กระดานสนทนาวัดท่าขนุน


กลับไป   กระดานสนทนาวัดท่าขนุน > ห้องธรรมะพระอาจารย์ > เก็บตกจากบ้านวิริยบารมี

Notices

เก็บตกจากบ้านวิริยบารมี เก็บข้อธรรมจากบ้านวิริยบารมีมาฝาก สำหรับผู้ที่ไม่มีโอกาสเดินทางไป

ตอบ
 
คำสั่งเพิ่มเติม
  #81  
เก่า 11-03-2016, 18:33
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,495
ได้ให้อนุโมทนา: 151,165
ได้รับอนุโมทนา 4,405,503 ครั้ง ใน 34,084 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : ทางบ้าน ช่างเขาไม่ได้ทำครัวให้ ในสัญญามีเขียนว่าตารางวาเท่านี้ แต่ไม่ได้เขียนว่าในครัว ส่วนในแบบมีเขียนว่าในครัว ช่างเขาไม่ได้ทำ หนูก็เลยฟ้องร้องค่ะ
ตอบ : ในสัญญาไม่ได้ระบุแต่ในแบบมี ถ้าในแบบมีแล้วเขาตีราคาเหมานี่ ถือว่าเขาต้องทำให้ด้วย

ถาม : ญาติ ๆ เขาบอกว่า ถ้าบ้านมีคดีความแล้วจะอยู่ไม่เป็นสุข เกี่ยวกันไหมคะ ?
ตอบ : ไม่จริง เป็นอาตมายิ่งมีคดียิ่งมีความสุขเพราะชอบมีเรื่อง เพราะฉะนั้น...อยู่ที่เรา ไม่ได้อยู่ที่อะไร

ถาม : หนูก็กลัวค่ะ ?
ตอบ : ถ้าในแบบมี แล้วสัญญาของเราก็คือจ้างเหมาตามแบบ เขาต้องทำให้เรา ถ้าไม่ทำก็ฟ้องได้เลย

ถาม : ตอนนี้กำลังฟ้องร้องอยู่ค่ะ ยื่นไปเขาก็ยังไม่มา ?
ตอบ : ไม่เป็นไร ฟ้องไปเถอะ ไม่ต้องเกรงใจ

ถาม : จะสำเร็จไหมคะ ?
ตอบ : เรื่องแบบนี้อย่าเที่ยวไปถาม เพราะหลักฐานข้อเท็จจริงอยู่ที่ศาลตัดสิน เขาใช้คำว่าเท็จและจริง ถ้าเขาสร้างหลักฐานเท็จได้ เขาก็สามารถเอามาใช้งานได้เหมือนกัน

ถาม : เรามีพยานในสัญญาด้วยค่ะ ไม่มีปัญหาใช่ไหมคะ ?
ตอบ : คราวหน้าทำสัญญาอย่างที่วัดท่าขนุน ของวัดทำสัญญาจ่ายเงินตามงวด ก็คือถ้าคุณทำถึงตรงนี้จะได้รับแค่นี้ ทำถึงตรงนี้ได้รับแค่นี้ แต่ทุกงวดทางวัดจะหักไว้ ๑๐ เปอร์เซ็นต์ ๑๐ เปอร์เซ็นต์นี้คุณจะได้รับก็ต่อเมื่อส่งงาน และทางวัดตรวจรับเรียบร้อยแล้ว ส่วนคุณเองขาดความรอบคอบ ไม่ได้หักตรงนี้เอาไว้ เขาก็เลยบิด ๆ เบี้ยว ๆ ได้ อย่างของวัดท่าขนุน มณฑปประดิษฐานพระพุทธรูปทองคำ ๑๒ ล้าน ๕ แสนบาท ถ้าหักไว้ ๑๐ เปอร์เซ็นต์ เขาไม่อยากได้ก็เป็นเรื่องของเขา

ถาม : หนูก็ไม่ได้คิดว่าเขาจะเป็นแบบนี้ ?
ตอบ : อย่าไว้ใจทางอย่าวางใจคน ส่วนใหญ่พวกนี้เขี้ยวยาว ร้อยวันพันปีจะเจอช่างดี ๆ ตรงไปตรงมาสักที เอาเถอะ...ถือว่าเป็นบทเรียนไป รอศาลเขาตัดสิน ถ้าเขาไม่มาก็ค่อยแจ้งความ ความจริงถ้าเป็นอาตมาจะไปแจ้งความที่เชียงรายที่หนึ่ง ที่สุไหงโกลกที่หนึ่ง ให้เขาวิ่งให้ตายห่...ไปเลย

ถาม : มีคำแนะนำอะไรอีกไหมคะ ?
ตอบ : ก็แนะนำไปแล้วว่า ถ้าเป็นอาตมาจะแจ้งความสุดเหนือสุดใต้ พอถึงเวลามีหมายเรียกให้เขาวิ่งให้ตายห่...ไปเลย การแจ้งความเป็นสิทธิของเราว่าจะไปแจ้งที่ไหนก็ได้
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 12-03-2016 เมื่อ 02:33
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 195 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #82  
เก่า 11-03-2016, 19:08
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,495
ได้ให้อนุโมทนา: 151,165
ได้รับอนุโมทนา 4,405,503 ครั้ง ใน 34,084 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

