กระดานสนทนาวัดท่าขนุน


กลับไป   กระดานสนทนาวัดท่าขนุน > ห้องธรรมะพระอาจารย์ > เก็บตกจากบ้านอนุสาวรีย์

Notices

เก็บตกจากบ้านอนุสาวรีย์ เก็บข้อธรรมจากบ้านอนุสาวรีย์มาฝาก สำหรับผู้ที่ไม่มีโอกาสเดินทางไป

ตอบ
 
คำสั่งเพิ่มเติม
  #21  
เก่า 06-08-2009, 11:03
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,371
ได้ให้อนุโมทนา: 150,708
ได้รับอนุโมทนา 4,397,034 ครั้ง ใน 33,960 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

หลวงพ่อบอกว่า "ถามว่าห้ามฝนได้หรือไม่....ห้ามได้ แต่ห้ามทีไรได้คืนจนเละทุกทีเลย เรื่องของธรรมชาติ ดิน น้ำ ลม ไฟ เราห้ามเขาไม่ได้เพราะว่าไปฝืนธรรมชาติ วาระเขามาถึง เขาจะต้องตก แต่ว่าขอให้เร็ว ให้ช้า ให้หลัง ให้ก่อน ให้ไปซ้าย ให้ไปขวา ขึ้นบน ลงล่าง ทำได้ง่ายกว่า เพราะว่ายังไปตามวาระของเขา ไม่ทำให้เราต้องลำบากมากนัก บางอย่างถ้าฝืนกฎแห่งกรรมมากแล้วจะโดนเอาคืน คนที่โดนเอาคืนนี่มักจะเข็ดไปเลย

หลานของพระครูปลัดปรีชาเขาจะแต่งงาน พี่สาวเขาก็มาบอกว่า "หลวงพ่อ..ช่วยห้ามฝนให้สองวัน" เฮ้ย..สองวันเลยหรือ ? "เอาแค่วันส่งตัวก็ได้" ปรากฏว่าวันส่งตัวฝนไม่ตก แต่หลังจากนั้นตอนอาตมาบิณฑบาตฝนตกเจ็ดวันรวด..! เปียกเป็นลูกหมาตกน้ำไปเลย ฉะนั้น..อย่าได้ไปทำเรื่องอย่างนี้ เพราะว่าถ้าไม่จำเป็นแล้ว มักจะพาให้ตัวเองเดือดร้อนเปล่า ๆ ถ้าจำเป็นจริง ๆ ค่อยทำให้โยมเขาหน่อย"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 20-08-2020 เมื่อ 01:41
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 179 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #22  
เก่า 06-08-2009, 11:25
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,371
ได้ให้อนุโมทนา: 150,708
ได้รับอนุโมทนา 4,397,034 ครั้ง ใน 33,960 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

เนื่องจากวันนั้นมีคนบอกบุญ เกี่ยวกับการสร้างสมเด็จองค์ปฐมทองคำ หน้าตัก ๑๐ นิ้ว หลวงพ่อท่านอ่านรายละเอียดในการสร้าง แล้วก็กล่าวว่า

"คราวนี้เขาตั้งใจสร้างสมเด็จองค์ปฐมอาตมาก็โมทนาด้วย แต่เขารู้หรือเปล่าว่าต้องใช้ทองคำเท่าไหร่ ? เขาประกาศชัด ๆ เลย ทองคำแท้ หน้าตัก ๑๐ นิ้ว หล่อเต็ม แล้วทองคำ ๔๐ กิโลกรัม ลองคูณดูสิว่าปัจจุบันราคาเท่าไหร่ ? ถ้ามีไม่ถึง ๑๕ ล้านบาท ซื้อไม่ได้หรอก

มีหลายท่านที่ทำงานโดยไม่รู้ว่างบประมาณเท่าไหร่ เห็นคนอื่นทำก็อยากจะทำบ้าง แล้วเป็นเหตุให้หลายต่อหลายวัดที่งานค้างคาอยู่ เป็นสิบ ๆ ปีก็ไปไม่ถึงไหน ทองคำกิโลกรัมหนึ่งประมาณ ๖๐ บาทกว่า ๆ แล้วถ้า ๔๐ กิโลกรัมเป็นกี่บาท ลองคูณกับ ๑๕,๐๐๐ บาทดู

