#1
|
||||
|
||||
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันจันทร์ที่ ๔ ธันวาคม ๒๕๖๖
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันจันทร์ที่ ๔ ธันวาคม ๒๕๖๖
__________________
มารใช้ คนทุกคน ของทุกชิ้น สัตว์ทุกตัว เป็นเครื่องมือในการขวางเรา โดยเฉพาะคนที่เรารักมากที่สุด (-/\-) (-/\-) (-/\-) |
สมาชิก 40 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ ตัวเล็ก ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#2
|
||||
|
||||
วันนี้ตรงกับวันจันทร์ที่ ๔ ธันวาคม พุทธศักราช ๒๕๖๖ วันนี้ในกลุ่มไลน์องค์กรพระอุปัชฌาย์รุ่นที่ ๕๑ ในเขตปกครองคณะสงฆ์หนกลาง ซึ่งมีกระผม/อาตมภาพเป็นประธานรุ่นอยู่ มีผู้ส่งภาพฆราวาสสุภาพสตรีท่านหนึ่ง ไปเปิดการเขียนเส้นต่อลายมืออยู่ในอุโบสถ ให้กับญาติโยมฆราวาสอีกเป็นจำนวนมาก แล้วมีคำถามว่า "การกระทำนี้สมควรหรือไม่สมควรเป็นประการใด ?"
ในเรื่องของอุโบสถนั้นเป็นพุทธาวาส คือที่อยู่ของพระพุทธเจ้า คือพระพุทธรูปที่เป็นรูปนิมิตแทนองค์ของท่าน เปรียบไปแล้วก็เหมือนกับท้องพระโรง ที่ประทับของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว การที่ไปทำอะไรรุ่มร่ามแบบนั้นถือว่าไม่สมควรเป็นอย่างยิ่ง คราวนี้การถกกัน วิเคราะห์วิจัยกันในกลุ่มของเพื่อนฝูง แบ่งออกเป็น ๒ ประเด็น ประเด็นแรกคือ "สมควรหรือไม่ ?" ก็ได้กล่าวไปแล้วว่าไม่สมควรเป็นอย่างยิ่ง เพราะว่าเป็นโทษในการปรามาสพระรัตนตรัย คำว่า ปรามาส เป็นภาษาบาลี แปลว่าลูบคลำ ก็คือไม่จริงไม่จัง เป็นการไม่ได้เคารพพระรัตนตรัยออกจากใจแท้ เป็นตัวขวางมรรคขวางผลไปเลย..! ต่อให้ไม่ได้เจตนาที่จะกระทำ แต่การกระทำของท่านก็เป็นการปรามาสพระรัตนตรัย แสดงออกถึงสภาพจิตที่หยาบ ไม่สมควรต่อการเข้าถึงมรรคผล ต้องบอกว่า ถ้าสำหรับนักปฏิบัติธรรมแล้ว ถือว่าเป็นโทษที่หนักมาก เพราะว่าทำให้เราต้องเวียนว่ายตายเกิดในวัฏสงสาร ทุกข์ยากลำบากไปอีกไม่รู้จบ..! ประการที่สองคือ การกระทำของอาจารย์หญิงท่านนั้นมีผลจริงหรือไม่ ? เส้นลายมือของคนเกิดจาก "บุญทำกรรมแต่ง" อย่างที่โบราณว่ามา แม้กระทั่งในเรื่องของโหงวเฮ้งหรือนรลักษณ์ ก็เป็นเรื่องของบุญทำกรรมแต่งมา ก็คือในอดีตเราสร้างอะไรไว้ เราทำอะไรไว้ ก็จะหล่อหลอมมาเป็นตัวเราในปัจจุบันนี้ส่วนหนึ่ง อย่างที่องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าตรัสเอาไว้ในส่วนของนิยาม ๕ ส่วนนี้จัดเป็นกรรมนิยาม ก็คือการส่งผลให้เป็นไปจากการกระทำดีชั่วของเราเอง แม้แต่มหาปุริสลักขณะ หรืออนุพยัญชนะขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าแต่ละอย่าง ก็เกิดจากบุญเก่าที่พระองค์ท่านสร้างสมมาในอดีตชาติจนนับไม่ถ้วน ใครต้องการรายละเอียดว่าแต่ละอย่างนั้นเกิดจากการสร้างบุญอย่างไร ก็ไปดูในมธุรัตถวิลาสินี อรรถกถาพุทธวงศ์ ขุททกนิกาย พระไตรปิฎก
