กระดานสนทนาวัดท่าขนุน


กลับไป   กระดานสนทนาวัดท่าขนุน > ห้องธรรมะพระอาจารย์ > เก็บตกจากบ้านวิริยบารมี

Notices

เก็บตกจากบ้านวิริยบารมี เก็บข้อธรรมจากบ้านวิริยบารมีมาฝาก สำหรับผู้ที่ไม่มีโอกาสเดินทางไป

ตอบ
 
คำสั่งเพิ่มเติม
  #21  
เก่า 08-06-2012, 09:05
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,495
ได้ให้อนุโมทนา: 151,165
ได้รับอนุโมทนา 4,405,420 ครั้ง ใน 34,084 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : อยากให้สอนสมาธิให้เด็ก ๆ ค่ะ
ตอบ : ถ้าอยากฝึกสมาธิต้องมาตอนเย็น ๆ ถ้าเด็ก ๆ อยากเก่งให้ทำสมาธิเยอะ ๆ หลวงตาเรียนตอนแก่ ๆ ยังสอบได้ที่ ๑ ตลอด ถ้าทำสมาธิไว้นะจ๊ะ แล้วจะเรียนเก่งทุกคน

ถ้าเรานั่งพุทโธ ๆ เป็นแล้วก็อย่าทิ้ง พุทโธก็ได้ นะมะพะธะก็ได้ สัมมาอะระหังก็ได้ พองหนอยุบหนอก็ได้ ทำสมาธิไว้ทุกวัน วันละนิดวันละหน่อยแล้วจะเก่ง มีโอกาสต้องรีบทำนะจ๊ะ จะได้แซงเพื่อน เอาที่ ๑ มาเลย หลวงตาเรียนตั้งแต่เด็กจนแก่ ยังไม่มีใครแย่งที่ ๑ จากหลวงตาได้เลย

ใช้วิธีหายใจเข้าพุท หายใจออกโธ แล้วก็นับ ๑ พอครบ ๑๐ ก็งอนิ้วไว้หนึ่งนิ้ว แล้วก็พุทโธ ๑ พุทโธ ๒ ไปเรื่อย พอครบ ๑๐ นิ้วเมื่อไรก็ไปวิ่งเล่นได้ เราพุทโธได้ตั้ง ๑๐๐ เดี๋ยวนี้ข้าวของแพง ถ้าหาได้ไม่ถึง ๑๐๐ บาท ก็ไม่พอกิน ดังนั้นพุทโธก็เลยต้องให้ได้วันละ ๑๐๐ ครั้งด้วย (หัวเราะ)

ขอให้เรียนเก่ง ๆ นะจ๊ะ สมองคนพัฒนาได้ลูก สมองคนพัฒนาตามสมาธิ ถ้าสมาธิดี สมองจะดีเอง
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 08-06-2012 เมื่อ 10:23
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 231 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #22  
เก่า 08-06-2012, 10:11
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,495
ได้ให้อนุโมทนา: 151,165
ได้รับอนุโมทนา 4,405,420 ครั้ง ใน 34,084 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

พระอาจารย์กล่าวว่า "เสาเสมาธรรมจักร เป็นรางวัลผู้ทำคุณประโยชน์ต่อพระพุทธศาสนา ต้องถือว่าเป็นรางวัลที่ได้ยากที่สุดของสายพระ เมื่อรับมาแล้ว อาตมากับหลวงพ่อปรีชา วัดเขาอิติสุคโต ก็นั่งมองหน้ากัน "ต่อไปก็ไม่เหลือรางวัลอะไรให้เราแล้วสิ"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 08-06-2012 เมื่อ 10:24
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 232 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #23  
เก่า 08-06-2012, 11:01
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,495
ได้ให้อนุโมทนา: 151,165
ได้รับอนุโมทนา 4,405,420 ครั้ง ใน 34,084 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

พระอาจารย์กล่าวถึงงานฉลองพัดยศว่า "หนังสือปกิณกธรรม ๓ พระนาคปรกชุบทองพ่นทรายและกระเป๋าสตางค์ ไทยธรรมงานอาตมามีเท่านี้แหละ มั่นใจว่าพระท่านต้องพอใจ เพราะไทยธรรมมาก เงินในซองจะน้อย แต่ถ้าไทยธรรมน้อย เงินในซองจะมาก เป็นเรื่องปกติอยู่แล้ว

เวลาพระผู้ใหญ่ท่านเดินทางไกล ๆ ข้าวของท่านมาก ท่านก็ขนกันลำบาก ของบางอย่าง เช่น กระเช้าผลไม้ หรือกระเช้าเครื่องดื่ม ของพวกนั้นหมดอายุได้ แต่ละท่านก็มีของพวกนี้เป็นคันรถสิบล้อทั้งนั้น เพราะฉะนั้น..เราพับปัจจัยใส่ซองถวายท่านน่าจะดีที่สุด

