กระดานสนทนาวัดท่าขนุน


กลับไป   กระดานสนทนาวัดท่าขนุน > ห้องธรรมะพระอาจารย์ > เก็บตกจากบ้านเติมบุญ

Notices

เก็บตกจากบ้านเติมบุญ เก็บข้อธรรมจากบ้านเติมบุญมาฝาก สำหรับผู้ที่ไม่มีโอกาสเดินทางไป

ตอบ
 
คำสั่งเพิ่มเติม
  #61  
เก่า 11-07-2017, 20:12
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,371
ได้ให้อนุโมทนา: 150,708
ได้รับอนุโมทนา 4,397,030 ครั้ง ใน 33,960 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

"สมัยก่อนถ้าพูดถึงอวัยวะเพศเด็กผู้ชาย หรือว่าของผู้ชายด้วยกัน จะเรียกขุนเพชรบ้าง ปลัดบ้าง เรียกในลักษณะให้เกียรติ คราวนี้ครูบาอาจารย์ที่สร้างปลัดขิกได้โด่งดังมาก ท่านแรกที่เป็นเจ้ายุทธจักรด้านนี้จริง ๆ คือหลวงพ่อขิก วัดสาวชะโงก เขาก็เลยเปลี่ยนจากการเรียกว่าขุนเพชร หรือคุณปลัด มาเป็น "ปลัดขิก" ซึ่งก็คือปลัดของหลวงพ่อขิก

หลวงพ่อขิกถ่ายทอดวิชาสืบต่อมาให้หลวงพ่อเหลือ วัดสาวชะโงก เราลองนึกถึงชื่อวัดดูว่าท่านทำได้ขลังขนาดไหน ? รุ่นหลัง ๆ ก็สืบต่อกันมาเรื่อย ๆ ที่ทำแล้วโด่งดังมากก็มีหลวงพ่ออี๋ วัดสัตหีบ เพราะว่าปลัดขิกของท่านว่ายน้ำตามเรือได้

เนื่องจากว่าช่วงที่ท่านทำปลัดขิกด้วยไม้กัลปังหา กัลปังหาจะหาตรง ๆ ยาก มักจะคด ๆ งอ ๆ พอทำเป็นปลัดขิกเขาเห็นว่าไม่สวย จึงโยนน้ำทิ้ง นั่งเรือมาเป็นชั่วโมงแล้ว ปลัดขิกว่ายน้ำตามเรือมา จะเอาหรือไม่เอา...อะไรประมาณนี้ กลายเป็นของท่านขลังและดังระเบิด เพราะว่าว่ายน้ำตามเรือได้"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 12-07-2017 เมื่อ 02:33
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 198 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #62  
เก่า 11-07-2017, 20:22
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,371
ได้ให้อนุโมทนา: 150,708
ได้รับอนุโมทนา 4,397,030 ครั้ง ใน 33,960 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

"ครูบาอาจารย์ท่านอื่น ๆ ที่ทำปลัดขิกแล้วดัง ก็มีหลวงพ่อฟัก วัดนิคมประชาสรรค์ ปลัดขิกหลวงพ่อฟักแพงมากตั้งแต่ยุคโน้น ของหลวงพ่อฟักเป็นปลัดขิกสร้างวัด ปลัดขิกตัวแรกของหลวงพ่อฟัก อาตมาต้องบูชาครูด้วยปูน ๒ ตัน..! ท่านขอเป็นปูน เป็นวัสดุก่อสร้าง ...(หัวเราะ)...

ที่ดังมากในเรื่องปลัดขิกอีกท่านนึ่งคือ หลวงพ่อยิด วัดหนองจอก เขาว่าลูกศิษย์หลวงพ่ออี๋เป็นทหารเรือ ปลัดขิกว่ายน้ำตามได้ หลวงพ่อยิดมีลูกศิษย์เป็นทหารบก แถมเป็นทหารการบินทหารบก ปลัดขิกจะบินได้ไหม ? ปรากฏว่าวันนั้นออกลาดตระเวน เห็นปลัดขิกบินอยู่ข้างเฮลิคอปเตอร์ เข็ดไปตาม ๆ กัน ขอได้โปรดอย่าท้า...!"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 12-07-2017 เมื่อ 02:34
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 196 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #63  
เก่า 11-07-2017, 20:31
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,371
ได้ให้อนุโมทนา: 150,708
ได้รับอนุโมทนา 4,397,030 ครั้ง ใน 33,960 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

