กระดานสนทนาวัดท่าขนุน


กลับไป   กระดานสนทนาวัดท่าขนุน > ห้องธรรมะพระอาจารย์ > เก็บตกจากบ้านวิริยบารมี

Notices

เก็บตกจากบ้านวิริยบารมี เก็บข้อธรรมจากบ้านวิริยบารมีมาฝาก สำหรับผู้ที่ไม่มีโอกาสเดินทางไป

ตอบ
 
คำสั่งเพิ่มเติม
  #41  
เก่า 20-09-2011, 08:16
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,479
ได้ให้อนุโมทนา: 151,125
ได้รับอนุโมทนา 4,405,158 ครั้ง ใน 34,068 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : ถ้าเรานั่งมองพระแล้วมีรัศมีล้อมองค์พระ แล้วสักพักหนึ่งเปลี่ยนทรง จะมีความหมายอะไรไหมคะ ?
ตอบ : ไม่มีอะไรหรอก ให้ถือเป็นพุทธานุสติเท่านั้น อย่าไปตีความ เดี๋ยวจะเข้ารกเข้าพงไปกันใหญ่
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 20-09-2011 เมื่อ 11:32
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 202 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #42  
เก่า 20-09-2011, 08:17
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,479
ได้ให้อนุโมทนา: 151,125
ได้รับอนุโมทนา 4,405,158 ครั้ง ใน 34,068 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : รู้สึกตัวเองแย่ลงค่ะ
ตอบ : แย่ลงก็ต้องเร่งให้ดีขึ้น ตอนนี้หันไปข้างหลังก็ไม่เห็นต้นทาง มองไปข้างหน้าก็ไม่เห็นจุดหมาย มีอยู่ทางเดียวคือต้องเดินขึ้นหน้าเท่านั้น
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 20-09-2011 เมื่อ 11:32
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 205 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #43  
เก่า 20-09-2011, 08:31
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,479
ได้ให้อนุโมทนา: 151,125
ได้รับอนุโมทนา 4,405,158 ครั้ง ใน 34,068 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : เพื่อนของโยมคนหนึ่ง เวลาเขาดี ๆ เขาก็บอกว่าจะไปนิพพาน แต่บางทีก็ออกมาด่า ๆ แล้วไปกราบพระใหม่
ตอบ : คนปฏิบัติใหม่ ๆ ได้อย่างนั้นก็ดีมากแล้ว เพราะว่าอย่างน้อย ๆ ก็ยังดีที่ชนะความโกรธ ชนะกิเลสได้บ้าง อย่าให้แพ้ตลอด พอไปนาน ๆ สะสมมากขึ้นก็จะชนะมากกว่าแพ้ แล้วก็จะดีขึ้นเรื่อย ๆ
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 20-09-2011 เมื่อ 11:33
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 210 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #44  
เก่า 21-09-2011, 03:48
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,479
ได้ให้อนุโมทนา: 151,125
ได้รับอนุโมทนา 4,405,158 ครั้ง ใน 34,068 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

พระอาจารย์กล่าวว่า "เมื่อครู่ถ้าใครสังเกตตอนอาตมากราบพระ จะเห็นชัด ๆ ว่า เบญจางคประดิษฐ์นั้นคือ เวลากราบมือและศอกต่อเข่า ปัจจุบันนี้เห็นหลายคนกราบแล้วมือและศอกอยู่ข้างเข่า อีกประการก็คือกราบไม่ลง ไม่ถึงพื้น จะบอกว่าติดพุงก็ไม่ใช่ เพราะลูกสาวอาตมาน้ำหนัก ๙๓ กิโลกรัม ยังกราบพระได้นิ่มมาก แสดงว่าพุงไม่เกี่ยว

ปัจจุบันเวลาตั้งโต๊ะหมู่ มักจะมีโต๊ะสำหรับกราบ ถ้าเป็นโต๊ะหมู่ของพระเขาให้เอาโต๊ะสำหรับกราบออก ฆราวาสน่าจะยังนิยมตั้งโต๊ะกราบอยู่ การตั้งโต๊ะกราบทำให้กราบไม่ครบองค์ ๕ ที่แน่ ๆ ก็คือศอกกับหน้าผากไม่ลงพื้น

เพราะฉะนั้น..ให้เข้าใจไว้เลยนะว่า ถ้าหากตั้งโต๊ะหมู่ก็ให้เอาโต๊ะกราบออก ถ้ามีคนถามก็ชี้แจงเขาด้วยว่าการกราบพระนั้น เรากราบด้วยเบญจางคประดิษฐ์ ประกอบด้วยองค์ ๕ เข่า ๒ ศอก ๒ หน้าผาก ๑ ถ้ามีโต๊ะนี่ เราจะกราบได้ไม่ครบองค์ ๕ "
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 21-09-2011 เมื่อ 18:16
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 203 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #45  
เก่า 21-09-2011, 04:02
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,479
ได้ให้อนุโมทนา: 151,125
ได้รับอนุโมทนา 4,405,158 ครั้ง ใน 34,068 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

