กระดานสนทนาวัดท่าขนุน


กลับไป   กระดานสนทนาวัดท่าขนุน > ห้องธรรมะพระอาจารย์ > เก็บตกจากบ้านเติมบุญ

Notices

เก็บตกจากบ้านเติมบุญ เก็บข้อธรรมจากบ้านเติมบุญมาฝาก สำหรับผู้ที่ไม่มีโอกาสเดินทางไป

ตอบ
 
คำสั่งเพิ่มเติม
  #81  
เก่า 11-05-2017, 19:43
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,451
ได้ให้อนุโมทนา: 151,086
ได้รับอนุโมทนา 4,400,026 ครั้ง ใน 34,040 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

พูดถึงการออกกำลังกายเพื่อลดน้ำหนัก "ตอนนี้อายุน้อยยังลดง่ายอยู่ ต้องรีบลดเสียก่อนอายุไปถึงระดับคุณแม่ ความจริงคุณแม่ก็ยังลดได้ แต่ไม่มีกำลังใจ ถ้ามีกำลังใจต้องลดได้อยู่แล้ว ประเภทกลับบ้านมา ๒-๓ ทุ่มก็ปั่นจักรยานไปสักครึ่งค่อนชั่วโมง ถึงได้บอกว่ากำลังใจไม่พอ แบบเดียวกับอยากหมดกิเลส อยากไปพระนิพพาน แต่กำลังใจไม่พอ ก็เลยได้แค่อยาก

สมัยก่อนอาตมากลับมาดึกขนาดไหนก็ต้องสวดมนต์ไหว้พระ ทำกรรมฐานก่อนแล้วค่อยนอน ไปนึกถึงท่านเจ้าคุณอาจารย์พระราชปริยัติโมลี วัดพระงาม (เจ้าคุณอาจารย์โสภา) ออกไปกิจนิมนต์หรือออกไปงานใกล้ไกลขนาดไหน กลับมาดึกแค่ไหนก็ต้องทำวัตรก่อนแล้วค่อยนอน กำลังใจต้องยึดมั่นอย่างนั้น ฉันทะถึงจะพอเพียง

ถ้าฉันทะพอเพียงทำอะไรก็สำเร็จ เพราะว่าถ้ามีฉันทะ วิริยะจะตามมาทันที ในเมื่ออยากทำ ความเพียรก็จะมี กำลังใจก็จดจ่อปักมั่น เพราะใจอยากทำอย่างนั้น ที่เขาประสบความสำเร็จกันก็แค่นี้เอง ไม่ได้ยากอะไรหรอก


หรือไม่ก็ชวนแม่เป็นเพื่อนเต้นแอโรบิกด้วยกัน หรือไม่ก็เต้น T๒๕ วันหนึ่ง ๒๕ นาทีเอง ยกแข้งยกขาตามเขาไปก็เหงื่อท่วมตัวแล้ว ความจริงอาตมาไม่รู้หรอก มีคนมาทำให้เห็นพอดี ถามว่าทำอะไร ? เขาบอกว่าเต้น T๒๕ ถามว่าเป็นอย่างไร ? เขาบอกว่าออกกำลังตามตัวอย่าง ๒๕ นาที

ต้องมีวินัย ก็คือทำอย่างไรก็ทำอย่างนั้นจึงจะเกิดผล ไม่อย่างนั้นแล้วทำไปวันสองวันยังไม่ทันจะเกิดผลเลย ด้วยการที่ออกกำลังก็เลยทำให้กินหนักกว่าเดิมอีก คราวนี้ก็อ้วนจนหมดสภาพ"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 11-05-2017 เมื่อ 19:53
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 195 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #82  
เก่า 11-05-2017, 21:26
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,451
ได้ให้อนุโมทนา: 151,086
ได้รับอนุโมทนา 4,400,026 ครั้ง ใน 34,040 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : ขอคำแนะนำเรื่องที่ดิน ?
ตอบ : อาตมาไม่มีอารมณ์จะแนะนำ เรื่องของที่ดินเราต้องเชื่อกะเหรี่ยง พะตีจอนิ โอโดเชา บอกว่า “อาจารย์มีที่ดินซื้อเก็บไว้นะ ซื้อเพิ่มไปเรื่อย ๆ” ถามว่าทำไม? “ที่ดินปลูกไม่ได้” “ปลูกไม่ได้แล้วซื้อทำไม ?” “ไม่ใช่...ที่ดินปลูกแล้วไม่งอก”

ความคิดของกะเหรี่ยงอย่างอื่นปลูกขึ้นทั้งนั้น แต่ที่ดินปลูกไม่ได้ ในเมื่อไม่มีที่จะเพิ่มขึ้นมาอีก เราก็ควรที่จะหาไว้


ถาม : ที่บ้านจะขายที่ดิน ทำอย่างไรจะขายออกครับ ?
ตอบ : ก็ขายถูก ๆ สิ

ถาม : อยากได้ราคาที่พอใจครับ ?
ตอบ : ถ้าราคาเป็นที่พอใจของเรา แต่ไม่เป็นที่พอใจของคนซื้อ เราจะตกลงกันได้ไหม ? เขาบอกแล้วว่าคำเสนอต้องพ้องกับคำสนอง การทำนิติกรรมสัญญาจึงจะเกิดขึ้น นี่อยู่ในวิชากฎหมายคณะสงฆ์ บังเอิญว่าเรียนมาแล้วไม่ค่อยลืม

อย่างเช่น นายแดงเสนอขายรถในราคานี้ นายดำเห็นว่าเป็นราคาที่พอใจ จึงทำนิติกรรมสัญญาซื้อรถจากนายแดง ผลของนิติกรรมสัญญาทำให้ ข้อ ๑ มีข้อผูกพันตามกฎหมาย ข้อที่ ๒ ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงสิทธิ ก็ขายให้เขาแล้ว ในเมื่อโอนให้เขาสิทธิในการใช้รถก็เป็นของเขาไป