พระอาจารย์กล่าวว่า "วัดลานหอยสมัยก่อนมีหลวงพ่อปี้ดังมาก ๆ เราเคยได้ยินชื่อกันหรือเปล่าก็ไม่รู้ คำว่าปี้สมัยก่อนเขาหมายถึงเหรียญเงิน สมัยนี้ก็ได้ยินคนแก่ ๆ บางคนเรียก แต่คนรุ่นหลังฟังไม่รู้เรื่องหรอกว่าคืออะไร เหมือนคุณยายมณีบอกว่าตะกรุดยาวเกียกหนึ่ง แกก็ทำมืออย่างนี้ คนรุ่นใหม่จะไปรู้หรือเกียกหนึ่งยาวเท่าไร ถ้าคืบหนึ่งก็ระหว่างนิ้วโป้งกับนิ้วกลาง ถ้าเกียกหนึ่งก็ระหว่างนิ้วโป้งกับนิ้วชี้"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 12-03-2016 เมื่อ 02:34
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 207 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #83  
เก่า 11-03-2016, 19:11
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,495
ได้ให้อนุโมทนา: 151,165
ได้รับอนุโมทนา 4,405,503 ครั้ง ใน 34,084 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

พระอาจารย์กล่าวว่า "คนรุ่นใหม่เขาพยายามพิสูจน์ว่าหลักศิลาจารึกสุโขทัยเป็นของปลอมที่รัชกาลที่ ๔ ทำขึ้นมา ถ้ารัชกาลที่ ๔ ทำได้ ก็สุดยอดอัจฉริยะเลย เพราะต้องคิดภาษาขึ้นมาใหม่หมดเลย ต้องเป็นภาษาที่เขาอ่านรู้เรื่องด้วย คงเป็นประเภทอัจฉริยะในอัจฉริยะเลย คือเรื่องของนักวิชาการเป็นสิทธิของเขาที่จะตั้งข้อสันนิษฐาน เขาบอกว่าสำนวนบางอย่างไม่น่าจะเป็นสำนวนในสมัยสุโขทัย นึกแล้วก็ขำ ทำอย่างกับเอ็งเกิดทันยุคนั้น...!"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 12-03-2016 เมื่อ 02:35
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 211 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #84  
เก่า 11-03-2016, 19:15
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,495
ได้ให้อนุโมทนา: 151,165
ได้รับอนุโมทนา 4,405,503 ครั้ง ใน 34,084 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

พระอาจารย์กล่าวว่า "เรื่องวุ่น ๆ ในปัจจุบันนี้เป็นเรื่องของคนไม่กี่คน คือจริง ๆ แล้ว คสช. มี ม. ๔๔ อยู่ในมือ ถ้าจะเล่นงานวัดธรรมกายก็สามารถตีตรงได้เลย แต่ว่ากลับมาทำให้เรื่องเล็ก ๆ กลายเป็นเรื่องใหญ่ ต้องบอกว่าบรรดากุนซือของ คสช.นี่ สมควรโดนประหาร ๗ ชั่วโคตร..! ไม่ว่าจะหลักการบริหารอะไรก็ตาม เขามีแต่ทำเรื่องใหญ่ให้เป็นเรื่องเล็ก ทำเรื่องเล็กให้ไม่มีเรื่อง แต่นี่เขาสามารถทำเรื่องเล็กให้เป็นเรื่องใหญ่ได้ แล้วก็ใหญ่กันไปเรื่อย ๆ"

ถาม : จะว่าได้ผลประโยชน์ก็ไม่มีใครได้นี่คะ ?
ตอบ : มีสิ...ที่ได้ผลประโยชน์จริง ๆ ก็คือศาสนาอื่น
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 12-03-2016 เมื่อ 02:36
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 217 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #85  
เก่า 11-03-2016, 19:24
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,495
ได้ให้อนุโมทนา: 151,165
ได้รับอนุโมทนา 4,405,503 ครั้ง ใน 34,084 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

พระอาจารย์กล่าวว่า "ท่านอานนท์เป็นลูกศิษย์เรียน มจร. ท่านไปได้มีดหมอมาเล่มหนึ่ง ก็มางมหาประวัติ ในที่สุดก็เจอว่าเป็นของหลวงพ่อแจ่ม วัดวังแดงเหนือ จังหวัดอยุธยา เรียกว่ามีดหมอสะกดวิญญาณ เอาไว้สำหรับเฉ่งผีโดยเฉพาะ งานอื่นถือเป็นของแถม ก็คือบรรดาลูกศิษย์หลวงพ่อแจ่มที่เป็นสัปเหร่อ พอไปเผาศพแล้วโดนพวกผีตามเล่นงานอยู่เรื่อย ๆ มาขอให้ท่านช่วยสร้างวัตถุมงคลที่กันพวกนี้หน่อย แทนที่จะกัน ท่านก็ทำแบบเล่นงานผีโดยตรงเสียเลย

ที่อัศจรรย์ที่สุดก็คือ เวลาท่านจารอักขระแล้วแช่น้ำมนต์ ตัวอักขระจะนูนขึ้นมา เป็นมีดหมอสำนักเดียวที่ไม่เหมือนคนอื่น สมัยก่อนหลวงตาวัชรชัยชวนไปเรียนวิชานี้กับหลวงพ่อวงศ์ด้วยกัน ท่าน
บอกให้รีบไปเพราะว่าท่านอายุมากท่านบอกว่าพวกสมาธิดี ๆ ให้รีบมา ปรากฏว่าไปไม่ทัน มรณภาพก่อน"

