กระดานสนทนาวัดท่าขนุน


กลับไป   กระดานสนทนาวัดท่าขนุน > ห้องธรรมะพระอาจารย์ > พระครูวิลาศกาญจนธรรม (หลวงพ่อเล็ก สุธมฺมปญฺโญ) > เทศน์ช่วงทำกรรมฐาน

Notices

ตอบ
 
คำสั่งเพิ่มเติม
  #1  
เก่า 17-04-2017, 17:24
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,456
ได้ให้อนุโมทนา: 151,087
ได้รับอนุโมทนา 4,400,166 ครั้ง ใน 34,045 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default เทศน์ช่วงทำกรรมฐาน วันศุกร์ที่ ๗ เมษายน ๒๕๖๐

ให้ทุกคนตั้งกายให้ตรง กำหนดสติอยู่ที่ลมหายใจเข้าออกของเรา หายใจเข้า...ให้ความรู้สึกทั้งหมดของเรา ไหลตามลมหายใจเข้าไป หายใจออก...ให้ความรู้สึกทั้งหมดของเรา ไหลตามลมหายใจออกมา จะใช้คำภาวนาอะไรก็ได้ ที่เรามีความถนัดมาแต่เดิม

วันนี้เป็นวันศุกร์ที่ ๗ เมษายน พุทธศักราช ๒๕๖๐ ซึ่งในระยะนี้สถานการณ์โลกและสถานการณ์บ้านเมืองค่อนข้างจะร้อน สหรัฐอเมริกาเพิ่งจะเปิดฉากยิงขีปนาวุธใส่ซีเรีย แต่ไม่ว่าสถานการณ์จะย่ำแย่ขนาดไหนก็ตาม ถ้าหากว่ากำลังใจของเรายึดมั่นอยู่ในคุณพระรัตนตรัย ถ้าไม่ใช่บุคคลที่หมดอายุขัยจริง ๆ ก็จะมีความปลอดภัยในทุกที่ การที่เราจะยึดมั่นในคุณพระรัตนตรัยนั้น สามารถที่จะกระทำได้ในหลายวิธีการด้วยกัน

การเจริญภาวนาในพุทธานุสติ ก็เป็นการยึดมั่นในคุณพระรัตนตรัยอย่างหนึ่ง อย่างเช่นว่าการนึกถึงคำภาวนาว่าพุทโธ ซึ่งเป็นพระนามขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าก็ดี สัมมาอรหัง คือไกลจากกิเลสโดยชอบก็ดี สิ่งทั้งหลายเหล่านี้จัดเป็นพุทธานุสติ แต่ถ้าต้องการความมั่นคงยิ่งขึ้น ให้เรานึกถึงภาพพระพุทธรูปองค์ใดองค์หนึ่ง ที่เรารักเราชอบมากที่สุด จะเป็นสมเด็จองค์ปฐมก็ได้ เป็นพระวิสุทธิเทพก็ได้ หรือเป็นพระพุทธรูปสำคัญอย่างเช่น พระแก้วมรกต พระพุทธสิหิงค์ พระพุทธชินราช เป็นต้น
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 17-04-2017 เมื่อ 18:39
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 42 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #2  
เก่า 17-04-2017, 17:26
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,456
ได้ให้อนุโมทนา: 151,087
ได้รับอนุโมทนา 4,400,166 ครั้ง ใน 34,045 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

หรือถ้าท่านใดมีวัตถุมงคลติดตัวอยู่ ที่เป็นรูปพระพุทธรูป เรารักเราชอบใจพระพุทธรูปในวัตถุมงคลลักษณะใด ก็ให้นึกถึงวัตถุมงคลชิ้นนั้น การที่จิตเราเกาะภาพพระ จัดเป็นพุทธานุสติด้วย จัดเป็นกสิณด้วย

คราวนี้เมื่อเรากำหนดลมหายใจเข้าออกพร้อมกับคำว่าพุทโธแล้ว ก็ให้กำหนดภาพพระไปด้วย หายใจเข้า “พุท” ให้ภาพพระไหลตามลมหายใจเข้าไปจนสุด หายใจออก “โธ” ให้ภาพพระไหลตามลมหายใจออกมาจนสุด การกำหนดภาพพระนั้นอย่าเน้นที่ความชัดเจน ความชัดเจนจะมีขึ้นได้ต่อเมื่อสมาธิของเราทรงตัวสูงขึ้นไป ใหม่ ๆ นึกแล้วไม่เห็นอะไรเลย แต่ขอให้มั่นใจว่ามีพระอยู่กับเราก็ใช้ได้

