลสตีตลอด แต่เรื่องอย่างนี้เราไปถกเถียงกับท่านก็ไม่มีประโยชน์ เพราะเราเป็นนักเรียนอยู่ ตอนนี้ถึงผมจบปริญญาเอก แต่ถ้าเอาเรื่องนี้มาเปิดเมื่อไรอาจจะโดนยึดปริญญาบัตรคืน..!
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 28-12-2015 เมื่อ 19:55
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 145 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #143  
เก่า 28-12-2015, 19:22
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,425
ได้ให้อนุโมทนา: 150,983
ได้รับอนุโมทนา 4,398,984 ครั้ง ใน 34,014 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : สังขารุเปกขาญาณ ถ้าได้สมาธิเป็นอุเบกขา ก็เป็นสังขารุเปกขาญาณ ?
ตอบ : ไม่ใช่...ต้องปัญญาเพียงพอถึงจะหยุดกิเลสไม่ให้เกิดได้ สมาธิอย่างเดียวไม่พอ ปัญญาเห็นโทษเลยไม่ไปแตะต้อง เหมือนรู้ว่าไฟร้อนเลยไม่ไปยุ่งกับไฟ สมาธิอย่างเดียวไม่ได้รับประทานหรอกครับ
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 28-12-2015 เมื่อ 19:56
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 149 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #144  
เก่า 28-12-2015, 19:27
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,425
ได้ให้อนุโมทนา: 150,983
ได้รับอนุโมทนา 4,398,984 ครั้ง ใน 34,014 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : อย่างพระบางรูปสมาธิค่อนข้างสูง ถ้าไปยกระดับ....(ไม่ชัด)...
ตอบ : มาพิจารณาไตรลักษณ์จะง่ายเลย เพราะต้นทุนมีพอแล้ว คุณก็เห็นว่านี่เด็กเล็ก มองไปนั่นก็โตขึ้นอีกหน่อย โน่นก็เริ่มหนุ่มสาว โน่นวัยกลางคน โน่นชราแล้ว ก็จะเห็นว่าไม่เที่ยง นี่คือสิ่งที่มาใช้งานจริง สภาพจิตเรายอมรับจริง ๆ ว่าเป็นอย่างนั้น

การที่เราดำรงชีวิตอยู่ทุกวันทุกข์ไหม ? ตั้งแต่ลืมตาตื่นจนหลับตาลงไปเป็นอย่างไรบ้าง ? เดี๋ยวหิว เดี๋ยวกระหาย เดี๋ยวร้อน เดี๋ยวหนาว เดี๋ยวเจ็บไข้ได้ป่วย ปวดนั่นเมื่อยนี่ ต้องเข้าห้องน้ำห้องส้วม ต้องหาให้กิน สภาพจิตก็จะเห็นว่านี่ทุกข์เป็นปกติ แล้วท้ายที่สุดก็บังคับบัญชาไม่ได้ นึกจะป่วยก็ป่วย นึกจะแก่ก็แก่ นึกจะตายก็ตาย ดังนั้น...การที่กำหนด ๆ ๆ ตามที่เขาว่ามา ปัญญาตัวนี้จะไม่มี เพราะเราไปตัดการคิดพิจารณาไปเสียแล้ว
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 28-12-2015 เมื่อ 19:57
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 147 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #145  
เก่า 28-12-2015, 19:32
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,425
ได้ให้อนุโมทนา: 150,983
ได้รับอนุโมทนา 4,398,984 ครั้ง ใน 34,014 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

พระพุทธเจ้าตรัสไว้ชัดเลยว่า ดูก่อน...กัสสปะ เมื่อเธอฟังธรรมจงตั้งใจเงี่ยหูฟังและพิจารณาในเนื้อความ ถ้าไม่คิดแล้วจะพิจารณาได้ไหม ? แต่ในเมื่อสายนี้ท่านมาอย่างนี้ก็ไปยาวเลย