พระอาจารย์กล่าวว่า "ศิลปะของไทยเรามีความประณีตทุกอย่าง แม้กระทั่งพวกโขนละคร โขนละครของเรานี่มาจากเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ด้วยกัน ไม่ได้มาจากอินเดีย แม้ว่าเนื้อหาในการเล่นจะมาจากรามายณะหรือรามเกียรติ์ของอินเดียก็ตาม แต่ว่าโขนละครของเราเป็นภูมิปัญญาของตระกูลขอม พอมาถึงไทยแล้ว เราดัดแปลงจนกระทั่งดูดี ทางด้านเขมรต้องมาเลียนแบบของไทยกลับไปอีกทีหนึ่ง เป็นการส่งผ่านวัฒนธรรมย้อนไปย้อนมา

ถ้าใครเคยไปเขมร ไปเยี่ยมพระราชวังเขมรินทร์ เห็นชัด ๆ เลยว่าเขาถอดแบบพระที่นั่งจักรีมหาปราสาทไป แต่ว่าฝีมือยังไม่ได้เท่าของเรา

สมัยเด็กที่เราเรียนกาพย์ห่อโคลงฯ เขาบอกว่า
จักรีพระที่นั่ง........สามยอดตั้งตรูตาชม
สำราญสถานสม...........สถิตถิ่นปิ่นนรา
ดุสิตปราสาทตั้ง............พระมนังคะศิลา
พิมานรัถยา.............อุดมอาสน์ราชฐาน"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 21-09-2011 เมื่อ 18:17
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 182 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #46  
เก่า 21-09-2011, 04:27
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,479
ได้ให้อนุโมทนา: 151,125
ได้รับอนุโมทนา 4,405,158 ครั้ง ใน 34,068 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

พระอาจารย์เล่าว่า "สมัยก่อนหลวงพ่อวัดท่าซุงท่านทำคทาใหม่ ๆ อาตมายังเป็นฆราวาสอยู่ พอสอนมโนมยิทธิเสร็จ ออกมาจากห้อง มาถวายสังฆทานกับหลวงพ่อ เห็นท่านใช้คทาแตะคนนั้นแตะคนนี้ อาตมาก็กราบเรียนหลวงพ่อว่า "ขอผมบ้างครับ" ท่านฟาดเปรี้ยง..! เสียงสนั่นเลย เสียงสนั่นอย่างกับท่านแกล้งตีลงบนโต๊ะ

ท่านบอกว่า "ขอทั้งทีให้เบา ๆ เดี๋ยวหาว่าขี้เหนียว" คนอื่นนึกว่าท่านฟาดโต๊ะ จริง ๆ แล้วท่านฟาดหัวอาตมานั่นแหละ แต่ความรู้สึกตอนนั้นไม่รู้สึกเจ็บเลย รู้สึกพองวูบไปทั้งตัว อยู่ในท่าคุกเข่าก้มหัว ตัวลอยขึ้นมาหน่อยหนึ่ง ท่านให้เยอะจริง ๆ ครั้งนั้น"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 21-09-2011 เมื่อ 18:18
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 211 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #47  
เก่า 21-09-2011, 04:42
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,479
ได้ให้อนุโมทนา: 151,125
ได้รับอนุโมทนา 4,405,158 ครั้ง ใน 34,068 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : พระอัลเลาะห์ ?
ตอบ : พระอัลเลาะห์จริง ๆ คือ พระโยนกธรรมรักขิต เป็นพระอรหันต์ในพระพุทธศาสนา แต่ตอนหลังคนนับถือไปนับถือมาจนเพี้ยน เพราะว่ารอจนกระทั่งประมาณ ๑,๒๐๐ ปีแล้ว ถึงมาเริ่มฟื้นฟูกันใหม่

แถว ๆ เขตนั้นเขาเรียกว่าโยนก มีในส่วนของอัฟกานิสถาน จะมีแถวที่เขาเรียกแบกเทรีย ที่เป็นอาณาจักรโบราณ แล้วก็มีทาริม ปัจจุบันสถานที่พวกนี้อยู่ในประเทศที่ลงด้วยคำว่า "สถาน" เยอะแยะไปหมด เช่น อัฟกานิสถาน อุซเบกิสถาน คีร์กิสถาน ฯลฯ

อัลเลาะห์จริง ๆ มาจากคำว่า "อัลลาฮะ" ก็คือ "อรหันต์" เขาออกเสียงได้แค่นั้น เพราะฉะนั้นถ้าหากเราไหว้พระอัลเลาะห์ถูกตัวจริง ๆ ก็จะเป็นพระอรหันต์ คือพระโยนกธรรมรักขิตตะ

