กระดานสนทนาวัดท่าขนุน


กลับไป   กระดานสนทนาวัดท่าขนุน > ห้องธรรมะพระอาจารย์ > พระครูวิลาศกาญจนธรรม (หลวงพ่อเล็ก สุธมฺมปญฺโญ) > เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน > เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน ปี ๒๕๖๖ > เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน เดือนสิงหาคม ๒๕๖๖

Notices

ตอบ
 
คำสั่งเพิ่มเติม
  #1  
เก่า 30-08-2023, 18:10
ตัวเล็ก's Avatar
ตัวเล็ก ตัวเล็ก is offline
กรรมการเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Mar 2009
ข้อความ: 10,541
ได้ให้อนุโมทนา: 216,771
ได้รับอนุโมทนา 744,116 ครั้ง ใน 36,263 โพสต์
ตัวเล็ก is on a distinguished road
Default เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันพุธที่ ๓๐ สิงหาคม ๒๕๖๖

เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันพุธที่ ๓๐ สิงหาคม ๒๕๖๖


__________________
มารใช้ คนทุกคน ของทุกชิ้น สัตว์ทุกตัว เป็นเครื่องมือในการขวางเรา โดยเฉพาะคนที่เรารักมากที่สุด
(-/\-) (-/\-) (-/\-)
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 31 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ ตัวเล็ก ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #2  
เก่า 31-08-2023, 00:24
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,581
ได้ให้อนุโมทนา: 151,726
ได้รับอนุโมทนา 4,411,445 ครั้ง ใน 34,171 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

วันนี้ตรงกับวันพุธที่ ๓๐ สิงหาคม พุทธศักราช ๒๕๖๖ จากที่พัก กระผม/อาตมภาพต้องวิ่งไปยังวัดมาบข่า หมู่ที่ ๕ บ้านมาบข่า ตำบลมาบข่า อำเภอนิคมพัฒนา จังหวัดระยอง ซึ่งชื่ออำเภอก็ค่อนข้างจะสับสนกับอำเภอพัฒนานิคมของจังหวัดลพบุรีอยู่บ้าง ปรากฏว่าไปถึงแล้วประทับใจมาก เพราะว่าวัดนี้มีศาลาหลังใหญ่มหึมา แค่ดูจากฝ้าซึ่งเป็นไม้ทั้งหลังแล้ว กระผม/อาตมภาพก็ยอมแพ้ ว่าไม่มีปัญญาที่จะทำอย่างนี้ได้แน่นอน

กระผม/อาตมภาพได้มีโอกาสกราบพระเดชพระคุณพระเทพสิทธิเวที, ดร. (สมอิง โชติกโร ป.ธ.๗) เจ้าอาวาสวัดเนินพระ เจ้าคณะจังหวัดระยอง ซึ่งรู้จักมักคุ้นกันดี แค่เปิดหน้าให้ดู พระเดชพระคุณท่านก็จำได้ว่าเป็นประธานองค์กรพระอุปัชฌาย์รุ่นที่ ๕๑ ในเขตปกครองคณะสงฆ์หนกลาง เนื่องเพราะว่าพระเดชพระคุณพระเทพสิทธิเวทีท่านเคยร่วมประชุมกับทางองค์กร ๒ วาระด้วยกัน

ในระหว่างที่รอคณะเดินทางมาร่วมกัน ก็ได้คุยถึงเรื่องราวต่าง ๆ ในการปกครองคณะสงฆ์ ซึ่งไม่ว่าที่ไหน ๆ ก็ตาม ถ้าหากว่ามีบรรดาบุคคลซึ่งบาลีเรียกว่า ทุมฺมงฺกุ คือพวกใจด้านหน้าด้าน ไม่สนใจว่าคณะสงฆ์จะเสียหายอย่างไร แล้วทำตามใจของตนเอง ก็อาจจะสร้างความเสียหายให้กับคณะสงฆ์เป็นอย่างมาก เรื่องเหล่านี้ต้องบอกว่า น้ำอยู่ถึงไหน ปลาก็ไปถึงนั่น แล้วบรรดาปลาเหล่านี้ ถ้าเน่าเสียตัวเดียว ก็ทำเอาปลาอื่นเหม็นไปด้วยทั้งข้อง..!

