กระดานสนทนาวัดท่าขนุน


กลับไป   กระดานสนทนาวัดท่าขนุน > ห้องธรรมะพระอาจารย์ > เก็บตกจากบ้านวิริยบารมี

Notices

เก็บตกจากบ้านวิริยบารมี เก็บข้อธรรมจากบ้านวิริยบารมีมาฝาก สำหรับผู้ที่ไม่มีโอกาสเดินทางไป

ตอบ
 
คำสั่งเพิ่มเติม
  #1  
เก่า 02-08-2013, 10:11
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,443
ได้ให้อนุโมทนา: 151,071
ได้รับอนุโมทนา 4,399,676 ครั้ง ใน 34,032 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default เก็บตกจากบ้านวิริยบารมี ประจำเดือนกรกฎาคม ๒๕๕๖

ถาม : เวลานั่งสมาธิจะรู้สึกชา ๆ ตื้อ ๆ บริเวณระหว่างคิ้ว ไปจนถึงกลางหน้าผาก ไม่ทราบว่าเกิดจากอะไร ? และควรทำอย่างไร ?
ตอบ : เกิดการจากไปใช้สายตาเพ่ง จะโดยรู้ตัวหรือไม่รู้ตัวก็ได้ ต่อไปอย่าใช้สายตาเพ่งอยู่เฉพาะที่ แต่ให้ดูตามลมหายใจเข้าออก ถ้าใครหลับตาแล้วจ้องเป๋งอยู่ จะเป็นอย่างนั้นทุกราย

ถาม : เพ่งอยู่ข้างใน ?
ตอบ : ใช่...ให้เอาความรู้สึกหรือนึกเสียว่าเป็นสายตาของเราก็ได้ ตามลมหายใจเข้าไป ตามลมหายใจออกมา อย่าไปให้อยู่นิ่งเป็นที่อย่างนั้น เฉพาะว่าตรงจุดนั้นเป็นจักระสำคัญของทางด้านโยคี เขาเรียกกุณฑาลินี หรือบางคนเรียกว่ามังกรหลับ ถ้าปลุกขึ้นมาจะได้ตาที่ ๓ เหมือนกัน
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 03-08-2013 เมื่อ 02:39
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 249 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #2  
เก่า 02-08-2013, 10:15
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,443
ได้ให้อนุโมทนา: 151,071
ได้รับอนุโมทนา 4,399,676 ครั้ง ใน 34,032 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : เวลาที่เรากำลังนั่งกรรมฐานไป ๒๐ - ๓๐ นาทีแล้ว มีความรู้สึกว่ามีคนมายืนหรือนั่งข้าง ๆ สะกิดที่ขาเรา ๒ ครั้ง พอลืมตาขึ้นมาก็ไม่พบเห็นใครอยู่ข้าง ๆ เลย กราบเรียนถามว่า อาจจะเป็นผีที่มาขอส่วนบุญ ใช่หรือไม่ครับ ?
ตอบ : แล้วทำไมไม่คิดว่าเขามาใบ้หวย ...(หัวเราะ)... เขาอาจจะแค่มาลองดูว่า ในการเจริญกรรมฐานเรายังมีความกลัวหรือเปล่า ถ้าไม่มั่นใจก็ตั้งใจอุทิศส่วนกุศลให้เขาไป
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 02-08-2013 เมื่อ 12:18
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 242 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #3  
เก่า 02-08-2013, 10:18
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,443
ได้ให้อนุโมทนา: 151,071
ได้รับอนุโมทนา 4,399,676 ครั้ง ใน 34,032 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : การใช้เทียนสะเดาะเคราะห์ สืบชะตา มีขั้นตอนและวิธีการใช้ และจะอธิษฐานอย่างไรครับ ?
ตอบ : ขั้นตอนที่ ๑ แกะเทียนออกจากซองก่อน ขั้นตอนที่ ๒ ก็จุด แล้วก็ปักให้ดี หลังจากนั้นก็อธิษฐานว่าจะเอาอะไร แล้วก็นั่งภาวนาไปจนกว่าเทียนจะหมด

ถาม : แล้วต้องมีคาถาอะไรไหมครับ ?
ตอบ : เอาคาถาเงินล้านเป็นหลัก เพราะคาถาเงินล้านนอกจากสะเดาะเคราะห์และปัดอุปสรรคแล้ว ยังให้ลาภใหญ่อีกด้วย
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 02-08-2013 เมื่อ 12:18
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 256 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #4  
เก่า 02-08-2013, 10:20
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,443
ได้ให้อนุโมทนา: 151,071
ได้รับอนุโมทนา 4,399,676 ครั้ง ใน 34,032 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : ผมได้มีโอกาสใส่บาตรพระที่เดินบิณฑบาตมาหลายครั้ง พบว่าบางรูปจะเอ่ยขอให้ช่วยถวายค่าจีวรซึ่งสวมใส่มานานจนบาง หรือค่าสายสะพายบาตรที่ชำรุด เป็นต้น ซึ่งผมก็ถวายให้ท่านไป แต่มีสิ่งที่สะกิดใจคือ ผมไม่ได้เป็นโยมปวารณาของท่าน ไม่ทราบว่าพระรูปดังกล่าวได้ทำผิดวินัยสงฆ์ไปหรือไม่ครับ ?
ตอบ : ถามว่าผิดวินัยสงฆ์หรือไม่...ผิดเต็ม ๆ เลย ภิกษุขอสิ่งของจากผู้ที่ไม่ใช่ญาติ ไม่ใช่ปวารณา ได้มาต้องอาบัตินิสสัคคียปาจิตตีย์ คือต้องสละของทิ้งก่อนถึงจะแสดงอาบัติตก ถ้าไม่สละแสดงอย่างไรก็ไม่ตก