ถาม : ทำอย่างไรให้หาผู้ซื้อให้ได้คะ ?
ตอบ : ก็บอกแล้วว่าขายถูก ๆ ถ้าขายถูก ๆ รับรองว่าขายได้ทันที
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 12-05-2017 เมื่อ 02:53
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 196 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #83  
เก่า 11-05-2017, 21:45
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,451
ได้ให้อนุโมทนา: 151,086
ได้รับอนุโมทนา 4,400,026 ครั้ง ใน 34,040 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ช่วงนี้อาตมามีคนมายื่นขายที่ดินให้เยอะมาก ข้างวัดจะเอาไร่ละ ๕ แสนบาท บอกว่าเอ็งไปค่อย ๆ คิดให้ดี ถ้าลดได้มากกว่านี้แล้วค่อยมาใหม่ ราคาประเมิน ๒ แสนบาท จะขายอะไรให้นึกถึงพระนึกถึงเจ้าบ้างสิ...! จะขูดรีดอะไรนักหนา แต่รอบวัดทุกวัดก็เป็นอย่างนี้หมด ขายให้พระต้องโก่งราคาสุดชีวิต

ถาม : เขาคิดว่าพระรวย ?
ตอบ : เขาคิดกันอย่างนั้น ที่คิดว่าพระรวยเพราะว่ามีคนมาทำบุญ แต่คนคิดไม่เคยทำบุญเลย ต้องบอกว่าเป็นสัจธรรมอย่างหนึ่ง ส่วนใหญ่แล้วพวกนินทาว่าร้ายพระ มักจะไม่เคยเข้าวัดทำบุญ คนเข้าวัดทำบุญเขารู้บาปบุญคุณโทษ เขาไม่เสียเวลามานินทา
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 12-05-2017 เมื่อ 02:59
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 191 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #84  
เก่า 11-05-2017, 21:51
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,451
ได้ให้อนุโมทนา: 151,086
ได้รับอนุโมทนา 4,400,026 ครั้ง ใน 34,040 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ที่ดินข้างวัด ๔๐ ไร่หลุดจำนอง ตอนอาตมาไปขอซื้อ ธนาคารเขาจะเอา ๔๐ ล้านบาท แล้วไม่ยอมแบ่งขายด้วย เพราะอาตมาต้องการแค่ที่วัด ๖ ไร่ครึ่งคืนมา อุตส่าห์ประชุมบอร์ดกันอยู่ ๒ วันแล้วก็ส่งข่าวมาว่า ไม่สามารถที่จะอนุเคราะห์ตามที่พระคุณเจ้าขอมาได้ เขาจะขายทั้งผืน ๔๐ ล้านบาท

ปรากฏว่าพออาตมาไม่ซื้อ หลังจากนั้น ๒ ปี เขาขายให้คนอื่นแค่ ๑๐ ล้านบาทเอง อาตมาบอกว่า ถ้าหากว่า ๑๐ ล้านนี่กูซื้อทันทีเลย แล้วทำไมมึงไม่บอกกู ? อาตมาต้องการ ๖ ไร่ครึ่งให้ ๖ ล้าน
แสนบาท เขาไม่ยอมขายเฉพาะแค่นั้น เขาจะขายทั้งหมด
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 12-05-2017 เมื่อ 02:59
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 196 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #85  
เก่า 12-05-2017, 16:40
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,451
ได้ให้อนุโมทนา: 151,086
ได้รับอนุโมทนา 4,400,026 ครั้ง ใน 34,040 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

พระอาจารย์เล่าว่า "เมื่อวันก่อนไปหาหลวงพ่อบ๊ะ มีโยมอยู่ ๓ คนกำลังโดนท่านด่าโขมงโฉงเฉง “ไอ้ห่..อยากรู้ไปทุกเรื่อง พอกูพูดไปก็ไม่เข้าใจ แล้วมึงจะถามไปทำไมวะ ?” ท่านบอกว่า “เรื่องแบบนี้เขาเรียกว่าอจิณไตย เข้าใจไหม ?” พวกนั้นก็เอ๋อ อจิณไตยคืออะไรวะ ? ท้ายสุดท่านก็เลยคว้าหนังสือพิมพ์ “ไปขี้ดีกว่าโว้ย” ก็คือเขาชอบถามแต่ไม่มีพื้นฐานความรู้สักอย่าง พอท่านพูดมาก็ไม่เข้าใจสักเรื่อง ทั้ง ๆ ที่พวกเราฟังออกจะสนุกสนาน

อาตมาไปถึงท่านก็นิมนต์ก่อน แอบกระซิบบอกว่า "อยู่ชั้นบนของพระราชวังโปตาลา ลองขอ
เขาดูว่าจะให้เข้าไปดูไหม ?" อาตมาตั้งใจจะไปดูว่าซากเก่า ๆ ของตัวเองว่ายังอยู่หรือเปล่า ? ไปทิเบตตั้งใจไปดูว่าสังขารที่ทิ้งเอาไว้ตั้งแต่ชาติโน้นยังอยู่ไหม เข้าสมาธิตายแล้วเขาก็หุ้มทองเก็บเอาไว้ ก็ไม่รู้เหมือนกันว่าเขาให้ขึ้นไปดูหรือเปล่า

วันก่อนหาข้อมูลดูเขาบอกว่าไม่ให้ขึ้นชั้นบนของพระราชวังโปตาลาแล้ว แต่บางเสียงก็บอกว่าต้องจ่ายค่าตั๋วต่างหาก ราคาแพงด้วย ก็ลองดู...ถ้าหากไม่เกิน ๒๐๐ ดอลลาร์ก็น่าขึ้นไปดูหน่อย แค่อยากจะไปรู้ว่าซากเก่า ๆ ของตัวเองหน้าตาเป็นอย่างไรเท่านั้นแหละ