"ท่านอื่นที่ทำปลัดขิกแล้วมีชื่อเสียง ก็มีหลวงปู่เมฆ วัดลำกระดาน หลวงปู่เมฆทำปลัดขิกจาก "ไม้เขยตาย"

ไม้เขยตายเกิดจากลูกเขยกับแม่ยายไปทำนาด้วยกัน ลูกสาวก็คอยหุงข้าวไปส่ง คนโบราณรีบออกไปทำนาตั้งแต่ตี ๔ ตี ๕ เพราะว่าถ้าแดดร้อนจะทำนาไม่ไหว ออกไปแต่มืด ลูกเขยไปเหยียบงูเห่าเข้าก็โดนกัด ชักแหง็ก ๆ ตัวแข็งทื่อ แม่ยายไม่รู้จะทำอย่างไรก็ตัดกิ่งไม้เอามากองสุม ๆ ไว้ กันสัตว์มากินซาก แล้วรีบกลับบ้านเพื่อจะไปตามคนมาช่วยหามศพ

ปรากฏว่าพอกลับมาถึงนา เห็นลูกเขยนั่งงง ๆ อยู่ แม่ยายก็...อ้าว...ตายแล้วทำไมฟื้นขึ้นมาได้ ? ด้วยความที่แม่ยายรีบ ๆ ตัดไม้มาสุม จึงไปตัด "ไม้เขยตาย" มา ยางไม้หยดใส่รอยงูกัดพอดี เป็นยาแก้งูกัดที่ได้ผลที่สุด คนที่ดูเหมือนตายไปแล้วก็เลยฟื้นใหม่

หลวงปู่เมฆทำปลัดขิกด้วยไม้เขยตาย ถามว่าหลวงปู่เมฆดังแค่ไหน ? หลวงปู่เมฆอยู่หนองจอก กลางดงอิสลามเลย แต่อิสลามรอบวัดพกปลัดขิกของหลวงปู่เมฆทุกคน..!"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 12-07-2017 เมื่อ 02:36
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 199 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #64  
เก่า 11-07-2017, 20:50
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,371
ได้ให้อนุโมทนา: 150,708
ได้รับอนุโมทนา 4,397,030 ครั้ง ใน 33,960 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

"หลวงพ่อสนิท วัดลำบัวลอย จังหวัดนครนายก ปลัดขิกของท่านเอาครั่งคาดหัวไว้ คำว่า ครั่ง คือตัวแมลงที่กินต้นไม้ ถึงเวลาขี้เอาไว้แล้วเขาเก็บเอามาใช้งาน สมัยก่อนใช้อุดด้ามมีดบ้าง ติดตราประทับหนังสือบ้าง เพราะเวลาเผาละลายได้ แต่เวลาแข็งตัวก็เหมือนกับหินดี ๆ นี่เอง มีอยู่ระยะหนึ่งที่ไปรษณีย์ไทยใช้ครั่งในการตีตราพัสดุ

คำว่า ครั่ง ออกเสียงคล้าย ๆ กับคำว่าคลั่งไคล้ ฉะนั้น...ปลัดขิกหลวงพ่อสนิท วัดลำบัวลอย จึงคาดครั่งมาด้วย

ถ้าปลัดขิกหลวงพ่อกวย วัดโฆสิตาราม (วัดบ้านแค) คนจะพยายามหารุ่นที่เป็นหมวกทหาร ปกติเขาจะแกะปลัดขิกเป็นรูปอวัยวะเพศผู้ชาย ปรากฏว่าคนแกะเกิดมีสายตาศิลปินอะไรขึ้นมาก็ไม่รู้ ? ทำเป็นรูปหมวกทหารครอบหัวปลัดขิกเอาไว้"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 12-07-2017 เมื่อ 02:39
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 196 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #65  
เก่า 11-07-2017, 21:02
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,371
ได้ให้อนุโมทนา: 150,708
ได้รับอนุโมทนา 4,397,030 ครั้ง ใน 33,960 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

"ท่านอื่น ๆ ที่ทำปลัดขิกระยะหลังก็มีหลายสำนักด้วยกัน แต่ว่าครูบาอาจารย์ที่ทำแล้วมีชื่อเสียงจริง ๆ เพราะว่าคนเอาไปใช้แล้วเห็นผลมากก็มีแค่ไม่กี่สำนัก