ความจริงอยากจะนิมนต์หลวงพ่อสมเด็จฯ ท่านไป แต่ระยะทางไกลมาก การเดินทางต้องใช้ความเร็วสูง ไม่อย่างนั้นจะไม่ทันเวลา ก็เลยตัดใจไม่นิมนต์ เพราะถ้าเกิดอุบัติเหตุอะไรขึ้นมา การสูญเสียท่านเป็นเรื่องที่เหลือที่จะรับได้ นิมนต์พระระดับรอง ๆ ลงไปก็แล้วกัน

ตอนนี้หลวงพ่อสมเด็จฯ ที่ออกงานได้จริง ๆ ก็มีหลวงพ่อสมเด็จฯ วัดปากน้ำกับหลวงพ่อสมเด็จฯ วัดพิชัยญาติ พอหลวงพ่อสมเด็จ ฯ วัดพิชัยญาติรับตำแหน่งเข้าไปก็โทรมจนดูไม่ได้เลย ถึงได้รู้ว่าประเภทงานหัวไม่วางหางไม่เว้นเป็นอย่างไร วันหนึ่งรับ ๗ - ๘ งาน เขานิมนต์จะไม่ไปก็เสียน้ำใจ ไปก็อยู่นานไม่ได้เพราะงานต่อไปรออยู่ ไปแค่ให้เจ้าภาพเห็นหน้าแล้วก็ต้องรีบไปต่ออีกงานหนึ่ง"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 08-06-2012 เมื่อ 12:15
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 226 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #24  
เก่า 08-06-2012, 11:13
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,495
ได้ให้อนุโมทนา: 151,165
ได้รับอนุโมทนา 4,405,420 ครั้ง ใน 34,084 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

พระอาจารย์กล่าวว่า "เรื่องของวัตถุมงคล บางทีคนใกล้ตัวไม่ค่อยเห็นประโยชน์ ไม่เห็นความสำคัญ สมัยหลวงพ่อวัดท่าซุงยังอยู่ อาตมาไปเอาพระคำข้าว พระหางหมาก ครั้งหนึ่ง ๓๐๐ , ๕๐๐ , ๗๐๐ องค์ เพราะรู้ว่าเงินอยู่กับอาตมาก็มีประโยชน์น้อย แต่ถ้าอยู่กับหลวงพ่อท่านเอาไปใช้สร้างความเจริญให้กับพระพุทธศาสนาอยู่แล้ว

พอเวลาอาตมาทำบุญหลวงพ่อท่านก็ให้เป็นพระมา ทำทีหนึ่งคนอื่นก็บอกว่าบ้า เอาพระไปทำไมเยอะแยะ ? พอสิ้นหลวงพ่อ พระขึ้นราคาพรวดไปเป็นองค์ละ ๑๐๐ บาท พวกที่ว่าอาตมาบ้านั่นแหละ มาเอาพระจากอาตมาไปเกลี้ยงเลย แล้วเขาให้องค์ละ ๑๐ บาทเท่านั้น เพราะออกมาช่วงแรก ๆ ราคาแค่องค์ละ ๑๐ บาท"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 08-06-2012 เมื่อ 12:18
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 228 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #25  
เก่า 08-06-2012, 11:30
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,495
ได้ให้อนุโมทนา: 151,165
ได้รับอนุโมทนา 4,405,420 ครั้ง ใน 34,084 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

พระอาจารย์กล่าวว่า "ตำราสร้างพระกริ่งเพื่อรักษาโรค สืบทอดมาจากสมเด็จพระพนรัตน์ วัดป่าแก้ว สืบสายมาเรื่อย ๆ จนมาปรากฏเด่นชัดในสมัยสมเด็จฯ กรมพระยาปวเรศวริยาลงกรณ์ ปัจจุบันพระกริ่งที่ท่านสร้าง เป็นพระกริ่งอันดับหนึ่งของประเทศไทย ซ้ำยังมีแค่ไม่กี่องค์ เขามั่นใจว่าน่าจะไม่เกิน ๓๐ องค์ แต่ในวงการมีเกิน ๓๐๐ องค์ ไม่รู้องค์ไหนจริงองค์ไหนปลอม