เป็นเรื่องอะไรที่ง่ายดี คือไม่ต้องเสียเวลาคุย ถึงเวลาท่านบอกเลย อาตมากะว่าถ้าไม่อยู่ที่พระราชวังโปตาลา ก็ต้องอยู่วัดโจคัง มีอยู่ ๒ ที่นี้เท่านั้น"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 12-05-2017 เมื่อ 17:24
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 196 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #86  
เก่า 13-05-2017, 08:59
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,451
ได้ให้อนุโมทนา: 151,086
ได้รับอนุโมทนา 4,400,026 ครั้ง ใน 34,040 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

พระอาจารย์กล่าวว่า "วันนี้ตั้งแต่เช้ายันบ่ายมีแต่พระ มีแต่เด็กวัด มาเบิกค่าเรียน ช่วงนี้เดือนหนึ่งต้องจ่ายเฉพาะค่าเรียนแสนกว่าเกือบ ๒ แสนบาท ถ้าเดือนไหนค่าเทอมออกก็ ๘ แสนบาท เพราะฉะนั้น...ไม่ต้องสงสัยหรอกว่าทำไมอาตมาถึงต้องมานั่งอยู่อย่างนี้ ถ้าไม่นั่งอยู่ตรงนี้ก็ไม่มีเงิน

ได้ยินว่าค่าเรียนระดับปริญญาโท ปริญญาเอกจะขยับขึ้นไปอีก สรุปว่าความรู้ของบ้านเราราคาแพงมาก ย้ายไปอยู่เยอรมันกันดีกว่า รัฐบาล
เยอรมันสนับสนุนเรียนฟรียันปริญญาเอกเลย"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 13-05-2017 เมื่อ 15:48
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 190 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #87  
เก่า 13-05-2017, 09:05
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,451
ได้ให้อนุโมทนา: 151,086
ได้รับอนุโมทนา 4,400,026 ครั้ง ใน 34,040 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

พระอาจารย์เล่าว่า "เมื่อวานนี้อาตมาแวะไปวัดชัยชนะสงคราม ของหลวงปู่มหาอำนวย เนื่องจากเมื่อวานซืนกำลังรับสังฆทานอยู่ที่หาดใหญ่ หลวงปู่ท่านแวะมาตอนประมาณเกือบทุ่มหนึ่ง กราบท่านแล้วถามหลวงปู่มีธุระอะไร ? ท่านบอกว่า "นิมนต์ไปดูที่ให้หน่อย" มีคนสร้างพระบรมราชานุสาวรีย์มหาราชทั้ง ๕ ของประเทศไทย มีสมเด็จพระนเรศวรมหาราช เป็นต้น ไปถวายไว้ที่วัดหลวงปู่

หลวงปู่ท่านบอกว่า "ช่วยหาที่ซึ่งประดิษฐานพระบรมราชานุสาวรีย์แล้วเป็นมหาอำนาจ ทำให้คนเกรงใจ ไม่กล้ามารุกรานหรือข่มเหงรังแกวัด รบกวนช่วยไปดูให้หน่อย" ก็เลยต้องไปกวนท่านตั้งแต่เช้า เพราะว่าเครื่องขึ้น ๗ โมงกว่า ตอน ๖ โมงก็ไปถึงวัดท่าน สรุปว่าให้ตั้งที่บริเวณหน้าโบสถ์นอกกำแพงแก้ว"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 13-05-2017 เมื่อ 15:51
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 189 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #88  
เก่า 13-05-2017, 09:15
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,451
ได้ให้อนุโมทนา: 151,086
ได้รับอนุโมทนา 4,400,026 ครั้ง ใน 34,040 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

โยมมาเบิกวัตถุมงคลแต่หาไม่เจอ "ที่อาตมาเบื่อพวกของขลังก็เพราะอย่างนี้ พอถึงเวลาท่านนึกอยากจะไป ท่านก็กลับไปนอนที่วัด อาตมาก็ต้องวิ่งกลับไปนิมนต์มาใหม่

ตอนแรกเวลาท่านหนีไปอยู่ในถุงโน้นบ้างถุงนี้บ้าง อาตมาก็ยังงง ๆ ว่าไปได้อย่างไร ? มานึกถึงตอนที่หลวงปู่ปานท่านเสกสายสิญจน์ให้แม่ที่เด็กตายในท้องกินลงไปพร้อมกับน้ำมนต์ เสร็จแล้วเอาสายสิญจน์ไปคล้องคอเด็กออกมา แบบนั้นเข้าไปได้อย่างไร ? เพราะว่าอวัยวะคนละส่วนกันเลย มดลูกกับกระเพาะไม่ได้เกี่ยวกันสักหน่อย

ก็คงจะลักษณะเดียวกัน คนละถุงคนละไถ้ก็วิ่งข้ามไปข้ามมาได้ อาตมาตรวจใส่ถุงทีละเบอร์ ไม่พลาดอยู่แล้ว แต่ท่านก็เล่นของท่านสนุกอยู่เรื่อยแบบนี้ งวดที่แล้วก็งงว่าหายไปไหน ปรากฏว่าหนีไปอยู่ในถุงของท่านเจ้าคุณปิง นั่งยิ้มแป้นอยู่ในนั้น พอโดนบ่อย ๆ จนชินก็ไม่ตื่นเต้นแล้ว