ทางด้านภาคตะวันออกต้องหลวงพ่อคง วัดวังสรรพรส หลวงพ่อคงมีปลัดขิกนางครวญ ปลัดขิกเสือผู้หญิง คำว่าเสือผู้หญิงก็คือ ท่านทำเป็นรูปเสือเกาะปลัดขิกอยู่ ปลัดขิกหลวงพ่อคง ผู้หญิงอย่าเดินข้าม เดินข้ามนี่ขยับได้ บางตัววิ่งตามเลย เจอสาวถูกใจวิ่งตามไปเลย

ฉะนั้น...เรื่องนี้ครูบาอาจารย์ที่ท่านเข้าถึงเคล็ดลับตรงที่ว่า ปลัดขิกหรืออุมาโยนีเป็นของที่มีอานุภาพมากถึงขนาดสามารถสร้างโลก สร้างชีวิตได้ ถ้าเข้าถึงเคล็ดลับตรงนี้ก็จะสามารถทำได้ขลัง กลายเป็นที่นิยมกัน ส่วนใหญ่จะดีทางเมตตาเข้าหาเพศตรงข้าม แต่คาถากำกับจะตรงข้ามกัน ถ้าไปหาผู้ชายว่าอย่างหนึ่ง ไปหาผู้หญิงว่าอย่างหนึ่ง ถ้อยคำค่อนข้างจะหยาบคาย ไปหาเอาเองก็แล้วกัน

อย่างของหลวงพ่ออี๋ วัดสัตหีบ เขาเอาไปใช้ดีทางอยู่ยงคงกระพันด้วย หลวงพ่อคง หลวงพ่อกวย ก็เหมือนกัน ไม่ใช่แค่เมตตาอย่างเดียว ส่วนของหลวงพ่อฟัก เหมาะสำหรับฝรั่งใช้งาน เพราะว่าชื่อท่านเป็นมงคลกับฝรั่งดี...!"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 12-07-2017 เมื่อ 18:11
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 194 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #66  
เก่า 11-07-2017, 21:05
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,371
ได้ให้อนุโมทนา: 150,708
ได้รับอนุโมทนา 4,397,030 ครั้ง ใน 33,960 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : ท่านเสกด้วยอะไรคะ ถึงดิ้นได้ ?
ตอบ : ส่วนใหญ่จะใช้การตั้งธาตุ หนุนธาตุ ถ้าไม่เคยศึกษามา พูดไปก็บ้าเปล่า ๆ คือทุกสิ่งทุกอย่างจะเกิดขึ้นได้ต้องอาศัยธาตุ ๔ แล้วหนุนด้วยอากาศและวิญญาณ

ดิน น้ำ ลม ไฟ เสริมด้วยอากาศและวิญญาณ ถ้าหากว่าเป็นพวกหุ่นพยนต์ กุมารทอง วัวธนู พวกนี้ต้องเรียกอาการ ๓๒ ด้วย ไปค่อย ๆ เรียนรู้เอา วิชาการด้านไสยศาสตร์ทุกอย่างลำบากลำบนมาก เพราะว่าต้องหาฤกษ์หายาม หาวัสดุที่เหมาะสม เสียเวลาในการเสกการสร้าง

ที่อาตมานิยมเครื่องรางของขลังทั้ง ๆ ที่เป็นพระ เพราะว่าของทำยาก ของพวกเราสายหลวงพ่อฤๅษีลิงดำ เสกพระง่าย เสกของขลังยากมาก แบบเดียวกับที่อาตมาอธิบายว่า ถ้าเราเข้าถึงว่าคาถาบทนั้น
ว่ามีความหมายอย่างไร ก็จะสามารถทำได้ขลังกว่าคนอื่น
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 12-07-2017 เมื่อ 02:42
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 194 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #67  
เก่า 11-07-2017, 21:14
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,371
ได้ให้อนุโมทนา: 150,708
ได้รับอนุโมทนา 4,397,030 ครั้ง ใน 33,960 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ครูบาอาจารย์ของเราท่านเก่ง ก็คือไสยศาสตร์นั้นจะเห็นผลเร็ว ส่วนใหญ่แล้วก็จะถ่ายทอดสอนลูกศิษย์และกำชับในเรื่องของการขยันภาวนา จะเห็นว่าครูบาอาจารย์สมัยก่อนนั่งลบผงกันทั้งวัน นั่งเขียนยันต์กันทั้งวัน ภาวนาคาถากันทั้งวัน นั่นก็คือพื้นฐานของสมาธิ