ถาม : ทำไมไม่มีรูปแทนองค์พระอัลเลาะห์ ?
ตอบ : พระโยนกธรรมรักขิต ท่านตั้งใจว่า ถ้าหากยังมีสิ่งให้ยึด คนจะหลุดพ้นยาก เหมือนกับบอกว่าเราจะไปเชียงใหม่ แต่ยังยืนกอดเสาอยู่ แล้วจะไปได้ไหมเล่า ? นั่นจริง ๆ เป็นเจตนาที่ดีมาก ๆ เลย
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย เถรี : 21-09-2011 เมื่อ 19:23
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 214 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #48  
เก่า 21-09-2011, 04:52
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,479
ได้ให้อนุโมทนา: 151,125
ได้รับอนุโมทนา 4,405,158 ครั้ง ใน 34,068 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

มีหลายอย่างที่ศาสนาพุทธเข้าไปทางด้านเขา แต่เขาพยายามที่จะทำลายเสียไม่ให้เหลือ เพื่อที่จะเอาศาสนาของตัวเองอย่างเดียว อย่างงานศิวาราตรีที่เขามีการลอยบาป มีการบูชาพระศิวะกัน จำไม่ได้ว่าที่เมืองไหน เขาจะเอาดอกดาวเรืองไปสุม ๆ จนเต็มพระพักตร์พระศิวะเลย เพราะเขาไม่ต้องการให้เห็นว่าคนโบราณเขาแกะสลักพระพุทธรูปเล็ก ๆ ไว้ที่พระนลาตของพระศิวะ

ท่านที่รู้จริง ท่านเอาพระเหนือเทพ แต่ท่านที่นับถือเทพว่ายิ่งใหญ่ที่สุดท่านยอมไม่ได้ แต่คราวนี้จะไปเปลี่ยนแปลงจะไปลบไปอะไร ก็กลัวจะเป็นการลบหลู่เทพเจ้าของตัวเองที่นับถือ ก็เลยใช้วิธีนี้ ถึงเวลามีงานก็เอาดอกไม้ไปสุมไว้เสีย

ทางด้านนั้นไม่แน่ใจ แต่ว่าบรรดานักปราชญ์สมัยก่อนอย่างสมัยของเพลโต โสเครติส ท่านเดินทางจากทางด้านกรีกมาศึกษาหาความรู้ทางด้านนี้ ก็เลยสงสัยว่าคำสอนของท่านบางอย่างของเขาเหมือนกับศาสนาพุทธของเรา จะบอกว่าวิสัยนักปราชญ์มักคิดอะไรคล้าย ๆ กันก็ใช่ แต่ก็ระแวงว่าท่านเดินทางมาศึกษาก็น่าจะได้อะไรไปบ้าง
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย เถรี : 21-09-2011 เมื่อ 19:22
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 202 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #49  
เก่า 21-09-2011, 12:46
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,479
ได้ให้อนุโมทนา: 151,125
ได้รับอนุโมทนา 4,405,158 ครั้ง ใน 34,068 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : เวลาเรามีปัญหา จะทำให้จิตปลอดโปร่งสบาย ๆ อย่างไรดีคะ ?
ตอบ : ก็อย่ารับปัญหาเข้ามาทับตัวเองสิ ส่วนใหญ่ที่จิตไม่ปลอดโปร่งเพราะเรารับปัญหาเข้ามาทับตัวเองเสียเยอะ แบบเดียวกับที่บอกว่าสงสารเขา สงสารไปสงสารมา แบกปัญหาแทนเขา ก็ตายสิจ๊ะ

พระพุทธเจ้าเป็นสุดยอดของศาสดาจริง ๆ พระองค์ท่านสอนให้เรามี เมตตา กรุณา มุทิตาแล้ว ยังสอนหลักธรรมป้องกันไม่ให้เราบ้า นั่นก็คือต้องมีอุเบกขา ไม่อย่างนั้นสงสารเขา เมตตาเขาจนเกินประมาณ ช่วยเขาได้แล้วก็มาเครียด มาเศร้า มาเสียใจเอง จะบ้าเสียเปล่า ๆ

เพราะฉะนั้น..หลักธรรมท่านให้ไว้ ๔ ข้อ ต้องใช้ให้ครบ ถ้าใช้ไม่ครบแล้วเราจะแย่ ทำตัวเป็นก๊วยเจ๋งไปได้ ครั้งแรกก๊วยเจ๋งฝึกกำลังภายในอยู่ท่าเดียว พอไปเจอโอวหยางอู่จี้ลูกศิษย์เฒ่าพิษปัจฉิมซึ่งมีฝีมือเหนือกว่า โอวหยางอู่จี้ดูไปดูมาเห็นก๊วยเจ๋งเป็นอยู่ท่าเดียว จึงจัดการเสียน่วมเลย เพราะฉะนั้น..ฝึกใช้ให้ครบ ๔ นะจ๊ะ ถ้าไม่ครบ ๔ นี่กิเลสอัดเราน่วมแน่