ถาม : (ไม่ชัด)
ตอบ : นั่นก็คือหลวงพ่อวงศ์ ลูกศิษย์หลวงพ่อแจ่มอีกทีหนึ่ง ขนาดหลวงพ่อวงศ์ตอนนั้นยัง ๗๐ กว่าปีแล้ว น่าเสียดายเหมือนกัน ถ้าได้เรียนเอาไว้คงเล่นกันสนุกสนานไปเลย สมัยนี้ถ้าจะเอาตัวหนังสือลักษณะนั้นต้องใช้กรดกัดเอา ซึ่งทำยากมาก เพราะจะต้องปิดตรงบริเวณที่เราต้องการเอาไว้ แล้วตัวหนังสือจะไปปิดอย่างไร ? เพราะตัวนิดเดียว
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 12-03-2016 เมื่อ 02:39
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 213 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #86  
เก่า 13-03-2016, 16:09
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,495
ได้ให้อนุโมทนา: 151,165
ได้รับอนุโมทนา 4,405,503 ครั้ง ใน 34,084 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : ตอนเสก ฐานกล่องวัตถุมงคลสั่นกรุบ ๆ ตั้งแต่อยู่มาเพิ่งเคยเห็นครั้งแรก ?
ตอบ : อาตมาไม่ได้ทำอะไร นั่งเฉย ๆ จะเอากระโดดออกจากกล่องไหมเล่า ? ถ้าทำอะไรชัดเจนเกินไปสมัยนี้ตายเร็ว อย่างรุ่นครูบาอาจารย์เสกต้องให้โดดได้ก่อน รุ่นของเราถ้าเกิดว่าโดดได้เมื่อไร เดี๋ยวอีกไม่ถึง ๒ ชั่วโมงทั่วโลกได้ดูกันอุตลุด เอาไปแค่นั้นแหละพอแล้ว

ต้องบอกว่าท่านอานนท์ค่อนข้างจะมีสัญชาตญาณในเรื่องของวัตถุมงคล เมื่อปีที่แล้วท่านถวายมีดหมอของหลวงพ่อกวย วัดโฆสิตารามมาเล่มหนึ่ง วัดโฆสิตารามนี่ไปบอกชาวบ้านชาวบ้านไม่รู้จักหรอก เขาเรียกวัดบ้านแค ท่านเองก็ไปได้มีดหมอของหลวงพ่อแจ่ม วัดวังแดงเหนือมา

เมื่อวานตอนเดินทางมา พระท่านให้เอามีดหมอทั้งหมดที่มีมาด้วย ปรากฏว่าอาตมาไปนั่งทางด้านท้ายรถแล้วออกไม่ได้ ให้ "หมวยนี้" ไปยกพานใส่มีดหมอมา ปรากฏว่ามีดหมอหลวงพ่อกวยไม่ว่ารู้อันตรธานไปไหน รถก็วิ่งออกไปแล้ว ก็เลยคิดว่าไม่เป็นไร ท่านไม่มาก็แล้วแต่ท่านเถอะ พอมาถึงวัดกาญจนบุรีเก่า ไปกราบถวายฎีกาหลวงพ่อเจ้าคณะจังหวัด มีดหมอก็ยิ้มเผล่อยู่ตรงนั้น แต่ตอนแรกไม่มีแน่นอน แหม...น่าเหวี่ยงจริง ๆ
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 13-03-2016 เมื่อ 16:23
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 209 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #87  
เก่า 13-03-2016, 17:04
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,495
ได้ให้อนุโมทนา: 151,165
ได้รับอนุโมทนา 4,405,503 ครั้ง ใน 34,084 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : เวลาได้ยินเสียงเทวดา แสดงว่าท่านมาเตือนเราหรืออย่างไรคะ ?
ตอบ : ให้พิจารณาดูว่าอะไรที่ไม่เหลือบ่ากว่าแรง แก้ไขแล้วดีกับตัวเราก็แก้ไปทำไป ถ้าอันไหนไม่ดีแก่เราก็อาจจะเมิน ๆ หน่อยก็ได้ แต่คราวหลังท่านก็จะไม่เตือนอีก

ใครจะเตือนเราก็ต้องพิจารณาแก้ไขทั้งนั้นแหละ อย่างอาตมานี่ประเภทเทพอสูร ดีก็ดีไม่ทั่ว ชั่วก็ชั่วไม่หมด ครึ่ง ๆ กลาง ๆ เพราะฉะนั้น...จะเทวดาเตือนหรือมารเตือนนี่อาตมารับฟังทั้งนั้น
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 13-03-2016 เมื่อ 21:10
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 201 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #88  
เก่า 13-03-2016, 18:30
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,495
ได้ให้อนุโมทนา: 151,165
ได้รับอนุโมทนา 4,405,503 ครั้ง ใน 34,084 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : ผีกองกอยเป็นแบบไหนครับ ?
ตอบ : ผีกองกอย จะเอาแบบไหน ?