เมื่อคำนวณดูแล้วผลปรากฏว่าได้คำตอบเป็นสามสิบเก้าล้านบาทกว่า ๆ

หลวงพ่อก็บอกว่า "เพราะฉะนั้น..การที่เขาจะทำ เราก็โมทนาในกำลังใจของเขา แต่เขาไม่ได้ดูตัวเอง คิดอยู่อย่างเดียวว่าลูกศิษย์หลวงพ่อทำอะไรง่ายมาก พอทำเองแล้วจะรู้ว่าไม่ได้ง่ายเลย"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 20-08-2020 เมื่อ 01:37
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 187 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #23  
เก่า 06-08-2009, 11:31
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,371
ได้ให้อนุโมทนา: 150,708
ได้รับอนุโมทนา 4,397,034 ครั้ง ใน 33,960 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

หลวงพ่อกล่าวว่า "พระพุทธเจ้าบอกว่า ละธรรม ๑๐ อย่างไม่ได้ ไม่ควรเป็นพระอรหันต์

ดูกรภิกษุทั้งหลาย บุคคลยังละธรรม ๑๐ อย่างเหล่านี้ไม่ได้ ก็ไม่ควรทำให้แจ้งซึ่งอรหัตผล

ธรรม ๑๐ อย่างคือ
๑) ราคะ ความกำหนัดยินดี
๒) โทสะ ความคิดประทุษร้าย
๓) โมหะ ความหลง
๔) โกรธะ ความโกรธ
๕) อุปนาหะ ความผูกโกรธ
๖) มักขะ ความลบหลู่บุญคุณท่าน
๗) ปลาสะ ความตีเสมอ
๘) อิสสา ความริษยา
๙) มัจฉริยะ ความตระหนี่
๑๐) มานะ ความถือตัว

ตรงนี้มาจากอังคุตตรนิกาย ทสกนิบาต พระไตรปิฎกฉบับที่ ๒๔ เพราะฉะนั้นเราก็มาดูตัวของเราเองว่ายังมีหรือไม่ ถ้ามีอย่างใดอย่างหนึ่งแสดงว่าไม่ใช่อย่างแน่นอน"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 20-08-2020 เมื่อ 01:35
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 172 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #24  
เก่า 06-08-2009, 11:37
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,371
ได้ให้อนุโมทนา: 150,708
ได้รับอนุโมทนา 4,397,034 ครั้ง ใน 33,960 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

หลวงพ่อเล่าเรื่องเกาะพระฤๅษีให้ฟังว่า

"สมัยที่ออกจากวัดท่าซุงใหม่ ๆ เคยชวนหลวงพี่วิรัช ที่ออกมาแล้วไปอยู่ด้วยกัน ท่านบอกว่าไม่เอา ผมกลัวมาลาเรีย ท่านเห็นอาตมาเป็นมาลาเรีย ...(หัวเราะ)...

สมัยก่อนที่เกาะมีหลายท่านไปดู เพื่อว่าจะไปอยู่ด้วย แต่ท้ายสุดก็ตัดสินใจไม่อยู่ ก็มีหลวงพี่อาจินต์ หลวงพี่สามารถ (สึกไปแล้ว) แล้วก็หลวงพี่สมปอง อาจจะเป็นเพราะว่าตอนนั้นไม่มีอะไรจริง ๆ แล้วอาตมาก็เริ่มทำจากตั้งแต่พื้นดินเปล่า ๆ บอกพี่ท่านที่เคยไป ให้ไปดูใหม่ว่าน้องเขาทำอะไรบ้าง เพราะว่าท่านไม่ได้ไปนานแล้ว มั่นใจได้เลยว่าจำทางไม่ได้ เพราะว่าท่านไปกันครั้งเดียว

หลวงตาวัชรชัยไปครั้งสุดท้ายเมื่อปี ๒๕๓๘ ไปถึงก็ เฮ้ย...ข้านึกว่าเอ็งอยู่ในป่า จะมีกุฏิมุงหญ้า มุงแฝก ที่ไหนได้สวยกว่าวัดกูอีก..!

ตรงจุดนี้ทำให้เราเห็นว่า ในเรื่องของคุณพระพุทธเจ้า คุณของพระรัตนตรัย คุณของครูบาอาจารย์ ถ้าหากว่าเราเคารพ เชื่อมั่น และปฏิบัติตาม เรื่องทั้งหลายเหล่านี้เป็นแค่เรื่องทางโลกทั้งนั้น ไม่มีอะไรยากเลย เพราะว่าเรื่องที่ยากจริง ๆ เป็นเรื่องทางธรรม ในเมื่อเรื่องทางธรรมยากกว่า เรื่องทางโลกที่ง่าย ก็ไม่มีอะไรหรอกที่จะทำไม่ได้ แต่ก็เป็นที่น่าหวั่นเกรงว่า ถึงเวลาที่ ลาภ ยศ สุข สรรเสริญ เข้ามาแล้วเราจะลืมตัว

