กระดานสนทนาวัดท่าขนุน


กลับไป   กระดานสนทนาวัดท่าขนุน > ห้องธรรมะพระอาจารย์ > เก็บตกจากบ้านวิริยบารมี

Notices

เก็บตกจากบ้านวิริยบารมี เก็บข้อธรรมจากบ้านวิริยบารมีมาฝาก สำหรับผู้ที่ไม่มีโอกาสเดินทางไป

ตอบ
 
คำสั่งเพิ่มเติม
  #81  
เก่า 23-10-2013, 15:11
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,456
ได้ให้อนุโมทนา: 151,087
ได้รับอนุโมทนา 4,400,116 ครั้ง ใน 34,045 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

พระอาจารย์กล่าวว่า "เดี๋ยวนี้ที่วัดมีพระเยอะ ๆ ก็ไม่ค่อยจะดีหรอก เมื่อวานพระวัดท่าขนุนบิณฑบาต วัดอื่นเหี่ยวไปเลย เขาจัดบิณฑบาตถวายสมเด็จพระสังฆราช วัดนั้น ๗ รูป วัดนี้ ๑๐ รูป วัดท่าขนุนไป ๔๐ รูป เดินผ่านไปทีหนึ่งก็ราบเป็นพายุกวาด คนตามหลังจะไปเหลืออะไร

เทศบาลตำบลทองผาภูมิเขาจัดงาน นิมนต์พระ ๑๐๙ รูปเพื่อใส่บาตรถวายกุศลพระสังฆราช อาตมาให้ไป ๔๐ รูป เขาก็ถามทำไมพระอาจารย์ไม่ให้หมดวัด ? ให้หมดได้ที่ไหน ต้องเหลือไว้เฝ้าวัดบ้าง ขืนไปบิณฑบาตหน้าเทศบาล ไม่มีเหลือเฝ้าวัด เดี๋ยวขโมยก็ขนของหมดวัดหรอก ที่โยมถวายค่าอาหารพระมา ไม่ต้องห่วง..ได้ใช้แน่ เพราะพระมีเยอะ

งานใส่บาตรถวายสมเด็จพระสังฆราชที่เทศบาลทองผาภูมิจัด ต้องบอกว่าจัดผิดที่ ก็คือเขาไปจัดที่หน้าที่ทำการเทศบาลซึ่งระยะทางไกล อยู่หน้าวัดทองผาภูมิโน่น พวกในตลาดเขาก็ไม่เดินไปใส่บาตร ถ้าเป็นอาตมา จะจัดกลางตลาดเลย ไม่มีใครเขาว่าหรอกเรื่องรถติด เพราะว่าบิณฑบาตประมาณครึ่งชั่วโมงเท่านั้น แล้วคนเขาแห่กันมาใส่เยอะดีด้วย ไปจัดอยู่ในช่วงที่เขากำลังเปิดร้าน ๗ โมงครึ่ง คนจะห่วงร้าน ถ้าเดินไปไกลใครจะดูแล

ตอนขากลับ ท่านอาจารย์เตชะติดแหง็กอยู่ในตลาดนั่นแหละ ญาติโยมเขาแย่งกันใส่บาตร อาตมาต้องไปนั่งแจกพวกซีดีของที่ระลึก ๑๐๐ ปี กว่าจะตามเขามาตั้งนานเนกาเล ปรากฏว่าเขาก็ยังติดอยู่ในตลาด ไปไหนไม่ได้ คนไปรอใส่ในตลาดกันหมด"


ถาม : (ไม่ได้ยิน)
ตอบ : ออกไปเมื่อไรจะเข้ากับที่พระพุทธเจ้าท่านตรัสไว้ ว่าเหมือนมหาโจรรวมพวกตั้งร้อยตั้งพันเข้าไปปล้นในคามนิคม ชาวบ้านเขาเดือดร้อนกันหมด สมัยก่อนพระครูธรรมธรวันชัยชอบทำอย่างนั้น ไปธุดงค์ทีหนึ่ง ๓๐๐ รูป ตั้ง ๓๐๐ รูปจะเอาความสงบที่ไหนมา

หลวงพ่อวัดท่าซุงบอกธุดงค์ชั้น ๑ ไปรูปเดียว ธุดงค์ชั้น ๒ ไป ๒ รูป ธุดงค์ชั้น ๓ ไป ๓ รูป เกินนั้นก็ไปคุยกัน ไม่ได้ปฏิบัติหรอก แล้วเขาไปกัน ๓๐๐ รูป เกือบพาอาตมาหลงทางแล้ว ทางป่าที่ผ่าน อยู่ ๆ ราบเป็นหน้ากลองอย่างกับรถวิ่งผ่าน แล้วซอยเล็ก ๆ ทางผ่านในป่าที่อาตมาเคยเดิน เขาย่ำราบหายไปไหนหมดก็ไม่รู้ ทำเอาอาตมาหลงทาง เพราะไม่ได้ไปทางเดียวกับเขา ทางที่อาตมาจะไปถูกเขาย่ำหายไปด้วย หาทางเดิมไม่เจอเลย มาตอนหลังเขาแต่งตัวเป็นนายทหารยศพันเอกแล้วไปเที่ยวคาเฟ่ โดนเขาจับได้ นั่นแหละฝีมือพ่อคุณนั่นแหละ
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย ป้านุช : 23-10-2013 เมื่อ 21:07
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 212 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #82  
เก่า 24-10-2013, 05:44
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,456
ได้ให้อนุโมทนา: 151,087
ได้รับอนุโมทนา 4,400,116 ครั้ง ใน 34,045 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : เจ้ากรรมนายเวรเขาตามทวงอยู่
ตอบ : ตามสิทธิ์ของเขา เขาจะเอาอย่างไรเราก็ต้องยอมเขา คราวนี้เขาเห็นว่าตรงนี้เหมาะ เขาก็เอาเลย ทำเขาเอาไว้ก็ยอมเขาเถอะ แก้ไขอะไรไม่ได้หรอก นอกจากยอมรับอย่างเดียว

ถาม : แปลว่าเราต้องทำบุญอุทิศให้บ่อย ๆ ใช่ไหมคะ ?
ตอบ : ควรที่จะทำแล้วก็ให้ไปเรื่อย ๆ เพราะจริง ๆ แล้วท่านทั้งหลายเหล่านี้ต่อให้โกรธแค้นอย่างไร ท้ายสุดก็ใจอ่อน สู้ความดีไม่ได้หรอก ตื๊อให้ไปเรื่อย ๆ ที่บอกไม่ยอมอโหสิเดี๋ยวก็ใจอ่อน อาตมาไม่ให้ทวงหรอก ไล่แจกเลย อย่างพวกเราให้เขาทวงก็ตาย ติดหนี้ไว้เยอะเหลือเกิน เพราะฉะนั้น..ผ่อนไปเรื่อย ๆ ดีกว่า มีโอกาสเอาไปก่อนเลย ประเภทไม่มีมาก เอาไป ๒๐ บาทก็ยังดี