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 05-12-2023 เมื่อ 02:07 |
สมาชิก 35 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#3
|
||||
|
||||
ในเมื่อเป็นเรื่องของบุญทำกรรมแต่ง ต่อให้เขียนลายมือให้ตาย ถ้าเป็นเรื่องที่บุญไม่ถึง ก็เป็นไปไม่ได้อยู่แล้วที่จะเกิดผล แบบเดียวกับที่มีบุคคลซึ่งเชื่อถือในเรื่องของโหงวเฮ้ง หรือนรลักษณ์ อาศัยมีดหมอ ไปให้หมอผ่าตัด เขาใช้ศัพท์ว่าอะไรนะ ? "โมหน้า" โมดิฟายด์ แต่ว่าศัพท์วัยรุ่นเขาบอกไป "ทุบหน้า" มา พอถึงเวลาแล้วบวมฉึ่งเหมือนโดนทุบ..! ให้หมอทำเฉพาะในส่วนที่ดี ๆ เท่านั้น เพื่อจะให้มีโหงวเฮ้งที่ดี ปรากฏว่าเละไม่เป็นท่า..! ก็เพราะว่าไปทำในสิ่งที่ตนเองไม่เคยสร้างเอาไว้ แล้วจะก่อให้เกิดผลดีอย่างที่หวัง ย่อมเป็นไปไม่ได้
แล้วบางอย่างก็เหมือนกับไปกู้หนี้นอกระบบ ก็คือในเมื่อคุณทำให้นรลักษณ์มีลักษณะแบบนั้น ถึงเวลาอายุเท่านั้นจะต้องได้รับสิ่งดี ๆ แบบนั้น ในเมื่อต้นทุนของตัวเองไม่พอ ถึงเวลารับมา ก็ต้องชดใช้คืนไป สาหัสกว่าการกู้หนี้นอกระบบอีก..! บรรดาท่านทั้งหลายที่ไป "ทุบหน้า" มา หรือว่า "โมหน้า" มา ก็จะไปซาบซึ้งกันเอง กระผม/อาตมภาพเห็นแล้วบางทีก็เสียดาย บางคนจมูกใหญ่ สวยมาก แบบที่โบราณเรียกว่าจมูกสิงโต เป็นลักษณะของบุคคลที่สามารถจะบังคับบัญชา หรือควบคุมลูกน้องจำนวนมาก ให้อยู่ภายใต้อำนาจของตนเองได้ แต่ไปตัดปีกจมูกออกเหลือนิดเดียว เพราะต้องการให้หน้าทันสมัย อยู่ใน "บล็อกนิยม" สรุปว่าลูกน้องเป็นร้อยเตลิดเปิดเปิงไปอยู่ที่อื่นหมด เพราะว่าเจ้านายไปทำลายนรลักษณ์ของตัวเอง..! คราวนี้ในส่วนที่กล่าวกันอีกด้านหนึ่งก็คือว่า เจ้าอาวาสรูปนั้นคาดหวังว่าทำแบบนี้แล้วคนจะเข้าวัด คนที่เข้าวัดมา ก็หวังให้เขามาทำบุญ แต่ดูท่าว่าท่านจะคิดผิด เพราะว่าแต่ละคนที่มาก็หวังที่จะให้เกิดสิ่งดี ๆ แก่ตัวเอง อย่างเช่นว่าต่อเส้นวาสนาก็จะได้ร่ำรวย แต่ค่าครูเขาไปให้กับอาจารย์คนเขียน ไม่ได้ให้วัด ถ้าอาจารย์คนเขียนไม่แบ่งให้วัด แล้ววัดจะได้อะไร ? และที่แน่ ๆ คนทั้งหลายเหล่านั้นไม่ได้มาด้วยความเลื่อมใสในพระรัตนตรัย ไม่ได้เลื่อมใสสิ่งศักดิ์สิทธิ์ในวัด แต่มาเพราะอยากร่ำรวย มาให้เขาต่อลายมือ เขาย่อมไม่มีความสนใจในวัดนั้นอยู่แล้ว พอสมความปรารถนา ก็คือได้รับการเขียนต่อแล้วก็สบายใจ..กลับบ้านได้..! กลายเป็นว่าเจ้าอาวาสท่านนั้น นอกจากจะตั้งความหวังไว้ ไม่สมหวังแล้ว ยังกลายเป็นการสร้างความเสียหายให้กับพระพุทธศาสนาขึ้นมาอีก เนื่องเพราะว่าอยู่ในลักษณะของการอนุญาตให้โยมเข้ามา ทำในสิ่งที่ขัดต่อคำสอนขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 05-12-2023 เมื่อ 02:11 |
สมาชิก 33 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#4