บรรดาพระพี่พระน้องที่สึกหาลาเพศไป เป็นเรื่องที่น่าเสียดาย ต้องบอกว่าแพ้ใจตัวเอง แต่ดีตรงที่ว่า ท่านรู้ว่าพออยู่ต่อแล้วจะเสีย ท่านก็สึก ถ้าขืนอยู่ต่อแล้วอาจจะทำให้พระพุทธศาสนาเสียได้ ก็สึกดีกว่า"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 20-08-2020 เมื่อ 01:34
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 182 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #25  
เก่า 06-08-2009, 11:43
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,371
ได้ให้อนุโมทนา: 150,708
ได้รับอนุโมทนา 4,397,034 ครั้ง ใน 33,960 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : ฟังมาว่าจิตเป็นของเรา ได้ยินมาว่าจิตเป็นอนัตตาด้วย จริง ๆ แล้วเป็นอย่างไรครับ ?
ตอบ : ต้องดูว่าคุณทำได้แค่ไหน ถ้าระดับปุถุชนทั่วไป ก็ยังเป็นของเรา แต่ถ้าเป็นอริยเจ้าก็ค่อย ๆ ลดละไปเรื่อย ๆ จนท้ายสุดก็ไม่มีอะไรเป็นของเรา

ถาม : ก็คือไม่มีอะไรเป็นของเรา ?
ตอบ : ขึ้นอยู่กับเรา ว่าเราทำได้แค่ไหน ถ้าฝีมือห่วยแตกก็ยังยึดว่าเป็นของเรา ถ้าดีขึ้นมาหน่อยก็ลดละไปตามลำดับ

ถาม : แสดงว่าหลวงพ่อบอกว่าจิตของปุถุชนเป็นอัตตา ?
ตอบ : ไม่ได้บอก แต่คุณไปยึดของคุณเอง

ถาม : ยึดของเราเอง แสดงว่าจริง ๆ แล้วเป็นอนัตตา ?
ตอบ : จิตมันก็คือจิต เป็นตัวรู้เฉย ๆ ส่วนจะยึดหรือไม่ยึด อยู่ที่กำลังใจของคุณที่ทำได้

ถาม : แล้วที่เขาบอกว่า...(ได้ยินไม่ชัด)
ตอบ : นั่นเป็นแค่อาการทำงานของจิต

ถาม : แสดงว่าจิตไม่ใช่จิตตัวนี้แค่ตัวเดียว แต่เปลี่ยนไปเรื่อยในแต่ละวัน ?
ตอบ : ขณะที่เสวยอารมณ์ก็เปลี่ยนลักษณะไปเรื่อย

ถาม : ดูเวทนาเปลี่ยนไป จิตก็เปลี่ยนไป ?
ตอบ : บางปัญหาคุณถามไป ก็ไม่เจ็บไม่คันอะไร

ถาม : สำคัญตรงที่สักกายทิฏฐิ ถ้าเรายึดว่าจิตเป็นอัตตา ก็จะกลายเป็นว่าเราจะวิปัสสนาไม่ได้ ?
ตอบ : คุณจะยึดว่าเป็นอัตตาหรืออนัตตาก็เป็นการยึดทั้งคู่ ท้ายสุดกระทั่งอนัตตามก็ต้องปล่อย เพราะฉะนั้น..เสียเวลาที่จะมาพูด เพราะว่าคุณยังทำไม่ถึง..!
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 20-08-2020 เมื่อ 01:31
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 165 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #26  
เก่า 08-08-2009, 13:54
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,371
ได้ให้อนุโมทนา: 150,708
ได้รับอนุโมทนา 4,397,034 ครั้ง ใน 33,960 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

หลวงพ่อกล่าวว่า "เรื่องของเจ้าที่ พระเดชพระคุณหลวงพ่อท่านสอนว่า เวลาไปไหนให้ความสำคัญกับเจ้าที่ด้วย มีอะไรให้นึกถึงเจ้าที่ท่านก่อน

ประสบการณ์ที่เจอมาก็คือ เขตใครเขตมัน พอพ้นเขตแล้วให้ท่านอื่นมารับช่วงต่อ ทั้ง ๆ ที่จะข้ามเขตเมื่อไหร่ก็ได้ แต่โดยมารยาทแล้วท่านให้เกียรติเจ้าของที่ ใหญ่แค่ไหนก็ตาม ท่านจะไม่ข้ามเขต แบบเดียวกับภาษิตจีนที่ว่า มังกรแม้ดุร้ายก็ไม่รังแกงูเจ้าถิ่น"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 169 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #27  
เก่า 08-08-2009, 14:46
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,371
ได้ให้อนุโมทนา: 150,708
ได้รับอนุโมทนา 4,397,034 ครั้ง ใน 33,960 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