อาตมาปล่อยปลาปล่อยวัวติดต่อกันมา ๒๕ - ๒๖ ปี กว่าเขาจะยอมคลายออกให้ ไม่อย่างนั้นนี่ปางตายอยู่ทุกวัน แล้วไม่ได้ปล่อยที ๑ - ๒ ตัว เหมาทีหนึ่งเป็นตลาด ปล่อยทุกเดือน ๆ ๒๔ - ๒๕ ปี คืนชีวิตเขาไปนับไม่ถ้วนเลย กว่าเขาจะยอม

ส่วนใหญ่เวลาไปซื้อสัตว์ที่จะปล่อย พวกแม่ค้าจะถามว่ามาอีกเมื่อไร จ้างก็ไม่บอก ถ้าบอกเขาจะเตรียมไว้ให้ ถ้าเตรียมไว้ให้นี่เราจะไม่ได้อานิสงส์ตรงช่วยชีวิตแล้ว เพราะเขาตั้งใจให้เราซื้อ กลายเป็นว่าเราได้แค่ตัวเมตตาอย่างเดียว อานิสงส์คืนชีวิตเราจะไม่ได้ เพราะฉะนั้น..ไม่บอกเขาหรอก เดินดุ่ย ๆ เข้าไปเลย

ถาม : ปล่อยปลาเป็นสังฆทานหรือเปล่าคะ ?
ตอบ : คนละเรื่องกัน เรื่องของอานิสงส์สังฆทานนี้ต้องบอกว่า ถ้าเกิดชาติไหนเมื่อไรก็จนไม่เป็น แต่เรื่องปล่อยปลานี่เป็นเรื่องของความสะดวก ความปลอดภัย ท้ายสุดก็คือสะเดาะเคราะห์ ต่อชะตา เพราะว่าเราคืนชีวิตให้เขา ถ้ารบทุกปีฆ่าทุกชาติอย่างอาตมาต้องคืนเขาเยอะ ๆ ปล่อยไปจนนับชีวิตไม่ถ้วนแล้ว ปล่อยหอยทีหนึ่ง ๒๐ กว่ากิโลกรัม ใครจะไปนับไหวว่ากี่ตัว

ถาม : ไม่ทราบว่าถ้าเราปล่อยสัตว์ให้คนอื่นจะได้ไหมคะ ?
ตอบ : ถ้าปล่อยให้คนอื่นต้องให้เขาโมทนา หรือไม่ก็ให้เขาฝากเงินเราไป รู้ ๆ อยู่แล้วว่าเราจะไปปล่อยเขาก็ได้บุญแน่
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 24-10-2013 เมื่อ 08:59
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 215 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #83  
เก่า 24-10-2013, 06:14
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,456
ได้ให้อนุโมทนา: 151,087
ได้รับอนุโมทนา 4,400,116 ครั้ง ใน 34,045 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

พระอาจารย์เล่าว่า "วันก่อนทางธนาคารกรุงไทยสาขาทองผาภูมิ เขาเปลี่ยนผู้จัดการใหม่ เจ้าหน้าที่เขาก็พามารู้จัก เขามาแล้วก็บ่นใหญ่เลย “หนูตรวจสอบบัญชีแล้ว เดือนก่อนหลวงพ่อเบิกไป ๕ ล้านบาทหรือคะ ?” “ใช่..รุ่งขึ้นจ่ายไป ๗ ล้านกว่าบาท..!” เล่นเอาผู้จัดการใหม่นั่งเอ๋อไปเลย

อยู่ ๆ รายจ่ายที่ไม่ควรจะจ่ายก็โผล่มา อย่างสายไฟใต้ดินสั่งไป ๒ ปีแล้ว อยู่ ๆ เขาบอกให้โอนเงินเลย จะส่งแล้ว ต้องจ่ายไปอีก ๑.๗ ล้านบาทอย่างนี้ อยู่ ๆ รายจ่ายเพิ่มมากะทันหัน เบิกมา ๕ ล้านบาท จ่ายไป ๗ ล้านกว่าบาท นั่งหัวเราะตัวเอง เออ...ทำได้เหมือนกัน

เดี๋ยวก่อสร้างเสร็จจะขายนั่งร้านถอนทุนคืน ทำนั่งร้านหมดไปเกือบ ๓ ล้านบาท เขาคำนวณมาให้ว่าค่าเช่านั่งร้าน ถ้าเราใช้งานตั้งแต่แรกจนจบงาน ชุดละ ๓ บาทต่อวัน จะตกประมาณ ๓ ล้านบาท ก็มาคำนวณว่าถ้า ๓ ล้าน ซื้อเหล็กมาทำเอง รวมค่าแรงช่างแล้วประกอบเอง ของยังเป็นของเราอยู่ ถ้าเราเช่าเสร็จแล้วต้องคืนเขาหมด ท้ายสุดก็เลยสั่งเหล็กมาทำเอง ถ้าวัดไหนก่อสร้างมาเลย จะขายให้"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 24-10-2013 เมื่อ 09:01
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 212 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #84  
เก่า 24-10-2013, 06:26
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,456
ได้ให้อนุโมทนา: 151,087
ได้รับอนุโมทนา 4,400,116 ครั้ง ใน 34,045 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

พระอาจารย์กล่าวว่า "ประคำที่เอาไปนับเมื่อตอนสวดคาถาเงินล้านถวายสมเด็จพระสังฆราช เพิ่งมารู้ทีหลังว่าทำไมคุ้นขนาดนั้น เพราะเป็นประคำที่อาตมาสั่งทำแล้วเอาไปถวายหลวงพ่ออุตตมะ ไม่รู้คุณเฟิร์สเข้านอกออกใน รับใช้หลวงพ่ออุตตมะเอาท่าไหน ก็เลยชำระหนี้สงฆ์มา ท้ายสุดก็เลยกลายเป็นเอามาถวายคืน อาตมาเองก็เลยเอาไปประมูลต่อ