มีพระปิดตาเนื้อเมฆสิทธิ์ของหลวงปู่ทับ วัดอนงคาราม ท่านก็เล่นสนุกของท่านอย่างนี้ ถึงเวลาก็หนีไปโน่นหนีไปนี่ วันนั้นอาตมารำคาญไม่ไปตามหา ท่านก็เลยโวย "ทำไมไม่ตามวะ ?" "อยากไปเองก็มาเองสิครับ" ตามหลายทีแล้ว ท้ายสุดตอนวางศิลาฤกษ์โบสถ์วัดรัตนานุภาพ อาตมาเลยเอาใส่หลุมวางศิลาฤกษ์ไปเลย วัดนั้นอยู่ในเขตอันตรายก็เลยให้หลวงปู่ท่านไปคุ้มครองที่นั่นดีกว่า"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 13-05-2017 เมื่อ 15:55
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 186 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #89  
เก่า 13-05-2017, 18:51
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,451
ได้ให้อนุโมทนา: 151,086
ได้รับอนุโมทนา 4,400,026 ครั้ง ใน 34,040 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

พระอาจารย์เล่าว่า "หลวงปู่มหาอำนวยเป็นพระเถระรัตตัญญู ก็คือมีอายุมาก มีประสบการณ์มาก อายุ ๙๐ กว่าปีแล้ว โดยเฉพาะว่าท่านแข็งแรงมาก ไม่ค่อยเจ็บไข้ได้ป่วยอย่างพวกเรา อายุ ๙๐ กว่าปีแล้ว ยังเดินเหินไปไหนมาไหนด้วยตัวเองได้

ท่านไปนิมนต์ว่าให้แวะวัดท่านหน่อย ให้ไปดูที่สำหรับตั้งพระบรมราชานุสาวรีย์ สรุปว่าให้ท่านทำอาคาร ๒ ฝั่งด้านนอกกำแพงแก้วของโบสถ์ แต่ท่านมีพระบรมราชานุสาวรีย์อยู่ ๕ องค์ เวลาตั้งแล้วน้ำหนักไม่เท่ากัน ท่านก็เลยจะสร้างรัชกาลที่ ๙ อีกองค์หนึ่ง

หลวงปู่อำนวยเป็นพี่ใหญ่ หลวงป๋าวิวัฒน์เป็นน้องเล็ก น้องเล็กอายุ ๘๐ กว่าปีแล้ว พี่ใหญ่อายุ ๙๐ กว่าปี แต่พี่น้องบ้านนี้เข้าวัดเข้าวากันหมด ท่านเป็นพี่น้องท้องเดียวกันจริง ๆ แต่หลวงปู่อำนวยท่านบวชตั้งแต่อายุ ๒๐ ปี ส่วนหลวงป๋าวิวัฒน์มาบวชหลังจากเกษียณอายุราชการแล้ว

ต้องไปขอดูหนังสือสุทธิของหลวงปู่อำนวย เป็นรุ่นเก่าปกแข็งสีน้ำตาล ๆ ที่มีระบุไว้ว่าจบนักธรรมชั้นไหน เมื่อไร จบบาลีประโยคไหน เมื่อไร ซึ่งปัจจุบันนี้ไม่มี ปัจจุบันลงรายละเอียดว่าบวชวันเดือนปีอะไร บวชที่ไหน ใครเป็นผู้บวช บวชเวลาเท่าไร ชื่อฉายาอะไร แต่เขาไม่ได้ลงรายละเอียดว่าจบนักธรรมอะไร จบบาลีอะไร เพราะถือว่าเพิ่งบวช ยังไม่ทันได้เรียน"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 14-05-2017 เมื่อ 03:18
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 186 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #90  
เก่า 14-05-2017, 19:30
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,451
ได้ให้อนุโมทนา: 151,086
ได้รับอนุโมทนา 4,400,026 ครั้ง ใน 34,040 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

พระอาจารย์เล่าว่า "หลวงพี่อาจินต์ (พระครูภาวนาธรรมนิเทศก์) ท่านทิ้งทุกอย่างมาบวช นายทหารอากาศหนุ่ม ๆ อนาคตไกล ๔-๕ คนทิ้งมาบวชพร้อม ๆ กันหมดเลย มีใครบ้าง ? ชโลทัย อรัญ ทรงฤทธิ์ ชัยศรี อาจินต์ สมัยนี้ไม่เหลือแล้ว เหลือหลวงพี่อาจินต์ท่านเดียว ท่านบวชมามีเรื่องทดสอบอารมณ์เท่าไร หลวงพี่อาจินต์ก็ผ่าน

ปรากฏว่าวันนั้นพวกเราไปทำพระกัน พระวิสุทธิเทพรุ่นที่อาตมาทำ หลวงพี่อาจินต์เดินหอบจีวรหน้าเครียดมาเชียว อาตมาถามว่า "เป็นอะไรไปครับ ?" "พี่โกรธฉิบหายเลยว่ะ..เล็ก" "ไม่เคยเห็นโกรธ พี่โกรธใครครับ ?" "น้องชายตัวเอง" ถามว่าทำไม ? "มันเอากระบี่ของพี่ไปจำนำ" โอ้โฮ...โกรธมากเลย ของพระราชทานจากในหลวง อุตส่าห์ไว้บนหิ้งบูชาเสือกเอาไปจำนำ..!