ถาม : บางทีเราก็ยังทำไม่ได้ ?
ตอบ : ทำไม่ได้ก็พยายามต่อไป จริง ๆ แล้วทั้งหมดสำคัญตรงสมาธิ วันนี้บอกกับโยมที่ไปปฏิบัติที่วัดท่าซุงมาว่า ไปมาหลายวัน อารมณ์ใจทรงตัว สิ่งที่สำคัญที่สุดก็คือระมัดระวังรักษาอารมณ์เอาไว้ อย่าให้รั่ว พูดแค่ที่จำเป็น ไม่อย่างนั้นกำลังที่เราสั่งสมเอาไว้จะรั่วออกทางวาจาหมด แล้วก็ไม่พอใช้ในการตัดกิเลส ไม่พอใช้ในการดึงตัวเองขึ้นมาให้สูงจากสภาพปกติตรงนั้น

ในเมื่อจิตใจเราไม่ได้สูงกว่าเขา ถึงเวลาไปรับภาระมากก็ทับเราแบน ถ้าหากว่าสภาพจิตใจสูงกว่า คือความเข้มแข็งมีมากกว่า เท่ากับว่าเรายืดคอพ้นขึ้นมาแล้ว อย่างน้อย ๆ หนักแค่ไหนก็ยังหายใจได้ ถ้าตอนนี้ดีที่สุดก็คือไม่รับเลย กองเอาไว้ตรงนั้นแหละ

ระวังให้มาก พวกเราส่วนใหญ่เสียตรงปาก พอถึงเวลาก็โม้กระจาย กำลังที่สั่งสมไว้ก็ไปกับปากหมด เพราะกำลังนี้จะรั่วออกทางตา ทางหู ทางจมูก ทางลิ้น ทางกาย ทางใจ รั่วทุกรูเลย พระพุทธเจ้าถึงสอนว่า ถ้าหากว่าจะจับเหี้ย เราต้องอุดรูไว้ ๕ รู เหลือแค่รูเดียว นั่งเฝ้าไว้เดี๋ยวเหี้ยก็ออกมาให้เราจับเอง ดังนั้น..ให้ปิดตา หู จมูก ลิ้น กาย ระวังใจอย่างเดียว ไม่อย่างนั้นเด็กชาวนาจับเหี้ยกินไม่ได้หรอก ถ้าเปิดเอาไว้หลายรูเหี้ยก็หนีออกได้ทุกรู
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 21-09-2011 เมื่อ 18:23
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 189 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #50  
เก่า 22-09-2011, 08:39
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,479
ได้ให้อนุโมทนา: 151,125
ได้รับอนุโมทนา 4,405,158 ครั้ง ใน 34,068 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

พระอาจารย์กล่าวว่า "ทางศาสนาฮินดูที่ปฏิบัติตามหลักโยคะ จะมีช่วงหนึ่งที่เขาเรียกว่าวานปรัสถ์ คือช่วงที่ออกป่าเพื่อแสวงหาธรรม

ศาสนาฮินดูนี้เหมือนเป็นข้อบังคับไปในตัวว่า เมื่อบรรลุธรรมแล้วให้กลับมาสอนคนอื่น เขาจะมีวัยต้นเรียกว่า พรหมจารีย์ วัยถัดมาคือ คฤหัสถ์ วัยครองเรือน วัยถัดมาคือ วานปรัสถ์ ผู้ออกป่า วัยถัดมาคือ สันยาสี กลับมาเป็นอาจารย์สอนคนอื่น หลักการเขาดีมาก

การแสวงหาโมกษะ คือ ความหลุดพ้นตามความเข้าใจของเขา โดยการไปอยู่กับปรมาตมัน(ตัวตนผู้เป็นใหญ่) ส่วนใหญ่เขาหมายถึงพรหม ไม่ใช่การหลุดพ้นเข้าสู่พระนิพพาน"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 22-09-2011 เมื่อ 14:45
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 178 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #51  
เก่า 22-09-2011, 08:39
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,479
ได้ให้อนุโมทนา: 151,125
ได้รับอนุโมทนา 4,405,158 ครั้ง ใน 34,068 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : การบรรลุธรรมของบางท่านที่ปฏิบัติแล้วเข้าถึงอรหัตผลเลย กับบางท่านที่ต้องผ่านเป็นขั้นเป็นตอนไป อย่างนี้เป็นเพราะอะไรครับ ?
ตอบ : เป็นจริตนิสัยเฉพาะของแต่ละคน
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 22-09-2011 เมื่อ 14:45
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 184 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #52  
เก่า 22-09-2011, 08:54
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,479
ได้ให้อนุโมทนา: 151,125
ได้รับอนุโมทนา 4,405,158 ครั้ง ใน 34,068 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : หนูอยากจะร้องไห้ วนอยู่สิบรอบกว่าจะมาถึงที่นี่ มือถือก็เสีย โทรถามทางไม่ได้
ตอบ : ไม่เป็นไร ถือว่าทดสอบกำลังใจ แต่ไม่ผ่าน..! แล้วมาถึงนี่ได้อย่างไร ?