ตอนนั้นที่สั่งทำนี่ถือว่าถูกนะ เพราะว่านิลขนาด ๑๖ มิลลิเมตร เม็ดหนึ่งเขาคิดแค่ ๙๐ บาท ทำจากร้านอนันตพลพลอยกาญจน์ เดี๋ยวนี้นิลใหญ่ ๆ หายาก ส่วนใหญ่เม็ดเล็ก ถ้ามีรอยร้าวก็ใช้ไม่ได้ มีรอยร้าวต้องทำใหม่ เพราะนิลค่อนข้างจะเนื้อเปราะ กระทบหนัก ๆ ก็ร้าวแล้ว

พวกนิลคิดกันในราคาที่เขาเจียระไนทำเป็นวัตถุออกมาแล้วนี่ เมื่อ ๕ - ๖ ปีก่อน มาตรฐานกะรัตละ ๕ บาท ถ้าสมมติเราถามว่านิลชิ้นนี้กี่กะรัต ถ้าเขาบอก ๑๐๐ กะรัต ราคามาตรฐานก็คือ ๕๐๐ บาท กะรัตละ ๕ บาท ตอนนี้ไม่รู้ขึ้นไปเท่าไร แต่ว่าตอนนั้นที่สั่งนั่นก็คือเม็ดละ ๙๐ บาท เส้นนั้นก็ตกหมื่นกว่าบาท เดี๋ยวนี้ไม่รู้หาได้หรือเปล่าราคานี้"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 24-10-2013 เมื่อ 09:10
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 212 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #85  
เก่า 24-10-2013, 08:27
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,456
ได้ให้อนุโมทนา: 151,087
ได้รับอนุโมทนา 4,400,116 ครั้ง ใน 34,045 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : หนูมีความคิดจะทำตะกรุดให้พ่อแม่เขียนให้ เป็นแผ่นทองคำ ให้เขาเขียนคำอวยพร แล้วหนูพกติดตัวไว้ ?
ตอบ : ก็เอาสิ..พรจากพ่อแม่ย่อมประเสริฐที่สุด

ถาม : แล้วหนูมีเกศาหลวงพ่อฤๅษี ถ้าบรรจุไปด้วยจะสมควรหรือไม่ ?
ตอบ : ก็ได้อยู่นะ แต่ว่าต้องหาที่บรรจุให้ดี ๆ เพราะว่าไม่อย่างนั้นร่วงหล่นไปน่าเสียดาย ถึงเวลาก็อุดหัวอุดท้ายให้ดี

ถาม : หนูมีความกังวลว่าไปเอาพรของพ่อแม่ตัวเองมา จะมีผลอะไรหรือไม่คะ ?
ตอบ : ก็ต้องมีผลดี..เพราะเป็นของพ่อแม่ให้

ถาม : จะมีผลกับอายุท่านหรือไม่ ?
ตอบ : เรื่องของอายุขัยขึ้นอยู่กับกรรมเก่าที่ทำไว้ ต่อให้ไม่อวยพรให้เรา หมดอายุขัยท่านก็ไปได้
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 24-10-2013 เมื่อ 09:11
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 209 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #86  
เก่า 24-10-2013, 08:35
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,456
ได้ให้อนุโมทนา: 151,087
ได้รับอนุโมทนา 4,400,116 ครั้ง ใน 34,045 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : อย่างเราเจอปัญหา แล้วใจจะจำ เหมือนกับเราผูกใจเจ็บ ?
ตอบ : ไม่ใช่ผูกใจเจ็บ ลักษณะนั้นเขาเรียกว่าเข็ด ขอให้ความรู้สึกของเราที่มีต่อการเกิด มีต่อร่างกาย มีต่อโลกนี้ให้เข็ดแบบนั้น พลิกกำลังใจนิดเดียวจะเป็นทางธรรมเลย ว่าฉันเข็ดกับแกแล้ว ฉันจะจำไว้เลย ฉันจะไม่เกิดอีก

ถาม : กลัวว่าจะมาเจออีก
ตอบ : ก็นั่นแหละ เพราะเกิดมาก็เจออย่างนี้ เพราะฉะนั้น..พลิกมุมนิดเดียวจะเข้าทางธรรมเลย ถ้าพลิกมุมไม่ได้จะกลายเป็นโกรธแค้น อาฆาต พยาบาท สร้างทุกข์สร้างโทษให้กับตัวเองด้วย
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 24-10-2013 เมื่อ 09:12
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 203 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #87  
เก่า 24-10-2013, 10:04
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,456
ได้ให้อนุโมทนา: 151,087
ได้รับอนุโมทนา 4,400,116 ครั้ง ใน 34,045 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

พระอาจารย์กล่าวว่า "เห็นกระยาสารทเพิ่งนึกขึ้นมาได้ว่าเมื่อวานเป็นวันสารทไทย ปัจจุบันไม่ว่าจะตรุษสารทหรือใบไม้ใบหญ้า ออกนอกฤดูกาลจนกระทั่งคนเขาเลิกจำแล้วว่าวันจริง ๆ เป็นวันไหน วันก่อนฉันลำไยไป กลิ่นโปแตสเซียมฟอสเฟตแรงมากเลย บอกกับพระท่านว่าลำไยปลอม เพราะว่าเขาเร่งโปรแตสเซียมฟอสเฟตให้ออกนอกฤดูกาล ต้นไม้ที่โดนเร่งให้ออกลูกนอกฤดู จะงันไปหลายปีกว่าจะฟื้นตัว สวนไหนที่จะทำลักษณะนั้น อย่างน้อยต้องมีที่สัก ๖๐ ไร่ ทำปีละ ๑๐ ไร่วนเวียนกันไป จะได้มีเวลา ๕ ปีที่จะฟื้นกลับคืนมา พอโดนเร่งมาก ๆ เข้าต้นไม้ก็เลยสับสนกับชีวิต

สมัยก่อนถึงฤดูกาลจึงจะมีกิน สมัยนี้มีทั้งปี แต่รสชาติไม่ได้เหมือนเดิม เรื่องของกระยาสารทก็เหมือนกัน ตรุษก็จะมีกะลาแมกับข้าวเหนียวแดง สารทจะมีกระยาสารท แต่เดี๋ยวนี้เขาทำขายทั้งปีทั้งชาติ ตรุษสิ้นเดือน ๔ สงกรานต์กลางเดือน ๕ แล้วก็สารทสิ้นเดือน ๑๐ พวกเราส่วนใหญ่ไม่จำกันแล้ว

