กระดานสนทนาวัดท่าขนุน


กลับไป   กระดานสนทนาวัดท่าขนุน > ห้องธรรมะพระอาจารย์ > เก็บตกจากบ้านวิริยบารมี

Notices

เก็บตกจากบ้านวิริยบารมี เก็บข้อธรรมจากบ้านวิริยบารมีมาฝาก สำหรับผู้ที่ไม่มีโอกาสเดินทางไป

ตอบ
 
คำสั่งเพิ่มเติม
  #21  
เก่า 25-06-2014, 10:56
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,443
ได้ให้อนุโมทนา: 151,071
ได้รับอนุโมทนา 4,399,699 ครั้ง ใน 34,032 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

พระอาจารย์กล่าวกับพี่จี๋ว่า "ถ้าปอดอักเสบนี่แสดงว่าต้องติดเชื้ออะไรบางอย่าง เพราะว่าปอดเราโดยปกติ ถ้าไม่โดนใครกระทืบเสียอ่วม ไม่มีทางที่จะช้ำหรือว่าอักเสบข้างในได้ มีโอกาสอย่างเดียวคือติดเชื้อมา เท่าที่เจอมาคนที่มีอาการอย่างนี้ ส่วนใหญ่เปิดพัดลมหรือเปิดแอร์พุ่งใส่ตัวเองตรง ๆ ถ้าเปิดพัดลมหรือเปิดแอร์พุ่งใส่ตัวเองตรง ๆ ร่างกายรับความเย็นมากเกินไป ถ้าหมอจีนเขาบอกว่าความเย็นแทรกซึม ร่างกายเย็นเกิน ต้องหาอะไรร้อน ๆ กินเข้าไปบ้าง พริกไทยก็ได้ พริกไทยนี่โบราณบอกว่าร้อนสุขุม ก็คือกินลงไปใหม่ ๆ ไม่รู้สึกเผ็ดหรอก แต่ถ้ากินไปเรื่อย ๆ จะเผ็ดมากขึ้น ๆ

สมัยก่อนเวลาคนป่วยต้มยาหม้อกิน บางคนไม่อยากให้หาย แอบเอาพริกไทยใส่ห่อผ้าสักกำมือหนึ่ง โยนลงไปในหม้อต้ม คราวนี้พอร่างกายร้อนเกิน ไข้ก็ไม่ลดเสียที เขาแกล้งกันอย่างนั้น ส่วนใหญ่คนที่ไม่รู้ก็คิดว่าเป็นยาดำ ที่ไหนได้เขาเอาพริกไทยใส่ลงไป"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 25-06-2014 เมื่อ 11:20
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 182 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #22  
เก่า 25-06-2014, 12:03
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,443
ได้ให้อนุโมทนา: 151,071
ได้รับอนุโมทนา 4,399,699 ครั้ง ใน 34,032 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

พระอาจารย์กล่าวว่า "เขาเพิ่งส่งค่าเหล็กโครงสร้างศาลางวดสุดท้ายมาให้ สามแสนกว่าบาท เป็นงวดที่จ่ายน้อยที่สุด ตอนนี้การสร้างศาลา ๑๐๐ ปีหลวงปู่สาย หมดไป ๒๓,๒๓๐,๐๐๐ กว่าบาทแล้ว ได้แค่นี้เอง เดี๋ยวกลับไปต้องไปจ่ายหนัก ๆ อีก ๒-๓ ชุด ก็คือพวกหน้าต่าง กระจก มุ้งลวด กระเบื้องปูพื้น ไฟฟ้า แล้วก็สีทาภายในภายนอก จะพยายามให้ใช้งานวันที่ ๑๒ สิงหาคมให้ได้ ถ้าไม่ได้ กันยายน หรือตุลาคมต้องได้ ใช้งานชั้นหนึ่ง ชั้นอื่นเขาทำไป..ไม่ว่ากัน

ถาม : ปีไหนครับ?
ตอบ : ปีนี้ นี่ปีกว่าแล้วนะ ชน ๒๗ มีนาคมก็ครบปีแล้ว นี่ปีกับ ๒ เดือนแล้ว งานตกแต่งอย่างอื่นก็เรื่องของเขา แต่ว่าให้ใช้งานได้ก่อน ญาติโยมหลายท่านเห็นแล้วเครียดแทน ว่าเอาเงินมาที่ไหนเยอะแยะมาสร้าง อาตมาก็ไม่รู้เหมือนกัน ถึงเวลาใช้ไปเรื่อย ๆ มีให้ใช้ก็ใช้

ในเรื่องของพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์นี่อาตมาจะไม่ลังเลสงสัยเลย เพราะว่ามีประสบการณ์มา ๒๐-๓๐ ปีแล้ว ว่าถ้าเราให้ความศรัทธา ความเชื่อมั่นจริง ๆ จะเป็นไปได้ทุกอย่าง เทปูนเพดานชั้น ๓ เกือบ ๆ ๒๘๐ คิว รถ ๗ คันวิ่งกันเช้ายันค่ำ ปรากฏว่าระหว่างนั้นก็ฝนตกไปเรื่อย เขาเว้นให้เฉพาะวัดท่าขนุนกับแพลนท์ปูน ๒ ที่เท่านั้นที่ฝนไม่ตก คนขับรถยังงง ๆ ว่าเป็นไปได้อย่างไร พอขึ้นไปดูบนชั้น ๓ มองไปรอบข้างนี่มืดไปหมด เว้นไว้ให้ ๒ ที่