แต่คราวนี้เราคิดเสียว่าท่านเอาบุญมาให้ เราเองก็ตั้งใจทำบุญไป ส่วนท่านเองจะสร้างเวรสร้างกรรมอย่างไรก็เป็นเรื่องของท่านเถอะ บุญเป็นของเราก็แล้วกัน


ถาม : คือทำบุญไปแล้วก็ให้สบายใจ ?
ตอบ : ใช่..วางอุเบกขาในการทำบุญให้ได้
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 02-08-2013 เมื่อ 12:19
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 252 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #5  
เก่า 02-08-2013, 10:22
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,443
ได้ให้อนุโมทนา: 151,071
ได้รับอนุโมทนา 4,399,676 ครั้ง ใน 34,032 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : วัตถุมงคลจากที่อื่น ที่มีคำอาราธนาเฉพาะอยู่แล้ว หากผ่านการนำเข้าพิธีพุทธาภิเษกที่วัดท่าขนุนแล้ว ควรใช้คำอาราธนาเดิม หรือว่าเปลี่ยนเป็น "อิทธิฤทธิ ฯ" ครับ ?
ตอบ : เอาสองอย่างเลยเพื่อความมั่นใจ ภาวนาสักอย่างละ ๑๐๘ จบก็จะขลังไปเอง ความจริงไม่มีอะไรหรอก อยู่ที่เรามั่นใจ ของเดิมเขามีก็ใช้ของเดิมไป ถ้าของเดิมไม่มีก็มาใช้ตามแบบของหลวงปู่ปานท่านไป
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 02-08-2013 เมื่อ 12:20
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 254 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #6  
เก่า 02-08-2013, 10:36
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,443
ได้ให้อนุโมทนา: 151,071
ได้รับอนุโมทนา 4,399,676 ครั้ง ใน 34,032 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : ในเรื่องของปีตินั้น สามารถรุนแรงถึงขั้นทำให้ข้าวของเสียหายได้หรือไม่ครับ? (ปกตินั่งสมาธิในห้องพระ กลัวว่าจะทำให้พระพุทธรูปเสียหายครับ)
ตอบ : ยังไม่เคยเจอ

ถาม : ประเภทที่ดิ้นโครมครามนะครับ
ตอบ : อย่าไปดิ้นใกล้เครื่องลายครามราคาแพง ๆ แล้วกัน ไปเจอประเภทราชวงศ์เหม็งสักชุด แตกกระจายไปก็เป็นเรื่อง ถ้าใครเริ่มเข้าส่วนของโอกันติกาปีติ เพื่อความแน่นอนก่อนนั่งกรรมฐานก็จัดแจงสถานที่ให้เรียบร้อยก่อน อะไรจะแตกหักเสียหายได้ก็เก็บ ปูเบาะยูโดให้เต็มห้องก่อน เพื่อความแน่นอน

ถาม : แสดงว่าเวลาปีติขึ้นไม่รู้ตัวก็พลาดพลั้งไปได้เหมือนกัน?
ตอบ : บางทีเผลอไปเหวี่ยงโดนของอาจจะแตกหักเสียหายได้ แต่ตัวเราไม่เป็นไร เพราะว่าตอนนั้นกำลังของสมาธิคุ้มอยู่
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 02-08-2013 เมื่อ 12:22
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 245 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #7  
เก่า 02-08-2013, 10:37
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,443
ได้ให้อนุโมทนา: 151,071
ได้รับอนุโมทนา 4,399,676 ครั้ง ใน 34,032 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : กรณีที่พ่อแม่ความจำเสื่อม ลูกจำเป็นต้องปิดประตูบ้านไว้ เพื่อป้องกันพ่อแม่หลงทางออกจากบ้าน หรือพ่อแม่ต้องให้อาหารทางสายยาง จึงจำต้องมัดมือไว้ เพื่อป้องกันการดึงสายยางดังกล่าวออก กรณีต่าง ๆ เหล่านี้ ผู้เป็นลูกควรดำเนินการอย่างไรจึงจะเหมาะสมครับ ?
ตอบ : ทำอย่างที่ว่ามานั่นแหละ แต่ต้องยอมรับว่าสิ่งที่เราทำก็เป็นกรรมอย่างหนึ่ง นึกเสียว่าเราสงเคราะห์ท่านให้ดีที่สุด ถ้าถึงวาระจำเป็นต้องรับคืนก็ยินดี