|
||||
|
||||
พระพุทธเจ้าสอนให้เราเชื่อกรรม เชื่อการส่งผลของกรรม เชื่อว่ามนุษย์และสัตว์ทุกรูปทุกนามมีกรรมเป็นของตน ใครทำอะไรไว้ ย่อมได้รับผลเช่นนั้น และท้ายที่สุด เชื่อในการตรัสรู้ของพระพุทธเจ้า
อย่างที่บาลีเขาใช้คำว่ากัมมสัทธา คือเชื่อกรรม วิปากสัทธา เชื่อการส่งผลของกรรม กัมมัสสกตสัทธา ก็คือเชื่อการที่ทุกคนมีกรรมเป็นของตน ใครทำอะไรก็ได้ผลแบบนั้น ท้ายสุดก็คือตถาคตโพธิสัทธา เชื่อการตรัสรู้ของพระพุทธเจ้า ว่าพระองค์ท่านรู้แจ้งเห็นจริงทุกอย่าง สิ่งที่พระองค์ท่านสอนมาจึงเป็นเรื่องที่ถูกที่ควรที่สุด แต่บุคคลทั้งหลายเหล่านั้น ทั้งเจ้าพิธีและผู้ไปเข้าพิธี ไม่ได้เชื่อเรื่องทั้งหลายเหล่านี้ ไปเชื่อในเรื่องของการฝืนดวง ฝืนกรรม ถ้าเราท่านทั้งหลายจะฝืนดวง ฝืนกรรม วิธีที่ดีที่สุดก็คือปฏิบัติใน ศีล สมาธิ ปัญญา เพราะว่าไตรสิกขา หรือหลักการปฏิบัติทั้ง ๓ ประการนี้ ส่งให้มีอานิสงส์มากเป็นพิเศษ คำว่ามากเป็นพิเศษในที่นี้ก็คือ มากกว่ากองบุญการกุศลอื่น ๆ ในเมื่อมีบุญมาก ถ้าหากว่าเรากระทำเอาไว้บ่อย ๆ บุญกุศลที่เราได้รับมีจำนวนมากพอ ก็จะสามารถไปคานกับกรรม หรืออกุศลที่เราทำไว้ได้ ถ้าหากว่าบุญกุศลมีมากกว่า การส่งผลในด้านดีก็ย่อมเกิดขึ้น ถ้าสามารถสร้างกรรมดีเอาไว้ให้ต่อเนื่อง ผลดีก็จะเกิดกับเราอย่างต่อเนื่อง นี่เป็นวิธีแก้ดวง แก้กรรม เสริมดวง พลิกชีวิตที่ดีที่สุด ยั่งยืนที่สุด เพราะเข้ากับกฎของกรรมที่ว่า "ใครทำอะไรก็จะได้รับผลเช่นนั้น" ดังนั้น..ถ้าหากว่าเราจะไปต่อลายมือ จะไปเปลี่ยนโหงวเฮ้ง เป็นสิ่งที่หาความยั่งยืนไม่ได้ และอาจจะเกิดโทษ แต่ถ้าหากว่าตั้งหน้าตั้งตาปฏิบัติใน ศีล สมาธิ ปัญญา ต่อเนื่องไปสักระยะหนึ่ง ส่วนของความดีก็จะส่งผลให้กับเรา และเป็นการที่ส่งผลอย่างยั่งยืน ก็คือถ้ายังเกิดใหม่อยู่ ชาตินี้รับแล้ว ชาติหน้าก็ยังได้รับส่วนของความดีต่อไปเรื่อย ๆ จนกว่าเราจะหลุดพ้นจากกองทุกข์ เข้าสู่พระนิพพาน ดังนั้น..การวิพากษ์วิจารณ์ในกลุ่มไลน์ ท้ายสุดก็ลงไปตำหนิเจ้าอาวาสว่า "คิดน้อยไปหน่อย" ทำในสิ่งที่ก่อความเสียหายให้กับพระพุทธศาสนา แลกกับผลประโยชน์เล็ก ๆ น้อย ๆ เท่ากับเป็นผู้ทำลายพระพุทธศาสนานั่นเอง..! สำหรับวันนี้ก็ขอเรียนถวายแก่พระภิกษุสามเณรของเรา และบอกกล่าวแก่ญาติโยมแต่เพียงเท่านี้ พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร. เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันจันทร์ที่ ๔ ธันวาคม พุทธศักราช ๒๕๖๖ (ถอดจากเสียงเป็นอักษร โดย เผือกน้อย)
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 05-12-2023 เมื่อ 02:14 |
สมาชิก 40 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 1 คน ( เป็นสมาชิก 0 คน และ บุคคลทั่วไป 1 คน ) | |
|
|