ถาม : จอดแล้วก็ถามทาง จอดแล้วก็ถามทาง
ตอบ : ถ้าทำอย่างนั้นตั้งแต่รอบแรกก็มาถึงแล้ว นิสัยไม่ถามทางเป็นนิสัยผู้ชาย เพราะผู้ชายมีศักดิ์ศรีค้ำคออยู่ แต่ไม่ใช่อาตมา อาตมาถือภาษิตโบราณว่า หนทางอยู่ที่ปาก ไปไหนไม่รู้จักทางก็ถามดะ ถามเองด้วย เพราะเวลาพระถามเขาจะตั้งใจตอบ

ไม่เป็นไร...จะได้รู้ว่าที่ปฏิบัติมายังไม่พอใช้งาน พอกระทบยังกำเริบได้ง่าย

ถาม : อุตส่าห์ดีใจว่าเมื่อคืนมีเทวดามาคุม นึกว่าท่านจะมาคุมเราให้มาบ้านวิริยบารมีได้สบาย แต่ที่ไหนได้..?
ตอบ : ที่แท้มาหลอกให้เราหลงทาง ตอนนี้เชื่อหรือยังว่า เจออะไรเชื่อไม่ได้สักอย่าง คิดดูแล้วกันว่า เขาบอกให้ไปขุดสมบัติตรงนั้น มีภูมิประเทศอย่างนั้น มีเครื่องหมายอย่างนั้น ตรงหมดทุกอย่าง แต่พอไปถึง ขุดแล้วไม่เจออะไร

เขามาใหม่ก็บอกว่า ตอนนั้นทำพิธีไม่ถูก ไปเวลาไม่ถูก อาตมาก็ไปใหม่ พอครั้งที่ ๓ ไม่ไปแล้ว เขาโผล่หน้ามา อาตมาบอกว่า "ถ้าจะให้ ก็เอาไปจำหน่ายเอง โอนเงินเข้าบัญชีมาแล้วจะรับ..!" ตั้งแต่นั้นมาไม่มีเทวดาที่ไหนมาทดสอบอย่างนี้อีกเลย เพราะท่านต้องเอาไปจำหน่ายเอง โอนเข้าบัญชีเองอีกต่างหาก โดนไป ๒ ครั้งก็พอแล้ว

ทุกอย่างใช่หมด ยกเว้นของที่เขาจะให้นั้นไม่ใช่ จะบอกว่ารู้ไม่ตรงก็ไม่ใช่ แค่จะหลอกให้เสียเวลา ต้องบอกว่ากำลังใจของเรายังเชื่อไม่ได้ จนกว่าจะผ่านข้อทดสอบที่แท้จริง พอทดสอบเข้าไปจริง ๆ ก็เพิ่งจะรู้ว่าไม่ผ่าน

ถาม : ถ้าผ่านแล้วจะเจอข้อต่อไปหรือคะ ?
ตอบ : ก็จะเจอที่แย่ขึ้น มีแต่หนักขึ้นไม่มีเบาลง
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 22-09-2011 เมื่อ 14:48
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 190 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #53  
เก่า 22-09-2011, 09:41
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,479
ได้ให้อนุโมทนา: 151,125
ได้รับอนุโมทนา 4,405,158 ครั้ง ใน 34,068 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : ญาติธรรมคนหนึ่งอยู่สระบุรี เป็นโรคอะไรก็ไม่รู้คันไปทั้งตัว เดี๋ยวเขาก็คันตรงนั้น คันตรงนี้
ตอบ : ให้เขาเอาน้ำมันชาตรีมาอธิษฐานกิน น้ำมันชาตรีกินได้เพราะเป็นน้ำมันงา กินช้อนเดียวก็พอแล้ว ถ้าไม่เกรงใจจะกินหมดขวดก็ได้..!
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 22-09-2011 เมื่อ 14:49
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 187 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #54  
เก่า 22-09-2011, 09:51
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,479
ได้ให้อนุโมทนา: 151,125
ได้รับอนุโมทนา 4,405,158 ครั้ง ใน 34,068 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