ถาม : ตรงจุดนี้อานิสงส์ของบุญหรือบาปอะไรจะมากกว่ากันครับ ?
ตอบ : บุญมากกว่า แต่กรรมก็มีนิดหน่อย
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 02-08-2013 เมื่อ 12:22
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 251 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #8  
เก่า 02-08-2013, 10:38
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,443
ได้ให้อนุโมทนา: 151,071
ได้รับอนุโมทนา 4,399,676 ครั้ง ใน 34,032 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : กรณีนั่งสมาธิ และรู้สึกเหมือนมีแมลงหรือสัตว์เล็ก ๆ วิ่งวนอยู่รอบ ๆ ตัว หรือหนักเข้าก็เข้าไปวิ่งตามเส้นเลือดในตัวเลย กรณีแบบนี้เกิดจากอะไร แล้วควรแก้ไขอย่างไรครับ ?
ตอบ : เขาเรียกว่าขันธมารมารบกวน ทำไม่รู้ไม่ชี้ คิดว่าอย่างดีก็ตายเท่านั้น ในเมื่อตายยังไม่กลัว พวกนี้ก็จะถอยไปเอง

ถาม : ที่คันยิบ ๆ นี่ผมเคยเจอครับ ไม่ตายครับ แต่รำคาญถ้าไม่สนใจก็หายเองหรือครับ ?
ตอบ : ให้อยู่กับลมหายใจเข้าออก จะเป็นอะไรก็ช่างเอ็ง พวกนี้ทนคนหน้าด้านไม่ได้หรอก เจอคนหน้าด้านเดี๋ยวก็ไปเอง
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 02-08-2013 เมื่อ 12:24
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 246 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #9  
เก่า 02-08-2013, 11:55
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,443
ได้ให้อนุโมทนา: 151,071
ได้รับอนุโมทนา 4,399,676 ครั้ง ใน 34,032 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

พระอาจารย์กล่าวว่า "เรื่องของท่านอาจารย์มิตซูโอะ จะว่าไปแล้วท่านทำถูก ก็คือรู้ว่าอยู่ไม่ได้ก็สึก ไม่ได้เสียดายสถานภาพตนเองว่าเป็นครูบาอาจารย์ มีลูกศิษย์ลูกหาเต็มบ้านเต็มเมือง ต้องบอกว่าท่านรักพระธรรมวินัย รักพระพุทธศาสนามากกว่าตัวเอง แต่คราวนี้คนส่วนใหญ่ไปยึดมั่นถือมั่น ว่าเป็นอาจารย์ใหญ่สอนกรรมฐานมาขนาดนั้น บวชมานานทำไมถึงสึก

อาตมาชอบใจพระของพม่า บวชเข้าไปวันนั้นเขาก็กราบก็ไหว้ สึกออกมาวันนั้นก็คลุกคลีตีโมงกับชาวบ้านไปเลย อีก ๓ วันบวชใหม่เขาก็กราบใหม่ไหว้ใหม่อีก แสดงว่าพม่าเขาเข้าใจเรื่องของพระของโยมมากกว่าของเรา เขารู้ว่าตอนนี้ท่านอยู่ในสถานะไหน เขาก็เล่นตามบทบาท แต่บ้านเรานี่ตอนบวชไม่แปลกใจ ไปแปลกใจตอนสึก ระดับจะให้บวชแล้วแปลกใจก็คงต้องให้นายกรัฐมนตรีโกนหัวบวชชี ไม่อย่างนั้นเขาคงไม่แปลกใจกันหรอก แต่ในเมื่อบวชได้ก็สึกได้

ที่น่าเสียดายก็คือ บรรดาท่านทั้งหลายที่แสดงความเห็นจ้วงจาบแรง ๆ ในเว็บไซต์ต่าง ๆ หรือในเฟซบุ๊ก นั่นสร้างโทษให้แก่ตัวเองแท้ ๆ

ฉะนั้น..เราจะไปตั้งความหวัง คาดหวัง และจะให้คนเขาเป็นอย่างนั้นเป็นอย่างนี้ เป็นไปไม่ได้อยู่แล้ว ขนาดตัวของเราเอง เราตั้งความหวังได้ ยังทำไม่ได้อย่างหวังเลย พอเห็นคนอื่นเขาทำไม่ถูกใจขึ้นมา ก็ใช้คำพูดแรง ๆ ซึ่งลักษณะนั้นมีอยู่อย่างเดียวก็คือ ลดคุณค่าของตัวเอง

ดังที่โบราณบอกว่า

ก้านบัวบอกตื้นลึก...........ชลธาร
มารยาทส่อสันดาน..........ชาติเชื้อ
โฉดฉลาดมีคำขาน..........ควรทราบ
หย่อมหญ้าเหี่ยวแห้งเรื้อ.......บอกร้าย แสลงดิน


เอ่ยปากพูดเมื่อไร คนเขาจะรู้เลยว่าตัวเรามีราคาแค่ไหน ก็เลยกลายเป็นเรื่องที่หาโทษใส่ตัวโดยใช่เหตุ"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 02-08-2013 เมื่อ 12:26
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 259 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #10  
เก่า 02-08-2013, 11:58
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,443
ได้ให้อนุโมทนา: 151,071
ได้รับอนุโมทนา 4,399,676 ครั้ง ใน 34,032 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