ความจริงผมเขียนหนังสือเล่มนี้เสร็จตั้งแต่ปีที่ผมฝึกธรรมทูตสายวิปัสสนารุ่นแรก แต่หนังสือเล่มนี้ออกไม่ได้ เพราะเหมือนโยนระเบิดใส่เขา จะเละเทะไปหมดเลย เพราะว่าท่านอาจารย์โสภณมหาเถระ ท่านเขียนไว้ตอนท้ายของวิปัสสนานัย คุณอ่านหรือยัง ? ที่ท่านเขียนว่า อานิสงส์ตรงนี้ท่านขอเข้าถึงความเป็นพระพุทธเจ้าปัญญาธิกะ แปลว่าท่านยังไม่ได้เป็นใช่ไหม ? ในเมื่อยังไม่ได้เป็น คนที่เรียนไม่จบแล้วมาสอนคนอื่นแล้วเสียมารยาทไหม ? ผิดหลักตั้งแต่แรกแล้ว ก็แปลว่าสิ่งที่ท่านสอนมายังไม่ใช่ของจริง ท่านแค่คิดว่าจะเป็นอย่างนั้น คาดว่าจะเป็นอย่างนั้น

จะว่าไปแล้วคือทฤษฎีอย่างหนึ่ง ถ้ายังไม่มีคนเถียงก็ใช้ทฤษฎีนี้ไปก่อน แต่ถ้ามีคนเถียงแล้วของเขาดีกว่า เขาก็จะยกเลิกอันนี้แล้วมาใช้อันใหม่แทน แต่ปัจจุบันนี้ยังไม่มีใครกล้าเถียง ถึงได้บอกว่าผมเขียนรายละเอียดเอาไว้หมดแล้วว่าความจริงเป็นอย่างไร แต่ไม่สามารถที่จะเอาออกมาแสดงได้
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 28-12-2015 เมื่อ 19:59
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 153 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #146  
เก่า 28-12-2015, 19:59
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,425
ได้ให้อนุโมทนา: 150,983
ได้รับอนุโมทนา 4,398,984 ครั้ง ใน 34,014 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

การส่งอารมณ์ในช่วงที่ผมเรียนอยู่ ผมเห็นโทษเลย คือเรากำลังอยู่ในช่วงเก็บอารมณ์ พอไปส่งอารมณ์เกิดอาการที่ผมเรียกว่า ท่อประปาแตก แล้วอาจารย์หลายท่านก็สมาธิไม่ดีพอ พอลูกศิษย์ท่อประปาแตกท่านก็ไหลตามลูกศิษย์ไปด้วย เลยกลายเป็นอาจารย์ท่อประปาแตก ลูกศิษย์ก็ท่อประปาแตก จากที่เขากำหนดไว้ว่าส่งอารมณ์คนละ ๓๐ นาที บางทีผมต้องนั่งรอตั้ง ๒ ชั่วโมง

ผมเองจบมาได้ที่ ๑ มาอย่างไรก็ไม่รู้ คือไปตามแบบของตัวเอง แต่พอถึงเวลาจะส่งอารมณ์ก็พยายามทำตามแบบของท่าน แล้วก็ไปบอกว่าเกิดอะไรขึ้นบ้าง ดันได้ที่ ๑ มา ก็งงอยู่เหมือนกัน
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 28-12-2015 เมื่อ 20:00
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 152 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #147  
เก่า 28-12-2015, 20:01
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,425
ได้ให้อนุโมทนา: 150,983
ได้รับอนุโมทนา 4,398,984 ครั้ง ใน 34,014 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

สำหรับท่านอาจารย์พระมหาทองมั่น ผมมั่นใจเลยว่านี่แหละคือวิปัสสนาลาภีบุคคลจริง ๆ เพราะท่านพิจารณา ๆ ๆ จนสภาพจิตดิ่งลึกกลายเป็นสมาธิได้เอง ซึ่งหาได้ยากมาก ผมถึงได้ถามท่านว่า “ถ้าหากว่าผมฟุ้งซ่านจนเอาไม่อยู่แล้ว ผมจะกระชากกลับมาด้วยกำลังสมาธิที่มีอยู่ได้ไหม ?” ท่านบอกว่าได้ ขณะที่อาจารย์อื่นไม่ยอมให้ผมทำอย่างนี้เด็ดขาด เสียดายว่างานท่านเต็มมือ ไม่อย่างนั้นถ้าท่านมาสอน คุณแอบไปถามท่านจะได้อะไรอีกเยอะ