ไปนึกถึงตอนเด็ก ๆ พอเดือน ๑๒ หมาติดสัด ไล่กัดกันลั่น ก็จะรู้ว่าถึงเวลาของเขา พอมาระยะหลังไม่เป็นเวล่ำเวลากันแล้ว กลายเป็นว่านอกจากดินฟ้าอากาศวิปริตกันแล้ว ต้นไม้กับสัตว์ก็วิปริตไปหมด ปีนี้ต้นไม้ที่วัดท่าขนุนผลัดใบ ๔ ครั้งแล้ว ปกติผลัดใบปีละครั้ง พวกต้นโพธิ์ต้นไทรออกลูกปีละครั้ง แต่ปีนี้ต้นโพธิ์ออกลูก ๓ ครั้ง ใบไม้ผลัดใบ ๔ ครั้งแล้ว เพราะว่าที่นั่นพอฝนหยุดอากาศจะเย็นมาก คล้าย ๆ ฤดูหนาวเลย เช้า ๆ อยู่ระหว่าง ๒๑ - ๒๒ องศาเซลเซียส ต้นไม้ก็คิดว่าถึงฤดูหนาวแล้วก็ผลัดใบ เพิ่งทิ้งใบได้วัน ๒ วัน ฝนตกอีกแล้ว ก็แตกใบใหม่

ตกลงต้นไม้ก็สับสนกับอากาศเหมือนกัน ต้นชัยพฤกษ์ที่ลานธรรม ออกดอกได้ไม่เต็มที่ฝนก็ลง พอได้แดดร้อนออกดอก ฝนลงก็แตกใบเขียว ๆ แทน ตกลงว่าตั้งแต่ปลูกมาจนถึงป่านนี้ ได้เห็นดอกอยู่ ๒ ครั้ง คือพอร้อนแล้งเขาก็ออกดอก แต่ออกได้ไม่กี่วัน พอฝนตกเขาเลยต้องทิ้งดอกแตกใบใหม่

ธรรมชาติวิปริตไปหมด คนเราต้องรักษากำลังใจให้มั่นคง ทิ้งสมาธิภาวนาไม่ได้ ถ้าทิ้งตัวสมาธิภาวนา เรื่องของดินฟ้าอากาศก็มีผลกระทบเหมือนกัน ก็จะทำให้คนเราใจร้อนใจเร็ว โกรธง่าย แปรปรวนง่าย แล้วก็อย่าไปโทษดินฟ้าอากาศทั้งหมดนะ เป็นที่ตัวเรา ไม่ใช่ว่าวันนี้ไปอาละวาดจนเต็มที่ แล้วก็ไปโทษว่าวันนี้ดินฟ้าอากาศไม่ปกติ ที่ไม่ปกตินั่นเราเองต่างหาก..!"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย เถรี : 24-10-2013 เมื่อ 14:34
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 201 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #88  
เก่า 24-10-2013, 12:25
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,456
ได้ให้อนุโมทนา: 151,087
ได้รับอนุโมทนา 4,400,116 ครั้ง ใน 34,045 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : บางคนบอกว่าการทำสังฆทานเพื่ออุทิศให้แก่คนที่เสียชีวิตแล้ว เป็นเพราะว่าเขาไปเป็นเปรต เขาพูดอย่างนี้จริงไหมคะ ?
ตอบ : ใครก็ตามถ้าสามารถโมทนาบุญได้ มีส่วนได้รับเหมือนกันจ้ะ พวกเปรตจะรับยากด้วยซ้ำไป เพราะเปรตมี ๑๐ กว่าจำพวก ต้องเป็นจำพวกที่บาปเหลือน้อยแล้วถึงโมทนาได้ เรียกว่า ปรทัตตูปชีวีเปรตอย่างเดียว ถ้าว่าตามบาลีแล้ว คำว่าเปตะ แปลว่าผู้ที่ละโลกไปแล้ว ก็คือที่คนตายไปแล้ว

แต่คนตายไม่ได้เป็นเปรตอย่างเดียว ลงนรกก็มี เป็นเปรตก็มี เป็นอสุรกายก็มี เป็นสัตว์เดรัจฉานก็มี เป็นคนก็มี เป็นเทวดา นางฟ้า พรหมก็มี จนกระทั่งหลุดพ้นไปพระนิพพานก็มี ฉะนั้น..เราทำบุญอุทิศไป ถ้าเขาไม่ได้อยู่ที่เขตที่ลำบากมาก มีสิทธิ์โมทนาได้ก็ได้บุญนั้นไป ไม่ใช่เฉพาะเปรตอย่างเดียว
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 24-10-2013 เมื่อ 13:29
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 198 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #89  
เก่า 24-10-2013, 13:48
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,456
ได้ให้อนุโมทนา: 151,087
ได้รับอนุโมทนา 4,400,116 ครั้ง ใน 34,045 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

พระอาจารย์เล่าว่า "สมัยก่อนนั่งอยู่ข้างหลวงพ่อวัดท่าซุงเช้ายันค่ำ ไม่เคยอาศัยเครื่องดื่มกระตุ้นเลย จะมีพวกพี่ ๆ เขาเป็นห่วงเหมือนกัน เอากาแฟมา เอาอะไรมา ก็ไม่ได้ใส่ใจ เพราะว่ายังพอสู้ไหว แล้วอาศัยความเคยชินที่ว่าไม่เคยใช้สารกระตุ้น บางคนเขามีกระทิงแดง สมัยนั้นมีกระทิงแดงยี่ห้อเดียว ยี่ห้ออื่นไม่มี ของอาตมาตัวเปล่าลุยข้ามวันข้ามคืน ถึงเวลาเช้าวันอังคารเดินทางกลับ หลับคอพับบนรถเมล์ก็มี

สมัยอยู่ที่วัดท่าซุงก็ต้องเตรียมงานก่อนด้วย ข้ามวันข้ามคืนเหมือนกัน บรรดาพี่ ๆ น้อง ๆ ก็มีกาแฟ มีกระทิงแดง บางคนก็กระทิงผสมกาแฟ ผสมกันมั่วไปหมด เลิกงานก็หมดสภาพกันเกลี้ยง ของอาตมาเลิกงานนอนคืนหนึ่ง รุ่งเช้าก็ลุกขึ้นบิณฑบาตได้ ท่านอื่นลุกไม่ขึ้น เพราะไปกระตุ้นพลังงานสำรองออกมาหมด พักแล้วไม่ฟื้น ของอาตมาแค่ใช้งานเต็มที่เท่านั้น หมดงานแล้วได้พักก็ยังฟื้นได้