พอสมาธิทรงตัว มีกำลังเพียงพอที่จะตัดกิเลสได้ ครูบาอาจารย์ท่านก็จะพาเลี้ยวเข้าหาหลักธรรม ก็แปลว่าครูบาอาจารย์ท่านฉลาด เริ่มที่ไสยศาสตร์แล้วมาจบลงตรงพุทธศาสตร์

ดังนั้น...หลวงปู่หลวงพ่อสมัยก่อนจึงเป็นที่พึ่งให้ชาวบ้านได้ทุกคน เพราะว่ากำลังใจชาวบ้านส่วนใหญ่ อยู่แค่ระดับไสยศาสตร์กับศีลธรรมเบื้องต้นเท่านั้น
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 12-07-2017 เมื่อ 02:43
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 196 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #68  
เก่า 11-07-2017, 21:18
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,371
ได้ให้อนุโมทนา: 150,708
ได้รับอนุโมทนา 4,397,030 ครั้ง ใน 33,960 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ปลัดขิกอีกเจ้าหนึ่งที่ดังมาก แต่หาของยากสุด ๆ ก็คือ หลวงพ่อโสก วัดปากคลองบางครก จังหวัดเพชรบุรี ลูกศิษย์คนไหนมี ไม่ปล่อยให้หลุดมือหรอก นอกจากเมตตามหานิยมแล้ว ยังอยู่ยงคงกระพันสุด ๆ

เพชรบุรีเป็นเมืองเสือ เมืองคนจริงมาแต่โบราณ จะเห็นว่าปรมาจารย์เพชรบุรี อย่างหลวงพ่อทองศุข วัดโ
นดหลวง หลวงพ่อโสก วัดปากคลองบางครก ล้วนแล้วแต่เป็นที่ยอมรับนับถือกันทั้งประเทศ

หลวงพ่อแดง วัดเขาบันไดอิฐ
เป็นครูบาอาจารย์
รุ่นที่ดังหลัง พ.ศ. ๒๕๐๐ ที่เหรียญแพงถึงล้านแล้ว ครูบาอาจารย์อื่น ๆ รุ่นหลัง ๆ ที่เป็นลูกศิษย์ของครูบาอาจารย์เหล่านั้น ก็มีชื่อเสียงเกียรติคุณเยอะแยะ เมืองคนดุ ถ้าครูบาอาจารย์ไม่ขลังจริงเขาไม่นับถือหรอก
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 12-07-2017 เมื่อ 02:45
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 194 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #69  
เก่า 13-07-2017, 09:13
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,371
ได้ให้อนุโมทนา: 150,708
ได้รับอนุโมทนา 4,397,030 ครั้ง ใน 33,960 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : ผมจะต้องไปคุมงานก่อสร้าง ผมควรตั้งกำลังใจในการทำงานแบบนี้ว่าอย่างไรดีครับ ? ที่ที่ผมไปค่อนข้างเละเทะ พอเจอปัญหาเราตั้งสติไม่ได้ครับ ?
ตอบ : ส่วนใหญ่ปัญหาเกิดเพราะคน ถ้าอ่านคนออกก็จบ ส่วนใหญ่จะอ่านคนไม่ออกเพราะว่าประสบการณ์น้อย จำไว้ว่าคนเราจะกลัวคนที่เข้มแข็งเด็ดขาด จะไม่กลัวคนที่อ่อนแอ เพราะฉะนั้น...ถ้ามีเชือดไก่ให้ลิงดูสักหน่อย เดี๋ยวลิงก็เป็นระเบียบเรียบร้อยไปเอง

อาตมาเองคุมงานเป็นระเบียบเรียบร้อย ไม่มีกระดิก บอกกับเขาว่าถ้าเอ็งทำที่นี่ไม่ดีพอ ก็ไปหาที่อื่นทำใหม่ ข้าหาคนใหม่ได้ พอเราไม่ง้อเขา เขาก็ต้องง้อเรา สรุปง่าย ๆ ว่า ไม่มีใครอยากตกงาน
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 13-07-2017 เมื่อ 11:59
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 195 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #70  
เก่า 13-07-2017, 09:18
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,371
ได้ให้อนุโมทนา: 150,708
ได้รับอนุโมทนา 4,397,030 ครั้ง ใน 33,960 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