หลวงพ่อกล่าวว่า "เรื่องของส่วนดี เกิดขึ้นด้วยส่วนกรรมดีที่เราทำไว้ เรื่องของส่วนไม่ดี มันก็อาศัยจังหวะของอกุศลกรรมเข้ามาสนอง"

แล้วท่านก็เล่าให้ฟังว่า "ระยะครึ่งเดือนช่วงที่ผ่านมาแทบจะไม่ได้นอนเต็มตาสักวัน ขนาดปิดโทรศัพท์หมด ยังมีคนมาทุบประตู ทุบตอนไหนก็ไม่ทุบ มาทุบตอนที่เราเพิ่งหลับวูบไป แล้วนิสัยเราก็คือตื่นแล้วตื่นเลย จะไม่หลับอีก แล้วมันมาทุบเพื่ออะไรรู้ไหม มาทุบขอเขากระทิงคืน เรื่องโคตรจะสำคัญเลย"

พี่ทิดตู่ถามว่า "เนื่องด้วยกรรมอะไรครับ"
หลวงพ่อบอกว่า "ในอดีตเนื่องด้วยกรรมที่เป็นกองหลอน รู้จักกองหลอนของลาวไหม พวกที่คอยไปก่อกวนฝ่ายตรงข้าม ไม่ให้เขานอน เป็นการตัดกำลังไปในตัว ถึงเวลาจะได้เข้าตีได้ง่าย มันมาสนองชาตินี้ โดนทุกรูปแบบ ยอมรับจริง ๆ ว่ากฎของกรรมมันไม่เว้นให้ใครเลย

บางวันเหนื่อยจะขาดใจ เพิ่งจะนอนลงไป เสียงก็ตะโกนแล้ว ตั้งแต่ฉันเพลเสร็จ นั่งทำงานจนบ่ายสองโมงมันไม่เรียกหรอก พอเราไม่ไหวเอนลงไปนอน ก็ตะโกนแล้ว บางทีกำลังเคลิ้ม ๆ จะหลับ ก็มีเสียง ผ่าง ! สะดุ้งขึ้น ไก่มันไม่มีอะไรจะทำ มันเห็นเงาตัวเองในแท็งก์สแตนเลส ก็เลยกระโดดตีตัวมันเอง แล้วหันมาทางกุฏิเราพอดี มันจะหาจังหวะเล่นเราทุกที

แบบเดียวกับโทรศัพท์ เปิดไว้เถอะ เช้าถึงบ่ายไม่มีใครโทร พอเราเริ่มนอนมันก็จะมีเสียง ๔-๕ สายติด ๆ กัน ดังกริ๊ง ๆ จนต้องตื่น

เรื่องของบุญก็ส่วนบุญ ถึงเวลาวาระก็สนองให้ งานทุกอย่างสะดวกมีความคล่องตัวทำอะไรก็ได้อย่างใจ แต่ขณะเดียวกันเรื่องของกรรมก็สนองตามแบบของมัน เผลอเมื่อไหร่ก็โดนเมื่อนั้น "
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย เถรี : 08-08-2009 เมื่อ 15:42
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 168 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #28  
เก่า 08-08-2009, 14:48
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,371
ได้ให้อนุโมทนา: 150,708
ได้รับอนุโมทนา 4,397,034 ครั้ง ใน 33,960 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

หลวงพ่อบอกว่า "ถ้ารู้จักพิจารณาว่ากรรมเป็นของน่ากลัว สนองทุกเวลาที่เขามีโอกาส ฉะนั้นการกระทำของเรามันไม่ได้สูญหายไปไหน จะดีหรือว่าชั่วก็ตาม มันจะรอวาระของมันอยู่ ถึงเวลาก็ให้ผลตามวาระนั้น ยถากัมมุตาญาณมีความดีหลายอย่าง ทำให้เห็นความน่ากลัวของกรรม ขณะเดียวกันก็รู้ว่าทำอะไรจะเกิดผลอะไร เมื่อเห็นอย่างนั้นจะได้รู้ว่า เราควรจะเลือกทำในส่วนที่ดีหรือชั่ว ซึ่งถ้าคนดี ๆ มีสติสัมปชัญญะทั่วไป ก็คงไม่มีใครหรอกที่เห็นกรรมมันสนองต่อหน้าต่อตาแล้วจะไปทำความชั่ว"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย เถรี : 09-08-2009 เมื่อ 02:53
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 166 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #29  
เก่า 08-08-2009, 15:42
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,371
ได้ให้อนุโมทนา: 150,708
ได้รับอนุโมทนา 4,397,034 ครั้ง ใน 33,960 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