จนกระทั่งคณะเดินทางมาถึง ฉันเพลด้วยอาหารที่ทางเจ้าภาพจัดมาแต่ระดับสุดยอดทั้งนั้น โดยเฉพาะห่อหมกปิ้ง แต่ขอโทษ..ทางด้านนี้เรียก "ห่อหมกย่าง" ตามเคย ก็เป็นอันว่าทางภาคตะวันออก อะไรก็ตามที่ผ่านไฟ เขาเรียกว่า "ย่าง" ทั้งหมด ขนาดทั่วประเทศเรียกว่า "กล้วยปิ้ง" ทางด้านภาคตะวันออกนี้ยังเรียกว่า "กล้วยย่าง" แบบหน้าตาเฉย..!

เมื่อฉันเพลเสร็จเรียบร้อยแล้ว พระเดชพระคุณท่านเจ้าคุณอาจารย์พระเทพปวรเมธี, รศ., ดร. (ประสิทธิ์ พฺรหฺมรํสี, ป.ธ.๙) ประธานคณะกรรมการขับเคลื่อนโครงการสร้างความปรองดองและสมานฉันท์ด้วยหลักธรรมทางพระพุทธศาสนา (หมู่บ้านรักษาศีล ๕) หน (กลาง) ก็พาพวกเราทั้งหมดไปกราบสักการะพระประธานในโบสถ์ แล้วเดินดูนิทรรศการ ซึ่งทางด้านนี้จัดเอาไว้ให้

กระผม/อาตมภาพยังปรารภกับพระมหาประกอบ โชติปุญฺโญ ป.ธ.๗ รองเจ้าคณะจังหวัดราชบุรี เจ้าอาวาสวัดโชติทายการามว่า เห็นความอลังการของจังหวัดจันทบุรีเมื่อวานแล้ว กลายเป็นภาษิตจีนที่ว่า "ผ่านทะเลเห็นน้ำไร้ความหมาย" ซึ่งท่านอาจารย์พระมหาประกอบก็เห็นด้วยทุกประการ เพราะว่าเมื่อวานเฉพาะนิทรรศการอย่างเดียว พวกเราต้องเดินชมกันเป็นชั่วโมงแล้ว
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 31-08-2023 เมื่อ 01:41
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 32 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #3  
เก่า 31-08-2023, 00:33
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,581
ได้ให้อนุโมทนา: 151,726
ได้รับอนุโมทนา 4,411,445 ครั้ง ใน 34,171 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ครั้นได้เวลาแล้วก็เป็นพิธีเปิด กระผม/อาตมภาพรีบทำประเมินด้วยข้อมูลที่หาล่วงหน้ามาก่อน เสร็จสรรพเรียบร้อยก็ให้คู่ประเมิน คือท่านเจ้าคุณทินน์ (พระโสภณพัฒนคุณ) เจ้าอาวาสวัดพุน้อย เจ้าคณะอำเภอหนองม่วง จังหวัดลพบุรี เซ็นคู่ แล้วมอบเอกสารให้ไว้กับท่าน เมื่อถึงเวลารับการแนะนำตัวว่าเป็นคณะกรรมการตรวจประเมินเสร็จสรรพเรียบร้อย ก็ขออนุญาตออกเดินทางกลับเลย เนื่องเพราะว่าเป็นเวลาเกือบบ่าย ๓ โมงแล้ว การเดินทางจากจังหวัดระยองไปถึงทองผาภูมิ จังหวัดกาญจนบุรีนั้น จะใช้เวลาประมาณ ๗ ชั่วโมง..!