หลวงพ่อเองท่านก็ใช้ เพราะว่าสังขาร
ท่านไม่ไหว คนมาเยอะขนาดนั้น คุยกับเขาทั้งวัน แจกของแจกข้าว โยกซ้ายโยกขวาไปเรื่อย จนปี ๒๖ อาตมาก็ยึดอำนาจ บอกว่า "หลวงพ่อครับ เดี๋ยวผมแจกวัตถุมงคลเองครับ ปล่อยให้หลวงพ่อโยกอย่างนี้ทั้งวันไม่ไหวหรอกครับ" ใหม่ ๆ ก็มีหลาย ๆ คนไม่ยอมรับ ต้องรับจากมือของหลวงพ่อให้ได้ จนกระทั่งหลวงพ่อหัวเราะบอกว่า "เฮ้ย..เขาตั้งกติกาไว้แล้วก็ต้องทำตามเขา"

ยังโชคดีที่ความตรงไปตรงมาของอาตมาเป็นที่เลื่องลือ คนก็เลยด่าไม่ถนัด เพราะรู้ว่าทำเพื่อหลวงพ่อจริง ๆ อย่างงานวันเกิดที่บ้านสายลมเดือนตุลาคม คนประดังเข้ามาเป็นพันเป็นหมื่นแล้วมีเวลานิดเดียว เลยบอกว่าให้เข้าได้ทีละไม่เกิน ๑๐ คน และอยู่ได้ไม่เกินชุดละ ๒ นาที คุณต้องถวายสังฆทานให้ทัน แล้วก็จะมีคนนั้นก็คุณหญิง คนนี้ก็คุณนาย คนโน้นก็นายพัน คนนี้ก็นายพล จะขอเข้าก่อน อาตมาขวางประตูอยู่ จะมีเสวีกับเจ้าพัชน้องสาวอีก ๒ คน มาช่วยยืนกั้นประตูไว้

ลูกศิษย์เก่าแก่ตั้งแต่ยุคไหนสมัยไหน ขุดขึ้นมาขู่ทั้งนั้น อาตมาต้องบอกว่า "ขอโทษครับ..วันนี้ผมจำใครไม่ได้" บางทีก็ไม่ไหว ต้องชี้ให้เขาดู "เห็นคุณป้าแก่ ๆ ที่ยืนข้างประตูนั่นไหมครับ ? " "เห็น" "นั่นแหละครับ คุณแม่ผมเองยังไม่ได้เข้าเลย" เขาเลิกคบอาตมาไปเลย ขนาดแม่ตัวเองยังไม่ให้เข้า แล้วใครจะไปได้เข้า

หลวงพ่อท่านชอบคนตรงไปตรงมา ทุกคนราคาเดียวกัน ไปกันตามลำดับ เข้าได้ทีหนึ่ง ๘ คน ๑๐ คน ๒ นาทีต้องออก แล้วไล่ออกประตูหลังด้วยนะ ไม่ใช่ย้อนออกมาทางเดิม

ท้ายสุดพอไปบวชเข้า ยังได้ไม่ถึงปี หลวงพ่อท่านก็เรียกให้ไปเฝ้าหน้าห้อง แล้วคำสั่งท่านก็คือ "ถ้าไม่ใช่คนที่ข้าเรียก ไม่ต้องให้ใครเข้ามา.." ต้องบอกว่าคนที่แหกคอกมากที่สุดคือป้าน้อย ป้าน้อยนี่ไม่มีใครกล้ากั้นแกได้ ยกเว้นอาตมา เพราะว่าชื่อเลื่องลือมาตั้งแต่เป็นฆราวาสแล้ว ป้าเลยไม่กล้าฝืน"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 24-10-2013 เมื่อ 16:29
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 207 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #90  
เก่า 24-10-2013, 19:18
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,456
ได้ให้อนุโมทนา: 151,087
ได้รับอนุโมทนา 4,400,116 ครั้ง ใน 34,045 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : (ไม่ได้ยิน)
ตอบ : ต้องถามว่าท่านมาเพื่ออะไร แล้วทำตามที่ท่านต้องการก็จบแล้ว เพราะฉะนั้น..ไปคุยกันเองก็ได้จ้ะ ไม่ต้องเสียเวลาคนอื่นไปคุยหรอก ถึงเวลาก็ถามท่านตรง ๆ มาด้วยธุระอะไร ต้องการอะไร แล้วทำตามที่ท่านว่า

ถ้าฤๅษีมาแสดงว่าหลงยุค บรรดาร่างทรงต่าง ๆ ที่มา ส่วนใหญ่แล้วอยากจะมาสร้างบารมี ถ้ารอเกิดก็ช้า จึงอาศัยคนที่มีกรรมเก่าเนื่องกันมา อาศัยผ่านร่างเขา อาตมาเองเคยต่อรองให้หลายคน ว่าถ้าจะใช้ร่างเขาจริง ๆ อันดับแรกต้องอย่าให้เขาเดือดร้อนด้วยเศรษฐกิจส่วนตัว คืออย่างน้อยต้องให้เขามีความคล่องตัวด้านการเงิน ไม่เดือดร้อนเรื่องการครองชีพ จะได้มาทำหน้าที่ให้เขาได้

ข้อที่สอง ถ้าใช้งานผ่านร่างมา อย่าให้เขาแสดงอาการวิปริต ผิดประหลาดจนเขาต้องอับอายต่อคนอื่น ให้เป็นปกติ ๆ นั่นแหละ แต่ทำงานได้ ข้อที่สาม สิ่งใดก็ตามที่รับปากช่วยเหลือคน สิ่งนั้นต้องมีผล ไม่อย่างนั้นก็เสียชื่อเราไปด้วย ส่วนใหญ่พอต่อรองแล้วก็ยอมรับด้วยกันทั้งนั้น ถ้าทำตามนี้ก็ตกลงว่าจะรับ จัดขันธ์ครูมา ถ้าไม่ทำตามข้อตกลงนี้ก็ไม่รับ โดยเฉพาะข้อตกลงที่ชัดที่สุดคือ ต้องให้รวยก่อน
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 24-10-2013 เมื่อ 20:09
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 196 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #91  
เก่า 24-10-2013, 19:27
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,456
ได้ให้อนุโมทนา: 151,087
ได้รับอนุโมทนา 4,400,116 ครั้ง ใน 34,045 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : อย่างฤๅษีเกศแก้ว มีคนสงสัยมากว่าทำไมพระกราบได้ ?
ตอบ : ต้องบอกว่ามารดลใจ ฤๅษีเกศแก้วท่านเป็นฤๅษีถือศีล ๘ สร้างบารมีเพื่อพระโพธิญาณ คราวนี้การที่พระไปกราบเท่ากับเกิดโทษแก่ท่าน กลายเป็นการปรามาสพระรัตนตรัย โอกาสที่จะพลาดลงอบายภูมิมีสูง กลายเป็นว่าการสร้างบารมีก็จะช้าไป