พระอาจารย์กล่าวกับผู้สวมหมวกกันน็อกมาว่า "เห็นมีดราม่าว่าหมวกกันน็อกราคาเท่าไรไม่ใช่หรือ ? ได้ดูคลิปกันหรือเปล่า ? ในโลกของข้อมูลข่าวสาร หาความจริงแท้ได้ยาก ส่วนใหญ่จะนำเสนอในมุมที่เป็นประโยชน์แก่ตัวเอง อย่าเพิ่งไปเชื่ออะไรง่าย ๆ"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 13-07-2017 เมื่อ 12:00
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 190 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #71  
เก่า 13-07-2017, 09:27
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,371
ได้ให้อนุโมทนา: 150,708
ได้รับอนุโมทนา 4,397,030 ครั้ง ใน 33,960 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

มีโยมมารับวัตถุมงคล "ปลัดขิกหลวงพ่อยิด วัดหนองจอก ระวังสาวไล่ตามไม่เลิกนะ..!"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 13-07-2017 เมื่อ 12:00
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 194 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #72  
เก่า 15-07-2017, 09:40
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,371
ได้ให้อนุโมทนา: 150,708
ได้รับอนุโมทนา 4,397,030 ครั้ง ใน 33,960 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : สมัยพุทธกาลเป็นต้นมา ไม่ว่าโยมหรือพระก็ได้รับวิบากกรรมเช่น มีอุบัติเหตุตาย แต่กำลังวิปัสสนาก็ทำให้บรรลุได้ ไม่เกี่ยวกันใช่ไหมครับว่าจะต้องมีบุญ จะต้องเจริญขึ้นแล้วต้องบรรลุ หรือต้องรับกรรมนั้น ?
ตอบ : ยิ่งทุกข์ยากลำบากยิ่งเห็นง่าย วิปัสสนาญาณหลัก ๆ ที่สำคัญก็คือมองทุกข์ให้เห็น ยอมรับสภาพว่าธรรมดาเป็นอย่างนั้น แล้วเราไม่ต้องการอีก ถ้าหากว่ามีแต่ความเจริญโดยส่วนเดียว บางทีลืมทุกข์ไปเสียด้วยซ้ำ บางคนเป็นพระโสดาบันก็ติดอยู่แค่นั้นทั้งชีวิต เพราะว่าไปเพลินกับความสุขของอารมณ์ที่กิเลสลดน้อยลง

ยิ่งลำบากยิ่งได้เปรียบ ถ้าตั้งใจปฏิบัติเพื่อบรรลุจริง ๆ จะง่าย ก็แบบเดียวกับเรื่องของการสร้างวัด ตอนแรกหลวงพ่อวัดท่าซุงท่านบอกว่า ถ้าทำใจได้จะบรรลุเร็ว ผมเองก็สงสัยว่าอย่างไร ทำใจได้ บรรลุเร็ว ?

พอไปเจอเข้าจริง ๆ สารพัดเรื่องสารพัดราว โดยเฉพาะพวกช่างรับเงินแล้วไม่ทำงาน อยากจะไปกระทืบพวกนี้ถึงบ้าน แต่พอเราทำใจได้ ปล่อยได้ วางได้ รู้สึกว่าอะไรต่อมิอะไรไหลมาเทมา ได้มากกว่าเดิมเยอะ ถ้าหากว่าเอาแต่สบาย โอกาสที่จะเข้าถึงธรรมกลับมีน้อย ต้องพวกสร้างบุญมาดีจริง ๆ เท่านั้น
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 21-07-2017 เมื่อ 14:48
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 188 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #73  
เก่า 15-07-2017, 09:51
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,371
ได้ให้อนุโมทนา: 150,708
ได้รับอนุโมทนา 4,397,030 ครั้ง ใน 33,960 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : เรื่องการสร้างวัด เราจะรู้ได้อย่างไรว่ากิเลสหลอกให้เราอยากทำ หรือกิเลสหลอกให้เราเบื่อหน่าย อยู่เฉย ๆ ดีกว่า ไม่ต้องทำอะไร ?
ตอบ : เอาแค่พอสมควรแก่การใช้งาน ถ้าหากว่ามีเพียงพอแล้วก็ไม่จำเป็นต้องไปทำให้เหนื่อยยาก เพราะว่าสิ่งที่ยากที่สุดก็คือการสร้างคน