แล้วทางบริษัทยงสวัสดิ์ส่งวิศวกรเครื่องกลมา ๓ คน เตรียมที่จะซ่อมเครื่องโม่ปูน เพราะเขาบอกว่างานใหญ่ ๆ แบบนี้เครื่องพังทุกงาน แต่นี่ล่อกันเช้ายันค่ำไม่เห็นเป็นอะไรเลย

เริ่มเทปูนประมาณ ๙ โมงเช้า เพราะว่าต้องรอรถปั๊มปูนเขาต่อท่อก่อน แล้วพวกช่างทางด้านโน้นก็ได้เปิดหูเปิดตา เพราะว่าเป็นการใช้ท่อพ่นปูนเป็นครั้งแรกของทองผาภูมิ ชั้นที่ ๒-๓ ตอนนี้เขาเริ่มเป็นงานกันแล้ว รู้แล้วว่าจะต้องทำอย่างไร พอถึงเวลาอาตมาไปคุมงานก็จะคอยชี้ “ตรงนั้นเป็นหลุม” “ก็เรียบดีนะอาจารย์” “เรียบกับเตี่ยเอ็งนะสิ น้ำปูนขังเป็นแอ่งเลย ใส่ปูนลงไปอีก ๓-๔ ถัง” พวกนี้เขาปาดหน้าเรียบแล้วเขาคิดว่าเสมอกันแล้ว แต่ความจริงที่ตรงนั้นต่ำ เพราะว่าประสบการณ์เขาน้อย ก็เลยไม่รู้ว่าอะไรเป็นอะไร เห็นว่าเรียบแล้วก็แล้วกันไป
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 25-06-2014 เมื่อ 14:34
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 183 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #23  
เก่า 25-06-2014, 12:05
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,443
ได้ให้อนุโมทนา: 151,071
ได้รับอนุโมทนา 4,399,699 ครั้ง ใน 34,032 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

พระอาจารย์กล่าวว่า "ทางวัดเป็นเจ้าแรก ๆ ที่สั่งแพลนท์ปูนมาเทในงานจนกระทั่งถนน พอคนอื่นเห็นก็เลียนแบบกันหมด เพราะว่าอันดับแรกก็คือมาตรฐานการผสม ๑๐๐ เปอร์เซ็นต์ ไม่มีผิดเพี้ยน ของเขาคันรถหนึ่ง ใช้ปูนเท่าไร ใช้ทรายเท่าไร ใช้หินเท่าไร มีสูตรแน่นอน ไม่เหมือนพวกเราที่ตักผสมกันเอง ตอนเช้ายังแรงดีหน่อยก็โกยเสียปุ้งกี๋เบ้อเร่อเลย พอบ่าย ๆ แรงหมดก็เหลือครึ่งปุ้งกี๋ แต่ดันไปนับเท่าเดิม จึงหามาตรฐานไม่ได้

แล้วประการที่ ๒ ก็คือเร็วมาก ถึงเวลาเทพรวดลงช่างก็มีหน้าที่ปาดเรียบอย่างเดียว ไม่ต้องเสียเวลาไปผสมกันนาน แล้วอันดับที่ ๓ ก็คือราคาเป็นที่รับได้ ถ้าเรามาโม่กันเองเทกันเอง จะเสียค่าแรงเยอะมาก ๒๘๐ คิวถ้าลำพังเทกันเองเป็นอาทิตย์ก็ไม่เสร็จ อันนี้เขาเทวันเดียวเสร็จ

ตอนสมัยทำเขื่อนที่เกาะพระฤๅษี อาตมาสั่งปูนมาทีหนึ่ง ๓๐๐ ลูก เพราะว่ารถบรรทุกได้แค่นั้น พอรถจากบริษัทปูนมาทีหนึ่ง ๓๐๐ ลูก โม่กันค่ำยันเช้า เช้ายันค่ำ ๒ วันหมดแล้ว โม่จนเครื่องไหม้เลย แล้วพวกนี้ถ้ารู้ว่างานอาจารย์เล็ก เขาทำกันตายไปข้างหนึ่งเลย เพราะว่าได้เงินแน่นอน ไปที่อื่นทำยังไม่รู้ว่าเขาจะโดนเบี้ยวหรือเปล่า ทำไป ๔๕ วัน จ่าย ๓๐ วัน ทำ ๕๐ วัน จ่าย ๓๐ วัน ของอาตมาไม่มีกั๊ก ทำเท่าไรจ่ายเท่านั้น