เมื่อออกมา ขึ้นรถได้ก็ต้องรีบเข้าระบบซูมมีตติ้งออนไลน์ เพื่อเข้าร่วมประชุมพระสังฆาธิการในเขตปกครองคณะสงฆ์ภาค ๑๔ ระดับเจ้าคณะจังหวัด รองระดับเจ้าคณะจังหวัด เจ้าคณะอำเภอ รองเจ้าคณะอำเภอ เจ้าคณะตำบล รองเจ้าคณะตำบล และเลขานุการทุกระดับ ประจำเดือนสิงหาคม พุทธศักราช ๒๕๖๖ ซึ่งพระเดชพระคุณพระธรรมวชิรานุวัตร, ดร. (แย้ม กิตฺตินฺธโร) เจ้าคณะภาค ๑๔ ได้ขอโทษขอโพยทุกคนว่า ไม่สามารถที่จะแจ้งการประชุมล่วงหน้าได้ เพราะว่าภารกิจของท่านมีเยอะมาก

โดยเฉพาะช่วงนี้ท่านเป็นประธานอำนวยการกลาง โครงการหมู่บ้านรักษาศีล ๕ ซึ่งต้องเดินทางไปให้กำลังใจในการตรวจประเมินทุกภาค ทุกหน ก็แปลว่า ๗๗ จังหวัดทั่วประเทศ ต้องเดินทางไปทั้งหมด จึงต้องเลือกเอาวันที่ท่านเองสะดวก ซึ่งเราทั้งหลายอาจจะไม่สะดวกก็ได้

ในช่วงท้ายของการประชุมนั้น ก็มีการปรารภถึงเรื่องการที่บุคคลที่ตั้งใจทำงาน ก็ทุ่มเทกับงานอย่างเต็มที่ แต่ก็ยังมีในสายตาของบุคคลบางประเภท ที่เห็นว่าพระสงฆ์เป็น "กาฝากสังคม" บ้านไม่ต้องเช่า ข้าวไม่ต้องซื้อ ภาษีไม่ต้องเสีย บิณฑบาตกินไปวัน ๆ โดยไม่ได้ทำประโยชน์อะไรเลย..!

เรื่องทั้งหลายเหล่านี้ เอาแค่ท่านทั้งหลายซึ่งเห็นแค่การที่กระผม/อาตมภาพทำงานก็พอแล้ว ก็จะรู้คำว่า "ไม่ได้ทำประโยชน์อะไรเลย" นั้น เป็นการกล่าวหากันชัด ๆ เพราะว่าทุกวันนี้งานที่ทำนั้น ถ้าหากว่าเป็นบริษัทห้างร้าน หรือว่าทำงานกินเงินเดือน กระผม/อาตมภาพน่าจะรวยล้นฟ้า ไม่ต่ำกว่าท่านธนินท์ เจียรวนนท์ไปแล้ว เนื่องเพราะว่าทุ่มเททำงานชนิดหัวไม่วางหางไม่เว้น..!

แต่ในเมื่อภาพพจน์ของพระภิกษุสามเณรของเรา ในสายตาชาวบ้านส่วนหนึ่ง กลายเป็นกาฝากสังคม จึงเป็นภาระหนักที่เราท่านทั้งหลาย จะต้องทำอย่างไรให้ญาติโยมทั้งหลายเห็นว่า การที่ต้องมีพระภิกษุสามเณรเอาไว้ ไม่ใช่เป็นการฝากสังคม หากแต่ว่าเป็นจิตวิญญาณของสังคม เป็นผู้นำในการที่จะพาให้ท่านทั้งหลายมีสติ รู้ว่าอะไรควรทำ อะไรไม่ควรทำ สิ่งใดที่ทำไปแล้ว เดือดร้อนทั้งตนเองและผู้อื่น ก็พึงละเว้น สิ่งใดที่ทำแล้วเป็นประโยชน์ต่อตนเองและผู้อื่น ก็ควรที่จะรีบกระทำ
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 31-08-2023 เมื่อ 01:43
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 32 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #4  
เก่า 31-08-2023, 00:35
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,581
ได้ให้อนุโมทนา: 151,726
ได้รับอนุโมทนา 4,411,445 ครั้ง ใน 34,171 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