หลวงพ่อเล่าให้ฟังว่า สมัยก่อนตอนอยู่บ้านสายลม มีโยมผู้ชายอยู่คนหนึ่ง ตั้งแต่จุดตรงขายสังฆทานถึงจุดที่หลวงพ่อท่านนั่ง เขาพนมมือกล่าวเสียงลั่นมาแต่ไกลเลย
"หลวงพ่อครับ ผมพยายามทำความดี สร้างศาลามากี่หลัง สร้างโบสถ์มากี่หลัง ถวายระฆังมากี่ลูก ทำไมจนป่านนี้ผมยังไม่ได้เป็นพระอรหันต์ละครับ"

หลวงพ่อก็หัวเราะ "โยมรู้จักอารมณ์พระโสดาบันไหม"
"ไม่รู้จักครับ"
"เออ..ซื้อหนังสือตรงข้าง ๆ นั่นนะ ถามเขาว่ามีเล่มไหนมีอารมณ์พระโสดาบัน กลับไปอ่านตรงจุดนั้นแล้วก็ทำเสียมันจะได้เป็น สิ่งที่โยมทำมันเป็นบุญ กำลังบุญมีส่วนเสริมในความดีเท่านั้น แต่ไม่ได้ทำอะไรให้เราเป็นอย่างที่ต้องการได้หมด โดยเฉพาะความเป็นพระอริยเจ้าต้องทำด้วยตัวเองทั้งนั้น"

แกก็ดีนะ ได้ยินคำแนะนำ ก็หันไปซื้อหนังสือเลย ได้หนังสือก็กราบลาหลวงพ่อไปเลย

เดือนหน้ามาอีก"หลวงพ่อครับ ผมรู้จักอารมณ์พระโสดาบันแล้วครับ" รายงานตั้งแต่ประตูเหมือนเดิม
หลวงพ่อก็ถาม "แล้วเป็นอย่างไร ทำได้หรือเปล่า"
"ไม่ยากครับ ไม่ยาก"
"เออ พยายามทำเอาไว้"

"แต่ผมอ่านไปตรงที่ว่า ถ้าใครสามารถกล่าวถึงอะไรได้แสดงว่าคนนั้นต้องได้ด้วยใช่หรือไม่ครับหลวงพ่อ"
"อย่าเลี้ยวมาทางนี้สิวะ"
"ผมมั่นใจว่าหลวงพ่อต้องเป็นอรหันต์ปฏิสัมภิทาญาณ"
"พอ ๆ ไม่ใช่หน้าที่ของโยมจะพยากรณ์"

คนฟังที่บ้านอนุสาวรีย์ฮากันมากมาย แล้วหลวงพ่อเล็กก็บอกว่า "เขาเป็นคนมีปัญญามากนะ แค่แนะนำนิดเดียวก็เข้าทาง"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 178 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #30  
เก่า 08-08-2009, 16:06
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,371
ได้ให้อนุโมทนา: 150,708
ได้รับอนุโมทนา 4,397,034 ครั้ง ใน 33,960 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : หลวงพี่คะ มีปัญหาเลยต้องมาสอบถาม ก็คือแฟน หัวหน้าเขาจะหาเรื่องไล่ออก ?

ตอบ : ก็ไปเสียเลย


ถาม : เย้ย ! มีวิธีแก้ไหมคะหลวงพี่ ขอความเมตตาค่ะหลวงพี่ ?

ตอบ : ใช้คาถาหลวงพ่อแช่มวัดฉลอง พระอะระหัง สุคะโตภะคะวา นะเมตตาจิต เวลาท่องก็นึกถึงหน้าหัวหน้า ให้แฟนเขาท่องนะไม่ใช่ให้เราท่อง สักครึ่งชั่วโมง ให้กำลังใจทรงตัวแล้วค่อยไป ทำอย่างนั้นทุกวัน นึกถึงหน้าเขาแล้วท่องคาถานี้
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 25-08-2020 เมื่อ 04:27
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 163 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #31  
เก่า 08-08-2009, 16:08
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,371
ได้ให้อนุโมทนา: 150,708
ได้รับอนุโมทนา 4,397,034 ครั้ง ใน 33,960 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถามเรื่องจิตเป็นอัตตา (คนเดิมกลับมาถามอีกครั้ง)
หลวงพ่อบอกว่า " จะไปเถียงกับมันทำซากอะไร มันขึ้นอยู่กับว่าเราทำได้แค่ไหน ถ้าทำได้น้อยก็จะเห็นว่าเป็นอัตตามันยึดไม่ปล่อย แต่ถ้าทำได้มาก มันก้าวข้ามอัตตาไปแล้ว ก็จะเห็นว่า อ๋อ...ที่แท้มันเป็นอนัตตา เสียเวลาไปเถียงมัน เหมือนกับเด็กคนหนึ่งจบป. ๔ คนหนึ่งจบป. ๖ อีกคนหนึ่งจบปริญญา มุมมองมันเปลี่ยน"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย เด็กท้ายแถว : 09-08-2009 เมื่อ 09:07
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 153 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #32  
เก่า 08-08-2009, 16:14
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,371
ได้ให้อนุโมทนา: 150,708
ได้รับอนุโมทนา 4,397,034 ครั้ง ใน 33,960 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