ถาม : แบบขาเดียวกระโดดครับ ?
ตอบ : แบบขาเดียวเป็นอสุรกายประเภทหนึ่ง ทางด้านเหนือเขาเรียกว่า “ผีเสื้อห้วย” เคลื่อนไหวเร็วมาก สาเหตุที่คนไม่เห็นตัวเพราะว่าไวมาก ความจริงแล้วเป็นลักษณะอสุรกายประเภทหนึ่ง คุณโจ๋ย บางจาก ที่ทำสารคดีส่องโลก เคยไปวางกล้องดักถ่ายพวกสัตว์ป่า ถ่ายเจ้าตัวนี้ทีไรจะได้แต่ปลายตีนนิดเดียว ขนาดกล้องลั่นแล้วยังโดดหนีได้ทัน เขาเร็วขนาดนั้น แล้วก็ติดแต่ตีนมาหน่อยหนึ่ง ตามที่คุณโจ๋ยเขาบอกคิดว่าเป็นสัตว์ทั่ว ๆ ไป เพียงแต่ว่าเป็นสัตว์ที่คนทั่วไปยังไม่รู้จัก

ในยุคที่ทางภาคเหนือเรายังมีเจ้าผู้ครองนครอยู่ ยุคที่บริษัทบอมเบย์เบอร์ม่าเขาได้สัมปทานไม้สักภาคเหนือ ก็มีอยู่พวกหนึ่งที่เขาเชื่อกันว่าเป็นผีกองกอย แต่ว่าคนละอย่างกัน อันนั้นเป็นอสุรกายอีกประเภทหนึ่ง ถ้าเราเคยอ่านเรื่องเวตาลก็จะเห็นว่า พออสุรกายเข้าไปสิงศพ ก็จะมีหางเป็นแพะมีปีกเป็นค้างคาว กลายเป็นตัวเวตาลอะไรอย่างนั้น แต่เจ้านี่พออสุรกายเข้าไปสิง ศพนั้นจะไม่เน่า แล้วขนจะงอกยาวขึ้นเรื่อย ๆ

คราวนี้จะไปพ้องกับเรื่องความลับในดงดิบของ ท. เลียงพิบูลย์ ที่เขียนเอาไว้จากคำสัมภาษณ์ของโยมท่านหนึ่ง ที่ว่าไปเจอเจ้าผีกองกอยที่ว่านี้ ถึงเวลาแล้วมาร้อง แค่เสียงร้องของเขาก็สามารถสูบเลือดคนไปกินได้ ขนาดแค่ผ่านเสียงร้องเท่านั้น ตัวนี้แสดงว่าบำเพ็ญตบะมานานมาก แล้วก็ไปสอดคล้องกับสิ่งที่หลวงปู่ตื้อ อจลธมฺโม กับหลวงปู่แหวน สุจิณฺโณ ท่านเล่าให้ฟังว่า ท่านไปเจอเจ้าผีกองกอยนี้ หลวงปู่ตื้อกับหลวงปู่แหวนก็แผ่เมตตาปรากฏว่าไม่ยอมไป หลวงปู่แหวนก็เลยเทศน์โปรด ท้ายสุดเขาก็เลยเปลี่ยนใจ ไม่กินหลวงปู่ ๒ ท่าน แล้วก็หนีหายไป หลวงปู่ตื้อท่านชมหลวงปู่แหวนว่าเทศน์ได้ดีมาก ขนาดผีกองกอยที่ไม่น่าจะรับฟังใครยังอุตส่าห์ยอมลงให้

ถ้าหากว่าเป็นประเภทนี้จะเป็นศพที่ตายแล้ว แต่พอพวกอสุรกายเข้าสิง ก็ยังคงออกหากินเพื่อหล่อเลี้ยงศพนั้นไปเรื่อย ๆ ยิ่งกินมากก็ยิ่งมีฤทธิ์มีอำนาจมากขึ้นเรื่อย ๆ
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย เถรี : 13-03-2016 เมื่อ 21:41
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 195 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #89  
เก่า 13-03-2016, 18:34
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,495
ได้ให้อนุโมทนา: 151,165
ได้รับอนุโมทนา 4,405,503 ครั้ง ใน 34,084 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : อสุรกายมีกี่ประเภท ?
ตอบ : อสุรกายมีอยู่ตั้ง ๔ ประเภท ตกลงว่าไปว่ามาสำนวนออกไปทางวิทยานิพนธ์ มีอ้างอิงด้วย ...(หัวเราะ)... เล่าเรื่องอสุรกายแท้ ๆ ก็ยังไปตรงกับของประเทศจีนด้วย ที่เขาบอกว่ามีบางศพที่ฝังในฮวงจุ้ยที่ผิด แล้วก็ทำให้กลายเป็นผีดิบ ไม่เน่าไม่เปื่อย มีขนงอกยาวขึ้นมา ก็แสดงว่าเรื่องพวกนี้มีอยู่ทั่วโลก เพียงแต่ว่าใครจะเจอหรือไม่เท่านั้น
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 13-03-2016 เมื่อ 21:16
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 185 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #90  
เก่า 13-03-2016, 18:45
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,495
ได้ให้อนุโมทนา: 151,165
ได้รับอนุโมทนา 4,405,503 ครั้ง ใน 34,084 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : พวกอบายภูมิ เรามีโอกาสจะได้เจอไหมครับ อย่างพวกเปรต อสุรกาย สัตว์นรก ?
ตอบ : ถ้าวาระกรรมของเราเปิดบางทีก็ได้เจอ แล้วอีกอย่างก็คือเขาตั้งใจแสดงให้เห็น ถ้าเขาตั้งใจแสดงให้เห็นก็มีโอกาสได้เจอ มีบันทึกอยู่ในเปตวัตถุหลายเรื่อง ที่พระท่านเดินทางแล้วไปเจอโยมคนหนึ่งตัวดำเมี่ยมเลย เดินเข้ามาขอร้องพระท่านว่า ช่วยหาน้ำให้กินหน่อยเถอะ หิวน้ำเหลือเกิน พระก็บอกว่า “โยมเดินลุยอยู่ในสระน้ำนั่นเลย” เขาบอกว่าเขามองไม่เห็น พระท่านก็เลยตักน้ำใส่บาตรให้ เขาก็ไม่เห็น ท้ายสุดพระท่านก็เลยจับนอนหงาย ปรากฏว่าปากเขาเท่ารูเข็ม ต้องค่อย ๆ เอาน้ำในบาตรกรอกใส่ลงไป ๆ ได้ ๗-๘ บาตร ถามว่าพอหรือยังโยม ? โยมบอกว่าไม่รู้สึกว่ามีน้ำสัมผัสลิ้นเลย ก็เลยถามว่าโยมทำกรรมอะไรมาถึงเป็นอย่างนี้ เขาก็เลยเล่าว่า “ข้าพเจ้าเป็นเปรต ในอดีตเป็นคนหวงบ่อน้ำ ไม่ยอมให้คนอื่นมาร่วมใช้บ่อน้ำด้วย”