ถาม : เคยได้ยินแต่อภิญญาลาภีบุคคล ?
ตอบ : จะมีฌานลาภีบุคคลเริ่มด้วยสมาธิ วิปัสสนาลาภีบุคคลเกิดจากพิจารณาวิปัสสนาญาณจนจิตดิ่งลึกเป็นสมาธิไปเอง อันโน้นเข้าสมาธิแล้วคลายออกมาพิจารณา อันนี้พิจารณาจนกลับไปเป็นสมาธิ ถ้าหากว่าตัวอย่างชัด ๆ นี่ผมเห็นท่านเดียวแหละครับ พระมหาทองมั่น สุทฺธจิตฺโต

ถ้ามีโอกาสไปหาท่านเถอะ กราบเรียนท่านว่าผมเรียนปริญญาโทวิปัสสนาภาวนาอยู่ แต่ปรากฏว่ามีข้อสงสัยเกี่ยวกับการปฏิบัติเยอะแยะไปหมด รบกวนท่านอาจารย์ช่วยเมตตาสงเคราะห์ แล้วมีปัญหาอะไรก็ถามไปเลย


ถาม : อย่างนี้เป็นปัญญาวิมุตติไหมครับ ?
ตอบ : ถ้าเป็นอย่างนี้ถึงเวลาถ้าบรรลุก็จะเป็นปัญญาวิมุตติ เพราะว่าไปด้วยวิปัสสนาญาณ ถ้าหากว่าเริ่มสมาธิแล้วมาพิจารณาถึงจะเป็นเจโตวิมุตติ
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 29-12-2015 เมื่อ 02:45
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 149 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #148  
เก่า 28-12-2015, 20:03
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,425
ได้ให้อนุโมทนา: 150,983
ได้รับอนุโมทนา 4,398,984 ครั้ง ใน 34,014 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

คราวนี้คุณเข้าใจแล้วหรือยัง ? ว่าทำไมในภาค ๑๔ ทั้งสี่จังหวัดจะเอาแต่พระอาจารย์เล็กไปคุม เขาไม่เอาคนอื่น พอถึงเวลาเขาโวยวาย ถ้าพระอาจารย์เล็กไม่มาพวกผมไม่ปฏิบัติ ซวยตายเลย...เหนื่อยอยู่คนเดียว

อาจารย์ที่เป็นวิปัสสนาจารย์ควรจะรู้แนวกรรมฐานทุกสาย เวลาลูกศิษย์เขามาแบบไหนควรที่จะต่อยอดให้เขาได้ ไม่ใช่ไปบอกว่าของคุณใช้ไม่ได้ ต้องมาเริ่มต้นใหม่ ลูกศิษย์ประเภทตุนต้นทุนมาหลายพันล้านแล้ว ให้เริ่มต้นมาหาเงินบาทแรกใหม่ก็แย่สิ..!
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 29-12-2015 เมื่อ 02:47
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 154 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #149  
เก่า 28-12-2015, 20:06
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,425
ได้ให้อนุโมทนา: 150,983
ได้รับอนุโมทนา 4,398,984 ครั้ง ใน 34,014 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : ถ้าเราเอาจีวรของครูบาอาจารย์มาติดตัวในเวลาปฏิบัติกรรมฐานด้วย จะเป็นการปรามาสพระรัตนตรัยไหมครับ ?
ตอบ : ไม่เป็น...บางอย่างก็ต้องอาศัยท่านเป็นที่พึ่งที่ระลึก บางอย่างสิ่งที่ท่านใช้มามีพลังงานอยู่ เราอยู่ใกล้แล้วเกิดความสงบขึ้นมาเลย

ถาม : แล้วต่อไปจะติดไหมครับ ?
ตอบ : ถ้าหากว่าสมาธิทรงตัวแล้วก็ไม่ต้องใช้ เหมือนอย่างกับเด็ก ๆ ใหม่ ๆ ก็ต้องจูงให้เดิน พอวิ่งได้แล้วก็ไม่ต้องไปอาศัยใคร หมั่นทำบ่อย ๆ