เพราะสมัยก่อนท่านจะสร้างตามกำลังวัน ถ้าวันเกิดตรงกับวันอาทิตย์ก็สร้างได้แค่ ๖ องค์ วันเกิดปีนั้นตรงกับวันศุกร์ก็สร้างได้ ๒๑ องค์ ในเมื่อสร้างตามกำลังวันก็เลยมีน้อย แล้วท่านเองเป็นเชื้อพระวงศ์ด้วย รับมหาสมณุตตาภิเษกเป็นพระมหาสมณเจ้า กรมพระยาปวเรศวริยาลงกรณ์ ท่านก็เลยทำแจกบรรดาเชื้อพระวงศ์ที่ไปมาหาสู่กันเป็นปกติ ทำแค่ไม่กี่องค์ แต่ว่าฝีมือสุดยอดมาก ใช้แบบพระกริ่งใหญ่ประเทศจีน

สมัยก่อนเวลาคนจีนเดินทางไปค้าขายต่างประเทศ จะพกของที่ตัวเองมั่นใจไปด้วย ก็พกพระกริ่งใหญ่แบบนั้น มีทั้งเนื้อสำริด เนื้อโลหะเปียกทอง สมัยนั้นเขาไม่เรียกชุบทอง เขาเรียกเปียกทอง เพราะว่าไม่ได้ใช้ระบบไฟฟ้า แต่ว่าใช้ความร้อนเป็นตัวทำละลาย ถ้าจะหลอมโลหะพวกนี้เข้าด้วยกัน อุณหภูมิต้องเกิน ๑,๐๐๐ องศาเซลเซียส เงินจะหลอมละลายจริง ๆ ที่อุณหภูมิประมาณ ๙๐๐ องศาเซลเซียส ส่วนทองคำหลอมละลายที่อุณหภูมิ ๑,๑๐๐ องศาเซลเซียส"

ถาม : เวลาหล่อพระ เอาทองไปใส่เบ้า ทองจะหลอมหรือคะ ?
ตอบ : ละลายเลย เพราะเบ้าที่ใช้เผามีความร้อนสูงกว่านั้น ละลายเป็นน้ำเดี๋ยวนั้นเลย
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 08-06-2012 เมื่อ 12:20
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 224 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #26  
เก่า 08-06-2012, 11:35
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,495
ได้ให้อนุโมทนา: 151,165
ได้รับอนุโมทนา 4,405,420 ครั้ง ใน 34,084 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

พระอาจารย์กล่าวว่า "ประกาศแจ้งให้โยมทราบ คนที่โอนเงิน ๘๔,๐๐๐ บาทเข้ามาเมื่อครู่ ไม่ได้อะไรนอกจากจะโอนมาถวายฟรี ๆ จะไปคิดว่าโอนเงินแล้วจะบีบอาตมาให้สร้างพระขรรค์ขึ้นมาอีกเล่มหนึ่ง..ไม่ได้หรอก งานนี้พระท่านบอกแล้วว่าเสกให้เฉพาะ ๘๔ เล่มแค่นั้น ใครเอาของอื่นไปเข้าพิธีก็ไม่มีประโยชน์"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 08-06-2012 เมื่อ 12:20
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 226 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #27  
เก่า 08-06-2012, 11:41
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,495
ได้ให้อนุโมทนา: 151,165
ได้รับอนุโมทนา 4,405,420 ครั้ง ใน 34,084 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : หลวงปู่....(ไม่ชัด)
ตอบ : ไม่ต้องห่วง ก่อนหน้านี้ท่านเป็นพุทธภูมิ ปัจจุบันนี้เลิกเป็นแล้ว จบหรือยัง ?

ถาม : คนเขาไปลือกันว่าท่าน..
ตอบ : ต้องถามท่าน คนเขาลือถึงท่าน ถ้าเขาลือถึงอาตมาจะบอกได้

เรื่องการทำนายเกี่ยวกับอดีตของคนนั้น อนาคตของคนนี้ อาตมาไม่เห็นประโยชน์อะไรเลย เพราะคนสมัยนี้ปัญญาไม่ถึง พระพุทธเจ้าทรงเล่าชาดกและพยากรณ์ว่า ท้ายสุดคนนั้นเป็นอย่างนั้น คนนี้เป็นอย่างนี้ เขาก็ได้มรรคผลกัน สมัยนี้พยากรณ์ให้ตายนอกจากไม่ได้มรรคผลแล้ว ยังยึดติดมากขึ้นอีก เพราะปัญญาไม่พอ

สมัยนั้นเขามองเห็นเลยว่า โอนี่..เราเกิดมานับชาติไม่ถ้วนแล้วยังไม่พ้นทุกข์เสียที เกิดกี่ชาติก็ทุกข์อย่างนี้ อย่าไปเกิดอีกเลย ท่านตัดใจได้ก็เป็นพระอรหันต์ไปเลย สมัยนี้เล่าให้ฟัง เขาก็ฟังเป็นนิทานเฉย ๆ