แล้วอีกเรื่องก็พระท่านหลงป่า เดินอยู่หลายวันหมดเรี่ยวหมดแรง แล้วไปเจอโยมท่านหนึ่งไถนาอยู่ ก็ถามทาง โยมก็บอกทางให้ ถามว่าโยมมาทำอะไรกลางป่า มาทำไร่ไถนาอยู่ ผู้คนก็ไม่มี เขาก็บอกว่าโยมเป็นเปรต เคยโกงที่สงฆ์ไว้ หลังจากตกนรกแล้วมาเกิดเป็นเปรตก็ชดใช้กรรมอยู่ที่นี่
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 13-03-2016 เมื่อ 21:18
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 191 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #91  
เก่า 13-03-2016, 19:21
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,495
ได้ให้อนุโมทนา: 151,165
ได้รับอนุโมทนา 4,405,503 ครั้ง ใน 34,084 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : พวกที่อยู่ต่างภูมิจะเห็นกันไหมครับ ?
ตอบ : ถ้าอยู่ต่างภูมิกันบางทีก็ไม่เห็นกัน ถ้าฝ่ายที่มีฤทธิ์มากกว่าหรือว่าภูมิละเอียดกว่า อย่างเปรตจะอยู่ภูมิที่หยาบกว่า อสุรกายละเอียดกว่า คาดว่าเขาไม่น่าจะเห็นกัน เพราะว่าถ้าเห็นกันเมื่อไรนี่ยุ่งตายชักเลย

ฝ่ายที่อยู่ภูมิละเอียดกว่าเขาสามารถเห็นฝ่ายที่หยาบกว่าได้ แต่ฝ่ายที่หยาบกว่าอยากเห็นฝ่ายละเอียดกว่านั้นไม่อยู่ในวิสัยที่จะทำได้


ถาม : แล้วที่หมาเห็นผี ?
ตอบ : เขาเรียกว่าเป็นฤทธิ์โดยกรรมวิบาก เป็นฤทธิ์อย่างหนึ่งเหมือนอย่างกับเราไม่มีสิทธิ์ที่จะเห็น แต่เราก็มีฤทธิ์คือสามารถเห็นโดยใช้ทิพจักขุญาณ
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 13-03-2016 เมื่อ 21:19
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 190 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #92  
เก่า 13-03-2016, 19:43
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,495
ได้ให้อนุโมทนา: 151,165
ได้รับอนุโมทนา 4,405,503 ครั้ง ใน 34,084 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : ทำไมพระดีเข้าถึงที่สุดเหมือนกัน แต่ความคล่องตัวไม่เหมือนกัน ทั้ง ๆ ที่เป็นพระดี ?
ตอบ : บุญเก่าที่ทำมา เกี่ยวกับทานบารมี ทานบารมีมีส่วนเกินครึ่ง

ถาม : อย่างนี้ความบริสุทธิ์ของใจช่วยไม่ได้หรือครับ ?
ตอบ : ช่วยได้ แต่ก็เหมือนกับต้นทุนเราน้อย ต่อให้คุณโกยมาให้หมดแต่ก็ได้แค่นั้น แต่ถ้าต้นทุนเราเยอะ อย่างที่อาตมาเคยบอกท่านย่าว่า ให้ผมเป็นพระเจ้าจักรพรรดิยังน้อยไปเลย

ถาม : อย่างหลวงพ่อฤๅษีที่ไปอยู่วัดท่าซุงแรก ๆ ก็ยังผูกปิ่นโตเลยครับ ?
ตอบ : วาระบุญยังมาไม่ถึง
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย เถรี : 13-03-2016 เมื่อ 21:40
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 203 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #93  
เก่า 14-03-2016, 13:31
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,495
ได้ให้อนุโมทนา: 151,165
ได้รับอนุโมทนา 4,405,503 ครั้ง ใน 34,084 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : ทำไมพระรุ่นก่อนถึงใช้กำลังส่วนตัวในการปลุกเสกกันครับ ?
ตอบ : ส่วนใหญ่ท่านมาทางสายอภิญญา และไม่มีความรู้ว่าจะต้องขอบารมีพระอย่างไร