เห็นหลวงพี่ท่านโกรธก็ครั้งนั้นแหละ แสดงว่าคนเรานี่มีมุมของตัวเอง ใครไปแตะถูกหรือเปล่าเท่านั้นเอง ถ้าแตะไม่ถูกก็ใจเย็นอยู่ตลอด นั่นก็ไม่ได้ด่าใครนะ แต่เดินหน้าเครียดมาเชียว ไม่รู้ว่าจะไประบายกับใคร อุตส่าห์เดินมาถึงศาลา ๓ ไร่ที่พวกเราอยู่ชั้นบน กำลังทำพระกันอยู่ ซึ่งที่นั่นไม่ค่อยมีใครไปหรอก"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 15-05-2017 เมื่อ 02:04
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 183 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #91  
เก่า 14-05-2017, 19:37
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,451
ได้ให้อนุโมทนา: 151,086
ได้รับอนุโมทนา 4,400,026 ครั้ง ใน 34,040 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

เสืออากาศรุ่นนั้นแต่ละคนมีวีรกรรมเยอะทั้งนั้น ตั้งใจบวชเข้าไปเพื่อถวายการรับใช้หลวงพ่อวัดท่าซุง พี่ทรงฤทธิ์สึกใหม่ ๆ เพื่อนไปรับกลับ “กูขับเอง” ขับรถกลับกรุงเทพฯ เพื่อน ๆ บอก “เฮ้ย ๆ มึง...๑๖๐ แล้ว” พี่ทรงฤทธิ์บอกว่า “กูยังไม่รู้สึกเร็วเลย” ก็คนขับ F5 มาจะไปรู้สึกเร็วอะไร รถวิ่งแค่ ๑๖๐ เท่านั้น

พวกนี้สายตาเขาเร็ว ความเร็วของเครื่องที่เร็วเหนือเสียง ไวขนาดไหนสายตาเขายังจับภาพทัน เพราะฉะนั้น...แค่ความเร็ว ๑๐๐ กว่า ไม่ถึง ๒๐๐ นี่สบายของเขาเลย
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 15-05-2017 เมื่อ 02:06
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 182 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #92  
เก่า 14-05-2017, 19:42
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,451
ได้ให้อนุโมทนา: 151,086
ได้รับอนุโมทนา 4,400,026 ครั้ง ใน 34,040 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ในหลวงรัชกาลที่ ๑๐ ของเราตอนที่ยังเป็นสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ พยายามฟิตพระวรกายทดสอบเพื่อให้ผ่าน ตั้งพระทัยจะขับ F16 แต่ไม่เคยผ่าน ทั้ง ๆ ที่พระองค์ท่านมีชั่วโมงบินตั้ง ๒,๐๐๐ กว่าชั่วโมงแล้ว เพราะว่า F16 แรงเหวี่ยงหนีศูนย์กลางอยู่ที่ระดับ ๙ ร่างกายคนเราทนได้แค่ระดับ ๗ เพราะฉะนั้น...ไม่มีใครเสี่ยงให้พระองค์ท่านขึ้นไปหรอก

พอเหวี่ยงแรง ๆ อวัยวะของเราของอาจจะหลุดออกจากที่ ฉีกขาดหลุดออกจากที่ ก็เลือดตกใน โอกาสที่จะตายมีมากกว่ารอด


ถาม : แล้วคนที่ขับ F16 ได้ล่ะคะ ?
ตอบ : ก็เขาก็เอาจากพวกขับ F5 นี่แหละ พอชั่วโมงบินคุณถึงก็มาทดสอบกัน ทั่วประเทศเรามีผ่านแค่ ๒๒ คน ตอนนี้อยู่ใต้ฐานบินโคราชโน่น นอนห้องปรับอากาศอย่างดี ประจำการ ๒๔ ชั่วโมง ๒๒ คนนี้ถ้าหาเพิ่มไม่ได้นี่ เกษียณเมื่อไรก็แย่ เพราะว่า F16 ฝูงหนึ่งตั้ง ๑๘ ลำเข้าไปแล้ว เครื่องจอดอยู่เฉย ๆ ค่าบำรุงรักษาชั่วโมงละเป็นหมื่น

ในหลวงรัชกาลที่ ๑๐ พระองค์ท่านอยากขับ F16 มาก พระองค์ท่านเองก็เป็นนักบิน F5 ชั่วโมงบินเพียงพอแล้ว แต่ทดสอบพระวรกายเท่าไรก็ไม่ผ่าน แต่พระองค์ท่านดีมากเลย...ไม่ดื้อ ถ้าพระองค์ท่านบอกว่าจะขับให้ได้ ก็คงไม่มีใครกล้าขัด
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 15-05-2017 เมื่อ 02:11
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 186 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #93  
เก่า 14-05-2017, 19:50
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,451
ได้ให้อนุโมทนา: 151,086
ได้รับอนุโมทนา 4,400,026 ครั้ง ใน 34,040 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ในหลวงรัชกาลที่ ๙ พระองค์ท่านซ้อมวิ่ง ข้าราชบริพารก็ไล่ตามลิ้นห้อย จนกระทั่งพลตำรวจเอกวสิษฐ เดชกุญชร ตอนนั้นยังเป็นพันตำรวจเอกพิเศษอยู่ ถามว่าทำไมพระองค์ท่านต้องฟิตขนาดนี้ทุกวัน ? พระองค์ท่านตรัสว่า "ถ้าร่างกายไม่แข็งแรง ก็ดูแลประชาชนไม่ได้เต็มที่"

ในชีวิตที่รู้สึกโชคดีที่สุดครั้งหนึ่ง เป็นความบังเอิญก็คือ พาหลวงพ่อวัดท่ามะขามไปรับพัดยศพระเทพเมธากรที่พระที่นั่งอมรินทรวินิจฉัย ตอนแรกด้วยความที่ไม่รู้ อาตมาก็เลยพาท่านเข้าไปก่อนนานมาก พอเข้าไปก็ไม่รู้ว่าคนที่ไปหลัง ๆ สามารถจอดรถหน้าพระที่นั่งอมรินทร์วินิจฉัยได้ พวกเราไปก่อนก็ต้องไปหาที่จอดให้เรียบร้อย ก็เลยไปจอดตรงข้างพระที่นั่งศิวโมกขพิมานโน่น แล้วก็พาหลวงพ่อท่านเดินมาเพื่อลงทะเบียน