"จะว่าไปแล้วคุณสุทธิรัตน์ทำไม่ถูก ไม่ใช่ทำไม่ถูกที่ไปสึกพระ ที่ไม่ถูกคือเขาประกาศความเป็นเจ้าของเร็วเกินไป แล้วคนอื่นทำใจรับไม่ทัน โดยเฉพาะไปโพสต์รูปคู่หวานจี๋จ๋ากันมาเลย แถมยังมีคลิปลงอีกด้วย รับรองไม่ใช่อาจารย์มิตซูโอะลงเองแน่ คนเคยเคารพกราบไหว้กันทั้งบ้านทั้งเมือง แล้วอยู่ ๆ ก็มาเห็นภาพพจน์ที่ตรงกันข้าม เขาเลยรับกันไม่ได้

แต่คุณสุทธิรัตน์เขาลืมตรงจุดนี้ไป เขาอยากแสดงความเป็นเจ้าของให้คนอื่นเห็น อันนี้จะว่าไปแล้วก็ตัวกูของกูนั่นแหละ ในเมื่ออยากแสดงความเป็นเจ้าของให้คนอื่นเห็น ก็เลยเอาความรู้สึกนึกคิดของตัวเองเป็นตัวตั้ง โดยที่ไม่ได้ดูความรู้สึกของคนส่วนใหญ่ พอโพสต์ลงไปก็เป็นเรื่อง เปิดประเด็นให้คนเขาด่าแท้ ๆ เลย ป่านนี้คงต้องกินน้ำใบบัวบกแก้ช้ำในเป็นโอ่งแล้วกระมัง ?

เรื่องของพระผู้ใหญ่ที่สึกหาลาเพศไป นอกจากท่านอาจารย์มิตซูโอะแล้วก็มีหลวงตาจันทร์ ท่านเจ้าคุณพระเทพสิทธิญาณรังสี นั่นก็เหมือนกัน ท่านรู้ว่าตัวท่านเองอยู่ไม่ได้ ท่านก็ไม่ได้เสียดายสถานภาพตัวเอง ไม่คิดว่าตัวเองเป็นครูบาอาจารย์ มีลูกศิษย์ลูกหาเต็มบ้านเต็มเมือง แทบจะเรียกลมเรียกฝนได้ ไม่ได้ดูว่าท่านเองเป็นพระเถระผู้ใหญ่ที่ได้รับพระราชทานตั้งถึงขนาดเป็นเจ้าคุณชั้นเทพ ท่านรู้ว่าอยู่ไม่ได้ท่านก็สึก

สึกมาแล้วตัวเองไปทำมาหากินอะไร แม้กระทั่งเล่นลิเก ท่านก็ไม่ได้อายเขา ท่านก็ให้เขาสัมภาษณ์ในลักษณะที่ว่าทำมาหากินสุจริต ไม่เห็นต้องไปอายใคร ลักษณะอย่างนั้นเป็นเรื่องที่น่าชื่นชม เพราะว่าท่านเองทำถูก เพื่อรักษาพระศาสนา ไม่สร้างความมัวหมอง ทำให้คนส่วนใหญ่ได้เห็นว่าการกระทำที่ถูกต้องนั้นเป็นอย่างไร เพราะฉะนั้น..ในเรื่องของพระธรรมวินัยถือว่าท่านทำถูก

เรื่องของพระอาจารย์มิตซูโอะก็เหมือนกัน ท่านไปเงินสักบาทก็ไม่ได้เอาไป ถ้าผู้หญิงแต่งงานด้วยเพราะหวังเรื่องเงินทองก็เจ๊งเลย เพราะท่านไปตัวเปล่า แต่ได้ยินว่าผู้หญิงก็มีฐานะดีอยู่ ก็คงพอที่จะประคับประคองกันไปได้"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 02-08-2013 เมื่อ 12:28
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 265 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #11  
เก่า 07-08-2013, 11:40
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,443
ได้ให้อนุโมทนา: 151,071
ได้รับอนุโมทนา 4,399,676 ครั้ง ใน 34,032 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : สำหรับพระ ฉันอาหารหลังเที่ยงไปแล้วไม่ได้ เราสามารถเสิร์ฟด้วยน้ำผลไม้บางชนิด เช่น น้ำผลไม้กล่องจะได้ไหมครับ ?
ตอบ : พระท่านอนุญาตน้ำปานะให้ ๗ - ๘ อย่าง แต่ก็ต้องดูให้ดี น้ำผลไม้กล่องมักลดต้นทุนด้วยการผสมน้ำสับปะรด สับปะรดเป็นมหาผล ถึงคั้นน้ำแล้วก็ฉันหลังเที่ยงไม่ได้

ถาม : เวลาพระทำผิดศีลก็แสดงอาบัติกับพระ แล้วอย่างฆราวาสละครับ ?
ตอบ : ให้ตั้งใจรักษาศีลใหม่
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 07-08-2013 เมื่อ 13:54
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 228 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #12  
เก่า 07-08-2013, 11:43
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,443
ได้ให้อนุโมทนา: 151,071
ได้รับอนุโมทนา 4,399,676 ครั้ง ใน 34,032 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : ตั้งศาล ๔ เสาผิดทิศ ถ้าอยู่ทิศตะวันตก แล้วผมจะเยื้องใต้นิดหนึ่งได้ไหมครับ ?
ตอบ : แล้วทำไมจะต้องตั้งศาล ๔ เสา ?