บางวันเห็นเอ้อระเหยลอยชายอาตมาก็ด่าออกอากาศ “ถ้ายังทำแบบเอาค่าแรงรายวันอยู่ เดี๋ยวพวกเอ็งจะได้ไปทำที่อื่น ที่นี่อยู่สบาย กินสบาย อาหารก็ไม่ต้องเดือดร้อน กินกับครัววัด ค่าแรงก็ได้รับเต็ม ๆ ยังทะลึ่งมาทำงานอู้กันอีก” คราวนี้พวกเขากลัวโดนไล่ออก เพราะว่าอาตมาเอาจริง ๆ ถ้าโดนไล่ออกไปทำงานที่อื่น ค่าแรงจะไม่ดีอย่างนี้ ส่วนใหญ่ก็ทำเกินเวลา แล้วเขาติดมัดจำไว้หน่อย มักจะติดค่าแรงไว้ ๑๐-๑๕ วัน จะได้ไม่หนีไปที่อื่น ของอาตมาไม่มี พลาดเมื่อไรไล่ออกไปเลย..!
"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 25-06-2014 เมื่อ 14:39
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 184 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #24  
เก่า 25-06-2014, 12:08
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,443
ได้ให้อนุโมทนา: 151,071
ได้รับอนุโมทนา 4,399,699 ครั้ง ใน 34,032 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

พระอาจารย์กล่าวว่า "เมื่อวานกับวันนี้จ่ายไป ๗ แสนกว่าบาท โยมถวายมายังไม่ถึง ๗๐,๐๐๐ บาทเลย เมื่อวานโอนค่ามัดจำทำประตูหน้าต่างและมุ้งลวดไป ๔ แสนบาท มาวันนี้ก็ค่าเหล็กงวดสุดท้าย ๓ แสนกว่าบาท จ่ายกันเพลินมากเลย อาตมาเป็นลูกล้างลูกผลาญ

สมัยที่ซ่อมตึกแดงใหม่ ๆ ตั้งใจว่าทำเป็นห้องกระจก ปรากฏว่าหลวงพ่อวัดท่าซุงท่านมาบอกว่า ห้องกระจกราคาแพงมาก แล้วก็แตกง่าย ใครตัดหญ้าดีดหินไปสักเม็ดเดียวก็บรรลัยแล้ว แล้วท่านก็สรุปว่า "ให้รู้จักประหยัดบ้าง เงินข้าเป็นคนหา ไม่ใช่แกหา.." เพราะฉะนั้น..ที่ตึกแดงก็เลยกลายเป็นมุ้งลวดแทน เพราะอาตมาต้องการแสงจากข้างนอกด้วย ตอนแรกปิดทึบหมด"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 25-06-2014 เมื่อ 14:41
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 191 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #25  
เก่า 25-06-2014, 17:16
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,443
ได้ให้อนุโมทนา: 151,071
ได้รับอนุโมทนา 4,399,699 ครั้ง ใน 34,032 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

พระอาจารย์กล่าวว่า “ปกติมาลาเรียลงกระเพาะจะอาเจียน แบบเดียวกับที่หลวงพ่อวัดท่าซุงอาเจียนตอน ๔ โมงเย็นทุกวัน พวกนี้มาตรงเวลาทุกวัน ตอนที่อาตมาเป็นใหม่ ๆ ร่างกายยังแข็งแรงอยู่ ฝืนเอาไว้ได้ กลั้นไม่ให้อาเจียน กลั้นไปกลั้นมาขึ้นข้างบนไม่ได้ เลยไปลงข้างล่างแทน หลังจากนั้นเป็นต้นมา ถ้าลงกระเพาะเมื่อไรก็จะถ่ายแทน..แย่พอกัน หมดแรง จะปวดท้องเหมือนกับเป็นบิด เด็กสมัยนี้รู้จักโรคบิดหรือเปล่า ? เหมือนกับมีอะไรทิ่มอยู่ในพุง แล้วเวลาถ่ายก็จะไม่มีอะไร นอกจากจะเป็นฟอง ๆ
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 26-06-2014 เมื่อ 05:14
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 176 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #26  
เก่า 25-06-2014, 17:17
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,443
ได้ให้อนุโมทนา: 151,071
ได้รับอนุโมทนา 4,399,699 ครั้ง ใน 34,032 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

พระอาจารย์กล่าวว่า “ความที่คนเรารักตัวเองมาก ฉะนั้น..อะไรที่เกี่ยวกับสุขภาพจะขายดีเป็นพิเศษ พูดง่าย ๆ คืออะไรที่ทำให้สวยทำให้หล่อ ทำให้อายุยืน แข็งแรง ขายได้หมด แล้วสังเกตไหมว่าเขามาแบบตีหัวเข้าบ้าน มาพักเดียว น้ำลูกยอ น้ำทับทิม น้ำหมัก สารพัด ส่วนใหญ่พวกนี้จะหาสมาชิกแบบขายตรง คนแรก ๆ ก็รวยไป คนหลัง ๆ ก็รับเละไป
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 25-06-2014 เมื่อ 19:36
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 176 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #27  
เก่า 25-06-2014, 17:18
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,443
ได้ให้อนุโมทนา: 151,071
ได้รับอนุโมทนา 4,399,699 ครั้ง ใน 34,032 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