พอรับเสร็จก็ทุ่มกว่า ต้องเดินกลับเพื่อที่จะไปเอารถของพวกเรา ปรากฏว่าพอเดินปุ๊บทหารเขากันไว้ “นิมนต์หยุดก่อนครับ ขบวนเสด็จ” เลยได้เห็นครบถ้วนทุกพระองค์เลย อยู่ห่างแค่เอื้อมถึง นาน ๆ ในชีวิตจะมีโอกาสเห็นครบอย่างนั้นสักที ปกติก็เห็นทีละพระองค์

บางทีการที่เราทำอะไรผิด ๆ พลาด ๆ กลับได้ผลดีอย่างคิดไม่ถึง จอดรถไกลแต่กลายเป็นว่ามาแล้วได้เห็นขบวนชัด ๆ เลย ไม่อย่างนั้นก็จะได้เห็นในหลวงพระองค์เดียว เพราะว่าตอนนั้นในหลวงท่านมาพระราชทานเอง
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 15-05-2017 เมื่อ 02:14
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 187 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #94  
เก่า 14-05-2017, 20:02
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,451
ได้ให้อนุโมทนา: 151,086
ได้รับอนุโมทนา 4,400,026 ครั้ง ใน 34,040 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

เรื่องของทหาร ตำแหน่งจอมทัพสำคัญที่สุด ก่อนหน้าที่จะปลดล็อกให้ผู้หญิงสามารถมีตำแหน่งเกินพันเอก เป็นที่น่าเสียดายว่า "สมเด็จย่า" ติดพันเอกตลอดชีวิต มี ตชด. ถวายพลตำรวจเอกให้ก็ไม่ได้ทรงออกงาน เพราะว่าไปถวายเมื่อสวรรคตแล้ว

ตอนช่วงนั้นสังคมยังไม่เปิดกว้างพอ ผู้หญิงจะเป็นผู้บังคับบัญชาผู้ชายย่อมเป็นไปได้ยาก พอเขาถวายพลเอก พลเรือเอก พลอากาศเอก พลตำรวจเอกให้สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถในรัชกาลที่ ๙ ตำแหน่งก็ค่อย ๆ มีให้ผู้หญิง ทางด้านทั่วไปก็ขยับขึ้นเป็นนายพลกันบ้าง อย่างมาดามติ้ง (พลโทหญิงพูนภิรมย์ ลิปตพัลลภ)
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 15-05-2017 เมื่อ 02:16
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 184 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #95  
เก่า 14-05-2017, 20:06
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,451
ได้ให้อนุโมทนา: 151,086
ได้รับอนุโมทนา 4,400,026 ครั้ง ใน 34,040 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ไปนึกถึงขุนทัพหญิงฮัวมู่หลาน และบรรดานางสิงห์ตระกูลหยางอย่างมู่กุ้ยอิง นำทัพออกรบทุกคน สร้างชื่อติดไว้ในประวัติศาสตร์ ก็แสดงว่าผู้หญิงเก่ง ๆ มีอยู่มาก แต่สภาพของคนช่วงนั้นยังไม่ยอมรับ ที่หลุดมาได้จึงหายากมาก

แบบเดียวกับพระนางบูเช็กเทียนเป็นจักรพรรดินี ช่วงนั้นแผ่นดินจีนเจริญรุ่งเรืองมาก แต่สังคมผู้ชายเป็นใหญ่ ถึงแม้ว่าตัวเองจะไม่ยอมรับ แต่โดนกดอยู่ใต้อำนาจ จึงใช้วิธีบิดเบือนประวัติศาสตร์ ไปตำหนิท่านว่าเป็นผู้หญิงมากราคะ สะสมแต่ผู้ชายเต็มไปหมด ลืมไปว่าฮ่องเต้มีสนมตั้ง ๓,๐๐๐ ท่านเองถือว่าเป็นฮ่องเต้ผู้หญิง จึงหาผู้ชายมาเก็บไว้บ้าง แค่นั้นแหละ ไปกล่าวหาจนลืมดูไปว่าตัวเองทำอะไร

แต่ถ้าไปเจอหวงอี้นี่เขียนเสียจนพระนางบูเช็กเทียนกลายเป็นสุดยอดวรยุทธ ถึงขนาดต้องแกล้งสวรรคตเพื่อที่จะแสวงหาทางหลุดพ้น
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย เถรี : 25-06-2017 เมื่อ 19:44
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 179 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #96  
เก่า 14-05-2017, 20:40
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,451
ได้ให้อนุโมทนา: 151,086
ได้รับอนุโมทนา 4,400,026 ครั้ง ใน 34,040 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

พระอาจารย์กล่าวว่า "วัตถุมงคลบางอย่างที่ลงในกระทู้คนมีเงินฯ ถ้าไม่ใช่เพราะพวกเรากำลังไม่ถึง ก็เป็นเพราะไม่รู้ว่าในท้องตลาดต้องการขนาดไหน อย่างพระปิดตาพิมพ์ปั้น หลวงพ่อแก้ว วัดเครือวัลย์ ที่ออกสมัยท่านยังอยู่วัดปากทะเล ราคาในท้องตลาดนี่ ๑๐ ล้านบาทขึ้นไป อาตมาลงให้ร่วมทำบุญไว้ ๓ แสนบาท มีแต่คนกระพริบตาปริบ ๆ แต่ถ้าไปขายเขาก็กดราคานะ ระดับ ๑๐ ล้านนี่เขาให้เราล้านเดียวก็ดีตายชักแล้ว