หลวงพ่อบอกว่า "เคยมีเด็กเขามาให้ตั้งชื่อ เกิดวันอาทิตย์เป็นผู้หญิง เขียนไปว่า "อนรรฆนง" (อ่านว่า อะ-นัก-นง แปลว่า หญิงผู้ประมาณค่าไม่ได้) เจ้าพนักงานเขาไม่ให้ใช้ชื่อนี้ บอกว่าใช้ไม่ได้ เขาบอกว่าเปิดพจนานุกรมแล้วหาไม่เจอ เปิดผิดเล่มนะสิ ถ้าเขาเปิดพจนานุกรมไทยบาลีสันสกฤตก็จะเจอ

จำไว้ว่าคำไหนที่เป็น ร หัน , พ.พาน , ษ.ฤๅษี มักจะเป็นสันสกฤต
ถ้าบาลีมักจะใช้ ว.แหวน , ส.เสือ
ถ้าใครมีลูกสาวเกิดวันอาทิตย์เอาชื่อนี้ไปให้เขาเลยนะ อนุญาต ดูสิว่าจะเจอเจ้าพนักงานใจกว้างไหม"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย เถรี : 08-08-2009 เมื่อ 19:15
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 158 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #33  
เก่า 09-08-2009, 02:38
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,371
ได้ให้อนุโมทนา: 150,708
ได้รับอนุโมทนา 4,397,034 ครั้ง ใน 33,960 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : มีอยู่ครั้งหนึ่งหนูทุกข์มาก ๆ เลย จนถึงจุดหนึ่งโดยไม่ได้ภาวนา ไม่ได้พิจารณา แต่อยู่ดี ๆ แค่ชั่วลัดนิ้วมือเดียว ก็รู้สึกว่าหายไปค่ะ หายไปแล้วหนูก็ตกใจก็เลยไปดึงอารมณ์กลับมาใหม่ แล้วก็ไม่มา ทีนี้ไม่มาอีกเลย เหมือนไม่เคยเกิดขึ้นเลย เกิดอะไรขึ้นกับหนูหรือคะ ?

ตอบ : ต้องดูว่ากำลังใจของเราตอนนั้นทำอย่างไร ถึงก้าวข้ามไปได้ ส่วนใหญ่แล้วสิ่งที่เราทำบางทีเราไม่ได้นึกถึง กลายเป็นความบังเอิญที่โบราณเรียกว่า ขี้ตรงร่อง ไม่ได้เจตนา แต่บังเอิญพอดี เราต้องนึกย้อนหลังไปว่าตอนนั้นเราคิดอย่างไร ทำอย่างไร หรือไม่คิดเลย สำคัญตรงที่ไม่คิดเลย ทำได้ไหม ? เพราะว่าทุกวันนี้ส่วนใหญ่ทนทุกข์อยู่เพราะไปคิด

ตัวคิดนั่นก็คือจิตที่ปรุงแต่งเพิ่มขึ้นมา พอปรุงแต่งเพิ่มขึ้นมา ก็จะเป็น รัก โลภ โกรธ หลง สร้างทุกข์ให้กับเรานั่นเอง แต่ถ้าหากว่าเราหยุดคิดได้ พวกนี้ก็ไม่สามารถงอกงามต่อได้ ก็จะหยุดไปตามสภาพเอง เราถึงรู้สึกว่า อ้าว..อยู่ ๆ หล่นหายไปไหน ฉะนั้น..เรามองย้อนกลับไป ตอนช่วงนั้นคิดอย่างไรทำอย่างไร แล้วลองทำ หรือถ้าหากว่ามองย้อนกลับไปแล้วรู้ว่าเราทุกข์เพราะอะไรก็ลองทำไปอย่างนั้น คิดไปอย่างนั้นอีก
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 26-08-2020 เมื่อ 02:36
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 153 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #34  
เก่า 09-08-2009, 02:42
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,371
ได้ให้อนุโมทนา: 150,708
ได้รับอนุโมทนา 4,397,034 ครั้ง ใน 33,960 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : หนูพยายามลองหัดเดินจงกรมดูค่ะ ก็พยายามให้ลมหายใจกับก้าวมันสอดคล้องกัน ถ้าทำได้ก็จับก้าวก็ได้จับลมก็ได้ใช่หรือไม่คะ
ตอบ : มันจะเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน สติจะรู้รอบทุกอิริยาบถ ร่างกายจะมีส่วนไหนที่เคลื่อนไหวบ้าง มันจะรู้หมด แต่ว่ากว่าจะละเอียดถึงขนาดนั้นต้องใช้ความพยายาม