ถาม : เผอิญท่านมาบอกว่า ถ้าตั้งได้ก็จะดี ?
ตอบ : เอานายพลไปเป็นคนใช้นี่ดีมากเลยนะ ถ้าไม่รู้ว่าสถานที่นั้นมีอากาศเทวดาจริง ๆ อย่าไปตั้งศาล ๔ เสา แทนที่จะกลายเป็นเคารพ กลับกลายเป็นดูถูกท่าน อากาศเทวดาท่านเป็นเจ้านายใหญ่ พระภูมิเจ้าที่ท่านเป็นบริวาร อยู่ ๆ ไปเอานายพลมาเป็นคนใช้ก็เจริญเท่านั้น..!

การตั้งศาล หลายตำราบอกว่าอย่าให้เงาบ้านทับศาล ความจริงเงาบ้านทับศาลนั้นไม่สำคัญหรอก สำคัญคืออย่าให้ศาลไปอยู่ด้านที่เป็นห้องน้ำ หรือไปอยู่ใต้หน้าต่าง เพราะห้องน้ำห้องส้วมมีความสกปรกเป็นปกติอยู่แล้ว ส่วนไปอยู่ใต้หน้าต่าง เดี๋ยวคนทิ้งขยะข้ามออกมาจะซวยอีก ถ้าไม่รู้ว่ามีอากาศเทวดาอยู่บริเวณนั้นจริง ๆ ไม่ต้องไปตั้งศาล ๔ เสา ถ้ามีอากาศเทวดาจริง ๆ ถึงเวลาท่านจะมาบอกเอง
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 07-08-2013 เมื่อ 13:55
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 232 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #13  
เก่า 07-08-2013, 21:17
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,443
ได้ให้อนุโมทนา: 151,071
ได้รับอนุโมทนา 4,399,676 ครั้ง ใน 34,032 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : ถ้าสร้างพระยืน ควรสร้างหน้าตักกว้างเท่าไร สูงเท่าไรครับ ?
ตอบ : เอาเป็น ๒ เท่าของพระนั่งก็แล้วกัน พระนั่ง ๔ ศอก พระยืนก็ควรจะสัก ๘ ศอกเป็นอย่างน้อย มาตราส่วนพวกนี้ ช่างปั้นพระเขาจะรู้ดีที่สุด ว่าขนาดไหนพระถึงจะออกมาได้สัดส่วนที่งดงาม
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 08-08-2013 เมื่อ 03:08
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 222 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #14  
เก่า 07-08-2013, 21:25
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,443
ได้ให้อนุโมทนา: 151,071
ได้รับอนุโมทนา 4,399,676 ครั้ง ใน 34,032 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : ถ้าทำสมาธิแล้วตัวลอยไปชนกับเพดาน แล้วจะตกลงมาไหมครับ ?
ตอบ : ถ้าใจไม่กังวลก็ชนไปเถอะ แต่ถ้าสมาธิเคลื่อนเราก็จะตกลงมา แต่ไม่บาดเจ็บหรอก เพราะอำนาจของสมาธิคุ้มอยู่
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 08-08-2013 เมื่อ 03:08
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 223 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #15  
เก่า 07-08-2013, 21:34
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,443
ได้ให้อนุโมทนา: 151,071
ได้รับอนุโมทนา 4,399,676 ครั้ง ใน 34,032 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

พระอาจารย์เล่าให้ฟังว่า "สมัยก่อนอาตมาอิจฉาหลวงปู่ทองเทศ (พระทองเทศ ฐิตสุวณฺโณ วัดท่าซุง) ตอนท่านอายุ ๙๖ - ๙๗ ปี ท่านนอนอ่านหนังสือพิมพ์อย่างมีความสุขเลย องค์ท่านก็เล็กนิดเดียว แล้วหนังสือพิมพ์ไทยรัฐสมัยนั้นขยายหน้าใหญ่ กางออกมาเป็นผ้าปูที่นอนให้ท่านได้เลย ท่านกางหนังสือพิมพ์แล้วก็นอนท้าวคางอ่านไปเรื่อย คนอายุ ๙๐ กว่าปีแต่ไม่ต้องใช้แว่น ดูหนังสือได้สบายเลย

หลวงปู่ทองเทศอายุ ๘๐ ปี ไปขอบวช เอาปัจจัย ๓,๐๐๐ บาท ไปถวายหลวงพ่อวัดท่าซุง บอกว่า "ถ้าผมตายช่วยเมตตาเผาศพให้ด้วย" หลวงพ่อก็ว่า "เออ..ไม่รู้ว่าใครจะตายก่อนกัน ?" ท้ายสุดหลวงพ่อท่านไปเสียหลายปีแล้ว หลวงปู่ทองเทศยังอยู่เลย คนอายุ ๘๐ ปีตั้งใจปลงอายุสังขารแล้ว ปรากฏว่าบวชอยู่มาจนอายุ ๑๐๐ กว่าปี