แล้วอีกอย่างหนึ่งก็คือตะกรุดของหลวงพ่อเชื้อ วัดใหม่บำเพ็ญบุญ ถ้าถามว่าหลวงพ่อเชื้อเป็นใคร ? ต้องบอกว่าถ้าไม่มีหลวงพ่อกวย หลวงพ่อเชื้อจะดังระเบิด บังเอิญว่าท่านอยู่ยุคเดียวกัน หลวงพ่อกวยก็เลยดังกลบไปหมด แต่ว่าหลวงพ่อเชื้อท่านศึกษามามีครูบาอาจารย์ใกล้เคียงกันหมด หลวงพ่อเชื้อจะทำตะกรุดโทนดอกยาว ๘ นิ้วตลอด ถามว่าทำไมต้องยาวขนาดนั้น ? ท่านบอกว่าเรียนอะไรมาก็ควรที่จะใส่ลงไปให้หมด

เครื่องรางชิ้นแรกในชีวิตที่อาตมาตะเกียกตะกายหาก็คือ มีดหมอของหลวงพ่อเชื้อ วัดใหม่บำเพ็ญบุญ ไม่น่าเชื่อว่าในสมัยนั้นอาตมาจะตะกายหาของท่านเป็นคนแรก เพราะว่ามีพี่อยู่คนหนึ่งเอารถมอเตอร์ไซค์ไปล้ม คราวนี้ถนนเป็นลูกรัง พี่ชายของอาตมาเองล้มยังต้องไปให้หมอคีบลูกรังออกทีละเม็ด นอนร้องโอย ๆ แล้วก็ทายาแดงไปซีกหนึ่ง แต่พี่คนโน้นนี่เอามอเตอร์ไซค์คว่ำมุมเดียวกันเลย แม้แต่รอยถลอกก็ไม่มี ทั้งเนื้อทั้งตัวพกมีดหมอหลวงพ่อเชื้อเหน็บเอวอยู่เล่มเดียว ปกติพวกเราก็ว่ามีดหมอเอาไว้ถอนของ เอาไว้ไล่ผี มีดหมอหลวงพ่อเชื้อนี่อยู่ยงคงกระพันอีกด้วย"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 15-05-2017 เมื่อ 02:32
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 183 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #97  
เก่า 14-05-2017, 21:48
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,451
ได้ให้อนุโมทนา: 151,086
ได้รับอนุโมทนา 4,400,026 ครั้ง ใน 34,040 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : หลวงปู่แก่น วัดเขื่อนท่าทุ่งนาประชาสรรค์ ลูกศิษย์ของใคร ?
ตอบ : ลูกศิษย์ของใคร ? ก็มา ๒ สาย ก็คือเป็นหลานศิษย์หลวงปู่ทา วัดพะเนียงแตก ไม่ใช่ลูกศิษย์ เพราะว่าอาจารย์ท่านเป็นลูกศิษย์หลวงปู่ทา วัดพะเนียงแตก แล้วก็เรียนวิชาจากพระอาจารย์อีกท่านหนึ่ง นึกชื่อไม่ออกตอนนี้ ท่านจึงเป็นรุ่นพี่ของหลวงพ่อพาน วัดโป่งกะสัง

หลวงพ่อพาน วัดโป่งกะสังเป็นพระเกจิฯ รุ่นใหม่ ที่คนต้องการวัตถุมงคลมากเป็นพิเศษ เพราะว่าทุกชิ้นรับประกันความเหนียว เพิ่งจะดังไม่นาน ช่วงที่ท่านมีชีวิตอยู่ของไม่ดัง เพราะว่าคนได้ของไปอมกันเงียบหมด ไม่มีหลุดไปมือคนอื่นได้เลย เห็นตัวเล็กเอาสมเด็จหลังอุหลวงปู่แก่นไปลง มีใครรู้หรือเปล่า ? ราคาร้อยเดียว จองกันทันไหม ?

ท่านอายุ ๙๐ กว่าปีแล้ว เป็นรุ่นน้องหลวงปู่อำนวยแค่ปีเดียว เรียนบาลี
รุ่นที่แปลธรรมบท ๘ ภาคเหมือนกัน สมัยนี้เรียนเบาลง เรียนแค่ ๔ ภาค เพราะฉะนั้น...ไม่ว่าจะพระหรือทหารก็เหมือนกัน คือ วิชาการอ่อนลงไปเรื่อย ๆ

ถาม : รู้จักหลวงปู่แก่น ตั้งแต่วัดท่าซุงหรือคะ ?
ตอบ : รู้จักกันตั้งแต่ตอนบวชใหม่ ๆ ท่านจะไปวัดท่าซุงกับหลวงพ่อวัดท่ามะขาม ท่านเป็นคู่หูกัน คราวนี้พอพระอาคันตุกะไปวัดท่าซุง อาตมามีหน้าที่ต้อนรับก็เลยรู้จักมักคุ้นกันตั้งแต่ตอนนั้น
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 15-05-2017 เมื่อ 02:32
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 175 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #98  
เก่า 14-05-2017, 21:54
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,451
ได้ให้อนุโมทนา: 151,086
ได้รับอนุโมทนา 4,400,026 ครั้ง ใน 34,040 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : รู้จักแม่ชีณัฐทิพย์ไหมครับ ?
ตอบ : รู้จักตั้งแต่ตอนบวชใหม่ ๆ เหมือนกัน ตอนนี้ท่านเปลี่ยนเป็นสำนักภิกษุณีไปแล้ว ธัมมทีปาภิกษุณี ตอนบวชเป็นภิกษุณีอาตมาก็เพิ่งไปเยี่ยมมา แต่จะว่าเพิ่งไปเยี่ยมก็ ๒ ปีแล้วนะ

ไม่ว่าจะลูกศิษย์สายไหน ถ้าหากสร้างความเจริญให้กับพระพุทธศาสนาได้ก็ดีทั้งนั้น
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 15-05-2017 เมื่อ 02:32
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 180 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #99  
เก่า 14-05-2017, 22:04
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,451
ได้ให้อนุโมทนา: 151,086
ได้รับอนุโมทนา 4,400,026 ครั้ง ใน 34,040 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