ถาม : ค่ะ เพราะหนูเดินจนเจ็บเข่า ไม่เห็นจิตมันจะรวมเลย
ตอบ : เวลาเราทำ บางทีเราอาจจะไปกังวลต้องการผล ต้องตัดกำลังใจว่า ณ ที่ทำ ผลจะเกิดหรือไม่เกิด ไม่อย่างนั้นก็เจ็บเข่าต่อไป เพราะใจที่ไปกังวลกับผลของมันมันไปทำกำลังใจให้ฟุ้งซ่าน ไม่รวมตัว

ถาม : ค่ะ มันฟุ้งซ่าน หนูก็เลยเปลี่ยนไปเป็นพิจารณาด้วยค่ะ ปรากฏว่ามันก็ดูเข้าท่าดีเหมือนกันค่ะ
ตอบ : อันไหนที่ทำแล้วได้ดีก็ทำไป

ถาม : แล้วพิจารณาไปเรื่อย ๆ มันจะเป็นฌานตัดกิเลสได้ไหมคะ เพราะว่าไม่ได้เริ่มจากสมาธิก่อนน่ะค่ะ
ตอบ : การพิจารณาไปเรื่อย ๆ สมาธิมันจะค่อย ๆ ทรงตัวกลายเป็นฌาน
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย เถรี : 09-08-2009 เมื่อ 02:54
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 152 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #35  
เก่า 09-08-2009, 02:44
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,371
ได้ให้อนุโมทนา: 150,708
ได้รับอนุโมทนา 4,397,034 ครั้ง ใน 33,960 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม: หนูชอบพิจารณาไตรลักษณ์ค่ะ ถ้าพิจารณาไปเรื่อย ๆ จนถึงที่สุดแต่ว่าไม่ตบท้ายว่าต้องไปพระนิพพาน จะไปพระนิพพานได้ไหมคะ
ตอบ : ถ้าหากว่ามันปล่อยวางจริง ๆ ต่อให้ไม่คิดไปนิพพาน มันก็ไปเอง

ถาม : ไปเองหรือคะ
ตอบ : ไปเอง แต่เพื่อความปลอดภัย เกาะท้ายไว้นิดหนึ่ง เพราะว่าท้ายสุดที่เราเกาะก็ต้องวาง ถ้าไม่วางไปไม่ได้หรอก มันเกาะเสาอยู่มันจะไปได้ไหม
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย เถรี : 09-08-2009 เมื่อ 02:55
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 150 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #36  
เก่า 09-08-2009, 02:45
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,371
ได้ให้อนุโมทนา: 150,708
ได้รับอนุโมทนา 4,397,034 ครั้ง ใน 33,960 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : วัตถุมงคลถ้าเอามาห้อยคอ กับพกติดกระเป๋าแล้วติดตัวตลอดเวลา.....
ตอบ : อาราธนาแล้วผลเหมือนกัน เพียงแต่ว่าให้อยู่ใกล้เราไว้ ไม่ใช่ทิ้งไว้ที่บ้านแล้วตัวไปทำงานไกลเป็น ๕๐๐ กิโลเมตร
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 159 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #37  
เก่า 09-08-2009, 02:46
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,371
ได้ให้อนุโมทนา: 150,708
ได้รับอนุโมทนา 4,397,034 ครั้ง ใน 33,960 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : แล้วหนูจะนิมนต์วัตถุมงคลไว้หน้ารถ สามีเขาบอกว่าเอาพระไปตากแดดไม่ดี สามีหนูคิดมากไปหรือหนูคิดน้อยไปคะ

ตอบ : สองคนต้องรวมกัน นิมนต์เอามาไว้ที่ (ใต้) หลังคารถ จะได้ไม่ตากแดด หาองค์ไหนไปแปะหลังคาไว้หน่อย
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 31-01-2019 เมื่อ 20:02
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 155 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #38  
เก่า 09-08-2009, 11:25
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,371
ได้ให้อนุโมทนา: 150,708
ได้รับอนุโมทนา 4,397,034 ครั้ง ใน 33,960 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ในขณะที่โยมกำลังนั่งกอดอกเพราะความหนาวของแอร์ที่บ้านอนุสาวรีย์ หลวงพ่อก็บอกให้คนปิดแอร์ข้างหนึ่ง "ปิดแอร์เสียหน่อย มีคนหนาวมาก"