พระอาจารย์กล่าวว่า “เป็นที่น่าเสียดายว่า จากการสำรวจของนักวิจัยทั้งในและต่างประเทศ ประเทศไทยเรามีลิงวอกเหลืออยู่ฝูงเดียวที่อยู่กับธรรมชาติ นอกนั้นอาศัยคนกินทั้งนั้น ลิงเขาใหญ่ด้วย ลิงเขาใหญ่โดนรถชนตายไปเยอะแล้ว เพราะเห็นรถแล้ววิ่งมาขออาหาร ทางด้านลพบุรีทำโครงการจะย้ายลิงไปอยู่กับธรรมชาติ มีเสียงคัดค้านกันมากว่าลิงไม่เคยอยู่กับธรรมชาติมาก่อน หากินไม่เป็นหรอก

พวกลิงที่เขื่อนวชิราลงกรณเห็นพระแล้วจะหนี เพราะโดนอาตมาไล่เตะบ่อย ๆ ตอนแรกเจ้าหน้าที่เขื่อนเขาก็แปลกใจ จึงบอกว่าต้องทำให้กลัวใครไว้บ้าง ไม่อย่างนั้นจะไม่มีใครเอาอยู่ เขาจำได้หน้าตาอย่างนี้ไล่เตะบ่อย ๆ ต่อไปก็ไม่กล้าหือ พวกนี้ก็แปลก..ถ้าเรากลัวจะโดนข่ม โดนขู่ โดนกัดเลย ถ้าเราไม่กลัวไล่เตะเข้าจริง ๆ ลิงก็เผ่นเหมือนกัน...

ตอนแรกพวกเจ้าหน้าที่เขื่อนเขาไม่เข้าใจ แปลกใจว่าอาตมาไปจองล้างจองผลาญอะไรกันนักหนา ตัวไหนโผล่มาเป็นวิ่งใส่ ต้องบอกเขาให้เข้าใจว่า ต่อไปถ้าลิงเห็นจีวรแบบนี้มาก็จะหนีไปเอง
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 25-06-2014 เมื่อ 19:47
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 181 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #28  
เก่า 25-06-2014, 17:20
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,443
ได้ให้อนุโมทนา: 151,071
ได้รับอนุโมทนา 4,399,699 ครั้ง ใน 34,032 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

พระอาจารย์กล่าวว่า “อาตมานี่ไม่ต้องอาศัยคนนอกเลย เพราะว่าตอนแม่ตาย แกมีเหลน มีโหลนแล้ว ลูก ๑๓ คน หลาน ๓๐ กว่า แล้วคิดดูว่าเหลนจะเท่าไร ไม่ต้องอาศัยแขกข้างนอกเลย มีหลานอยู่คนหนึ่งอายุ ๕๕ แกเป็นหลานนะ ของอาตมาลำดับรุ่นสูงมาก แม่นี่ลำดับรุ่นสูงที่สุด ถัดมาก็รุ่นลูกของแม่ รุ่นอาตมาลำดับรุ่นสูงมากเลย เพราะว่าไม่มีแม่แล้ว ก็เป็นรุ่นที่สูงที่สุด หลานอายุ ๕๕ มาบอกว่าตัวเองเป็นปู่แล้ว ฉะนั้นก็ไม่ต้องแปลกใจหรอกว่าทำไมแขกมาเยอะ ตั้งแต่อายุ ๑๐ กว่าอาตมาก็เป็นเจ็กกง แปะกงแล้ว ตอนนั้นคนอายุ ๖๐ กว่าเป็นหลาน คนอายุ ๗๐ กว่าเป็นได้แค่พี่
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 25-06-2014 เมื่อ 19:42
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 177 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #29  
เก่า 25-06-2014, 17:23
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,443
ได้ให้อนุโมทนา: 151,071
ได้รับอนุโมทนา 4,399,699 ครั้ง ใน 34,032 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

พระอาจารย์บอกกับเจ้าของหมาที่ป่วยหนักว่า “เราอย่าไปเอาความคิดฝรั่งมาใช้ ความคิดฝรั่งเขาจะใช้การุณยฆาต คือ ฆ่าให้พ้นทุกข์ แต่อาตมาขอยืนยันว่าต่อให้คนหรือสัตว์บาดเจ็บปางตายแค่ไหน เขาก็พยายามดิ้นรนที่จะมีชีวิตอยู่ ฉะนั้น..ถ้ามีหน้าที่ก็ดูแลเขาให้เต็มความสามารถไป เขาจะตายเมื่อไรก็แล้วแต่เวรแต่กรรมของเขา