ถาม : นึกว่าจะเป็นการปรามาสพระรัตนตรัย ?
ตอบ : เขาเรียกว่าอนุสติ คือระลึกถึง ไม่ใช่ปรามาส ไม่ใช่ว่าเอามากระทืบไปภาวนาไปนี่หว่า..!
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 29-12-2015 เมื่อ 02:48
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 154 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #150  
เก่า 28-12-2015, 20:12
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,425
ได้ให้อนุโมทนา: 150,983
ได้รับอนุโมทนา 4,398,984 ครั้ง ใน 34,014 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : ในพระพุทธกาลมีไหมครับที่เป็นวิปัสสนาลาภีบุคคล ?
ตอบ : มี...แต่ท่านไม่ได้ยกตัวอย่างที่ชัดเจน เพราะว่าส่วนใหญ่แล้วพิจารณาตามก็บรรลุเลย คราวนี้ของท่านเหล่านั้นบรรลุเร็วเกินไป ก็เลยไม่สามารถที่จะยกตัวอย่างมาอย่างเด่นชัด

ถาม : อย่างพระพาหิยะล่ะครับ ?
ตอบ : ลักษณะอย่างนั้นก็ต้องประกอบด้วยสมาธิมาก่อน ไม่อย่างนั้นปัญญาจะไม่เกิดได้ขนาดนั้น เพียงแต่ว่าท่านฟังธรรมแล้วไม่ได้ใช้สมาธิแต่พิจารณาด้วยปัญญา ทันทีที่พิจารณาความเคยชินจิตจะเป็นสมาธิเอง กำลังในการจะตัดจะมีอยู่ ท่านเองท่านก็เลยตัดได้เร็ว

ถาม : อย่างวิธีของ "หลวงแม่" ใช้วิธีย้อนทวนวิปัสสนาญาณ ก็เกิดจากสมาธิเหมือนกัน ?
ตอบ : เหมือนกัน สังเกตไหมว่าพอทวนไป ๆ แล้วเบลอ ไม่ชัด ก็ต้องย้อนกลับมาหาลมหายใจเข้าออกใหม่ พอกำลังใจทรงตัวแล้วถึงจะไปต่อได้ สองอย่างต้องทำรวมกัน สมถะเป็นกำลัง วิปัสสนาเป็นอาวุธ คนไม่มีกำลัง ยกอาวุธไม่ไหวก็ตัดอะไรได้ยาก คนมีกำลังแต่ไม่มีอาวุธ แล้วจะไปตัดอีท่าไหน ฉะนั้น...ควรที่จะทำ ๒ อย่างด้วยกัน
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 29-12-2015 เมื่อ 02:50
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 144 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #151  
เก่า 28-12-2015, 20:19
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,425
ได้ให้อนุโมทนา: 150,983
ได้รับอนุโมทนา 4,398,984 ครั้ง ใน 34,014 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

จำหลักไว้อย่างหนึ่งว่า นักปฏิบัติยิ่งจิตละเอียด ยิ่งทำอะไรเร็วขึ้นเรื่อย ๆ แต่เป็นการเร็วที่ไม่ผิดพลาด ฉะนั้น...ยิ่งไปยิ่งช้านั่นไม่ใช่ทางแน่ แต่พวกคุณอยู่กับเขาก็ทำตามเขาไปก่อน

ไปนึกถึงหลวงปู่ชา วัดหนองป่าพง ไปศึกษากับหลวงปู่กินรี วัดกันตศิลาวาส หลวงปู่กินรีบอกว่าให้ทำอะไรช้า ๆ จะได้มีสติพิจารณาได้ทัน แต่หลวงปู่กินรีเร็วมาก พึ่บพั่บ ๆ เสร็จแล้ว หลวงปู่ชาท่านก็หงุดหงิด ท้ายสุดก็เข้าไปถาม “หลวงพ่อครับ หลวงพ่อบอกให้ผมทำช้า ๆ แต่หลวงพ่อเร็วทุกอย่างเลย” ท่านบอกว่า “คนขับรถเร็วแล้วปลอดภัยก็มีไม่ใช่หรือ ? ไอ้คนหัดใหม่ ๆ ก็ต้องไปช้า ๆ ก่อน ไม่อย่างนั้นก็ชนกระจาย..!”
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 29-12-2015 เมื่อ 02:51
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 161 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #152  
เก่า 29-12-2015, 14:27
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,425
ได้ให้อนุโมทนา: 150,983
ได้รับอนุโมทนา 4,398,984 ครั้ง ใน 34,014 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : (เรื่องมโนมยิทธิ)
ตอบ : นึกถึงบ้านตอนนี้ พอนึกถึงบ้านจิตก็ไปอยู่ที่นั่นแล้ว แต่ว่าบางทีคำพูดที่ท่านให้มาไม่ตรงกับกำลังใจของเรา เราเลยไม่เข้าใจ แบบเดียวอาตมาส่งโยมแม่ไปฝึก ครูฝึกคือครูพรรณีเดินหัวเราะออกมา “ท่านเล็ก..สอนแม่อย่างไร ? ถามแม่ว่าเกิดมาทุกข์ไหม ? แม่บอกว่าไม่ทุกข์” อาตมาก็บอกว่า “ครู..ไปถามใหม่ ถามว่าเกิดมาลำบากไหม ? แม่อธิบายได้ ๓ วัน ๓ คืน” ใช้คำพูดที่ผิด คนแก่เขาไม่เข้าใจว่าทุกข์อย่างไร แต่ถามสิว่าเกิดมาลำบากไหม