พระอาจารย์บอกว่า "พออายุมากขึ้นร่างกายเริ่มสะสมไขมัน เพราะอายุมากขึ้นการทำมาหากินไม่คล่องตัวเหมือนหนุ่มสาว ก็ต้องสะสมไว้ เผื่ออด

ในเมื่อพวกเราไม่อยากจะสะสมก็ต้องใช้ให้หมด แต่สิ่งที่เราใช้ไม่มากเท่ากับที่กิน ก็เลยเหลือ มีอยู่ ๒ อย่าง คือกินให้น้อยลงหรือใช้ให้มากขึ้น ไม่ต้องไปเข้าสำนักออกกำลังหรอก กวาดบ้านถูบ้านทำไปเถอะ กินเช้า ลดกลางวัน งดเย็น เพราะส่วนใหญ่ที่เน้นกินคือมื้อเย็น กินแล้วไม่ได้ใช้งาน ร่างกายเก็บสะสมไว้ทุกวันก็เลยอ้วน"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 22-09-2011 เมื่อ 14:50
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 186 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #55  
เก่า 22-09-2011, 10:05
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,479
ได้ให้อนุโมทนา: 151,125
ได้รับอนุโมทนา 4,405,158 ครั้ง ใน 34,068 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : ฝันเห็นช้าง
ตอบ : ถ้าฝันว่าขี่ช้างแปลว่างานใหญ่จะสำเร็จ

ถาม : หนีช้าง
ตอบ : ถ้าฝันว่าหนีช้างก็พิจารณาว่าติดหนี้หรือติดการบนที่ไหนหรือเปล่า ?
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 22-09-2011 เมื่อ 14:50
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 182 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #56  
เก่า 22-09-2011, 10:32
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,479
ได้ให้อนุโมทนา: 151,125
ได้รับอนุโมทนา 4,405,158 ครั้ง ใน 34,068 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : นั่งสมาธิแล้วไปหยุดอยู่ที่ตัวโยกโคลง ไปต่อไม่ได้ครับ
ตอบ : ปล่อยให้เต็มที่แล้วอาการโยกโคลงจะเลิกไปเอง ถ้าหากเราไปกลัว ไปอายก็จะเป็นไม่เลิก ถ้ารู้จักสังเกตจะเห็นว่าจริง ๆ ใจตอนนั้นนิ่ง เรามีหน้าที่รับรู้อย่างเดียว ปล่อยให้ดิ้นตึงตังโครมครามให้เต็มที่ไปเลย แล้วกำลังใจจะผ่านไปทรงฌานได้

อาตมาติดอยู่ตรงนี้ ๓ เดือนกว่า ดิ้นทุกวัน ดิ้นจนคนอื่นเขาตกใจว่าบ้านจะพัง อย่ากลัวและอย่าอายคน ปล่อยเต็มที่ไปเลย คิดว่าถ้าจะเป็นอย่างไรก็เป็นไป
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 22-09-2011 เมื่อ 14:51
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 181 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #57  
เก่า 22-09-2011, 10:46
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,479
ได้ให้อนุโมทนา: 151,125
ได้รับอนุโมทนา 4,405,158 ครั้ง ใน 34,068 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : ถ้าเราทำเรื่องเบิกเงินนอกเวลาไว้วันนี้ แต่วันนี้ไม่ได้ทำงาน วันหลังมาทำชดใช้จะผิดหรือไม่คะ ?
ตอบ : ถ้าเอาไปโดยไม่ชดใช้จะผิด ถ้าเรามาทำชดใช้ก็ไม่เป็นไร แต่อย่าตายก่อน..! ถ้าตายก่อนก็ผิดเต็ม ๆ เพราะยังไม่ได้ทำงานให้เขา

ถาม : ถ้าก่อนหน้านี้เราทำไปแล้ว แต่ไม่ได้ตั้งใจจะเบิก ถ้าเราไปเบิกย้อน ?
ตอบ : ถ้าไม่ได้ตั้งใจเบิกไว้ก่อน ไปเบิกทีหลังถือว่าไม่ถูกต้อง ต้องตั้งใจเบิกแล้วมาเบิกรวมกันทีหลัง
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 22-09-2011 เมื่อ 14:52
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 179 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #58  
เก่า 22-09-2011, 15:53
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,479
ได้ให้อนุโมทนา: 151,125
ได้รับอนุโมทนา 4,405,158 ครั้ง ใน 34,068 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : ยันต์มหาพิชัยสงครามนี่ถ้าไม่มีเหรียญเอกราชจะสามารถเลี่ยมแบบเดี่ยว ๆ ไหมครับ?
ตอบ : ได้...แล้วใครเขาบังคับให้เลี่ยมคู่ ?