ของฝรั่งอย่างเช่นว่า ม้าตกหลุมขาหัก เขาจะยิงทิ้งเลย เพราะว่าไปนอนทรมานอยู่กว่าจะตายก็เป็นปี ๆ แต่ของเราเองต้องนึกถึงพระพุทธเจ้าท่านว่า กมฺมสฺสกา มีกรรมเป็นของตน ในเมื่อต่างคนต่างมีกรรมเป็นของตัวเอง ต่อให้เขาทรมานอยู่ ก็ต้องถือว่าเป็นกรรมของเขา แล้วก็ไม่มีใครอยากตาย ถ้าเรามีโอกาสดูแลเขา ก็ดูแลให้เต็มความสามารถ อย่างน้อย ๆ ถ้าใจเขาเกาะคน ก็จะได้เกิดเป็นคน ถ้าใจเกาะพระเกาะความดีได้ ก็ได้ไปเกิดเป็นเทวดา ส่วนการที่จะอยู่นานเท่าไรก็แล้วแต่เวรแต่กรรม

อย่างนั้นต้องทำใจ ถ้าทำใจไม่ได้เราจะเศร้าหมอง ถ้าตายตอนนั้นเราจะแย่เอง
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 25-06-2014 เมื่อ 19:44
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 191 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #30  
เก่า 25-06-2014, 17:27
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,443
ได้ให้อนุโมทนา: 151,071
ได้รับอนุโมทนา 4,399,699 ครั้ง ใน 34,032 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

พระอาจารย์กล่าวว่า “เดี๋ยวนี้เจ้าอาวาสแถว ๆ สุพรรณบุรี ราชบุรี นครปฐม สมุทรสาคร เป็นลูกศิษย์ของอาตมาเกือบหมด ท่านมาเรียนหนังสือกัน บางคนอายุมากกว่า พรรษามากกว่า มาเรียกอาจารย์ ๆ ฟังแล้วรู้สึกแปลก ๆ ไม่ค่อยชินเหมือนกัน

ประโยค ๙ เขาให้เทียบเท่าปริญญาตรี ก็เลยมาต่อปริญญาโท แต่พวกที่เป็นประโยค ๙ แล้วมาเรียนปริญญาโทนี่จุกทุกราย เพราะไม่มีพื้นฐานเลย ลองมานึกถึงคนทั่ว ๆ ไป เรียนมาตั้งแต่อนุบาล ป.๑ ป.๕ มศ.๕ ไล่ไปเรื่อย เรียนปริญญาตรี แล้วมาต่อปริญญาโทยังยาก แล้วนี่ท่านไม่มีพื้นฐานอะไรเลย มาถึงก็ต่อโทเลย กว่าจะจบได้แทบตายกันทั้งนั้น
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย ตัวเล็ก : 25-06-2014 เมื่อ 20:37
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 186 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #31  
เก่า 26-06-2014, 10:57
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,443
ได้ให้อนุโมทนา: 151,071
ได้รับอนุโมทนา 4,399,699 ครั้ง ใน 34,032 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : ถามเรื่องการปฏิบัติในอานาปานุสติ (ไม่ชัด)
ตอบ : รับรู้ได้ตามปกติ แต่ถ้าบางคนจิตหยาบ จะรู้สึกว่าลมหายใจเบาลงหรือหายไป ส่วนวิตก วิจารณ์ เราไม่ได้ไปละ แต่ถ้าสมาธิสูงขึ้น ก็จะเลิกนึกถึงไปเอง

ถ้าหากว่าจิตหยาบ บางทีตอนปลายของปฐมฌานก็รู้สึกว่าไม่มีลมหายใจแล้ว แต่ถ้าหากเอาให้แน่ ๆ ต้องเป็นส่วนของฌานที่ ๒ ถ้าจิตละเอียดต่อให้ฌาน ๔ เต็มที่ก็ยังรู้ถึงลมหายใจอยู่ แต่ว่าลมหายใจจะละเอียดมาก อย่างกับเส้นเอ็นเล็ก ๆ บาง ๆ ใส ๆ เหมือนใยแมงมุม ถ้าหากว่าใยเส้นนี้ขาดเราตายแน่ แต่คราวนี้สภาพจิตละเอียดมาก รับรู้ได้ชัด อย่างไรก็ไม่ขาด
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย เถรี : 01-07-2014 เมื่อ 09:20
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 168 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #32  
เก่า 26-06-2014, 11:06
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,443
ได้ให้อนุโมทนา: 151,071
ได้รับอนุโมทนา 4,399,699 ครั้ง ใน 34,032 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : การจับอานาปานุสติแล้วเกิดอุคหนิมิตและปฏิภาคนิมิต (ไม่ชัด)
ตอบ :
คนที่เคยมีพื้นฐานเก่ามาก่อน จะสามารถเกิดนิมิตขึ้นมาได้ ถ้าไม่มีพื้นฐานเก่ามาก่อนจะไม่มี