ถาม : ไปเป็นจังหวะที่เขา...
ตอบ : เอาเป็นว่าอาตมาพูดให้ฟังเองแล้วกัน เรื่องของมโนมยิทธิจริง ๆ แล้วไม่มีเต็มกำลัง ไม่มีครึ่งกำลัง มีแต่มโนมยิทธิเท่านั้น คือถอดจิตไปยังดินแดนต่าง ๆ แต่เนื่องจากว่าการถอดจิตไปด้วยอำนาจของฌานนั้นมีความชัดเจนที่แตกต่างกัน บางท่านไปด้วยกำลังสมาธิชนิดสุดตัวเลย ถึงเวลาก็ทิ้งร่างกองไว้เลยเขาก็เลยเรียกว่าไปเต็มกำลัง แต่บางท่านเริ่มจากการเห็นภาพก่อนเพราะว่าจิตเริ่มอยู่ในอุปจารสมาธิ แล้วถึงเวลาก็น้อมจิตพิจารณาไปตามที่ครูบาอาจารย์ว่าไปเรื่อย ๆ ในที่สุดก็ยกจิตไปยังสถานที่นั้นได้

ถ้าเห็น...เป็นมโนมยิทธิครึ่งกำลัง ถ้าไปได้...เป็นมโนมยิทธิเต็มกำลัง จำไว้แค่นี้พอ เพราะฉะนั้น...คนไหนที่เคยฝึกมโนมยิทธิครึ่งกำลังมาก่อนแล้วไปได้ ขอให้รู้ว่าจริง ๆ แล้ว ตัวเองได้เต็มกำลังมานานแล้วแต่ไม่รู้เท่านั้น ถ้าท่านทั้งหลายเหล่านี้ไปฝึกเต็มกำลังแทบจะไม่มีข้อแตกต่างเลย ยกเว้นอยู่อย่างเดียวว่าจะรู้สึกสว่างขึ้น ชัดขึ้น ไปได้ง่ายขึ้นเท่านั้น

ที่เขาแยกเพื่อให้รู้ว่าคุณมาแบบไหน พูดง่าย ๆ ว่าเรามาจากที่เริ่มเห็น แล้วค่อย ๆ ยกจิตไปหรือว่าเราไปได้เลย ต่างกันแค่นี้เอง เขาเลยเรียกว่าเต็มกำลังหรือครึ่งกำลัง
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 29-12-2015 เมื่อ 20:57
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 148 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #153  
เก่า 29-12-2015, 14:31
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,425
ได้ให้อนุโมทนา: 150,983
ได้รับอนุโมทนา 4,398,984 ครั้ง ใน 34,014 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : (ไม่ชัด)
ตอบ : ถ้าเป็นเต็มกำลังจริง ๆ จะไม่รับรู้แล้ว แต่หลวงพ่อวัดท่าซุงท่านขอบารมีพระสงเคราะห์ เพื่อให้สามารถตอบคำถามแก้สงสัยของคนที่ไปไม่ได้ ก็เลยให้มีความรู้สึกที่เนื่องกันอยู่ได้ เกิดจากบารมีพระที่สงเคราะห์อยู่ ลักษณะนั้นจะว่าไปแล้วก็เป็นฌานใช้งาน ถ้าใครทำอย่างนั้นบ่อย ๆ ต่อไปจะทรงฌานใช้งานได้ดีเป็นพิเศษ
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 30-12-2015 เมื่อ 02:07
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 153 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #154  
เก่า 29-12-2015, 14:37
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,425
ได้ให้อนุโมทนา: 150,983
ได้รับอนุโมทนา 4,398,984 ครั้ง ใน 34,014 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : (ไม่ชัด)
ตอบ : มีเยอะมาก แต่ว่าการฝึกมโนมยิทธิในปัจจุบันนี้เป็นที่น่าเสียดายว่าเกิน ๙๐ เปอร์เซ็นต์เอาไปใช้ผิดหมดเลย มโนมยิทธิในความหมายของหลวงพ่อวัดท่าซุง ท่านต้องการให้เรารู้จักพระนิพพาน ไปพระนิพพานได้ แต่เขากลับเอาไปดูว่าเธอเป็นอย่างนั้นกับฉัน เธอเป็นอย่างนี้กับฉัน แทนที่จะเข็ดว่าเกิดมาชาติแล้วชาติเล่ายังทุกข์ไม่รู้จบ ก็ดันไปผูกสัมพันธ์กันใหม่ แทนที่จะเอาตัวหลุดพ้นจากวัฏสงสารได้ เลยกลายเป็นยิ่งติดหนักเข้าไปอีก