ถาม : รบกวนปลุกด้วยครับ
ตอบ : ปลุกก็ตายห่_พอดี..! จำไว้เลยว่ายันต์พิชัยสงครามห้ามปลุกเด็ดขาด หลวงพ่อวัดท่าซุงท่านสั่งห้ามไว้ ตัวอย่างที่ชัดที่สุดคือหลวงตาวัชรชัยสมัยยังไม่ได้บวช พอเขาเอาผ้ายันต์พิชัยสงครามมาวางจำหน่ายที่บ้านสายลม จะมีเศษผ้าที่เขาตัดเป็นเส้นเล็ก ๆ ผูกอยู่เป็นมัด พอแกะออกหลวงตาก็เอามาคาดหัวแล้วก็ทำท่าให้ถ่ายรูป ไม่รู้เท้าใครเตะมา โครมเดียวหลวงตากระเด็นไปติดข้างฝา นั่นแค่เศษ ๆ ผ้าที่เข้าพิธีนะ..ยังห้ามเล่นเลย

หลวงตาคอเอียงเลย ต้องให้พี่ ๆ เขามานวดให้ พอพี่ตั้วช่วยจับเส้นก็ถึงกับสะบัดมือพรวดเลย เหมือนโดนไฟดูด "ไอ้ห่_ มึงไปทำอะไรมาวะ ? ของแรงปานนี้" หลวงตาสารภาพว่าเอาเศษผ้าที่ผูกยันต์พิชัยสงครามมาคาดหัวเล่น

พี่ตั้วไปเอาน้ำมนต์ของหลวงพ่อมาควั่นข้อมือตัวเองจึงนวดได้ ไม่อย่างนั้นจะเข้าตัว หลวงพ่อถึงได้เตือนว่า ธงพิชัยสงครามอย่าปลุก ถ้าปลุกแล้วทานกำลังไม่ได้ เดี๋ยวจะตายเอา ถ้าจะเป็นประเภทเส้นโลหิตในสมองแตก เป็นวัตถุมงคลอย่างเดียวที่ห้ามลองด้วยการปลุก ใครจะลองก็ไม่ว่า จองเมรุไว้ก่อนเลย..!

อะไรที่หลวงพ่อสั่ง นานแค่ไหนอาตมาก็จำไม่ลืม เพราะว่าคำสั่งที่ท่านสั่งก็เพื่อประโยชน์ของเราทั้งนั้น
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย เถรี : 27-09-2014 เมื่อ 12:11
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 192 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #59  
เก่า 22-09-2011, 16:11
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,479
ได้ให้อนุโมทนา: 151,125
ได้รับอนุโมทนา 4,405,158 ครั้ง ใน 34,068 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ธงมหาพิชัยสงครามพอพ้นจากหลวงพ่อวัดท่าซุงแล้ว คนอื่นก็ทำก็ได้แค่สวยเท่านั้น ท่านบอกว่าอานุภาพได้ไม่ถึง ๕ เปอร์เซ็นต์ เพราะว่าไม่ใช่เชื้อสายของท่าน

ท้าวมหาชมพูก็คือพระร่วง ท่านเป็นเจ้าของธงมหาพิชัยสงคราม ในเมื่อหลวงพ่อท่านไม่มีลูกไม่มีหลานที่สืบสายท่านโดยตรง ท่านจึงถวายตำราพระร่วงให้กับในหลวงไป ด้วยความที่เป็นพระเจ้าแผ่นดินสามารถเริ่มต้นสายวิชาการใหม่ได้ทุกประเภท อยู่ในลักษณะที่ทรงประทานให้ เพราะฉะนั้น..ใครอยากได้ให้ไปขอจากในหลวง ถ้าในหลวงประทานให้ถือว่าท่านครอบครูให้เราเป็นต้นสายใหม่

วิชาการอะไรที่ขาดช่วงลง ในหลวงสามารถที่จะครอบครูให้ใหม่ได้ เพราะถือว่าท่านเป็นทั้งเจ้าฟ้าเป็นทั้งเจ้าแผ่นดิน เขาถือกันอย่างนี้มาตั้งแต่โบราณ
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 23-09-2011 เมื่อ 02:10
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 191 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #60  
เก่า 23-09-2011, 08:23
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,479
ได้ให้อนุโมทนา: 151,125
ได้รับอนุโมทนา 4,405,158 ครั้ง ใน 34,068 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : ก่อนพุทธศาสนาจะเกิดขึ้น มีศีล ๕ ศีล ๘ หรือไม่ครับ ?
ตอบ : พวกโยคีฤๅษีส่วนใหญ่เขามีศีล ๕ ศีล ๘ เป็นปกติอยู่แล้ว เพราะฉะนั้น..อย่าคิดว่าศีล ๕ เป็นของศาสนาพุทธ ความจริงศีล ๕ เป็นของศาสนาเชน