ถาม : แล้วพื้นฐานเก่านี่รวมถึงกสิณด้วยหรือเปล่าครับ ?
ตอบ :
อยู่ที่ว่าเราฝึกกสิณมาหรือเปล่า ถ้าไม่ได้ฝึกกสิณมาก่อน นิมิตก็ไม่แน่ว่าจะปรากฏ แต่ถ้าหากว่าเราฝึกกสิณอยู่ ถึงเวลาปฏิภาคนิมิตจะสามารถปรากฏขึ้นเองได้ ขยายให้ใหญ่ได้ ให้เล็กได้ ให้มาได้ ให้ไปได้ ถ้าหากว่าตรงกับกองกรรมฐานที่ทำอยู่ เราก็พิจารณากำหนดปฏิภาคนิมิตได้ ถ้าหากว่าไม่ตรงกับกองกรรมฐานก็ต้องปล่อยทิ้งไปเฉย ๆ อย่าไปสนใจ ในช่วงนั้นถ้ายังมีลมหายใจอยู่ ก็กำหนดรู้ลมหายใจพร้อมกับนิมิต ถ้าไม่มีลมหายใจก็ให้จับนิมิตอย่างเดียว

เมื่อสภาพจิตเราเริ่มทรงตัว นิมิตต่าง ๆ จะปรากฏขึ้น แล้วส่วนใหญ่จะไปเสียตรงนั้น พอถึงเวลาภาวนาเมื่อไรก็อยากเห็นนิมิตอีก ตัวอยากฟุ้งซ่านก็เลยไม่เห็น เลยทำให้เสียคนไปเลย จนกระทั่งมีนักปฏิบัติที่มาทางสายวิชาการหลายคนบอกว่า ใครทำแล้วได้นิมิต ครั้งต่อไปอย่าหวังเลยว่าจะได้เพราะเขามั่นใจว่า ไอ้นี่ต้องฟุ้งซ่านจนกระทั่งไม่มีทางได้เห็นอีก


แต่ละคนที่เคยมีพื้นฐานเก่ามาก่อน จะสามารถเกิดนิมิตแบบนั้นได้ ถ้าไม่มีพื้นฐานเก่ามาก่อนจะไม่มี แสดงว่าชาติก่อน ๆ คุณเคยฝึกมาแล้ว แต่เรื่องอย่างนี้ถ้าไปพูดกับสายวิชาการเขาไม่ยอมรับ เขายืนยันอย่างเดียวว่าไม่มี

ให้กำหนดลมหายใจเป็นปกติ ตามดูตามรู้อย่างเดียว ถ้านิมิตเกิดขึ้นตรงกับกองกรรมฐานก็สามารถจับต่อได้ ถ้าไม่ตรงกับกองกรรมฐานก็ทิ้งไปเลยถ้ายังรู้ลมอยู่ก็กำหนดรู้ลมไป ถ้าไม่รู้ลมแล้วก็จับนิมิตอย่างเดียว


ส่วนใหญ่แล้ว แรก ๆ ประเภทศึกษามาน้อย มักจะจับต้นชนปลายไม่ถูก แต่ถ้าถึงตรงนั้นแล้วเดี๋ยวก็มั่วถูกไปเอง
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 26-06-2014 เมื่อ 13:39
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 167 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #33  
เก่า 26-06-2014, 11:07
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,443
ได้ให้อนุโมทนา: 151,071
ได้รับอนุโมทนา 4,399,699 ครั้ง ใน 34,032 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

พระอาจารย์กล่าวว่า “การกำหนดอานาปานสติขณะที่เคลื่อนไหว ถ้าไม่ชำนาญจริง ๆ ถ้าหากว่าลมครบ ๓ ฐานเมื่อไร ร่างกายจะหยุด เดินไม่ได้ ต้องซักซ้อมให้ชำนาญจริง ๆ ถึงจะเคลื่อนไหวได้ เพราะว่าช่วงนั้นสภาพจิตและประสาทจะแยกออกจากกัน ถ้าไม่ใช่ซ้อมกันมาจนช่ำชองจริง ๆ จะติดแหง็ก ไปต่อไม่ได้
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 26-06-2014 เมื่อ 13:40
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 173 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #34  
เก่า 26-06-2014, 13:54
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,443
ได้ให้อนุโมทนา: 151,071
ได้รับอนุโมทนา 4,399,699 ครั้ง ใน 34,032 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : ทำสมาธิแล้วรู้สึกว่ามีเงาดำ ๆ ใหญ่ ๆ มาอยู่ข้าง ๆ เขาคือใครคะ ?
ตอบ :
แล้วตอนนั้นทำไมไม่ถามว่าเขาเป็นใคร มาธุระอะไร ขอเบอร์โทร ขออีเมล์ ขอไลน์ไว้ด้วย ถึงเวลาจะได้ติดต่อได้ คราวหน้าถ้าอยากรู้ ตอนนั้นให้กำหนดจิตถามว่าเขาเป็นใคร จะได้คำตอบเอง มัวแต่ตื่นเต้นละสิ..คราวหน้าเอาใหม่ เพราะว่าช่วงนั้นสภาพจิตเริ่มเป็นทิพย์ อยากรู้อะไรจะรู้เรื่องนั้นได้ คราวหน้าตั้งใจถามเลยว่า เป็นใครมาจากไหน มีธุระอะไร แล้วจะได้คำตอบเดี๋ยวนั้นเลย ไป..เริ่มต้นใหม่