หลวงพ่อวัดท่าซุงท่านตั้งใจจะสร้างคน ถึงขนาดทำธุดงค์สถาน ๑๐๐ ไร่ ท่านตั้งใจจะให้พระผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนกันเข้าไปฝึกกรรมฐานคนละ ๑ เดือน แต่ปรากฏว่ายังไม่ทันจะทำเสร็จ ท่านก็ไปเสียก่อน ตกลงว่าท่านสร้างได้แต่ของ ส่วนคนสร้างได้ไม่มากเท่าที่ท่านต้องการ

จะว่าไปแล้วในหมู่ลูกศิษย์ของท่านรุ่นแรก ๆ ได้ดีกันทั้งนั้น แต่คราวนี้สำคัญตรงที่ว่าท่านอยากให้พระได้ดี ท่านบอกว่า "ข้ามัวแต่ทำงานอยู่ จนพระรอไม่ไหว สึกหาลาเพศไปก็มาก ออกไปอยู่วัดอื่นก็มี" ท่านก็เลยตั้งใจทำธุดงค์สถานเอาไว้ เพื่อที่จะให้พระเข้าไปฝึกกรรมฐานกันที่นั่น แต่ว่ายังไม่ทันจะสำเร็จ

เพราะฉะนั้น...พวกคุณก็ดูแค่ว่า ถ้าวัดมีเสนาสนะเพียงพอแก่การใช้งาน ไม่ต้องถึงขนาดหรูหรามาก ใหญ่โตมาก ก็เริ่มสร้างคนได้แล้ว ตัวผมเองในวัดก็หยุดสร้างแล้ว เหลืออยู่แค่สร้างคนอย่างเดียว
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 15-07-2017 เมื่อ 10:46
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 186 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #74  
เก่า 15-07-2017, 09:57
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,371
ได้ให้อนุโมทนา: 150,708
ได้รับอนุโมทนา 4,397,030 ครั้ง ใน 33,960 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : เจอหลวงพ่อครั้งแรกตอนที่เมียของคุณสุวิทย์ตาย พอหลวงพ่อบอกว่าเมียของคุณสุวิทย์ตาย ทุกคนที่อยู่รอบ ๆ ข้างก็ดีใจ แต่ผมตอนนั้นไม่เข้าใจ ?
ตอบ : กำลังใจที่กำลังเกาะกุศลแล้วตาย โอกาสลงต่ำไม่มีอยู่แล้ว พวกเราไปงานศพ มักจะไปเฮ ๆ ฮา ๆ กัน เจ้าภาพเขาหมั่นไส้หรือเปล่าก็ไม่รู้ ?
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 15-07-2017 เมื่อ 10:49
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 189 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #75  
เก่า 15-07-2017, 09:58
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,371
ได้ให้อนุโมทนา: 150,708
ได้รับอนุโมทนา 4,397,030 ครั้ง ใน 33,960 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

พระอาจารย์กล่าวว่า "หมอบอกกับอาตมาว่า "ต้อหินรักษาไม่ได้ หลวงพ่อไม่ต้องเครียดนะครับ จะช้าจะเร็วก็บอดอยู่แล้ว" ขำตรงที่หมอบอกไม่ต้องเครียดนี่แหละ ถ้าหากว่าหมอบอกคนอื่นนี่ รับรองว่าเขาเครียดตายเลย โชคดีที่บอกอาตมาก็เลยไม่เครียด

เจอหมอพูดตรงเกินไปก็ไม่ดี แต่ก็อย่างว่าแหละ...หมอไม่อยากให้คนไข้มีความหวังทั้งที่ไม่มีทางเป็นไปได้"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 15-07-2017 เมื่อ 10:53
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 191 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #76  
เก่า 15-07-2017, 10:05
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,371
ได้ให้อนุโมทนา: 150,708
ได้รับอนุโมทนา 4,397,030 ครั้ง ใน 33,960 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

