กระดานสนทนาวัดท่าขนุน


กลับไป   กระดานสนทนาวัดท่าขนุน > ห้องธรรมะพระอาจารย์ > พระครูวิลาศกาญจนธรรม (หลวงพ่อเล็ก สุธมฺมปญฺโญ)

Notices

พระครูวิลาศกาญจนธรรม (หลวงพ่อเล็ก สุธมฺมปญฺโญ) รวมธรรมะจากพระครูวิลาศกาญจนธรรม (หลวงพ่อเล็ก สุธมฺมปญฺโญ)

ตอบ
 
คำสั่งเพิ่มเติม
  #1  
เก่า 25-12-2009, 16:03
โอรส's Avatar
โอรส โอรส is offline
นายทะเบียน - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Mar 2009
ข้อความ: 897
ได้ให้อนุโมทนา: 37,411
ได้รับอนุโมทนา 206,453 ครั้ง ใน 3,180 โพสต์
โอรส is on a distinguished road
Default ปริศนาธรรม

ถาม : แล้วนั่งบนอาสนะ ?
ตอบ : สมัยนั้นเขานึกไม่ทัน เพราะแปลปากเปล่า การแปลปากเปล่านี่ สมเด็จพระสังฆราชสา ปุสเทโว ท่านแปลปากเปล่า ๙ ประโยค ท่านอยากจะใช้ชีวิตทางโลก ท่านก็สึก รัชกาลที่ ๔ สั่งจับขังคุกเลย เอาผ้าไตรวางไว้หน้าประตู ถ้าออกมาก็ต้องบวช ถ้าอยากสึกอยู่ในคุกต่อไป

ท่านเลยต้องบวช พอบวชเสร็จท่านก็คิดว่า... เราสึกมาระยะหนึ่ง ความรู้จะแน่นเหมือนเดิมหรือเปล่าก็ไม่รู้ จึงเข้าแปลใหม่ แปลได้ ๙ ประโยคอีก เขาเลยเรียกท่านว่ามหาสา ๑๘ ประโยค ตอนหลังได้เป็นสมเด็จพระสังฆราชสา ปุสเทโว มีองค์เดียวในประวัติศาสตร์ ที่ได้ ๑๘ ประโยค เก่งขนาดนั้น รัชกาลที่ ๔ จึงเสียดาย สึกไปจะได้ประโยชน์อะไรกับทางโลกนักหนา เอาทางธรรมดีกว่า จนท่านได้เป็นพระสังฆราช

เรื่องของรัชกาลที่ ๔ ท่านมีเยอะ โดยเฉพาะงัดข้อกับหลวงพ่อสมเด็จฯ วัดระฆัง (หลวงพ่อโต วัดระฆัง) ต่างคนต่างเป็นนักปราชญ์..ใช่ไหม ? ถึงเวลาท่านสร้างวังสระปทุม ที่ปัจจุบันเป็นวัดปทุมวนาราม มีหลวงพ่อพระเสริม พระพุทธรูปที่ได้จากลาว เมื่อสร้างขึ้นมา สนมกำนัลก็เพลิดเพลินจำเริญใจ พายเรือเที่ยวในสระบัว หลวงพ่อสมเด็จพระพุฒาจารย์แจวเรือเข้าไปรับบาตร รัชกาลที่ ๔ ภูมิใจว่าสร้างวังได้สวย ก็ตรัสถามว่า..."เป็นอย่างไร..ขรัวโต งามมากไหม ?"