ถาม : แต่ท่านก็เจอพระนะครับ ?
ตอบ : ที่เจออย่าง หลวงพ่อสด วัดปากน้ำ หลวงปู่ปาน วัดบางนมโค หลวงพ่อโหน่ง วัดคลองมะดัน ให้สังเกตว่าจะกลายเป็นอมตะเถราจารย์ไปเลย
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 14-03-2016 เมื่อ 16:52
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 196 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #94  
เก่า 14-03-2016, 13:52
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,495
ได้ให้อนุโมทนา: 151,165
ได้รับอนุโมทนา 4,405,503 ครั้ง ใน 34,084 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

พระอาจารย์กล่าวว่า "พอสร้างพิพิธภัณฑ์ ๑๐๐ ปีหลวงพ่อวัดท่าซุงเสร็จ อาตมาต้องหาเจ้าหน้าที่มาประจำไว้ ต้อง สามารถที่จะอธิบายให้เด็กเข้าใจว่าอะไรเป็นอะไร เดี๋ยววันมะรืนนี้เขาจะเอาเรือไปส่งที่วัด อาตมาสั่งสร้างเรือพระราชพิธีจำลองไป ๓ ลำ ลำหนึ่งยาว ๒ เมตรครึ่ง มีเรืออนันตนาคราช เรือสุพรรณหงส์ เรือนารายณ์ทรงสุบรรณ"

ถาม : ลำเท่าไรครับ ?
ตอบ : น่าจะประมาณสองแสนห้า ...(หัวเราะ)... ยาวเป็นวาเลย สัดส่วนเหมือนของจริงหมด แล้วตรงที่ทึ่งก็คือเขาทำเหมือนมาก

วัดท่าหลวงที่จังหวัดพิจิตรสั่งทั้งขบวนเลย ทั้งเรือดั้งเรือแซงอะไรเอาหมดเลย เอาเถอะ...คุณมีเงินนี่นา วัดท่าหลวงมีหลวงพ่อเพชร วัน ๆ คนเข้าตั้งเท่าไร ของเราไม่ได้อย่างนั้น ลำไหนหน้าตาดีหน่อยก็ค่อย ๆ เอามา เก็บไปเรื่อย ๆ
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 14-03-2016 เมื่อ 16:55
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 197 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #95  
เก่า 14-03-2016, 14:09
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,495
ได้ให้อนุโมทนา: 151,165
ได้รับอนุโมทนา 4,405,503 ครั้ง ใน 34,084 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : หลวงพ่อไม่ทันหลวงปู่บุญมีใช่ไหมครับ ?
ตอบ : เกิดทัน แต่ไม่ทันได้ไปหา ท่านมรณภาพปีที่อาตมาลาออกจากทหารพอดี วัดเขาสมอคอนสมัยก่อนเป็นสำนักใหญ่ ต้องบอกว่าเป็นคู่แข่งกับวัดมณีชลขันธ์ วัดมณีชลขันธ์ได้หลวงปู่แสง วัดเขาสมอคอนได้หลวงปู่ก๋ง แล้วหลวงปู่ก๋งนี่แหละที่ถ่ายทอดวิชาให้หลวงพ่อบุญมี ส่วนหลวงพ่อแสงออกมาทางด้านหลวงพ่อโต วัดระฆัง หลวงพ่อเนียมวัดน้อย

ถาม : พระอุปัชฌาย์ก๋ง ?
ตอบ : สมัยก่อนกว่าจะเป็นพระอุปัชฌาย์ได้ต้องประเภทเลิศวิทยายุทธ์จริง ๆ ดูอย่างพระอุปัชฌาย์ยิ้ม พระอุปัชฌาย์กลั่น แต่ละท่านสุดยอดทั้งนั้น

ถาม : ได้เป็นพระอุปัชฌาย์นี่เป็นที่ภูมิใจของจังหวัด ?
ตอบ : ถ้ายุคนั้นก็เป็นหน้าตาของประเทศเลย
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 14-03-2016 เมื่อ 16:58
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 192 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #96  
เก่า 14-03-2016, 14:14
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,495
ได้ให้อนุโมทนา: 151,165
ได้รับอนุโมทนา 4,405,503 ครั้ง ใน 34,084 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ต้องบอกว่าเสด็จในกรมหลวงชุมพรท่านเก่งจริง พอหลวงปู่ศุขแนะนำให้ไปกราบขอเรียนวิชาจากหลวงปู่ยิ้ม ไปขอมีดหมอปราบไตรภพ หลวงปู่ยิ้มให้เพ่งเทียน ท่านก็เพ่งเทียนระเบิดดับได้ เพราะว่าวิชาสายหนองบัวนี่ ถ้าเพ่งเทียนดับไม่ได้ท่านไม่ให้วิชา

ถาม : ทำไมต้องเพ่งเทียนให้ดับ ?
ตอบ : เพราะว่าสมาธิจะได้พอที่จะใช้งาน

ถาม : ต่างจากทำให้เทียนติดใช่ไหมครับ ?
ตอบ : ต่างกัน ที่เทียนติดใช้อำนาจของกสิณ ที่เทียนดับใช้กำลังใจล้วน ๆ