อาตมาเจอมาหลายคู่แล้ว จะฆ่ากันตายเพราะอีกฝ่ายบอกว่าเคยเป็นเมียเขา ขณะที่ปัจจุบันดันไปเป็นเมียอีกคน ไม่ตีกันตายก็บุญโขแล้ว ต้องอยู่กับปัจจุบันเป็นหลัก อดีตคืออดีต แต่ขณะเดียวกันก็ให้รู้จักเข็ดด้วยว่าเราเกิดมานับชาติไม่ถ้วนแล้ว

เรามาไล่ดูทิพจักขุญาณ ว่าช่วยในการตัดกิเลสไหม ? ถ้าเราไม่ได้ดูเพื่อที่จะเบื่อก็ไม่ช่วยในการตัดกิเลส ปุพเพนิวาสานุสติญาณ ระลึกชาติได้ แต่ละชาติเราทุกข์พอหรือยัง ? ปัจจุบันนี้เราทุกข์อยู่หรือเปล่า ? จุตูปปาตญาณ รู้ว่าคนตายแล้วไปไหน สัตว์ตายแล้วไปไหน ถ้าหากเราเชื่อว่าทำดีได้ดี ทำชั่วได้ชั่ว ก็ไม่จำเป็นต้องดูก็ได้ ท้ายสุดเจโตปริยญาณ เรารู้ใจตัวเองว่ามี รัก โลภ โกรธ หลง แค่ไหน แล้วป้องกันขับไล่สิ่งไม่ดีออกไปไม่ดีกว่าหรือ ?

สรุปแล้วก็คือว่าในเรื่องของมโนมยิทธินั้น จริง ๆ แล้ว ถ้าเราเอาจิตเกาะพระนิพพานได้ สภาพจิตที่ปราศจากกิเลส ไม่มี รัก โลภ โกรธ หลง เบาสบายอย่างไร เราจำอารมณ์นั้นไว้ ถึงเวลาลงมาแล้วประคับประคองรักษาอารมณ์นั้นให้อยู่กับเราให้นานที่สุด พอสภาพจิตเคยชินกับสภาพหมดกิเลสนั้นไปนาน ๆ ต่อไปก็จะสามารถที่จะเข้าถึงได้โดยอัตโนมัติเอง นี่คือสิ่งที่หลวงพ่อวัดท่าซุงท่านต้องการให้กับพวกลูกศิษย์ ว่าเป็นวิธีตัดกิเลสไปพระนิพพานได้ตรงที่สุด ง่ายที่สุด แต่พวกเรากลับเอาไปใช้ผิดกันอย่างน่าเสียดายเป็นอย่างยิ่ง