หลวงพ่อสมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต) ท่านทูลว่า "งามมากมหาบพิตร..งามประดุจราชรถ" โอ้โฮ..! รัชกาลที่ ๔ โกรธหัวฟัดหัวเหวี่ยงเลย ต่างคนต่างรู้กัน เพราะมีบาลีอยู่บทหนึ่งว่า เอตถะ ปัสสะถิมัง โลกัง จิตตัง ราชะระถูปะมัง แปลความว่า สูเจ้าทั้งหลาย จงมาดูโลกนี้ที่งามประดุจราชรถ ซึ่งคนเขลาทั้งหลายหมกอยู่ แต่ผู้รู้หาข้องเกี่ยวไม่ ...(หัวเราะ)... ท่านบอกงามมากมหาบพิตร งามประดุจราชรถ รัชกาลที่ ๔ โกรธไฟแลบเลย แต่ท่านเป็นบัณฑิต ท่านรู้ว่าโดนลองของ พอถึงเวลาเลิกโกรธ ท่านก็นิมนต์เข้ามาใหม่

ลองกันหนัก ๆ อย่างนี้ บางทีโกรธขึ้นมาท่านสั่งถอดออกจากตำแหน่งเลย ยึดพัดยึดอะไรเกลี้ยงเลย ท่านก็เดินฉับ ๆ ของท่านกลับ สังฆการีวิ่งมานิมนต์ บอกว่า ทรงหายกริ้วแล้ว เอาพัดมาถวายคืน ท่านบอกไม่ได้ พัดนี้ต้องเจ้าฟ้าเจ้าแผ่นดินพระราชทานให้เท่านั้นไม่ใช่คุณ อาตมาไม่รับ รัชกาลที่ ๔ ต้องนิมนต์ท่านเข้าวังไปรับพัดใหม่ เสียผ้าไตรอีกชุดหนึ่ง ...(หัวเราะ)... ปราชญ์ท่านเล่นกันนะ เสร็จแล้วองค์อื่นทำตามไม่ได้ เคยมีเจ้าคุณรูปหนึ่งเลียนแบบ..โดนเลย..เกือบจะสั่งเฆี่ยนไปแล้ว ทั้ง ๆ ที่เป็นพระ

ตอนที่เจ้าจอมประสูติเจ้าฟ้า พอดีเป็นวันทรงศีล(วันพระ) หลวงพ่อสมเด็จฯ วัดระฆังท่านก็เทศน์ไปเรื่อย พระองค์ท่านก็อยากรู้เต็มทีว่าเป็นลูกผู้หญิงหรือลูกผู้ชาย ผุดลุกผุดนั่ง จะไปดูหน้าก็ไม่ได้ดูสักที เทศน์ไม่รู้จบ จนกระทั่งท่านทำใจว่า เอาละ..เดี๋ยวฟังเทศน์จบแล้วค่อยไปดูก็ได้ ใจเย็นลง ตั้งใจฟังเทศน์ หลวงพ่อโตท่านก็..เอวังด้วยประการฉะนี้

แหม..! เจ็บใจมาก วันพระหน้านิมนต์ใหม่ ตั้งใจเต็มที่เลย ทรงผ้าไปเพื่อเตรียมฟังเทศน์โดยเฉพาะ ท่านขึ้นธรรมาสน์เสร็จ "ใด ๆ มหาบพิตรก็ทรงทราบดีอยู่แล้ว เอวังก็มีด้วยประการฉะนี้.." รัชกาลที่ ๔ ก็..อะไร ? วันพระที่แล้วนี่อยากจะไปดูหน้าลูก ไปไม่ได้สักที วันพระนี้ตั้งใจฟังเทศน์ มาจบเอาง่าย ๆ ตอนที่ไม่อยากฟังเทศน์เสียยาวเลย ท่านบอกว่า การฟังเทศน์ก็เพื่อชำระจิตใจให้บริสุทธิ์ ให้เยือกเย็น มหาบพิตรร้อนพระทัยอยู่ ก็ต้องเทศน์ให้เย็นให้ได้ถึงจะเลิก แต่วันนี้ดีอยู่แล้วจะไปเทศน์ทำไม ? ...(หัวเราะ)...