นี่ยังลังเล ๆ อยู่ว่าผจญกรรมตอนต่อไปจะลงดีไหม ? เพราะเดี๋ยวตัวตนจะชัดเจนขึ้นมา ยกเว้นคุณสุธรรมแอบขโมยไปลงอีก ตานี่ไม่ไหว..เข้าถึงความลับอยู่เรื่อย..!
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 08-06-2012 เมื่อ 12:21
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 239 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #28  
เก่า 12-06-2012, 15:47
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,495
ได้ให้อนุโมทนา: 151,165
ได้รับอนุโมทนา 4,405,420 ครั้ง ใน 34,084 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

พระอาจารย์กล่าวถึงพระปิดตารุ่น ๒ "พระปิดตารุ่นนี้เป็นรุ่นที่เซียนปลอมไม่ได้ เพราะว่าแบบชำรุด พลิกดูข้างหลังองค์พระจะเห็นว่ามีตุ่มยื่นออกมานิดหนึ่ง จะมีอยู่จุดหนึ่งเป็นจุดที่ปลอมไม่ได้ ถ้าถอดแบบไปก็จะตื้น

แบบชำรุดเอง เหมือนอย่างกับตั้งใจทำให้ชำรุดเลย"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 12-06-2012 เมื่อ 16:24
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 222 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #29  
เก่า 12-06-2012, 15:51
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,495
ได้ให้อนุโมทนา: 151,165
ได้รับอนุโมทนา 4,405,420 ครั้ง ใน 34,084 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : เอาวัตถุมงคลไปเข้าพิธีเป่ายันต์เกราะเพชรรอบนี้ได้ไหมครับ ?
ตอบ : ได้..เป่ายันต์เกราะเพชรก็เอาวัตถุมงคลเข้าพิธีอยู่แล้ว แต่ถ้าจะเอาอานุภาพแบบพระขรรค์โสฬสคงไม่ได้ ท่านให้แค่นั้น ใครจองพระขรรค์เอาไว้ก็รับไปแค่นั้น แต่ขออภัย...ใครมีพระขรรค์โสฬสนี่อย่าเอาไปรังแกเทวดานะ ตอนรังแกท่านไม่สู้หรอก เผลอเมื่อไรท่านเอาคืน..!

ถาม : แล้วให้เสก...ได้เหมือนเดิมหรือไม่ครับ ?
ตอบ : อะไรที่พระท่านเคยให้ ครั้งต่อไปท่านจะไม่ให้น้อยกว่านั้น ยกเว้นว่ามีอะไรพิเศษท่านจะบอกเพิ่มต่างหาก หลวงพ่อวัดท่าซุงท่านถึงได้บอกว่า สายของท่านนี่หาวัตถุมงคลรุ่นสุดท้ายไว้ ที่ผ่าน ๆ มาได้เท่าไรรุ่นสุดท้ายก็ได้ทั้งหมด ใครก็ตามที่ได้วัตถุมงคลสายวัดท่าขนุนคงยิ้มได้ เพราะยังไม่มีคำสั่งให้สร้างอีก คาดว่าหมดตรงพระนาคปรกลอยองค์ชุดสุดท้ายนี่คงว่างไปเป็นปี ๆ
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย เถรี : 12-06-2012 เมื่อ 16:44
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 221 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #30  
เก่า 12-06-2012, 16:27
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,495
ได้ให้อนุโมทนา: 151,165
ได้รับอนุโมทนา 4,405,420 ครั้ง ใน 34,084 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : ลูกน้องที่ทำงานเขาป่วยทางจิต ทำอย่างไรดี ?
ตอบ : ก็ทนไปสิ..ถ้าไม่กล้าไล่เขาออกก็ต้องยอมทนไป ต้องหาให้ได้ว่าเขากลัวอะไร แล้วก็ใช้สิ่งนั้นขู่เขา เคยดูเรื่องจริงผ่านจอไหม ? เจ้าแม่ตะเคียนทองไปโรงพักแล้วไปขู่ตำรวจ เจอสารวัตรใหญ่ตะคอกทีเดียวหัวหดเลย สารวัตรใหญ่บอกว่ากูเป็นพระอินทร์ ถ้ามึงเรื่องมากเดี๋ยวกูจะสาปให้เป็นลิง..! เล่นเอาเจ้าแม่ตะเคียนทองหงอไปเลย บ้าขนาดนั้นเขายังขู่ได้เลย ฉะนั้น..เราก็หาจุดอ่อนเขาบ้างสิ
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 12-06-2012 เมื่อ 16:30
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 208 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #31  
เก่า 12-06-2012, 17:00
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,495
ได้ให้อนุโมทนา: 151,165
ได้รับอนุโมทนา 4,405,420 ครั้ง ใน 34,084 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : ภาพนิมิตเปลี่ยนแปลงไปจากเดิม ต้องทำอย่างไรครับ ?
ตอบ : เปลี่ยนแปลงไป..ถ้าหากว่าเป็นการปฏิบัติในพุทธานุสติ แล้วยังเป็นพระพุทธรูปอยู่ จะเปลี่ยนเป็นปางอื่นก็ไม่เป็นไร จับภาพต่อไปได้เลย แต่ถ้าหากเรากำหนดพระพุทธรูปอยู่ แต่ว่าเกิดรูปเทวดาหรือว่ารูปพระสงฆ์มาแทนนี่ให้ทิ้งไปเลย แล้วก็จับภาพพระพุทธรูปใหม่
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 12-06-2012 เมื่อ 17:32
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 212 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #32  
เก่า 12-06-2012, 17:44
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,495
ได้ให้อนุโมทนา: 151,165
ได้รับอนุโมทนา 4,405,420 ครั้ง ใน 34,084 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