ฝึกได้แล้วหมั่นซักซ้อมไว้ ช่วงที่อารมณ์ใจของเราท่องไปตามแดนต่าง ๆ รัก โลภ โกรธ หลง กินเราไม่ได้ ท้ายสุดไปจดจ่ออยู่ที่พระนิพพาน เราจะได้รู้ว่าสภาพหมดกิเลสจริง ๆ เป็นอย่างไร แล้วจดจำมา รักษาอารมณ์นั้นไว้กับเรา ทำบ่อย ๆ รักษาไว้บ่อย ๆ เดี๋ยวได้ดีไปเอง เรื่องระลึกชาติ เรื่องการรู้ใจคนอื่น เรื่องการดูโน่นดูนี่...เลิกซะทีเถอะ ไม่ชัดแล้วยังมั่วอีกต่างหาก..!
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย เถรี : 01-01-2016 เมื่อ 00:13
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 149 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #155  
เก่า 29-12-2015, 14:39
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,425
ได้ให้อนุโมทนา: 150,983
ได้รับอนุโมทนา 4,398,984 ครั้ง ใน 34,014 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

สมมติว่าเรานึกถึงพระ ไม่ต้องชัดหรอก มั่นใจว่าตอนนี้มีพระอยู่ตรงหน้าของเรา แล้วพระพุทธเจ้าอยู่ที่ไหน ? พระพุทธเจ้าอยู่บนพระนิพพาน เราเห็นพระองค์ท่านคือเราอยู่กับพระองค์ท่าน เราอยู่กับพระองค์ท่านคือเราอยู่บนพระนิพพาน เอาใจเกาะแค่นี้ หลุดออกมาเมื่อไร รู้ว่าเราหลุดจากพระแล้วก็รีบขึ้นไปใหม่ ซ้อมทำอย่างนั้นทุกวัน ๆ ความชัดจะปรากฏขึ้นเรื่อย ๆ เอง

วันนี้คนถอดเทปตายแน่ โยมหลอกให้คุยเสียเยอะเลย ถ้าอาตมาไม่มีอะไรทำก็จะโม้ไปเรื่อย ๆ แบบอาตมาไปเที่ยวแล้วเอามาเล่าให้โยมฟัง หลัง ๆ นี้ชักจะมีคนรู้ทัน บอกว่าถ้าพระอาจารย์เลิกพูดแล้วเงียบไปเฉย ๆ ให้รู้ว่าตอนนี้กำลังคุยกับ "คนอื่น" แทน
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 30-12-2015 เมื่อ 02:12
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 149 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #156  
เก่า 29-12-2015, 14:46
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,425
ได้ให้อนุโมทนา: 150,983
ได้รับอนุโมทนา 4,398,984 ครั้ง ใน 34,014 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : ถ้าเราต้องรับกรรมไม่ดี เราจะรู้ได้อย่างไรว่าช่วงนี้อกุศลกรรมมา ?
ตอบ : ก็ดูสิว่าทำไมอยู่ ๆ ชีวิตจากที่ดี ๆ ถึงได้เละเทะไปเลย ตรวจสอบเองสิเว้ย..!
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 30-12-2015 เมื่อ 02:13
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 144 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #157  
เก่า 29-12-2015, 14:50
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,425
ได้ให้อนุโมทนา: 150,983
ได้รับอนุโมทนา 4,398,984 ครั้ง ใน 34,014 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : เราจะรู้ได้อย่างไรว่าเราให้ของแล้ว เขาจะตอบแทนเรามาในทางที่ดี
ตอบ : ให้ไปตามปกติ ส่วนให้แล้วเขาจะตอบแทนอย่างไร เราก็รับเอาไว้ตามระเบียบแค่นั้นเอง ก็ในเมื่อเราตั้งใจสงเคราะห์คนอื่นเขา ถึงเวลาอะไร ๆ ดีหรือไม่ดีตอบแทนมาก็ทน ๆ เอา เป็นการพิสูจน์ว่ากำลังใจของเราเป็นอัปปมัญญา ก็คือสงเคราะห์โดยไม่มีประมาณได้จริง ๆ หรือเปล่า ถ้ายังเลือกที่รักมักที่ชังอยู่ก็ยังใช้ไม่ได้
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 30-12-2015 เมื่อ 02:14
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 145 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #158  
เก่า 29-12-2015, 14:54
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,425
ได้ให้อนุโมทนา: 150,983
ได้รับอนุโมทนา 4,398,984 ครั้ง ใน 34,014 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : ถ้าจะเอารูปพระอาจารย์ไปถวายพระอาจารย์ ควรขออนุญาตไหมคะ ?
ตอบ : สำหรับอาตมาแล้ว ไม่ต้องและไม่ควรอย่างยิ่ง ไปดูที่วัดท่าขนุนว่ามีรูปพระอาจารย์เล็กบ้างไหม ? ใครหาเจอมีรางวัลให้ ตูไม่ได้หลงตัวเองขนาดนั้น..!