ตอนช่วง ๙๖ ปี ท่านออกบิณฑบาต
แล้วลื่นหกล้มหัวเข่าแตก คนแก่กว่าแผลจะสมานก็ ๒ - ๓ เดือน อาตมาจึงบอกว่า "หลวงปู่ไม่ต้องบิณฑบาตหรอก ผมเองเป็นผู้รักษาดูแลโรงครัวอยู่ เดี๋ยวผมสั่งแม่ครัวเขาเอาอาหารไปถวายให้" หลวงปู่ท่านถึงได้ยอมหยุดบิณฑบาตตอนอายุ ๙๖ ปี แล้วท่านไปเอาลูกชาย อายุ ๗๗ ปี มาช่วยดูแลส่งปิ่นโต หิ้วปิ่นโตจากโรงครัวมากุฏิ ลูกชายก็แก่จนเดินสั่นงั่ก ๆ ถ้าถืออะไรที่เป็นน้ำ ๆ ก็หกมาเป็นทางเลย ส่วนหลวงปู่อายุ ๙๖ ปีห่างกันเกือบ ๒๐ ปี เดินได้สบาย ท้ายสุดหลวงปู่ทองเทศมรณภาพตอนอายุ ๑๐๓ ปี"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 08-08-2013 เมื่อ 03:10
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 229 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #16  
เก่า 07-08-2013, 21:43
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,443
ได้ให้อนุโมทนา: 151,071
ได้รับอนุโมทนา 4,399,676 ครั้ง ใน 34,032 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

พระอาจารย์เล่าว่า "ความจริงพระนาคปรกเนื้อเงิน ๒ เซนติเมตร อาตมาคิดว่าจะยังไม่เอาออกมาให้บูชา กะว่าจะออกสักปีหน้า เพราะว่าระยะนี้ไม่ได้ทำวัตถุมงคลอะไร ปรากฏว่าไปสั่งซื้อทองคำมา ๓๐๐ บาท บรรดาพระที่วัดท่าขนุนก็เลยถวายเงินร่วมซื้อคนละ ๑๐,๐๐๐ - ๒๐,๐๐๐ บาท ไม่รู้ว่าจะเอาอะไรให้ท่าน ก็เลยตัดใจเอาพระนาคปรกเนื้อเงินแท้ ๒ เซนติเมตรถวายท่านไป คราวนี้ให้พวกท่านไปเสียเยอะ กลัวว่าพวกเราที่อยู่ไกลจะไม่ได้กัน จึงต้องให้เขาเปิดกระทู้ร่วมบุญกัน "
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 08-08-2013 เมื่อ 03:10
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 227 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #17  
เก่า 08-08-2013, 09:55
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,443
ได้ให้อนุโมทนา: 151,071
ได้รับอนุโมทนา 4,399,676 ครั้ง ใน 34,032 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : หลวงปู่พุทธะอิสระโจมตีหลวงปู่เณรคำ ?
ตอบ : ปล่อยเขา ให้เขาทะเลาะกันไป จริง ๆ แล้วเรื่องอย่างนี้ไม่ควรมี พระพุทธเจ้าท่านตรัสเอาไว้แล้วว่า เราไม่ควรกล่าววาจาอันเป็นเหตุให้เถียงกัน วาจาอันเป็นเหตุให้เถียงกันทำให้ต้องพูดมาก บุคคลที่พูดมากจิตใจย่อมฟุ้งซ่าน บุคคลที่ฟุ้งซ่านย่อมห่างจากสมาธิ

อย่างปัจจุบัน หลวงปู่พุทธะอิสระไปเล่นเรื่องของเณรคำกับมหาเถรสมาคม ว่ามหาเถรสมาคมไม่จัดการ ซึ่งในเรื่องของพระ ถ้าเรามีความเข้าใจจริง ๆ จะทราบว่าต้องไปทีละขั้น เจ้าอาวาสรายงานตำบล ตำบลรายงานอำเภอ อำเภอรายงานจังหวัด จังหวัดรายงานภาค ภาคถึงรายงานเข้ามหาเถรสมาคม แล้วไม่ใช่เข้ามหาเถรสมาคมโดยตรง ต้องไปหาเจ้าคณะหนก่อน ในเมื่อข้างบนสุดนั่งอยู่ เรื่องยังมาไม่ถึง แล้วจะไปจัดการได้อย่างไร ?