พระอาจารย์กล่าวว่า "ถ้าทำบุญต้องทำอย่างอาตมา มีเท่าไรเทโครมเดียวไปเลย เวลาได้อะไรก็จะได้มาเป็นชุดเหมือนกัน สังเกตตัวเองมาหลายทีแล้ว เวลาจะรับอะไรก็มักจะรับทีหนึ่งไม่ต้องไม่ลืมหูลืมตาไปเลย"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 12-06-2012 เมื่อ 17:55
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 223 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #33  
เก่า 12-06-2012, 22:00
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,495
ได้ให้อนุโมทนา: 151,165
ได้รับอนุโมทนา 4,405,420 ครั้ง ใน 34,084 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

พระอาจารย์กล่าวว่า "เราเรียกส้มตำ แต่ทำไมถึงเป็นมะละกอตำ ? เพราะคำว่า "ส้ม" ไม่ได้แปลว่าส้มที่เป็นผล แต่ส้มในที่นี้แปลว่าเปรี้ยว อะไรที่ตำแล้วรสชาติออกเปรี้ยวเรียกว่าตำส้ม เช่น อีสานว่าตำส้มบักหุ่ง ส่วนเราเรียกส้มตำ

เรื่องของภาษาลักลั่นกันมาก ถ้าไปอีสานสั่งไก่ย่างไม่มีหรอก เพราะย่างแปลว่าเดิน (หัวเราะ) ที่นั่นต้องใช้คำว่า "ปิ้งไก่" ถึงจะได้กิน ไปสั่งน้ำอย่าสั่งเป็นแก้ว ถ้าสั่งเป็นแก้วจะได้เป็นขวด เพราะแก้วของเขาก็คือขวด ถ้าแก้วแบบบ้านเราเขาเรียกว่าจอก"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 13-06-2012 เมื่อ 02:32
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 209 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #34  
เก่า 12-06-2012, 22:20
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,495
ได้ให้อนุโมทนา: 151,165
ได้รับอนุโมทนา 4,405,420 ครั้ง ใน 34,084 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

"พอรู้หลาย ๆ ภาษาก็สนุกดี แต่อาตมาไปเมืองจีนแล้วใช้ภาษาที่นั่นไม่ได้ เพราะภาษาที่อาตมาใช้เป็นภาษาที่ปู่ย่าพ่อแม่พูด ตกยุคไป ๗๐-๘๐ ปีแล้ว ปู่ย่ามาจากเมืองจีนอย่างไรเขาก็ใช้อย่างนั้น แต่เมืองจีนพัฒนาภาษาไปเรื่อย พวกเราไปที่นั่นพูดไปเขาพอรู้เรื่อง แต่ที่เขาพูดมาเราฟังไม่รู้เรื่องเลย

พอเข้าไปในวังต้องห้าม ถึงได้รู้ว่าเขาตีวังยากเย็นนักหนาเพราะประตูทางเข้าใหญ่ที่สุดแค่ม้า ๓ ตัวเรียงกัน ศัตรูมามากแค่ไหน ก็เข้าได้แค่ทีละ ๓ - ๕ คน

พอเข้าไปจนถึงด้านในของวัง บรรดาที่พักของฮองเฮาหรือสนมกำนัล รู้สึกว่ามืด ๆ ทึบ ๆ ถ้าสมัยนั้นไม่ได้ใช้ไฟช่วย คาดว่าคนสมัยนั้นต้องสายตาดีเป็นพิเศษ และไม่ต้องห่วง..พวกที่มาขอส่วนบุญมีเพียบเลย ตายแล้วไม่ได้ผุดไม่ได้เกิด บางทีเป็นประเภทจิตใจอาฆาตพยาบาท ไม่รับอะไรเลยก็มี ตายเพราะโดนใส่ร้าย อยุติธรรมอะไรพวกนี้