ถาม : (ไม่ชัด)
ตอบ : จะทำอะไรก็ทำไป แต่อย่าให้เห็น ถ้าเห็นจะโกรธมาก รู้ไหมว่าทำไมถึงโกรธ ? ที่โกรธมากไม่ใช่อะไรหรอก ตูกำลังพักอยู่แท้ ๆ ดันมาเรียก แถมยังใช้บ่นโน่นบ่นนี่ให้ฟัง
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 30-12-2015 เมื่อ 02:15
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 148 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #159  
เก่า 29-12-2015, 15:01
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,425
ได้ให้อนุโมทนา: 150,983
ได้รับอนุโมทนา 4,398,984 ครั้ง ใน 34,014 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : บ้านคุณพ่อที่นครสวรรค์ เขาตั้งศาลพระภูมิและศาลตายายคู่กัน แต่ศาลตายายเป็นสี่เสา อย่างนี้ถูกต้องไหมครับ ?
ตอบ : ไปเข้าเว็บวัดท่าขนุนหรือเว็บพลังจิตแล้วหาเกี่ยวกับเรื่องนี้ อาตมาพูดมาไม่ต่ำกว่า ๒๐ ครั้งแล้ว ไม่ว่าจะถูกต้องหรือไม่ถูกต้อง จะต้องแก้ไขอย่างไร ได้บอกไว้หมดแล้ว

ถาม : ถ้าเป็นศาลอากาศเทวดาต้องอยู่ทิศตะวันตกใช่ไหมครับ ?
ตอบ : ตะวันตกหรือใต้ก็ได้ แต่ต้องรู้จริง ๆ ถ้าไม่รู้จริงว่าเป็นท่านแล้วไปตั้งส่งเดช เดี๋ยวจะซวยไม่รู้ตัว เหมือนอย่างกับอยู่ ๆ ก็ไปเรียกนายพลมาเป็นคนใช้ ทั้ง ๆ ที่ไม่มีสิทธิ์จะเรียกท่าน
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 30-12-2015 เมื่อ 02:16
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 148 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #160  
เก่า 29-12-2015, 15:19
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,425
ได้ให้อนุโมทนา: 150,983
ได้รับอนุโมทนา 4,398,984 ครั้ง ใน 34,014 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : อยากจะบวชแต่กลัวบาป ?
ตอบ : การบวชเป็นความดี บาปตรงไหน ? เพียงแต่ว่าต้องเก็บอาการให้ได้ ปฏิบัติตัวอยู่ในพระธรรมวินัย ไม่ไปหลุดวี้ดว้ายกรี๊ดกร๊าดกับใคร

ถาม : กรณีที่เป็นเพศทางเลือกละคะ ?
ตอบ : เป็นเรื่องปกติ ถ้าเราเก็บอาการอยู่ก็ไม่เป็นไร ถ้าเก็บอาการไม่อยู่นี่เท่ากับทำให้พระศาสนาเสียหาย โทษหนักมาก
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 30-12-2015 เมื่อ 02:17
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 146 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
ตอบ


ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 1 คน ( เป็นสมาชิก 0 คน และ บุคคลทั่วไป 1 คน )
 
คำสั่งเพิ่มเติม

กฎการส่งข้อความ
You may not post new threads
You may not post replies
You may not post attachments
You may not edit your posts

BB code is ใช้ได้
Smilies are ใช้ได้
[IMG] code is ใช้ได้
HTML code is งดใช้

Forum Jump


เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 04:23



ค้นหาในเว็บวัดท่าขนุน

เว็บวัดท่าขนุน Powered by vBulletin
Copyright © 2000-2010 Jelsoft Enterprises Limited.
ความคิดเห็นส่วนตัวทุก ๆ ข้อความในเว็บบอร์ดนี้ สงวนสิทธิ์เฉพาะเจ้าของข้อความ ไม่อนุญาตให้คัดลอกออกไปเผยแพร่ นอกจากจะได้รับคำอนุญาตจากเจ้าของข้อความอย่างชัดเจนดีแล้ว