ถาม : ถ้าใช้นีลกสิณ ?
ตอบ : นั่นไม่ใช่ดับ แค่โดนบัง

ถาม : แสดงว่าใช้นีลกสิณง่ายกว่า ?
ตอบ : ง่ายกว่า สมัยก่อนจะเคยชินกับความแข็งแรงเฉพาะตัว ในเมื่อมีความแข็งแรงเฉพาะตัว คุณถึงสามารถเป็นแม่ทัพขุนศึก เป็นผู้นำเขาได้ คราวนี้พอมาฝึกปฏิบัติทางใจ ก็เลยดูว่าพลังจิตของใครแข็งกว่า

ถาม : อ๋อ...ที่หลวงปู่ใจ วัดเสด็จ ท่านบอกว่า ใครจะมาเอาวิชาของท่านไป ให้เพ่งเทียนให้ระเบิดไปเลย ก็คืออันนี้ ?
ตอบ : หลวงปู่ใจ วัดเสด็จท่านใช้เวลา ๗ วัน เพ่งไปเถอะ จนท้อใจ วันนี้ถ้าไม่สำเร็จจะกลับแม่กลองแล้ว ปรากฏว่าคืนนั้นแหละ เทียนระเบิดดับต่อหน้าต่อตา หลวงปู่ยิ้มท่านหัวเราะ บอกว่า "เก่งกว่าข้าอีก ข้าโดนไปเกือบ ๑๕ วัน" ...(หัวเราะ)... ต้นตำรับบอกตัวเองโดนไปเกือบ ๑๕ วัน
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 14-03-2016 เมื่อ 17:00
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 196 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #97  
เก่า 14-03-2016, 14:22
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,495
ได้ให้อนุโมทนา: 151,165
ได้รับอนุโมทนา 4,405,503 ครั้ง ใน 34,084 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถ้าสายเมืองกาญจน์ฯ หลวงปู่ยิ้มท่านเป็นอาจารย์ของหลวงปู่สอน วัดทุ่งลาดหญ้า หลวงปู่เหรียญ วัดหนองบัว หลวงปู่ดี วัดเหนือ ส่วนหลวงปู่เปลี่ยน วัดใต้ นี่ต้องบอกว่าเป็นสหธรรมิกรุ่นน้อง คราวนี้หลวงปู่เปลี่ยนท่านดังมาก่อนแล้ว คงไม่ขอแลกเปลี่ยนวิชากัน แล้วก็มาหลวงพ่อดอกไม้ และอีกหลายท่าน แต่ว่าดังสู้ ๓ เสือกาญจนบุรีไม่ได้ เพราะว่าหลวงปู่เปลี่ยน วัดใต้ หลวงปู่ดี วัดเหนือ กับหลวงพ่อเหรียญ วัดหนองบัว ดังกว่า ท่านอื่น ๆ ก็เลยโดนบังรัศมีไป ทั้ง ๆ ที่เป็นศิษย์อาจารย์เดียวกัน

คราวนี้ทางหลวงปู่ดี วิชาของท่านก็ลงมาทางที่สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช หลวงปู่สอนก็มาที่หลวงพ่อลำใย ของอาตมาก็เลยกลายเป็นลูกศิษย์สองสาย

สมเด็จพระสังฆราช วัดบวรฯ ช่วงที่พระองค์ท่านป่วยแล้วทำอะไรไม่ได้ โดนขโมยรัดประคดไป ส่วนใหญ่แล้วในประคดเอวเป็นพระปิดตา
กับแหวนพิรอดหลวงปู่ยิ้ม พระองค์ท่านเก็บเอาไว้เป็นที่ระลึกถึงครูบาอาจารย์ โดนขโมยไปเข้าตลาด ของแพงเลย
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 14-03-2016 เมื่อ 17:03
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 187 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #98  
เก่า 14-03-2016, 14:30
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,495
ได้ให้อนุโมทนา: 151,165
ได้รับอนุโมทนา 4,405,503 ครั้ง ใน 34,084 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

แหวนพิรอดหลวงปู่ยิ้ม วัดหนองบัว ต่างกับของหลวงพ่อม่วง วัดบ้านทวน ของวัดบ้านทวน หลวงพ่อม่วงท่านถักเป็นลายขัด แต่ของหลวงปู่ยิ้มท่านถักเป็นหัวขึ้นมา บางคนเรียกว่า "ถันพระอุมา" ส่วนของหลวงพ่อหรุ่น วัดอัมพวัน ท่านก็ถักเป็นหัวขึ้นมาเหมือนกัน ฉะนั้น...ต้องดูความต่างของเนื้อรัก ของหลวงปู่ยิ้มส่วนใหญ่เป็นรักจีนออกสีแดง ส่วนของหลวงปู่เปลี่ยน วัดใต้ นี่ถึงเรียนแหวนพิรอดจากหลวงปู่ยิ้มไปก็จริง แต่ว่าท่านถักแบบเรียบ ๆ ไม่มีลายขัดอะไร เหมือนกับเอาด้ายพันขึ้นมาเฉย ๆ แต่ว่าเป็นตำราเดียวกันหมด

ถาม : คาถาพระพิรอดขอดพระพินัยสายเรามาจากไหนครับ ?
ตอบ : อันเดียวกัน ตำราเดียวกันหมด เวลาอาราธนาติดตัวก็ “โอม พระพิรอด ขอดพระพินัย” ถึงเวลาเก็บก็ “โอม พระพินัย คลายพระพิรอด” ยกเว้นว่าตำราผูกเชือก ๓ ปมก็ยังมีปมกลางอีก มี “สะ สิ มิ สิ”