เรื่องทั้งหลายเหล่านี้นั้น จะมีหนักขึ้นไปเรื่อย ๆ เนื่องเพราะว่าบุคคลที่สัมผัสแบบผิวเผิน ก็มักจะเข้าใจพระภิกษุสามเณรของเราไปในลักษณะนั้น โดยที่ไม่ได้คำนึงเลยว่า สิ่งที่พระภิกษุสามเณรทำอยู่อีกจำนวนหนึ่งนั้น เป็นประโยชน์ต่อสังคมและประเทศชาติขนาดไหน

ช่วงระยะเวลา ๓ วันในการประเมินที่จังหวัดตราด จังหวัดจันทบุรี และจังหวัดระยอง ถึงแม้ว่าหลายสถานที่ไม่ได้บอกว่าไปที่ไหน ก็ยังมีญาติโยมที่พยายามหาข่าว แล้วก็ไปดักทำบุญ จะเห็นได้ว่าญาติโยมทั้งหลาย ความจริงแล้วยังเป็นผู้ที่ปรารถนาในบุญในกุศลเป็นอย่างยิ่ง เพียงแต่ว่าเขาทั้งหลายเหล่านั้น ต้องการบุคคลที่ไว้วางใจได้ ว่าถึงเวลาแล้วก็นำเอาเงินทองของเขาไปก่อประโยชน์ให้เกิดแก่พระพุทธศาสนา ก่อให้เกิดประโยชน์แก่คณะสงฆ์โดยส่วนรวมอย่างแท้จริง เขาจึงได้พยายามที่จะเสาะหา แล้วก็ดิ้นรนเพื่อที่จะมาทำบุญกับกระผม/อาตมภาพให้ได้

เรื่องทั้งหลายเหล่านี้ ต้องยกให้เป็นความดีของครูบาอาจารย์ ก็คือพระเดชพระคุณหลวงพ่อฤๅษีฯ วัดท่าซุง ซึ่งอบรมพวกกระผม/อาตมภาพมาตั้งแต่ต้นว่า ให้รับเงินรับทองที่ญาติโยมผู้มีจิตศรัทธาถวาย แต่ว่าจะไม่เก็บไว้เป็นประโยชน์เฉพาะตน หากแต่ว่าให้ผลักลงในกองบุญการกุศล เพื่อเพิ่มอานิสงส์ให้แก่ผู้ถวายให้มากยิ่ง ๆ ขึ้นไป เงินของปีนี้ อย่าใช้ให้ถึงปีหน้า ถ้ามีเงินจะถึงปีหน้า ให้คิดหาโครงการที่ใหญ่กว่าเงินเอาไว้ เราจะได้ไม่คิดว่าเงินทั้งหลายที่เข้ามานั้นเป็นของเรา

เรื่องพวกนี้ กระผม/อาตมภาพนั้นทำได้ดี จนกระทั่งคณะสงฆ์แทบจะบ่นทุกครั้งเมื่อส่งบัญชีประจำปี เนื่องเพราะว่าจะมีตัวเลขติดลบระดับเป็นร้อยล้าน..! ที่คนอื่นเห็นแล้วอยากจะเป็นลมตาย แต่ว่าวัดท่าขนุนยังอยู่ได้อย่างสบาย แม้กระทั่งหลวงพ่อพระครูวรกาญจนโชติ เจ้าคณะอำเภอทองผาภูมิยังบอกว่า "มีแต่วัดท่าขนุนวัดเดียวที่ทำแบบนี้ได้ เหตุเพราะว่าท่านมีเงินส่วนตัวที่เอาลงไปโปะให้กับส่วนรวม" ดังนั้น..ท่านทั้งหลายอาจจะติดหนี้สงฆ์กัน แต่กระผม/อาตมภาพนั้น มีสงฆ์เป็นหนี้อยู่เสมอ เพราะว่าใช้จ่ายเกินไปถึงระดับนั้นแล้ว..!
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 31-08-2023 เมื่อ 01:45
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 33 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #5  
เก่า 31-08-2023, 00:39
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,581
ได้ให้อนุโมทนา: 151,726
ได้รับอนุโมทนา 4,411,445 ครั้ง ใน 34,171 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถ้าเอามาเป็นเรื่องอำนวยความสุขความสะดวกสบายส่วนตัว บุคคลที่มีเงินส่วนตัวระดับร้อยล้าน ก็น่าจะหาความสุขใส่ตัวได้ไม่ใช่น้อย แต่ครูบาอาจารย์ไม่เคยสอนเอาไว้อย่างหนึ่ง จิตสำนึกของความเป็นพระภิกษุสามเณร ซึ่งองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าจัดพวกเราเอาไว้ในระดับเดียวกับขอทานอีกประการหนึ่ง เราต้องระลึกอยู่เสมอว่าเรามีสถานภาพเป็นขอทาน ขอทานนั้นจะต้องยากจน คนถึงจะเห็นใจและให้ความช่วยเหลือ ถ้าหากว่าทำตัวร่ำรวยเกินชาวบ้านเขา แล้วใครเขาจะให้ความช่วยเหลือ..?!