ถาม : ใครสร้างกฎขึ้นมา ?
ตอบ : ศาสดาเขาเห็นว่าเหมาะ เขาจึงสร้างขึ้นมา ศาสดาของศาสนาเชนคือท่านมหาวีระ มีศีล ๕ ก่อนศาสนาพุทธจะเกิดขึ้น มีวันหยุดธรรมสวนะ ศาสนาพุทธมามีตามหลัง ถึงได้บอกว่าคนที่จะเอาศาสนาพุทธบริสุทธิ์ หาทั้งชาติก็หาไม่เจอ โดยเฉพาะธรรมะของพระพุทธเจ้ามีส่วนที่ท่านเห็นว่า สิ่งที่ศาสนาอื่นบัญญัติไว้เหมาะสมแล้ว ท่านก็นำมาใช้ อย่างเช่นศีล ๕ หรือวันพระ เป็นต้น

นอกจากนี้ยังมีส่วนที่ท่านดัดแปลงจากศาสนาอื่นมาเพื่อให้สมบูรณ์ เช่น สิงคาลกสูตร ที่สิงคาลกมานพไหว้ทิศทั้ง ๖ อยู่ พระพุทธเจ้าทรงแนะนำว่า ถ้าจะไหว้ให้ถูกต้อง ต้องไหว้ดังนี้ทิศเบื้องบน คือสมณชีพรามณ์ ต้องปฏิบัติอย่างไร ทิศเบื้องล่าง คือข้าทาสบริวาร ต้องปฏิบัติอย่างไร

ทิศเบื้องหน้า คือพ่อแม่ ต้องปฏิบัติอย่างไร ทิศเบื้องหลัง คือบุตรภริยา ต้องปฏิบัติอย่างไร ทิศเบื้องขวา คือครูบาอาจารย์ ต้องปฏิบัติอย่างไร ทิศเบื้องซ้าย คือมิตรสหาย ต้องปฏิบัติอย่างไร นี่คือส่วนที่ท่านดัดแปลงให้ถูกต้องสมบูรณ์

ส่วนที่เป็นพุทธแท้ ๆ ก็คือ อริยสัจ สิ่งที่ท่านตรัสรู้มากกว่าศาสดาอื่นเขา เพราะหลักการปฏิบัติศาสนาอื่นเขาก็มีถึงสมาบัติแปดแล้ว เพียงแต่ว่าการปฏิบัติของเขาเน้นร่างกายมากเกินไป คิดว่าใครทรมานได้ยิ่งกว่าก็จะทำให้พระเจ้ารักมากกว่า กลายเป็นผิดไปหน่อยเดียว ถ้าเลี้ยวถูกทางก็ไปลิบโลกแล้ว

แต่ว่าท่านทั้งหลายเหล่านี้เท่ากับว่าบ่มเพาะตัวเองจนไปถึงระดับที่บารมีของท่านเต็ม พอฟังเทศน์จบเดียวก็บรรลุกันเป็นแถว เพราะฉะนั้น..จะว่าสิ่งท่านทำจะไม่มีประโยชน์ก็ไม่ได้ อย่างท่านที่เสียประโยชน์ไป เช่น ท่านอาฬารดาบสตายก่อนพระพุทธเจ้าตรัสรู้ ๗ วัน ท่านอุทกดาบสยิ่งน่าเสียดายใหญ่ ตายวันเดียวกับที่พระพุทธเจ้าตรัสรู้ ไม่ทันได้เจอพระพุทธเจ้าตอนตรัสรู้แล้ว แสดงว่าท่านอาฬารดาบสตายวันขึ้น ๘ ค่ำเดือน ๖ ท่านอุทกดาบสตายวันขึ้น ๑๕ ค่ำ วันวิสาขะพอดี
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 23-09-2011 เมื่อ 11:45
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 169 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
ตอบ


ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 1 คน ( เป็นสมาชิก 0 คน และ บุคคลทั่วไป 1 คน )
 

กฎการส่งข้อความ
You may not post new threads
You may not post replies
You may not post attachments
You may not edit your posts

BB code is ใช้ได้
Smilies are ใช้ได้
[IMG] code is ใช้ได้
HTML code is งดใช้

Forum Jump


เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 21:28



ค้นหาในเว็บวัดท่าขนุน

เว็บวัดท่าขนุน Powered by vBulletin
Copyright © 2000-2010 Jelsoft Enterprises Limited.
ความคิดเห็นส่วนตัวทุก ๆ ข้อความในเว็บบอร์ดนี้ สงวนสิทธิ์เฉพาะเจ้าของข้อความ ไม่อนุญาตให้คัดลอกออกไปเผยแพร่ นอกจากจะได้รับคำอนุญาตจากเจ้าของข้อความอย่างชัดเจนดีแล้ว