สมัยอาตมาเป็นเลขานุการหลวงพ่อจังหวัดกาญจนบุรี ไม่มีเรื่องอะไรถึงท่านเลย จบอยู่แค่อาตมาทั้งหมด ผู้ใหญ่ไม่ต้องกระทบกระเทือน คราวนี้ท่านเองท่านไม่เข้าใจขั้นตอน รู้อยู่อย่างเดียวว่ามีอำนาจอยู่ในมือทำไมไม่จัดการ ? ถ้าตัวเองออกมาจัดการ กลายเป็นว่าอยู่ในลักษณะทำลายกัน ฉะนั้น..ลักษณะทำลายกัน ถ้าเป็นการจัดการเพื่อความดีความงามของคณะสงฆ์ก็แล้วไป แต่คราวนี้จากที่ฟังท่านให้สัมภาษณ์ ท่านบอกว่า ทางด้านเณรคำทุ่มเงินหลายสิบล้านเพื่อจะล้มท่าน เพราะฉะนั้น..ท่านจะต้องล้มเณรคำให้ได้ ก็กลายเป็นไปหักล้างกันเอง

ถ้าเป็นอย่างนั้นที่พังจริง ๆ ก็คือพระศาสนา คือเรื่องจะผิดจะถูก ต้องว่ากันตามกฎหมาย ตามระเบียบวินัย ไม่ใช่ไปว่ากันตามอารมณ์ ส่วนใหญ่แล้วไม่ค่อยที่จะสนใจฟังข้อเท็จจริง ส่วนใหญ่เราว่ากันตามความรู้สึก คืออารมณ์ล้วน ๆ ถ้าว่ากันตามอารมณ์ล้วน ๆ นี่ โอกาสพลาดมีสูงมาก

แบบเดียวกับคดีของคุณเอกยุทธ อัญชันบุตร ทางฝ่ายนิติเวช ทางฝ่ายสอบสวน ทุกอย่างลงที่ฆ่าชิงทรัพย์ เพราะว่าทนเห็นเงินมากไม่ได้ หลักฐานพิสูจน์สอดคล้องกับคำสารภาพของผู้ลงมือ แต่ปรากฏว่าปัจจุบันนี้ มีคนพยายามจะคุ้ยขึ้นมาให้เป็นคดีทางการเมือง แล้วสิ่งที่เขาคุ้ยขึ้นมา อย่างเช่นตายเพราะขาดอากาศ น่าจะเป็นการตายเพราะลักษณะนั้น ลักษณะนี้ นั่นเป็นการคิดว่าคาดว่า ไม่ได้มีผลรองรับทางนิติวิทยาศาสตร์เลย ในเมื่อคุณไปคิดว่าคาดว่า ก็ฟังดูว่าความเป็นไปได้นั้นมี แต่ผลพิสูจน์กลับไม่ใช่ ก็เท่ากับว่าไปทำให้บ้านเมืองร้อนขึ้นเฉย ๆ
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย เถรี : 08-08-2013 เมื่อ 17:23
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 218 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #18  
เก่า 08-08-2013, 09:59
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,443
ได้ให้อนุโมทนา: 151,071
ได้รับอนุโมทนา 4,399,676 ครั้ง ใน 34,032 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

พระอาจารย์กล่าวกับญาติโยมที่จะไปสแกนดิเนเวียว่า "ถ้าไปสแกนดิเนเวียต้องไปตามรอยพระพุทธเจ้าหลวง สมัยนั้นท่านไปกันครั้งหนึ่งครึ่งค่อนปีเลย เพราะว่าการเดินทางลำบาก สมัยเรามีโอกาสต้องไปดูว่า พระองค์ท่านเสียสละขนาดไหน เจ็บไข้ได้ป่วยอยู่แท้ ๆ แต่กลับต้องออกไปทำงานเพื่อประเทศชาติ"

ถาม : แล้วท่านไปยุโรปทำไมคะ ?
ตอบ : ไปอุทิศส่วนกุศลให้เขา ตั้งใจว่าใครก็ตามที่เสียชีวิตอยู่ในบริเวณนี้ตั้งแต่อดีตถึงปัจจุบัน จะได้รับความสุขก็ดี จะได้รับความทุกข์ก็ดี ขอให้โมทนาในส่วนกุศลที่เราบำเพ็ญแล้ว และอุทิศไป ถ้าไม่ให้เดี๋ยวเขาตามทวงไม่ได้หลับไม่ได้นอนทั้งคืน ขนาดไปอินโดนีเซียเขายังกวนอาตมาแทบไม่ได้นอน ต้องลุกมาอุทิศส่วนกุศลให้ก่อน

อาตมาไปยุโรปครั้งนี้ มีบรรดาตัวแสบในยุคนั้นมาเยอะเลย แต่มาช่วยงานนะ ถ้ามาอย่างอื่นก็ไม่เล่นด้วยหรอก มาช่วยอำนวยความสะดวกในการเดินทางให้
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 08-08-2013 เมื่อ 16:08
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 220 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #19  
เก่า 08-08-2013, 10:04
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,443
ได้ให้อนุโมทนา: 151,071
ได้รับอนุโมทนา 4,399,676 ครั้ง ใน 34,032 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : อยากจะย้ายที่ทำงาน เปลี่ยนงานใหม่ ?
ตอบ : จำไว้ว่าไปที่ไหนก็ตามมักจะลำบากพอกันนั่นแหละ แต่สำคัญตรงที่เราทำอยู่ เรารู้ทางหนีทีไล่หรือเปล่า ? อยู่แถว ๆ นี้เรายืนได้เต็มตีนแล้ว ถ้าไปที่อื่นเราต้องไปเริ่มต้นใหม่ ส่วนใหญ่คนเราไม่ได้คิดถึงตรงจุดนี้