พระอาจารย์เล่าว่า "ไปหาดใหญ่เที่ยวนี้เจอโยมผู้หญิงคนหนึ่งชื่ออารีรัตน์ อารีรัตน์มองใครเห็นเป็นโครงกระดูกหมด อย่างชนิดที่เดินไปก็เห็นเป็นโครงกระดูกทั้งเมือง เขาบอกว่าถามพระมาหลายรูปแล้ว แต่บอกไม่ได้ว่าจะให้ทำต่ออย่างไร อาตมาก็เลยสอนวิธีพิจารณาอัฏฐิกอสุภให้ แล้วต่อด้วยวิปัสสนาญาณ บอกตรงนั้นแกก็นั่งทำตรงนั้นเลย

คนลักษณะอย่างนั้นถ้าไม่ใช่กำลังใจมั่นคงจริง ๆ ก็จะกลัวเพี้ยน มองไปทางไหนก็มีแต่โครงกระดูกทั้งเมือง แสดงว่าของเก่าต้องมีติดตัวมาเยอะมาก

พูดถึงของเก่าติดตัวมา มีใครได้รับแชร์คลิปน้องโฟมที่ต่อว่าพ่อหรือยัง ? น้องโฟมบอกพ่อว่า ถ้าพ่อมีเมียน้อยเมื่อไรเราขาดกัน ตัดพ่อตัดลูกเลย พ่อบอกว่าตัดได้จริงหรือ ? “ได้” เด็ดขาดสุดยอด แล้วเด็กอะไรตัวเปี๊ยกเดียวพูดเป็นเหตุเป็นผลไปหมด ลักษณะอย่างนั้นของเก่าตามมาแน่ โดยเฉพาะในด้านของสมาธิ เกิดมาชาตินี้กำลังใจก็เลยมั่นคงเข้มแข็งมาก

ขนาดเด็กตัวแค่นั้นยังบอกว่าตัดพ่อได้ คาดว่าอีกไม่นานก็คงได้รับแชร์กันทั่ว ยังขำ ๆ อยู่ตรงที่พ่อเขาก็แกล้งถามไปเรื่อย ๆ ลูกก็พูดไปเรื่อย พูดเป็นเหตุเป็นผลทุกอย่างเลยนะ ลักษณะของคนมาสูงจะเป็นแบบนั้น ท้ายสุดก็บอก “แม่อย่าถ่ายสิ” เพราะว่าแม่ถ่ายคลิปพ่อลูกคุยกัน"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 15-05-2017 เมื่อ 02:32
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 180 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #100  
เก่า 15-05-2017, 22:28
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,451
ได้ให้อนุโมทนา: 151,086
ได้รับอนุโมทนา 4,400,026 ครั้ง ใน 34,040 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

พระอาจารย์เล่าว่า "หลวงปู่มหาอำนวยเป็นลูกศิษย์หลวงพ่อวัดท่าซุงรุ่นแรก ๆ เลยที่เปิดวัดสอนมโนมยิทธิ หลวงป๋าวิวัฒน์น้องชายท่านก็สุดยอดเซียนมโนมยิทธิ สมัยฆราวาสพระครูแสงไปขอเรียนด้วยก็เลยสนิทสนมกันมา อาตมาเองรู้จักท่านครั้งแรกก็พระครูแสงแนะนำ ท้ายสุดอาตมาก็มาบวช กลายเป็นรุ่นหลังท่านไกลมาก เพราะว่าหลวงปู่อำนวยท่านพรรษาก็ ๗๐ กว่าแล้ว ไม่ใช่อายุนะ พรรษาพระ ๗๐ กว่า ส่วนของอาตมาพรรษาเพิ่งจะ ๓๐ กว่า ยังไม่ได้ครึ่งของท่านเลย

พอถึงเวลาท่านมาขอให้ช่วยก็ต้องไป ความจริงท่านดูเองก็ได้ แต่ของหลายอย่างหลวงพ่อวัดท่าซุงท่านบอกไว้แล้วว่า อย่าดูเพื่อตัวเอง ถ้าดูเพื่อตัวเองโอกาสเฝือจะมี เพราะคนเรามักจะคิดเข้าข้างตัวเอง ท่านก็เลยมานิมนต์ อาตมาบอกว่า “หลวงปู่แค่โทรมาก็พอแล้ว” ท่านทำตามมารยาทคนรุ่นเก่า อุตส่าห์มานิมนต์เอง ตั้งทุ่มกว่าแล้ว อาตมาก็ว่าอีกสักครึ่งชั่วโมงก็จะขึ้นพักแล้ว เพราะว่านั่งรับโยมมาทั้งวัน ที่ไหนได้...หลวงปู่เปิดประตูเดินเข้ามาเฉยเลย"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 21-05-2017 เมื่อ 17:11
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 163 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
ตอบ


ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 1 คน ( เป็นสมาชิก 0 คน และ บุคคลทั่วไป 1 คน )
 
คำสั่งเพิ่มเติม

กฎการส่งข้อความ
You may not post new threads
You may not post replies
You may not post attachments
You may not edit your posts

BB code is ใช้ได้
Smilies are ใช้ได้
[IMG] code is ใช้ได้
HTML code is งดใช้

Forum Jump


เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 14:53



ค้นหาในเว็บวัดท่าขนุน

เว็บวัดท่าขนุน Powered by vBulletin
Copyright © 2000-2010 Jelsoft Enterprises Limited.
ความคิดเห็นส่วนตัวทุก ๆ ข้อความในเว็บบอร์ดนี้ สงวนสิทธิ์เฉพาะเจ้าของข้อความ ไม่อนุญาตให้คัดลอกออกไปเผยแพร่ นอกจากจะได้รับคำอนุญาตจากเจ้าของข้อความอย่างชัดเจนดีแล้ว