พระอาจารย์กล่าวว่า "อาตมาตั้งใจบวชแค่ ๗ วันแล้วลากยาวมาจนป่านนี้ เพราะว่างานที่ไม่รู้จักจบจักสิ้น สร้างไป ๗ - ๘ วัดแล้ว เห็นเขาลำบาก สันดานเดิมก็อดช่วยเขาไม่ได้ ญาติโยมเห็นทำให้ก็ดีอกดีใจ ทำแล้วพออาตมาไปต่อก็ร้องห่มร้องไห้กัน ว่าทำแล้วทำไมไม่อยู่ ? อาตมาไม่ได้บอกว่าทำแล้วจะอยู่นี่หว่า..!"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 15-07-2017 เมื่อ 10:54
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 192 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #77  
เก่า 15-07-2017, 14:15
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,371
ได้ให้อนุโมทนา: 150,708
ได้รับอนุโมทนา 4,397,030 ครั้ง ใน 33,960 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

พระอาจารย์กล่าวว่า "เรื่องของวัดวาอาราม พอทำไปสักระยะหนึ่งจะรู้สึกว่าพอแล้ว ในเมื่อรู้สึกว่าพอแล้วก็หยุดได้แล้ว เริ่มหันมาสร้างคนได้

บางท่านงานมีแต่ใหญ่ขึ้น ๆ ถ้าแบบนั้นมีสิทธิ์ตายคางาน..! ลูกศิษย์หลวงพ่อวัดท่าซุงไปไหน ก็สร้างความเจริญให้แก่ที่นั่น นี่เป็นเรื่องจริง แต่ว่าไม่ต้องทำมากถึงขนาดนั้นก็ได้ เพราะว่าถ้าทำมากแล้ว การใช้งานมีน้อยก็น่าเสียดาย

ที่วัดผมหมุนเวียนทำวัตรเช้าอาคารโน้น ทำวัตรค่ำอาคารนี้ ก็เพราะว่าจะใช้งานให้ทั่วถึง อีกอย่างหนึ่ง ถ้าหากว่าเราใช้งานอยู่ ก็เท่ากับบังคับว่าต้องทำความสะอาดไปในตัว ไม่ใช่ถึงเวลาเปิดเข้าไป มองเห็นฝุ่นหนาคืบหนึ่ง..!"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 15-07-2017 เมื่อ 15:09
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 190 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #78  
เก่า 15-07-2017, 14:36
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,371
ได้ให้อนุโมทนา: 150,708
ได้รับอนุโมทนา 4,397,030 ครั้ง ใน 33,960 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : พอมีปัญหาก็ไม่เอาแล้ว เป็นปัญญาเห็นทุกข์หรือว่าขี้เกียจครับ ?
ตอบ : เป็นเพราะว่าไม่สามารถที่จะก้าวข้ามความเบื่อไปได้

ถาม : ถ้าก้าวข้ามได้จริง ?
ตอบ : ถ้าก้าวได้ก็เป็นสังขารุเปกขาญาณ ทุกอย่างจะเป็นปกติ คราวนี้ท่านข้ามไม่ได้สักที เพราะไม่ได้ตั้งใจที่จะปฏิบัติจริง ๆ ในเมื่อไม่ได้ตั้งใจที่จะปฏิบัติจริง ๆ พอชนก็ถอย ชนก็ถอย กลายเป็นเบื่อแล้วเบื่ออีก

ความจริงอารมณ์เบื่อเป็นอารมณ์ที่ดีมาก เพราะถ้าเราไม่เบื่อก็ยังอยากเกิดอีก แต่เราต้องพิจารณาแล้วก้าวข้ามความเบื่อนั้นให้ได้ เห็นให้ได้ว่าธรรมดาของการอยู่ในโลกต้องเป็นอย่างนี้ จะต้องพบกับเหตุการณ์อย่างนี้ ขึ้นชื่อว่าการเกิดมาเพื่อพบกับสิ่งที่น่าเบื่อเช่นนี้จะไม่มีสำหรับเราอีก ถ้าสามารถก้าวข้ามไปได้ ก็จะกลับเป็นปกติอีกครั้งหนึ่ง แต่เป็นปกติแบบเห็นธรรมดา ไม่ใช่ปกติแบบคนทั่ว ๆ ไป
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 15-07-2017 เมื่อ 15:11
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 184 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #79  
เก่า 15-07-2017, 20:38
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,371
ได้ให้อนุโมทนา: 150,708
ได้รับอนุโมทนา 4,397,030 ครั้ง ใน 33,960 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : ผมจะสร้างวัดแต่ก็บอกบุญไม่ได้ ?
ตอบ : ไม่ต้องหรอก แค่พัฒนาวัดให้สะอาดก็พอแล้ว วัดแต่ละวัดจริง ๆ เสนาสนะพอใช้งาน เพียงแต่ว่าบางคนอยากได้ที่พร้อมสมบูรณ์กว่านั้น