__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย เถรี : 01-07-2014 เมื่อ 09:21
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 169 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #35  
เก่า 26-06-2014, 13:55
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,443
ได้ให้อนุโมทนา: 151,071
ได้รับอนุโมทนา 4,399,699 ครั้ง ใน 34,032 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

พระอาจารย์กล่าวว่า “บางอย่างสำหรับบางคน ถึงรู้อยู่ก็บอกไม่ได้ อย่างโยมเมื่อกี้ที่ถาม แกถามว่าใคร ถ้าอาตมาบอกว่าคือสมเด็จองค์ปฐม คงช็อกตาย ถ้าไม่ช็อกตายก็คงไปกวนท่าน เช้า กลางวัน เย็น กลางคืน จนกระทั่งท่านมา "ตื้บ" อาตมาอีก ความจริงการที่เจอเองก็น่าจะถามท่านตรง ๆ ว่าเป็นใคร แต่ไม่ถาม..เล่นมาถามคนอื่นทีหลัง
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 27-06-2014 เมื่อ 02:26
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 175 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #36  
เก่า 26-06-2014, 13:57
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,443
ได้ให้อนุโมทนา: 151,071
ได้รับอนุโมทนา 4,399,699 ครั้ง ใน 34,032 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

พระอาจารย์กล่าวกับผู้เอาศิลปะวัตถุของไอนุมาถวายว่า “ไอนุนี่ผู้หญิงเขามีรอยสักทุกคน ถ้าไม่สักเขาถือว่าไม่ใช่ไอนุ คนที่ไม่รู้ว่าไอนุคือต้นตระกูลญี่ปุ่นโบราณ ก็คงจะงง ๆ

มีพวกชนเผ่าจำนวนมากที่เขาถือว่า นกฮูกเป็นนกแห่งปัญญาหรือความรู้ อาจเป็นว่าตาโต ๆ มองโน่นมองนี่ โดยเฉพาะฝรั่ง นกฮูกนี่เป็นผีหลอกฝรั่งมาเยอะแล้ว ตอนดึก ๆ มาร้อง ฮู ๆ (Who..Who ?) ถามว่าใคร ๆ อยู่ ๆ กลางคืนได้ยินเสียงคนถามว่าใคร ๆ เป็นเราก็คงใจหายวาบ แต่นกฮูกหลอกคนไทยไม่ได้ เพราะพูดคนละภาษากัน
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 27-06-2014 เมื่อ 02:28
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 171 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #37  
เก่า 26-06-2014, 13:58
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,443
ได้ให้อนุโมทนา: 151,071
ได้รับอนุโมทนา 4,399,699 ครั้ง ใน 34,032 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

พระอาจารย์กล่าวว่า “สมัยก่อนเพื่อนผู้หญิงสะพายกระเป๋าข้ามถนน แล้วสายสะพายขาด กระเป๋าตก เขาเลยหยุดกึก หันไปหยิบกระเป๋า บรรลัยเลยคราวนี้ รถวิ่งมาเลยต้องหักหลบ คว่ำสิ..ปรากฏว่าบรรทุกไก่สดมา กระจายเต็มถนน คือถ้าหากว่าเขาวิ่งต่อไปจะไม่มีปัญหา ดันวิ่งกลับไปเอากระเป๋ารถวิ่งมาเร็ว เบรกไม่ทันเลยต้องหักหลบ
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 27-06-2014 เมื่อ 16:33
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 168 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #38  
เก่า 26-06-2014, 14:01
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,443
ได้ให้อนุโมทนา: 151,071
ได้รับอนุโมทนา 4,399,699 ครั้ง ใน 34,032 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

พระอาจารย์กล่าวว่า “ปีนี้ทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตน์ประทานเทียนพรรษาให้วัดท่าขนุนอีก ปีที่แล้วอาตมาจุดจนเกลี้ยงเลย
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 27-06-2014 เมื่อ 02:30
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 181 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #39  
เก่า 27-06-2014, 10:57
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,443
ได้ให้อนุโมทนา: 151,071
ได้รับอนุโมทนา 4,399,699 ครั้ง ใน 34,032 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม: การใช้สมาธิข่มอาการป่วย (ไม่ชัด)
ตอบ : อย่าไปสนใจอาการป่วยก็พอ ถ้ากำลังสมาธิดี ก็เอาอยู่เอง สำคัญตรงนั้น ถ้าไม่มีกำลังสมาธิก็ตายแน่ แต่ถ้าไม่มีกำลัง ก็ไม่ใช่สมาธิสิ

ขอยืนยันว่าอาการป่วยของอาตมาไม่ได้ ๑ ใน ๑๐๐ ของหลวงพ่อวัดท่าซุง เวลาท่านอาเจียนหรือถ่ายออกมา ไปจับกระโถนยังรู้สึกร้อน ลองนึกดูแล้วกันว่าความร้อนในร่างกายท่านขึ้นขนาดไหน