เรื่องของในรั้วในวัง สภาพจริง ๆ ในสมัยนั้นอยู่ในลักษณะที่ว่า เหยียบใครลงไปได้ก็ต้องรีบเหยียบ เพราะฮ่องเต้แต่ละองค์มีพระสนมเป็นพัน ถ้าใครมีลูกชายก็จะกลายเป็นเป้าทันที ทีนี้ไม่ใช่มีลูกชายคนเดียว ยังมีคุณชายที่ ๑ คุณชายที่ ๒ จนถึงที่ ๑๐ อาจจะถึงที่ ๑๐๐ ก็ต้องแย่งชิงกัน พออยู่ในภาวะได้เปรียบ เหยียบใครลงไปได้ก็ต้องเหยียบเลย ทำให้บางคนที่ไม่รู้อิโหน่อิเหน่โดนโยนความผิดให้ ต้องตายอย่างทุกข์ทรมานด้วยความเคียดแค้น ขนาดพระจะอุทิศส่วนกุศลให้ เขายังไม่เอาเลย"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 13-06-2012 เมื่อ 02:34
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 215 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #35  
เก่า 12-06-2012, 22:39
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,495
ได้ให้อนุโมทนา: 151,165
ได้รับอนุโมทนา 4,405,420 ครั้ง ใน 34,084 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

พระอาจารย์กล่าวว่า "ภาษิตจีนบอกว่าวีรบุรุษกลัวการเจ็บไข้ได้ป่วย วีรบุรุษให้ออกรบกี่ร้อยสนามก็สู้ แต่เจ็บไข้ได้ป่วยที่มาจากข้างในนั้นสู้ไม่ได้"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 13-06-2012 เมื่อ 02:35
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 216 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #36  
เก่า 12-06-2012, 22:57
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,495
ได้ให้อนุโมทนา: 151,165
ได้รับอนุโมทนา 4,405,420 ครั้ง ใน 34,084 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : ขอเมตตาจารตะกรุดมหาสะท้อนครับ
ตอบ : เลิกทำแล้ว ม้วนไม่ไหว นิ้วหมดแรง ไปรอประมูลเอาก็แล้วกัน

ไม่น่าเชื่อว่ามีตะกรุดมหาสะท้อนของปลอมแล้ว มีโยมเขาแกะมาให้ดู ถามว่าใช่ไหม ? อาตมาบอกว่าไม่ใช่ลายมืออาตมา ใครจารมาก็ไม่รู้ ? ที่ตลาดท่าพระจันทร์ปลอมกันเยอะ เห็นมีพระกริ่งพิชัยสงคราม มีพระองค์ที่ ๑๑ เขาปลอมกระทั่งพระองค์ที่ ๑๑ องค์ใหญ่ มีเหรียญจักรพรรดิ ฯลฯ ปลอมกระจายเลย ขนาดวัตถุมงคลของอาตมาไม่เข้าวงการยังปลอมขนาดนี้ เข้าวงการเมื่อไรจะปลอมกันขนาดไหน

ถาม : ถ้าปลอมตะกรุดมหาสะท้อนนี่ดูยากไหมครับ ?
ตอบ : ดูลายมือออก แต่จะเสียตอนแกะออกมาดู

ถาม : แล้วจะมีวิธีดูอย่างไรครับว่าของจริงหรือของปลอม ?
ตอบ : ทุกคนที่ได้ตะกรุดมหาสะท้อนไปจะมีรายชื่ออยู่ที่อาตมา ที่อาตมาขอชื่อไปก็เพราะอย่างนี้แหละ ถึงเวลาเรารับมาจากใครนี่สาวต่อไปได้เลยเลย เอ็งรับจากใคร ไล่ไปจนถึงชื่อที่รับจากมือ ของใครเนื้อเงิน ของใครเนื้อทองนี่อาตมาแยกไว้หมด อุตส่าห์ตั้งใจทำไว้กันพวกนี้โดยเฉพาะเลย แต่เขาก็ยังปลอมกันได้

ถาม : โค้ตล่ะครับ ?
ตอบ : โค้ตนี่แค่ตัวเลขนะ ถ้าเจอแนน (ศิริลักษณ์ พินิจสุขใจ) ก็เสร็จเขา เพราะลูกคนนี้ปลอมลายมืออาตมาได้เหมือนมาก แต่น้ำหนักมืออาจจะต่างกัน ตอนแรกเขาเอาสมุดเขียนยันต์มาส่งให้ อาตมายังงงว่าตัวเองไปนั่งเขียนเอาตอนไหน คนที่เขาเก่งก็เก่งจริง เลียนแบบลายมืออาตมาได้เหมือนเลย
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 13-06-2012 เมื่อ 02:38
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 221 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #37  
เก่า 12-06-2012, 23:47
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,495
ได้ให้อนุโมทนา: 151,165
ได้รับอนุโมทนา 4,405,420 ครั้ง ใน 34,084 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : ได้ยินว่าคำสอนของท่าน....ขัดกับคำสอนของพระพุทธเจ้า ทุกวันนี้ก็ยังมีคนนิยมเคารพศรัทธาในตัวท่าน จริง ๆ แล้ว..?
ตอบ : อย่างที่เขาว่ามานั่นแหละ