เรื่องของการทำงาน ส่วนใหญ่พอเราเจอแรงกดดันมาก ๆ เข้าแล้วอยากเปลี่ยนงาน โดยที่ลืมไปว่าการเปลี่ยนงาน เราต้องไปเริ่มต้นนับหนึ่งใหม่กับที่อื่น แต่ตรงจุดที่เราทำนี่เรารู้ทางหนีทีไล่หมดแล้ว อย่างน้อย ๆ ยืนได้เต็มตีนมากกว่า

บางอย่างคนอยู่วงในมองไม่เห็น ต้องให้คนข้างนอกบอก ก็แบบเดียวกับต่างประเทศหลายประเทศจ้างคนไทยทำงาน ทั้ง ๆ ที่ค่าแรงเมืองจีนถูกกว่าตั้งเยอะ พอสงสัยสอบถามเขาว่าทำไมไม่ย้ายฐานการผลิตไปเมืองจีน เขาบอกว่าอยู่เมืองไทยปลอดภัยกว่า ถ้าไปเมืองจีนจะโดนทำเลียนแบบเมื่อไรก็ไม่รู้ พูดง่าย ๆ ก็คืออยู่ ๆ สินค้าของคุณจะเต็มตลาดเลย แต่ไม่ใช่ของคุณหรอก

แต่ถ้าอยู่ในไทยนี่สั่งเท่าไรทำแค่นั้น ฉะนั้น..เรื่องของความซื่อสัตย์ซื่อตรงเป็นที่เชื่อถือได้ เพราะลูกค้ายังมีมากกว่า เขาก็ยอมจ่ายแพงหน่อย
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 08-08-2013 เมื่อ 16:09
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 217 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #20  
เก่า 08-08-2013, 10:20
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,443
ได้ให้อนุโมทนา: 151,071
ได้รับอนุโมทนา 4,399,676 ครั้ง ใน 34,032 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

พระอาจารย์กล่าวว่า "เรื่องของลาภการพนัน ตั้งแต่อดีตต้องได้ทำบุญแบบไม่ตั้งเจตนาเอาไว้ อย่างเช่นไปเจอเขาถวายสังฆทานแล้วร่วมถวายไปกับเขา ไปเจอเขาสร้างพระพุทธรูปอยู่ก็ลงไปร่วมลุยกับเขา ทำบุญใหญ่โดยไม่เจตนา เรื่องนี้ออกไปในเรื่องการพนัน ต่อให้ไม่ต้องการก็ได้

แบบเดียวกับจ่าตำรวจที่ตาคลี เพื่อนไปซื้อหวยมาคู่หนึ่ง แล้วกินเหล้าอยู่ด้วยกัน สงสัยว่าเงินจะหมดแต่อยากกินเหล้าต่อ เอาหวยยัดให้เพื่อน เพื่อนไม่ซื้อ ตอนนั้นถ้าจำไม่ผิดคู่ละ ๘๐ บาท ท้ายสุดก็เลยลดให้ ๕๐ บาท เพื่อนก็รับแบบเสียไม่ได้ รุ่งขึ้นดันถูกรางวัลที่ ๑ ได้เงิน ๖ ล้านบาท เงินอยู่ในมือตัวเองไปยัดให้คนอื่น แถมไปลดราคาให้ด้วย เพราะฉะนั้น..ถ้าบุญทำไว้ ถึงเวลาก็มาเอง"


ถาม : (ไม่ได้ยิน)
ตอบ : ไม่ใช่มากกว่าจ้ะ ถ้าทำบุญโดยเจตนาจะเป็นเศรษฐีไปเลย แต่ถ้าบุญแบบไม่เจตนานี่ต้องรอลาภการพนัน อาตมาเองทำทุกท่า ตั้งใจทำก็เอา ไม่เจตนา เจอที่ไหนก็ทำกับเขาก็ได้ เพราะฉะนั้น..ถ้าเผลอเกิดใหม่นี่รับรองนับเงินไม่ไหว ดูอย่างคุณทักษิณ ขนาดโดนยึดทรัพย์ไปตั้งกี่หมื่นล้าน นี่เขาเพิ่งจะประกาศว่ามีอีก ๕๓,๐๐๐ ล้านบาท..!
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 08-08-2013 เมื่อ 16:10
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 214 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
ตอบ


ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 1 คน ( เป็นสมาชิก 0 คน และ บุคคลทั่วไป 1 คน )
 
คำสั่งเพิ่มเติม

กฎการส่งข้อความ
You may not post new threads
You may not post replies
You may not post attachments
You may not edit your posts

BB code is ใช้ได้
Smilies are ใช้ได้
[IMG] code is ใช้ได้
HTML code is งดใช้

Forum Jump


เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 11:10



ค้นหาในเว็บวัดท่าขนุน

เว็บวัดท่าขนุน Powered by vBulletin
Copyright © 2000-2010 Jelsoft Enterprises Limited.
ความคิดเห็นส่วนตัวทุก ๆ ข้อความในเว็บบอร์ดนี้ สงวนสิทธิ์เฉพาะเจ้าของข้อความ ไม่อนุญาตให้คัดลอกออกไปเผยแพร่ นอกจากจะได้รับคำอนุญาตจากเจ้าของข้อความอย่างชัดเจนดีแล้ว