ส่วนบรรดาพระทั้งหลายก็ไม่เข้าใจในสถานภาพของตัวเอง ว่าศีล ๒๒๗ สูงกว่าศีล ๘ เท่าไร พอไปกราบกลายเป็นว่าตัวเองก็หลุดจากพระรัตนตรัย เพราะไปกราบผู้อื่นที่ไม่ใช่พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ เป็นที่พึ่ง สรุปคือเรื่องของมารกินเราทั้งขึ้นทั้งล่อง ไม่ต้องห่วง


ถาม : เป็นไปได้ไหมครับว่าฤๅษีเกศแก้วเข้าสู่ความเป็นพระอนาคามี ?
ตอบ : จะเป็นอย่างไรก็ตาม ศีลเขาแค่นั้น ในสภาพของการเป็นฆราวาสไม่สามารถที่จะรับไหว้จากพระได้ ต่อให้เป็นพระอริยเจ้าก็เถอะ

ถาม : ผมคิดว่าท่านเป็นพระอนาคามี พระก็เลยไปกราบท่าน ?
ตอบ : ไม่ใช่..พระเลื่อมใสในอิทธิปาฏิหาริย์ของท่าน ก็เลยไปกราบโดยลืมสถานภาพของตนเอง จึงเกิดโทษทั้งสองฝ่าย

ถาม : เป็นอย่างไรครับ ที่กราบอย่างอื่นเป็นที่พึ่งยิ่งกว่าพระรัตนตรัย ?
ตอบ : เขาเรียกว่าอัญญเดียรถีย์ คือผู้ที่ถือผู้อื่นเป็นศาสดา ไม่ได้ถือพระรัตนตรัย โทษหนักมาก บาลีว่ากึ่ง ๆ อนันตริยกรรมเลย

ถาม : ท่านไม่ได้เป็นเดียรถีย์ใช่ไหมครับ ?
ตอบ : จริง ๆ แล้วท่านเข้าใจผิด ถ้ามีคนไปชี้แจงให้ท่านเข้าใจถูกก็ดี แต่อยู่ ๆ จะให้ถือไมค์ไปพูดก็เหมือนไปหักหน้าเขา ก็ไม่ใช่เรื่องที่เราควรจะทำ
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 24-10-2013 เมื่อ 20:10
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 196 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #92  
เก่า 24-10-2013, 19:38
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,456
ได้ให้อนุโมทนา: 151,087
ได้รับอนุโมทนา 4,400,116 ครั้ง ใน 34,045 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ในลักษณะของอัญญสัตถุเทส ถือผู้อื่นเป็นศาสดา เท่ากับปิดมรรคผลเลย เพราะขาดความเคารพในพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ อย่างแท้จริง บางคนอาจจะคิดว่าคับแคบเกินไปหรือเปล่า ทำไมจะไปถือศาสดาอื่นไม่ได้ แต่ถ้าเราดูในเรื่องของมรรคผลจริง ๆ แล้ว เบื้องต้นต้องมีความศรัทธาอย่างแน่นแฟ้น และต้องเป็นการศรัทธาถูกที่ถูกทางด้วย ในเมื่อเป็นอย่างนั้น พวกเราเองมีความศรัทธาไม่แน่นแฟ้นพอ ก็เลยไปให้ความเคารพผู้อื่นที่ไม่ใช่พระรัตนตรัย เรื่องของเรื่องก็คือว่าเข้าไม่ถึงมรรคผล

บางทีเจอกันในงาน ก็จับมือท่านเดินคุยไปเรื่อย คนอื่นอาจจะสงสัยว่าอาตมาทำไมไม่แสดงความเคารพฤๅษีเลย แต่ปู่ฤๅษีท่านเข้าใจ

ขนาดอยู่ในช่วงสร้างบุญสร้างบารมี มารเขายังขวางสุดชีวิตเลย เพราะว่าถ้าสำเร็จไปนี่แปลว่าเอาคนไปพระนิพพานนับไม่ถ้วน
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 24-10-2013 เมื่อ 20:12
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 190 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #93  
เก่า 25-10-2013, 05:25
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,456
ได้ให้อนุโมทนา: 151,087
ได้รับอนุโมทนา 4,400,116 ครั้ง ใน 34,045 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : มารที่เป็นคู่ปรับของเรามีอยู่ท่านเดียว หรือว่ามากกว่านั้น
ตอบ : นับไม่ถ้วน โดยเฉพาะมารเสนา ทหารของมาร เสนาของมาร คือคนทุกคน สัตว์ทุกตัว ของทุกชิ้นรอบข้างของเรา มารเขาใช้เป็นเครื่องมือในการขวางเราได้ทั้งหมด เหลือเชื่อว่าเขาทำได้ขนาดนั้น เดินไปเจอถังน้ำอยู่ใบหนึ่ง เตะโครมเข้าให้ "ใครวางเกะกะวะ ? ไม่รู้จักเก็บจักเก็บงำ.." โทสะกินเพราะของชิ้นเดียว

มีนกอยู่หนึ่งตัว กวนอาตมาอยู่ทุกวัน เวลาขึ้นไปจะนอนพัก ก็จะบินมาตะกายหน้าต่างให้ตื่นทุกที จะตะกายเข้ามาในห้องให้ได้ นกอะไรก็ไม่รู้


ถาม : นกเขาจะเกิดเป็นกรรมไหมครับ ?
ตอบ : เขาโดนดลใจให้ทำอย่างนั้น เจตนาไม่มี ในเมื่อเจตนาไม่มี ก็เป็นกตัตตากรรม คือกรรมที่ทำโดยไม่เจตนา เป็นกรรมที่เบาที่สุด กรรมอื่นส่งผลโดยไม่มีอะไรเหลือแล้ว กรรมนี้จึงจะตามมา

ถาม : นกที่อยู่ตามวัด ถ่ายลงมาที่วิหาร ?
ตอบ : เขาเองด้วยความที่อยู่ในภูมิของสัตว์เดรัจฉาน ความมืดบอดของจิตมีมาก ไม่รู้ว่าสิ่งที่เขาทำเป็นโทษ ตรงจุดนี้แหละที่ทำให้โทษเขามีน้อย แบบเดียวกับคนฆ่าพ่อฆ่าแม่โดนอนันตริยกรรม แต่ถ้าสัตว์อย่างเช่นเสือ กัดพ่อแม่ตาย ไม่โดนอนันตริยกรรม เพราะอยู่คนละภูมิกัน ภูมิของเขาอยู่ในภูมิที่ต่ำกว่า ฉะนั้น..การตั้งราคาหรือตั้งโทษเลยเบากว่า

ถาม : เรากลัวว่ามารจะมาขวางเรา หรือเล่นงานเราหนัก หลายคนบอกว่าตอนนี้ยังไม่ลาพุทธภูมิ แต่พอไปตอนปลายใกล้จะหมดวาระต้องตัดสินใจลา แบบนี้จะหลอกมารได้ไหมครับ ?
ตอบ : อันนี้หลอกตัวเอง ไม่ใช่หลอกมาร..!