ถาม : ส่วนที่ขัดอยู่
ตอบ : ส่วนที่ขัดอยู่มีเยอะมากเลย แต่พวกนักวิชาการเขาชอบ เขาถือว่าท่านเป็นคนกล้าคิดกล้าทำ

ถาม : ผมเคยเจอคนที่ยกคำสอนของท่านอ้างมาคุยกัน แล้วเกิดประเด็นโต้แย้งกัน
ตอบ : ปล่อยเขาไป ไม่รู้ว่าเขาเลิกโต้เถียงกันในกระทู้นั้นหรือยัง ? ถ้าเป็นอาตมาจะทิ้งเอาไว้ คนบ้าประเภทนี้ต้องมีไว้บ้าง โลกจะได้เจริญ ลักษณะคนอย่างนี้ถ้าเป็นโบราณ เขาเรียกว่าไม่รู้กาลเทศะ เหมือนกับไปด่าเจ้าของบ้านในบ้านเขา..(หัวเราะ)..แต่เขามีความพยายามมากนะ ตามติดกระทู้ ลักษณะเดียวกับบรรดาตัวป่วนในเว็บวัดท่าขนุนนั่นแหละ เขาเข้าใจว่าสิ่งที่เขาทำนั้นถูก แต่เขาลืมไปว่าสิ่งที่ทำนั้นผิดจังหวะ แม้ว่าในสิ่งที่ทำเป็นเรื่องที่ถูก ในเมื่อนำเสนอผิดกาลเทศะก็กลายเป็นก้าวร้าว


__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย เถรี : 13-06-2012 เมื่อ 07:01
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 212 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #38  
เก่า 13-06-2012, 20:48
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,495
ได้ให้อนุโมทนา: 151,165
ได้รับอนุโมทนา 4,405,420 ครั้ง ใน 34,084 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

พระอาจารย์กล่าวว่า "ความจริงวันนี้ที่วัดมีการโกนหัวนาค เทศน์สอนนาค แต่อาตมามารับสังฆทานที่นี่ ก็ต้องให้ท่านอื่นทำแทน ที่วัดจะใช้ระบบที่ว่า เวลาไม่มีเราเขาต้องอยู่กันได้ ก็เลยกลายเป็นระบบงานที่ไม่ได้รวมศูนย์อยู่ที่ตัวคนเดียว พยายามกระจายงานออกให้เขาทำกันเองให้ได้ ใหม่ ๆ เขาก็ไม่เคยชิน มีแต่จะให้อาตมาสั่งถึงจะกล้าทำกัน"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 14-06-2012 เมื่อ 02:31
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 204 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #39  
เก่า 13-06-2012, 21:02
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,495
ได้ให้อนุโมทนา: 151,165
ได้รับอนุโมทนา 4,405,420 ครั้ง ใน 34,084 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : พุทธชยันตี ๒,๖๐๐ ปี ?
ตอบ : เขาเอา พ.ศ. ๒๕๕๕ บวกกับอีก ๔๕ ปีที่พระองค์ท่านตรัสรู้แล้วสั่งสอนประชาชน ก็เป็น ๒,๖๐๐ ปี

ถาม : แล้วเขามีต่อเนื่องกันมาตั้งแต่เริ่มแรกเลยหรือเปล่าครับ ?
ตอบ : เพิ่งจะจัดงานกันไม่นานนี้เอง ครั้งแรกเขาจัด ๒๕ พุทธศตวรรษ ตอน พ.ศ. ๒๕๐๐ แต่ปรากฏว่าการนับ พ.ศ. มีการลักลั่นกัน ทางด้านอินเดีย ลังกา เขานับวันปรินิพพานเป็น พ.ศ. ๑ แต่ทางประเทศไทยนับครบรอบปีปรินิพพานเป็น พ.ศ. ๑ ฉะนั้น..ของเขาจะเร็วกว่าเรา ๓๖๔ วัน ดังนั้น ๒๕ พุทธศตวรรษของเขาจะจัดปี ๒๔๙๙ ของเราจัดปี ๒๕๐๐ เพราะเรานับ พ.ศ.ไม่ตรงกัน