ในเมื่อเป็นดังนี้ สิ่งหนึ่งประการใดที่รับมา ไม่ว่าจะเป็นเงินทอง หรือว่าข้าวของก็ตาม ทางวัดท่าขนุนจะผ่องถ่ายออกไปให้เป็นประโยชน์แก่วัดวาอารามอื่น ๆ ตลอดจนกระทั่งโรงเรียนหรือว่าญาติโยมที่ได้รับความเดือดร้อนให้เร็วที่สุด แทบจะไม่เหลืออะไรเอาไว้ให้เป็นประโยชน์ส่วนตัวเลย เนื่องเพราะว่าตัวเองนั้นก็ฉันแค่วันละ ๒ มื้อ หลังเพลไปแล้ว แม้แต่น้ำปานะก็ไม่เอา จึงไม่มีความจำเป็นอย่างไรเลยที่จะต้องไปเก็บสิ่งของเหล่านี้ไว้

เมื่อจำหน่ายจ่ายแจกออกไปแล้ว ก็ยังเป็นประโยชน์แก่ส่วนรวม บุคคลที่เดือดร้อนก็ได้อาศัยบรรเทาความเดือดร้อนของตน ตัวเราก็ได้ตัดละ ความโลภในจิตในใจของตนเองลงไป ถ้าหากว่าเรามาเน้นในเรื่องของศีลและปฏิบัติภาวนา โอกาสที่จะหลุดพ้นก็มีง่ายขึ้น เพราะว่าสิ่งที่มาถ่วงให้รุงรัง ให้รก ให้รำคาญ จนกระทั่งเดินทางสู่ทางไกลได้ยาก ก็มีน้อยกว่าคนอื่นเขา

สำหรับวันนี้คงจะต้องเดินทางกันอีกหลายชั่วโมงกว่าที่จะถึงวัดท่าขนุน จึงขอเรียนถวายพระภิกษุสามเณรของเรา และบอกกล่าวแก่ญาติโยมแต่เพียงเท่านี้

พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร.
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน
วันพุธที่ ๓๐ สิงหาคม พุทธศักราช ๒๕๖๖
(ถอดจากเสียงเป็นอักษร โดย เผือกน้อย)
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 31-08-2023 เมื่อ 01:47
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 40 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
ตอบ


ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 1 คน ( เป็นสมาชิก 0 คน และ บุคคลทั่วไป 1 คน )
 

กฎการส่งข้อความ
You may not post new threads
You may not post replies
You may not post attachments
You may not edit your posts

BB code is ใช้ได้
Smilies are ใช้ได้
[IMG] code is ใช้ได้
HTML code is งดใช้

Forum Jump


เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 02:28



ค้นหาในเว็บวัดท่าขนุน

เว็บวัดท่าขนุน Powered by vBulletin
Copyright © 2000-2010 Jelsoft Enterprises Limited.
ความคิดเห็นส่วนตัวทุก ๆ ข้อความในเว็บบอร์ดนี้ สงวนสิทธิ์เฉพาะเจ้าของข้อความ ไม่อนุญาตให้คัดลอกออกไปเผยแพร่ นอกจากจะได้รับคำอนุญาตจากเจ้าของข้อความอย่างชัดเจนดีแล้ว