เจ้าคุณรูปนั้นเลียนแบบบ้าง พอขึ้นธรรมาสน์ก็ "ใด ๆ มหาบพิตรก็ทรงทราบดีอยู่แล้ว.." เกือบโดนจับเฆี่ยน พระองค์ตรัสว่า "ยกให้ขรัวโตรูปเดียว.." พระองค์ท่านทรงทราบว่า หลวงพ่อสมเด็จฯ วัดระฆังท่านเป็นพระดีขนาดไหน สิ่งต่าง ๆ ที่ท่านให้มาเป็นข้อคิด ล้วนแล้วแต่เป็นประโยชน์ทั้งสิ้น ทุกอย่างเป็นปริศนาธรรม แล้วก็เป็นเรื่องที่เจตนาที่จะสงเคราะห์พระองค์ท่านโดยเฉพาะ พระองค์ท่านรับได้ โกรธแค่ไหนก็รับได้ แต่รูปอื่นอย่ามาเลียบแบบ เลียนแบบแล้วจะสั่งจับเฆี่ยนทั้งที่เป็นพระ ...(หัวเราะ)...

ถาม : หมายถึงท่านไม่นับถือพระรูปไหนเลยหรือ ?
ตอบ : ไม่ใช่ว่าไม่นับถือ นับถืออยู่ แต่ว่า...ลักษณะอย่างนี้ยกให้รูปเดียว จนกระทั่งคนเขาลือกันว่า ขรัวโตเป็นปาปมุติ ปาปมุติ หมายถึงผู้พ้นจากบาปทั้งปวงแล้ว หมายถึงพระอรหันต์เท่านั้น ทำอะไรก็ไม่ผิด

ขนาดสั่งเนรเทศออกจากแผ่นดินนี่ สมเด็จพระพุฒาจารย์ท่านไปนอนเขลงอยู่ในโบสถ์ ไม่ไปไหนหรอก สังฆการีไปถึงก็บอก "นิมนต์ไปได้เลยครับเพราะว่าทรงไม่ให้อยู่ในแผ่นดินแล้ว.." ท่านบอกว่านี่ไม่ใช่แผ่นดิน นี่เป็นเขตสงฆ์ เขาเรียกว่า พัทธสีมา เป็นเขตของสงฆ์ ไม่ใช่เป็นเขตของพระเจ้าแผ่นดิน เพราะฉะนั้นท่านอยู่ของท่านได้ จนกระทั่งต้องยอมยกโทษให้ ก็จริงของท่าน พระราชทานให้เป็นพุทธาวาสไปแล้ว..ใช่ไหม ? ไม่ใช่เขตในพระราชอำนาจของพระองค์ท่านแล้ว ไม่ใช่เขตการปกครองของพระองค์ท่านแล้ว เป็นเขตของวัด เขตของพระ นอนตีพุงสบาย ไล่ก็ไม่ไปหรอก

สนทนากับพระอาจารย์เล็ก สุธมฺมปญฺโญ
ณ บ้านอนุสาวรีย์ฯ เดือนเมษายน พุทธศักราช ๒๕๔๔

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 19-01-2014 เมื่อ 03:23
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 91 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ โอรส ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
ตอบ

Tags
ขรัวโต, ปริศนาธรรม, ราชรถ


ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 1 คน ( เป็นสมาชิก 0 คน และ บุคคลทั่วไป 1 คน )
 

กฎการส่งข้อความ
You may not post new threads
You may not post replies
You may not post attachments
You may not edit your posts

BB code is ใช้ได้
Smilies are ใช้ได้
[IMG] code is ใช้ได้
HTML code is งดใช้

Forum Jump


เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 18:41



ค้นหาในเว็บวัดท่าขนุน

เว็บวัดท่าขนุน Powered by vBulletin
Copyright © 2000-2010 Jelsoft Enterprises Limited.
ความคิดเห็นส่วนตัวทุก ๆ ข้อความในเว็บบอร์ดนี้ สงวนสิทธิ์เฉพาะเจ้าของข้อความ ไม่อนุญาตให้คัดลอกออกไปเผยแพร่ นอกจากจะได้รับคำอนุญาตจากเจ้าของข้อความอย่างชัดเจนดีแล้ว