แล้วท่านก็บอกว่า "ความจริงจะแนะนำให้ทำไม่รู้ไม่ชี้ แต่มันยาก" หลังจากนั้นท่านก็เล่าเรื่องสมัยที่อยู่กับพี่ทิดตู่ให้ฟัง ว่าท่านขึ้นไปตัดกิ่งต้นประดู่เลือด ซึ่งมีความคันมาก แล้วท่านทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้อย่างไร

ท้ายสุดท่านบอกว่า "การที่จิตมันห่วงร่างกายมาก ถึงเวลาเกิดอะไรขึ้นมันก็จะไปเกาะไปยึดไปใส่ใจ มันก็เลยทำให้ปลดออกจากมันยาก ตรงที่ทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้ ไม่สนใจมัน ถ้าหากว่าทำได้ ถึงเวลาแค่คิดต่อไม่นานมันจะปลดจากร่างกายได้ง่าย"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย วสันต์วิษุวัต : 19-09-2015 เมื่อ 10:01
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 148 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #39  
เก่า 09-08-2009, 12:30
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,371
ได้ให้อนุโมทนา: 150,708
ได้รับอนุโมทนา 4,397,034 ครั้ง ใน 33,960 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

หลวงพ่อเล่าว่า "มีญาติโยมจากอู่ล่อง ซึ่งส่วนใหญ่แล้วก็จะเป็นไทยโบราณที่มาจากฝั่งพม่า เขามานิมนต์ให้ไปช่วยสร้างโบสถ์ ไม่ได้รับนิมนต์เขาหรอกนะ

ก็นั่งคุยกัน เอาน้ำมาเลี้ยงกัน ปรากฏว่าคุณตาแก่ ๆ ท่านหนึ่ง ดื่มน้ำจนเหลือค่อนแก้ว แกก็สาดน้ำออกไปทางประตูกระจก เห็นกระจกมันใส ๆ ก็เลยสาดไป น้ำก็กระจายเต็มห้องเรา เพราะความเคยชินจากบ้านตัวเองที่มักสาดน้ำออกนอกชาน

เรื่องของความเคยชินบางทีมันใช้ไม่ได้ในบางสถานที่ ถ้าขาดสติระมัดระวัง มันอาจจะเกิดความเสียหายขึ้นได้"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย เด็กท้ายแถว : 09-08-2009 เมื่อ 18:50
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 148 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #40  
เก่า 09-08-2009, 13:02
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,371
ได้ให้อนุโมทนา: 150,708
ได้รับอนุโมทนา 4,397,034 ครั้ง ใน 33,960 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

หลวงพ่อบอกว่า "งานวันที่ ๑๒ มีวัตถุมงคลแจก ถ้าเวียนหลายรอบอาจจะหมด เพราะมีแค่สองพันชิ้น เป็นเหรียญทำน้ำมนต์หลวงพ่อวัดสระเกศ อาตมาไม่ได้ทำนะ แต่อันนี้ของท่าน ในเมื่อรับมาสองพันก็จะแจกวันนั้นให้หมด ถ้าไม่หมดก็จะใส่ตู้ขายให้แพง ๆ ใครคิดว่าค่าน้ำมันไม่แพงก็รีบไปรับซะ"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย เถรี : 09-08-2009 เมื่อ 13:24
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 158 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
ตอบ


ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 1 คน ( เป็นสมาชิก 0 คน และ บุคคลทั่วไป 1 คน )
 
คำสั่งเพิ่มเติม

กฎการส่งข้อความ
You may not post new threads
You may not post replies
You may not post attachments
You may not edit your posts

BB code is ใช้ได้
Smilies are ใช้ได้
[IMG] code is ใช้ได้
HTML code is งดใช้

Forum Jump


เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 03:56



ค้นหาในเว็บวัดท่าขนุน

เว็บวัดท่าขนุน Powered by vBulletin
Copyright © 2000-2010 Jelsoft Enterprises Limited.
ความคิดเห็นส่วนตัวทุก ๆ ข้อความในเว็บบอร์ดนี้ สงวนสิทธิ์เฉพาะเจ้าของข้อความ ไม่อนุญาตให้คัดลอกออกไปเผยแพร่ นอกจากจะได้รับคำอนุญาตจากเจ้าของข้อความอย่างชัดเจนดีแล้ว