ถาม : ตำราผูกเชือกปมกลางนี่ ?
ตอบ : คาถาเดียวกัน แต่ว่าเพิ่มขึ้นมาบทหนึ่ง หลวงพ่อวัดท่าซุงท่านบอกว่า เป็นของหลวงพ่อเงิน วัดพระปรางค์เหลือง

ถาม : เสกใช้สามตัวนี้เหมือนกัน ?
ตอบ : สามตัวนี้ แต่ท่านบังคับให้กลั้นหายใจ เหนื่อยตายชักเลย

สายครูบาอาจารย์ของอาตมามีตั้ง ๑๐ กว่าสาย...ยุ่งไปหมด เดี๋ยวพอฉลองอายุ ๖๐ ปี จะทำสายครูบาอาจารย์ออกมา ตอนนี้ร่าง ๆ เอาไว้แล้ว ออกมานี่ได้งงกันไปหมด อะไรจะเรียนมาเยอะขนาดนี้วะ ? เพราะอาศัยว่าจำง่าย จำแม่น แล้วท่านเมตตา ไปหาทีไรท่านก็ให้อยู่เรื่อย
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 14-03-2016 เมื่อ 17:07
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 194 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #99  
เก่า 15-03-2016, 11:34
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,495
ได้ให้อนุโมทนา: 151,165
ได้รับอนุโมทนา 4,405,503 ครั้ง ใน 34,084 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

พระอาจารย์กล่าวว่า "ท่านที่ตั้งคำถามเอาไว้ในเว็บวัดท่าขนุนแล้วไม่ไปแก้ไขข้อผิดพลาดตัวเอง โดนแบนตลอดชีวิตไปเรียบร้อยแล้ว ก็คือคุณจะดื้อกับใครก็ได้ แต่ดื้อในเว็บวัดท่าขนุนไม่ได้ เพราะเจ้าพ่อดุ...!

รู้สึกว่าจะโดนแบนไป ๒ ราย รายหนึ่งแก้หลายครั้งแล้ว แต่แก้เท่าไรก็ไม่สำเร็จ แก้จนท้อเลยทิ้งไปเลย ส่วนอีกราย ตั้งกระทู้เสร็จก็หายไปเลย ใครจะแจกใบแดง ใบเหลืองอย่างไรตูไม่รับรู้ทั้งสิ้น ท้ายสุดสิ่งที่ตนเองทำก็เลยส่งผล โดนแบนไปเรียบร้อยแล้ว"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 16-03-2016 เมื่อ 02:54
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 182 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #100  
เก่า 15-03-2016, 12:25
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,495
ได้ให้อนุโมทนา: 151,165
ได้รับอนุโมทนา 4,405,503 ครั้ง ใน 34,084 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

พระอาจารย์กล่าวว่า "น้ำฟักทองไม่ใช่ปานะ พระไม่สามารถจะฉันหลังเพลได้ น้ำฟักทอง น้ำลูกเดือย บรรดาสารพัดถั่ว แม้กระทั่งน้ำข้าว ก็เป็นอาหาร สมัยนี้เขาแกล้งโง่ ๆ มาถวายเป็นน้ำปานะกันหมด โดยเฉพาะระยะหลังที่เจอมากคือน้ำข้าวโพด น้ำเผือกปั่น น้ำฟักทองปั่น บางรายปั่นมาข้นคลั่กเป็นครีมเลย

น้ำเต้าหู้ก็เป็นอาหาร เพราะว่ามาจากถั่วเหลือง บรรดาตระกูลถั่วตระกูลข้าว พวกพืชกินหัวทั้งหมดเป็นอาหาร ต้องบอกว่าค่อย ๆ เพี้ยนไปเรื่อย จนกระทั่งผิดกลายเป็นถูก พอเราไปทำให้ถูกก็กลายเป็นผิดในสายตาคนอื่น ระยะหลังมีในงานภาคค่ำ อย่างเช่นพวกงานสวดอภิธรรม มีถวายเม็ดก๋วยจี๊ เมล็ดทานตะวัน ก็เห็นท่านนั่งแทะเป็นนกเป็นกระรอกอยู่เหมือนกัน โยมไม่รู้ ถวายของที่ไม่สมควรมา พระต้องบอกต้องเตือนโยมให้รู้ ไม่ใช่ถวายมากูก็ฉวยโอกาสกินเลย"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 16-03-2016 เมื่อ 02:55
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 187 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
ตอบ


ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 1 คน ( เป็นสมาชิก 0 คน และ บุคคลทั่วไป 1 คน )
 

กฎการส่งข้อความ
You may not post new threads
You may not post replies
You may not post attachments
You may not edit your posts

BB code is ใช้ได้
Smilies are ใช้ได้
[IMG] code is ใช้ได้
HTML code is งดใช้

Forum Jump


เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 14:01



ค้นหาในเว็บวัดท่าขนุน

เว็บวัดท่าขนุน Powered by vBulletin
Copyright © 2000-2010 Jelsoft Enterprises Limited.
ความคิดเห็นส่วนตัวทุก ๆ ข้อความในเว็บบอร์ดนี้ สงวนสิทธิ์เฉพาะเจ้าของข้อความ ไม่อนุญาตให้คัดลอกออกไปเผยแพร่ นอกจากจะได้รับคำอนุญาตจากเจ้าของข้อความอย่างชัดเจนดีแล้ว