ถาม : จริง ๆ เขารู้ใช่ไหมครับ ?
ตอบ : ไม่มีทางที่จะหลอกได้ เขาหลอกให้เราคิดอย่างนั้นด้วยซ้ำไป
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 25-10-2013 เมื่อ 08:28
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 185 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #94  
เก่า 25-10-2013, 05:26
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,456
ได้ให้อนุโมทนา: 151,087
ได้รับอนุโมทนา 4,400,116 ครั้ง ใน 34,045 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : คนที่รู้ว่าทำแล้วเป็นกรรม กับคนที่ไม่รู้ว่าทำแล้วจะเป็นกรรม อย่างไหนโทษจะหนักกว่า ?
ตอบ : ในสิ่งที่ทำโดยพื้นฐานแล้วเกิดโทษเท่ากัน แต่ว่าคนที่รู้แล้วขืนทำ จะเพิ่มโทษตรงจุดนี้ คือรู้ทั้งรู้ว่าเป็นสิ่งที่ผิดแล้วตั้งใจทำ ต้องใช้กำลังใจที่สูงกว่า ในเมื่อต้องใช้กำลังใจที่สูงกว่า โทษก็เลยมากกว่า เหมือนกับว่าเราขับรถไปชนคนตายโดยประมาท ก็เท่ากับว่าขับรถโดยประมาททำให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย ส่วนอีกคนตั้งใจพุ่งไปชนเลย ถ้าเรามั่นใจว่ามีเจตนาอย่างนั้นแน่ ๆ โทษหนักกว่าแน่นอน เพราะเท่ากับว่าเราฆ่าโดยเจตนา
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 25-10-2013 เมื่อ 08:29
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 177 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #95  
เก่า 25-10-2013, 05:32
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,456
ได้ให้อนุโมทนา: 151,087
ได้รับอนุโมทนา 4,400,116 ครั้ง ใน 34,045 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : พระปัจเจกพุทธเจ้านี้ใช้อย่างไรครับ ?
ตอบ : บูชาติดบ้าน พร้อมพระคาถาเงินล้าน ตั้งใจภาวนาพระคาถาเงินล้านให้สม่ำเสมอ เอาวันละกี่จบก็ได้ แต่ต้องทำเท่า ๆ กัน ขอบารมีท่านให้สงเคราะห์เรื่องความคล่องตัวในความเป็นอยู่ทุกด้าน
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 25-10-2013 เมื่อ 08:30
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 190 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #96  
เก่า 25-10-2013, 05:44
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,456
ได้ให้อนุโมทนา: 151,087
ได้รับอนุโมทนา 4,400,116 ครั้ง ใน 34,045 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

พระอาจารย์กล่าวว่า "ตอนนี้อาตมากำลังตามเก็บข้อมูลเรื่องวัตถุมงคลที่สร้างเองมาตั้งแต่แรก ตอนอยู่ที่วัดท่าซุง ทำพระวิสุทธิเทพหลังยันต์เกราะเพชร มี ๑๐,๐๖๐ องค์ ถวายหลวงพ่อวัดท่าซุงไป ๑๐,๐๐๐ องค์ เสร็จพิธีแล้วท่านบอกว่าเป็นพิธีที่สมบูรณ์ที่สุด พระท่านสงเคราะห์ให้ทุกด้าน ให้หลวงพี่วิรัชเก็บเอาไว้ บอกว่าถึงเวลาวัดพัง จะได้มีไว้จำหน่ายซ่อมวัด

ปรากฏว่าพอหลวงพ่อมรณภาพ หลวงพี่วิรัชงัดออกมาจำหน่ายจนเกลี้ยง รุ่นนั้นถือว่าเป็นวัตถุมงคลรุ่นแรก ในพรรษาปี ๒๕๒๙ ตำผงเพื่อพิมพ์พระกันทั้งพรรษา ส่วนประกอบสำคัญคือเกศาหลวงพ่อวัดท่าซุง จีวรหลวงพ่อ ทรายแก้ว ทรายทอง ดอกบัวพระองค์ที่ ๑๐ ใส่ลงไปแบบไม่ต้องเสียดาย โดยเฉพาะยานัตถุ์ของหลวงพ่อ หลวงพ่อท่านปลงผม ๓ ครั้งกว่าจะพอ กราบเรียนท่านว่าจะขอสร้างรุ่นนี้ถวายหลวงพ่อ แล้วขออนุญาตกำหนดราคา ท่านบอก "แกจะขายเท่าไร ?" " องค์ละ ๑๐๐ บาทครับ" กราบเรียนท่านว่าทำ ๑๐,๐๐๐ องค์ กะว่าจะหาเงินถวายท่าน ๑,๐๐๐,๐๐๐ บาท ท่านอนุญาตก็เลยทำ

อย่างที่สอง ทำตะกรุดมหาสะท้อนรุ่นแรก ๖๐ ดอก ตอนนั้นไม่ค่อยมีเงิน แผ่นเงิน ๖๐ บาทก็เยอะอยู่ เพราะว่าต่ำสุดต้องน้ำหนักบาทหนึ่ง แล้วก็มาชุดสุดท้ายที่ทำคือมีดชาตรี ชาตรีรุ่นแรก ๔๒ เล่ม พอท่านเอ่ยปาก อาตมาก็วิ่งถึงพยุหะคีรี ไปกวาดมาหมดตลาดมีแค่ ๔๒ เล่ม หลังจากนั้นคนอื่นเพิ่งจะไปกัน ยิ่งใกล้งานคนยิ่งไปหากันมากขึ้น จนท้ายสุดขนาดปากกาเฉพาะใบเปล่า ๆ ไม่มีด้ามไม่มีฝัก ใบละ ๖๐๐ บาท ของอาตมาด้ามงาฝักงาเขาให้บูชา ๒๐๐ กว่าบาทเอง

หลังจากนั้นก็มาเกาะพระฤๅษี ทำล็อกเก็ตรุ่นแรก รูปหลวงปู่ปานกับหลวงพ่อฤๅษี รุ่นนั้นประสบการณ์เพียบ