ปัจจุบันนี้เรื่องการแข่งขันทางศาสนามีมาก ก็เลยใช้วิธีหาทางจัดงานสำคัญเกี่ยวกับศาสนาขึ้นมา เมื่อเล็งเห็นว่ามีวาระสำคัญที่พระพุทธเจ้าทรงตรัสรู้ครบ ๒,๖๐๐ ปีพอดี เอา พ.ศ. ๒๕๕๕ กับเวลาที่พระองค์ท่านตรัสรู้แล้วสั่งสอนสัตว์โลกอยู่ ๔๕ ปีรวมกันได้ ๒,๖๐๐ ก็จัดงานสำคัญขึ้นมา ก็แปลว่าอีก ๔๕ ปีข้างหน้าถ้าไม่ตายเสียก่อน จะเห็นงานฉลอง ๒๖ พุทธศตวรรษอีกรอบหนึ่ง

คำว่า พุทธะ หมายถึง องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า คำหลังมาจาก ชยะ ที่แปลว่าชนะ กับ อนันตะ ที่แปลว่าไม่มีที่สิ้นสุด คือ องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงชนะกิเลส เป็นชัยชนะที่ไม่มีอะไรเปรียบได้ เขาก็เลยเรียกพุทธชยันตี
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 14-06-2012 เมื่อ 02:41
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 209 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #40  
เก่า 13-06-2012, 21:13
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,495
ได้ให้อนุโมทนา: 151,165
ได้รับอนุโมทนา 4,405,420 ครั้ง ใน 34,084 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : พระฝางองค์จริงอยู่ที่ไหนครับ ?
ตอบ : องค์จริงอยู่ที่หน้าบันอุโบสถวัดเบญจมบพิตร เขาเชื่อว่าเป็นพระพุทธรูปประจำองค์ของเจ้าพระฝาง ที่สมัยอยุธยาแตกแล้วแข็งเมือง ตั้งใจจะเป็นพระราชาเอง

ก๊กเจ้าพระฝางที่เขาใช้คำว่าพระ เพราะว่าท่านเป็นพระจริง ๆ เป็นพระที่มีชาวบ้านเคารพนับถือมาก ก็เลยรวบรวมชาวบ้านตั้งตัวขึ้นเป็นเจ้า เป็นก๊กเดียวที่ทำเอาพระเจ้าตากเสียท่าไปหน่อย ตีครั้งแรกไม่สำเร็จ ต้องไปใหม่อีกครั้งถึงตีได้ แสดงว่าสุดยอดฝีมือจริง ๆ

ถาม : ท่านเป็นพระแล้วออกรบได้หรือครับ ?
ตอบ : ต้องถามท่านเอง การกระทำของแต่ละคนในแต่ละสถานการณ์ เราไม่สามารถที่จะวิพากษ์วิจารณ์ได้ เพราะท่านอาจจะเห็นว่าเหมาะสม บ้านเมืองอยู่ในลักษณะบ้านแตกสาแหรกขาด ชาวบ้านไม่มีที่พึ่ง ถ้าหากว่าตนเองไม่ให้ชาวบ้านเขาพึ่ง เขาก็เคว้งคว้างหาที่ไปไม่ได้ เมื่อชาวบ้านมาพึ่งกันมาก ๆ ในสายตาคนอื่นก็เห็นว่าตั้งตัวเป็นเจ้า ก็ต้องมีการปราบปรามกัน ถึงเวลาไม่ทันจะคุยกันรู้เรื่องก็ใส่กันแล้ว ไม่สู้ก็ไม่ได้ กว่าจะอธิบายกันรู้ก็พังกันไปข้างหนึ่งแล้ว
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 14-06-2012 เมื่อ 02:35
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 196 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
ตอบ


ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 1 คน ( เป็นสมาชิก 0 คน และ บุคคลทั่วไป 1 คน )
 

กฎการส่งข้อความ
You may not post new threads
You may not post replies
You may not post attachments
You may not edit your posts

BB code is ใช้ได้
Smilies are ใช้ได้
[IMG] code is ใช้ได้
HTML code is งดใช้

Forum Jump


เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 02:26



ค้นหาในเว็บวัดท่าขนุน

เว็บวัดท่าขนุน Powered by vBulletin
Copyright © 2000-2010 Jelsoft Enterprises Limited.
ความคิดเห็นส่วนตัวทุก ๆ ข้อความในเว็บบอร์ดนี้ สงวนสิทธิ์เฉพาะเจ้าของข้อความ ไม่อนุญาตให้คัดลอกออกไปเผยแพร่ นอกจากจะได้รับคำอนุญาตจากเจ้าของข้อความอย่างชัดเจนดีแล้ว