เรากำหนดลมหายใจเข้าออกพร้อมกับภาพพระ ไหลตามลมหายใจเข้าไป ไหลตามลมหายใจออกมา พอนานไป ๆ กำลังใจเริ่มทรงตัวมั่นคง ความชัดเจนต่าง ๆ ของภาพพระ จะค่อย ๆ ปรากฏขึ้นตามสภาพจิตของเรา
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 17-04-2017 เมื่อ 18:40
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 46 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #3  
เก่า 19-04-2017, 19:37
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,456
ได้ให้อนุโมทนา: 151,087
ได้รับอนุโมทนา 4,400,166 ครั้ง ใน 34,045 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ส่วนที่สำคัญที่สุดก็คืออย่าใช้สายตาไปเพ่งภาพพระนั้น เพราะว่าการกำหนดนึกถึงภาพพระไม่ใช่ตาเห็น เป็นการเห็นด้วยใจ ลักษณะของการเห็นด้วยใจนั้น ก็เหมือนกับเรานึกถึงหน้าคนที่เรารู้จัก เราสามารถเห็นได้ชัดเจนว่าหน้าตาเป็นอย่างไร แต่ไม่ใช่ตาเห็น

การนึกถึงภาพพระก็นึกในลักษณะนั้น เป็นการกำหนดอยู่ในห้วงนึกของเรา ไม่ใช่กำหนดด้วยสายตา เพราะฉะนั้น...ให้ลืมเรื่องสายตาไปเลย ถ้าหากว่าเราใช้สายตาเพ่งภาพพระเป็นระยะเวลานาน ๆ ๑๐ นาที ๒๐ นาที ก็เป็นการฝืนใช้ประสาทร่างกายมากจนเกินไป เมื่อถึงเวลาเลิกการปฏิบัติแล้ว อาการหนึ่งที่จะเกิดขึ้นคือปวดหัวมาก ดังนั้นให้เราเลิกใช้สายตา เอาความรู้สึกไปจับที่ภาพพระ หายใจเข้าภาพพระไหลเข้าไปพร้อมกับลมหายใจจนสุด หายใจออกภาพพระไหลออกมาพร้อมกับลมหายใจจนสุด

แรก ๆ หาความชัดเจนไม่ได้ก็ไม่เป็นไร เรานึกได้ว่ามีภาพพระอยู่กับเราก็พอ พยายามซักซ้อมอย่างนี้บ่อย ๆ ทุกวัน ๆ เมื่อลมหายใจมั่นคง สมาธิทรงตัวมากขึ้น ความชัดเจนจะมีมากขึ้นไปเรื่อย ๆ จนสภาพจิตทรงตัวเป็นอัปปนาสมาธิ ตั้งแต่ฌานที่ ๑-๒-๓-๔ ขึ้นไป ความชัดเจนที่ปรากฏก็จะเหมือนตาเห็น แต่ไม่ใช่ตาเห็น

ให้ทำอย่างนี้ไว้ทุกวัน ๆ เพื่อสภาพจิตของเราได้มีที่ยึดที่เกาะ โดยที่กำหนดอารมณ์สุดท้ายไว้ว่า ถ้าหากว่าเราตายลงเมื่อไร ขอไปอยู่กับองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าที่พระนิพพานเท่านั้น

ให้ทุกคนรักษากำลังใจในการดูและภาวนาตามลมหายใจเข้าออกและภาพพระของเราเอาไว้อย่างนี้ จนกว่าจะได้รับสัญญาณบอกว่าหมดเวลา


พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร.
เทศน์ช่วงทำกรรมฐาน ณ บ้านเติมบุญ
วันศุกร์ที่ ๗ เมษายน ๒๕๖๐

(ถอดจากเสียงเป็นอักษรโดยทาริกา)
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 19-04-2017 เมื่อ 19:39
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 35 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
ตอบ


ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 1 คน ( เป็นสมาชิก 0 คน และ บุคคลทั่วไป 1 คน )
 

กฎการส่งข้อความ
You may not post new threads
You may not post replies
You may not post attachments
You may not edit your posts

BB code is ใช้ได้
Smilies are ใช้ได้
[IMG] code is ใช้ได้
HTML code is งดใช้

Forum Jump


เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 14:36



ค้นหาในเว็บวัดท่าขนุน

เว็บวัดท่าขนุน Powered by vBulletin
Copyright © 2000-2010 Jelsoft Enterprises Limited.
ความคิดเห็นส่วนตัวทุก ๆ ข้อความในเว็บบอร์ดนี้ สงวนสิทธิ์เฉพาะเจ้าของข้อความ ไม่อนุญาตให้คัดลอกออกไปเผยแพร่ นอกจากจะได้รับคำอนุญาตจากเจ้าของข้อความอย่างชัดเจนดีแล้ว