หลายต่อหลายอย่างที่โยมบูชาประมูลกันแพงหูดับตับไหม้ จริง ๆ แล้วอาตมาไม่ได้สร้าง อย่างพระองค์ที่ ๑๑ หรือว่าสมเด็จสัมพุทธเธ นั่นเป็นพระครูแสงสร้างแล้วเอามาเข้าพิธี ดังนั้น..ที่ลงเอาไว้เป็นทะเบียนประวัติสร้างวัตถุมงคล จะลงเฉพาะที่สร้างเอง ชนิดไหนไม่มีอยู่ในนั้นแปลว่าคนอื่นทำ"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 25-10-2013 เมื่อ 08:33
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 188 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #97  
เก่า 25-10-2013, 06:09
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,456
ได้ให้อนุโมทนา: 151,087
ได้รับอนุโมทนา 4,400,116 ครั้ง ใน 34,045 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : ทำไมไม่แยกล่ะครับ ?
ตอบ : แยกไม่ไหว ที่แยกไม่ไหวเพราะว่าแต่ละงานอาตมาไม่เคยห้ามเขาเอาวัตถุมงคลมาเข้าพิธี ที่ขออนุญาตอย่างเป็นทางการแทบไม่มี ส่วนใหญ่ก็บอกว่าขอเอาวัตถุมงคลเข้าพิธี แต่ไม่ได้แจ้งว่าอะไรบ้าง ส่วนใหญ่มารู้ทีหลังว่าเป็นของพวกนั้นพวกนี้ เพราะเขามาจำหน่ายในเว็บราคาแพง ๆ ไปแล้ว

จะลงไว้เฉพาะที่ตัวเองทำ เพราะว่ามีบันทึกประจำวันลงไว้ ตอนนี้ข้อมูลขาดแต่ท้าวมหาราชเท่านั้น ทำในนามของวัดตัวเอง

จะมีสมเด็จองค์ปฐมรุ่นแรก ที่ใช้แบบของทางด้านวัดพระธาตุ ๕ ดวง คือสั่งเพิ่มเติมจากที่เขาสั่งโรงงานไว้ ๕,๕๐๐ องค์ แต่ว่าชุดนั้นพุทธาภิเษกหลายรอบ คือจะมีหลวงปู่ครูบาไชยวงศ์อธิษฐานจิตเดี่ยว หลวงพ่อสมเด็จฯ วัดสระเกศอธิษฐานจิตเดี่ยว แล้วก็ไปเข้าพิธีเสาร์ ๕ รุ่นนั้น พวกเราไม่ทันหรอก ๕,๕๐๐ องค์ ละลายหายวับไปกับตา แต่ว่าทางด้านวัดพระธาตุ ๕ ดวง จะมีเนื้อทองคำด้วย แบบเดียวกัน เพราะขอให้เขาทำเพิ่มจากจำนวนที่เขาสั่ง ชุดนี้ถือว่าไม่ได้ทำเช่นกัน เพราะเป็นแบบของวัดพระธาตุ ๕ ดวง

แยกไม่ถูกหรอก เพราะเหมือนกันทุกอย่าง ถ้าไม่ใช่ที่กล่องเขียนว่าเป็นของทางด้านอาตมา ก็แปลว่าเป็นของวัดพระธาตุ ๕ ดวง หรือวัดพระพุทธบาทห้วยต้ม
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 25-10-2013 เมื่อ 08:35
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 179 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #98  
เก่า 25-10-2013, 06:17
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,456
ได้ให้อนุโมทนา: 151,087
ได้รับอนุโมทนา 4,400,116 ครั้ง ใน 34,045 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

พระอาจารย์กล่าวว่า "ถ้ามีปัญหาเรื่องลมฟ้าอากาศ โดยเฉพาะทางทะเล ให้บนกับนางมณีเมขลา ทำสังฆทานชุดใหญ่ให้ท่านจะช่วยได้"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 25-10-2013 เมื่อ 08:36
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 184 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #99  
เก่า 25-10-2013, 06:21
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,456
ได้ให้อนุโมทนา: 151,087
ได้รับอนุโมทนา 4,400,116 ครั้ง ใน 34,045 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : ถ้าเราตั้งใจจะตัดสังโยชน์ ๕ แล้วเราสามารถทำได้จริงหรือไม่ มีอะไรเป็นที่สังเกตคะ ?
ตอบ : ผู้หญิงนี่ดูง่ายที่สุดเลย ถ้าถึงสังโยชน์ ๕ เมนส์จะไม่มา ระบบร่างกายตัดไปเลย ระบบร่างกายจะปรับใหม่ ระบบเกี่ยวกับการสืบพันธุ์พวกฮอร์โมนอะไรจะหยุดทำงานหมด ต่อให้สาวพริ้งอยู่ก็ไม่มีเมนส์ ประจำเดือนไม่มา ตั้งแต่สังโยชน์ ๕ ขึ้นไป ถ้าสังโยชน์ ๓ ก็ยังปกติอยู่ ถ้าตัดสังโยชน์ ๕ ขึ้นไปก็เรียบร้อย..หมดสภาพ..!
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 25-10-2013 เมื่อ 15:38
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 181 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #100  
เก่า 25-10-2013, 06:23
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,456
ได้ให้อนุโมทนา: 151,087
ได้รับอนุโมทนา 4,400,116 ครั้ง ใน 34,045 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : คนที่บูชาวัตถุมงคลกับคนที่บริจาควัตถุมงคลให้บูชา อานิสงส์ต่างกันไหมครับ ?
ตอบ : กำลังใจเขาสละออกอยู่แล้ว บุญเหมือนกัน เพียงแต่ว่าคนที่บริจาคเพื่อได้วัตถุมงคล ก็จะได้วัตถุมงคลกลับไปด้วย
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 25-10-2013 เมื่อ 08:37
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 184 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
ตอบ


ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 1 คน ( เป็นสมาชิก 0 คน และ บุคคลทั่วไป 1 คน )
 

กฎการส่งข้อความ
You may not post new threads
You may not post replies
You may not post attachments
You may not edit your posts

BB code is ใช้ได้
Smilies are ใช้ได้
[IMG] code is ใช้ได้
HTML code is งดใช้

Forum Jump


เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 10:06



ค้นหาในเว็บวัดท่าขนุน

เว็บวัดท่าขนุน Powered by vBulletin
Copyright © 2000-2010 Jelsoft Enterprises Limited.
ความคิดเห็นส่วนตัวทุก ๆ ข้อความในเว็บบอร์ดนี้ สงวนสิทธิ์เฉพาะเจ้าของข้อความ ไม่อนุญาตให้คัดลอกออกไปเผยแพร่ นอกจากจะได้รับคำอนุญาตจากเจ้าของข้อความอย่างชัดเจนดีแล้ว