ดูตัวเราก่อนว่าก่อนนี้เป็นอย่างไร ถ้าดูยาก..ก็ดูย้อนไปว่าวันนี้เป็นอย่างไร เมื่อวานเป็นอย่างไร สองวันก่อนเป็นอย่างไร สามวันก่อน ครึ่งเดือน เดือนหนึ่ง ปีหนึ่ง ย้อนไปเรื่อย จนกระทั่งเป็นชาติที่แล้ว ๆ เป็นอย่างไร พอดูของเราชำนาญแล้ว ดูของคนอื่นลักษณะเดียวกัน แต่ว่าดูของคนอื่นกลายเป็นรู้ของเขาจะเป็นจุตูปปาตญาณ ย้อนไปดูอดีตเขาก็เหมือนกับเราฝึกปุพเพนิวาสานุสติญาณ ไปดูอนาคตเขาก็เป็นอนาคตังสญาณ เราต้องซ้อมที่ตัวเองก่อน แค่เรากำหนดดูว่าตอนนี้สภาพจิตของเราเป็นอย่างไรก็พอ ถ้าเรากำหนดเป็นรูปพระหรือเป็นดวงแก้ว ให้ดูว่าใสหรือมัวอย่างไร ถ้าสภาพจิตของเราไม่ดีก็จะมัว ถ้าจิตของเราผ่องใส ก็จะใส

ถาม: (ไม่ชัด)
ตอบ : ถ้าหากว่าคล่องตัวจริง ๆ ต่อให้เราหลับอยู่ รอบข้างเป็นอย่างไรเรารู้หมด ไม่ใช่แต่ในบ้านอย่างเดียว ไกลออกไปมาก ๆ ก็รู้ได้ แต่บางทีรู้แล้วยุ่ง รำคาญด้วยซ้ำไป
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย เถรี : 01-07-2014 เมื่อ 09:21
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 161 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #40  
เก่า 27-06-2014, 11:00
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,443
ได้ให้อนุโมทนา: 151,071
ได้รับอนุโมทนา 4,399,699 ครั้ง ใน 34,032 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม: ถามเรื่องการอธิษฐาน (ไม่ชัด)
ตอบ : อยู่ที่ว่าเราจะทำอะไร ถ้าตั้งใจสร้างพระก็ได้อานิสงส์เป็นพุทธบูชาอยู่แล้ว ตั้งใจอุทิศให้เขา ถ้าเขียนเฉย ๆ ไม่ได้อะไรหรอก สร้างพระได้บุญใหญ่อยู่แล้ว ผลบุญที่เราได้มา เราจะขอให้เป็นอะไรเป็นอย่างไร ก็อธิษฐานเอา ตั้งใจจะให้ประเทศชาติสุขสงบอย่างไรก็ว่าไป

ถาม: ถามเรื่องการอธิษฐาน (ไม่ชัด)
ตอบ : ถึงเวลาอาจจะมาไม่ตรงจังหวะที่เราต้องการ เราหิวข้าวตอนนี้กว่าจะมาอีก ๓ วันเราก็หน้ามืดสิ อธิษฐานบารมีเป็นเรื่องของคนฉลาด เพราะว่าเรื่องของบุญ ของบาป เราตั้งใจหรือไม่ตั้งใจ เกิดผลแน่ ๆ คราวนี้อธิษฐานบารมีเป็นการกำหนดเจาะจงว่า จะให้เกิดผลเมื่อไร เกิดผลอย่างไร หลวงพ่อวัดท่าซุงท่านบอกว่า บุคคลที่ใช้อธิษฐานบารมีเป็น ต้องระดับอุปบารมีขั้นปลายขึ้นไป บางคนเข้าใจผิดว่าทำบุญแล้วยังโลภอีก ไปอธิษฐานโน่น อธิษฐานนี่ กลายเป็นว่าสิ่งที่พระพุทธเจ้าสอนเอาไว้ดีแท้ ๆ และเป็น ๑ ในบารมี ๑๐ ที่ต้องสร้างให้เต็ม เขากลับไปเข้าใจผิด เข้าป่าเข้าดงไปเลย
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย นายกระรอก : 23-08-2022 เมื่อ 22:38
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 166 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
ตอบ


ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 1 คน ( เป็นสมาชิก 0 คน และ บุคคลทั่วไป 1 คน )
 
คำสั่งเพิ่มเติม

กฎการส่งข้อความ
You may not post new threads
You may not post replies
You may not post attachments
You may not edit your posts

BB code is ใช้ได้
Smilies are ใช้ได้
[IMG] code is ใช้ได้
HTML code is งดใช้

Forum Jump


เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 13:52



ค้นหาในเว็บวัดท่าขนุน

เว็บวัดท่าขนุน Powered by vBulletin
Copyright © 2000-2010 Jelsoft Enterprises Limited.
ความคิดเห็นส่วนตัวทุก ๆ ข้อความในเว็บบอร์ดนี้ สงวนสิทธิ์เฉพาะเจ้าของข้อความ ไม่อนุญาตให้คัดลอกออกไปเผยแพร่ นอกจากจะได้รับคำอนุญาตจากเจ้าของข้อความอย่างชัดเจนดีแล้ว