โดยเฉพาะผม บอกบุญใครไม่เป็นเลย ถึงได้ต้องห้ามบอกบุญ ห้ามเรี่ยไร เพราะว่าตกลงกับหลวงพ่อวัดท่าซุงไว้ว่า "ถ้าจะให้ผมทำ ต้องหาเงินให้ผมด้วย ถ้าผมต้องขอเขาแม้แต่บาทเดียว ผมจะไม่ทำอะไรเลย"

พูดง่าย ๆ ว่าถ้าคุณกล้าพูดอย่างนี้ ก็ต้องมีดีพอ คือผมไม่ได้รั้นกับครูบาอาจารย์ แต่มีนิสัยไม่ชอบขอเงินใคร เพราะฉะนั้น...ถ้าหลวงพ่อเห็นว่าผมสามารถที่จะทำงานให้ได้ หลวงพ่อต้องหาเงินให้ผม

ท่านเลยถาม "แกแน่ใจนะว่าจะเอาอย่างนี้ ?" กราบเรียนว่า "แน่ใจครับ" "เออ...ได้" แล้วท่านก็หาเงินของท่านเอง แต่ว่าอย่าใช้ผิดนะ ถ้าใช้ผิดโดนด่าหูตูบ..!
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 16-07-2017 เมื่อ 02:36
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 186 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #80  
เก่า 15-07-2017, 20:40
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,371
ได้ให้อนุโมทนา: 150,708
ได้รับอนุโมทนา 4,397,030 ครั้ง ใน 33,960 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

มีอยู่ครั้งหนึ่ง ผมคิดจะติดกระจกรอบตึกแดงเพื่อให้โปร่ง เห็นข้างนอกได้ ปรากฏว่าพอจะเรียกช่างทำกระจกมา หลวงพ่อท่านบอกว่า "แพงเกินไป ถ้าใครตัดหญ้า เครื่องตัดหญ้าดีดหินไปโดนแค่ก้อนเดียวก็ฉิบหายแล้ว ทำอะไรอย่าให้ฟุ่มเฟือยมากเกินไปนัก เงินข้าเป็นคนหา ไม่ใช่แกหา"

ท้ายสุดตึกแดงถึงได้เป็นมุ้งลวดรอบหลังแทนที่จะเป็นกระจก นั่นก็โปร่งเหมือนกัน พูดง่าย ๆ ว่าถ้าไม่โดนด่า ความคิดก็ไม่เกิด มุ้งลวดไม่กี่บาท ส่วนกระจกราคาแพง เพราะฉะนั้น...เงินของหลวงพ่อท่านไม่ต้องไปใช้ส่งเดชหรอก ผิดท่าผิดทางมีหวังโดนก่อน..!
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 16-07-2017 เมื่อ 02:37
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 192 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
ตอบ


ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 1 คน ( เป็นสมาชิก 0 คน และ บุคคลทั่วไป 1 คน )
 
คำสั่งเพิ่มเติม

กฎการส่งข้อความ
You may not post new threads
You may not post replies
You may not post attachments
You may not edit your posts

BB code is ใช้ได้
Smilies are ใช้ได้
[IMG] code is ใช้ได้
HTML code is งดใช้

Forum Jump


เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 02:53



ค้นหาในเว็บวัดท่าขนุน

เว็บวัดท่าขนุน Powered by vBulletin
Copyright © 2000-2010 Jelsoft Enterprises Limited.
ความคิดเห็นส่วนตัวทุก ๆ ข้อความในเว็บบอร์ดนี้ สงวนสิทธิ์เฉพาะเจ้าของข้อความ ไม่อนุญาตให้คัดลอกออกไปเผยแพร่ นอกจากจะได้รับคำอนุญาตจากเจ้าของข้อความอย่างชัดเจนดีแล้ว